Home / รักโบราณ / วุ่นนัก รักข้ามภพ / บทที่ 8 เทพธิดานำโชค

Share

บทที่ 8 เทพธิดานำโชค

last update Last Updated: 2025-05-15 13:54:10

"ท่านแม่เสียงของนังนั่นเงียบไปแล้วเจ้าค่ะ ต้องถูกหมอผีจัดการไปแล้วเป็นแน่"

พลั่ก!!! ตุบ!!!

"อ๊าาาา ชิงเอ๋อร์!!!"

"อ๊าาาา ท่านแม่!!! ข้าเจ็บเจ้าค่ะ"

เสี่ยวชิงกับฮูหยินหลิวที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ถูกหมอผีนางนั้นที่ไม่รู้ว่ากระโจนออกมาจากเรือนของเสี่ยวหงเมื่อใดพุ่งทะยานพร้อมกำแส้ในมือฟาดใส่นางสองแม่ลูกอย่างไม่ยั้งมือ

เสี่ยวหงยกยิ้มมุมปากอย่างมีความสุข นางมองสองแม่ลูกถูกแส้ฟาดไปพลาง มือก็หยิบเกาลัดแกะกินไปด้วยอย่างอารมณ์ดี

"อ๊าาา เจ้ามาตีข้าเพราะเหตุใด!!! ข้าสั่งให้เจ้ามาจัดการนังปีศาจนั่น!!!"

"หุบปาก!!! เจ้าสินังปีศาจ เจ้าสองคนแม่ลูกมันนังปีศาจ!!!"

เพียะ!!!

"อ๊าาา!!! จับนังหมอผีนี่เร็วเข้า!!!"

เสี่ยวหงปรายตามองหมอผีนางนั้นจนนางถูกมองจนเย็นสันหลังวาบ แส้ในมือยิ่งกระหน่ำฟาดสองแม่ลูกจนส่งเสียงร้องดังไปทั่วบริเวณ

"ข้าจะฟ้องเสด็จอาว่าเจ้าทุบตีข้านังหมอผีชั่ว!!!"

เสี่ยวหงยกยิ้มเย็น หึ! เป็นฝีมือของเสี่ยวกุ้ยเฟยจริงๆ ด้วยสินะ

เมื่อได้ยินเช่นนั้นหมอผีก็ไม่รอช้า รีบชักมีดที่เหน็บไว้ข้างเอวแทงตัวเองจนตกตาย ก่อนจะหมดลมหายใจสุดท้ายนางได้มองไปที่สองแม่ลูกก่อนจะแสยะยิ้มออกมาชวนให้ขนลุกไม่น้อย

"พวกเจ้าสองคนแม่ลูกย่อมไม่ตายดี กุ้ยเฟยก็จะไม่ตายดี"

เสี่ยวหงมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยแววตาเรียบเฉย หมอผีนางนี้นับว่าใจกล้าไม่น้อย

ก่อนที่หมอผีผู้โชคร้ายจะกระโจนออกมาจากเรือน นางได้กำชับอย่างชัดเจนแล้วว่าทำให้สองแม่ลูกนั่นหวาดกลัวที่สุด แล้วก็จัดการสังหารตนเองเสียอย่าให้ใครมาง้างปากเจ้าได้ว่าข้าบังคับให้เจ้าเป็นคนทำ

หากเจ้าไม่สังหารตนเอง ข้านี่แหละจะมอบความทรมานอย่างแสนสาหัสให้กับเจ้า!!!

"อิ๋งเอ๋อร์ไปหาช่างมาซ่อมประตูเรือนของข้า สั่งให้คนมาเก็บกวาดให้เรียบร้อยส่วนศพหมอผีนางนี้ให้บ่าวขนไปทิ้งนอกจวน ข้าจะออกไปข้างนอกสักครู่"

"เจ้าค่ะคุณหนู"

เสี่ยวหงปรายตามองสองแม่ลูกก่อนจะเดินหันหลังกลับไปหยิบเสื้อคลุมกันลมหนาวออกมาจากเรือน

เสี่ยวชิงกับหลิวฮูหยินนอนราบอยู่บนพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง สายตาจับจ้องไปที่เสี่ยวหงด้วยแววตาอาฆาต

เสี่ยวหงทำหน้าเซ็งไม่น้อย อยากจะสื่อสารกับเจ้าของร่างเดิมนี่จริงๆ ว่านางไปทำอะไรไว้สองแม่ลูกนี่รวมถึงคนในตระกูลถึงอยากจะทำร้ายนางเช่นนี้

จะส่งให้มาเกิดใหม่ทั้งทีแทนที่จะให้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายกลับต้องมาสู้รบตบตีทำสงครามประสาทเช่นนี้

มู่มู่ลอบเบ้ปากในใจ เหตุใดมันจะไม่รู้กันเล่าตอนที่เสี่ยวหงอยู่ในร่างเดิม ตั้งแต่เรียนมัธยมต้นจนถึงมหาวิทยาลัยนางต่อยตีกับผู้ชายเป็นว่าเล่น ทำมาเป็นชักสีหน้าเบื่อหน่าย แต่ว่าสองแม่ลูกนั่นก็รนหาที่จริงเชียว

เสี่ยวหงไม่ได้พาอิ๋งเอ๋อร์ออกมาด้วยเพราะสั่งให้นางไปตามหาคนซ่อมประตูเรือน ส่วนเสี่ยวหงก็เดินลัดเลาะตามตรอกซอกซอยเที่ยวชมบรรยากาศรอบเมืองหลวง พลางมองหาทำเลที่ทางดีดีสักที่

ใช่แล้ว!!! นางจะเปิดสำนักดูดวงหาเงินให้ได้เยอะๆ จะได้ออกมาจากจวนตระกูลเสี่ยวใช้ชีวิตอย่างอิสระของนางเอง

พลั่ก!!!

"อ๊ากกกก"

เสี่ยวหงหันไปมองตามเสียงร้องที่ไม่ไกลมากนัก สายตาของนางพลางหันไปพบกับบุรุษน้อยผู้หนึ่ง ดูจากใบหน้าที่อ่อนเยาว์หล่อเหลานั่นแล้วคงจะอายุราวๆ สิบสามสิบสี่ปีเท่าๆ กับนาง

แต่นั่น!!! เขาถูกพวกชายฉกรรจ์รุมต่อยตีจนแทบจะเอาตัวเองไม่รอด

สิ่งที่เสี่ยวหงเกลียดที่สุดคือการหมาหมู่รุมตีเช่นนี้ที่สุด!!!

ตุบ!!!

"โอ๊ย!!! อย่าหนีนะ ตามมันไป!!!"

เสี่ยวหงวิ่งเข้าไปกระโดดเตะชายฉกรรจ์สามคนจนกระเด็นลอยออกไป ก่อนจะลากหนุ่มน้อยผู้นั้นออกมาและจับมือเขาวิ่งเข้าไปในตรอกซอกซอยต่างๆ

"น่าจะตามมาไม่ทันแล้ว!!! เจ้าเป็นเช่นไรบ้าง"

"แฮ่ก!!! โอ้ยยย แม่นางเจ้าช่างวิ่งเร็วนัก ข้าจะขาดใจตายอยู่แล้ว แต่ว่า แฮ่ก!!! ขอบใจแม่นางยิ่งนัก!!!"

เสี่ยวหงมองหนุ่มน้อยตรงหน้าอย่างดูแคลน ชิ!!! เป็นผู้ชายเสียเปล่าวิ่งแค่นี้ทำเป็นเหนื่อย ตอนนางอยู่ในร่างเดิมเคยขโมยเงินแม่ออกไปเที่ยว แม่วิ่งตามนางไม่ทัน สมัยเรียนนางโดดเรียนอาจารย์มาเจอเข้าวิ่งไล่ตามนางยังไม่ทันเลย ฉายาของนางคือวิ่งทะลุฟ้า!!!

ว่าแต่มันน่าภูมิใจตรงไหนกันนะ?

เสี่ยวหงส่ายศีรษะไปมาไล่ความคิดไร้สาระก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงข้างหนุ่มน้อยผู้นั้น

"เจ้าไปทำอะไรมา ทำไมคนพวกนั้นถึงต่อยตีเจ้า"

ชายหนุ่มเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะใช้กำปั้นทุบตีไปที่พื้นดินอย่างโมโห

"ข้าเข้าไปเล่นการพนันที่หอเซียหวาหอการพนัน แต่พอข้าเล่นได้เยอะ พวกมันกลับโกงข้า ไม่ยอมให้ตำลึงข้าตามที่ตกลงกันไว้ พอข้าหอบตำลึงหนีออกมาพวกมันก็ไล่ตามข้า"

เสี่ยวหงยกยิ้มมุมปากอย่างดูแคลน

"ตัวเท่านี้เจ้ารู้จักเล่นการพนันแล้วหรือ"

"ข้าก็แค่เล่นแก้เบื่อเท่านั้น!!!"

"ดูแล้วเจ้าคงจะเบื่อบ่อยๆ"

หนุ่มน้อยก้มหน้าเม้มปากไม่กล้าพูดอะไรออกมา

"ช่างเถอะว่าแต่เจ้าชื่ออะไร"

"ข้าชื่อหยางซูจวิ้น ขอบใจแม่นางมากที่ช่วยข้า ว่าแต่แม่นางชื่ออะไรหรือ? หากแม่นางต้องการสิ่งใดตอบแทนก็บอกข้ามาได้"

เสี่ยวหงแววตาเป็นประกายก่อนจะมองหยางซูจวิ้นด้วยแววตาล้ำลึก ว้าว!หนทางการร่ำรวยของนางมาถึงแล้ว

"ข้าชื่อเสี่ยวหง ว่าแต่ตอนนี้ตำลึงในมือเจ้ามีเท่าใด?"

"เจ้าถามทำไม?"

"ข้าจะพาเจ้าไปทำให้มันงอกเงยขึ้นมาอย่างไรเล่า!!!"

ตอนนี้หยางซูจวิ้นกำลังยืนอยู่หน้าหอเซียหวาด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด สายตาจ้องมองชายฉกรรจ์ด้วยแววตาหวาดกลัวไม่น้อย

"เสี่ยวหงข้าว่าเรากลับกันเถิดข้ากลัว"

"มีข้าอยู่เจ้าไม่ต้องกลัว"

เสี่ยวหงเอ่ยก่อนจะเดินนำหยางซูจวิ้นเข้าไปด้านในหอเซียหวา

"พี่ชาย เมื่อครู่ข้าขอโทษแทนน้องชายข้าด้วย เขายังเด็กจึงวู่วามไปบ้างขอท่านอย่าถือสา ที่ข้ามาวันนี้เพื่อให้เขานำตำลึงที่แอบขโมยไปมาคืนพี่ชายเจ้าค่ะ"

"เสี่ยวหง!!!"

เสี่ยวหงหันไปถลึงตาใส่หยางซูจวิ้น เขาเม้มริมฝีปากแน่นสบถอย่างไม่สบอารมณ์

เสี่ยวหงดึงถุงใส่ตำลึงออกมาจากมือของหยางซูจวิ้น ก่อนจะหยิบตำลึงในถุงที่มีราวๆ หมื่นตำลึงส่งให้ชายฉกรรจ์ผู้นั้น โชคดีที่ก่อนหน้านี้ตอนที่นางวิ่งเข้าไปช่วยหยางซูจวิ้นคนพวกนี้ไม่ทันสังเกตเห็นใบหน้าของนาง

"ข้าคืนให้เจ้าค่ะ ตอนนี้พวกข้าพี่น้องมีเงินติดตัวเพียงห้าร้อยตำลึงเท่านั้น อยากจะขอเข้าไปด้านในอีกสักรอบหนึ่งจะได้หรือไม่เจ้าคะ"

ชายฉกรรจ์พยักหน้าก่อนจะหลีกทางให้ทั้งสองคนเดินเข้าไป

"นี่เจ้าจะทำอะไรเสี่ยวหง มีสตรีตระกูลใดบ้างเดินเข้าออกสถานที่เช่นนี้อย่างหน้าตาเฉย"

"ข้าไม่สน หุบปากเจ้าเสียแล้วตามข้ามา!!!"

เสี่ยวหงเดินนำหยางซูจวิ้นเข้ามาด้านใน นางมองไปรอบๆ ก่อนจะนึกชื่นชมในใจ 

ไม่ต่างจากบ่อนกาสิโนในยุคปัจจุบันเลยจริงๆ

เวลาผ่านไปเพียงครึ่งก้านธูป หยางซูจวิ้นแทบจะนั่งไม่ติดเก้าอี้ดวงตาเขาเบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ

"เสี่ยวหงเจ้าช่าง!!! โอว เทพธิดานำโชคของข้า"

เสี่ยวหงปรายตามองหยางซูจวิ้นก่อนจะยกยิ้มมุมปาก

หึ!!! ข้านี่แหละอดีตเจ้ามือผู้เลื่องชื่อ

เสี่ยวหงมองตำลึงที่อยู่ตรงหน้าราวๆ ห้าหมื่นตำลึง ก่อนจะเก็บมันใส่กระเป๋าเดินนำหยางซูจวิ้นออกมา

"เล่นต่ออีกหน่อยเถิด ข้าว่าเจ้ามีโชคด้านนี้"

"เจ้าโลภให้มันน้อยๆ หน่อยเถิด"

หยางซูจวิ้นทำปากจู๋อย่างน่าสงสารสายตาอ้อนวอนนั่นไม่สามารถเปลี่ยนใจเสี่ยวหงได้

ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังจะก้าวเดินออกจากหอเซียหวา ก็มีร่างของชายฉกรรจ์สามสี่คนเดินเข้ามาขวางทางไว้

"แม่นางน้อย เงินมากมายขนาดนี้เก็บไว้กับตัวคงไม่ดี ให้ข้าช่วยดีหรือไม่"

เสี่ยวหงมองชายฉกรรจ์ที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะยิ้มตาหยี

"ไม่รบกวนพี่ชายดีกว่าเจ้าค่ะ สายมากแล้วข้าขอตัวลา"

"จะรีบไปไหนเล่า อยู่ดื่มชากับพวกข้าต่อดีหรือไม่"

ชายฉกรรจ์แสดงท่าทางหื่นกระหายอย่างเห็นได้ชัด หยางซูจวิ้นที่ยืนอยู่ข้างกายเสี่ยวหงขมวดคิ้วแน่น

"พวกเจ้าอย่าคิดจะล่วงเกินนาง นางเป็นเพียงสตรีที่อ่อนแอนางหนึ่ง"

"หุบปากเจ้าเสีย!!! หากไม่อยากถูกพวกข้าทุบตีเจ้าอีกรอบ"

หยางซูจวิ้นเม้มริมฝีปากแน่น สำหรับเขาแล้วการต่อยตีเป็นเรื่องที่ไม่ถนัด แต่เรื่องดื่มสุราการพนัน เสเพล เคล้านารีเขาชอบยิ่งนัก

"ว่าอย่างไรแม่นาง หากตกลงก็ขึ้นไปกับพวกข้าที่ด้านบนเถิด"

"เกรงว่าคงจะรับน้ำใจพี่ชายไม่ได้เจ้าค่ะ ข้ามีธุระต้องรีบกลับจวนแล้วเจ้าค่ะ"

ชายฉกรรจ์ก้าวเข้ามาจับแขนเสี่ยวหงข้างหนึ่งอย่างแรง ก่อนจะกระซิบที่ข้างหูนางด้วยน้ำเสียงโหดเหี้ยม

"หอเซียหวาไม่ใช่ที่ที่ผู้ใดจะมาก็มาจะไปก็ไปได้ ทางเราเสียตำลึงให้แม่นางไปไม่น้อย แม่นางควรจะตอบแทนพวกเราบ้างดีหรือไม่"

เสี่ยวหงยกยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยัน คนชั่วพวกนี้รนหาที่กันอีกแล้ว

ตอบแทนเช่นนั้นหรือ ได้สิ!

มู่มู่ที่อยู่ในที่ลับตาคนพลันกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา วันนี้มันจะได้ดูเรื่องราวสนุกอีกแล้ว

พลั่ก!!!

"อ๊ากกก"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • วุ่นนัก รักข้ามภพ   บทที่ 43 ชวนทำลูกส่งท้าย The End

    งานแต่งงานของอวิ๋นหลัวซีและหยางซูหนี่ว์ ถูกจัดขึ้น หลังจากพิธีอภิเษกสมรสของหยางซูจวิ้นและอวิ๋นเฟยหนึ่งเดือน นางกับอวิ๋นหลัวซีใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาอย่างมีความสุข หยางซูหนี่ว์ให้กำเนิดบุตรเป็นฝาแฝดชายหญิงให้แก่อวิ๋นหลัวซี เขาดีใจเป็นอย่างยิ่ง อวิ๋นเสวียนเองก็หลงรักหลานแฝดทั้งสองมาก ทุกวันหลังจากเลิกงานเขาก็จะต้องรีบกลับมาหาหลานฝาแฝดน้อยทั้งสองอวิ๋นหลงเยียนเองก็ถูกบิดาจับได้ว่าเขาลอบมีความสัมพันธ์กับหรงจิง อวิ๋นเสวียนในตอนแรกนั้นก็ยอมรับไม่ได้ แต่เมื่อผ่านไปนานวันเข้า เขาเองก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้มากเท่าใดนัก และไม่ได้ด่าทอต่อว่าบุตรชายคนรองเหมือนเช่นเคย อวิ๋นหลงเยียนและหรงจิงก็ช่วยกันดูแลสำนักดูดวงเชียนเซียง จนกิจการรุ่งเรืองไปได้ดีรัชศกเฉิงเยี่ยปีที่60ฮ่องเต้หยางเฉิงเยี่ยทรงสิ้นพระชนม์ ส่วนเหมยฮองเฮาก็ได้ขึ้นเป็นไทเฮา ช่วงชีวิตของนางมีความสุขอยู่กับการเลี้ยงหลานๆ หยางซูจวิ้นเองก็มีพระโอรสถึงสี่องค์ สร้างความมั่นคงแก่ราชวงศ์ไม่น้อยรัชศกซูจวิ้นปีที่5ห้าปีหลังจากที่หยางซูจวิ้นขึ้นครองราชสมบัติเขาได้แต่งตั้งหยางเส้าเฉินขึ้นเป็นชินอ๋อง"ท่านพ่อเจ้าคะ อุ้มข้าหน่อยเจ้าค่ะ"หยางเส้าเฉินมอง

  • วุ่นนัก รักข้ามภพ   บทที่ 42 ศึกแย่งอาหลัว 1-2

    อวิ๋นเสวียนผู้เป็นบิดารู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าองค์หญิงผู้นี้จะกล้าเข้ามากอดรัดนัวเนียอยู่กับบุตรชายของเขาอวิ๋นหลัวซีมองบิดาของเขาด้วยสายตาเย็นชาครั้งหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยปากพูด"ลูกเป็นคนพาซูหนี่ว์มาเองขอรับ""อาหลัว เหตุใดเจ้าจึงบังอาจเรียกชื่อองค์หญิงเช่นนี้!!!"อวิ๋นหลัวซีมีสีหน้าเรียบเฉย ส่วนหยางซูหนี่ว์ที่กอดแขนอวิ๋นหลัวซีอยู่นั้นก็จ้องมองอวิ๋นเสวียนด้วยรอยยิ้มตาหยี"ท่านพ่อสามีไม่ต้องเกรงใจไปเจ้าค่ะ ข้ากับอาหลัวเราก็เหมือนคนคนเดียวกัน เรียกชื่อเพียงเท่านี้เรื่องเล็กน้อยเจ้าค่ะ"จินรั่วอวิ๋นลอบปรายตามองหยางซูหนี่ว์ ช่างกล้านัก นางที่เป็นว่าที่คู่หมั้นยังไม่ใจกล้าเท่านางเลย"เอ่อ นี่ก็เย็นมากแล้ว รับสำรับกันเถิด อาหลัวท่านแม่ของเจ้าเล่า?"ท่านแม่ไม่สบายขอรับ กำลังนอนพักอยู่ในเรือน ลูกให้คนนำสำรับเย็นไปให้แล้วขอรับ""อืม เด็กๆ จัดโต๊ะอาหาร"ไม่นานอาหารก็ถูกยกขึ้นมาวางเต็มโต๊ะ อวิ๋นหลัวซีคีบอาหารให้หยางซูหนี่ว์อย่างใส่ใจ จินรั่วอวิ๋นที่เห็นเช่นนั้น ทำได้เพียงลอบกัดฟันกรอด"ท่านพี่หลัว ลองชิมสาลี่นี่ดูหน่อยเถิดเจ้าค่ะ เป็นสาลี่ที่เก็บมาจากบ้านสวนบนเขาของตระกูลจ

  • วุ่นนัก รักข้ามภพ   บทที่ 41 ศึกแย่งอาหลัว 1-1

    หยางซูหนี่ว์ใช้ชีวิตอยู่ในวังด้วยความเบื่อหน่าย วันๆ นางต้องทนเรียนการเย็บปักถักร้อย งานวาดภาพ อ่านตำราสอนหญิง มันเป็นสิ่งที่นางไม่ถนัดและไม่มีใจรักในด้านนี้"องค์หญิงเพคะ อีกครู่หนึ่งแม่นมฉางจะเข้ามาสอนองค์หญิงปักผ้าเช็ดหน้าลายดอกเหมยนะเพคะ"กลอกตาไปมาก่อนจะมองหมิงหยวนด้วยสายตาเบื่อหน่ายอีกครั้ง สำนักดูดวงเชียนเซียงเริ่มเปิดกิจการภายใต้การดูแลของหรงจิง ตอนนี้หมอนั่นฝีมือก้าวหน้าไปไม่น้อย ถึงแม้จะไม่ได้เก่งกาจเท่าหยางซูหนี่ว์ แต่ก็ไม่ไปปล่อยผีออกมาเดินเล่นอย่างคราวก่อนอีก หยางซูหนี่ว์เองก็ไปที่สำนักดูดวงบ้างเป็นบางครั้ง ผู้คนต่างรู้หมดแล้วว่าแท้จริงแม่หมอผู้เก่งกาจคือองค์หญิงหยางซูหนี่ว์ พวกเขาจึงยกย่องนางราวเทพธิดาและแวะเวียนมาที่สำนักดูดวงเชียนเซียงทุกวันหวังจะได้ชื่นชมพระบารมีขององค์หญิง"วันนี้ข้าจะไม่เรียนเย็บปักอะไรทั้งสิ้น ไปเตรียมชุดนางกำนัลมาข้าจะออกนอกวัง""แต่องค์หญิงเพคะ""หากเจ้ายังห้ามข้าอีก ข้าจะสั่งให้ผีมาหลอกเจ้าทั้งวันทั้งคืน!!! ""โอ๊ยย!!! องค์หญิงเพคะ หม่อมฉันยอมแล้วเพคะ""ดีมาก ไปเตรียมชุดให้ข้า หากแม่นมฉางมาบอกให้นางกลับไปก่อนวันนี้ข้าไม่มีอารมณ์เรียน"หยางซูหนี

  • วุ่นนัก รักข้ามภพ   บทที่ 40 ไม่ยอมรับความจริง

    เสี่ยวหงเดินตามเสียงที่เรียกนางไปอย่างช้าๆ ท่ามกลางเมฆหมอกที่ขมุกขมัว พลันปรากฏร่างของสตรีนางหนึ่ง แต่งกายงดงามราวกับเทพธิดาบนสรวงสวรรค์ ใบหน้าละม้ายคล้ายกับนางไม่มีผิดเพี้ยน"เจ้าคือ?""ข้าคือเจ้า และเจ้าก็คือข้า""เจ้าคือเสี่ยวหง?"หญิงสาวตรงหน้าเผยรอยยิ้มอ่อนหวานสะกดสายตา นางส่ายหน้าไปมา ก่อนจะมองเสี่ยวหงอีกครั้ง"ข้าคือหยางซูหนี่ว์ ชื่อของข้าคือหยางซูหนี่ว์ พระธิดาของฮ่องเต้หยางเฉิงเยี่ย"เสี่ยวหงขมวดคิ้วมุ่น นางเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราว ฉับพลันความรู้สึกมากมาย เรื่องราวต่างๆ ภาพความทรงจำในอดีตก็ได้หวนกลับมาอีกครั้งแท้จริงแล้วนางคือองค์หญิงหยางซูหนี่ว์ที่หายตัวไปเมื่อหลายปีก่อน"ข้าสูญเสียความทรงจำจากเหตุการณ์ร้ายแรงในครั้งนั้น""เจ้าจะกลับมาทวงร่างเดิมหรือ?"หยางซูหนี่ว์ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะยื่นมือไปจับมือของเสี่ยวหงเอาไว้"ข้าต้องไปแล้ว ฝากเจ้าดูแลเสด็จพ่อกับเสด็จแม่ของข้าด้วย ใช้ชีวิตให้มีความสุข อยู่กับชายที่เจ้ารัก เจ้าทำให้ช่วงชีวิตของข้าที่แสนเศร้าและทุกข์ทรมานแปรเปลี่ยนเป็นความงดงามจนข้าเองก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ขอบใจเจ้ามาก เจ้ารีบกลับไปเถิด"หยางซูหนี่ว์ใช้มือผลักที่ไหล่ข

  • วุ่นนัก รักข้ามภพ   บทที่ 39 องค์หญิงผู้สูญหาย

    อวิ๋นหลัวซีพาเสี่ยวหงขึ้นขี่หลังม้าห้อตะบึงจนออกมานอกเขตเมืองหลวงโดยใช้ป้ายรองแม่ทัพของเขาจึงไม่เป็นที่สงสัย พวกเขาสามารถออกมาจากเมืองหลวงได้ทันเวลาก่อนที่หยางเส้าเฉินจะส่งคนตามมาทันจวนตระกูลอวิ๋นถูกสั่งกักบริเวณทันทีหลังจากมีประกาศจับอวิ๋นหลัวซีและเสี่ยวหง อวิ๋นเสวียนเอาแต่โทษตนเองว่าเป็นความผิดของเขาที่บีบบังคับบุตรชายจนต้องเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ส่วนฮูหยินเอกจวนโหวเมื่อทราบข่าวว่าอวิ๋นหลัวซีกลายเป็นนักโทษตามจับของฝ่าบาทก็เป็นลมแล้วเป็นลมอีกจนบ่าวในเรือนต้องช่วยกันดูแลวุ่นวายไปทั้งจวนด้านฮูหยินรองหลันเยียนก็ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปากอย่างมีความสุข ถือโอกาสสาปแช่งทั้งสองแม่ลูกให้ตกตายไปพร้อมกันเสีย จวนตระกูลโหวรวมถึงตำแหน่งซื่อจื่อก็จะได้ตกเป็นของนางกับอวิ๋นหลงเยียนบุตรชายอันเป็นที่รักยิ่งของนาง"ท่านพ่อ ท่านพี่จะปลอดภัยใช่หรือไม่ขอรับ""พี่เจ้าเป็นคนเก่ง เขาจะต้องปลอดภัย พ่อเชื่อมั่นในตัวพี่ชายเจ้าเสมอ"อวิ๋นหลงเยียนพยักหน้า เขาเองก็เชื่อมั่นในตัวของอวิ๋นหลัวซีพี่ชายคนนี้ของเขาเช่นกัน"แย่แล้วขอรับนายหญิง ฮ่องเต้ทรงประกาศจับพวกท่านทั้งสองคนขอรับ"มู่มู่กระโดดออกมาจากต้นไม้ มองดูเสี่ย

  • วุ่นนัก รักข้ามภพ   บทที่ 38 เป็นตายไปด้วยกัน

    หลิวเย่ว์หลีหันมามองหน้าเสี่ยวหงก่อนจะรีบเตรียมผละออกไป เสี่ยวหงร้อนใจเป็นอย่างยิ่งจึงรีบคว้ามือของหลิวเย่ว์หลีเอาไว้"ใจเย็นๆ ก่อนนะ ข้าจะไปดูสถานการณ์ก่อน หากเกิดอะไรขึ้นข้าจะรีบให้คนมาแจ้งแก่เจ้า""เจ้าค่ะ"หลิวเย่ว์หลีพยักหน้าก่อนจะรีบเดินตามนางกำนัลออกมา ระหว่างทางก็สอบถามเรื่องราวไปด้วย"เรื่องราวเป็นมาเช่นไร? รองแม่ทัพอวิ๋นเข้าวังมาขอยกเลิกพระราชทานสมรสด้วยตนเองเชียวหรือ?""เพคะพระชายา รายละเอียดบ่าวเองก็ไม่ทราบแน่ชัดเพคะ"หลิวเย่ว์หลีพยักหน้าด้วยความร้อนใจ นางเองก็จนปัญญาที่จะช่วยเหลือ ในเมื่อเป็นรับสั่งของฝ่าบาทเช่นนั้นคงจะต้องปล่อยให้เป็นไปตามลิขิตของสวรรค์เสียแล้วห้องทรงพระอักษร"เจ้าช่างกล้าดียิ่งนัก คิดว่าเป็นคนโปรดของเรา แล้วจะฝ่าฝืนคำสั่งเช่นไรก็ได้อย่างนั้นหรือ?""หามิได้พ่ะย่ะค่ะ แต่ที่กระหม่อมต้องมาทูลขอความเมตตาจากฝ่าบาทด้วยตนเอง เพราะกระหม่อมมีสตรีในดวงใจอยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ""เหลวไหล!!! เจ้าแต่งจินรั่วอวิ๋นเป็นฮูหยินเอก แล้วเจ้าก็ค่อยแต่งสตรีผู้นั้นเป็นอนุก็ย่อมได้!!!""ทูลฝ่าบาท กระหม่อมต้องการแต่งสตรีผู้นั้นเป็นภรรยาเพียงคนเดียวพ่ะย่ะค่ะ!!!"ฮ่องเต้หยางเฉิงเยี่ยวา

  • วุ่นนัก รักข้ามภพ   บทที่ 37 ชาตินี้สัญญาจะรักเพียงเจ้า

    ฮ่องเต้หยางเฉิงเยี่ยมองชินอ๋องกับพระชายาเอกด้วยแววตาตำหนิ มู่มู่ ที่เห็นเช่นนั้น จึงกระโดดหายไปอย่างไร้ร่องรอย เสี่ยวหงถอยหลังออกมาก้าวหนึ่งเพื่อทำความเคารพหยางเฉิงเยี่ย"ถวายพระพรเสด็จพี่พ่ะย่ะค่ะ"ชินอ๋องที่หน้าบวมเหมือนหัวหมูโค้งกายคำนับหยางเฉิงเยี่ยด้วยท่าทีกระดากอายไม่ต่างจากพระชายาของตนเอง หยางเฉิงเยี่ยแม้จะรู้สึกไม่ชอบใจกับการกระทำของน้องชายตนเองเท่าใด แต่ก็ไม่ได้ติดใจเอาความเท่าใดนัก แต่ไหนแต่ไรมาน้องชายของเขาผู้นี้ก็นิยมชมชอบความรุนแรงมาโดยตลอด "เจ้าเข้ามาถวายพระพรเสด็จแม่หรือ?""พ่ะย่ะค่ะ เฉียวฟางเฟยตั้งครรภ์แล้ว กระหม่อมจึงจะมากราบทูลข่าวดีต่อเสด็จแม่พ่ะย่ะค่ะ""เช่นนั้นเจ้าก็ไปเถิด คราวหน้าคราวหลังอย่าทำขายหน้าต่อบ่าวไพร่เช่นนี้อีก""พ่ะย่ะค่ะ"ชินอ๋องหยางเทียนฉีปรายตามองเสี่ยวหงด้วยความขุ่นเคืองใจ หึ!!! เจ้ารอดจากเงื้อมมือข้าไปได้อีกแล้ว ระวังตัวเอาไว้เถิด ข้าจะต้องหาทางเอาคืนเจ้าให้สาสมเป็นแน่เสี่ยวหงก้มหน้าพยายามกลั้นขำอย่างสุดกำลัง มู่มู่ก็ช่างรุนแรงเสียจริง ทำให้หน้าตาหล่อเหลางดงามของชินอ๋องกลายเป็นหัวสุกรไปเสียได้"เจ้าเองก็เช่นกัน หากยังอยากมีชีวิตรอดอยู่ในวังหลวง

  • วุ่นนัก รักข้ามภพ   บทที่ 36 อำมหิตเพื่อความอยู่รอด

    ไป๋หลางยกจานข้าวขึ้นมาหวังจะฟาดใส่เสี่ยวหง นางยกยิ้มอย่างเย้ยหยัน ก่อนจะยื่นมือไปกระชากศีรษะนางกำนัลผู้หนึ่ง มารับจานใบนั้นแทนนาง ส่วนนางก็เบี่ยงตัวหลบอย่างสบายใจ"อ๊าาา!!!"พวกนางกำนัลลิ่วล้อต่างอ้าปากค้างมองสหายของตนที่ใบหน้าและลำตัวมีแต่เศษอาหารและหน้าผากปูดนูนอย่างหวาดวิตก เสี่ยวหงหันไปมองพวกนางด้วยสายตาอำมหิตจนพวกนางกำนัลเหล่านั้นเย็นสันหลังวาบ"ช่างอวดเก่งนักนางตัวดี"ไป๋หลางพุ่งเข้ามาหาเสี่ยวหงอย่างรวดเร็ว เสี่ยวหงหรี่ตามองไป๋หลาง ก่อนจะยกเท้าขึ้นถีบไปที่ยอดอกของนาง ไป๋หลางตัวลอยกระเด็นไปกระแทกกับกำแพง ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งด้วยความจุกแน่นที่บริเวณหน้าอกอย่างเจ็บปวด นางมองเสี่ยวหงด้วยสายตาเกลียดชังนางหลงรักหยางเส้าเฉินจึงยอมเข้ามาเป็นนางกำนัลในวังหลวงแห่งนี้ เดิมทีนางเป็นบุตรสาวของชาวนาจนๆ ผู้หนึ่ง นางได้พบกับหยางเส้าเฉินระหว่างที่เขาออกมาเยี่ยมเยียนความเป็นอยู่ของราษฎร นางจึงตกหลุมรักเขาตั้งแต่วันนั้น และตั้งปณิธานอย่างแน่วแน่ว่าจะต้องเข้าวังหลวงเพื่อให้ได้พบกับเขานางไม่หวังจะได้เป็นชายาเอกหรือชายารอง สถานะของนางต่ำต้อยเหลือเกิน ขอเพียงเขายอมรับนางเป็นสตรีบำเรอบนเตียงนางก็ยินยอ

  • วุ่นนัก รักข้ามภพ   บทที่ 35 นางกำนัลเสี่ยวหง

    พระราชวังใหญ่โต โอบล้อมด้วยตำหนักน้อยใหญ่ มีสระน้ำที่สวยงามทำให้รู้สึกสดชื่นน่าอยู่ไม่น้อย แต่ใครเล่าจะรู้ว่าแท้จริงแล้วสถานที่แห่งนี้เปรียบเสมือนกรงทองเอาไว้กักขังผู้คนมากมายให้ตกตายอยู่ภายในวังหลวงแห่งนี้เสี่ยวหงถอนหายใจอย่างปลงไม่ตก นางเองเคยใช้ชีวิตอย่างอิสระ ไม่เคยถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวดังเช่นตอนนี้ นางเองยังคงปรับตัวไม่ได้เท่าใดนัก"ถวายพระพรฮองเฮา ขอฮองเฮาทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นๆ ปีเพคะ""ลุกขึ้นเถิด""เป็นพระกรุณาเพคะ"เหมยฮองเฮาพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ เป็นนางเองที่ทูลขอต่อฝ่าบาทให้เสี่ยวหงมารับใช้นางในตำหนักเฟิ่งหวงแห่งนี้ เสี่ยวหงถือเป็นผู้ที่มีบุญคุณช่วยชีวิตนางเอาไว้ในตอนนั้น ทำความดีความชอบไม่น้อย นางเองก็ตัดใจส่งนางไปยังที่ลำบากตรากตรำไม่ลง"ข้าจะส่งเจ้าไปฝึกอบรมกับชิวหมัวหมัวเสียก่อน เพื่อจะได้รู้ว่าเจ้าถนัดทำสิ่งใดบ้าง ข้าจะได้คอยให้เจ้ามารับใช้ข้าได้ถูกที่ถูกทาง""เป็นพระกรุณาเพคะฮองเฮา"เหมยฮองเฮาโบกมือเล็กน้อย เสี่ยวหงมองเห็นชิวหมัวหมัวนางหนึ่งมาพานางเดินออกไปจากตำหนักเฟิ่งหวง เสี่ยวหงลอบพิจารณามองดูก็พบว่าเป็นหมัวหมัวที่ค่อนข้างแก่ชราไม่น้อย แต่ความน่าเกรงขามของนา

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status