Share

บทที่ 1041

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
จวนตระกูลฉี

เจ้ากรมฉีเหวี่ยงแขนเสื้อแล้วพูดว่า "ฮูหยินช่างไร้เดียงสา จะเชื่อคำหลอกลวงของซ่งซีซีได้อย่างไร ถ้าฮองเฮาออกหน้าสนับสนุนโรงงานจริงๆ นางจะไม่ถูกพวกขุนนางฝ่ายบุ๋นด่ายกใหญ่หรือ ต่อให้ฮองเฮาไม่ทำอะไร องค์ชายใหญ่ต้องได้ตำแหน่งแน่ๆ เขาเป็นบุตรชายของฮองเฮา และเป็นบุตรคนโตด้วย นอกจากเขาแล้วยังมีใครได้อีกเล่า?"

ฉีฮูหยินใหญ่นั่งอย่างสงบและถามว่า "ในเมื่อเช่นนี้ ทำไมใต้เท้าถึงต้องเล่นงานโรงงานเล่า"

นับตั้งแต่เหตุการณ์ของกู้ชิงเมี่ยว ฉีฮูหยินใหญ่ก็ไม่ได้เรียกเขาว่าท่านสามีอีกเลย เป็นคู่สามีภรรยามาตั้งนาน สุดท้ายก็เกิดความบาดหมางเข้า

เจ้ากรมฉีเม้มปากและไม่พูดอะไร แต่สีหน้าดูจริงจังขึ้นมามาก

ฉีฮูหยินใหญ่รู้เหตุผล แต่เมื่อเขาไม่พูดอะไร จึงพูดโดยตรงว่า "ตอนนี้ฝ่าบาทอายุยังน้อยยังแข็งแกร่งอยู่ การแต่งตั้งราชทายาทจึงเป็นเรื่องแสนไกล มีพระสนมมากมายในพระราชวังและในอนาคตจะมีองค์ชายเพิ่มขึ้นมากมาย หากมีคนฉลาดและมีความสามารถมากกว่าองค์ชายใหญ่ แล้วฝ่าบาทจะเลือกคนอื่นหรือไม่ บัดนี้ที่ฝ่าบาทไม่ยอมแต่งตั้งราชทายาทสักที มีเหตุผลอะไรบ้าง เกรงว่าใต้เท้าจะรู้ชัดเจนกว่าข้านะ แต่มีข้อหนึ่งอย่างเลี่ยงไม่
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Siri Nat
ไม่มีเงินเติมแล่ว
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1042

    นักวิชาการเหล่านั้นได้ส่งบทความไป อาจารย์หยูไม่จำเป็นต้องส่งส่งให้ท่านอ๋องอ่านก่อน เขาก็ปฏิเสธบทความเหล่านั้น ดูเหมือนถูกบังคับ ยังมีอคติต่อโรงงาน และขนาดคำชี้แจงยังดูฝืนใจมาก"พรุ่งนี้มาส่งให้ใหม่ ถ้ายังเป็นแบบนี้ ก็ไม่ต้องมาอีก" อาจารย์หยูพูดอย่างใจเย็นหนึ่งในนั้นที่มีนามสกุลเฉินพูดอย่างขมขื่นว่า "ท่านก็เป็นนักวิชาการด้วย เหตุใดพอมีอำนาจแล้วก็มาเล่นงานนักวิชาการเล่า"อาจารย์หยูใช้คำพูดที่ทั้งสั้นและตรงที่สุดเพื่อแย้งความคิดไม่เอาไหนของพวกเขา "แค่เสียใจที่พวกเจ้าไม่ได้เกิดมาเป็นผู้หญิง และไม่สามารถเข้าใจความยากลำบากของแม่ของพวกเจ้าได้""โรงงานมันเกียวอะไรกับผู้หญิง? นั่นมันสถานที่รับหญิงที่ถูกทอดทิ้ง"อาจารย์หยูพูดอย่างเคร่งขรึม "ถ้าหากมีผู้ชายที่ถูกทอดทิ้งก็ไปได้"พวกเขาต่างตกใจกันว่า "จะมีผู้ชายที่ถูกทอดทิ้งได้อย่างไร คำพูดเช่นนี้น่าขำสิ้นดี"อาจารย์หยูแสดงสายตาดูถูก "ใช่ จะมีผูู้ชายที่ถูกทอดทิ้งได้อย่างไร หรือว่าผู้ชายทุกคนในโลกที่มีศีลธรรมอันสูงส่ง ดีกว่าผู้หญิงมากหรือ?""ผู้ชายก็ยากลำบาก ต้องประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน เลี้ยงดูภรรยาและบุตร มีหรือที่ไม่ได้…"อาจารย์หยูถ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1043

    ซ่งซีซีขมวดคิ้ว มันเกี่ยวข้องกับนางซูจริงๆนางไม่อยากให้เป็นนางซูมากที่สุด เพราะรู้ว่าที่ผ่านมานางใช้ชีวิตยากลำบากในจวนโหวด้วย ต้องดูแลบ้านก็ต้องมีลูกและอบรมสั่งสอนลูกๆ ด้วย เจียอี้มักจะวิพากษ์วิจารณ์นางอย่างรุนแรง แม้ว่านางจะเป็นหลานสาวของฮูหยินผู้เฒ่า แต่ว่าไปก็ไม่ใช่ภรรยาเอก ดูแลฝ่ายใน ไปสุงสิงคนภายนอก แต่ก็ยังไม่เหมาะสมสักเท่าไรเสิ่นว่านจือก็ปวดหัวเช่นกัน "ทำอย่างไรดี อย่าบอกนะว่าเป็นนางจริงๆ ถ้าเป็นนางละก็... คนๆ นี้ก็ตายไปแล้ว เมื่อผลออกมาแล้วโหวผิงหยางและฮูหยินผู้เฒ่าจะเชื่อเหรอ อีกอย่างตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่าเป็นแผนการของนางซูก่อนตาย แค่คำสารภาพของสาวใช้คนหนึ่งก็ไม่เพียงพอ เรียกได้ว่าสาวใช้คนนั้นถูกข้าบังคับเลย"ซ่งซีซีคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "งั้นให้หัวหน้าลู่ไปชวนพ่อบ้านเฟินมาอีกครั้ง ครั้งนี้ให้เรามาถามเอง""ก็ต้องทำเช่นนี้แล้วแหละ เพราะทุกอย่างได้ถูกจัดการโดยพ่อบ้านเฟิน เขาคงไม่เล่นงานเจียอี้อย่างไร้เหตุผลแน่นอน ข้าคิดว่ามีคนอยู่เบื้องหลัง"ซ่งซีซีเรียกตัวหัวหน้าลู่มาก่อน จากนั้นทำความเข้าใจพ่อบ้านเฟินให้ดีก่อน พอจะคาดเดาได้บางส่วนแล้วเมื่อหัวหน้าลู่ได้ยิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1044

    ลูกศิษย์ของหมอมหัศจรรย์ดัน มีชื่อเสียงในแวดวงการแพทย์จึงรู่ข่างต่างๆ นานาเร็วกว่าเนื่องจากเหตุดารณ์ของเจียอี้และเรื่องของโรงงานกลายเป็นเรื่องใหญ่เข้า จึงมีหมอมากมายพูดคุยเรื่องนี้อยู่ ทั้งยังมีคนตั้งคำถามว่ากินยาระบายหนึ่งชามก็ทำให้แท้งได้อย่างไรจากนั้นมีคนหนึ่งก็พึมพำว่า "เอาแต่กินแกงหญ้าฝรั่นผสมโสมซานชีมาตลอด จะไม่แท้งได้อย่างไร อาจไม่รอดชีวิตก็ว่าได้"ประโยคนี้ถูกส่งต่อไปๆ มาๆ สุดท้ายก็ถึงหูของหงเชวี่ย มันเกี่ยวข้องกับโรงงานแน่นอนว่าหงเชวี่ยต้องตรวจสอบดู จากนั้นถึงรู้ว่าคนที่พูดคำพูดนี้คือลูกศิษย์ของหมอหลิวที่จ่ายยาให้หมอหลิวถือว่าเป็นหมอประจำจวนของจวนโหวผิงหยางแล้ว แต่เขายังคงมีโรงหมอเล็กๆ เป็นของตัวเองและเลี้ยงศิษย์สองสามคนเอาไว้หงเชวี่ยตรวจสอบและถามถามเพิ่มเติม หลังจากสอบสวนหลายครั้งแล้วถึงพบว่าหมอหลิวได้รับคำสั่งจากบางคน และยาที่จัดส่งไปจวนโหวนั้นได้ใส่โสมซานชีและหญ้าฝรั่นไปบ้าง ผสมกับยาอื่นๆ ใช้ลำไยและพุทราแดงเพื่อกลบรสชาติณ ตึกว่างจิงชายวัยกลางคนที่มีผมหนาเล็กน้อยบนขมับของเขากำลังพูดคุยกับ หัวหน้าลู่ เกี่ยวกับ จวนโหว คำพูดของเขายังคงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ "ถ้าไม่ใช

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1045

    พ่อบ้านเฟินยังคงเงียบ โดยคาดเดาว่านางรู้มากน้อยแค่ไหน โดยกลัวว่านางกำลังหลอกลวงตนเองอยู่เสิ่นว่านจือพูดเสียงดังว่า "ไม่เห็นจะยากเลย นำตังเขาไปสำนักรัฐเลย ต่อให้เป็นคนตาย ต่อมันเป็นเรื่องที่คนๆ นั้นทำเองก็ต้องให้คำชี้แจงให้""ไม่!" พ่อบ้านเฟินคุกเข่าลงเมื่อเขาได้ยินคำพูดนี้ มีสีหน้าหวาดกลัว "นี่ไม่เกี่ยวอะไรกับฮูหยินรอง ฮูหยินรองจากไปแล้ว ไม่สามารถทำให้ดวงวิญญาณของนางไม่สงบสุข หวังว่าพระชายาเมตตาให้ ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของข้าน้อย ส่งคนไปทำลายชื่อเสียงของโรงงานก็เป็นฝีมือข้าน้อยขอรับ"ซ่งซีซีมองเขาอย่างเย็นชา "คุณหนูเสิ่นยังไม่ได้เอ่ยถึงนางซูด้วยซ้ำ เจ้ากลับหุนหันพลันแล่นที่เอ่ยถึงนาง แจ้งความเถอะ"พ่อบ้านเฟินเอาหน้าผากแตะพื้นไม่หยุด เขาตระหนกแล้วจริงๆ "ไม่ได้เด็ดขาดขอรับ พระชายาจะให้ข้าน้อยทำอะไร ข้าน้อยก็จะทำตาม ต่อให้ให้ข้าน้อยตายข้าน้อยก็ยอมเลยขอรับ"ไม่ได้นำตัวไปส่งที่สำนักรัฐ แต่ได้รู้ความจริงจากหงเชวี่ยและพ่อบ้านเฟินมาเกือบทั้งหมดแล้ว ที่เหลือเล็กน้อยนั้นไม่รู้ว่าแม่ลูกโหวผิงหยางจะรู้แผนการของนางซูหรือไม่ จะได้ช่วยปกปิดด้วยหรือไม่นางซูวางแผนเรื่องทั้งหมดนี้อยู่เบื้องหลังจริ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1046

    ซ่งซีซีและเสิ่นว่านจือพาพ่อบ้านเฟินไปที่จวนโหวผิงหยางตั้งแต่นางซูจากไปแล้ว สุขภาพของฮูหยินผู้เฒ่าก็แย่ลงยิ่งขึ้น หลังจากจัดการงานศพเสร็จ นางก็ล้มป่วยเลยเมื่อซ่งซีซีมาถึง ฮูหยินผู้เฒ่าเพิ่งกินยาเสร็จและนั่งพิงบนเตียง จ้านเส้าฮวนกำลังดูแลนางอยู่ นางไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองซ่งซีซี แต่ในใจก็เหมือนกำลังมีพายุพัดอยู่เพราะซ่งซีซีมาเยี่ยมถึงที่ได้บอกว่ามาเพื่อเรื่องของเจียอี้ อีกทั้งยังพาพ่อบ้านเฟินมาด้วยคนที่จ้านเส้าฮวนเกลียดมากที่สุดก็คือซ่งซีซี และนางจะไม่มีวันให้อภัยนางได้เลยในชีวิตนี้แต่ไม่ว่านางจะเกลียดมากแค่ไหน แต่ก็กลัวซ่งซีซีอยู่ในใจ ด้วยสถานะปัจจุบันของซ่งซีซี หากนางต้องการกำจัดอนุคนหนึ่งจากจวนโหวผิงหยาง มันง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากตอนแรกฮูหยินผู้เฒ่าเคยปฏิเสธจดหมายขอพบของซ่งซีซีมาก่อน ส่วนคราวนี้ทางจวนโหวเพิ่งจัดงานศพเสร็จนางก็มาหา ฮูหยินผู้เฒ่ารู้ว่าเพราะเรื่องของเจียอี้ส่งผลกระทบต่อโรงงานเย็บปักซู่เจิน และเรื่องนี้ต้องการให้จัดการดังนั้นเมื่อซ่งซีซีเข้ามา นางรับผ้าเช็ดหน้าที่จ้านเส้าฮวนยื่นให้เพื่อเช็ดยาที่เหลือตรงมุมปาก และพูดอย่างอ่อนแรงว่า "พระชายามาที่นี่เพราะเรื่องข

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1047

    จวนโหวผิงหยางใช้เวลาหนึ่งคืนเพื่อสำรวจทุกอย่างให้ชัดเจนหลังจากสอบสวนชัดเจนแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่าก็ตามหาโหวผิงหยางมา และบอกแผนการของตนเองว่า "หย่ากับจ้านเส้าฮวน และรับเจียอี้กลับมา ในขณะเดียวกันก็ตามหานักเล่าเรื่องพวกนั้นมาบอกความจริงให้พวกเขารู้และให้พวกเขาออกไปชี้แจง"จริงๆ แล้ว ในใจของโหวผิงหยางก็ไม่ชอบเจียอี้มาก เขาไม่อยากไปรับเจียอี้กลับ และไม่เห็นด้วยกับการกระทำของฮูหยินผู้เฒ่าเช่นกัน"ลูกไม่เห็นด้วย ไหนๆ ก็ผิดแล้วควรเล่นไปตามน้ำ ปกติลูกมักจะถูกนินทาเนื่องจากเรื่องของกู้ชิงเล่อ กว่าจะไล่นางออกไปแล้วได้สงบสักที คนนอกจะลือกันอย่างไรก็ไม่เกี่ยวอะไรกับจวนโหวของเรานี่ มันมีแต่ด่าทอกู้ชิงเล่อ หากเราไปชี้แจง ไม่เพียงแต่ทำให้ทางจวนโหวสูญเสียชื่อเสียง ยังทำให้ชื่อเสียงของอาหลูเสียหาย ถึงยังไงนางเป็นหลานของท่านแม่ เป็นแม่ของหลานท่าน ท่านแม่ทำเช่นนี้ก็ใจร้ายไปหน่อย ไม่ว่ายังไงลูกจะไม่ไปรับนางเลย หย่าก็คือหย่าแล้ว"ฮูหยินผู้เฒ่าโหวผิงหยางมองดูเขาและรู้สึกอึดอัดใจมากอีกทั้งก็รู้สึกเศร้าอย่างยิ่งเช่นกันเขามีหัวตัวหนึ่งและตาคู่หนึ่ง แค่ดูเป็นมนุษย์เฉยๆ เท่านั้น เขาไม่ได้ใช้สมองคิดและไม่ลืมตาด

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1048

    ข่าวลือก็ยุติลงหลังจากนั้นไม่กี่วันความคิดของคนเราก็แปลกด้วย หลังจากประสบกับข่าวลือและการโจมตีด้วยวาจาไม่รู้จบ บางคนก็เริ่มพิจารณาความหมายของโรงงานเย็บปักซู่เจินอย่างจริงจังอาจเป็นเพราะบทความของนักวิชาการเหล่านั้นได้ผล ผู้เรียนบางคนก็อ่านใจความในแง่ดีอย่างกับนักเล่าเรื่องของร้านชาว่า จะว่าไปโรงงานเย็บปักซู่เจินนั้นก็แค่ให้ทางออกทางหนึ่งแก่เหล่าผู้หญิงที่ถูกหย่า และไม่ใช่เรื่องเลวร้ายที่ผิดคุณธรรมอะไรสักหน่อย หรือว่าพวกสุภาพบุรุษไม่มีความเมตตากรุณาเช่นนี้เหรอ?แต่คนที่คิดเช่นนี้ก็มีแค่ส่วนน้อย คนส่วนมากยังคงไม่เห็นด้วยกับมัน แต่พวกเขาก็ไม่ได้ต่อต้านหรือดูหมิ่นมันมากเหมือนแต่ก่อน และสามารถตั้งสติมาวิเคราะห์อย่างใจเย็นในเวลานี้ เซี่ยหลาน ท่านหญิงหยงอันเข้าสู่โรงงานเย็บปักซู่เจิน นางประกาศว่าตนเองจะออกจากจวนอ๋องฮวย ตัดขาดความสัมพันธ์เป็นพ่อลูกกับอ๋องฮวย จากนี้ไปโรงงานก็จะเป็นบ้านของนางการตัดสินใจนี้ นาง นางไม่ได้คิดขึ้นมาอย่างกะทันหันตอนที่ไม่มีใครยอมเข้าพักโรงงาน นางก็อยากไปแล้ว ได้ปรึกษากับศิษย์พี่ซือโซและศิษย์พี่หลัวมาหลายครั้ง พวกนางคัดค้าน โดยคิดว่ามันดูจงใจไปหน่อย ช่วยโร

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1049

    ใบหน้าของเจียอี้ค่อยๆ มีชีวิตชีวาขึ้นมา มีสีหน้าหงุดหงิด "โอ้ย ข้าพูดกับเจ้าตั้งกี่ครั้งแล้วว่าอย่าจู้จี้ อย่าจู้จี้อย่ามาพูดไม่หยุด เจ้าทำตัวเช่นนี้มันน่ารังเรียจนะ หากข้าเป็นนายหญิง ข้าไม่เอาคนใช้อย่างเจ้าหรอก"ป้าซุนโต้แย้งกลับว่า "งั้นเจ้าก็กลับไปเป็นนายหญิงของเจ้าแล้วหาคนใช้ที่เอาใจเอาใจคอยรับใช้เจ้าสิ"เจียอี้สบถขึ้นมา "แน่นอนว่าข้าจะกลับ มีชีวิตดีๆ ไม่ใช้ อยู่ที่นี่ต่อมาให้คนใช้อย่างเจ้ารังแกหรือไง""ไปๆๆ ไม่ต้องเก็บเสื้อผ้าข้าวของอะไร กลับไปมีแต่ใช้ของดีๆ" ป้าซุนกล่าวเจียอี้เงยหน้าขึ้นทันที "ข้าขอเตือนเจ้า อย่าคิดจะแตะต้องเสื้อผ้าของข้า ในเมื่อมอบให้ข้าแล้ว งั้นก็เป็นของข้าแล้ว"ป้าซุนทั้งยิ้มและดุว่า "เจ้านี่ใจแคบจริงๆ เสื้อผ้าพวกนั้นเอากลับไปก็ใส่ไม่ได้ จะเอาไปทำไม เสื้อผ้าที่คนใช้ของทางจวนโหวก็ไม่ยอมใส่ด้วยซ้ำ"เจียอี้กล่าวว่า "ไม่ว่าจะใส่หรือไม่ใส่ ข้าก็จะเอากลับไป""ก็ได้ๆๆ งั้นข้าไปจัดเก็บให้ รีบกลับไปเถอะ" ป้าซุนหันหลังกลับ"หยุดนะ" เจียอี้กระโดดขึ้น ทำหน้าตาเหมือนเสือโคร่ง "อย่าแตะต้องสิ่งของของข้า ข้าจะจัดเก็บเอง"นางพูดอย่างนั้น จากนั้นก็วิ่งกลับไปห้องของตนเ

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1614

    สนมฮุ่ยไทเฟยย่อมมีฐานะมั่นคงเช่นนี้ หลายปีมานี้ไม่ค่อยมีค่าใช้จ่าย รายรับกลับมากไม่น้อยเบี้ยหวัดจากในวัง ของกำนัลจากทุกบ้าน อีกทั้งบรรดาลูกหลานที่โตแล้วต่างก็สามารถตัดสินใจเองได้ บรรดาผู้ที่กตัญญูต่อท่านมีไม่น้อย โดยเฉพาะเสิ่นว่านจื่อ ยิ่งกตัญญูไม่ยั้งมือสำหรับหลานสาวคนเดียวนี้ ท่านไม่มีสิ่งใดที่เสียดายเลย คำพูดที่มักติดปากคือ เมื่อท่านสิ้นไป สมบัติทั้งปวงย่อมตกเป็นของหลานสาวบัดนี้เมื่อแม่ลูกสองคนไปถึงที่อยู่ของท่าน ท่านก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถึงเรื่องที่เซี่ยเจิงจะไปภูเขาเหม่ยชานฝึกวรยุทธ์อีกครา"ไม่ใช่ว่าข้าไม่เห็นดีเห็นงาม เพียงแต่การไปนานถึงเพียงนั้น ปีหนึ่งกลับมาได้ไม่กี่ครั้ง อนาคตยังบอกว่าจะออกไปผจญภัยอีก เด็กหญิงน้อยๆ เช่นนี้ จะไปฝ่าโลกภายนอกได้อย่างไร? ข้าขัดท่านพ่อของเจ้าไม่ไหว เขาเป็นคนไม่เข้าใจโลก พูดอะไรก็ไม่เคยพูดให้เข้าใจได้ ข้าก็ไม่มีทาง""ท่านยาย หลานไม่ใช่เด็กสาวบอบบางหรอกเจ้าค่ะ ท่านลองดูหมัดของหลานเถิด" เซี่ยเจิงชูหมัดขึ้น โบกไปมาอยู่ตรงหน้าสนมฮุ่ยไทเฟย กล่าวอย่างภาคภูมิว่า "หมัดนี้ของหลาน แม้แต่หมูป่ายังต้องสลบเหมือด"สนมฮุ่ยไทเฟยทอดถอนใจ "บุตรีบ้านอื่น มือเอา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1613

    สองสามีภรรยาเอ่ยถึงเรื่องราวในอดีต ยิ่งพูดยิ่งรู้สึกอบอุ่นในใจ โดยเฉพาะซ่งซีซี ที่แต่เดิมรู้สึกว่าการแต่งงานครั้งนั้นเป็นการถูกบังคับ แต่ใครจะคาดคิดว่าจะได้พบกับความสุขเช่นวันนี้ช่างเป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดานักทันใดนั้นก็มีคนวิ่งพรวดพราดเข้ามาทางประตู ยังไม่ทันเห็นหน้าชัด ก็โผเข้ากอดเซี่ยหลูโม่แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นยินดี "ท่านพ่อ ของขวัญพิธีปักปิ่นที่ท่านมอบให้ข้านั้น ข้าชอบมากนัก ขอบคุณท่านพ่อ ข้ารักท่านพ่อที่สุดเลยเจ้าค่ะ"เซี่ยหลูโม่กล่าวว่า "ยังคงซุกซนเช่นเดิมหรือ? โตเป็นสาวแล้ว ต้องสุขุมให้มากหน่อย"แม้ว่าจะเอ่ยเช่นนั้น ทว่าดวงตากลับเปี่ยมด้วยความเอ็นดู มือช่วยจัดปิ่นที่นางสวมในพิธีปักปิ่นให้เรียบร้อย แล้วเอ่ยต่อว่า "เครื่องประดับหัวทับทิมแดงนั่นเจ้าไม่ชอบหรือ? ท่านแม่ของเจ้าตั้งใจเลือกให้นัก""ชอบเจ้าค่ะ ชอบทุกอย่างเลย" เซี่ยเจิงยิ้มจนตาหยี รักทุกสิ่งที่พ่อแม่มอบให้เซี่ยหลูโม่มองรอยยิ้มของบุตรสาวแล้วพลันรู้สึกเคลิ้มใจบุตรสาวยิ่งโต ยิ่งเหมือนซ่งซีซี ในวันแรกที่พบซ่งซีซีที่ภูเขาเหม่ยชาน นางก็ยิ้มเช่นนี้แต่หลังจากนั้น นางก็แทบไม่เคยยิ้มแบบนี้อีก ต่อ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1612

    สายหมอกเย็นยะเยือกปกคลุมยอด ดอกเหมยเบ่งบานหลายคราเซี่ยเจิงมีพรสวรรค์ทางวรยุทธ์สูงส่งนัก เรื่องนี้เรียกได้ว่าเก็บข้อดีของเซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีมาไว้ทั้งหมดเหรินหยางอวิ๋นสามารถกล่าวได้อย่างภาคภูมิใจว่า เซี่ยเจิงคือลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์สูงสุดในบรรดาศิษย์ทั้งหลายของภูเขาเหม่ยชานอูโซเว่ยเองก็ไม่อาจปฏิเสธเรื่องนี้ได้ เมื่อนางถูกเซี่ยเจิงถามว่าใครเก่งกว่ากัน ระหว่างนางกับท่านพ่อ อูโซเว่ยได้แต่ตอบอย่างเลี่ยงๆ ว่า "พอๆ กัน ต่างก็มีข้อดี"วรยุทธ์ของเซี่ยเจิงที่ฝึกฝนมาจนถึงวันนี้ หาได้มาจากเพียงหมื่นสำนักเท่านั้นนางได้ร่ำเรียนจากทุกฝ่ายในภูเขาเหม่ยชานเมื่อนางมาถึงภูเขาเหม่ยชาน ยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อย ผิวขาวเนียนราวหยก รอยยิ้มหวานละมุน ผู้ใดเห็นก็ต้องเอ็นดูนางช่างพูด ช่างคุ้นเคยเร็ว อีกทั้งปากหวานนัก หลอกล่อให้บรรดาหัวหน้าสำนักต่างถ่ายทอดวิชาให้หมดเปลือกเดิมทีนางมีนิสัยซุกซน แต่ด้วยการมุ่งมั่นฝึกวรยุทธ์ และฝึกฝนวิชาเนื้อใน จิตใจก็สงบนิ่งขึ้นมากครั้นถึงปีที่สิบห้า นางได้เข้าพิธีเก็บปิ่นพิธีเก็บปิ่นจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ของขวัญย่อมหลั่งไหลมาดังสายน้ำ ส่งเข้ามาไม่ขาดสายซ่งซีซีได้มอบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1611

    แสงแดดสาดลงบนกิ่งไม้ ใต้พุ่มใบหนาแน่น เผยให้เห็นขาเล็กๆ คู่หนึ่งแกว่งไปมา ดูแล้วชวนให้รู้สึกสบายใจนักนางมีนามเดิมว่าเซี่ยเจิง ชื่อนี้จารึกอยู่ในหยกพงศ์ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นชื่อเล่นว่าจิ้งเหยียนว่ากันว่าเพราะมารดาของนางรังเกียจที่นางพูดมาก จึงตั้งชื่อนี้เพื่อกดทับให้นางสงบลงเซี่ยเจิงเองเห็นว่าตั้งชื่อนี้ก็เปล่าประโยชน์ อีกทั้งฟังดูไม่น่าฟัง จิ้งเหยียนก็คือการเงียบงัน เช่นนั้นแล้วนางมีปากไว้ทำไม หากไม่ได้พูด เอาแต่กินหรือ?เช่นนั้นไม่ต้องกินจนอ้วนกลมไปหรอกหรือ?“ท่านหญิงของข้า ท่านอยู่ที่นี่เอง หาเสียจนข้าเหนื่อย” เป่าจูเงยหน้าขึ้นจากใต้ต้นไม้ ทั้งโกรธทั้งขบขัน “รีบลงมาเถิด ท่านอ๋องกับพระชายากำลังตามหาท่านอยู่”“ท่านอาเป่าจู พวกเขาเรียกหาข้าด้วยเรื่องอันใดกัน?” เสียงใสๆ ดังลงมาจากบนต้นไม้ แฝงด้วยความสบายใจและอิ่มหนำ“พระชายาจะไปภูเขาเหม่ยชาน บอกว่าจะพาท่านไปด้วย ท่านอยากไปหรือไม่?” เป่าจูเอ่ยเซี่ยเจิงได้ยินดังนั้น ก็รีบลื่นไถลลงจากลำต้นไม้ สองข้างไหล่มีเจ้าสุนัขจิ้งจอกสีขาวสองตัวเกาะอยู่ นางยิ้มดีใจกล่าวว่า “จริงหรือ? เช่นนั้นรีบไปเถิด”สองสุนัขจิ้งจอกนั้น ตัวหนึ่งชื่อเซวียนเช

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1610

    เพียงแต่ ข้าก็รู้ดีว่าในใจของซ่งซีซีไม่ได้มีเสด็จน้อง นางเลือกแต่งกับเสด็จน้อง ก็เพียงเพราะไม่อยากเข้าวังถวายงานแม้นไม่ใช่สามีภรรยาที่จิตใจเป็นหนึ่งเดียว เช่นนั้นข้าจึงแต่งตั้งซ่งซีซีเป็นแม่ทัพใหญ่กองทัพซวนเจีย ให้รับผิดชอบดูแลกองทัพซวนเจียแทนในสายตาของผู้อื่น กองทัพซวนเจียยังคงอยู่ในมือของสามีภรรยาคู่นี้ ข้าไม่ได้ตัดอำนาจของเสด็จน้องเพิ่มเติมเมื่อมองในขณะนั้นแล้ว นับเป็นความคิดที่แยบยลอย่างยิ่งแต่ข้ากลับไม่คาดคิดว่าสามีภรรยาจะไม่ใช่คู่ที่ใจไม่ตรงกันเสมอไป เมื่อนานวันเข้าย่อมเกิดความรักใคร่ อีกทั้งผลประโยชน์ก็เป็นหนึ่งเดียวกันข้าไม่รู้เลย เพราะข้ากับฮองเฮาแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ได้ใจตรงกัน ข้าเองก็ไม่เคยไตร่ตรองเรื่องของสามีภรรยาแต่โชคดีที่ แม้ว่าพวกเขาสองสามีภรรยาจะรักใคร่กันภายหลัง แต่ก็ไม่เคยเกิดความทะเยอทะยานที่คิดจะชิงอำนาจเป็นข้าที่ระแวงเกินไปเดิมที ข้าเห็นว่าซ่งซีซีแม้จะมีวรยุทธ์สูงส่ง แต่การบัญชาการกองทัพซวนเจียย่อมลำบาก อีกทั้งมีผู้ไม่ยอมรับนางมากมาย ข้าคิดว่านางอาจถอดใจในสามหรือห้าเดือน เช่นนั้นข้าก็จะหาคนใหม่มาแทนที่แต่ไม่คาดเลยว่า เหล่าทหารหัวแข็งในกองทัพซวนเจี

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1609

    แต่!แต่คนหนึ่งจะมีจิตใจที่มั่นคงและกล้าหาญได้อย่างไรเล่า?ใครจะคิดว่าในวันนั้นซ่งซีซีไม่ได้รับความไว้วางใจจากข้า แต่กลับขี่ม้าไปยังหนานเจียงเพื่อแจ้งข่าวให้เสด็จน้องทราบนี่เป็นเรื่องใหญ่ที่น่าตกใจและน่าทึ่งจริงๆ!หญิงที่หย่าร้างออกจากบ้าน ไม่มีผู้ติดตามหรือองครักษ์ กล้าบุกเข้าไปในค่ายทหารหนานเจียง ความกล้าหาญและความเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ในราชสำนักนี้ไม่มีใครทำได้หลายคนเสด็จน้องและข้าก็ต่างกัน เขาเชื่อในตัวซ่งซีซี และเตรียมทัพก่อนเวลา เพื่อรับมือกับกองทัพพันธมิตรแคว้นซาและซีจิงสนามรบจะอันตรายแค่ไหน ข้ารู้ดีไม่ต้องเล่ารายละเอียดเมื่อข่าวดีในการยึดหนานเจียงมาถึง น้ำตาไหลนองหน้าข้าหลังจากนั้นเสด็จน้องส่งคำกราบทูลเพื่อยกย่องทหารซ่งซีซีและพรรคพวกของนางแน่นอนว่าเป็นผู้มีคุณูปการใหญ่ ข้าจะให้รางวัลแก่พวกเขาแต่จ้านเป่ยว่างและยี่ฝางกลับทำให้ข้าผิดหวัง ข้าจึงต้องคิดอย่างลึกซึ้งถึงเหตุผลที่คนจากซีจิงทำลายข้อตกลงในสนามรบหนานเจียงข้าก็ไม่ใช่คนที่เริ่มคิดเรื่องนี้ในเวลานี้ แต่การแบ่งเขตแดนของเส้นแนวกั้นหลิ่งหลิงก็เป็นหนึ่งในผลงานการบริหารของข้า ข้าจึงพอใจในใจคนเรามักจะโลภ แต่ก็ต้องรู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1608

    เมื่อครั้งที่ข้าขึ้นครองราชย์ การศึกชิงคืนหนานเจียงก็ดำเนินมาแล้วหลายปี ชายแดนเฉิงหลิงก็ยังไม่สงบ ส่งผลให้ท้องพระคลังร่อยหรอ ราษฎรพลัดถิ่นไร้ที่อยู่อาศัยยามที่ข้าสวมอาภรณ์มังกร ประทับเหนือบัลลังก์มังกร ก็ลั่นวาจาในใจว่า ถึงจะไม่อาจเปรียบได้กับสมเด็จพระบรมราชบุพการีผู้ทรงพระปรีชาสามารถ แต่ข้าก็จะไม่เป็นจักรพรรดิที่โง่เขลาไร้ความสามารถ ข้าจะต้องชิงคืนหนานเจียง ทำให้แคว้นซางรุ่งเรือง ราษฎรมีความสุขต่อมาข้าจึงได้รู้ว่า มนุษย์นั้นมีเพียงในยามโง่เขลาหรือมีสติปัญญาเป็นเลิศเท่านั้น ถึงกล้าตั้งปณิธานยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้หนานเจียงพ่ายแพ้ ตระกูลซ่งทั้งเจ็ดพี่น้องล้วนพลีชีพในสนามรบแรกเริ่ม เสด็จพ่อและข้าก็ยังมีความหวังลมๆ แล้งๆ คิดว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งมีประสบการณ์ในสนามรบมาก อีกทั้งทหารที่เขานำก็กล้าหาญเชี่ยวชาญเสียดายที่เสบียงล่าช้า ทหารต้องสู้รบทั้งที่ท้องว่าง แม้จะทุ่มสุดกำลัง ก็ยังสู้ฝ่ายศัตรูไม่ได้ยิ่งเมื่อเคยยึดหนานเจียงกลับมาได้แล้ว แต่ต้องเสียคืนไป ผู้คนก็ยิ่งเชื่อว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งยังมีหวังจะตีคืนได้ด้วยเหตุผลหลายประการและความลังเลมากมาย ทำให้ข้าไม่อาจส่งกองทัพเป่ยหมิงของเสด็จน้องไปได

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1607

    ข้าเคยอ่านบันทึกการชันสูตรศพโดยมือชันสูตรแล้ว คำให้การของเขานั้นตรงกับบันทึกแทบทุกประการรายละเอียดอื่นๆ ของคดีก็เช่นกัน ข้าซักถามทีละข้อ เมื่อมั่นใจว่าตรงกันหมดแล้ว จึงส่งตัวเขาไปยังสำนักเขตจิงจ้าว และให้ท่านกงไต้เหรินส่งคนไปค้นหาอาวุธสังหารข้านึกว่าเมื่อจับคนร้ายได้ คดีนี้ก็ถือว่าเสร็จสิ้น ไม่นับว่าสิ่งที่ข้าอดทนลอบเฝ้าอยู่หลายวันนั้นสูญเปล่าใครจะรู้ว่า พอไปถึงสำนักเขตจิงจ้าว หลิวเซิ่งกลับกลับคำให้การ บอกว่าถูกข้าบีบบังคับจนต้องรับสารภาพ คำสารภาพที่ข้าให้เขาเอ่ยออกมา ล้วนเป็นสิ่งที่ข้าบังคับให้เขาพูดทีละคำเขาร้องขอความเป็นธรรม ยืนกรานว่าตนเองบริสุทธิ์กลับกัน เขายังกล่าวหาข้าว่าเป็นโจรหญิง ขอให้สำนักเขตจิงจ้าวจับข้าและข่าวร้ายก็มาอีก ระบุจุดที่เขาบอกว่าโยนอาวุธสังหารไป สำนักเขตจิงจ้าวส่งคนหลายสิบลงงมหา กลับไม่พบเสื้อผ้าหรือมีดเลยแม้แต่น้อยสำนักเขตจิงจ้าวสอบสวนอยู่หลายวัน เพราะเขามีบาดแผล จึงไม่ได้ใช้การทรมาน เขายังคงร้องขอความเป็นธรรม ตะโกนเสียงแหบพร่า ว่าตนบริสุทธิ์ไร้ซึ่งหลักฐาน อีกทั้งยังถูกข้อกล่าวหาว่าข้าบีบบังคับคำสารภาพ จึงจำต้องปล่อยตัวเขาไปก็ในตอนนั้นเอง ข้าจ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1606

    ผู้ใต้บัญชาทำงานรวดเร็วยิ่งนัก ตอนที่เขาลืมตาตื่น เครื่องทรมานก็ถูกขนเข้ามาเรียบร้อยแล้วเตาถ่านถูกตั้งขึ้น คีมเหล็กถูกเผาจนแดง แส้ที่เปื้อนเลือดฟาดกลางอากาศสองสามครั้ง เพี้ยะ เพี้ยะ ดังสะท้านใจหลิวเซิ่งถึงอย่างไรก็เคยฆ่าคนมาก่อน ใจคอจึงหนักแน่นแม้ยามเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ มิแม้แต่กระพริบตา กล่าวว่า “พวกเจ้าตั้งศาลเถื่อนเช่นนี้ ถือเป็นความผิดใหญ่หลวง พวกเจ้ายังมีขื่อมีแปหรือไม่?”คนบางประเภทก็มักเป็นเช่นนี้ คิดว่ากฎหมายใช้บังคับกับใครก็ได้ ยกเว้นตนเองตนกระทำผิด แต่กลับคิดใช้กฎหมายปกป้องตนกับคนประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องโต้แย้ง การโต้แย้งมีแต่จะยิ่งเปิดช่องให้เขาพูดจาไร้สาระมากขึ้นข้าหยิบคีมเหล็กที่ถูกเผาจนแดงก่ำหนีบเข้าที่แขนเขาทันที พอกดแน่นลงไป เสื้อก็ละลายจนเป็นรู เสียงเนื้อถูกไหม้ดัง ซี่ๆๆ…เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นไม่เป็นไร ที่นี่เป็นห้องใต้ดินลับ ต่อให้ร้องจนเสียงขาดหาย ก็ไม่มีผู้ใดได้ยินแม้กระดูกจะแข็งเพียงใด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเครื่องทรมาน ก็ไร้ซึ่งพลังต่อต้านข้ายังมิทันได้เริ่มถอนเล็บ เขาก็สารภาพทุกสิ่งอย่างละเอียดทั้งสองครอบครัวสนิทกันจริง พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายร

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status