Share

บทที่ 2

Author: สายลมไร้กาลเวลา
ของขวัญแรกพบหรือ?

องค์รัชทายาทและเหล่าองค์ชายต่างเผยรอยยิ้มเย็นชาที่มุมปาก

แค่สามัญชนคนหนึ่งยังจะนำของขวัญแรกพบมาด้วย?

ด้วยฐานะของพวกเขา ของล้ำค่าหายากอันใดบ้างที่ไม่เคยเห็น จะมาอยากได้ของจากสามัญชนเช่นเจ้าหรือ?

ทว่า ฉู่หวยที่ประทับอยู่บนบัลลังก์มังกรกลับเผยสีหน้ายินดีออกมา “ดูท่ามารดาของเจ้าจะสั่งสอนเจ้ามาเป็นอย่างดี นำของขวัญของเจ้าขึ้นมาสิ”

อย่างไรเสีย เขาก็เป็นบุตรของเรา ทั้งยังจะถูกส่งไปยังแนวหน้าเพื่อเป็นตัวตายตัวแทนด้วยน้ำมือของเขาเอง จะไม่รับของขวัญของฉู่หนิงเลยก็คงจะไม่ได้กระมัง?

ฉู่หนิงหยิบหยกแขวนขนาดครึ่งฝ่ามือออกมาจากอกเสื้อ “นี่คือของขวัญที่ลูกตั้งใจมอบให้เสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ”

สีหน้าของฉู่หวยเปลี่ยนไปเล็กน้อย “รีบนำมาให้เราดูเร็วเข้า!”

หัวหน้าขันทีจ้าวหมิงรีบรับหยกแขวนมาทันที จากนั้นยื่นให้ฉู่หวย

เมื่อมองหยกแขวนที่ยังคงมีความอบอุ่นซึ่งอยู่ในมือ ฉู่หวยก็เผยสีหน้าหวนรำลึกถึงอดีต

นี่คือของขวัญที่เรามอบให้แก่มารดาของฉู่หนิง

คาดไม่ถึงว่านางจะเก็บรักษามันไว้ตลอด ทั้งยังส่งต่อให้ฉู่หนิงอีก

นาง คงจะเกลียดชังเราที่ไม่เคยไปหานางเลยกระมัง

“ของขวัญชิ้นนี้ เราชอบมาก!”

เมื่อจัดการกับอารมณ์ของตนเองได้แล้ว ฉู่หวยก็กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกที่แฝงไปด้วยความรู้สึกผิดต่อมารดาของฉู่หนิง “เจ้ามอบของขวัญแรกพบให้เรา เราก็จะมอบของให้เจ้าหนึ่งชิ้นเช่นกัน”

“ใครก็ได้ นำกระบี่คู่กายของเรามามอบให้ฉู่หนิง”

ทันทีที่คำนี้หลุดออกมา สีหน้าขององค์รัชทายาท เหล่าองค์ชาย และขุนนางฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊ต่างก็เปลี่ยนไปอย่างยิ่ง

กระบี่คู่กายของฮ่องเต้ นั่นคือสมบัติล้ำค่าประหนึ่งฮ่องเต้เสด็จมาด้วยพระองค์เอง มีกระบี่เล่มนี้อยู่ในมือ ย่อมไม่มีผู้ใดกล้าลบหลู่ฉู่หนิง

องค์รัชทายาทเป็นคนแรกที่ไม่ยอม รีบก้าวออกมายืนคัดค้าน “เสด็จพ่อ กระบี่เล่มนี้...”

“องค์รัชทายาท เจ้ากำลังสงสัยในการตัดสินใจของเราอย่างนั้นหรือ?”

ฮ่องเต้ตรัสขัดขึ้นก่อนที่องค์รัชทายาทจะพูดจบ “อีกไม่นานฉู่หนิงจะต้องไปทัพหน้า มีกระบี่เล่มนี้อยู่ในมือ จะได้ใช้ควบคุมเหล่าทหารที่แนวหน้าได้!”

องค์รัชทายาทไม่กล้าโต้เถียง ทว่าแววตาอันเย็นชากลับฉายแววอำมหิตแวบหนึ่ง

เขาแอบมองกระบี่เล่มนี้มานานแล้ว ไม่คิดว่าตอนนี้จะตกเป็นของฉู่หนิงเสียได้

ในขณะนั้น จ้าวหมิงถือกระบี่คมกริบในฝักสีเหลืองอร่ามมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉู่หนิง

ฉู่หนิงยื่นมือไปรับกระบี่ล้ำค่า กล่าวด้วยความตื่นตระหนก “เสด็จพ่อ กระบี่เล่มนี้ล้ำค่าเกินไป ลูกเคิดว่าท่านพี่องค์รัชทายาทดูจะชอบมันมาก ไม่สู้มอบกระบี่เล่มนี้ให้เขาดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

ดวงตาขององค์รัชทายาทเป็นประกาย!

นับว่าเจ้าเด็กนี่รู้จักกาลเทศะ ของที่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าควรจะได้ ก็สมควรจะเป็นฝ่ายมอบออกมาเอง!

องค์รัชทายาทมองฮ่องเต้ด้วยความยินดี “เสด็จพ่อ ยากนักที่ฉู่หนิงจะมีน้ำใจเช่นนี้ กระบี่เล่มนี้...”

ฉู่หวยทำหน้าบึ้ง “หึ กระบี่เล่มนี้ใช้สำหรับควบคุมเหล่าทหารแนวหน้า หรือว่าองค์รัชทายาทอยากจะไปแนวหน้า?”

องค์รัชทายาทถึงกับพูดไม่ออกในทันที

แม้จะอยากได้กระบี่เล่มนี้ แต่เขาก็ไม่อยากไปแนวหน้า

โชคดีที่ฮ่องเต้เองก็รู้ว่าการตำหนิองค์รัชทายาทต่อหน้าธารกำนัลจะเป็นการทำลายบารมีของเขา จึงหันไปมองฉู่หนิง “ของที่เรามอบให้เจ้า จะส่งต่อให้ผู้อื่นตามใจชอบได้อย่างไร?”

“เสด็จพ่อทรงสั่งสอนได้ถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”

ฉู่หนิงก้มหน้ากล่าวอย่างนอบน้อม “เป็นเพราะลูกเพิ่งมาถึงจึงไม่เข้าใจกฎระเบียบ ถือโอกาสใช้ของขวัญแรกพบนี้เป็นการขอโทษท่านพี่องค์รัชทายาท”

พูดจบ เขาก็หยิบห่อผ้าออกมาจากแขนเสื้อ

หลังจากคลี่ผ้าที่ห่อไว้หลายชั้นออก ก็เผยให้เห็นของที่อยู่ข้างใน...ใบชาสีเขียวมรกตกองหนึ่ง!

ฉู่หนิงกล่าวด้วยสีหน้าจริงใจ “ข้ารู้ว่าองค์รัชทายาทและเสด็จพี่ทุกท่านไม่ได้ขาดแคลนของล้ำค่าหายากอันใด แต่ใบชานี้ข้าเป็นคนปลูกและเก็บด้วยตนเอง ถือเป็นน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ หวังว่าเสด็จพี่ทุกท่านจะรับไว้”

วุ่นวายมาตั้งนาน ทำทีลับ ๆ ล่อ ๆ บอกว่าเป็นของขวัญแรกพบ สุดท้ายกลับเป็นแค่ใบชากองหนึ่งอย่างนั้นหรือ?

แค่ชาเขียวธรรมดา ๆ ยังกล้าเอาออกมาให้ขายหน้าอีก?

มุมปากขององค์รัชทายาทกระตุก “น้ำใจของน้องสิบแปดพวกเราขอรับไว้ แต่ใบชานี้เจ้าเก็บไว้เองเถิด”

ฉู่หนิงถอนหายใจยาว “ท่านพี่องค์รัชทายาทไม่ชอบชาเขียวที่ข้าปลูกด้วยตนเองสินะ”

แววตาที่ผิดหวังนั้นถูกฮ่องเต้เห็นเข้าพอดี

เจ้าพวกลูกทรพี!

ถึงแม้ฉู่หนิงจะเป็นตัวตายตัวแทน แต่ก็เป็นน้องชายของพวกเจ้านะ

คนเขาให้ของขวัญยังจะรังเกียจอีก?

ฮ่องเต้เลิกคิ้ว “ยากนักที่ฉู่หนิงจะมีน้ำใจเช่นนี้ ใบชาพวกนี้เราและพวกเสด็จพี่ของเจ้ารับไว้แล้ว”

“จ้าวหมิง เจ้าเอาใบชาไปแบ่งให้พวกเขา”

หัวหน้าขันทีจ้าวหมิงรับคำ แล้วรับใบชาจากมือของฉู่หนิงไปแบ่งให้เหล่าองค์ชายคนละเล็กน้อย เหลือส่วนใหญ่ไว้แล้วนำไปถวายข้างกายฮ่องเต้

องค์รัชทายาทมองใบชาที่เขียวจนเรืองแสงในมือ แววตาเต็มไปด้วยความดูแคลน

เดี๋ยวออกจากท้องพระโรงไปแล้ว จะหาหมาสักตัวโยนให้มันกิน!

“เสด็จพ่อ ธุระต่าง ๆ จบสิ้นแล้ว ควรจะเลิกว่าราชการได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ” องค์รัชทายาทอดใจรอไม่ไหวที่จะโยนชาเขียวในมือทิ้ง

ฮ่องเต้พยักหน้าเล็กน้อย กำลังจะประกาศเลิกว่าราชการ ใครจะรู้ว่าฉู่หนิงกลับเอ่ยขึ้นมาทันที “เดี๋ยวก่อนพ่ะย่ะค่ะ”

องค์รัชทายาทขมวดคิ้ว “เจ้ายังมีเรื่องอะไรอีก?”

ฉู่หนิงทำท่าทีลำบากใจเล็กน้อย “ท่านพี่องค์รัชทายาท โบราณกล่าวไว้ว่าของขวัญเมื่อให้แล้วต้องได้รับคืน ข้ามอบของขวัญแรกพบให้เสด็จพี่ทุกท่านแล้ว แต่เสด็จพี่ทุกท่านยังไม่ได้มอบของขวัญแรกพบให้ข้าเลยนะ”

องค์รัชทายาทและเหล่าองค์ชายถึงกับตกตะลึง

ขอของขวัญแรกพบต่อหน้าธารกำนัล?

ยังมีคนหน้าหนาถึงเพียงนี้อีกหรือ?

ช่วยรู้จักอายบ้างได้หรือไม่!

ชาเขียวที่เจ้ามอบให้มันจะสักกี่อีแปะกันเชียว ยังกล้ามาทวงของขวัญตอบแทนจากพวกเขาอีกหรือ?

เหล่าขุนนางกลับเงียบกริบในยามนี้

ฉู่หนิงได้รับการยอมรับกลับสู่ราชวงศ์แล้ว ชื่อของเขาถูกบันทึกลงในบันทึกลำดับญาติของสำนักราชวงศ์ ตามหลักแล้ว เหล่าองค์ชายในฐานะผู้อาวุโสของฉู่หนิงก็ควรจะให้ของขวัญแรกพบจริง ๆ

แต่ว่า นี่เป็นเรื่องภายในครอบครัวของเหล่าองค์ชาย พวกเขาไม่อยากจะไปล่วงเกินเหล่าองค์ชายเพราะฉู่หนิง

บนบัลลังก์มังกร ในตอนแรกฮ่องเต้แสดงสีหน้าตกตะลึง ไม่เชื่อว่าฉู่หนิงจะกล้าขอของขวัญแรกพบด้วยตนเอง

แต่จากนั้นในแววตากลับเผยความยินดีออกมา

ต้องอย่างนี้สิ!

ฉู่หนิงก็เป็นองค์ชาย ทั้งยังได้รับการแต่งตั้งเป็นจวิ้นอ๋อง ก็ควรจะทัดเทียมกับองค์ชายคนอื่น ๆ

ของขวัญแรกพบนี้ จำเป็นต้องให้!

เมื่อมองเหล่าองค์ชายที่เงียบกริบ ฮ่องเต้ก็ใช้มือขวาลูบเคราแพะใต้คางแล้วแย้มสรวล “พวกเจ้าในฐานะพี่ชาย ตามความสัมพันธ์แล้วก็ควรจะมอบของขวัญแรกพบ”

“อีกทั้งเมื่อครู่พวกเจ้าก็เพิ่งรับของขวัญจากฉู่หนิงไป ตามหลักการแล้วก็ควรจะให้ของขวัญตอบแทนเช่นกัน”

เมื่อฮ่องเต้ตรัสออกมาแล้ว เหล่าองค์ชายก็ไม่อาจจะยืนนิ่งเฉยได้อีกต่อไป

องค์รัชทายาทเป็นคนแรกที่แสดงท่าที “เสด็จพ่อตรัสได้ถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะ ลูกยินดีมอบม้าดีสิบตัวให้แก่น้องสิบแปด!”

ม้าชั้นดีหนึ่งตัวอย่างน้อยก็ต้องราคาสองร้อยตำลึง!

องค์รัชทายาทมอบของขวัญตอบแทน จะให้แค่ม้าตัวเดียวก็คงไม่ได้

แต่ก็ไม่อาจมอบของที่ล้ำค่าเกินไป ม้าสิบตัวจะว่ามากก็ไม่มาก จะว่าน้อยก็ไม่น้อย

องค์ชายคนอื่น ๆ ต่างคำนวณมูลค่าในใจ แล้วพากันก้าวออกมา

“น้องสิบแปด พี่มีร้านขายผ้าสองแห่งทางใต้ของเมืองขอมอบให้เจ้า!”

“พี่มอบร้านตีเหล็กสองแห่งให้เจ้า!”

“พี่มอบผ้าไหมหนึ่งร้อยพับ!”

“พี่มอบไข่มุกราตรีหนึ่งคู่!”

...

แม้ในใจจะไม่เต็มใจ แต่เมื่อฮ่องเต้ผู้เป็นบิดาเอ่ยปากแล้ว ใครเล่าจะกล้าไม่ให้?

เมื่อคิดว่าของล้ำค่าของตนเองถูกฉู่หนิงใช้ชาเขียวแลกไป เหล่าองค์ชายก็รู้สึกพะอืดพะอมราวกับกลืนแมลงวันตายเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น

แต่ฮ่องเต้กลับพอพระทัยอย่างยิ่ง ทรงลุกขึ้นยืนแล้วแย้มสรวลพลางตรัสว่า “ฉู่หนิงเอ๋ย ยังไม่รีบขอบคุณพวกเขาอีก”

“ขอบพระทัยเสด็จพี่ทุกท่าน!” ฉู่หนิงประสานมือคารวะเหล่าองค์ชายด้วยสีหน้าจริงใจ

ฮ่องเต้หัวเราะฮ่า ๆ “อย่างนี้สิถึงจะเหมือนครอบครัวเดียวกัน ต่อไปพวกเจ้าต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อปกป้องต้าฉู่ของเราให้รุ่งเรืองไปร้อยชั่วอายุคน”

“จริงสิ เจ้าเพิ่งมาถึงเมืองหลวง ยังไม่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมที่นี่ เราจะส่งองครักษ์สองนายติดตามเจ้าไป เผื่อว่าเจ้าจะไม่รู้จักทาง”

“ขอบพระทัยเสด็จพ่อ!”

ฉู่หนิงประสานมือคารวะ จากนั้นองครักษ์สองนายก็เดินตามเขาออกไปพร้อมกัน

แต่ในขณะนี้ องค์รัชทายาทฉู่เวยกลับจ้องมองแผ่นหลังของฉู่หนิงที่เดินจากไปอย่างเย็นชา

ไม่สิ พูดให้ถูกคือ เขากำลังจ้องมองกระบี่คู่กายของฮ่องเต้ในมือของฉู่หนิง!

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 100

    ฉู่หนิงถือจอกเหล้าแล้วยิ้ม “ขอบพระทัยเสด็จพ่อที่ช่วยให้ลูกได้แต่งงานในครั้งนี้”ฮ่องเต้พยักหน้าถือจอกเหล้า “จากนี้ เจ้าต้องดีกับท่านหญิงเสิ่นให้มาก”“เสด็จพ่อวางพระทัย ลูกจะไม่ทำให้หว่านอิ๋งต้องลำบากใจ!”“ดี ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”เมื่อเห็นฉู่หนิงเปลี่ยนกระทั่งสรรพนาม ส่วนเสิ่นหว่านอิ๋งไม่แสดงสีหน้าไม่สบอารมณ์ ฮ่องเต้หัวเราะเสียงดังยกจอกเหล้าในมือขึ้นดื่มจนหมดทว่า ในขณะที่ฉู่หนิงเตรียมดื่มคารวะฮองเฮา กลิ่นหอมโชยมาพร้อมเสียงฝีเท้าอย่างรวดเร็วต่อมา เสียงใสกังวานดังขึ้นด้านหลังเขา “ยินดีกับเผิงไหลจวิ้นอ๋องที่หมั้นหมายสำเร็จแล้ว เหล้าจอกนี้ข้าขอดื่มคารวะเจ้า!”ฉู่หนิงเลิกคิ้ว แม้จะแปลกใจอยู่บ้างที่จ้าวเฟยเยี่ยนเป็นฝ่ายเสนอหน้า แต่ก็หันหลังพร้อมหัวเราะเสียงค่อย“นานทีองค์หญิงแห่งต้าจ้าวจะเดินทางมาต้าฉู่ เหล้าจอกนี้ ข้าดื่มหมดจอก!”พูดจบ ฉู่หนิงดื่มจนหมดในคราวเดียวจ้าวเฟยเยี่ยนมุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ยกจอกเหล้าขึ้นดื่มจนหมดในคราวเดียวเช่นกันแม้จะเป็นสตรี แต่ความองอาจบนตัวนางกลับไม่แพ้ชายใดเมื่อดื่มเสร็จ จ้าวเฟยเยี่ยนหันมองเสิ่นหว่านอิ๋ง หยิบกาเหล้ารินเหล้าให้ตัวเองหนึ่งจอก พลางยิ้มแล้ว

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 99

    “ถวายบังคมเสด็จพ่อ ฮองเฮา!”ฉู่หนิงเดินเข้าไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้มรถม้าขบวนเสด็จหยุดลง ฮ่องเต้ที่สวมชุดสีเหลืองทองเป็นฝ่ายเดินลงมาก่อนฮ่องเต้เปลี่ยนจากความน่าเกรงขามในยามปกติที่สวมชุดมังกร เป็นรอยยิ้มที่มีเมตตาของบิดาต่อมา หญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งที่สวมชุดฝ่ายในสีม่วงเดินลงมาจากรถม้าหลวงอย่างเชื่องช้าแม้รูปโฉมนางจะไม่ได้งดงามมากนัก แต่บนตัวกลับมีพลังของความเป็นแม่แห่งแผ่นดินเผยออกมา!นั่นคือฮองเฮาแห่งต้าฉู่ มารดาแท้ ๆ ของรัชทายาทองค์ปัจจุบัน จูซูเหยา!เมื่อมองฉู่หนิงที่ก้มลงทำความเคารพแวบหนึ่ง ดวงตาฮองเฮามีความแปลกใจแวบผ่านช่วงเวลานี้ นางพอจะได้ยินเรื่องราวการกระทำของฉู่หนิงมาบ้าง แต่รู้ว่าฉู่หนิงกำลังจะไปเป็นตัวตายตัวแทนที่แนวหน้า ดังนั้นนางจึงไม่ได้ให้ความสนใจฉู่หนิงมากนักหากไม่ใช่เพราะฮ่องเต้เรียนเชิญด้วยพระองค์เอง นางคงไม่มีทางปรากฏตัวในงานหมั้นของฉู่หนิงครั้งแรกที่เห็นฉู่หนิง มองดูใบหน้าที่ละม้ายกับฮ่องเต้อยู่บ้าง ไม่รู้เหตุใด ในใจกลับรู้สึกประหม่าว่าฉู่หนิงจะชิงบัลลังก์กับลูกชายของนางต่อมาเมื่อนึกได้ว่าฉู่หนิงกำลังจะไปแนวหน้า ความกังวลนั้นก็หายเข้าไปในกลีบเมฆขณะ

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 98

    เมื่อมองดูใบหน้าของจ้าวเฟยเยี่ยนที่โกรธจนหน้าถมึงทึง เหล่าขุนนางหัวเราะเสียงดัง ต่างเยาะเย้ย“องค์ชายกล่าวถูกต้อง องค์หญิงเฟยเยี่ยนช่างเป็นคนดีเหลือเกิน”“ต้นโสมช่างให้ได้เหมาะเจาะ องค์หญิงเฟยเยี่ยน หากครั้งหน้ายังมีต้นโสมเช่นนี้โปรดส่งมาสักหลายต้น!”“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า องค์ชายรับต้นโสมเอาไว้ ได้ประโยชน์ถึงสองทาง!”“สมแล้วที่เป็นต้าจ้าว มั่งคั่งร่ำรวย รู้ว่ายามนี้องค์ชายต้องการต้นโสม ถึงกับนำมามอบให้เอง ถือเป็นการช่วยเหลือกันในยามยาก!”คำพูดของเหล่าขุนนางราวกระบี่คมกริบ เชือดเฉือนใจจ้าวเฟยเยี่ยนอย่างแรงนางไม่เคยนึกไม่เคยฝัน เจ้าฉู่หนิงกลับนึกถึงเหตุผลที่ไร้ยางอายขนาดนี้ได้นางปรามาสฉู่หนิงเกินไป!จ้าวเฟยเยี่ยนแววตาเย็นเยียบ ความทรงพลังทั่วร่างล่มสลายในวินาทีนี้ ไม่มีความกำเริบเสิบสานเหมือนตอนที่เพิ่งมาถึงจวนอ๋องทว่าขณะนั้น เจ้าฉู่หนิงกลัวหัวเราะ “ทำไมองค์หญิงเฟยเยี่ยนไม่พูดซะแล้วล่ะ? หรือไม่เห็นด้วยกับคำพูดของข้า?”จ้าวเฟยเยี่ยนจ้องมองฉู่หนิงครู่หนึ่ง “นึกไม่ถึงว่าองค์ชายจะพูดจาฉะฉานเช่นนี้ กลับเป็นเฟยเยี่ยนที่ไม่รอบคอบ ทว่า วันนี้เป็นวันมหามงคลขององค์ชาย เฟยเยี่ยนไม่ขอโดดเด่นเก

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 97

    ต้นโสมสามร้อยปีหนึ่งต้นทำให้ฉู่หนิงจมสู่ห้วงความคิดทว่าขณะนั้น นอกจวนอ๋องดันมีเสียงฝีเท้าม้าดังขึ้น ขุนนางมากมายต่างทยอยมาถึงแล้วพิธีกรที่เดิมทียืนอยู่หน้าประตูเตรียมเรียกขานสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย เข้ามากระซิบข้างกายฉู่หนิง “องค์ชาย ใกล้ถึงฤกษ์ดีแล้ว เหล่าขุนนางในราชสำนักมาแล้วขอรับ”ฉู่หนิงขมวดคิ้ว เงยหน้ามองไปที่ถนน พบว่ามีขุนนางมากมายบ้างก็ขี่ม้า บ้างก็นั่งเกี้ยวกำลังมุ่งหน้ามาทางจวนอ๋องหากยังมัวร่ำไรอยู่กับจ้าวเฟยเยี่ยน รอให้ทุกคนมาถึง กลับกลายเป็นที่ขบขันของทุกคนระหว่างครุ่นคิด มุมปากจ้าวเฟยเยี่ยนยกขึ้นเล็กน้อย จนเป็นองศาที่น่าตะลึงกลืนไม่เข้าคายไม่ออกละสิ?เหงื่อคงเต็มแผ่นหลังสินะ!ใครใช้ให้เจ้าเป็นอริกับข้า!วันนี้ ข้าจะทำให้เจ้าอับอายขายหน้าต่อหน้าธารกำนัลฮึ กล้าปฏิเสธองค์หญิงอย่างข้า ข้าจะให้เจ้าได้เห็นดีกัน!“แค่โสมต้นเดียวก็ทำให้จวิ้นอ๋องลำบากใจเพียงนี้เชียวหรือ?”จ้าวเฟยเยี่ยนขยับริมฝีปากแดงแผ่วเบา เหลือบมองร่างกายท่อนล่างของฉู่หนิง หัวเราะกล่าวว่า “หรือองค์ชายมีความลำบากที่ยากจะเอื้อยเอ่ย?”คำพูดประโยคหลัง นางเน้นย้ำเป็นพิเศษ!ฉู่หนิงเลิกคิ้ว “องค์หญิงเฟ

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 96

    กลับเป็นเสิ่นหว่านอิ๋งที่มองฉู่หนิงอย่างขอโทษ จากนั้นจึงคล้องแขนมารดาตัวเองเข้าไปพร้อมกันฉู่หนิงลูบจมูกตัวเอง แล้วหัวเราะเจื่อน กลับไม่ได้ซักไซ้อะไรให้มากความ อย่างไรวันนี้เป้าหมายของเขาคือของขวัญของเหล่าองค์ชายและขุนนาง ท่าทีที่เสิ่นฮูหยินมีต่อเขาไม่ใช่เรื่องสำคัญ“ดูแลเสิ่นฮูหยินกับท่านหญิงให้ดี ข้าจะไปต้อนรับทุกคนที่หน้าประตูด้วยตนเอง!”ฉู่หนิงสั่งการเสร็จสรรพ จึงได้พากวนอวิ๋นและจ้าวอวี่สองคนเดินไปต้อนรับหน้าประตูจวนภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูป แขกที่มาร่วมงานคนแรกปรากฏตัวแล้วคนผู้นั้นอยู่ในชุดทะมัดทะแมงสีน้ำเงิน ผมยาวถักเปียเป็นเส้นเล็กมากมาย ปล่อยสยายอยู่บนบ่าและแผ่นหลังดวงตาสดใสมีชีวิตชีวาคู่นั้น เข้าคู่กับใบหน้าที่มีรอยยิ้มจาง ๆ หากไม่ใช่จ้าวเฟยเยี่ยนองค์หญิงสิบแห่งต้าจ้าวจะเป็นใครได้อีก!ฉู่หนิงอึ้งไปชั่วขณะ นึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะมาถึงเป็นคนแรกส่วนกวนอวิ๋นกับจ้าวอวี่สีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย เคลื่อนฝีเท้าไปข้างกายฉู่หนิง หากอีกฝ่ายกล้าก่อเรื่อง พวกเขาไม่ปล่อยไปง่ายๆ แน่!”“ขอแสดงความยินดีกับเผิงไหลจวิ้นอ๋องที่หมั้นหมายในวันนี้ ข้ามาด้วยตัวเอง ไม่ใช่ว่าจวิ้นอ๋องคงไม่อย

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 95

    “อะไรนะ ฉู่หนิงเอาเรื่องที่เรากับฮองเฮาจะไปร่วมงานหมั้นของเขาไปเผยแพร่หรือ?”คืนนั้น ภายในตำหนักอิงอู่ของวังหลวงเสียงประหลาดใจของฮ่องเต้ดังขึ้นมาองครักษ์เงาภายในตำหนักเอ่ยด้วยความเคารพว่า “เรื่องนี้แพร่กระจายในเมืองแล้วพ่ะย่ะค่ะ องค์ชายทั้งหมดกับขุนนางใหญ่ได้ยินข่าวนี้ก็กำลังเปลี่ยนของขวัญที่เตรียมไว้แต่เดิมกันแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ฮ่องเต้ตาเป็นประกายขึ้นมา ทำหน้าเข้าใจทันทีที่แท้ฉู่หนิงทำเพื่อของขวัญแสดงความยินดีที่คนเหล่านี้มอบให้ถึงแม้ว่าเดิมทีอยากเก็บเรื่องเข้าร่วมงานนี้ไว้อย่างเงียบ ๆ ข่มขวัญพวกคนที่อยากจะก่อความวุ่นวายในงานหมั้นเพื่อหนุนหลังฉู่หนิง แต่ในเมื่อฉู่หนิงอยากให้เอิกเกริก เช่นนั้นก็เอาให้เอิกเกริกไปเลยถึงอย่างไรของขวัญแสดงความยินดีที่ฉู่หนิงได้รับพวกนั้นก็ไม่อาจเก็บไว้ได้อยู่ดี ถูกนำไปใช้ในแนวหน้ามากกว่าครึ่งว่าไปแล้วนี่ก็เป็นเรื่องดีสำหรับต้าฉู่เหมือนกัน“ในเมื่อเรื่องแพร่ไปแล้ว เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังแล้ว จ้าวหมิง เจ้าให้กรมวังไปเตรียมราชรถสำหรับอีกสองวันข้างหน้า” “กระหม่อมน้อมรับคำสั่งพ่ะย่ะค่ะ!” จ้าวหมิงรับคำแล้วไปเตรียมการทันทีต่อมา ฮ่องเต้ก็เผยส

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status