Share

บทที่ 1 ลูกชัง 100%

last update Last Updated: 2025-11-05 16:21:59

“ไม่รู้ละ พี่ให้ทนายจัดการแล้ว” 

เป็นอันสิ้นสุดการสนทนา เมื่อร่างตรงหน้าจากไปพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นเช่นเดิม

วาคินนิ่งเงียบ ไม่ยินดีรับในสิ่งที่อีกฝ่ายพยายามยัดเยียดให้ เพราะมันก็เหมือนของร้อน อยู่ในมือใครก็รังแต่จะทำให้ทุกข์ทั้งกายทั้งใจมากกว่าความสุข ทว่าชายหนุ่มก็ไม่อาจปฏิเสธพี่ชายจึงทำได้เพียงยินยอมรับมันมาถือเอาไว้ แล้วค่อยส่งคืนให้ ‘เจ้าของ’ ในเวลาที่เหมาะสม

อย่างไรเสียวันข้างหน้า ‘ลูกชัง’ ที่ไม่เคยได้รับการยอมรับอย่างเขาก็คงต้องไป…

“โง่!” เสียงตวาดแว้ดที่ดังมาจากห้องรับแขกทำให้ทุกคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาทำงานสะดุ้ง ก่อนเหลือบมองตากันแล้วก้มหน้าทำงานต่อไป

“โง่แบบนี่ไงถึงเป็นได้แค่ขี้ข้า!” คำบริภาษยังคงดังต่อเนื่อง จนคนที่นั่งนิ่งบนรถเข็นขยับกาย หากก็ทำได้เพียงเล็กน้อย เมื่อร่างกายป่วยไข้ไม่เอื้ออำนวยให้สามารถปกป้องบุตรสาวคนโตได้

เพียะ!

ฝ่ามือเรียวฟาดลงบนแก้มขาวเนียนเต็มแรง ดวงตาเฉี่ยวคมที่แต่งแต้มเด่นชัดขึงตามอง นิ้วชี้เรียวยาวจิ้มลงบนหน้าผากเกลี้ยงเกลา ก่อนตะเบ็งเสียงด่าทอหนักขึ้น

“คนอย่างแก ถ้าไม่เป็นคนใช้ก็คงต้องเป็นโสเภนีเหมือนแม่ของแก ไร้ค่า!” คำหยามเหยียดเหล่านี้หากเป็นเมื่อก่อน ‘กลอยใจ’ คงเจ็บปวดกับมันบ้าง ทว่าทุกวันนี้หล่อนชาชินกับทุกอย่างเสียแล้ว เคยกรุ่นโกรธที่ ‘แม่เลี้ยง’ มักด่าทอไปถึงมารดาที่จากไป ทว่าพอนานวันเข้าก็ข่มใจได้ กักเก็บความเสียใจเอาไว้ข้างใน เพื่อรอเวลา…

สักวัน หล่อนให้สัญญากับตนเอง และสาบานต่อหน้าอัฐิของมารดา

เมื่อถึงเวลาหล่อนจะไปจากที่นี่ จากขุมนรกบนดินที่คนซึ่งเรียกตนเองว่าผู้ดีสร้างมันขึ้นมาจากสองมือ

หญิงสาวเป็นบุตรสาวคนโตของครอบครัว หากในความเป็นจริง หล่อนเป็นได้เพียงลูกเมียน้อย แม้มารดาจะเป็นภรรยาคนแรก หากก็เป็นเพียงภรรยาทางพฤตินัย ไม่ได้รับการยอมรับจากผู้ใหญ่ ไม่นานหลังจากคลอดหล่อน ท่านก็สิ้นใจเพราะตรอมตรม หลังจากสามีต้องแต่งงานกับลูกสาวมหาเศรษฐีที่ครอบครัวจัดหามาให้

กลอยใจกลายเป็นเด็กที่ ‘ขาด’ ไม่ใช่ครอบครัว แต่คือความเป็นคน…

ทุกคนในบ้านวรโชติพงศ์เห็นเธอเพียงฝุ่นผง เป็นตำหนิ เป็นความอัปยศอดสูที่ต้องแบกรับ หลายปีก่อนหล่อนเคยอยากไปจากที่นี่ เก็บข้าวของพร้อมหอบหิ้วความเสียใจเตรียมจากไป ทว่าเพียงขยับขา ยังไม่ทันพ้นประตู ข่าวร้ายก็เดินทางมาถึง บิดาเส้นเลือดในสมองแตก เป็นอัมพาตซีกซ้าย เดินไม่ได้ ต้องเป็นผู้ป่วยติดเตียง ความหวังอันริบหรี่ที่จะหนีไปตายเอาดาบหน้ามีอันต้องพับเก็บ เมื่อความเป็นคนดีของหล่อนชักนำให้ลูกสาวคนโตกลับมาทำหน้าที่ของตน

“เก็บกวาด แล้วพาพ่อของแกกลับเข้าไปนอนในห้องของตัวเองให้เรียบร้อย ถ้าฉันกับลูกวินนี่กลับมายังไม่เรียบร้อย แกเจอดีแน่!” ใบหน้าสะสวยที่แต่งแต้มมาอย่างดีบิดเบ้ เมื่อมองเลยไปยังสามีซึ่งนอนเป็นผักสร้างความลำบากให้ตน ก่อนหันกลับมองจ้องลูกเมียน้อยซึ่งเป็นหนามทิ่มใจอีกครั้ง ใช้นิ้วชี้จิ้มลงไปบนหน้าผากเกลี้ยงเกลาของอีกฝ่ายแรงๆ พร้อมคำผรุสวาทรุนแรง

“สาระแนดีนัก แล้วอย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกลูกสาวฉันนะ ไม่งั้นฉันเอาแกตาย!” 

กวินตราอาจไม่พอใจที่มารดาปฏิบัติต่อบิดาไม่ดี หากกับหล่อน ผู้เป็นลูกเมียน้อยคงไม่ระคายใจคนเป็นน้องอย่างแน่นอน

“กลอยไม่กล้าหรอกค่ะ”

“ดี!” น้ำเสียงสะบัดตอบกลับทันที ก่อนบิดปากคว่ำแล้วก้าวข้ามร่างบางซึ่งนั่งพับเพียบบนพื้นไปอย่างหยามเหยียด

กลอยใจกำมือที่วางบนตักแน่น กัดริมฝีปากล่างจนเลือดซิบ ไม่ตอบโต้ หากกักเก็บทุกอย่างเอาไว้ในใจ

หล่อนเชื่อเสมอว่า… การแก้แค้นที่ดีที่สุดคือการทำชีวิตให้ดีขึ้น 

ทุกคืนก่อนหลับตา หล่อนจะภาวนาให้วันนั้นมาถึงเร็วๆ วันที่จะได้เป็นอิสระ โบยบินไปจากบ้านหลังนี้ แม้จะดูเป็นลูกเนรคุณในสายตาใครต่อใคร หากโอกาสครั้งที่สองมาถึง หล่อนจะไม่ลังเลอีกแล้ว

“พ่อแกเคยให้อะไรแกบ้าง นอกจากเศษเงินกับเศษความรักที่นานๆ ครั้งจะมาถึง ฉันจำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่พ่อแกให้อะไรสักอย่างคือวันเกิดตอนแกอายุ 22 มันเป็นปากกาด้ามไม่กี่ร้อยเองไม่ใช่เหรอ แถมตอนรับปริญญา ฉันไม่เห็นพ่อที่แกรักนักรักหนาจะแวะมาแสดงความยินดีอะไรเลย แกควรต้องรู้นะกลอยว่าที่ผ่านมา แกมีชีวิตอยู่ได้เพราะตัวเอง” 

คำพูดของขนิษฐายังดังชัดในความรู้สึกของเธอ กลอยใจเคยอยากเถียงกลับ หากก็สรรหาคำพูดยกย่องผู้ให้กำเนิดไม่ได้สักข้อ

ที่ผ่านมาหล่อนอยู่ได้ด้วยตนเองจริงๆ

นอกจากนามสกุลแล้ว บิดาก็ไม่เคยให้สิ่งใดกับบุตรสาวคนโตคนนี้เลย…

“ถ้ามีโอกาสอีกครั้ง แค่ครั้งเดียว แกต้องออกมานะ” 

ออกจากขุมนรกที่ทรมานเธอมาทั้งชีวิต

กลอยใจพยักหน้าตอบเพื่อนรัก ยืนยันหนักแน่นให้เพื่อเชื่อมั่นใจการตัดสินใจ

“ขอแค่มีโอกาสอีกครั้ง ฉันจะไม่ลังเลอีกแล้ว” 

แม้การไปครั้งนี้ อาจถูกตราหน้าว่าลูกเนรคุณ! 

ทว่า 5 ปีที่ผ่านมา กลอยใจคิดว่าตนเองทำหน้าที่ของลูกถึงที่สุดแล้ว หล่อนไม่ได้ทำงาน หลังเรียนจบก็ต้องทำหน้าที่ดูแลปรนนิบัติบิดาที่นอนติดเตียงเพียงคนเดียว โอกาสในชีวิตของหล่อนสูญเสียไปหลายอย่าง รวมทั้ง… ความรัก

ผู้ชายคนเดียวที่มีใจให้ และเฝ้าแอบมอง ยามอีกฝ่ายมาเที่ยวเล่นที่บ้านหลังใหญ่ตั้งแต่จำความได้คือแรงใจให้อยากมีชีวิตที่ดีกว่าวันนี้ ทว่า… ความรักข้างเดียวแสนเพ้อฝันต้องจบลงเมื่อข่าวสำคัญมาถึง

“ลูกวินนี่ของฉันจะแต่งงานกับมาวิน ลูกชายของคุณหญิงวารีเดือนหน้า แกเตรียมตัวให้ดี วันนั้นฉันจะต้องไม่ได้เห็นแกกับพ่อของแกในงาน!” 

หัวใจที่ยังเต้นได้เพราะผู้ชายที่ชื่อ มาวิน เลิศวรานนท์ หยุดเต้นทันที คำพูดของเพื่อนรักผุดวาบเข้ามาในหัวอีกครั้งพร้อมใบหน้าประดับรอยยิ้มอบอุ่นอ่อนโยนของชายในดวงใจ

“สักวันแม่คุณวินก็คงจับเขาแต่งกับยัยวินนี่ สองตระกูลนี้อยากเกี่ยวดองกันใจจะขาด ใครๆ ก็รู้ แถมยัยวินนี่ยังเพอร์เฟคขนาดนั้น เป็นผู้กอบกู้ VP Enterprise บริหารงานด้วยตัวเองจะพาบริษัทของบิดากลับมารุ่งเรือง ในขณะที่แกมีตัวตนในสายตาเขาบ้างไหมก็ยังไม่รู้ ตื่นเถอะกลอย ถึงเวลาต้องยอมรับความจริง แกกับเขาไม่ใช่คู่กัน หรือต่อให้เขาเห็นแกเป็นมนุษย์คนหนึ่งจริงๆ แกคิดว่าคุณหญิงวารีผู้ดีเก่าที่ถือศักดิ์ศรียิ่งชีวิตจะยอมรับสะใภ้ที่ได้ชื่อว่าลูกนอกสมรสเหรอ นอกจากไม่ยอมรับ อาจทำกับแกยิ่งกว่าคนบ้านนี้อีกนะ” 

ขนิษฐาไม่ได้พูดเกินไป และไม่ได้พูดเพื่อทำร้ายจิตใจเธอ แต่เพื่อนต้องการให้เธอคิดได้

“เห็นไหม ฉันบอกแกแล้ว ตัดใจเถอะกลอย ถึงเวลาที่ต้องกลับมาเดินตามเส้นทางของเรา ดูแลตัว และหัวใจของตัวเองให้ดี เชื่อฉันนะ” 

ขนิษฐาไม่ได้ซ้ำเติม แต่มักปลอบโยนด้วยความจริงเสมอ หากเป็นคนอื่นคงชิงชังในตัวเพื่อนรัก แต่สำหรับคนที่คบหากันมานาน กลับเป็นคำเตือนที่เรียกสติได้ดี

“เมื่อถึงเวลา ฉันจะเดินออกมาด้วยสองขาของตัวเอง แกไม่ต้องห่วง” 

แม้จะอาศัย และมีชื่อในทะเบียนบ้าน กลอยใจกลับถูกกันให้ออกจากวงสังคมชั้นสูง หล่อนถูกมองเป็นเพียงเด็กรับใช้ในสายตาของเหล่าคุณหญิงคุณนาย เพื่อนฝูงของกวินตรา เมื่อก่อนหล่อนเคยเสียใจ และเจ็บปวด แต่ผ่านไปไม่นาน มันกลายเป็นความชาชิน ทว่าหล่อนก็ไม่เคยอยากอยู่ในนั้น ไม่ได้อยากเป็นคนชนชั้นสูง ไฮโซหรือคนมีชื่อเสียงอันจอมปลอมที่มักสวมหน้ากากเข้าหากัน 

“คุณหนู” เสียงเอื้ออาทรพร้อมใบหน้าเหี่ยวย่นของหญิงรับใช้เก่าแก่ทำให้กลอยใจต้องหันมอง หญิงสาวปาดน้ำตาบนแก้ม คลี่ยิ้มยากลำบากให้หญิงชราแล้วขานตอบ

“มีอะไรหรือคะนมอุ่น” แม่นมสูงวัยคลานเข้ามาใกล้ รวบร่างบางของคนที่ตนเองชุบเลี้ยงมากับมือเอาไว้แน่น เวทนา สงสารจับหัวใจ หากก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากโอบกอด ปลอบโยนเช่นนี้เรื่อยไป

กลอยใจรับอ้อมกอดอบอุ่นพร้อมกอดตอบ ไม่ได้ร้องไห้โฮเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว เพียงสะอื้นเบาๆ ยามได้รับอ้อมกอดแนบแน่นเท่านั้น หมดสิ้นแล้วความเสียใจที่กัดกินอกข้างซ้ายจนยับเยิน ที่มีอยู่ตอนนี้เป็นเพียงความด้านชา

“อืออื้อ” เสียงครางอืออาในลำคอจากคนที่มองมาอย่างไร้เรี่ยวทำให้ร่างสองร่างที่กอดกันแน่นผละออก มองตามต้นเสียงไป ก่อนยิ้มบางๆ 

บิดามีสีหน้าซีดเผือด มองตาเธอทั้งน้ำตา ทว่ากลอยใจไม่มีความรักหรือความเกลียดชังให้บิดาอีกแล้ว หล่อนคล้ายคนปลงตก ละวางทุกอย่างลง หลังจากผ่านมา 5 ปีกับการทำหน้าที่ลูกของท่าน อดีตหัวใจดวงน้อยเคยชิงชังความเห็นแก่ตัวของผู้ให้กำเนิด เคียดแค้นทุกคนที่มีส่วนให้มารดาต้องตรอมใจตาย ทว่าเมื่อนานวันเข้า ความรู้สึกเหล่านั้นมันกลายเป็น ‘ความด้านชา’ กับทุกสิ่งอย่างที่ประเดประดังเข้ามา หญิงสาวเลือกทำใจให้ชิน ปฏิบัติตาม ไม่โต้แย้งใดๆ ให้สถานการณ์แย่ลง

หล่อนไม่ปรารถนาสิ่งใดในบ้านหลังนี้อีกแล้ว แม้กระทั่งความเป็นคน มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่ยังเป็นเป้าหมายสุดท้ายในชีวิตก็คือ… อิสระ

สักวันหนึ่ง… แม้ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะถึงวันนั้น หล่อเฝ้ารอโอกาสสักครั้งในชีวิต

โอกาสที่จะมีจากไป มีชีวิตใหม่เป็นของตัวเอง…

“นมรักคุณหนูนะคะ”

ใบหน้าของหญิงสูงวัยเต็มไปด้วยความอาทรรักใคร่ยามเอ่ย

กลอยใจยิ้ม และยิ้มเลยไปยังผู้ให้กำเนิดที่มองมาทั้งน้ำตาแล้วเอ่ยตอบ

“กลอยก็รักนมกับคุณพ่อค่ะ”

ทั้งๆ ที่ความจริงในหัวใจของหล่อนไม่มีตะกอนความรู้สึกใดมอบให้ใครอีกแล้ว… แม้กระทั่งตัวเอง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • วิวาห์ใต้ตัวแทน   บทที่ 2 วิวาห์ตัวแทน 100%

    “ว่าไงคะพี่ปุ้ม” สาวใช้ประจำตัวคุณหญิงรจเรศ คลานเข่าเข้ามาใกล้ ด้วยมองเห็นคุณผู้ชายนั่งมองตาปริบๆ อยู่ไม่ไกล สาวผิวแทนป้องปาก ชะโงกหน้ากระซิบเสียงเบาให้ได้ยินกันเพียงสองคน“คุณหญิงเรียกหาค่ะ” ดวงตาหวานโศกเบิกกว้าง หันมองบิดา ก่อนหันกลับมากระซิบถาม “เรียกกลอยเหรอคะ”“ใช่ค่ะ รีบไปเถอะค่ะคุณกลอย เดี๋ยวจะโดนเอ็ดเอา พี่ดูแลคุณผู้ชายให้เอง” เพราะกลอยใจเป็นเด็กดี มีสัมมาคารวะ จะให้เกลียดชังดั่งคำบอกเล่าของเจ้านาย ปุ้มก็ทำไม่ได้ สุดท้ายก็แอบทำดีลับหลัง แถมยังคอยปกป้องหญิงสาวห่างๆ อีกด้วย“รีบไปเถอะค่ะ ไม่ต้องห่วงคุณผู้ชายนะคะ” กลอยใจลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ปฏิบัติตามคำสั่ง หญิงสาวเดินหลบเลี่ยงแขกเหรื่อในงาน ลอบเข้ามาทางห้องครัว ก่อนเลยเข้าไปยังตัวบ้าน มองเห็นพี่นุ่น คนรับใช้อีกคนกวักมือเรียกก็เร่งฝีเท้า“ไปค่ะ คุณหญิงกับคุณหนูวินนี่รออยู่ในห้องค่ะ” ข้อมือเล็กถูกจับจูงเดินตามไป กลอยใจเดินเงียบๆ ตามหลังนุ่นมาจนถึงห้องนอนแขกบนชั้นสองของบ้าน ซึ่งถูกจัดให้เป็นห้องแต่งตัวสำหรับเจ้าสาวในงานวันนี้แอ๊ด “คุณกลอยมาแล้วค่ะคุณหญิง”คุณหญิงรจเรศหันขวับมามอง ดวงตาเฉี่ยวคมคู่เดิมวาวโรจน์ระคนหวั่นว

  • วิวาห์ใต้ตัวแทน   บทที่ 2 วิวาห์ตัวแทน 50%

    บทที่ 2 วิวาห์ตัวแทนข่าวงานแต่งงานระหว่างกวินตรากับมาวินขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ธุรกิจแทบทุกฉบับในเช้าวันนี้ ข่าวใหญ่ในวงการธุรกิจที่คนในวงการต่างตื่นตัว เพราะไม่ใช่เพียงการควบรวมธุรกิจ ยังแสดงออกชัดเจนถึงอำนาจสองขั้วกำลังผนึกเข้าหากันจนยากจะต่อกร ทุกอย่างถูกจัดเตรียมเอาไว้อย่างดี โรงแรมห้าดาวของเลิศวรานนท์ถูกเลือกให้เป็นสถานที่จัดงานช่วงเย็น ช่วงเช้ามีพิธีรดน้ำสังข์ และพิธีสงฆ์ที่บ้านของเจ้าสาว คุณหญิงรจเรศแจ้งแก่เลิศวรานนท์ว่าบิดาของกวินตราอาการทรุดไม่อาจมาร่วมยินดีกับบุตรสาวในงานได้ คุณหญิงวารีแอบทักท้วง เอ่ยปากเรื่องการเลื่อนงานแต่งออกไปก่อน ทว่าคนที่ตั้งตารอวันนั้นมาตลอดปฏิเสธเป็นพัลวัน“โอ้ย คุณหญิงวารีอย่ากังวลค่ะ คุณชินกรน่ะ ดีใจมากกว่าลูกสาวอีกค่ะ ที่ว่าอาการทรุดคือตอบสนองมากไม่ได้ ไม่ถึงขั้นร้ายแรงอะไรค่ะ” ไม่ร้ายแรงหรือ… กลอยใจลอบส่ายหน้าเมื่อได้ยินตั้งแต่วันที่มารดาของกวินตราไปอาละวาดที่บ้านเล็ก เพราะขัดใจที่หล่อนพาบิดานั่งวิลแชร์ออกไปรับลมที่สวน ผู้ให้กำเนิดก็อาการทรุด ทานข้าวไม่ได้ อ่อนเพลีย มีอาการตรอมใจอย่างเห็นได้ชัด หากกลอยใจก็เลือกจะเงียบ เพียงวางแก้วน้ำผลไม้คั่

  • วิวาห์ใต้ตัวแทน   บทที่ 1 ลูกชัง 100%

    “ไม่รู้ละ พี่ให้ทนายจัดการแล้ว” เป็นอันสิ้นสุดการสนทนา เมื่อร่างตรงหน้าจากไปพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นเช่นเดิมวาคินนิ่งเงียบ ไม่ยินดีรับในสิ่งที่อีกฝ่ายพยายามยัดเยียดให้ เพราะมันก็เหมือนของร้อน อยู่ในมือใครก็รังแต่จะทำให้ทุกข์ทั้งกายทั้งใจมากกว่าความสุข ทว่าชายหนุ่มก็ไม่อาจปฏิเสธพี่ชายจึงทำได้เพียงยินยอมรับมันมาถือเอาไว้ แล้วค่อยส่งคืนให้ ‘เจ้าของ’ ในเวลาที่เหมาะสมอย่างไรเสียวันข้างหน้า ‘ลูกชัง’ ที่ไม่เคยได้รับการยอมรับอย่างเขาก็คงต้องไป…“โง่!” เสียงตวาดแว้ดที่ดังมาจากห้องรับแขกทำให้ทุกคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาทำงานสะดุ้ง ก่อนเหลือบมองตากันแล้วก้มหน้าทำงานต่อไป“โง่แบบนี่ไงถึงเป็นได้แค่ขี้ข้า!” คำบริภาษยังคงดังต่อเนื่อง จนคนที่นั่งนิ่งบนรถเข็นขยับกาย หากก็ทำได้เพียงเล็กน้อย เมื่อร่างกายป่วยไข้ไม่เอื้ออำนวยให้สามารถปกป้องบุตรสาวคนโตได้เพียะ!ฝ่ามือเรียวฟาดลงบนแก้มขาวเนียนเต็มแรง ดวงตาเฉี่ยวคมที่แต่งแต้มเด่นชัดขึงตามอง นิ้วชี้เรียวยาวจิ้มลงบนหน้าผากเกลี้ยงเกลา ก่อนตะเบ็งเสียงด่าทอหนักขึ้น“คนอย่างแก ถ้าไม่เป็นคนใช้ก็คงต้องเป็นโสเภนีเหมือนแม่ของแก ไร้ค่า!” คำหยามเหยียดเหล่านี้หากเป็นเมื่อก่อน

  • วิวาห์ใต้ตัวแทน   บทที่ 1 ลูกชัง 50%

    บทที่ 1 ลูกชัง“วินลูก ชอบชุดที่แม่ซื้อให้ลูกไหมครับ” เสียงอ่อนเสียงหวานของมารดาที่ดังมาจากห้องรับแขกของบ้าน ทำให้ร่างสูงของคนที่กำลังเดินเข้าบ้านชะงัก ‘วาคิน’ แค่นยิ้ม ก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยสองขาที่มั่นคงกว่าเดิม ทว่าจังหวะที่กำลังจะเลยผ่านเรื่องน่ารำคาญนั้นไป เสียงร้องทักของพี่ชายก็ดังขึ้นก่อน“กลับมาแล้วเหรอวา” ชายหนุ่มชะงักอีกครั้ง ถอนหายใจ หันกลับไปพยักหน้าตอบ แววตาไหวระริกยามเหลือบมองเห็นใครอีกคนที่นั่งเคียงข้างพี่ชายร่างซึ่งสูงน้อยกว่าเขาไม่กี่เซนติเมตรนั่งทำหน้าเบื่อหน่ายข้างกายสตรีสูงวัยใบหน้างดงามค่อยเผยยิ้มออกมา ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง สาวเท้าเข้ามาใกล้ แล้วจับดึงแขนของเขาไปนั่งลงข้างกายวาคินไม่ได้ขัดขืน หากก็ไม่ได้เต็มใจเสียทีเดียว ร่างสูงกว่าพี่ชายหลายเซนติเมตร เพราะมีเชื้อสายทางฝั่งยุโรปตามบิดาทิ้งกายลงนั่งข้างพี่ชายด้วยความจำยอม หากหางตาของคนที่ไม่แสดงสีหน้ากลับยังจับจ้องมองสตรีสูงวัยซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน“มาช่วยพี่เลือกชุดเจ้าบ่าวหน่อย” พี่ชายเอ่ยด้วยรอยยิ้มพลางส่งอัลบั้มรูปชุดเจ้าบ่าวสองสามเล่มให้เขา วาคินรับเอามาไว้เงียบๆ ไม่เปิดดู หากก็ไม่ได้เอ่ยปฏิเสธ ทว่า… สตรีสูงศัก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status