Share

วิวาห์พยศใจ
วิวาห์พยศใจ
Penulis: อัญญาณี

Chapter 1

last update Terakhir Diperbarui: 2025-08-23 02:15:35

Chapter 1

               กระเป๋าเดินทางหลายใบถูกลำเลียงมาไว้หน้าบ้านไม้สองชั้น ตั้งอยู่บนเนื้อที่หนึ่งร้อยตารางวา ก่อนที่เจ้าของกระเป๋าจะเดินออกมายืนรอรถตู้ที่จะรับไปสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา ไปใช้ชีวิตอยู่ที่โน้นกับสามีใหม่ของธนวรรณ ที่หอบหิ้วบุตรสาวและน้องสาวไปอยู่ด้วย

เด็กหญิงธนัสสรณ์หรือน้ำหวานวัยสิบสองปีหนึ่งในสมาชิกของบ้านหลังนี้ ชะเง้อคอมองไปยังประตูรั้วบ้านไม่วางตา ราวกับว่ากำลังรอใครบางคนอยู่

               “มองหาพี่ใหญ่เหรอจ้ะน้ำหวาน” ธนพรน้าสาวเอ่ยถามหลานสาวอย่างรู้ใจ

               “ใช่ค่ะ พี่ใหญ่สัญญาว่าจะมาส่งน้ำหวาน” ปากเด็กหญิงพูด ทว่าสายตายังคงมองไปยังมองไปยังจุดเดิม

               “เดี๋ยวพี่ใหญ่คงมา พี่ใหญ่เป็นคนรักษาสัญญา รับปากอะไรไว้ก็ต้องทำตามนั้น” ธนพรปลอบหลานรักพร้อมกับฉีกยิ้มเมื่อเห็นร่างของคนที่ธนัสสรณ์รอคอย เดินเข้ามาในบ้าน “นั่นไง พี่ใหญ่มาแล้ว”

               ธนัสสรณ์มองคนที่ตนเองรอคอยด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าในใจจะหมองเศร้าที่ต้องจากพี่ชายข้างบ้านที่แสนดีไปอยู่คนละซีกโลก แต่อย่างน้อยก่อนจากลาเธอก็ได้พบหน้าเขา

               “สวัสดีครับคุณอา” จอมทัพ รุจิเวโรจน์วัยสิบเจ็ดปีพนมมือไหว้เจ้าของบ้าน รวมทั้งธนพร

               “สวัสดีจ้ะ” ธนวรรณมารดาธนัสสรณ์รับไหว้ “ใหญ่รู้ไหมว่า น้ำหวานชะเง้อคอรอใหญ่จนคอจะยาวเหมือนยีราฟแล้ว”

               “พี่ต้องขอโทษน้ำหวานด้วยนะที่มาช้า พี่ไปเอาของชิ้นนี้มาให้น้ำหวาน”

จอมทัพส่งกล่องของขวัญที่ตั้งใจมอบให้สาวน้อยตรงหน้าที่มีความสวยโดดเด่นตั้งแต่เยาว์วัย เด็กสาวที่มัดใจเขาเสียอยู่หมัด

               “ขอบคุณค่ะพี่ใหญ่” เด็กหญิงนำกล่องของขวัญนั้นกอดไว้แนบอก

               “จะไม่เปิดดูหน่อยเหรอว่าเป็นอะไร” จอมทัพพูดราวกับจะบอกเธอว่า ให้เปิดดูของที่ตนตั้งใจมอบให้ “พี่อยากรู้ว่าน้ำหวานชอบของที่พี่ให้หรือเปล่า”

               “ค่ะพี่ใหญ่ น้ำหวานจะแกะดูค่ะ” พูดจบสาวน้อยแสนสวยได้แกะห่อของขวัญที่บรรจงห่ออย่างสวยงาม พอเห็นของขวัญในกล่อง เธอยิ้มกว้างกอดสิ่งนั้นไว้แนบอก “น่ารักที่สุดเลยค่ะ น้ำหวานจะเก็บมันไว้ข้างกาย ทะนุถนอมมันด้วยชีวิตค่ะ”

               ของขวัญที่จอมทัพมอบให้เธอก่อนลาจากคือ ตุ๊กตาคิตตี้ที่เขาเคยสัญญาไว้กับธนัสสรณ์ว่า จะซื้อให้ในวันเกิดปีนี้ แต่ในวันนั้นเขาต้องเดินทางไปหาคุณปู่ในจังหวัดเชียงราย จอมทัพจึงซื้อมาให้เธอในวันนี้แทน

               “พี่ทำตามสัญญาแล้วนะ” จอมทัพบอกสาวน้อยตรงหน้า “พี่ยังมีของอีกชิ้นมอบให้น้ำหวานด้วย”

               “อะไรคะพี่ใหญ่” จอมทัพล้วงหยิบของชิ้นหนึ่งในกระเป๋าออกมา แล้วส่งให้ธนัสสรณ์ต่อหน้าบุพการีของเธอ

               ธนัสสรณ์มองแหวนทองคำขาวที่มีเพชรเม็ดงามอยู่ตรงกลางอย่างตื่นเต้น รอยยิ้มกระจ่างเต็มดวงหน้านวลที่สวยงามราวกับเทพธิดา ใจเธอเต้นระส่ำไปหมด ค่อยๆ ยื่นมือไปหยิบแหวนวงนั้น ธนวรรณกับธนพรพากันยิ้ม เพราะรู้ความหมายของจอมทัพ

               “อาว่า ใหญ่สวมให้น้องดีกว่านะ”

ธนวรรณที่อยากได้จอมทัพเป็นลูกเขยทุกลมหายใจ รีบบอกให้จอมทัพสวมแหวนให้บุตรสาว จะได้คล้ายกับว่า จอมทัพกับธนัสสรณ์หมั้นหมายกัน จอมทัพไม่ปฏิเสธคำบอกของธนวรรณ เขาหยิบแหวนในมือของสาวน้อยแล้วบรรจงสวมนิ้วนางข้างซ้ายของเธอ

“น้ำหวานจะไม่ถอดมันออกค่ะ จะสวมมันตลอดเพราะเท่ากับว่า พี่ใหญ่อยู่ใกล้ๆ น้ำหวาน” เด็กหญิงไร้เดียงสาเอ่ยบอกตามความรู้สึกของตนเอง

“น้ำหวานอยู่ในใจของพี่เสมอ ไม่ว่าจะนานแค่ไหนพี่ไม่มีวันลืมน้ำหวาน เมื่อถึงเวลาพี่จะไปหาน้ำหวานที่โน่นนะ” จอมทัพบอกความจริงจากใจให้เธอรับรู้ “พี่รักน้ำหวานนะ”

เด็กสาวแก้มแดงระเรื่อ หัวใจยิ่งเต้นแรงมากกว่าเดิมกับคำบอกรักที่เอ่ยต่อหน้ามารดาและน้าสาว เป็นคำพูดที่เธอไม่มีวันลืม 

“น้ำหวานรักพี่ใหญ่ค่ะ น้ำหวานจะรอพี่ใหญ่มาหาน้ำหวานนะคะ”

ทั้งคู่ต่างยิ้มให้กัน มองสบสายตากันนิ่ง ราวกับว่าไม่มีใครอื่นอย่างรอบข้าง ระหว่างนั้นรถตู้ได้แล่นเข้ามาจอดหน้าบ้าน

“ได้เวลาไปกันแล้วน้ำหวาน” ธนพรบอกหลานสาว ธนัสสรณ์ล้วงหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าสะพายข้าง ก่อนจะมอบให้เขา

“พี่ใหญ่อย่าลืมน้ำหวาน อย่าลืมคำสัญญานะคะ” 

“พี่สัญญาว่า พี่ไม่มีวันลืมน้ำหวาน ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหน เวลาจะผ่านไปนานเท่าใดพี่ก็จะไม่ลืม ความรักของพี่จะเป็นนิรันดร์”

จอมทัพนำภาพถ่ายใบเล็กที่เธอมอบให้มาแนบไว้กับอก พร้อมกับย้ำคำมั่นสัญญาที่เขาจะยึดมั่นไว้ในใจ

ธนวรรณ ธนพรและธนัสสรณ์ก้าวขึ้นรถตู้ หลังจากที่คนรับใช้นำกระเป๋าใส่ไว้ท้ายรถ ครั้นประตูรถปิดลง จอมทัพรู้สึกเหมือนกับว่า หัวใจหลุดหาย มองสาวน้อยที่กุมหัวใจเขาไว้ด้วยความอาลัย ธนัสสรณ์เองก็เช่นกัน มองเขาด้วยสายตาไม่ต่างกัน มีน้ำตาไหลรินเป็นทาง มองจอมทัพที่ยืนโบกมือให้เธอจนลับสายตา

“พี่สัญญาว่า จะรักและเก็บหัวใจให้หวานคนเดียว”

เป็นคำมั่นสัญญาที่เขาย้ำบอกกับตัวเอง แล้วจะยึดมั่นไว้จนกว่าเขาและเธอจะได้พบกันอีกครั้ง และวันนั้นจะเป็นวันสุดท้ายที่ทั้งคู่ห่างกัน

               15 ปีผ่านไป

               สมาชิกในตระกูลรุจิเวโรจน์มารวมตัวอยู่ในห้องนั่งเล่นกันอย่างพร้อมหน้า เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก หรือจะพูดได้ว่าในรอบปีจะมีสักครั้ง การที่ทุกคนมารวมตัวกันอยู่ในห้องนี้ได้เป็นเพราะ ลิขิต รุจิเวโรจน์ประมุขของบ้านเรียกทุกคนมาเพื่อบอกกล่าวบางอย่างให้ทุกคนรับรู้

               ที่ว่าเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักเป็นเพราะ ลิขิตได้แยกตัวไปอยู่บ้านอีกหลังที่อยู่บนเนื้อที่เดียวกันกับบ้านหลังใหญ่ เขาอาศัยอยู่กับนภาพรภรรยาน้อยมาร่วมยี่สิบปี ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างลิขิตกับสกาวใจ ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายอยู่ในสถานะต่างคนต่างอยู่ แต่ยังไม่ได้จดทะเบียนหย่า และไม่ถูกกันไปโดยปริยาย เจอหน้ากันทีไรต้องมีปากเสียง สกาวใจมักพูดจาเหน็บแนมลิขิตและภรรยาน้อยทุกครั้ง ซึ่งนภาพรเองก็ไม่เคยโต้เถียง เจียมตัว สยบปากสยบคำเพราะรู้ตัวว่าตนเองผิดที่แย่งสามีสกาวใจ การที่สมาชิกในตระกูลจะมารวมตัวกันพร้อมหน้าแทบจะนับครั้งได้

               “คุณแม่ทราบหรือเปล่าครับว่า คุณพ่อมีเรื่องอะไรจะบอกพวกเรา” วิมุตลูกชายเพียงคนเดียวของลิขิตเอ่ยถามมารดา

               “แม่จะไปรู้ได้ยังไง แม่ก็อยากรู้พอๆ กับเสกนั่นแหละ”

สกาวใจแปลกใจไม่น้อยที่อยู่ๆ สามีก็เรียกให้ทุกคนมารวมตัวกันในห้องนั่งเล่นของบ้านใหญ่ ครั้นนางจะไม่มาก็ไม่ได้ เนื่องจากอยากรู้ว่าเรื่องที่ว่านี้คืออะไร หากไม่สำคัญลิขิตคงไม่ทำเช่นนี้ ความอยากรู้จึงมีมากกว่า

“หรือว่าคุณปู่จะบอกเรื่องพินัยกรรมค่ะ” รุ่งอัมพรบุตรสาวคนโตของวิมุตคาดเดา

“หน่อยว่าไม่ใช่หรอกค่ะ เรื่องพินัยกรรมไม่ได้สำคัญอะไร อีกอย่างคุณปู่ก็เคยบอกไว้แล้วว่า ใครได้อะไรบ้าง”

รุ่งทิวาบุตรสาวคนเล็กของวิมุตไม่คิดเช่นเดียวกับพี่สาว เป็นเพราะลิขิตเคยบอกกับทุกคนไว้แล้วว่า ใครได้อะไรบ้างในทรัพย์สมบัติทั้งหมดของตระกูลที่มีไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นล้าน และแบ่งให้ลูกหลานแต่ละคนดูแลกิจการที่แต่ละคนจะได้ครอบครอง

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • วิวาห์พยศใจ   Chapter 74

    Chapter 74“สามีคุณแก้วน่ารักมากนะคะ ใส่ใจคนแก่ด้วย” ป้ามดเอ่ยชมจอมทัพ “คุณแก้วโชคดีเหลือเกินที่มีสามีดีแบบนี้”ศรัยญายิ้มบาง เธอไม่บอกความจริงให้นางดมรับรู้เกี่ยวกับเรื่องการแต่งงานของตนกับจอมทัพ หากนางมดรู้ นางจะไม่พูดประโยคนี้ออกมา ทว่าเป็นเธอเองที่วันนี้กลับพบอีกด้านหนึ่งของจอมทัพที่เธอไม่เคยพบเห็นมาก่อน ความเมตตา โอบอ้อมอารีย์ต่อบุคคลอื่นที่เพิ่งรู้จัก เขาใส่ใจรายละเอียดเล็กน้อยของนางมด ทั้งที่เธอกับอลงกตน่าจะมองเห็นมากกว่า เนื่องจากมาบ้านนางมดหลายครั้ง มันจึงก่อเกิดความรู้สึกดีที่มีต่อเขาโดยไม่รู้ตัวสองสามีภรรยาอยู่พูดคุยกับนางมดต่ออีกราวสี่สิบนาทีจึงขอตัวกลับ ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินออกจากบ้านนางมด เจ้าของบ้านได้อวยพรให้ชีวิตคู่ของทั้งสองจงมีแต่ความสุข พบเจอแต่เรื่องดีๆ และมีทายาทในเร็ววัน ได้รับพรเสร็จจอมทัพกับศรัญญาได้พากันเดินไปขึ้นรถ“คุณทำแบบนี้ทำไม” ทันทีที่ประตูรถปิดลง ศรัญญาเปิดฉากถามเขาทันที“ทำอะไร หมายความว่าไง” คนถูกถามย้อนถาม“ก็มารับฉันมาเยี่ยมป้ามด แล้วยังซื้อของมาให้ป้ามดอีก คุณมีแผนอะไรหรือเปล่าเนี่ย”“เธอคิดมากไปหรือเปล่า ฉันจะมีแผนอะไรล่ะ ฉันก็แค่สงสารป้ามดเท่าน

  • วิวาห์พยศใจ   Chapter 73

    Chapter 73“มารับไปเยี่ยมป้ามด” เธอทวนคำ ใบหน้าเสมือนมีเครื่องหมายคำถามติดอยู่“ต้าร์บอกฉันเองว่า นัดเธอไปเยี่ยมป้ามด แต่เผอิญว่าต้าร์ติดธุระด่วน ฉันก็เลยอาสาทำหน้าที่แทนต้าร์ พาเธอไปเยี่ยมป้ามดไงล่ะ”จอมทัพตอบโดยที่เธอไม่ต้องถาม เพราะมองหน้าศรัญญาก็พอจะเดาออกว่า เธอคงสงสัยว่าเขารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร“คงไม่ต้องลำบากคุณหรอกค่ะ ฉันไปเองได้” เธอกลับปฏิเสธ ทำท่าหมางเมินใส่ “เพราะฉันไม่อยากเมื่อยปากบอกทางคุณ”“คงไม่ได้หรอก เพราะฉันซื้อของไปฝากป้ามดตั้งเยอะแยะ ถึงเธอไม่ให้ฉันไปด้วย ฉันก็ต้องไปเยี่ยมป้ามดอยู่ดี ไหนๆ เราก็มีจุดประสงค์เดียวกันแล้วก็ไปด้วยกันเลยนี่แหละ “ส่วนเรื่องบอกทาง เธอไม่จำเป็นต้องบอกเพราะฉันไปถูก” จอมทัพสรุป “ไหนของที่เธอจะเอาไปฝากป้ามดล่ะ ฉันจะได้เอาไปขึ้นรถ”ศรัญญาฉงนกับคำพูดของจอมทัพที่ว่า รู้จักทางไปบ้านป้ามด เขารู้จักได้อย่างไร หรือว่าเคยไปบ้านหลังนั้น ทว่าคำถามที่ตนสงสัยยังไม่ทันได้ถามออกไป เสียงของมะนาวได้ดังแทรกกลางป้อง“อยู่นี่คะ มะนาวถือออกมาให้แล้ว”มะนาวที่จัดการทุกอย่างตามเจ้านายสั่ง เดินถือถุงทั้งหมดออกจากห้องทำขนม คราแรกตั้งใจว่าจะเอาไปวางตรงเคาน์เตอร์ แต่

  • วิวาห์พยศใจ   Chapter 72

    Chapter 72หลังจากมื้อเช้าผ่านพ้นไป สกาวใจมานั่งรอหลานสะใภ้ในห้องนั่งเล่น แน่นอนว่าจะต้องมีธนวรร​ณ ธนพรและประนอมนั่งรออยู่ด้วย ไม่นานเกินรอ ศรัญญาก็เดินเข้ามาในห้องดังกล่าว พร้อมกับกะละมังแช่เท้า“แช่เท้าค่ะคุณท่าน” ศรัญญาทำอย่างเช่นทุกวัน เะอยกเท้าของสกาวใจมาวางในกะละมัง จากนั้นก็ใช้มือนวดเท้านางเบาๆ“วันศุกร์หน้าฉันจะไปเที่ยวหัวหิน หล่อนต้องไปด้วยนะ ไปรองมือรองเท้าฉัน นี่เป็นคำสั่ง” สกาวใจสั่งเสียงเฉียบ หลุบตามองศรัญญา “ว่าไง จะไปไหม”“ค่ะคุณท่าน” เธอรับคำไม่มีปากเสียง พอได้รับคำตอบ สกาวใจหันไปยิ้มกับผู้ร่วมแผนการ“หล่อนได้ข่าวย่าเล็กของหล่อนไหม หรือว่ามีความสุขเสียจนลืมลูกลืมหลาน”นางเอ่ยถามคำถามที่อยากรู้ไม่ต่างกับบุตรชาย ซึ่งสกาวใจคิดว่า คนที่น่าจะให้คำตอบนางได้มากที่สุดคือ ศรัญญา“ไม่ทราบค่ะ ย่าเล็กไม่ได้ติดต่อแก้วมาเลยตั้งแต่คุณปู่ออกจากโรงพยาบาลค่ะ”เธอจำเป็นต้องผิดศีลข้อสี่เพราะถูกขอร้องเอาไว้ ทำทีเป็นไม่รู้เรื่อง ทั้งที่ในความเป็นจิรง ติดต่อกับนภาพรตลอดเวลา “ย่าหล่อนนี่เก่งนะ แย่งผัวชาวบ้านได้เก่งเชียว ไม่รู้ว่าเชื้อจะทิ้งแถวหรือเปล่า” สกาวใจไม่วายว่ากระทบ ศรัญญานิ่งไม่โต้ต

  • วิวาห์พยศใจ   Chapter 71

    Chapter 71 คืนนี้เป็นคืนที่น่าแปลกอีกคืนหนึ่งของเขา ปกติแล้ววาจาของเธอแต่ละคำ แต่ละประดยคจะนำความไม่พอใจมาให้เขาเสมอ ทว่าคืนนี้ทุกคำพูดของเธอ จอมทัพรู้สึกนิ่งเฉย ไม่มีความไม่พอใจแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามกลับยืนฟังโดยไม่โต้เถียง คล้ายกับว่ายอมเธออย่างไหนอย่างนั้น หรืออาจเป็นเพราะ เขาเป็นฝ่ายผิด จึงยอมรับทุกการกระทำของเธอ หรืออีกเหตุผลหนึ่งที่เริ่มขยายตัวในหัวใจ อีกด้านหนึ่งของเมืองหลวง สองร่างเปลือยเปล่าบนเตียง กำลังห่ำหั่นกันด้วยบทพิศวาสอันเร่าร้อน ฝ่ายหญิงยกสะโพกรับแรงกำลังของฝ่ายชายที่โหมใส่เธออย่างไม่คิดออมแรง จนเกิดเสียงเนื้อกระทบเนื้อ และเธอไม่รู้สึกเจ็บปวดจากการถูกมือใหญ่ขยำทรวงอกจนแทบแหลกคามือ ตรงกันข้าม เธอกลับพอใจกับบทรักถึงอกถึงใจของเขา ฟังได้จากเสียงครางกระเส่าดังไม่หยุด คำขอร้องให้เขาออกแรงให้มากขึ้น เพื่อพาตนไปสู่สวรรค์ชั้นฟ้า “พี่นอต...สุดยอดไปเลยค่ะ”เสียงหอบเหนื่อยของธนัสสรณ์เอ่ยชมเนวิน คู่ขาคนล่าสุดที่ทำให้เธอรู้สึกถึงความสุขแบบที่ไม่เคยพบพานมาก่อน สุขและอิ่มเอม ถึงขั้นติดอกติดใจจนถอนตัวไม่ขึ้น“หวานเองก็ใช่ย่อย

  • วิวาห์พยศใจ   Chapter 70

    Chapter 70 “ไม่มีปัญหา ย่าจัดการได้” “หวานต้องรบกวนคุณย่าเรื่องนึงค่ะ คือว่า หวานตกลงกับคนที่หวานจ้างว่า จะต้องจ่ายเงินให้เขาก่อนครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งเมื่องานเสร็จค่ะ ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่ทำงานให้ค่ะ” ธนัสสรณ์เข้าแผนสำคัญ “เท่าไหร่ล่ะหวาน เดี๋ยวย่าไปหยิบมาให้” “ค่าจ้างสองแสนค่ะ ครึ่งหนึ่งก็หนึ่งแสนบาท” สกาวใจไม่ยี่หระกับจำนวนเงินที่ได้ยิน นางลุกขึ้นไปหยิบเงินสดจากตู้เซฟออกมา ก่อนจะยื่นให้ธนัสสรณ์ “ย่าให้หวานสามแสนนะ แสนนึงให้คนที่หวานจ้างมาทำงาน ส่วนอีกสองแสนหวานเอาไว้ใช้จ่ายล่ะกัน”ธนวรรณกับธนพรถึงกับตาโตเมื่อเห็นเงินในมือของสกาวใจ คนเป็นแม่สะกิดแขนบุตรสาวให้รับเงินก้อนนั้นไว้ ทว่าธนัสสรณ์กลับไม่ทำตามนั้น เพราะเธอคิดว่า จะต้องออกตัวบ้างอะไรบ้าง“หวานคงไม่รบกวนคุณย่าค่ะ แค่นี้ก็รบกวนจะแย่”“รบกวนที่ไหนกันล่ะ ย่าเต็มใจให้ ย่าเป็นคนบอกให้หวานมาเมืองไทย ย่าก็ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของหวานสิ มันถึงจะถูก รับไปเถอะนะลูก ย่าเต็มใจให้จริงๆ”“หวานขอบคุณในความมีเมตตาของคุณย่ามากค่ะ” ธนัสสรณ์พนมมือไหว้เจ้าของเงินอย่างนอบ

  • วิวาห์พยศใจ   Chapter 69

    Chapter 69 “คุณจิมคะ หลินมีเรื่องจะพูดกับคุณค่ะ” เมื่อเข้าใจเรื่องชุดวิวาห์ เธอก็เข้าเรื่องสำคัญที่ตั้งใจไว้ “เรื่องอะไร” “เรื่องการแต่งงานของเราค่ะ” คนที่กำลังขับรถออกจากจุดที่จอด เปลี่ยนเป็นหยุดนิ่งอยู่ที่เดิม แล้วหันมามองหน้าคู่สนทนา “ทำไม เรื่องงานแต่งงานของเรามันทำไมเหรอ” “ก็งานแต่งงานของเราไม่ได้เกิดขึ้นจากความเต็มใจน่ะสิ คุณยอมแต่งงานกับหลินก็เพราะไม่อยากให้คุณท่านอาการกำเริบ ซึ่งมันก็ตรงกับเหตุผลที่หลินยอม หลินก็เลยจะตกลงทำความเข้าใจกับคุณจิมว่า เราแต่งงานกันแค่เพียงในนามและไม่มีการจดทะเบียนสมรส อยู่กินเหมือนผัวเมียทั่วไปตบตาคุณท่าน เมื่อมีโอกาสและจังหวะดีๆ เราก็เลิกกัน”น้ำเสียงท้ายประโยคของเธอค่อนข้างเบา และเจ้าของเสียงเกิดใจสั่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ไม่กล้าหันไปสบตาศตวรรษ ไพลินจึงไม่รู้ว่า เวลานี้ใบหน้าเขาเรียบตึงมากแค่ไหน “แล้วเธอรู้ได้ยังไงว่าฉันไม่เต็มใจแต่งงาน” เขาหันมาถามเสียงเรียบเย็น “เธอจะรู้ดีกว่าตัวฉันได้ไงหรือว่าเป็นหมอดูถึงได้รู้ดีไปซะทุกอย่าง” ไพลินได้ยินน้ำเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status