เช้าวันรุ่งขึ้น ณ พื้นที่จัดงานแฟร์นวัตกรรม ความตึงเครียดจากเหตุการณ์เมื่อวานยังคงอบอวลอยู่ระหว่างภาคภูมิและปรายฟ้า แม้ว่าทั้งคู่จะทำเป็นมองไม่เห็นกัน แต่ก็รับรู้ถึงการมีอยู่ของอีกฝ่ายตลอดเวลา บรรยากาศรอบตัวราวกับมีกำแพงน้ำแข็งกั้นกลางที่มองไม่เห็นแต่สัมผัสได้
วันนี้เป็นวันสำคัญของการขึ้นโครงสร้างหลักของบูธต่างๆ และทีมของภาคภูมิกำลังสาละวนอยู่กับการประกอบแผงเหล็กขนาดใหญ่ด้วยความแม่นยำ ทุกสกรูถูกขันอย่างแน่นหนา ทุกข้อต่อถูกตรวจสอบอย่างละเอียด ราวกับกำลังสร้างสะพานแขวนขนาดยักษ์ที่ต้องรองรับน้ำหนักมหาศาล
“ตรวจสอบระยะห่างของจุดยึดให้เป๊ะนะครับ หากคลาดเคลื่อนเพียงเล็กน้อยจะส่งผลต่อความแข็งแรงโดยรวม” ภาคภูมิสั่งเพื่อนร่วมทีมด้วยน้ำเสียงจริงจังพร้อมกับกวาดมองไปรอบ ๆ เขาในแว่นสายตากรอบเหล็กที่ดูเรียบแต่เข้ากับใบหน้าคมๆ ได้เป็นอย่างดี กำลังถือแบบแปลนขนาดใหญ่และวัดระยะอย่างพิถีพิถัน
ในขณะเดียวกัน ทีมของปรายฟ้าก็เริ่มนำอุปกรณ์ตกแต่งขนาดใหญ่เข้ามาในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นจอ LED ขนาดมหึมา แผงไฟนีออนรูปทรงแปลกตา และแผ่นอะคริลิกสีรุ้งยักษ์สำหรับตกแต่งด้านหน้าบูธ เสียงหัวเราะของพวกเธอดังสลับกับเสียงเพลงที่เปิดคลอเบาๆ สร้างความขัดแย้งทางอารมณ์กับความเคร่งขรึมของฝั่งวิศวะอย่างสิ้นเชิงราวกับทั้งสองโลกหมุนอยู่คนละแกนอย่างไม่เคยมาบรรจบกัน
“ปรายๆ ดูนี่สิ ถ้าเราติดแผ่นอะคริลิกรูปก้อนเมฆตรงนี้เพิ่มเข้าไปอีกนิด รับรองได้ว่าบูธเราจะดูเหมือนอยู่บนสวรรค์เลยนะ” กัสพูดอย่างตื่นเต้น ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้มกว้าง
“จริงด้วยกัส! เยี่ยมไปเลย แล้วตรงนี้เราจะยิงโปรเจกเตอร์เป็นรูปดาวเคราะห์น้อย ให้เหมือนลอยได้” ปรายฟ้าเสริมด้วยแววตาเป็นประกายจินตนาการของเธอโลดแล่นไม่หยุด
ภาคภูมิได้ยินบทสนทนาเหล่านั้น ก็อดถอนหายใจในใจไม่ได้ เสียงลมหายใจหนักๆ ของเขาเล็ดลอดออกมาเบาๆ
“สวรรค์อะไรกัน นั่นมันงานนะ ไม่ใช่โลกนิทาน” เขาคิดพลางส่ายหัวอย่างระอา
ไม่นาน ความขัดแย้งเรื่องการจัดวางก็ปะทุขึ้นอีกครั้ง
“ภูมิคือว่าจอ LED ขนาด 5 เมตรที่เราสั่งมามันใหญ่มากนะ มันจำเป็นต้องติดตรงผนังบูธด้านในสุด เพื่อให้ได้มุมมองที่สมบูรณ์ที่สุด” ปรายฟ้าเดินเข้ามาหาภาคภูมิพร้อมกับช่างติดตั้งที่กำลังลังเล ใบหน้าสวยเรียบเฉยแต่แววตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
ภาคภูมิเงยหน้าขึ้นจากแบบแปลน ถอดแว่นออกเช็ดช้า ๆ คล้ายจะถ่วงเวลาเล็กน้อย
“แต่จุดนั้นคือตำแหน่งของแผงควบคุมระบบไฟฟ้าหลัก และโครงสร้างไม่สามารถรับน้ำหนักจอขนาดนั้นได้หากไม่มีการเสริมแรงเพิ่มเติม”
“ก็เสริมแรงสิ มันไม่ใช่เรื่องยากเลยนี่นา” ปรายฟ้าตอบอย่างรวดเร็วด้วยน้ำเสียงไม่ยอมแพ้
“ถ้าไม่ติดตรงนั้น ผู้เข้าชมจะเห็นไม่ชัดนะ”
“การเสริมแรงต้องใช้เวลาในการออกแบบและติดตั้งโครงสร้างใหม่ ซึ่งจะทำให้งานล่าช้าไปอย่างน้อยสามวัน และใช้งบประมาณเพิ่มอีกหลายหมื่นบาท" ภาคภูมิอธิบายอย่างใจเย็นแต่หนักแน่น เขาสวมแว่นกลับเข้าที่ ใบหน้ากลับมานิ่งเรียบ
“ทางเราเน้นประสิทธิภาพและการควบคุมงบประมาณ”
“คุณก็เอาแต่ประสิทธิภาพกับงบประมาณทุกอย่างต้องเป็นไปตามหลักการของคุณคนเดียว แล้วความสวยงาม ความดึงดูดใจไปอยู่ตรงไหนคะ! ถ้าไม่มีใครอยากเข้าบูธ นวัตกรรมที่คุณภาคภูมิภูมิใจนักหนามันก็ไร้ค่า” ปรายฟ้าเริ่มเสียงสูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความหงุดหงิด มือเรียวกำเข้าหากันแน่น
“นวัตกรรมมีคุณค่าในตัวของมัน ไม่ต้องใช้แสงสีเสียงฉาบฉวยมาช่วยหรอกครับ” ภาคภูมิตอบกลับอย่างไม่ลดละ น้ำเสียงเย็นเยือกยิ่งกว่าเดิม
“มันคือหลักการพื้นฐานที่เด็กวิศวะทุกคนเข้าใจ”
“แต่ฉันไม่เข้าใจค่ะและฉันก็ไม่จำเป็นต้องเข้าใจ เพราะฉันไม่ใช่วิศวะ และฉันเชื่อว่าคนทั่วไปก็ไม่ใช่วิศวะเหมือนคุณ” ปรายฟ้าจ้องมองหน้าภาคภูมิเขม็ง พยายามควบคุมอารมณ์ไม่ให้ระเบิดออกมา
ตอนที่95ป้อนนมลูกแล้วอย่าลืมป้อนพ่อนะ (ตอนจบ) “งั้นเราไปป้อนนมพ่อกันดีกว่า”ปรายฟ้าพยักหน้าเบา ๆ ใบหน้าแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย ภาคภูมิยิ้มกว้าง ก่อนจะอุ้มปรายฟ้าขึ้นมาแล้วเดินตรงไปยังห้องนอนของทั้งคู่ห้องนอนถูกจัดแสงสลัว ๆ ด้วยโคมไฟข้างเตียง ให้บรรยากาศที่อบอุ่นและโรแมนติก ภาคภูมิวางปรายฟ้าลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา ดวงตาของเขายังคงจับจ้องอยู่ที่เธอไม่ละสายตา“วันนี้เมียสวยจังเลย” ภาคภูมิเอ่ยชมด้วยเสียงแหบพร่า พลางเลื่อนมือไปสัมผัสแก้มนวลของปรายฟ้าอย่างอ่อนโยนปรายฟ้าหลับตาพริ้มเมื่อสัมผัสได้ถึงปลายนิ้วที่ลูบไล้ไปมา เธอกระซิบตอบกลับไปว่า“ภูมิก็หล่อค่ะ”ภาคภูมิยิ้มกว้างก่อนจะโน้มตัวลงไปจูบปรายฟ้าอย่างดูดดื่ม จูบของเขาเต็มไปด้วยความรัก ความปรารถนาและความคิดถึงปรายฟ้าตอบรับจูบนั้นด้วยความเต็มใจ เธอสอดมือเข้าไปในเส้นผมของภาคภูมิแล้วดึงรั้งท้ายทอยเขาเข้ามาใกล้ เพื่อให้จูบนั้นลึกซึ้งยิ่งขึ้น ลิ้นร้อนของทั้งคู่เกี่ยวพันกันอย่างเร่าร้อน ราวกับต้องการเติมเต็มช่องว่างที่ขาดหายไปตลอดทั้งวันมือของภาคภูมิเริ่มลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของปรายฟ้า ก่อนจะเลื่อนลงไปปลดกระดุมชุดนอนผ้าซาตินที่ปรายฟ้าสวมอยู่
ตอนที่94ป้อนนมลูกแล้วอย่าลืมป้อนพ่อนะ (ตอนจบ) หกเดือนผ่านไปไวเหมือนโกหก ชีวิตของภาคภูมิและปรายฟ้า เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงจากคู่รักหนุ่มสาวกลายเป็นพ่อแม่เต็มตัวพร้อมกับสมาชิกใหม่สองคนคือน้องพายุและน้องสายฝนที่เติมเต็มชีวิตคู่ของทั้งสองให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นทั้งคู่ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ใจกลางเมืองซึ่งถูกตกแต่งอย่างสวยงามและอบอุ่น มีพื้นที่กว้างขวางให้เด็ก ๆ ได้วิ่งเล่นและมีสนามหญ้าที่กว้างพอสำหรับเด็กน้อยสองคนภาคภูมิจัดสรรเวลาให้กับการทำงานและครอบครัวอย่างลงตัว ทุกวันหลังกลับจากบริษัท สิ่งแรกที่เขาทำคือตรงดิ่งกลับบ้านเพื่อมาเล่นกับลูก ๆ เสียงหัวเราะสดใสของน้องพายุและน้องสายฝนคือยาชั้นดีที่ช่วยคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงานได้เป็นอย่างดีเขามักจะอุ้มลูกน้อยทั้งสองคนขึ้นมาโยนเบา ๆ จนลูก ๆ ส่งเสียงคิกคักด้วยความชอบใจหรือไม่ก็เล่านิทานก่อนนอนให้ฟังจนกระทั่งลูก ๆ เคลิ้มหลับไปในอ้อมแขนปรายฟ้าเองก็ดูสดใสขึ้นมากแม้จะเหนื่อยกับการเลี้ยงลูกแฝดแต่เธอก็มีความสุขกับบทบาทความเป็นแม่ปรายฟ้ามีพี่เลี้ยงสองคนคอยช่วยดูแลลูก ๆ ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งเพราะหากไม่มีพี่เลี้ยงช่วย
ตอนที่94คุณพ่อคุณแม่ป้ายแดงเกือบเก้าเดือนที่ปรายฟ้าใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในทุกวัน ท้องของเธอโตขึ้นเรื่อย ๆ จนเธอเริ่มรู้สึกหนักตัวและอุ้ยอ้ายไปหมดทุกที่แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงมีความสุขในทุกวันที่มีภาคภูมิอยู่เคียงข้างและแล้ววันที่เธอกับภาคภูมิรอคอยก็มาถึงในช่วงกลางดึกปรายฟ้าเริ่มมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงจนภาคภูมิถึงกับตกใจ เขารีบพาเธอไปที่โรงพยาบาลทันทีโดยไม่ลังเล“คุณต้องหายใจเข้าลึก ๆ นะปราย” ภาคภูมิกล่าวกับปรายฟ้าด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวล เขากุมมือของเธอไว้แน่นตลอดเวลาที่อยู่บนรถปรายฟ้ายิ้มทั้งน้ำตา “ปรายไม่เป็นไรค่ะ ปรายทนได้ค่ะ”เมื่อมาถึงโรงพยาบาล ปรายฟ้าก็ถูกนำตัวเข้าไปในห้องคลอดทันที ภาคภูมิกอดเธอไว้แน่นแล้วกระซิบที่ข้างหูของเธอเบา ๆ“ภูมิจะอยู่เคียงข้างปรายเสมอนะครับปรายไม่ต้องกลัวนะ”ปรายฟ้าถูกนำตัวไปที่ห้องผ่าตัดทันทีที่คุณหมอตรวจดูว่าเหมาะสมแก่การผ่าคลอดเอาเด็กน้อยออกมาหลังจากนั้นไม่นานเสียงของเด็กทารกน้อยก็ดังขึ้นมา ภาคภูมิถึงกับน้ำตาคลอเบ้า เขาหันไปมองหน้าปรายฟ้าด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจ คุณหมออุ้มเด็กน้อยออกมาจากห้องคลอดแล้วกล่าวว่า“คุณได
ตอนที่93เลขาใหม่กับหัวใจที่ว้าวุ่นปรายฟ้าตื่นขึ้นมาในตอนเช้าด้วยความรู้สึกที่สดชื่นแต่เมื่อภาคภูมิออกไปทำงานที่บริษัท เธอก็เริ่มรู้สึกเหงาและเบื่อหน่ายกับการอยู่บ้านเพียงคนเดียวความรู้สึกนี้ทำให้เธอคิดถึงเรื่องต่าง ๆ มากมายและสิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกกังวลมากที่สุดก็คือเรื่องของเมย์เลขาคนใหม่ของภาคภูมิเธอพยายามที่จะไล่ความคิดเหล่านี้ออกจากหัว แต่ก็ทำไม่ได้เธอยังคงคิดถึงภาพของเมย์ที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ภาคภูมิที่ห้องทำงานของเขา ความรู้สึกหึงหวงที่กลับมาอีกครั้งทำให้หัวใจของเธอไม่สงบเธอรู้ดีว่าภาคภูมิเป็นคนดีและไม่คิดอะไรกับใครแต่ความกังวลที่มาพร้อมกับการตั้งครรภ์ก็ทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหวและไม่มั่นคง“ยัยปรายหยุดคิดเรื่องไร้สาระได้แล้ว” ปรายฟ้าพูดกับตัวเอง“ภูมิรักเราคนเดียว”แม้จะพูดกับตัวเองแบบนั้นแต่เธอก็ยังคงรู้สึกกังวลอยู่ดี เธอพยายามหาอะไรทำเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเองแต่ก็ทำไม่ได้เลยในตอนเย็นเมื่อปรายฟ้ากำลังนั่งดูโทรทัศน์อย่างเงียบ ๆ ภาคภูมิก็กลับมาจากบริษัทเขามองดูปรายฟ้าที่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยใบหน้าที่อ่อนเพลียแต่ก็ยังคงความสง่างามอยู่ ภาคภูมินั่งลงข้าง ๆ เธอแล้วโอบกอดเธอไว้แน่น
ตอนที่92ท้อง สามเดือนผ่านไปหลังจากงานแต่งงานอันแสนสุขของปรายฟ้าและภาคภูมิ ชีวิตคู่ของพวกเขาราบรื่นและเต็มไปด้วยความรัก แต่ในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมาปรายฟ้าเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกายของตัวเอง เธอรู้สึกอ่อนเพลียและคลื่นไส้อย่างไม่มีสาเหตุและที่สำคัญที่สุดคือเธอไม่รู้สึกถึงอาการปวดประจำเดือนที่เคยเกิดขึ้นทุกเดือนเลยด้วยความสงสัยและความหวังเล็ก ๆ ในใจ ปรายฟ้าตัดสินใจไปตรวจที่โรงพยาบาลด้วยตัวคนเดียว เมื่อคุณหมอบอกข่าวดีว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ได้สามเดือนแล้วปรายฟ้าถึงกับยิ้มทั้งน้ำตาด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความสุขและความยินดี เธอดีใจมากที่ความรักของเธอและภาคภูมิได้มาถึงอีกขั้นที่สำคัญแล้วเมื่อกลับมาถึงคอนโดมิเนียมปรายฟ้าก็รีบวิ่งเข้าไปหาภาคภูมิแล้วกอดเขาไว้แน่น ภาคภูมิสัมผัสได้ถึงความผิดปกติในท่าทางของเธอ“เกิดอะไรขึ้นครับที่รัก” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวลปรายฟ้ายื่นผลตรวจการตั้งครรภ์ให้กับเขา ภาคภูมิถึงกับตกใจ เขามองหน้าปรายฟ้าด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความสงสัย ก่อนที่เขาจะอ่านผลตรวจแล้วยิ้มกว้างออกมาจนแก้มปริ“จริงเหรอครับ” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ“
ตอนที่91เข้าเรือนหอ (18+)ห้องสวีทอีกห้องหนึ่งที่ตกแต่งในโทนสีอบอุ่น ประดับด้วยภาพวาดศิลปะล้ำค่า ชัยวัฒน์พยุงมีนาที่อยู่ในอ้อมกอดเข้ามาในห้องมีนาในชุดเจ้าสาวลูกไม้สีครีมดูงดงามราวกับนางฟ้าที่เพิ่งจุติลงมาจากสรวงสวรรค์ที่ทำให้ชัยวัฒน์แทบคลั่งชัยวัฒน์อดไม่ได้ที่จะก้มลงจูบขมับของเธออย่างแสนรัก และสูดดมกลิ่นหอมจากเส้นผมของเธออย่างลืมตัว “เมียจ๋าหอมชื่นใจที่สุดเลย”“ในที่สุดมีนก็เป็นของชัยอย่างสมบูรณ์แบบแล้วนะมีนเป็นของชัยแล้วจริง ๆ” ชัยวัฒน์กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม มือแกร่งของเขาประคองใบหน้าสวยหวานของเธอขึ้นมาสบตา ดวงตาของเขาฉายแววรักใคร่ลึกซึ้งและปรารถนาอย่างเปิดเผยมีนายิ้มหวานหยาดเยิ้ม เธอยื่นหน้าเข้าไปใกล้กระซิบข้างหูเขา“มีนรอคอยวันนี้มานานแสนนานเหมือนกันอยากจะเป็นของชัยในวันแต่งงานใจจะขาดแล้ว”ชัยวัฒน์อุ้มมีนาขึ้นในอ้อมแขน พาเธอไปยังกลางห้องที่ปูพรมหนานุ่มสีแดงก่ำ เขาวางเธอลงช้า ๆ บนพรม ก่อนจะคุกเข่าลงต่อหน้าเธอ จูบหลังมือเรียวของเธออย่างแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความรู้สึก“ชัยรักมีน รักหมดหัวใจและอยากให้มีนเป็นของชัยในคืนนี้อยากให้มีนรู้สึกดีที่สุด”มีนาน้ำตาคลอเบ้าด้วยความซาบซึ้ง เ