Home / รักโบราณ / วาสนานางร้ายยุค90s / ตอนที่ 3 || บ้านลู่ช่างใจกล้าเสียจริง

Share

ตอนที่ 3 || บ้านลู่ช่างใจกล้าเสียจริง

last update Last Updated: 2025-09-25 19:09:00

ตอนที่ 3 || บ้านลู่ช่างใจกล้าเสียจริง

โถงสูบบุหรี่ด้านข้างของโรงพยาบาลประชาชนกว่างโจวยามดึกเงียบสงัดจนแทบได้ยินเสียงหัวใจตัวเอง แสงไฟนีออนเหนือศีรษะ เขาสว่างเจิดจ้า ช่างแตกต่างจากชีวิตของลู่หลันถิงที่อาจจะดับสนิทไปตอนไหนยังไม่แน่นัก เขาก็หวังว่าหมอจะช่วยเธอได้ทัน

เสียงรองเท้ายางของพยาบาลดังแว่วผ่านเพียงครู่เดียวก่อนจะไกลลิบ ทิ้งให้ทุกสิ่งกลับคืนสู่ความเงียบวังเวงอีกครั้ง

จั๋วอี้เหิงยืนพิงผนังซีเมนต์เก่า สูดกลิ่นบุหรี่ขมปร่าเข้าปอดลึกแล้วค่อยพ่นออกเป็นสายควันขาว กลิ่นบุหรี่นั้นคลุกเคล้ากับกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อของโรงพยาบาลชวนให้บรรยากาศอึมครึมยิ่งขึ้น สายตาคมกริบของเขาไม่ละไปจากทางเข้าห้องฉุกเฉินที่เพิ่งกลืนร่างเด็กสาวคนนั้นเข้าไปเมื่อครู่

ก่อนจะคิดได้ว่าเขาควรรีบโทร. ไปแจ้งบ้านลู่เดี๋ยวนี้เผื่อทางโรงพยาบาลต้องการคนเซ็นยอมรับการรักษา เขาเองไม่ใช่ทั้งญาติและสามีย่อมทำแทนคนบ้านลู่ไม่ได้

มือใหญ่หยิบโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดจากญี่ปุ่น ขึ้นมากดหาหมายเลขบ้านลู่ไม่นาน เสียงสัญญาณรอสายดังยาวครั้งแล้วครั้งเล่าโดยไร้คนรับ ความไม่พอใจเริ่มเกาะกุมใบหน้าคมเข้ม

“รับสิวะ…”

เขาพึมพำลอดไรฟัน เสียงห้วนต่ำแฝงความหงุดหงิดเต็มเปี่ยม ใครกันจะนอนหลับสนิทได้ลงทั้งที่ลูกสาวสองคนยังไม่กลับบ้าน หรือว่าพวกเขายังไม่รู้เรื่องนี้?

รอจนสัญญาณรอบแรกตัดไปคิ้วเข้มของจั๋วอี้เหิงก็ขมวดแทบผูกปม แต่เขาก็ยังกดซ้ำอีกถึงสามครั้ง สุดท้ายจึงมีเสียงงัวเงียดังเล็ดลอดออกมา

“ฮะ…ฮัลโหล นี่บ้านลู่ครับ?” เสียงงัวเงียปลายสายเป็นชายวัยกลางคนเอ่ยขึ้น อี้เหิงเดาได้ทันทีว่าต้องเป็นลู่เสียนอี่แน่ เพราะเขาย่อมจำเสียงของลู่เสียนเซิ่งได้

“ผม จั๋วอี้เหิง” เขากดเสียงเย็นเฉียบ ไม่เหลือความนุ่มนวลแม้แต่น้อย ความโทสะกรุ่นอยู่เต็มอก น้อยครั้งที่เขาจะต้องอดทนรอสายใครแบบนี้

ปลายสายสะดุ้งทันที “โอ๊ะ! คุณชายรองจั๋ว! ดึกป่านนี้…มีเรื่องอะไรหรือครับ?” เสียงนั้นเต็มไปด้วยความประหม่า

อี้เหิงไม่เสียเวลาพูดอ้อมค้อม “ลู่หลันถิง บาดเจ็บสาหัส ตอนนี้อยู่ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลประชาชนกว่างโจว”

“อะไรนะ?! หลันถิง…หลันถิงเป็นอะไรไป…” ลู่เสียนอี่เกือบทำโทรศัพท์บ้านหลุดมือ ความตกใจถาโถมเข้าเต็มอก เขาเพิ่งกลับถึงบ้านเมื่อชั่วโมงก่อน ยังไม่ทันรู้ด้วยซ้ำว่าลูกสาวทั้งสองไม่ได้อยู่บ้าน พอได้ยินข่าวว่าหลันถิงบาดเจ็บสาหัส ก็ตกใจอย่างมาก

“ใครโทรมา?! ฉันจะคุยเอง!”

เสียงผู้หญิงสูงวัยแทรกขึ้นทันที อี้เหิงขมวดคิ้ว จำได้ในบัดดล ย่าลู่ หลินฟาง หญิงแก่เจ้าเล่ห์จอมงกที่เขาเคยเจรจาตอนสู่ขอหลินอิงแลกกับหนี้ก้อนใหญ่แน่นอน

“คุณชายรองจั๋วโทร.มาครับแม่” เสียนอี่รีบบอก

“คุณชายจั๋ว? โทร.มาทำไมดึกดื่น เอามานี่ ฉันจะคุยเอง”

น้ำเสียงหลินฟางแข็งกร้าว แต่ในใจกลับร้อนรุ่มยิ่งกว่าวัวสันหลังหวะ ก็ไม่น่าแปลก เธอเพิ่งให้เงินทั้งหมดแก่หลินอิงหนีไปกับอู่กวงเมื่อหัวค่ำ แล้วนี่ตีสามกว่าเขาโทรมาถึงบ้าน หญิงชราแทบคลั่งเพราะหวาดระแวง

“แม่! เขาไม่ได้โทรมาเรื่องหลินอิงหรอก เขาโทรมาแจ้งเรื่องหลันถิงต่างหาก!” เสียนอี่ขมวดคิ้วแน่น เขาไม่เข้าใจว่ามารดาโวยวายอะไร

“เขาจะโทรมาเรื่องนังตัวซวยทำไม!” ย่าลู่เผลอหลุดคำต้องห้ามออกมา

“แม่เงียบเถอะ!” เสียนอี่ตะคอกเสียงดัง ความอดทนขาดผึง

อี้เหิงมองมวนบุหรี่ในมือ ดวงตาคมวาวขึ้นเล็กน้อย เสียงที่ออกมาเรียบเฉยแต่ฟังแล้วเย็นเฉียบ “ผมโทรมาแจ้งข่าว ไม่ได้โทรมาฟังพวกคุณทะเลาะกัน”

“เดี๋ยว! เดี๋ยวก่อน!”

เสียงเสียนอี่ดังขึ้นอย่างร้อนรน แต่ยังไม่ทันจะเอ่ยถามต่อ เสียงตัดสายก็ดังก้องในหู อี้เหิงกดวางโดยไม่สนใจเสียงโวยวายของหญิงชราที่ดังแข่งกับเสียงทักท้วงของลูกชาย

เขากำโทรศัพท์แน่นอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกดหมายเลขใหม่ คราวนี้เสียงสัญญาณดังเพียงสองครั้งก็มีคนรับทันที

“ครับ คุณชายรองจั๋ว” น้ำเสียงหนักแน่นคุ้นหูดังขึ้น เหยียนหาน มือขวาผู้ซื่อสัตย์ประจำตัว

“คืนนี้ ลู่หลินอิงกับอู่กวงก่อเรื่องใหญ่ ทำร้ายลู่หลันถิงแล้วเอาไปโยนทะเล” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยชัดถ้อยชัดคำ

“ฉันคิดว่าสองคนนั้นคงเล่นไม่ซื่อกับฉันแล้ว”

ปลายสายถึงกับอุทาน “อะไรนะครับ! หลันถิงไม่ใช่ว่าเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของคุณหลินอิงหรือครับ?”

“ก็ใช่ แล้วแกคิดว่าอะไรทำให้พี่สาวแท้ ๆ ถึงคิดฆ่าน้องสาวตัวเอง” อี้เหิงตอบเสียงเหี้ยมเกรียม

“เพราะคุณหลันถิงคงไปรู้ความลับอะไรเข้าสักอย่าง…” เหยียนหานครุ่นคิด

“แกไม่โง่นี่เลขาเหยียน ใช่ ความลับที่ว่าคือเรื่องสินสอด ฉันมั่นใจว่าสองคนนั้นคิดหอบเงินของฉันหนี” น้ำเสียงเย็นเฉียบทำเอาอีกฝ่ายนิ่งงัน

“เข้าใจแล้วครับคุณชายรอง”

“ตามพวกมันให้เจอ จากนั้นรีบรายงานฉันทันที แล้วจำไว้ อย่าให้ข่าวนี้เล็ดลอดไปถึงบ้านใหญ่จั๋ว เข้าใจไหม”

“ครับคุณชายรอง ผมจะปิดปากให้สนิท”

“ดี”

อี้เหิงตอบสั้น ๆ ก่อนกดตัดสาย เขาสูบควันเข้าปอดอีกครั้ง พ่นออกแรง ๆ ดวงตาคมกริบทอดมองท้องฟ้าสีหม่นเหนือเมืองกว่างโจว แสงไฟโรงงานไกล ๆ สว่างวาบเข้าตา เสียงเครื่องจักรประสานกับเสียงแตรรถบรรทุก

เมืองท่าที่เต็มไปด้วยการค้าเสรีและอำนาจมืด ถึงปีนี้เขาเพิ่งอายุ 25ปี แต่เขาไม่ได้โง่ตอนนี้เขาคิดว่าตัวเองมองทะลุถึงสิ่งที่ลู่หลินอิงทำทั้งหมดได้แล้ว

ผู้หญิงคนนั้นถึงกับกล้าหักหลังคนแบบเขา หึ!

คนบ้านลู่พวกนั้นช่างใจกล้าเกินไปแล้ว ใจกล้ามายั่วโทสะเขาให้เดือดดาลขึ้นมา รับปากจะแต่งงานแต่กลับหอบสินสอดหนี นี่มันหมายความว่าอย่างไร?

ขณะเดียวกัน ที่บ้านลู่ซึ่งเป็นตึกขนาดใหญ่สูงสามชั้น ตั้งอยู่ชานเมืองกว่างโจวที่เพิ่งแตกตื่นด้วยเสียงโทรศัพท์กลางดึกก็ยังไม่รู้ตัวว่าพวกเขาไปกระตุกหนวดเสือแบบจั๋วอี้เหิงเข้าแล้ว

“เขาวางไปแล้วเหรอ! เห็นไหมล่ะ แกไม่ยอมให้ฉันคุยกับเขา คงโกรธไปแล้วแน่ ๆ” ย่าลู่โวยวายไม่หยุด หลังเห็นลูกชายวางสายด้วยสีหน้าไม่ดี

“แม่! เลิกโวยวายเถอะ” เสียนอี่แทบตะโกน “ก็ผมบอกแล้วไง คุณชายรองจั๋วไม่ได้โทรมาเรื่องหลินอิง เขาโทรมาแจ้งว่าหลันถิงบาดเจ็บสาหัสอยู่โรงพยาบาล!”

“แกว่าอะไรนะ!” ย่าลู่ถึงกับผงะ ตกใจจนเสียงสั่น ไม่คิดว่าเรื่องใหญ่จะเกี่ยวกับ นังตัวซวย

“ใช่ครับคุณชายรองจั๋วเขาแจ้งข่าวว่าหลันถิงบาดเจ็บสาหัสอยู่โรงพยาบาล”

หัวใจหญิงชรากรีดร้อง ‘แย่แล้ว! ทำไมมันยังไม่ตายอีก อู่กวงกับหลินอิงเอาไปทิ้งทะเลแบบไหนกัน ทำไมจั๋วอี้เหิงถึงเจอเข้าได้ ซวยแล้ว…ซวยจริง ๆ!’

“พอเถอะ แม่พักผ่อนเถอะ ผมกับอาอวี้จะไปโรงพยาบาลเอง” เสียนอี่ตัดบท

ย่าลู่สะดุ้งเฮือก ความกังวลพลุ่งพล่าน หากจั๋วอี้เหิงช่วยหลันถิงไว้จริง ความลับทั้งหมดอาจแตก เธอกัดฟันแน่น

“นังตัวซวยนั่นทำไมไม่ตายไปให้สิ้นเรื่องนะ!” เธอเผลอหลุดปากออกมา

“แม่!!” เสียนอี่หันขวับ ตาแดงก่ำด้วยโทสะ “นั่นลูกสาวผมนะ ถึงแม่ไม่รัก อย่างน้อยเธอก็เป็นหลานแท้ ๆ ของแม่!”

“ลูกสาวอะไร มันคือตัวซวย!” เสียงหลินฟางแข็งกร้าว “ตั้งแต่มันเกิดมา บ้านเราก็เจอแต่เรื่องร้าย ๆ นังตัวซวยมันคือต้นเหตุเวรกรรมต่างหาก!”

เสียงโต้เถียงดังลั่น ซ่งอวี้ ภรรยาใหม่ของเสียนอี่ รีบอุ้มลูกชายวัยสามขวบวิ่งลงมาจากชั้นบน ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ “เกิดอะไรขึ้นหรือคะคุณ!”

“ถิงถิงบาดเจ็บสาหัสอยู่โรงพยาบาล เราต้องรีบไป เธอรีบขึ้นไปเอาเอกสารของถิงถิงมา!”

“ค่ะ!” ซ่งอวี้แม้จะมึนงงแต่เพราะเคยเป็นผู้ช่วยมาก่อนจึงตั้งสติได้รวดเร็ว ไม่นานก็กลับลงมาพร้อมเอกสารในอ้อมแขน

“คุณ เรารีบไปเถอะค่ะ อย่ามัวเสียเวลาเถียงอยู่เลย ถิงถิงกำลังรอเราอยู่นะคะ”

ย่าลู่ตวัดตามองสะใภ้ใหม่แล้วหัวเราะเยาะ “หึ! อีผู้หญิงปากดี กล้าสอดปากกับฉันหรือ”

ซ่งอวี้เม้มปาก แต่ยังกล้าพูด “ถึงอย่างไรถิงถิงก็คือคนในครอบครัวค่ะ แม่อย่าขวางเลย”

เสียงตบโต๊ะดังลั่น “หุบปาก!”

เสียนอี่กัดฟันกรอด “แม่เลิกโวยวายเถอะ ผมจะไปแล้วเกิดหมอต้องการให้ผมเซ็นรับรองการักษาขึ้นมาจะยุ่ง”

“ฉันจะไปด้วย! ฉันต้องไปเห็นกับตาว่านังตัวซวยมันทำบ้านฉันเดือดร้อนอะไรอีก!”

“แม่ไปไม่ได้!”

“ทำไมจะไม่ได้! ฉันเป็นหัวหน้าบ้าน จะไปก็ต้องได้สิ!”

เสียนอี่จ้องตาแม่ตนเอง “ไม่ครับแม่ ถ้าแม่ไปเพราะห่วงผมจะไม่ขวาง แต่ถ้าแม่ไปเพราะจะไปซ้ำเติมลูกสาวผม อย่าไปเลยครับ!”

ย่าลู่ชะงักไปครู่หนึ่ง แววตาแข็งกร้าว แต่ลึก ๆ แฝงความหวาดหวั่น เธอกลัวว่าความจริงจะถูกเปิดโปง จึงอยากไปควบคุมสถานการณ์ด้วยตนเอง อย่างน้อยหากทำอะไรไม่ได้ก็ยังข่มขู่นังตัวซวยให้มันกลัวจนไม่กล้าเปิดปากก็ยังดี

“ฉันจะไป!” เสียงเธอกรีดลั่น แต่เสียนอี่ตะคอกกลับ “พอเถอะแม่! ไปกันเถอะอาอวี้”

เขาหันไปพาภรรยาออกจากบ้านทันที ทิ้งให้เสียงกรีดร้อง “เสียนอี่! ไอ้เสียนอี่!” ดังลั่นตามหลัง

ภายในห้องโถงบ้านสามชั้นครึ่ง เหลือเพียงย่าลู่ยืนสั่นสะท้านเพียงลำพัง ใบหน้าซีดเผือด ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวหากหลันถิงรอดมาเปิดปาก ความลับทั้งหมดที่เธอกับหลินอิงก่อไว้ก็ไม่พ้นแตกกระจายแน่…

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • วาสนานางร้ายยุค90s   ตอนพิเศษ

    ตอนพิเศษตัดปัญหาบ้านจั๋วไปแล้ว ใครจะคิดบ้านลู่กลับเกิดปัญหาขึ้นมา และจะเป็นใครได้อีกที่สร้างเรื่องหากไม่ใช่ยายแก่สารพัดพิษหลินฟางหรือย่าลู่ หญิงชราแอบมาขโมยเงินก้อนที่เสียนอี่เตรียมจะนำไปขยายโรงงานเอาไปให้ครอบครัวลู่เสียนเซิ่ง ที่ถูกเจ้าหนี้ตามฆ่าเพราะติดหนี้ก้อนโต (เกือบล้านหยวน)หลันถิงทราบเพราะแม่เลี้ยง (ซ่งอวี้) โทร.มาบอก หญิงสาวโกรธมาก อี้เหิงที่ทราบก็ถามเธอว่าอยากให้เขาจัดการคนพวกนี้แบบไหน หลันถิงนิ่งไปพักใหญ่ แต่สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจบอกให้สามีจัดการในแบบของเขาได้เลย เธอกับหญิงแก่มหาภัยไม่เกี่ยวกันนานแล้ว ยิ่งคนบ้านลู่รองหรือาผู้ชายกับอาสะใภ้เธอยิ่งไม่เคยผูกพันอี้เหิงจับศีรษะภรรยาแล้วชมว่า “ดี” พร้อมกับบอกว่าคนเราต้องใจเด็ดแบบนี้ คนที่เคยลงมือฆ่าเราเธอไม่จำเป็นต้องนับใครเป็นญาติ หลันถิงจึงว่าฉันถือคติทำให้คนเกลียด...ยังพูดไม่จบอี้เหิงก็ต่อว่า...อายุยืนหมื่นปี แล้วก็หัวเราะ หลันถิงจึงหัวเราะตาม พร้อมกับบอกสามีว่าชีวิตคนเราก็แบบนี้ต้องเห็นแก่ตัวบ้างใจดีเกินไปตายมามากแล้วอี้เหิงเห็นหลันถิงแกร่งแบบนี้เขาจึงเล่าถึงอู่กวงกับหลินอิงว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง เขาบอกกับหลันถิงว่าตนเองปล่

  • วาสนานางร้ายยุค90s   ตอนที่ 45 ||อวสาน

    ตอนที่ 45 ||อวสานสองเดือนต่อมา...อี้เหิงเริ่มเห็นว่าหลายสิ่งที่หลันถิงเคยพูดไว้ในคืนนั้นเริ่มเกิดขึ้นจริง ข่าวลือเรื่องเขตเศรษฐกิจใหม่ที่เซี่ยงไฮ้สะพัดไปทั่ววงการการเงินในเงามืด เขาใช้เส้นสายตรวจสอบทุกแหล่งข้อมูลและพบว่า ทุกอย่างกำลังจะเป็นจริงตามที่เธอบอกไม่มีผิด บวกกับเหตุการณ์เล็กน้อยอีกหลายเหตุการณ์ล้วนเป็นจริงทำให้เขายิ่งคิดว่าความฝันของหลันถิงน่าจะเป็นฝังบอกอนาคตจริงๆค่ำหนึ่งในห้องทำงาน เขาเปิดแฟ้มข้อมูลพลางสูบลมหายใจลึก “ถิงถิง…ดูท่าฝันของเธอจะไม่ธรรมดาแล้วล่ะ”หลันถิงวางแก้วชาลงบนโต๊ะ พลางหัวเราะเสียงหวาน รอยยิ้มที่อ่อนโยนแต่มีความมั่นใจในตัวเองแผ่ออกมา “เห็นไหมคะพี่…ฉันไม่ได้พูดเพ้อเจ้อเลยสักนิด”อี้เหิงขำเบา ๆ ก่อนเอ่ยเล่น ๆ “พี่เริ่มจะเชื่อแล้วจริง ๆ ว่าเมียพี่อาจจะมาจากอนาคตก็ได้”หลันถิงทำหน้าทำตาประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนยิ้มเจ้าเล่ห์เขาโน้มตัวไปใกล้ พลางเอื้อมมือคว้าข้อมือเล็กของเธอมากุมไว้เบา ๆ “หรือไม่ก็…เป็นนางฟ้า หืม?”หลันถิงหัวเราะคิกคัก “พี่อี้! ฉันห่างไกลคำว่านางฟ้าเยอะมาก ยิ่งนางเอก…ยิ่งไกลเต็มที่ หลันถิงคนนี้ก็มีแต่จะเป็นนางร้ายเต็มตัว!”อี้เหิงยิ้มมุมปาก ดวงต

  • วาสนานางร้ายยุค90s    ตอนที่ 44 || ฝันบอกอนาคตของหลันถิง

    ตอนที่ 44 || ฝันบอกอนาคตของหลันถิงหลังจบมื้อค่ำดึก อี้เหิงกับหลันถิงขึ้นมานั่งดื่มชาดอกไม้ที่ระเบียงห้องนอนเพื่อรอให้อาหารย่อย แสงไฟยามค่ำส่องสว่างไสว กลิ่นชาอ่อน ๆ ผสมกลิ่นลมเย็นยามค่ำ ทำให้บรรยากาศเงียบสงบอย่างแปลกประหลาดหลันถิงนั่งถือถ้วยน้ำชาแน่นิ่งมาครู่ใหญ่ ในใจของหญิงสาวกำลังกังวล เธอจ้องไปยังความมืดข้างนอกมากกว่าจะมองสามีที่นั่งตรงข้าม อี้เหิงย่อมสังเกตเห็นแล้วแต่เขายังเงียบอยู่ เพราะอาการของหลันถิงดูเหมือนเธอจะมีเรื่องในใจ เขาไม่รีบร้อนปล่อยให้เมียตัวน้อยอยู่กับตัวเองครู่หนึ่ง จึงได้เอ่ยถามเสียงทุ้มต่ำแต่อบอุ่นเหลือเกิน“หลันถิง เธอต้องการอะไรจากพี่ก็พูดมาเถอะ ระหว่างผัวเมียเราไม่ต้องเกรงใจกัน” น้ำเสียงของเขาเรียบแต่หนัก แน่วแน่สื่อความหมายดังที่พูดออกไปทุกคำคำพูดนั้นทำให้หลันถิงชะงัก ใบหน้าเธอร้อนผ่าวขึ้นเล็กน้อยก่อนพยายามข่มใจให้ยิ้มกลบความรู้สึกหวาดกลัวว่าหากตนเองพูดสามีเธอจะไม่คิดว่าเธอเพ้อเจ้อไปเอง“นี่พี่อี้มองออกเลยเหรอ… แหม เขินเลยนะเนี่ย” หลันถิงพูดคล้ายหยอกเย้าสามีเพื่อไม่ให้บรรยากาศตึงเครียดเกินไปอี้เหิงยิ้มมุมปาก ดึงร่างเล็กมานั่งบนตักอย่างคุ้นเคยและเขาอยากบอก

  • วาสนานางร้ายยุค90s   ตอนที่ 43||การตัดสินใจเด็ดขาดของอี้เหิง

    ตอนที่ 43||การตัดสินใจเด็ดขาดของอี้เหิงหลันถิงรีบพูดเสียงสั่น แต่ยังไม่ทันพูดจบ ร่างบางก็ถูกแขนแข็งแรงโอบอุ้มขึ้นจากท่านั่งคุกเข่าโดยเขาก็กลับลงมานั่งในอ่างเช่นเดิม แล้ววางร่างเล็กลงคร่อมตักแกร่งกลางอ่างทันที น้ำกระเซ็นจนล้นขอบอ่างลงเปียกพื้นแต่อี้เหิงหรือจะสนใจ“ลองขย่มพี่เองสักครั้งสิ” เขากระซิบเสียงแหบพร่าที่ข้างหู ริมฝีปากกัดติ่งหูเล็กแรงพอให้เธอสั่นสะท้าน“ไม่เอา!” เธอส่ายหน้าสุดแรง แต่เขากลับจับสะโพกกลมแน่น กดลงตรงแก่นกายแข็งกร้าวที่เพิ่งคืนชีพอีกครั้ง ความร้อนผ่าวกระแทกตรงจุดอ่อนไหวทำให้หลันถิงสะดุ้งเฮือก“อย่าดื้อ...เดี๋ยวพี่ทิปอีกห้าหมื่น” เสียงทุ้มต่ำล่อลวงคนชอบเงินหลันถิงยังไม่ทันปฏิเสธเพราะรอบนี้เธอเหนื่อยแล้วอีกห้าหมื่นก็ไม่เอา แต่ปลายแท่งร้อนก็สอดแทรกเข้าไปในกายคับแน่นอย่างรวดเร็ว เสียงกรีดร้องหวานปนแหบพร่าหลุดจากปากหลันถิง น้ำตาคลอเมื่อความใหญ่โตดันลึกเข้าไปสุดทางในคราวเดียว“อ๊ะ...พี่อี้ มันเจ็บนะ!” เธอทุบอกเขาเบา ๆ แต่เสียงครางแหบพร่ากลบความโกรธไปหมดสิ้น“ก็เจ็บแค่แรก ๆ ทุกครั้งไม่ใช่หรือไง เดี๋ยวขยับเธอก็เสียวไปกับพี่ทุกที...” เขาหัวเราะต่ำในลำคอ แล้วดันสะโพกเธอขึ้

  • วาสนานางร้ายยุค90s   ตอนที่ 42||ฉันจะเป็นปลาเค็ม!...

    ตอนที่ 42||ฉันจะเป็นปลาเค็ม!...หลังจากวันยกน้ำชาพอเช้าวันใหม่อีกวันน้องสาวของจ้าวอิงอิงพี่สะใภ้ใหญ่ของบ้านจั๋วก็ขนข้าวของมาอยู่ที่ตึกใหญ่ หากแต่หลันถิงไม่ใส่ใจ เพราะอี้เหิงบอกกับเธอแล้วว่าเขาไม่สนใจใคร เขาเลือกเธอแต่แรกก็ยังเป็นเช่นนั้นและเพียงสามวันเท่านั้นตึกใหญ่ของบ้านจั๋วก็วุ่นวายเพราะจ้าวจูดี้กับจ้าวหนิงเจียวทะเลาะตบตีกัน เพราะต่างก็มีคนหนุนหลัง หนิงเจียวคือคุณนายใหญ่จั๋วผลักดัน ส่วนจ้าวจูดี้ก็เป็นสะใภ้ใหญ่กับลูกชายคนโต ตบตีกันเองจนวุ่นวาย สุดท้ายคุณนายใหญ่จั๋วก็ทนไม่ไหว ไล่ทั้งสองคนออกจากคฤหาสน์ไปก่อน“แผนของพี่อี้ช่างร้ายกาจ”หลันถิงชื่นชมสามีจากใจ เพราะที่อี้เหิงรับปากเธอแต่แรกล้วนเป็นจริง เขาบอกให้เธอแค่อยู่เฉยๆ วางตัวสวยๆ ใช้จ่ายตามสบาย ส่วนเรื่องผู้หญิงอื่นเขาจะจัดการแทนเธอเอง“พี่ร้ายกับคนที่ร้ายกับพี่ก่อนเท่านั้น อีกไม่นานรับรองเลยว่าหนิงเจียวจะได้รับโทษที่เคยลงมือทำร้ายเธอ”“ยังไงคะ?” หลันถิงหมายถึงเขาจะทำอะไร“ตอนนี้หนิงเจียวพัวพันอยู่กับเฉินอีเค่อ และเธอรู้ไหม เมียของเฉินอีเค่อเป็นพวกหึงโหดขนาดไหน”หลันถิงฟังแล้วคิดตามไม่นานก็ตาโต “พี่อี้ พี่ไม่ใช่คนดี!”จั๋วอี้เหิงห

  • วาสนานางร้ายยุค90s   ตอนที่ 41 ||ยกน้ำชาบ้านใหญ่

    ตอนที่ 41 ||ยกน้ำชาบ้านใหญ่ช่วงค่ำอากาศของปักกิ่งเย็นยะเยือกกว่าที่หลันถิงเคยชิน ลมปลายฤดูร้อนพัดแรงจนม่านบางปลิวสะบัด เสียงกระดิ่งลมหน้าระเบียงดังแผ่วเบาเป็นจังหวะชวนผ่อนคลายหญิงสาวในชุดนอนผ้าซาตินสีงาช้างนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ดวงตาคู่หวานจ้องเงาตัวเองในกระจกอยู่นาน ใบหน้าหวานผ่องใสแม้จะผ่านการเดินทางไกลด้วยเครื่องบินเสียงเปิดและปิดประตูเบา ๆ ดังขึ้นก่อนที่อี้เหิงจะก้าวเข้ามาในชุดนอนสีเข้ม เขาดูสงบอย่างทุกครั้ง“นอนไม่นอนอีกแล้วเหรอ” คนเพิ่งกลับมาจากห้องทำงานถามเมียที่เขามาส่งตั้งแต่หัวค่ำยังนั่งทาครีมตรงโต๊ะเครื่องแป้งไม่เข้านอน“รอพี่อี้ค่ะ” หลันถิงตอบเสียงหวานก่อนจะลุกเดินมาหาสามีที่ยืนรอที่ปลายเตียง“พี่นึกว่าเธอกังวลเรื่องยกน้ำชาบ่ายพรุ่งนี้เสียอีก” อี้เหิงดักคอคนที่ยังไม่ยอมเข้านอนทั้งที่ห้าทุ่มกว่าแล้ว“ก็...นิดหน่อยค่ะ” หญิงสาวเข้ามาโอบเอวแกร่งพร้อมเอาแก้มนวลถูไถไปกับหน้าอกของสามีคล้ายลูกแมวขี้อ้อน ท่าทางแบบนี้ทำเอาอี้เหิงใจเหลวเป็นน้ำ“ตราบใดที่พี่ยังมีลมหายใจ ไม่ต้องกลัวหรือกังวลอะไรทั้งนั้น”คำพูดนั้นเหมือนคาถาคุ้มกันในใจหลันถิง เธอพยักหน้าช้า ๆ แล้วสูดลมหายใจลึกก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status