Se connecterแต่หากไม่ไล่ตามไป ถูกหลิงเฟยเยียนตำหนิเช่นนี้ รัชทายาทอย่างเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนระหว่างที่จมอยู่ในห้วงความคิด เสิ่นหว่านอิ๋งที่อยู่ด้านหลังโค้งคำนับแล้วกล่าวเสียงเบา “หากองค์รัชทายาทไม่มีเรื่องอะไรแล้ว หม่อมฉันขอตัวก่อนเพคะ”เมื่อเสิ่นหว่านอิ๋งกล่าว ก็เดินออกจากห้องโถงโดยไม่เปิดโอกาสให้องค์รัชทายาทได้ปฏิเสธองค์รัชทายาทมองตามร่างเงาที่อรชรอ้อนแอ้นของเสิ่นหว่านอิ๋งด้วยสีหน้าบึ้งตึงโอกาสที่ดีขนาดนี้ หากพลาดไปทั้งเช่นนี้ เกรงว่าต่อไปเสิ่นหว่านอิ๋งไม่กล้ามาตำหนักบูรพาเพียงลำพังอีกแล้วไปหากลงมือจริง เกิดฉู่หนิงรอดกลับมาได้ จะต้องสู้สุดชีวิตแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้น จะต้องเกิดความสูญเสียทั้งสองฝ่าย มีแต่จะทำให้องค์ชายคนอื่นๆ ได้รับผลประโยชน์ระหว่างครุ่นคิด ร่างเงาของเสิ่นหว่านอิ๋งหายไปจากตรงหน้าแล้ว“ฮึ่ม ถือว่าเจ้าโชคดี!”องค์รัชทายาทกำหมัดอย่างไม่เต็มใจ “ข้าไม่เชื่อหรอกว่าฉู่หนิงจะดวงแข็งขนาดนี้ การลอบสังหารเช่นนี้ โอกาสรอดของเขามีน้อยมาก เมื่อไรที่ยืนยันความเป็นความตายของฉู่หนิงได้แล้ว ข้าจัดการเสิ่นหว่านอิ๋งทันที!”เมื่อกล่าวจบ องค์รัชทายาทหรี่ตาลง มีประกายเหี้ยมเกรียมเสี้ยว
กลางดึก ตำหนักบูรพา ภายในห้องโถงใหญ่สายลมยามค่ำคืนพัดเข้าตามประตู ร่างเงาสายหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับกลิ่นหอมอ่อนๆองค์รัชทายาทเบิกตากว้าง มองผู้มายังไม่เชื่อสายตา “เจ้า……เจ้ามาได้อย่างไร?”พระชายารัชทายาทหลิงเฟยเยียนมององค์รัชทายาทด้วยสีหน้าเฉยเมย “เมื่อครู่พระชายาฉู่อ๋องให้คนไปเชิญข้ามาที่นี่ บอกว่ามีเรื่องสำคัญจะแจ้ง”นางเงียบไปครู่ แล้วมองไปทางเสิ่นหว่านอิ๋ง “ที่แท้เจ้ากำลังหลอกใช้ข้า”หลิงเฟยเยียนไม่ใช่คนโง่ จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าจุดประสงค์ที่เสิ่นหว่านอิ๋งให้คนไปแจ้งตนเองเพื่อรับมือองค์รัชทายาทหากคืนนี้นางไม่มา เสิ่นหว่านอิ๋งยากจะหนีพ้นเงื้อมมือองค์รัชทายาทที่นี่คือตำหนักบูรพา ไม่ใช่จวนฉู่อ๋อง เสิ่นหว่านอิ๋งไม่ได้โชคดีเหมือนครั้งก่อนต้องยอมรับว่าผู้หญิงที่ดูอ่อนแอและสีหน้าอ่อนโยนผู้นี้ เมื่อใช้เลห์อุบายขึ้นมา ร้ายกาจกว่าผู้ชายเสียอีก เสิ่นหว่านอิ๋งจ้องตาที่เย็นชาของหลิงเฟยเยียน แล้วก้มคำนับกล่าว “พระชายารัชทายาทโปรดอภัย ตอนนี้ฉู่อ๋องถูกลอบสังหาร หม่อมฉันไม่มีทางเลือกอื่น จึงใช่แผนนี้”อยู่ต่อหน้าคนฉลาด ไม่มีความจำเป็นต้องเล่นเหลี่ยมใดๆ คืนนี้นางจงใจส่งคนไปแจ้งหลิงเฟยเ
เสิ่นหว่านอิ๋งเข้าใจแล้วที่แท้องค์รัชทายาทอยากให้ตนเองหันสวามิภักดิ์ต่อตำหนักบูรพา สีหน้าเสิ่นหว่านอิ๋งพลันเคร่งขรึม นางกล่าวเสียงเย็น “ความสัมพันธ์ของหม่อมฉันกับฉู่อ๋อง เหนียวแน่นยิ่งกว่าทองคำ ตอนนี้อ๋องฉู่ประสบภัยใหญ่หลวง หม่อมฉันจะหันไปสวามิภักดิ์ผู้อื่นในเวลานี้ได้อย่างไร?ขอบคุณที่องค์รัชทายาทที่เมตตา แต่นี่เป็นเรื่องของหม่อมฉัน ไม่รบกวนองค์รัชทายาทมาเป็นห่วงแล้ว เมื่อกล่าวจบ เสิ่นหว่านอิ๋งก็จะเดินอ้อมองค์รัชทายาทออกไปแต่องค์รัชทายาทกลับไม่ยอมปล่อยนางไป เขาพลิกกายไปยืนขวางตรงหน้าเสิ่นหว่านอิ๋ง แล้วกล่าวอย่างเย้ยหยัน“น้องสะใภ้ต้องคิดให้ดีนะ ตอนนี้นอกจากข้าแล้ว ไม่มีใครสามารถปกป้องความปลอดภัยของเจ้ากับตระกูลเสิ่นอีกแล้ว!”องค์รัชทายาทกวาดมองเรือนร่างอันเย้ายวนของเสิ่นหว่านอิ๋งครู่หนึ่ง แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ขอแค่คืนนี้เจ้ายอมข้า ข้ารับรองว่าต่อให้ฉู่หนิงตายแล้ว เจ้ากับตระกูลก็จะไม่เป็นอะไรและข้ายังสามารถแต่งตั้งเจ้าเป็นพระชายารอง ทำให้การค้าของตระกูลเสิ่นเติบโตยิ่งขึ้น!”โอกาสที่ดีเช่นนี้ ย่อมต้องรวบเสิ่นหว่านอิ๋งกับตระกูลเสิ่นพร้อมกันเลยทันทีที่ฉู่หนิงตาย ข้าไม่เพี
กลางดึก สายลมพัดแผ่วภายในตำหนักบูรพา แสงเปลวเทียนสองแถวสว่างไสวราวกับเป็นตอนกลางวันองค์รัชทายาทเดินวนไปวนมาด้วยสีหน้าตื่นเต้น เขากำลังรอเสิ่นหว่านอิ๋งเข้ามาติดกับดักของตนเองแม้ไม่รู้ว่าฉู่หนิงถูกใครลอบสังหาร แต่ฉู่หนิงในตอนนี้เป็นตายไม่รู้ เสิ่นหว่านอิ๋งจะต้องร้อนใจอย่างที่สุดมนุษย์นี่นะ เมื่อกระวนกระวาย ย่อมทำพลาดได้ง่ายคืนนี้ ข้าจะอาศัยจุดนี้ ทำให้เสิ่นหว่านอิ๋งที่เป็นสตรีอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งต้าฉู่กลายเป็นผู้หญิงของข้าอย่างสมบูรณ์เมื่อนึกถึงใบหน้าที่อันอ่อนโยนของเสิ่นหว่านอิ๋ง และความสัมพันธ์ระหว่างฉู่หนิงกับพระชายารัชทายาทของตนเอง ในใจองค์รัชทายาทก็มีความรู้สึกสาแก่ใจที่ได้แก้แค้นผุดขึ้นกะทันหัน ฉู่หนิงนะฉู่หนิง เจ้าก็มีวันนี้!คืนนี้ข้าจะนำความอัปยศที่เจ้าทำกับข้าคืนกลับไปให้หมด!เสิ่นหว่านอิ๋ง ขอแค่เจ้ากล้ามา คืนนี้ก็อย่าหวังว่าจะได้ออกจากตำหนักบูรพาข้าจะย่ำยีเจ้าตลอดทั้งคืนเลย!เมื่อนึกถึงเรื่องที่น่าตื่นเต้น องค์รัชทายาทพลิกมือขวา ยาขวดหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในมือ เขาเปิดจุกขวด แล้วเทยาสีน้ำเงินเม็ดเล็กๆ ออกมาหนึ่งเม็ดสิ่งนี้ถูกปรุงขึ้นมาเป็นพิเศษ สามารถเสริมสร้
“สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ คือหาทางรู้ให้ได้ว่าอาการของท่านอ๋องเป็นอย่างไร และสืบว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้พ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้เดิมใบหน้ายังเปี่ยมด้วยโทสะ พอได้สดับเช่นนั้นก็สงบลงโดยพลันเหตุลอบสังหารเกิดขึ้นในจวนว่าการมณฑล ไช่ซิงเฉาในฐานะเจ้าเมือง หากมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้จริง ย่อมไม่มีทางเลือกให้ลงมือในจวนว่าการมณฑลอีกทั้งไช่ซิงเฉาเป็นคนหยิ่งทระนง ไม่เคยเข้ากับพรรคฝ่ายใดในราชสำนัก ไม่น่าจะถูกใครซื้อตัวไปได้ความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือมีคนวางแผนไว้ ใช้สินบนล่อลวงหัวหน้าหวัง แล้วส่งสาวใช้คนหนึ่งไปลอบสังหารฉู่หนิงหากลงโทษไช่ซิงเฉาในเวลานี้ ย่อมกระทบต่องานราชการของเมืองตุนหวงเมื่อครุ่นคิดถึงจุดนี้ ฮ่องเต้นิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนตรัสเสียงเย็นชาว่า “เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่!”“เช่นนั้น จงเผยแพร่ข่าวการลอบสังหารฉู่หนิงออกไปทันที ดูปฏิกิริยาของทุกคนในราชสำนัก”“อีกอย่าง รีบส่งข่าวถึงไช่ซิงเฉา ให้เขาจัดคนคุ้มกันนำตัวฉู่หนิงกลับมารักษาที่เมืองหลวง”“กระหม่อมรับพระบัญชา!” องครักษ์เงาตอบรับ จากนั้นร่างของเขาก็หายลับไปในความมืดฮ่องเต้ยืนนิ่งอยู่กับที่ สีหน้าไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ทั้งสุ
“ฝ่าบาท เกิดเรื่องใหญ่แล้วพ่ะย่ะค่ะ ฉู่อ๋องถูกลอบสังหาร ไม่ทราบว่าเป็นหรือตาย!”สามวันต่อมา ตำหนักอิงอู่ พระราชวังองครักษ์เงาที่มีผ้าคลุมปิดบังใบหน้าเข้ามารายงาน แม้มองไม่เห็นสีหน้า แต่น้ำเสียงร้อนรนกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัดบนบัลลังก์ ฮ่องเต้ซึ่งกำลังตรวจฎีกาอยู่ชะงักไป บนพระพักตร์ปรากฏความตื่นตะลึงจากนั้นส่ายหน้าพลางหัวเราะเบา ๆ “ฉู่หนิงเจ้าเด็กนั่นมันเจ้าเล่ห์นัก ไม่แน่ว่านี่อาจเป็นการจัดฉากของเขาก็ได้”สำหรับฉู่หนิง ฮ่องเต้ยังคงเชื่อมั่นในตัวเขาอยู่อีกทั้งฉู่หนิงขึ้นชื่อในเรื่องมากแผนการ และไม่เคยยอมให้ตนเสียเปรียบง่าย ๆ จะถูกคนลอบสังหารได้อย่างไรกันแต่เงาองครักษ์กล่าวเสียงขรึม “ฝ่าบาท เรื่องนี้จริงแท้แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ คนของเราเห็นด้วยตาตนเองว่าฉู่อ๋องเลือดท่วมทั้งกาย และแม่ทัพจ้าวอวี่กับแม่ทัพหร่านหมิงที่ตามไปถึงในตอนนั้น ได้ฟันนักฆ่าจนแหลกเละทันที”ฮ่องเต้พลันอยู่ไม่สุขฎีกาที่เดิมถืออยู่ในพระหัตถ์หล่นลงโดยไม่รู้ตัว พระพักตร์แสดงความตะลึงอย่างยิ่งหากฉู่หนิงปลอดภัย จ้าวอวี่กับหร่านหมิงไม่มีทางโมโหจนฟันคนร้ายจนเละแน่ ย่อมต้องไว้ชีวิตเพื่อสอบสวนทั้งสองเดือดดาลถึงเพียงนี



![จะไม่ทนกับบทบาทนางร้าย [รีไรท์ตอนจบ]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)


