“เชื่อได้เหรอว่ะ สนามใหญ่ขนาดนั้น จะมีการแข่งโดยเอาผู้หญิงเป็นเดิมพัน”ใบหม่อนส่ายหน้าออกมาทันทีอย่างไม่เชื่อ
“จริง กูคิดเหมือนอีหม่อน”นับหนึ่งเสริมทัพด้วยอีกคน ยังเหลือเอวาที่ยังนั่งอ่านข้อมูลของสนามอยู่ สักพักก็เงยหน้าขึ้นมามองหน้าเธอ
“พวกมึงว่าชื่อเจ้าของหุ้นส่วนคนที่สอง นามสกุลคุ้น ๆ ไหม”
ทั้งสามคนก้มลงไปมองหน้าจอโทรศัพท์ของเอวาทันที เป็นใยไหมที่หน้าถอดสีก่อนใครเพื่อน เพราะเธอจำได้ดีว่าเป็นนามสกุลของใคร เธอแอบชอบเขามาเกือบสี่ปีแล้ว ทำไมจะไม่รู้ข้อมูลส่วนตัวของเขาบ้าง อีกอย่างก็เรียนคณะเดียวกันด้วย
“นามสกุลคงแค่เหมือนกันแหละ กูยังเคยมีเพื่อนสมัยประถมนามสกุลเหมือนกัน โดยที่ไม่รู้จักกันได้เลย”ใบหม่อนพูดไปตามสิ่งที่เคยเจอมา เธอมองว่าไม่มีทางที่จะบังเอิญขนาดนั้น
“ก็ขอให้เป็นอย่างนั้นนะ”ถึงจะพูดแบบนั้น แต่เอวาก็คอยมองใยไหมที่ยังนั่งเงียบอยู่ เหมือนสติหลุดออกจากร่างไปแล้ว“มึงคงไม่คิดว่าเขาจะเป็นพี่น้องหรือญาติกับไอ้โซลหรอกนะ”
“ปะ เปล่า กูคิดเหมือนอีหม่อน มันคงไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกมั้ง”แม้จะพยายามพูดเพื่อปลอบใจตัวเอง แต่ก็คลางแคลงใจว่าในประเทศนี้นามสกุลบวรกิจวัฒนาจะโหลขนาดนั้นเลยเหรอ มันไม่ใช่นามสกุลที่หาได้ทั่วไปด้วยซ้ำ
“ถ้ามึงไม่มั่นใจก็ดี เลิกคิดเรื่องเป็นของเดิมพันไปได้เลย พวกกูจะได้สบายใจด้วย”
“…”
“ไปเข้าเรียนกันเถอะ แล้วปิดเสียงแจ้งเตือนมึงสักทีอีไหม ดังอยู่นั่นแหละ”
นับหนึ่งบ่นออกมาเมื่อยังได้ยินเสียงแจ้งเตือนดังจากโทรศัพท์เพื่อนไม่หยุด ใยไหมเลยหยิบโทรศัพท์ออกมาจะปิดเสียงแต่มือดันไปสัมผัสเข้าช่องแชทและเหมือนชีวิตเธอจะเจอกับแจ็คพอตตลอด ดันเป็นช่องแชทของคนเป็นพ่อด้วย ไม่รู้ว่านิ้วไปโดนได้ยังไง
พ่อ: อย่าคิดที่จะกลับมาที่นี่อีก แกมันลูกไม่รักดี ฉันเลี้ยงให้แกสุขสบายแกไม่ชอบ ชอบทำให้ตัวเองมีปัญหา ฉันตัดแกออกจากกองมรดกตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แกไม่ใช่ลูกฉันอีกต่อไป
อ่านข้อความจบ จากที่เธอจะลุกขึ้นเข้าห้องเรียน ก็ต้องฟุบหน้าลงร้องไห้ทันที เธอไม่คิดมาก่อนว่าพ่อจะส่งข้อความมาตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับเธอขนาดนี้ ที่ผ่านมาพ่อไม่เคยรู้เลยว่าเธอต้องเจอกับอะไรบ้าง เธอสุขสบายเรื่องเงินเหมือนพ่อว่าก็จริง แต่เธอไม่มีความสุขที่จะอยู่บ้านหลังนั้น และอยู่ร่วมบ้านกับคนพวกนั้นอีก แต่พ่อก็ไม่เคยถามความรู้สึกของเธอ จนมันระเบิดออกมาเหมือนเมื่อวาน ถ้าพ่อไม่ลำเอียงรักลูกติดมากกว่าลูกในไส้แบบเธอ เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น
“เห้อออ ร้องออกมาให้พอ พวกกูจะนั่งเป็นเพื่อนมึงตรงนี้แหละ จนกว่ามึงจะดีขึ้น”
เอวาเอามือลูบหลังเพื่อนเบา ๆ ตอนนี้เริ่มรู้สึกสงสารเพื่อนแล้ว พอจะรู้ว่าเป็นเพราะข้อความของคนเป็นพ่อที่เพื่อนอ่าน ทำให้เพื่อนเป็นแบบนี้ ที่ผ่านมาเธอก็ได้ยินเรื่องแม่เลี้ยงกับลูกติดนั่นมาตลอด ยอมรับว่าที่ผ่านมาเพื่อนเธอก็อดทนมามากแล้วจริง ๆ
หลังจากปรับอารมณ์ของตัวเองให้เป็นปกติได้ มือบางก็เช็ดน้ำตาที่แก้มทั้งสองข้างทันที สัญญากับตัวเองว่าเธอจะร้องไห้ให้กับเรื่องพวกนี้แค่ครั้งนี้เท่านั้น หลังจากนี้เธอจะแกร่งขึ้น และอยู่ให้ได้เหมือนที่พ่อของเธอต้องการ
“กูตัดสินใจแล้วนะ”
“จะรีบไปไหนมึงว่ะ ไอ้โซล”เดินออกจากห้องเรียนไม่ทันพ้นประตูห้อง คาเตอร์ก็เดินเข้ามาถามโซลที่ท่าทางร้อนรนเหมือนรีบไปไหน
“กูมีธุระ ไปก่อนนะ”พูดจบเขาก็เดินหนีออกมาทันที ธุระที่ว่าคือฟรินท์พี่ชายสั่งให้เขาไปหาที่สนามแข่ง มีเรื่องด่วนจะคุยด้วย ถึงจะไม่ได้เป็นความลับอะไร แต่เขาก็ขี้เกียจอธิบายให้พวกเพื่อนฟัง
ขายาวเดินเร็วมาที่ลานจอดรถ กดปลดล็อคประตู แต่ทว่าหางตาเหลือบไปเห็น กลุ่มเพื่อนผู้หญิงห้องเขา ที่ยืนทำสีหน้าเคร่งเครียดกันอยู่ที่รถของใครสักคนในกลุ่ม พลันหนึ่งในสี่คนนั้นก็หันมาสบตากับเขา เป็นใยไหมที่หลบสายตาเขาไปก่อน ช่วงนี้เขารู้สึกว่าได้สบตากับเธอบ่อยกว่าเมื่อก่อน ทั้งที่เราเรียนห้องเดียวกันมาเกือบสี่ปีแล้ว
ใช้เวลาไม่นาน โซลก็ขับรถมาถึงสนามแข่งขนาดใหญ่ ปกติสนามแข่งรถที่พี่ชายร่วมหุ้นกับไทเกอร์ ลูกชายฝาแฝดของเพื่อนสนิทพ่อ โซลไม่ค่อยเข้ามาที่นี่นัก ทั้งที่จริงเขาเองก็ชื่นชอบความเร็วเหมือนกัน เพียงแต่ว่าไม่ได้ลงสนามแข่งมานานมากแล้ว น่าจะตั้งแต่ปีสองก็ว่าได้
“พี่มีอะไร?”เข้ามาในห้องของตัวอาคารสำนักงาน ก็เห็นพี่ชายกับไทเกอร์ทำสีหน้าเคร่งเครียดกันอยู่ เหมือนกำลังมีปัญหาอะไรสักอย่าง
“ผู้หญิงคนนี้มึงรู้จักไหม ได้ข่าวว่าเธอเรียนคณะเดียวกับมึง ปีเดียวกันด้วยนะ”
ฟรินท์ส่งโทรศัพท์ให้โซลดู แค่เพียงเห็นแวบเดียวเขาก็จำได้ดีว่าเธอคือคนที่สบตากับเขาที่ลานจอดรถของมหาลัยก่อนที่จะมาที่นี่ เป็นรูปโปรไฟล์เฟซบุ๊กของเธอ
“ใยไหม”
“มึงรู้จักเหรอ”โซลพยักหน้าอีกครั้ง ก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟาตัวยาว
“ทำไมครับ?”
“มึงรู้ไหมว่าเธอจะมาเป็นของเดิมพันนัดพิเศษที่สนามกู”
“หมายความว่าไง?”
“ไอ้เกอร์มึงอธิบายที”ฟรินท์โยนไปให้เพื่อนสนิทอธิบายทุกอย่างให้น้องชายเขาฟัง
“ไอ้คีย์ เอ่อ มึงคงไม่รู้จัก มันมาแข่งรถที่สนามกูบ่อย ๆ กูไม่รู้หรอกว่ามันเป็นลูกเต้าเหล่าใคร แต่มันมีเงินมาเช่าสนามกูแข่งรถกับกลุ่มเพื่อนมันประจำ แต่ครั้งนี้มันโทรมาจองสนามวันนี้สองทุ่ม บอกจะแข่งนัดพิเศษให้กูหาคู่แข่งที่สูสีกับมันให้หน่อย มันจะเอาผู้หญิงมาเป็นเดิมพัน แล้วมันก็ส่งรูปผู้หญิงคนนี้มาให้กูดู”
“ผู้หญิงเขายอมเหรอพี่ อีกอย่างสนามพี่ทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอ ผมคิดว่าเรื่องเดิมพันผู้หญิงจะมีแค่สนามเถื่อนเสียอีก”
“ก็ถ้าผู้หญิงไม่ยอม กูไม่มีทางให้มันแข่งหรอก แต่ผู้หญิงเขายอม แล้วมันก็จัดกันเอง แค่มาเช่าสนามกู”
โซลนึกไปถึงตอนที่เขาเห็นใยไหมกับกลุ่มเพื่อนยืนคุยกันอยู่ที่ลานจอดรถ ตอนนั้นเขาก็เห็นหน้าตาเธอซีดเซียวและเพื่อนในกลุ่มก็ทำสีหน้าไม่สู้ดีกันทุกคน เหมือนกำลังถกเถียงเรื่องอะไรบางอย่างกันอยู่ แล้วยังตกลงกันไม่ได้ เป็นไปได้ไหมว่าเรื่องที่พวกเธอกำลังเถียงกันคือเรื่องที่ใยไหมจะมาเป็นของเดิมพันคืนนี้
“แล้วพี่หาคู่แข่งให้มันได้แล้วเหรอ”
“ยัง”
“มึงรู้อะไรไหม? ไอ้คีย์มันไม่ใช่คนดีหรอก การที่มันอยากหาคู่แข่งที่สูสีกับมันก็เพราะมันต้องการชนะคืนนี้ แล้วฝีมือมันก็ไม่ได้แย่ด้วยนะ”
“มึงหมายถึงว่ามันต้องการเป็นผู้ชนะแล้วได้ผู้หญิงไปใช่ไหมไอ้เสือ”
"เสือพ่อกูไอ้สัด!!!”ไทเกอร์ต่อว่าเพื่อนสนิทติดตลกที่มักเผลอเรียกชื่อเล่นพ่อของเขา ก่อนจะพูดสิ่งที่เขาคิดอยู่ในหัวตั้งแต่รู้ว่าไอ้คีย์ต้องการแข่งโดยมีของเดิมพันเป็นผู้หญิง“มันคงแค่จัดฉากหลอกผู้หญิงคนนั้น ที่จริงมันน่าจะต้องการเธอมากกว่าจะเอามาเป็นของเดิมพันแบบนี้ อีกอย่างผู้หญิงคนนั้นจะรู้ไหมว่ามันลงแข่งเอง"
"แล้วการแข่งขันคอนเฟิร์มไปแล้วเหรอพี่เกอร์"
โซลที่เพิ่งหาเสียงตัวเองเจอถามออกไป หลังจากนั่งปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดได้ ใยไหมรู้และยอมมาเป็นของเดิมพันเพื่ออะไรอันนี้เขาไม่รู้ แต่ที่สำคัญคือเธอรู้ไม่หมด เธอกำลังถูกผู้ชายคนนั้นหลอก และไม่รู้ว่ามันไปพูดจาหว่านล้อมเธอแบบไหน ถึงได้มายอมเป็นของเดิมพันที่เสี่ยงและอันตรายแบบนี้