สิงห์มานอนเล่นแค่ครึ่งชั่วโมง เห็นพิมพ์ข้อความยุกยิกอยู่สักพักก็ลุกออกไป ไม่มีคำลาจากเพื่อนรักเลยสักคำเดียว
เสือนั่งเขย่าขาที่โต๊ะกับข้าวตั้งนาน พออีกฝ่ายออกไปเขาก็รีบเดินเข้าห้องไปเปิดประตูตู้เสื้อผ้าทันที
“ส้มหวาน...”
ร่างของเธอตกลงมาชนอกเขา ในสภาพที่เนื้อตัวชื้นไปด้วยเหงื่อเปียกโชก เธอมึนเบลอเพราะอากาศในตู้เสื้อผ้ามันไม่ถ่ายเท ถ้าเขามาช้าอีกนาทีเดียวน่าจะเป็นลมแล้ว
“หมวยจิ๋ว”
“อือ...”
“ไหวปะเนี่ย”
เขาจับแก้มนุ่มนิ่มของเธอเพื่อเรียกสติ ส้มหวานปรือตาขึ้นมองก่อนจะชูนิ้วขึ้นมาว่ายังไหวอยู่
“ไอ้สิงห์มันก็โผล่มาถูกเวลาจริงๆ เลยว่ะ” เสือช่วยพยุงตัวเธอให้ลุกขึ้น เขาใช้มือเกลี่ยผมที่ปิดหน้าเธอออกให้
“พี่สิงห์ไปแล้วเหรอคะ” เธอเงยมองคนตัวสูงกว่าตาแป๋ว
“มันไปเมื่อกี้นี้เอง มีหนังยางมัดผมมั้ย” เขาใช้มือสางเส้นผมเธอไปไว้ข้างหลัง จับรวบให้ไม่รกหน้ารกตา
“แล้วราเมงเรายังอยู่มั้ยพี่เสือ”
“ยังจะห่วงกินอีกหรือไง”
“ก็เรากินหมูชาชูไปชิ้นเดียวเอง”
ส้มหวานมุ่นคิ้วทำหน้างอ เรื่องของกินเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับเธอ ราเมงของโปรดเพิ่งจะซดไปไม่กี่คำเอง
“ยังอยู่เท่าเดิม แต่เดี๋ยวอุ่นร้อนให้”
“จริงเหรอคะ ขอบคุณค่ะ”
“ไปอาบน้ำใหม่มั้ย เธอหัวเปียกไปหมดแล้วเนี่ย”
เธอก้มมองเสื้อยืดที่เปียกชุ่ม ก่อนจะยกมือขึ้นปาดเหงื่อบนหน้าผาก เสือช่วยเช็ดเหงื่ออีกแรงเธอก็จับชายเสื้อเขาเอาไว้
กลายเป็นว่าทั้งคู่สวมกอดกันอยู่กลางห้อง เหมือนคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่เพิ่งแต่งงานเข้าหอหมาดๆ แต่ความจริงคือยังไม่มีสถานะให้กัน
“แล้วเสื้อผ้าเราแห้งหรือยังคะ”
“ยัง แต่เธอใส่เสื้อพี่ไปก่อน”
“ขอแค่กางเกงในก็ยังดี... มันหวิวค่ะ”
เสือพ่นลมขำเอ็นดูเธอที่งุดหน้าตอบ เขาพยักหน้ารับแล้วจะเอาของส่วนตัวเธอไปเป่าแห้งให้
“เดี๋ยวเอาเป่าพัดลมให้ เธอไปอาบน้ำก่อนก็ได้”
วันหยุดทั้งวันเสือตัวติดส้มหวานไม่ห่าง เขาขับรถมาส่งเธอที่คอนโดแล้วก็นอนเล่นสักพักใหญ่ ยังไม่อยากกลับเพราะติดพันกลิ่นเด็กมันชื่นใจดี
ส้มหวานก็ยังเป็นเด็กเรียนวันยันค่ำ เพลียร่างแค่ไหนก็ยังตื่นมานั่งทบทวนบทเรียนที่ผ่านมาอยู่ดี
เธอนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะทำงานมาเป็นชั่วโมงแล้ว เขาที่นอนไถมือถือสบายใจเฉิบเพราะปีสุดท้ายแล้ว นอนเกลือกกลิ้งบนเตียงหอมๆ ของเธอไปมาแก้เบื่อ
“พักสายตาหน่อยมั้ย เธออ่านเป็นชั่วโมงแล้วนะ”
“เราจะอ่านสามชั่วโมง”
เธอไม่หันมามองเขาตอนตอบด้วยซ้ำ สายตาจดจ่อหน้าจอไอแพดที่ขีดเขียนคำสำคัญกำกับไว้
เธอไม่ใช่เด็กเรียนเก่งอะไรหรอก แต่แค่เป็นคนอ่านเยอะมากและเป็นคนที่วันไนท์มิราเคิลไม่ได้ผล ผิดถนัดกับเสือร้ายที่ใช้ปาฏิหาริย์ข้ามคืนมาโดยตลอดสี่ปี
“พี่อยู่ทั้งคนเธอยังอ่านหนังสือได้อีกเหรอ” ปกติเป็นคนอื่นคงไม่ปล่อยให้เขาไถมือถือแบบนี้หรอก
“ก็หนังสือมันสำคัญนี่คะ”
“แปลว่าพี่ไม่สำคัญไง”
เสือถามลองเชิงเธอ แต่ส้มหวานกลับไม่ได้ฟัง จนเขาตัดสินใจแทรกตัวลงไปนั่งซ้อนด้านหลังบนเก้าอี้ตัวเดียวกัน
“พี่เสือทำอะไรคะ นั่งเก้าอี้สองคนมันอึดอัดนะ”
ส้มหวานยุกยิกตัวใส่เขาที่ซบหน้าลงมา เสือวางปลายคางบนไหล่เล็กแล้วประสานมือกอดเธอไว้ด้านหน้า
“พี่เสือเราจะอ่านหนังสือ...”
“เธอก็อ่านไปดิจะมาดุทำไม”
คนตัวเล็กเริ่มไม่มีสมาธิ ถ้าเขาแค่นั่งกอดเฉยๆ ก็คงจะไม่มีอะไรหรอก แต่เสือเล่นทั้งจับหน้าอกแล้วก็ซุกไซ้ซอกคอกันแบบนี้ เธอจะเอาสมาธิที่ไหนมากำหนดจิตอ่านหนังสือกัน
“ระ- เราอึดอัด” เธอพยายามจะหันหน้าหนี แต่ก็ถูกเขารวบเอวไปกอดไว้อยู่ดี
“กอดไม่ได้ไง”
“เราอ่านไม่ถนัดนี่ พี่หายใจรดต้นคอเราตลอดเลย”
ลมหายใจเธอเริ่มสั่น กลิ่นโคโลญประจำตัวเขามันกระตุ้นอารมณ์ลึกๆ ข้างใน มือใหญ่ที่ฟอนเฟ้นไปทั่วหน้าท้องก็วูบวาบมากเช่นกัน
“เธออ้าขาหน่อยดิ”
“อ้าทำไมคะ”
“จะได้ทำถนัด”
ส้มหวานตัวเย็นวาบจนขนลุกชัน เธอไม่ใช่เด็กไม่รู้ประสาขนาดนั้นสักหน่อย ถึงจะไม่รู้ว่าเขาให้อ้าขาทำไม
“ขอเบ็ดให้ได้มั้ย” เขาขอแบบโต้งๆ หน้าหนาแบบนี้ไม่มีอะไรปกปิด
“แต่เราอ่านหนังสืออยู่นะ”
“เธอก็อ่านไปดิ”
“แต่เราอ่านไม่รู้เรื่องนี่คะ”
เสือร้ายได้สบโอกาสทีก็ไม่สนใจหรอก เธออยากอ่านก็อ่านไปสิ เพราะตอนนี้เขาจัดการล้วงฝ่ามือเข้าไปใต้กางเกงขาสั้นเธอแล้วเรียบร้อย
“ขอจับหน่อยหมวยจิ๋ว” เขาขอจับตอนสอดมือเข้าไปถึงจุดอ่อนไหวของเธอแล้ว
“อย่า- อย่าล้วงนะพี่เสือ”
“หันมาจูบหน่อยเร็ว”
เขาลูบคลึงแล้วใช้อีกมือล็อคคอเธอให้เงยหน้าขึ้น แต่ส้มหวานเขินจนตัวแดงเป็นลูกตำลึง พยายามจะงุดหน้าหนีไม่ให้เขาเห็นสีหน้าลามกเธอตอนนี้
“เอาปากมาให้ดูดหน่อยส้มหวาน” เสือใช้นิ้วเขี่ยกลางร่องสวาทนวลเนียนจนซอกกลีบเริ่มเปียกแฉะ
“ปากเราไม่ใช่บุหรี่สักหน่อย”
“แล้วดูดแทนได้ปะ จะได้เลิกบุหรี่มาดูดปากเธอแทน”
ส้มหวานช้อนตามองเขาที่ประชดเก่ง เปิดโอกาสให้เสือใช้โอกาสนี้จูบปิดปากเธอ พร้อมกับกดแทรกเรียวนิ้วเข้าไปในร่องรูคับแคบฉ่ำน้ำ
เธอโดนเขาจูบจนหายใจตามไม่ทัน หอบหายใจถี่กระชั้นกับความเสียวสยิวที่แล่นปราดไปทั่วใต้ท้องน้อย
“พี่เสือ... อ๊ะ- อึก อย่านะ ไม่เอาเข้าไปแบบนั้นสิคะ” พูดได้ไม่กี่คำเธอก็โดนเขาจูบอีกรอบ
คราวนี้เสือสอดลิ้นแล้วม้วนเกลียวลิ้นในปากเธอ ก่อนจะดูดดุนทุกความหวานให้เป็นของเขาแค่คนเดียว มือข้างนึงกำลังเบ็ดในรูเธอส่วนอีกข้างก็บีบขยำหน้าอกเธอไปด้วย
“ไม่เอาแล้วทำไมแฉะจังคะ”
“อื้อ... พี่เสือ”
“น้ำเยอะเลยเธอ”
เขาจับตัวเธอให้เอนหลังเล็กน้อย ก่อนที่จะมุดหน้าเข้าทางสีข้างเธอเพื่อซุกเต้าอวบอิ่ม
ส้มหวานแหงนหน้าขึ้นแล้วครางเสียว เรียวขาเธอพาดบนหน้าตักของเสือให้เขาขยับนิ้วเข้าออกได้ถนัดถนี่ เธอร้อนผ่าวไปทั้งตัวเหมือนจะละลายเป็นฟองอากาศเลย
เสียงนิ้วที่ขยับดังเจอะแจะ เมือกน้ำเยอะจนฉ่ำเต็มนิ้วเลย
เสือก้มลงจูบปากเธอขณะที่ใช้นิ้วให้ ก้านนิ้วยาวที่ขยับเข้าออกถี่รัวเปียกเยิ้มด้วยหยาดน้ำหวานสีใส
ส้มหวานหายใจกระตุกเกร็ง รู้สึกดีจนครางเสียงหวานให้เขาระรัวนิ้วเข้าออกเร็วขึ้น
“อ๊ะ... พี่เสือ อึก- อื้อ”
เธอถึงจุดเสียวที่แตกซ่านจนตัวกระตุก ร่องรูคับแคบตอดรัดนิ้วเรียวเขาแน่น เมือกสีใสเปียกเยิ้มเต็มรูและง่ามนิ้วเสือ
เรียวขาเธอเกร็งและหนีบรัดเข้าหากันตอนเสร็จสำเร็จความใคร่ ก่อนที่จะผ่อนคลายลงแล้วทิ้งตัวอย่างหมดแรง มองเสืออย่างเว้าวอนให้เลิกแกล้งตอนอ่านหนังสือสักที
“รอบหน้าใช้ปากให้บ้างดิ”
“ปากเราเหรอ”
“อือ ทำเป็นมั้ย”
ส้มหวานส่ายหน้าแทบไม่ต้องคิด เสือเข้าใจได้ทันทีจากศึกหนักที่ผ่านมา เธอแค่ตอบสนองความปรารถนา แต่ลีลายังเด็กน้อยต้องเรียนรู้อีกเยอะเลย
“อ้าปาก”
“พี่เสือ...”
“บอกให้อ้าปากไงคะ”
เธออ้าปากตามที่บอก มองเสือตาแป๋วเป็นแมวตัวน้อย
“ทีนี้ก็แลบลิ้นหน่อย”
“อื้อ”
ภาพของส้มหวานตอนนี้ทำเสือกระสันอยาก ก่อนที่เขาจะส่งนิ้วกลางกับนางเข้าไปในเกลี่ยวนที่ลิ้นเธอ แล้วขยับเข้าออกในโพรงปากส้มหวานจนเธอหน้าเห่อร้อน
“คิดว่านี่คือเสือน้อยเข้าใจมั้ย”
“อึก”
“ใช้ลิ้นเล่นกับมันพอ ไม่ต้องเอาฟันมาครูดมันเจ็บ”
“อื้อ”
“อ่า ดีว่ะ”
ไม่ใช่แค่บอกให้เธอจินตนาการหรอก แต่หัวเขามันโคตรจะลามกเลยต่างหาก ตอนเห็นเธอห่อปากและลิ้นรัดนิ้วเขา แล้วตาลอยใส่ในจังหวะที่นิ้วเขามันขยับเข้าออก
ส้มหวานเริ่มรู้สึกว่าเขาต้องการมากกว่านี้ เธอเลยชิ่งตัวผละออกจากตัวเสือแล้วหยิบไอแพดจะไปนั่งอ่านที่อื่น
“พอ- พอเลย พี่แกล้งเราเยอะแล้วนะ”
เธอหันหลังเดินเข้าห้องน้ำไปล้างตัว ส่วนเสือได้แต่มองตามหลังตาละห้อยเพราะปวดหัวล่างสุดๆ
“มือขวาลูกพ่อ... ถึงเวลาของลูกแล้วเว้ย”
เสือขยับบั้นเอวอย่างหนักหน่วงและรุนแรง ในบางจังหวะก็ผ่อนแรงลงแต่ตอกอัดเน้นย้ำทุกดอกจนส้มหวานจุก เธอที่ถูกรังแกหน้าขึ้นสี ดวงตาฉ่ำเยิ้มเป็นประกายวาบหวามเรือนร่างอรชรอ้อนแอ้นดูบอบบาง ทั้งน่าทนุถนอมและน่ารังแกให้หนักๆ ตอนที่รูร่านเร่าขมิบเวลาเสียว“พี่เสือ... อ๊ะๆ อื้อ พี่เสือตรงนั้น อึก ตรงนั้นมัน...”ส้มหวานส่ายสะบัดหน้าไปมา เธอแทบแดดิ้นจะขาดใจเมื่อเอ็นอุ่นกระทุ้งลึกมากถึงจุดที่เธอเสียว จนเธอครางส่ำไม่เป็นคำออกมา“มันเสียวเหรอคะ” เสือยกยิ้มร้าย ไม่พอยังใช้นิ้วโป้งขยี้ติ่งเสียวเธอ ทำร่างบางบิดเร่าสะโพกแล้วหอบหายใจแรง“อื้อ อย่าเขี่ยนะ”“ไหนตอบดิเด็กดี เธอเสียวเหรอ”“สะ- เสียวค่ะ พี่เสือเราเสียวอ่ะ”เธอกัดปากระบายคว
“ไม่รู้... เราไม่รู้”ส้มหวานหลบตามองไปทางอื่น แต่เสือจับปลายคางเธอให้เงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะสบตาอีกฝ่ายเพื่อรอคำตอบ“ก็แค่ตอบตามความรู้สึก อยากทำมั้ย” เสือรู้คำตอบอยู่ก่อนแล้ว แต่แค่อยากได้ยินจากปากเธอให้ชัดดวงตากลมโตหวานฉ่ำน้ำ ใบหน้าขึ้นริ้วสีแดงอย่างกับลูกตำลึงสุกแบบนี้ ถ้าพูดโกหกเขาก็คงต้องเช็คของให้แน่ใจ คำพูดอาจจะโกหกได้แต่ร่างกายที่รู้สึกไม่โกหกแน่นอน“หรือจะให้พี่เช็คของ”“มะ- ไม่เอานะ”“ถ้าไม่อยากทำงั้นพี่ก็จะไม่ทำ”เสือลดมือที่จับใบหน้าเล็กออก เป็นชนวนกระตุ้นส้มหวานให้รู้สึกถึงความต้องการทันทีไวเท่าความคิดเธอก็ยื่นมือไปรั้งแขนเขา เรียวคิ้วมุ่นเข้าหากันแล้วเป็นฝ่ายสอดมือจับข้างแก้มเขา ก่อนยื่นหน้าเข้าไปจูบเสือแล้วไล่พรหมจูบบริเวณสันกรามลามมาปลายคางส้มหวานยังคงเงอะงะ แต่ก็ฮึดสู้ที่จะเอาใจเสือเช่นกัน เธอกดแนบริมฝีปากลงไปที่ลำคอเขา ปลายเท้าเขย่งเล็กน้อยกับความสูงที่ต่างกับเขาหลายเซน“อึก” เสียงเสือกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ จังหวะที่ส้มหวานงับเบาๆ ที่ลูกกระเดือกเขา“พี่เสือถอดเสื้อออกหน่อย”“อืม”อืมเดียวที่เธอชอบ คงเป็นเสียงอืมตอนเขาครางหรือขานรับ ฟังดูกระเส่าใจจนซอกกลีบเปียกแฉะไปห
“พี่เสือใจร้าย... ฮึก”ร่างบางทรุดตัวนั่งกอดเข่าหลังพิงประตู น้ำตาเม็ดใหญ่รินไหลเปื้อนใบหน้าไม่ขาดสาย เธอเบะริมฝีปากสะอื้นไห้ราวกับเด็กสามขวบที่โดนดุตลอด 6 ปีที่รู้จักกันตั้งแต่รั้วมัธยมปลายมา เสือไม่เคยเมินเธอเลยสักครั้งเดียว ถึงจะปากร้ายแต่เป็นรุ่นพี่ที่ใจดีมากนี่เป็นครั้งแรกเลยที่เธอถูกเขาเมิน รู้สึกแย่จนรับรู้ได้ถึงหัวใจที่ถูกบีบรัดให้ปวดหน่วง หายใจไม่ทั่วท้องแล้วก็ตัวชาวาบไปทั้งร่างเลย“หมวยจิ๋วออกมาคุยกันก่อน”“ไม่...”“เปิดประตูเดี๋ยวนี้เลยส้มหวาน”เสือทั้งเคาะประตูและตะโกนลอดผ่านเข้ามา แต่ส้มหวานก็ยังนั่งกอดเข่าร้องไห้จนใบหน้าแดงก่ำ ไม่ยอมลุกขึ้นเปิดประตูตามที่เขาสั่ง“งั้นอยากให้พี่กลับใช่มั้ย ไม่อยากเจอหน้าก
“ต้าวจ้มทางนี้เลย”เสียงใสของเจ้าหญิงทักทาย โบกไม้โบกมือดีใจที่เห็นส้มหวานเดินเข้าห้องเรียนมา แตงโมที่นั่งเล่นมือถือก็เงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ข้างตัวเธอให้ส้มหวานนั่งคนตัวเล็กเดินก้มหน้าเล็กน้อย มือก็คอยดึงกระโปรงทรงแคบลง ส้มหวานนั่งลงข้างแตงโม เจ้าหญิงก็เลยลุกจากที่นั่งไปนั่งประกบขวามือเธอแทน“เป็นไง หึงจนหน้าเขียวเป็นบล็อกโคลีเลยมั้ย” เจ้าหญิงยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาว แต่อีกฝ่ายกลับดูไม่มั่นใจซะงั้น“ไม่รู้สิ พี่เสือเขาไม่ได้พูดว่าหึงที่เราใส่เลยนะ”“พวกหึงเงียบล่ะสิ หึงแต่เก็บอาการไงส้มหวาน”“จะ- จริงเหรอ พี่เสือจะหึงเราจริงเหรอ”เจ้าหญิงพยักหน้าอย่างมั่นใจ กระโปรงที่ส้มหวานใส่ก็เป็นสิ่งที่เธอแนะนำให้ เธอไม่รู้หรอกว่าหนุ่มรุ่นพี่คิดอะไรอยู่ ทำไมถึงให้สถานะส้มหวานไม่ได้กันแต่ถ้ากั๊กไว้ก็ต้องทำในสิ่งที่คนไม่ใช่แฟนไม่มีสิทธิ์...“ถ้าอยากให้ชัดต้องมีตัวช่วยหน่อย”“ยังไงเหรอ”“ขอไปนอนคิดสักคืนแล้วจะมาบอกละกัน”ส้มหวานยิ้มรับให้กับกูรูส่วนตัว เมื่อวันอาทิตย์เจ้าหญิงไปนอนเล่นที่ห้องมา ทั้งคู่พูดคุยถึงปฏิบัติการเลิกจืด เพื่อที่จะมัดใจเสือร้ายให้หยุดหมัดทีแรกส้มหวานไม่ได้เล่าเรื่อง
เสือขับรถจี๊ปลูกรักไปรับส้มหวานที่คอนโดมามหาวิทยาลัยแต่เช้า ตั้งแต่วันที่ทั้งคู่มีอะไรกัน เสือก็คอยตามรับส่งส้มหวานอยู่ตลอด แต่ปกปิดเรื่องความสัมพันธ์นี้ไว้ไม่ให้สิงห์รู้เขาจอดรถหน้าตึกคณะเธอ ก่อนที่จะโน้มตัวไปปลดเข็มขัดนิรภัยให้ แล้วกระตุกแขนอีกฝ่ายให้เข้ามาใกล้ จนเธอตกใจผงะถอยไปเล็กน้อย“เย็นนี้ขอไปนอนเล่นห้องเธอได้มั้ย” เขาทำหน้าอ้อนอย่างมีหวัง แต่ก็ถูกดับฝันกลางวันในทันที“ไม่ได้ค่ะ เราต้องอ่านหนังสืออีกแล้ว”“จะอ่านหนังสืออีกแล้วเหรอไอ้หมวยจิ๋ว”ส้มหวานพยักหน้ารับหงึกหงัก แววตาเธอไร้เดียงสาและดูมุ่งมั่นกับการอ่านหนังสือมาก จนใครบางคนเริ่มจะหงุดหงิดหนังสือทุกเล่มที่เธอหยิบอ่านแล้ว“มันใกล้จะสอบมิดเทอมแล้วนี่คะ เราไม่อยากรู้สึกผิดทีหลังถ้าทำได้ไม่เต็มที่พอ”
สิงห์มานอนเล่นแค่ครึ่งชั่วโมง เห็นพิมพ์ข้อความยุกยิกอยู่สักพักก็ลุกออกไป ไม่มีคำลาจากเพื่อนรักเลยสักคำเดียวเสือนั่งเขย่าขาที่โต๊ะกับข้าวตั้งนาน พออีกฝ่ายออกไปเขาก็รีบเดินเข้าห้องไปเปิดประตูตู้เสื้อผ้าทันที“ส้มหวาน...”ร่างของเธอตกลงมาชนอกเขา ในสภาพที่เนื้อตัวชื้นไปด้วยเหงื่อเปียกโชก เธอมึนเบลอเพราะอากาศในตู้เสื้อผ้ามันไม่ถ่ายเท ถ้าเขามาช้าอีกนาทีเดียวน่าจะเป็นลมแล้ว“หมวยจิ๋ว”“อือ...”“ไหวปะเนี่ย”เขาจับแก้มนุ่มนิ่มของเธอเพื่อเรียกสติ ส้มหวานปรือตาขึ้นมองก่อนจะชูนิ้วขึ้นมาว่ายังไหวอยู่“ไอ้สิงห์มันก็โผล่มาถูกเวลาจริงๆ เลยว่ะ” เสือช่วยพยุงตัวเธอให้ลุกขึ้น เขาใช้มือเกลี่ยผมที่ปิดหน้าเธอออกให้“พี่สิงห์ไปแล้วเหรอคะ” เธอเงยมองคนตัวสูงกว่าตาแป๋ว“มันไปเมื่อกี้นี้เอง มีหนังยางมัดผมมั้ย” เขาใช้มือสางเส้นผมเธอไปไว้ข้างหลัง จับรวบให้ไม่รกหน้ารกตา“แล้วราเมงเรายังอยู่มั้ยพี่เสือ”“ยังจะห่วงกินอีกหรือไง”“ก็เรากินหมูชาชูไปชิ้นเดียวเอง”ส้มหวานมุ่นคิ้วทำหน้างอ เรื่องของกินเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับเธอ ราเมงของโปรดเพิ่งจะซดไปไม่กี่คำเอง“ยังอยู่เท่าเดิม แต่เดี๋ยวอุ่นร้อนให้”“จริงเหรอคะ ขอบคุณค่ะ”