Share

ตอนที่ 9

Auteur: Aile'N
last update Dernière mise à jour: 2024-11-16 13:36:18

วิวาห์(ไม่)ไร้รัก

Writer : Aile'N

ตอนที่ 9

พอพ้นหน้าโรงแรมหรูออกมารินลดาก็ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลา เมื่อพบว่ายังไม่ดึกเท่าไรก็คิดหาทางกลับบ้าน แท็กซี่นั้นเธอตัดทิ้งไปเป็นอย่างแรกเพราะมีประสบการณ์ไม่ค่อยจะดีด้วย แต่ชุดแบบนี้ให้ไปยืนโหนรถเมล์แบบแอร์ธรรมชาติร้อนๆ บวกควันรถก็ดูจะไม่เหมาะสักเท่าไร ถ้ารถเมล์แอร์เย็นๆ ก็คงพอได้อยู่ ถึงจะไม่ได้มีที่ให้นั่งในเวลารีบเร่งแบบนี้ก็ไม่เป็นไร

คิดได้แบบนั้นดวงตาคู่กลมก็สอดส่องหาป้ายรถเมล์ แต่ก็ไม่พบในระยะสายตามองเห็นเลยตัดสินใจออกเดินไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพบ ซึ่งก็กินเวลาไปหลายนาทีและอากาศก็ร้อนจนเหงื่อซึม ยืนรอสักพักรถเมล์ปรับอากาศสายที่ต้องการขึ้นก็ผ่านมา แม้ผู้คนจะเบียดเสียดเนื่องจากเยื้อแย่งกันกลับบ้าน แต่ไม่เป็นปัญหาเลยสำหรับร่างบางที่ใช้บริการขนส่งสาธารณะอยู่เป็นประจำ

ใช้เวลาสักพักใหญ่ๆ เนื่องจากการจราจรติดขัด ในที่สุดรินลดาก็กลับมาถึงบ้านอินทรเกษมกุล ท่ามกลางความแปลกใจระคนตกใจของคุณหญิงนาฏยาที่ยังไม่เข้านอนเพราะรอติดตามสถานการณ์ของลูกชายกับว่าที่ลูกสะใภ้อยู่ทุกขณะ แต่นอกจากจะกลับไวและไม่ได้ยินเสียงรถยนต์ของเจ้าลูกชายแล้วยังเห็นแค่ลูกสะใภ้เดินเข้าบ้านมาเพียงลำพังอีกต่างหาก

"อ้าว ทำไมกลับไวล่ะลูก แล้ว...พี่ธันย์ล่ะ" คุณหญิงเดินเข้ามาหาก่อนเอ่ยถามด้วยความข้องใจ ยิ่งเห็นสีหน้าลำบากใจของอีกฝ่ายก็ยิ่งไม่อยากจะคิดว่าเจ้าลูกชายจะแผลงฤทธิ์อะไรไว้บ้าง

"เขา...มีธุระต่อน่ะค่ะ หนูเลยกลับมาก่อน" รินลดาตอบเลี่ยงๆ ไม่ได้ลงรายละเอียดว่าธุระที่ว่าคืออะไรและไปกับใคร คาดว่าพรุ่งนี้คุณหญิงก็น่าจะรู้เอง...

"พี่ธันย์เขาไม่ได้ข่มขู่หรือทำอะไรหนูใช่มั้ย" คนมีอายุหรี่ตาจับผิดอย่างไม่ไว้วางใจ จริงๆ ก็คิดไว้แล้วว่าการไปทานข้าวกันเพียงสองคนคงไม่พ้นว่าเจ้าลูกชายจะต้องพูดหรือข่มขู่อะไรคนตัวเล็กแน่ๆ แต่ถ้าไม่แต่งตั้งตัวเองเป็นแม่สื่อแม่ชักชาตินี้ทั้งชาติทั้งคู่ก็คงจะเป็นอยู่แบบนี้ ไม่พัฒนาความสัมพันธ์ไปไหน

"คุณแม่ก็น่าจะทราบดีนะคะว่าคุณเขาเป็นยังไง" รินลดายิ้มบาง ไม่ยอมรับตรงๆ แต่ก็ไม่ปฏิเสธ ขนาดอยู่ต่อหน้าพ่อแม่เขายังตวาดจนเธอเสียขวัญ ฉะนั้นไม่ต้องเดาถึงโมเม้นท์ที่อยู่ด้วยกันตามลำพังให้เสียเวลาเลย

"อดทนได้มั้ยลูก สักวันพี่เขาคงจะดีขึ้น" มือนุ่มลูบแก้มใสพลางมองสบตากันอย่างเว้าวอน แล้วแบบนี้จะให้เธอปฏิเสธอะไรได้ นอกจากพยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้

"หนูจะพยายามค่ะ...ดึกแล้วคุณแม่เข้านอนได้แล้วนะคะ หนูก็จะไปพักแล้วเหมือนกัน" ร่างบางตัดบท เดินจูงมือแม่ว่าที่สามีขึ้นมาส่งที่ห้องอย่างที่เคยทำ คุณหญิงเองก็ยอมว่าง่ายแม้จะยังอยากอยู่คุยต่อ แต่เห็นสีหน้าของว่าที่ลูกสะใภ้แล้วรู้สึกเห็นใจ ยอมปล่อยอีกฝ่ายกลับเข้าห้องไปพักผ่อนแต่โดยดี

เพียงชั่วข้ามคืนข่าวซุบซิบเรื่องรักสามเศร้าเราสามคนก็ถูกผู้คนวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้ง เมื่อมีมือดีแช๊ะภาพในตอนที่ทั้งสามนั่งร่วมโต๊ะทานข้าวพร้อมหน้ากัน ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะเหลือเพียงสองคนไปต่อกันที่ผับชื่อดังแห่งหนึ่ง กระแสเป็นไปในทิศทางที่หลากหลาย บ้างก็เห็นใจรินลดาที่ถูกคนทั้งคู่ทำอะไรข้ามหน้าข้ามตา บ้างก็สงสารเกวลินที่ถูกแย่งคนรัก บ้างก็ต่อว่าวรธันย์ที่ทำตัวไม่เหมาะสม จับปลาสองมือมีคนใหม่ทั้งที่ยังไม่จบกับคนเก่า และอีกมากมายแล้วแต่ผู้คนจะเห็นต่างกันออกไป...

แน่นอนว่าคุณสุรศักดิ์กับคุณหญิงนาฏยาเองก็รู้เรื่องนั้นในวันต่อมา ทั้งคู่ยิ่งเทใจไปทางฝั่งรินลดาจนหมดเพราะนอกจากร่างบางจะไม่พูดถึงเรื่องที่สองคนนั้นทำลับหลังผู้เป็นพ่อแม่แล้วกระการทำของเกวลินยังตอกย้ำให้ยิ่งมั่นใจว่าควรเลือกผู้หญิงแบบไหนมาเป็นสะใภ้ คุณหญิงนั้นยอมไม่ได้กับสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นกำลังเรียกร้อง วันนี้ที่เป็นวันที่ร่างบางไม่มีเรียนเธอจึงชวนทั้งสามีและว่าที่ลูกสะใภ้เดินทางไปเยี่ยมเยียนเจ้าลูกชายที่บริษัทเสียหน่อย เมื่อคืนไม่กลับบ้านถ้าไม่เข้าบริษัทอีกเห็นทีคงต้องเรียกมาปรับพฤติกรรมกันเสียหน่อยแล้วล่ะ!

"อ๊ะ คุณท่านสวัสดีค่ะ" พนักงานต้อนร้อนรีบกุลีกุจอเข้ามาต้อนรับอดีตท่านประธานบริษัทกับภรรยาอย่างตื่นตระหนก เพราะหลังจากวางมือออกไปพักผ่อนที่บ้านก็แทบจะไม่เห็นพวกท่านเดินทางมาที่บริษัทด้วยตัวเองบ่อยนัก

"อืม วันนี้เจ้าธันย์เข้าบริษัทหรือเปล่า" คุณสุรศักดิ์พยักหน้ารับไว้ ก่อนหยุดยืนถามหาผู้เป็นประธานบริษัทคนปัจจุบันอย่างผิดสังเกต เพราะทุกครั้งที่มาก็เห็นขึ้นลิฟต์ไปหาที่ห้องทำงานเลย ไม่หยุดถามคนอื่นให้เสียเวลาแบบนี้

"อยู่ค่ะ...เอ่อ..." อีกฝ่ายตอบกลับ ก่อนจะมีท่าทีอึกอักเมื่อสังเกตเห็นหญิงสาวหน้าตาสวยหวานที่มากับคนทั้งสอง ในเวลานี้จะมีใครไม่รู้ข่าวคราวรักๆ ใคร่ๆ ของท่านประธานกันล่ะ แต่ถ้าทั้งสามคนขึ้นไปหาวรธันย์ตอนนี้...

"มีอะไร" อดีตท่านประธานกดเสียงต่ำจนฟังดูดุดัน คนถูกถามเลยออกอาการลนลาน ไม่อยากพูดก็ต้องพูดเพื่อความปลอดภัยในตำแหน่งหน้าที่การงานของตัวเอง

"ตอนนี้...คุณเกวลินก็อยู่ด้วยค่ะ! " พูดไปหญิงสาวก็แอบหดคอเกร็งโดยไม่รู้ตัว กลัวจะถูกดุทั้งที่หล่อนไม่ได้ทำอะไรผิด คนทั้งสามมีท่าทีเคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ฟัง

"เกวลินมาที่นี่บ่อยหรอ? " คุณหญิงถามเสียงเรียบ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายไปทำอะไรให้คุณท่านถึงดูไม่ชอบหล่อนถึงขนาดชักสีหน้าไม่พอใจแบบนี้

"พักหลังๆ มานี้ก็...ค่อนข้างบ่อยค่ะ มาขลุกอยู่ในห้องกับท่านประธานทั้งวัน บ้างก็เดินโฉบไปโฉบมา" หญิงสาวตอบตามความจริง ไม่ค่อยระวังคำพูดนักเพราะแน่ใจว่าคุณท่านทั้งสองไม่ชอบอีกฝ่ายเช่นเดียวกับเธอและพนักงานคนอื่นๆ ที่เคยโดนเกวลินมองด้วยสายตาเหยียดหยามบ่อยๆ มาทีไรหล่อนก็มักจะเชิดและอวดเบ่งใส่คนอื่นราวกับเป็นเจ้าของบริษัทเสียเอง

"นี่คือคุณรินลดาหรือคุณหญิง เป็นคู่หมั้นและว่าที่ภรรยาของคุณธันย์ อีกหน่อยจะมาฝึกงานที่นี่ ยังไงก็รู้จักกันไว้นะ" คุณหญิงไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเกวลินอีกแต่จงใจแนะนำร่างบางให้พนักงานรู้จักด้วยน้ำเสียงอันดัง ให้ทุกคนได้ยินและรับรู้ทั่วกัน แม้ที่อยู่ตรงนี้จะมีพนักงานแค่ไม่กี่คน แต่ปากต่อปากไม่นานทุกคนจะต้องรู้อย่างแน่นอน

"สวัสดีค่ะคุณหญิง ดิฉันชื่อรัตนานะคะ หรือเรียกสั้นๆ ว่าจิ๊บก็ได้ค่ะ" รัตนารีบแนะนำตัวเองกับร่างบางอย่างกระตือรือร้น มองยังไงคนตรงหน้าก็ดูน่าคบหามากกว่าใครบางคน ยิ่งเป็นคุณท่านแนะนำเองด้วยแล้วไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้ว่าหล่อนจะอยู่ข้างใคร

"สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะพี่จิ๊บ" รินลดายกมือไหว้คนอายุมากกว่าด้วยรอยยิ้มที่ทำคนมองตาพร่าไปชั่วขณะ ขนาดเป็นผู้หญิงด้วยกันยังมองว่าคนตรงหน้ายิ้มสวยเสียจนเคลิ้มไปเลยทีเดียว

"เราขึ้นไปหาตาธันย์กันเถอะค่ะ น่าจะมีเรื่องที่ต้องคุยกันยาว! " คุณหญิงนาฏยาเอ่ยชวนสามีพร้อมคว้ามือว่าที่ลูกสะใภ้มาจับ ก่อนที่ทั้งสามคนจะพากันเดินไปขึ้นลิฟต์ท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของเหล่าพนักงานที่มองตามอย่างลุ้นๆ

บ้างก็คิดไปต่างๆ นานาว่าเมื่อขึ้นไปเจอลูกชายอยู่กับผู้หญิงอีกคนทั้งที่พาสะใภ้ตัวจริงมาด้วยแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง บ้างก็นึกอยากจะแปลงร่างเป็นจิ้งจกเกาะผนังตามไปแอบดู บ้างก็แอบแบ่งพรรคแบ่งฝ่ายว่าจะเชียร์ใคร แน่นอนว่าส่วนใหญ่ต้องเทใจไปให้ร่างบางที่อดีตท่านประธานพามาอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่เชียร์เกวลินแม้จะรู้ว่าสถานะความสำคัญของหล่อนนั้นสู้รินลดาที่มีพ่อแม่ฝ่ายชายหนุนหลังอยู่ไม่ได้ แต่ยังไงหล่อนก็เป็นคนที่มาก่อน ไม่สมควรจะถูกพรากคนรักไปง่ายๆ แบบนี้

"สวัสดีค่ะคุณท่าน คุณหญิง" เลขาคนเก่งรีบลุกขึ้นทักทายผู้ใหญ่ทั้งสองด้วยใบหน้ายิ้มแย้มปกปิดอาการตื่นตระหนกตกใจที่เห็นทั้งคู่ปรากฏตัวได้อย่างแนบเนียน แต่แล้วก็ต้องคิดหนักเมื่อเห็นอีกคนที่มาด้วย

อดีตท่านประธานและภรรยาเพียงพยักหน้ารับไหว้โดยไม่ได้พูดอะไร และไม่หยุดฝีเท้าที่กำลังเดินตรงไปยังประตูห้องบานใหญ่อันเป็นห้องทำงานของท่านประธานคนปัจจุบัน

ก๊อกๆ

ปัง..!

คนมีมารยาทก่อนจะเข้าไปก็ต้องเคาะประตูบอกกล่าวคนที่อยู่ข้างในก่อน แต่ไม่ได้รอฟังคำอนุญาต ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกไม่เบานัก และด้วยการมาอย่างกะทันหันนี้เองเลยทำให้มาได้จังหวะพอดิบพอดี...ภาพตรงหน้าก็คือเจ้าของห้องนั่งประจำอยู่ที่โต๊ะทำงานโดยมีร่างอรชรเกยอยู่บนตักในสภาพไม่เรียบร้อยทั้งเสื้อผ้าและการกระทำ

"ตาธันย์!! " ภาพที่เห็นทำคุณหญิงนาฏยาโกรธจัดจนเผลอตวาดเรียกลูกชายเสียงดัง

"อุ้ย! คุณพ่อคุณแม่...สวัสดีค่ะ" เกวลินตกใจแต่ไม่ถึงกับลนลาน หล่อนทำเป็นรีบลงจากตักแกร่ง จัดเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทางแล้วยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองอย่างมีมารยาท ไม่ลืมเหลือบตามองมาที่รินลดาด้วยแววตาเวทนาระคนเยาะเย้ยอยู่ในที

"...พ่อกับแม่มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ จะมาทำไมไม่โทรบอกก่อน" เจ้าของห้องที่เพิ่งหาเสียงเจอถามกลับอย่างเครียดขรึม ลำคอตีบตัน กระอักกระอ่วนใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าไม่น้อยเพราะไม่คิดว่าพ่อแม่จะบุกมาถึงบริษัท แถมยังพาใครอีกคนมาด้วย

"แม่ก็เพิ่งรู้นะว่าการที่พ่อกับแม่จะมาที่นี่ได้ต้องมีธุระเท่านั้น! และถ้าโทรมาบอกแม่ก็คงไม่ได้เห็นกับตาว่าแกพาใครมาทำตัวบัดสีบัดเถลิงไร้ยางอายในห้องทำงานแบบนี้ไง! " คุณหญิงยังคงไม่ลดระดับเสียง มือเล็กจิกเกรงจนสั่นคล้ายว่าโกรธจนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ รินลดาเห็นท่าไม่ดีจึงคอยลูบแขนไว้ให้ใจเย็นๆ ด้วยสุขภาพของคุณหญิงที่ยังไม่แข็งแรงดีเลยกลัวความโกรธจะนำพาสิ่งไม่ดีบังเกิดกับร่างกายอ่อนแรงนี้

"แล้วมันยังไงครับ! เกวลินเป็นแฟนผม! พ่อกับแม่นั่นแหละ เลิกบงการชีวิตผมได้แล้ว ผมจะทำอะไรที่ไหนมันก็เรื่องของผม ผมโตแล้วนะ ไม่ใช่เด็กๆ เลิกยุ่งกับชีวิตผมสักที มันน่ารำคาญ!! " ร่างสูงตวาดกลับด้วยความโกรธจัดยิ่งกว่า เขาคิดว่ามันไม่แฟร์เลยที่คนเป็นแม่จะโกรธและเอาอารมณ์มาลงที่เขาเพียงเพราะเขาไม่สนใจจะแต่งงานกับผู้หญิงที่ท่านหามาให้ ชีวิตเป็นของเขาถ้าจะแต่งงานสร้างครบครัวกับใครสักคนเขาก็ต้องมีสิทธิ์เลือกภรรยาเอง ไม่ใช่หาใครที่ไหนก็ไม่รู้มาให้ราวกับหาของเล่นให้เด็กน้อยแบบนี้

สิ้นเสียงปะทะห้องทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบสงบ ทว่าบรรยากาศมาคุจนหายใจลำบาก การทะเลาะกันรุนแรงของทั้งคู่ล้วนส่งผลเสียกับความรู้สึกของทุกคน...ไม่รวมเกวลินที่ยังคงทำหน้าระรื่นได้อยู่ ผู้เป็นแม่ที่ไม่เคยถูกลูกชายเพียงคนเดียวตะคอกใส่ถึงกับน้ำตาคลอก่อนรินไหลด้วยความเสียใจ...ภาพนั้นสะเทือนใจร่างบางอย่างมหาศาล การขึ้นเสียงและพูดจาไม่ดีใส่บุพการีเป็นสิ่งที่รินลดารับไม่ได้แต่ก็ไม่มีสิทธิ์เอ่ยอะไรด้วยเป็นเรื่องในครอบครัวของเขา

"...ก็ได้...ในเมื่อความหวังดีของฉันกับแม่แกมันทำให้แกรำคาญมากถึงขนาดนี้ ฉันกับแม่แกก็จะไม่มายุ่งกับชีวิตของแกอีก เชิญมีความสุขกับสิ่งที่แกเลือกเสียให้พอ...ถึงฉันกับแม่แกจะตาย...ก็ไม่ต้องมาเผาผีกัน! " คุณสุรศักดิ์ทนเห็นน้ำตาภรรยาผู้เป็นที่รักมากไม่ได้ เส้นความอดทนเลยขาดผึงไปตามๆ กัน เขาผิดเองที่ยัดเยียดความหวังดีให้ลูกมากเกินไปจนทำให้อะไรๆ มันย่ำแย่ไปหมด คนเป็นพ่อแม่เลี้ยงลูกได้ก็แค่ตัว...เห็นทีจะเป็นเรื่องจริง!

"มะ แม่...ผม..." วรธันย์หน้าซีดเผือด การที่เผลอตวาดใส่ผู้เป็นแม่ว่าทำเขารู้สึกเสียใจมากพอแล้ว การถูกพ่อตัดรอนความสัมพันธ์ชนิดไม่ให้ไปเผาผีทำเขาทั้งเสียใจและตกใจยิ่งกว่า เพราะไม่ได้ตั้งใจจะให้เรื่องราวมันลงเอยแบบนี้ ถึงเขาจะไม่เห็นด้วยกับหลายสิ่งหลายอย่างที่ทั้งคู่ทำแต่เขาที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกย่อมต้องรักพ่อรักแม่เต็มหัวใจ

"กลับกันเถอะ...กลับไปอยู่ในที่ของเรา" ไม่มีใครสนใจว่าร่างสูงอยากจะพูดอะไรต่อ คุณสุรศักดิ์หันไปพูดกับภรรยาเสียงนุ่ม ปลายนิ้วยกขึ้นเช็ดน้ำตาออกจากแก้มขาวแผ่วเบา เมื่อหมดธุระจะพูดก็ประคองร่างผอมบางออกจากห้องไปพร้อมว่าที่ลูกสะใภ้ที่กำลังจะกลายเป็นอดีต...เขาตัดสินใจแล้วว่าจะปล่อยวางเรื่องนี้และปลดปล่อยรินลดาเป็นอิสระ...

ทั้งสามคนเดินทางกลับบ้านด้วยบรรยากาศเศร้าซึม ไม่มีใครพูดอะไรเลยสักคำ มีเพียงมือเล็กของร่างบางกับมือหนาของสามีที่โอบประคองหัวใจอันบอบช้ำของคุณหญิงอย่างเงียบๆ ทั้งสามคนกลับถึงบ้านและเอาแต่นั่งนิ่งปลอบโยนความรู้สึกของกันและกันด้วยฝ่ามือและอ้อมกอดอันอบอุ่น

"ผมจะไม่ฝืนใจใครแล้วล่ะคุณหญิง...ผมไม่อยากให้ครอบครัวเราย่ำแย่ไปมากกว่านี้แล้ว..." ผู้เป็นใหญ่ในบ้านพูดขึ้นมาในที่สุด ตามมาด้วยเสียงถอนหายใจหนักอย่างพยายามปล่อยวาง คนฟังไม่ได้ตอบอะไรเพียงพยักหน้ารับช้าๆ อย่างเข้าใจ

"เจ้าหญิง..." ดวงตาคมกล้ามองเลยมายังเด็กสาวที่นั่งถัดไปจากภรรยาด้วยแววตาอ่อนแสง ถึงจะรู้จักกันได้ไม่นานแต่ทั้งคู่ก็รู้ว่ารินลดาเป็นเด็กดี ดีจนไม่เหมาะสมกับลูกชายของเขาเลยด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นเขาควรปล่อยให้อีกฝ่ายได้ไปพบเจอกับคนที่ดี คนที่รักกันจริงๆ ดีกว่าต้องมาทนอยู่กับคนที่ไม่ได้รักและไม่มีวันจะรักกันได้

"นับจากวันนี้ชีวิตหนูเป็นอิสระแล้วนะ...ลุงจะไม่เอาคำว่าบุญคุณมาบีบบังคับหนู หนูไม่ต้องทนแล้วล่ะ ขอให้ได้เจอคนดีๆ ที่รักหนูจริงๆ นะ ว่างๆ ก็กลับมาเยี่ยมคนแก่ๆ อย่างพวกเราบ้าง หรือจะอยู่ที่นี่ต่อก็ได้ พวกเรายินดีต้อนรับเสมอ" คำอวยพรกึ่งอำลาทำคนฟังใจหาย แม้จะไม่เต็มใจมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ในฐานะลูกสะใภ้ แต่ผู้ใหญ่ทั้งสองก็มีพระคุณและดีกับเธอมากจนหาไม่ได้ง่ายๆ ในสังคมคนมีเงิน ทั้งคู่ไม่รังเกียจที่เธอเป็นเพียงลูกแม่ค้า ไม่เคยแบ่งชนชั้น ไม่เคยเลือกปฏิบัติ เอ็นดูเธอตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ การที่เรื่องราวทั้งหมดมันจบไม่สวยทำให้เธอไม่อยากทิ้งพวกท่านไว้กับความเสียใจแบบนี้เลย

"หนูจะไม่ไปไหนทั้งนั้นค่ะ! หนูจะอยู่กับคุณพ่อคุณแม่จนกว่าจะถึงเวลาที่สมควรกลับไปอยู่ที่เดิม ไม่ต้องห่วงหรอกนะคะถึงคุณธันย์จะยังไม่แต่งงานมีหลานให้อุ้ม แต่คุณพ่อคุณแม่ยังคงมีหนู ให้หนูเป็นลูกสาวอีกคนก็ได้...นะคะ" รินลดาเอ่ยเสียงใส ก่อนทรุดตัวลงไปนั่งบนพื้นซบตักคุณหญิงอย่างออดอ้อน เรียกรอยยิ้มบางเบาจากคนฟังได้อย่างง่ายดาย

"พ่อแม่ของหนูช่างโชคดีที่มีลูกสาวน่ารักขนาดนี้..." คุณหญิงเอ่ยเสียงเครือก่อนโน้มตัวลงไปดึงร่างบางขึ้นมากอดแน่น ใจพยายามปล่อยวางเรื่องลูกชายและมีความสุขกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ตรงหน้า ถึงจะไม่ได้รินลดามาเป็นสะใภ้แต่ก็ยังโชคดีที่ได้พบเจอกัน

"งั้น...วันนี้หนูจะเข้าครัวทำอะไรอร่อยๆ ให้ทานนะคะ คุณพ่อคุณแม่อยากทานอะไรเป็นพิเศษมั้ยคะ" ร่างบางบอกอย่างเอาใจ เอาเกียรติของลูกแม่ค้าเป็นประกันได้เลยว่าอาหารที่เธอทำอร่อยไม่แพ้ฝีมือแม่ครัวบ้านนี้อย่างแน่นอน!

"เอาสิ...เดี๋ยวแม่ไปช่วยด้วยดีกว่า ไม่ได้เข้าครัวเสียนานเลย" คุณหญิงฉีกยิ้มเต็มแก้ม บรรยากาศสีเทาๆ เลือนหายไปชั่วขณะ ในสายตาเห็นแต่คำว่า 'น่ารัก' จากเด็กสาวเต็มไปหมด

"ดีค่ะ งั้นหนูเป็นลูกมือให้เอง" รินลดายิ้มรับอย่างโล่งอกที่คุณหญิงไม่ยึดติดกับความเสียใจแล้ว คุณสุรศักดิ์เองก็เริ่มยิ้มออก ไม่นานคนทั้งคู่ก็ประคับประคองกันเดินเข้าครัวไปด้วยรอยยิ้มเปื้อนใบหน้า

..

..

..

..

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • วิวาห์(ไม่)ไร้รัก   ตอนที่ 34 (ตอนจบ)

    วิวาห์ (ไม่) ไร้รักWriter : Aile'Nตอนที่ 34 (ตอนจบ) วันเวลาผ่านพ้นไปกิจวัตรประจำวันของรินลดาก็ยังคงวนเวียนแบบเดิมซ้ำๆจนอายุครรภ์ล่วงเลยมาจนถึงแปดเกือบเก้าเดือนและมีวันกำหนดคลอดในอีกไม่กี่วันข้างหน้าแต่เธอรู้ว่าอาจจะอยู่ได้ไม่ถึงวันนั้นเนื่องจากช่วงนี้มีอาการเจ็บท้องเตือนบ่อยขึ้นบางทีก็เจ็บจนร้องไห้ผู้เป็นสามีจึงต้องลางานมาอยู่เป็นเพื่อนในช่วงใกล้คลอด"ไหวไหม"ร่างสูงเอ่ยถามภรรยาท้องแก่ที่นั่งเอนหลังดมยาดมพลางหอบหายใจแรงกว่าปกติเนื่องจากเจ็บท้องเตือนขึ้นมาอีกแล้วและดูเหมือนวันนี้จะเจ็บมากกว่าปกติเขาจึงให้คนเตรียมรถเตรียมของใช้สำหรับคลอดไว้เผื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน"อึก...ไม่ไหว...แฮ่ก"แรงปวดไม่มีท่าทีว่าจะเบาลงเลยแม้แต่น้อยมือเล็กที่บีบมือใหญ่ไว้ส่งผ่านความรู้สึกมาถึงร่างสูงแม้ไม่ทั้งหมดแต่ก็ทำให้เขาได้รับรู้ว่าเธอกำลังจะทนไม่ไหวไม่ต้องรอให้พูดอะไรซ้ำวรธันย์ก็เรียกเด็กในบ้านให้รีบเตรียมของขึ้นรถส่วนเขาก็ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีช้อนตัวภรรยาขึ้นอุ้มและตรงไปที่รถอย่างรวดเร็วเรียกได้ว่าสถานการณ์เริ่มวุ่นวายแต่ก็ไม่ถึงกับทำอะไรไม่ถูกเพราะทุกคนเตรียมการนี้ไว้สักพักใหญ่แล้วเพียงตื่นเต้นยิน

  • วิวาห์(ไม่)ไร้รัก   ตอนที่ 33

    วิวาห์ (ไม่) ไร้รักWriter : Aile'Nตอนที่ 33ตกเย็นวรธันย์ก็พาภรรยามาที่บ้านใหญ่พร้อมด้วยกล่องของขวัญหนึ่งใบที่ทำเอาทุกคนต่างมองด้วยความสนใจครั้นถามว่าเอามาให้ใครและข้างในมีอะไรเจ้าตัวก็บ่ายเบี่ยงบอกแค่ว่าจะเฉลยในตอนที่ทานข้าวเสร็จเล่นเอาคุณหญิงนาฏยาคันไม้คันมือยิกๆอยากแย่งมาเปิดดูให้รู้แล้วรู้รอดแต่ก็ทำได้แค่เก็บอาการและอดใจรออย่างใจเย็น"เอ้อแม่มีอะไรจะบอก"คุณหญิงพูดขึ้นท่ามกลางมื้ออาหารที่เริ่มดำเนินมาสักพักหนุ่มสาวเลยพร้อมใจกันวางช้อนส้อมเพื่อรอฟังในสิ่งที่มารดากำลังจะบอก"แม่คุยพ่อและคุยกับพ่อแม่หนูแล้วว่าจะให้ทั้งสองคนย้ายเข้ามาอยู่กับพวกเราที่นี่เนี่ยน้ากว่าจะเกลี้ยกล่อมได้เหนื่อยแทบตายแน่ะ"คุณหญิงบอกอย่างอารมณ์ดีได้ยินแบบนั้นรินลดาก็จ้องหน้าแม่สามีอย่างไม่อยากจะเชื่อหูก่อนจะหันไปมองพ่อกับแม่ที่ทำหน้าเกรงอกเกรงใจอยู่ไม่คลาย"ก็จะให้มาอยู่เฉยๆไม่ให้ทำอะไรเลยมันไม่ได้จริงๆค่ะเกรงใจ"อรนภาเอ่ยแทรกขึ้นมาความจริงคุณหญิงชวนเธอกับสามีมาอยู่ด้วยกันหลายครั้งแล้วแต่เธอปฏิเสธเพราะเกรงใจอีกอย่างก็ไม่คุ้นชินกับบ้านหลังใหญ่หรูหราแบบนี้เท่าไรคราวนี้ที่ยอมก็เพราะยื่นข้อเสนอไปว่าถ้าให้อยู่ก็ข

  • วิวาห์(ไม่)ไร้รัก   ตอนที่ 32

    วิวาห์ (ไม่) ไร้รักWriter : Aile'Nตอนที่ 32สองอาทิตย์ผ่านไปไวเหมือนโกงเข็มนาฬิกา ว่าที่เจ้าสาวถูกปลุกขึ้นมาแต่งหน้าทำผมตั้งแต่ไก่ยังไม่ขันด้วยทีมช่างที่คุณหญิงนาฏยาจัดหามาให้ ได้คุณหญิงและผู้เป็นแม่คอยช่วยดูแลอีกที กำหนดการในช่วงเช้าวันนี้คือการเข้าพิธีแต่งงานแบบไทย เรียบง่าย ลดขั้นตอนพิธีบางอย่างออกไป คงเหลือไว้แต่พิธีหลักๆ ที่สำคัญ สถานที่จัดงานคือบ้านหลังใหญ่ของฝ่ายว่าที่สามีที่ยังคงนอนหลับอยู่อีกห้องหนึ่ง เพราะขั้นตอนการแต่งตัวน้อยกว่าฝ่ายเจ้าสาวจึงยังไม่ถูกปลุกขึ้นมาพร้อมกันใช้เวลาร่วมสามชั่วโมงในการแต่งหน้าทำผมให้เจ้าสาวและบรรดาแม่ๆ กระทั่งแล้วเสร็จในช่วงเช้าพอดี ฝ่ายเจ้าบ่าวเองก็แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วทว่ายังถูกขัดขวางไม่ให้ได้เจอเจ้าสาวจนกว่าจะเริ่มพิธีไม่เพียงแค่เจ้าของงานที่ต้องเตรียมตัวแต่เช้า ฝ่ายจัดสถานที่และฝ่ายแม่ครัวเองก็วิ่งวุ่นไม่ต่างกันเพราะต้องเตรียมอาหารเลี้ยงพระและ แขกคนสำคัญที่แม้จะเชิญมาแค่ไม่กี่คนก็ต้องดูแลให้ดีสมฐานะเจ้าบ้าน พยายามให้มีข้อผิดพลาดน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"ใจเย็นๆ อย่าตื่นเต้นมากนัก เดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งไปซะก่อน" อรนภาลูบหลังลูกสาวเ

  • วิวาห์(ไม่)ไร้รัก   ตอนที่ 31

    วิวาห์(ไม่)ไร้รักWriter : Aile'Nตอนที่ 31ด้วยไม่ได้นอนทั้งคืนและอ่อนเพลียจากพิษไข้ คืนแรกที่ต้องนอนแยกห้องกันตามข้อตกลงเลยทำให้รินลดาหลับสนิท ต่างจากวรธันย์ที่นอนมองเพดานว่างเปล่ามานานหลายชั่วโมงแล้ว เขายังไม่มีทีท่าว่าจะง่วงเลยแม้แต่น้อย เขาคิดถึงร่างนุ่มนิ่มของคนรักที่เคยได้นอนกอด มากไปกว่านั้นคือเป็นห่วงกลัวว่าคนป่วยจะไข้ขึ้นสูงกลางดึกแล้วไม่มีคนดูแลสุดท้ายร่างสูงก็ยอมแพ้ต่อความห่วงใย เขาทนไม่ไหวจึงหอบเอาผ้าห่มกับหมอนเดินไปที่ห้องนอนเล็ก มือหมุนเปิดลูกบิดอย่างแผ่วเบา ก่อนเดินไปหยุดอยู่ข้างเตียง ลงมือปูผ้าห่มลงบนพื้น ไม่ลืมตรวจเช็คอุณหภูมิของคนหลับด้วยว่าน่าเป็นห่วงหรือไม่ เมื่อพบว่ายังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงวรธันย์ก็ล้มตัวลงนอนข้างเตียง แต่ตั้งใจไว้ว่าจะต้องตื่นก่อนและรีบออกไปจากห้อง บทลงโทษของคนที่ทำอะไรไม่คิดคือแยกห้องนอนและห้ามวอแวอีกฝ่ายจนกว่าจะถึงวันแต่งงานในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า นี่แค่วันเดียวก็แทบจะทนไม่ได้แล้ว ไม่อยากจะคิดเลยว่าเขาจะอดทนได้จนถึงวันแต่งงานหรือเปล่ารินลดาหลับยาวจนถึงเช้า เธอลืมตามองไปรอบๆ อย่างสำรวจ เพราะเมื่อคืนเหมือนจะมีบางช่วงที่กึ่งหลับกึ่งตื่นและรู้สึก

  • วิวาห์(ไม่)ไร้รัก   ตอนที่ 30

    วิวาห์(ไม่)ไร้รักWriter : Aile'Nตอนที่ 30"เฮ้อ...""อะไร ถอนหายใจแต่เช้า ไหวไหมเนี่ย ท่าทางเราดูเพลียๆ นะ ไม่ได้หลับได้นอนหรือไงหื้ม" เลขาท่านประธานถามขึ้นอย่างห่วงใยเมื่อเห็นเด็กฝึกงานในความปกครองนั่งถอนหายใจก่อนฟุบหน้าลงกับโต๊ะด้วยท่าทางอ่อนล้าในเช้าวันหนึ่ง จะว่าถูกเธอใช้งานหนักก็ไม่ใช่ ถึงจะเป็นเพียงนักศึกษาฝึกงานแต่พ่วงตำแหน่งคู่หมั้นของเจ้านาย ยังไงก็เปรียบเสมือนเจ้านายเธออีกคน ใครจะไปกล้าใช้งานหนักกัน"ประมาณนั้นแหละค่ะ เจ้าที่แรงมาก ไม่ยอมให้หลับให้นอนเลย" เสียงหวานอ่อนระโหยโรยแรงบ่นพึมพำออกมาคล้ายคุยกันตัวเองมากกว่า คำว่า 'เจ้าที่แรง' ทำคนฟังได้แต่ทำหน้าสงสัย พลันนึกไปถึงคอนโดหรูที่เจ้านายพัก ก็เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเจ้าที่แรง...ขณะที่รุ่นพี่คิดไปไกล...เจ้าที่ในความหมายของคนอายุน้อยกว่าตอนนี้กำลังนั่งจามอยู่ในห้องทำงานอย่างไม่ทราบสาเหตุ ใช่...เจ้าที่ที่ก่อกวนเวลานอนของเธอก็คือเจ้านายพี่นั่นแหละ!หลังจากวันสารภาพบาป (?) นี่ก็ผ่านมาหลายอาทิตย์แล้ว และตลอดหลายอาทิตย์ที่ผ่านมารินลดาต้องรับมือกับ 'ผีทะเลกินดุ' แทบจะทุกคืน! พอได้มีคืนแรกด้วยกัน คืนต่อๆ ไปก็มาไวและถี่เสียจนตั้งรับไม

  • วิวาห์(ไม่)ไร้รัก   ตอนที่ 29

    วิวาห์(ไม่)ไร้รักWriter : Aile'Nตอนที่ 29"หนูกลัว..." น้ำเสียงเบาหวิวเอ่ยขึ้นในตอนที่ได้กลับมาเหยียบบ้านอินทรเกษมกุลอีกครั้ง แววตากลมใสสั่นระริก ดวงหน้าปรากฏความกังวลอย่างเห็นได้ชัด แม้จะคุยกันมาดีแล้ว แต่พอถึงเวลาจริงๆ เธอก็ยังมีความพร้อมไม่มากพออยู่ดี"พี่อยู่ทั้งคน" ฝ่ามือใหญ่กุมทับมือเล็กที่เย็นเฉียบสร้างความอบอุ่นแผ่ซ่านไปถึงหัวใจ ทว่าก็ทำคนฟังใจชื้นขึ้นมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะความวิตกกังวลมันมีมากกว่า เธอกลัวว่าพ่อกับแม่จะผิดหวังในตัวเธอมากกว่าว่าใครจะมองยังไง แต่ถ้าไม่พูดก็ไม่สบายใจอีกเหมือนกัน"ไปเถอะ เชื่อใจพี่...ไม่มีอะไรต้องกลัว" ร่างสูงให้กำลังใจ กระชับมือเล็กแน่นขึ้น ก่อนพาเดินเข้าบ้านไป ในเวลานี้ทุกคนต่างมานั่งรวมตัวกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่นตามที่วรธันย์ได้โทรมาขอไว้ ทั้งพ่อแม่ของเขาและพ่อแม่ของรินลดา"อ้าว มากันแล้ว สวัสดีจ้ะ นั่งๆ" คุณหญิงนาฏยาทักทายทั้งคู่ด้วยรอยยิ้ม มือรับไหว้ว่าที่ลูกสะใภ้ก่อนเชิญทั้งสองมานั่งคุยกันระหว่างรอทานมื้อค่ำ"น้องหญิง ไม่สบายหายดีหรือยังคะ พี่ธันดูแลน้องดีหรือเปล่าเนี่ย" ประโยคแรกเอ่ยกับร่างบางด้วยรอยยิ้มสดใส ประโยคหลังหันมามองแรงใส่ล

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status