Share

บทที่ 5

Author: สายลมไร้กาลเวลา
“จวิ้นอ๋อง ท่าน...ท่านคงไม่ได้คิดจะขายหอกเล่มนี้ไปด้วยหรอกนะพ่ะย่ะค่ะ?”

“ทำเช่นนี้มิได้เด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ หอกเล่มนี้เป็นของที่ฝ่าบาทเคยใช้เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ ล้ำค่าหาใดเปรียบ ขายไม่ได้เด็ดขาด!”

จ้าวอวี่และกวนอวิ๋นพอเห็นท่าทีของฉู่หนิงก็ร้อนรนขึ้นมาทันที

ขายกระบี่คู่กายของฮ่องเต้ไปแล้ว ฮ่องเต้ไม่ทรงลงโทษ นั่นเป็นเพราะความโปรดปรานที่ทรงมีต่อท่านจวิ้นอ๋องแล้ว

แต่หากจะขายหอกเล่มนี้อีก ฝ่าบาทต้องทรงพิโรธเป็นแน่!

ฉู่หนิงยกยิ้มมุมปาก มองหอกยาวในมือแล้วเอ่ยชมอย่างประหลาดใจ “หอกเล่มนี้เป็นของที่เสด็จพ่อเคยใช้ คงจะมีค่ายิ่งกว่าสินะ!”

“อีกไม่นานข้าก็จะต้องไปทัพหน้าแล้ว หากไม่มีเงินมากพอ ทหารเบื้องล่างที่ไหนจะยอมฟังคำสั่งข้า?”

กวนอวิ๋นและจ้าวอวี่พลันนิ่งเงียบไป

การพ่ายศึกที่แนวหน้า ไม่ใช่เพียงเพราะขาดแคลนเสบียง แต่ยังมีสาเหตุมาจากเบี้ยหวัดทหารไม่เพียงพอด้วย

หากเผิงไหลจวิ้นอ๋องไปมือเปล่า ทหารที่แนวหน้าคนไหนจะยอมฟังคำสั่งขององค์ชายที่ไม่มีทั้งอำนาจ บารมี และเงินทอง?

ทุกสิ่งที่เผิงไหลจวิ้นอ๋องทำ ล้วนทำเพื่อเหล่าทหารที่แนวหน้าทั้งสิ้น!

ในวินาทีนี้ ภาพลักษณ์ของฉู่หนิงในใจของพวกเขาก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

เดิมทีคิดว่าฉู่หนิงเป็นเพียงองค์ชายตัวตายตัวแทน แต่การกระทำของฉู่หนิงกลับพิชิตใจพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์

“เผิงไหลจวิ้นอ๋องทรงห่วงใยในความปลอดภัยของบ้านเมือง ถึงกับยอมขายหอกยาวที่ฝ่าบาทพระราชทานให้ จ้าวอวี่ยินดีนำทางให้ท่านพ่ะย่ะค่ะ!”

ฉู่หนิงยกยิ้มมุมปาก “ไปที่จวนขององค์ชายรองก่อน”

...

ณ พระราชวัง ฮ่องเต้กำลังตรวจฎีกา

ทันใดนั้น องครักษ์เงาก็เข้ามารายงาน “ฝ่าบาท เผิงไหลจวิ้นอ๋องกำลังนำหอกประกายเงินมุ่งหน้าไปยังจวนขององค์ชายรองแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

พู่กันที่กำลังจรดลงบนฎีกาพลันหยุดชะงัก หมึกหยดหนึ่งไหลซึมลงมาบดบังตัวอักษรเป็นวงกว้าง

ฮ่องเต้ทรงกริ้วจนขว้างฎีกาลงบนพื้นอย่างแรง “ฉู่หนิงคิดจะทำอะไร? หรือว่าเขายังคิดจะขายหอกประกายเงินที่เราให้ไปอีกหรือ?”

เจ้าเด็กสารเลวนี่ ไม่รู้หรือไรว่าหอกยาวที่เราพระราชทานให้นั้นสามารถช่วยชีวิตในยามคับขันได้!

องครักษ์เงาตอบอย่างระมัดระวัง “จ้าวอวี่ส่งข่าวมาว่า เผิงไหลจวิ้นอ๋องต้องการขายหอกประกายเงินจริง ๆ เพื่อรวบรวมเงินให้เพียงพอสำหรับไปปลอบขวัญกองทัพทั้งสามที่แนวหน้าพ่ะย่ะค่ะ!”

ฮ่องเต้ที่ยังทรงกริ้วอยู่ถึงกับชะงักงัน

ใช่สิ ฉู่หนิงที่ไม่มีทั้งอำนาจและบารมี จะทำให้กองทัพนับแสนนายที่แนวหน้ายอมเชื่อฟังเขาได้อย่างไรหากไม่มีเงิน

ว่ากันตามจริงแล้ว ราชสำนักยังค้างจ่ายเบี้ยหวัดของทหารที่แนวหน้าอยู่ถึงสามเดือน

ที่แท้ การที่ฉู่หนิงขายทั้งกระบี่และหอก ก็เพื่อรวบรวมเบี้ยหวัด สร้างขวัญและกำลังใจให้ทหาร!

ฉู่หนิงกำลังทำเพื่อบ้านเมืองต่างหาก!

เป็นเราเองที่เข้าใจเขาผิดไป!

“จับตาดูเขาไว้ก่อน เราอยากจะเห็นนักว่าใครหน้าไหนมันจะกล้าซื้อหอกประกายเงิน!”

“กระหม่อมเข้าใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”

...

จวนองค์ชายรอง ณ โถงรับรอง

ฉู่หมิงมองหอกประกายเงินตรงหน้าด้วยดวงตาเป็นประกาย

นี่คือหอกยาวที่เสด็จพ่อเคยใช้เมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ มีความหมายมากกว่ากระบี่คู่กายเสียอีก!

ฉู่หนิงมองพี่ชายของตนเอง บนใบหน้ากลับเผยท่าทีซื่อ ๆ ออกมา

“พี่รอง ท่านชอบหอกเล่มนี้หรือไม่?”

“ชอบ!”

ฉู่หมิงชื่นชมมันจนวางไม่ลง พยักหน้าอย่างไม่ลังเล

“ในเมื่อพี่รองชอบ เช่นนั้นก็ขายหอกเล่มนี้ให้พี่รองก็แล้วกัน!”

ฉู่หนิงเข้าเรื่องทันที “กระบี่คู่กายของเสด็จพ่อขายให้ท่านพี่องค์รัชทายาทไปหกหมื่นตำลึง หอกเล่มนี้ย่อมต้องเหนือกว่ากระบี่คู่กายเล่มนั้น หนึ่งแสนตำลึง พี่รองก็สามารถเก็บหอกเล่มนี้ไว้ได้เลย!”

องค์ชายรองได้ยินดังนั้นก็ร้อนรนขึ้นมาทันที

“ชอบก็ชอบอยู่หรอก แต่หอกเล่มนี้เป็นของที่เสด็จพ่อพระราชทานให้น้องสิบแปด พี่จะแย่งของรักของคนอื่นได้อย่างไรกัน!”

ล้อกันเล่นหรือไร องค์รัชทายาทซื้อกระบี่ไปก็ถูกกักบริเวณ หากข้าซื้อหอกเล่มนี้ไป ไม่รู้ว่าจะถูกเสด็จพ่อลงโทษอย่างไรบ้าง!

ชอบก็ส่วนชอบ แต่ข้าไม่อยากถูกลงโทษนะ

ตอนนี้องค์รัชทายาทกลายเป็นเรื่องตลกของเหล่าองค์ชายไปแล้ว ใครจะกล้าซื้อหอกของเจ้าฉู่หนิงอีก!

ข้าไม่อยากกลายเป็นเรื่องตลกเรื่องถัดไปต่อจากองค์รัชทายาทหรอกนะ

ฉู่หนิงได้ยินดังนั้นก็ทำท่าร้อนใจขึ้นมาทันที “หากพี่รองคิดว่าข้าตั้งราคาสูงไป ท่านก็ต่อรองราคาได้นี่”

“ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ราคา!”

องค์ชายรองคิดจะอธิบาย แต่ก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี ทำได้เพียงส่งหอกประกายเงินคืนไป “เจ้ารีบเอาหอกของเจ้าไปได้แล้ว!”

ตัวหายนะเช่นนี้ เขาไม่อาจยุ่งเกี่ยวได้

“พี่รอง หรือท่านจะให้หกหมื่นตำลึงเท่ากันก็ได้ หอกเล่มนี้ก็จะเป็นของท่าน!”

ฉู่หนิงลดราคาให้เองเสียเลย

มุมปากขององค์ชายรองกระตุก

หากเป็นเรื่องราคาจริง ๆ นั่นไม่นับว่าเป็นปัญหาเลย

แต่นี่มันเกี่ยวกับเรื่องหน้าตา ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ราคาจะแก้ไขได้

“น้ำใจของน้องสิบแปดพี่ขอรับไว้ แต่หอกเล่มนี้พี่รับไว้ไม่ได้จริง ๆ !”

องค์ชายรองถอนหายใจยาว “แต่จะให้น้องสิบแปดมาเสียเที่ยวก็ไม่ได้ พี่มีเงินอยู่ที่นี่หนึ่งพันตำลึง ถือว่าเป็นค่าชดเชยที่พี่ทำให้เจ้าต้องเสียเวลา”

คนรับใช้รีบยกหีบใบเล็กเข้ามาใบหนึ่ง เมื่อเปิดออก เงินก็ถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบอยู่ข้างใน

ฉู่หนิงเห็นเงินแล้วดวงตาเป็นประกาย แต่ภายนอกกลับทำท่าทางผิดหวัง “ก็ได้ ในเมื่อพี่รองไม่ต้องการ เช่นนั้นข้าจะไปถามพี่สามดู”

“ข้ายังมีธุระสำคัญ คงจะไม่ได้ไปส่งน้องสิบแปดแล้ว!”

องค์ชายรองมองฉู่หนิงจากไป พลางเช็ดเหงื่อเย็นบนหน้าผาก

เจ้าตัวหายนะนี่ ในที่สุดก็ไปเสียที

แม้จะถูกรีดไถไปหนึ่งพันตำลึง แต่เมื่อเทียบกับองค์รัชทายาทที่ถูกกักบริเวณแล้ว ไม่รู้ว่าดีกว่ากันกี่เท่า!

จริงสิ เมื่อครู่ฉู่หนิงบอกว่าจะไปหาน้องสามอย่างนั้นหรือ?

เหอะ ๆ ถ้าน้องสามซื้อไป เรื่องคงจะสนุกน่าดู!

ฉู่หนิงไปที่จวนขององค์ชายสามจริง ๆ

แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในจวนขององค์ชายรองได้แพร่ออกไปแล้ว องค์ชายสามจึงพูดกันตรง ๆ ปฏิเสธข้อเสนอขายหอกของฉู่หนิงทันที

แน่นอนว่า เพื่อไล่ฉู่หนิงไปให้พ้น ๆ องค์ชายสามก็ให้เงินหนึ่งพันตำลึงเช่นกัน

เรื่องราวต่อจากนั้นก็ง่ายดายแล้ว เมื่อมีบทเรียนจากองค์ชายรองและองค์ชายสามเป็นตัวอย่าง องค์ชายคนอื่น ๆ ก็เตรียมเงินหนึ่งพันตำลึงไว้ ก่อนที่จะฉู่หนิงจะไปถึงจวนเสียอีก

ทั้งสามคนที่ออกมามือเปล่า ตอนกลับจำต้องซื้อรถม้าหนึ่งคัน บนรถม้าวางหีบใบเล็ก ๆ ไว้เต็มถึงสิบหกใบ

องค์ชายสิบแปดพระองค์ ตัดองค์รัชทายาทและตัวฉู่หนิงเองออกไป คนละหนึ่งพันตำลึง รวมเป็นเงินหนึ่งหมื่นหกพันตำลึง!

เพียงแค่ออกมาข้างนอกรอบเดียว ฉู่หนิงก็ได้กลับไปอย่างเต็มไม้เต็มมือ!

จะไปแนวหน้า หากไม่มีเงินเพียงพอจะได้อย่างไร การหาเงินคือภารกิจอันดับแรก!

และข่าวนี้ก็แพร่ไปถึงพระราชวังอย่างรวดเร็ว

“องค์ชายแต่ละคนให้เงินเขาหนึ่งพันตำลึงเพื่อไล่ไปหรือ?”

ฮ่องเต้เบิกพระเนตรกว้าง “ฉู่หนิงแค่เดินเล่นรอบเดียวก็ได้เงินมามากมายขนาดนี้เชียว?”

องครักษ์เงาพยักหน้า

ฮ่องเต้ทรงกริ้วจนพระหัตถ์สั่นเทา

องค์ชายพวกนี้ ตอนที่เปิดศึกบอกให้พวกเขาระดมเงิน แต่ละคนก็ซุกซ่อนเอาไว้ ไม่อยากจะออกเงินเลยสักนิด

ตอนนี้เพื่อจะไล่ฉู่หนิงไป กลับยอมควักเงินคนละหนึ่งพันตำลึง!

ช่างใจกว้างเสียจริง!

น่าเสียดายที่ความใจกว้างของพวกเจ้าใช้ผิดที่ผิดทาง หากนำไปใช้กับทหารที่แนวหน้า ราชวงศ์ต้าฉู่จะตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้อย่างไร?

ฮ่องเต้ที่ยิ่งคิดก็ยิ่งกริ้ว พลันทุบโต๊ะทำงานอย่างแรง ตวาดเสียงดังลั่น “จ้าวหมิง ถ่ายทอดราชโองการเดี๋ยวนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพของฮองเฮา นอกจากฉู่หนิงแล้ว ให้องค์ชายคนอื่น ๆ ทุกคนคัดลอกพระคัมภีร์ถวายคนละหนึ่งจบ!”

“พ่ะย่ะค่ะ!” จ้าวหมิงรับคำแล้วรีบออกไปถ่ายทอดราชโองการทันที

ส่วนตัวต้นเรื่องอย่างฉู่หนิง ในตอนนี้กลับกำลังมองกวนอวิ๋นและจ้าวอวี่ที่กำลังขนย้ายหีบเงินอยู่ พลางเอ่ยถาม “จวนของข้าใหญ่เกินไป แต่คนน้อยเกินไป พวกเจ้าสองคนพอจะมีใครแนะนำบ้างหรือไม่?”

รีดไถองค์ชายทุกคนไปรอบหนึ่งแล้ว จะไปรีดไถเงินจากคนพวกนี้อีกคงจะยาก ต่อไปคงต้องหาคนมาปกป้องชีวิตน้อย ๆ ของตัวเองแล้ว!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 564

    “แต่ว่า……”ฉู่หนิงเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปทางหนึ่งในจวน แล้วกล่าวอย่างเย้ยหยัน “ก่อนไป ข้าต้องไปพบคนผู้หนึ่งก่อน”เสิ่นหวั่นอิ๋งพยักหน้าเบาๆ “ข้าไปเก็บสัมภาระให้ท่าน”นางรู้ ฉู่หนิงจะไปพบราชครูต้าถังหยวนเทียน!คนผู้นี้ถูกคุมตัวไว้ที่นี่มาหลายวันแล้ว ตอนนี้ฉู่หนิงจะไปจากจวน ย่อมต้องจัดการเรื่องของคนผู้นี้ให้เรียบร้อยฉู่หนิงไปพบหยวนเทียนใช้เวลาไม่นานนัก หลังจากครึ่งชั่วยามก็ออกมาไม่มีใครรู้ว่าฉู่หนิงพูดอะไรกับหยวนเทียน เพียงแต่หลังจากฉู่หนิงจากไป บนใบหน้าหยวนเทียนเผยให้เห็นรอยยิ้มในคืนนั้น หลังจากฉู่หนิงเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็พากองทัพม้าขาวมุ่งหน้าไปยังเมืองตุนหวงและไม่นานข่าวนี้ก็แพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวงขณะเดียวกัน ตำหนักบูรพาภายในห้องโถงใหญ่ที่แสงเทียนสั่นไหว สะท้อนให้เห็นใบหน้าที่เย็นชาและแฝงความอำมหิตองค์รัชทายาทหัวเราะไม่หยุด “รีบไปตายที่เมืองตุนหวงขนาดนี้ เกินความคาดหมายของข้าจริงๆ!แต่เช่นนี้ก็ดี คืนนี้ข้าก็สามารถไปลิ้มรสของพระชายาฉู่อ๋องที่จวนฉู่อ๋องแล้ว!” เมื่อกล่าวจบ องค์รัชทายาทก็พาองครักษ์ข้างกายมุ่งหน้าไปยังจวนฉู่อ๋องทันทีฉู่หนิงแตะต้องผู้หญิงข

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 563

    “หว่านอิ๋ง รีบออกมาเลย ข้ามีของดีจะให้เจ้าดู”จวนฉู่อ๋อง เรือนส่วนหลังฉู่หนิงถือป้ายทองเว้นตายไว้ในมือ เมื่อกลับมาถึงก็ตะโกนเข้าไปในห้อง ทำเอาเสิ่นหว่านอิ๋งที่กำลังฝึกเขียนอักษร หนวกหูจนต้องเดินออกมา“รีบมาดูป้ายทองเว้นตายนี่เร็ว” ฉู่หนิงยื่นป้ายทองออกไปราวกับถวายสมบัติเสิ่นหว่านอิ๋งรับป้ายทองมาดูแวบหนึ่ง บนใบหน้าเผยแววประหลาดใจ “ท่านไปขอป้ายทองเว้นตายนี่มาจากฝ่าบาทได้อย่างไร?” ฉู่หนิงพลันแสยะยิ้ม “ราชวงศ์ต้าโจวเคลื่อนทัพมาทางราชวงศ์ของเรา เสด็จพ่ออยากให้ข้าไปจัดการเรื่องนี้ที่แนวหน้า ข้าจึงใช้เรื่องนี้เป็นเงื่อนไข ขอป้ายทองเว้นตายนี่มา”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าเสิ่นหว่านอิ๋งดูไม่ดีนัก“จะไปแนวหน้าอีกแล้วหรือ?”เสิ่นหว่านอิ๋งคืนป้ายทองเว้นตายให้เขา พลางกล่าวเสียงเย็น “หากไม่เอาป้ายทองเว้นตายนี่ ท่านไม่ไปแนวหน้าได้หรือไม่?”ทั้งสองเพิ่งแต่งงานกันเดือนกว่า ฉู่หนิงก็จะไปแนวหน้าอีกแล้ว เสิ่นหว่านอิ๋งไม่ประหม่าได้หรือหากฉู่หนิงเกิดเรื่องไม่คาดคิดที่แนวหน้า ป้ายทองเว้นตายนี่ยังจะมีประโยชน์อะไร?เมื่อฉู่หนิงได้ยินกลับส่ายศีรษะ พลางกล่าวเสียงเรียบ “นี่เป็นข้อสรุปจากการหารือของ

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 562

    นั่นเป็นเพียงทหารกองหน้าที่มาปูทางเท่านั้น!ครั้งนี้ ดูซิว่าเจ้าจะตายอย่างไร!องค์รัชทายาทที่คิดมาถึงตรงหน้า แสร้งทำหน้าจริงจังกะทันหัน “พูดมาเถิด เงื่อนไขของเจ้าคืออะไร?”บนบัลลังก์ ฮ่องเต้กำลังนั่งตัวตรง และทอดพระเนตรมาทางฉู่หนิงด้วยสีพระพักตร์ที่ประหม่า เพราะกลัวว่าฉู่หนิงจะพูดเงื่อนไขที่เกินเลยออกมาเห็นเพียงฉู่หนิงกล่าวสงบ “เงื่อนไขแรกของข้าก็คือ หากข้าสามารถจัดการเรื่องนี้ได้อย่างเหมาะสม ต่อไปยกเมืองตุนหวงให้ข้าปกครอง เช่นเดียวกับปิงโจว!”องค์รัชทายาทตะลึงงัน คิดไม่ถึงว่าฉู่หนิงจะพูดเงื่อนไขเช่นนี้ออกมาเมืองตุนหวงตั้งอยู่บริเวณชายแดน อากาศร้อนทั้งปี ไม่มีใครอยากไปปกครองสถานที่แห่งนั้นเลยแม้แต่ฮ่องเต้ก็ทรงตรัสอะไรไม่ออกเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าเงื่อนไขแรกของฉู่หนิงจะต่ำเพียงนี้สามารถพูดได้ว่า นี่ไม่นับว่าเป็นเงื่อนไขเลยผู้อื่นไม่อยากไปเมืองตุนจวิน มีเพียงฉู่หนิงที่เสนอฮ่องเต้ขมวดพระขนงเบาๆ “เจ้าคิดดีแล้วหรือ เมืองตุนหวงตั้งอยู่บริเวณชายแดน ผู้คนในพื้นที่ห้าวหาญ ยากต่อการปกครอง!”แต่ฉู่หนิงกลับกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เสด็จพ่อ ก็เพราะปกครองยาก ลูกจึงอยากออกแรงส่วนหนึ่งเพื่อราช

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 561

    “เสด็จพ่อก็เห็นควรส่งลูกไปจัดการเรื่องราชวงศ์ต้าโจวเคลื่อนทัพหรือ?”ฉู่หนิงหวนคืนสติ หมุนกายไปมองฮ่องเต้ที่อยู่บนบัลลังก์ฉู่หนิงไม่เชื่อคำพูดของผู้อื่นต่อให้ออกมาจากปากองค์รัชทายาท ฉู่หนิงก็ไม่เชื่อเช่นกันเมื่อองค์รัชทายาทได้ยินดังนี้ สีหน้าก็เคร่งขรึมจนดูบูดบึ้งเล็กน้อยเจ้าหมอนี่ไม่ไว้หน้าข้าเลย!ระหว่างที่จมอยู่ในห้วงความคิด ฮ่องเต้มองฉู่หนิงอย่างลึกซึ้งแวบหนึ่งอันที่จริงสำหรับบุตรนอกสมรสผู้นี้ของตนเอง ฮ่องเต้ยอมรับว่าค่อนข้างลำเอียงไปทางเขา ซึ่งถือเป็นการชดเชยที่ให้เขาไปเป็นตัวตายตัวแทนเมื่อครั้งก่อนแต่ครั้งนี้ก็เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของต้าฉู่เช่นกัน หากจัดการได้ไม่ดี เป้าหมายต่อไปของราชวงศ์ต้าโจวก็คือต้าฉู่เพื่อต้าฉู่ จึงทำได้เพียงส่งฉู่หนิงไปแนวหน้าแล้วต่อให้ต้องสละฉู่หนิง ก็ยังคุ้มค่าอยู่ดีเสียสละองค์ชายท่านหนึ่งเพื่อบรรเทาโทสะของฮ่องเต้หญิงต้าโจว นับว่าเป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่าเขามีลูกชายเยอะ ตายไปคนหนึ่งก็ไม่กระทบต่อราชวงศ์ต้าฉู่แต่หากราชวงศ์ต้าโจวโจมตีต้าฉู่อย่างเต็มกำลัง เช่นนั้นสถานการณ์ก็ต่างกันแล้วเมื่อชั่งน้ำหนักผลได้เสีย ทำได้เพียงสละฉู่หนิง

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 560

    แม้ฮ่องเต้จะรู้เจตนาของพวกองค์รัชทายาท แต่ตอนนี้มันดูเหมือนจะไม่มีหนทางอื่นที่ดีกว่านี้อีกแล้วบางที การให้ฉู่หนิงมาอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดฮ่องเต้ทรงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แววตาหรี่ลงและทอประกายเด็ดขาด “เด็ก ๆ ไปตามตัวฉู่หนิงมาหารือ!”สิ้นเสียงคำสั่ง หัวหน้าขันทีก็เดินทางไปยังจวนฉู่อ๋องด้วยตัวเองราวครึ่งชั่วยามต่อมา ฉู่หนิงที่ได้รับแจ้งข่าวก็เดินทางมาถึงตำหนักอิงอู่เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าสู่ตำหนัก ฉู่หนิงก็รู้สึกได้ว่าสายตาทุกคู่จับจ้องมาที่ตนตัวเขาที่ยังไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรอดเลิกคิ้วขึ้นไม่ได้ แววตาเผยความประหลาดใจเล็กน้อยประหลาดยิ่งนัก เสด็จพ่อไม่เคยเรียกเขามาร่วมประชุม แต่แล้วจู่ ๆ ครั้งนี้กลับเรียกทุกคนมา หรือว่าจะเกิดเรื่องใหญ่?ฉู่หนิงเดินเข้าไปทำความเคารพด้วยความสงสัย “ถวายพระพรเสด็จพ่อ!”ฮ่องเต้พยักหน้าเล็กน้อย ตรัสด้วยเสียงทุ้มว่า “ไม่ต้องมากพิธี องค์รัชทายาท เจ้าบอกฉู่หนิงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเถอะ”องค์รัชทายาทที่ถูกเรียกชื่อยิ้มเยาะในใจ ก้าวออกไปยืนหน้าฉู่หนิงและบอกข่าวที่ได้รับทราบมาเมื่อครู่ด้วยเสียงราบเรียบฉู่หนิงฟังจบก็ขมวดคิ้วแน่น เผยความรู้สึกประหลาดใจ

  • ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา   บทที่ 559

    “กระไรนะ พวกเขาต้องการให้ราชสำนักเรารับผิดชอบ มิเช่นนั้นจะสังหารชาวเมืองตุนหวงทั้งหมดอย่างนั้นหรือ?”ฮ่องเต้ลุกพรวดขึ้นยืนเมื่อได้ยินเช่นกัน พระพักตร์เต็มไปด้วยความโกรธ “รังแกเกินไปแล้ว รังแกเกินไปแล้วจริง ๆ !”ทั้งที่องค์หญิงเกาผิงถูกไป่หลีซิงฆ่าตายต่างหาก แต่นี่ฮ่องเต้หญิงต้าโจวกลับจะให้ต้าฉู่รับผิดชอบช่างเป็นการกระทำที่ไร้เหตุผลสิ้นดีต่อให้ต้าฉู่จะอ่อนแอลง แต่ก็ไม่อาจยอมให้ผู้ใดมารังแกถึงที่ได้แต่เพิ่งจะสิ้นเสียงฮ่องเต้ มหาราชครูกลับมีสีหน้าเปลี่ยนไป รีบก้าวออกมาประสานมือคำนับ “ฝ่าบาท หากไม่อดทนต่อเรื่องเล็กน้อย จะทำให้เสียการใหญ่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้กำหมัดแน่น จ้องมองไปที่มหาราชครู “ฮ่องเต้หญิงต้าโจวข่มขู่ขนาดนี้ จะเรายอมกล้ำกลืนฝืนทนอย่างนั้นรึ?”มหาราชครูเห็นฮ่องเต้ทรงกริ้วก็ไม่กล้าพูดอีกในขณะนั้นเอง อัครเสนาบดีก็ก้าวออกมาพูดเสียงทุ้ม “ฝ่าบาท หากจะทำศึกก็ส่งได้เพียงแม่ทัพใหญ่กับทหารที่เขาฝึก”“ทว่า หากทำเช่นนั้น เรื่องเสบียงและเบี้ยหวัดก็จะเกิดปัญหา เงินที่เหลืออยู่ในท้องพระคลังก็ไม่พอที่จะรับภาระสงคราม”“อีกอย่าง เสบียงที่สำรองไว้ก็มีไม่มาก อีกไม่นานก็จะถึงช่วยเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status