Share

บทที่ 1087

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
เสิ่นว่านจือครุ่นคิดพักหนึ่งและรู้สึกผิดเล็กน้อยที่ไม่สามารถกลับไปอยู่กับพ่อ งั้นเขียนจดหมายไปขอเงินพ่อ ใช้จ่ายเงินขิงเขาก็ถือว่าได้ทำอะไรให้พ่อแล้ว "ก็ได้ งั้นพวกเจ้านั่งก่อน ข้าไปเขียนจดหมาย"

อ๋องเยี่ยนยิ้มและพูดว่า "น้องไม่ต้องรีบร้อน พรุ่งนี้เขียนเสร็จค่อยส่งมาให้ก็ได้ เรายังมีหลายวันถึงออกเดินทาง เจ้าอยู่ที่นี่อยู่เป็นเพื่อนพี่สาวเจ้านะ"

ดวงตาของซ่งซีซีฉายแววไม่พอใจ ยังไม่ยอมแพ้อีกเหรอ?

เสิ่นว่านจือเอียงหัวของนางแล้วยิ้มอย่างชั่วร้ายโดยไม่รู้ตัว "ก็ได้"

ซ่งซีซีกลอกตาใส่นาง เจ้าปัญหาเสิ่นนี่คิดจะเล่นอะไรอีก

เสิ่นว่านจือหลบสายตาของซ่งซีซี เนื่องจากไม่ได้สบตา งั้นก็แสร้งทำเป็นไม่รู้คำเตือนจากซ่งซีซีเลย

เซี่ยหลูโม่มองไปที่อ๋องเยี่ยนเอาแต่จับตาจ้องมองเสิ่นว่านจือ เขาก็รู้สึกน่ารำคาญขึ้นมา ดูท่าว่าไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา คิดจะใช้เสิ่นว่านจือเป็นเครื่องมือเพื่อหาผลประโยชน์จากตระกูลเสิ่น

ยิ่งกว่านั้น ดูเหมือนว่าเขายังมีความปรารถนาที่น่าเกลียดด้วย ชั่วจริงๆ

เซี่ยหลูโม่ดูถูกเขาจากก้นบึ้งของหัวใจเลย ดังนั้นจึงไม่ได้ให้พวกเขาอยู่ต่อเพื่อทานอาหาร กว่าจะได้หยุดงาน ยังต้องมองหน้าพวกเข
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1088

    ความอดทนที่เสิ่นว่านจือมีต่อนางเสิ่นถึงขีดสุดแล้ว และนางก็ยกแส้ขึ้นมาเพื่อไล่อีกฝ่ายออก นางเสิ่นได้แต่วิ่งหนีกลับก่อนที่อ๋องเยี่ยนจะออกจากเมืองหลวง ซ่งซีซีก็ต้องคอยระวังเอาไว้ เพราะรู้ความคิดสกปรกของอ๋องเยี่ยน ดังนั้นนางจึงส่งหงเซียวไปจับตาดูจวนอ๋องเอาไว้ เพื่อดูว่าเสิ่นว่านจือได้เชื่อฟังคำสั่งของนางหรือไม่ และไปจวนอ๋องเยี่ยนลับหลังหรือไม่หลังจากการจับตาดูมาอย่างต่อเนื่องสองสามวัน เสิ่นว่านจือก็กลับไปที่โรงงานปักเย็บซู่เจินตามปกติ และไม่ได้ไปจวนอ๋องเยี่ยน ซ่งซีซีถึงรู้สึกโล่งใจทั้งโรงงานปักเย็บซู่เจินและสถาบันการศึกษาสตรีค่อยๆ ได้รับการยอมรับจากทุกคนแต่สถาบันการศึกษาสตรีก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิดมีคนจำนวนมากเข้ามาตีสนิท พวกนางไม่คิดจะเรียนหนังสือจริงๆ เอาแต่นำขนม งานปัก และของขวัญเพื่อแสดงความปรารถนาดีต่อผู้หญิงจากครอบครัวระดับสูงหญิงสาวจากตระกูลชั้นสูงบางคนก็ทำตัวหยิ่งและรับใช้หญิงสาวที่เป็นลูกสาวของขุนนางระดับเล็ก ไม่นานนักก็ค่อยๆ ก่อตั้งกลุ่มขึ้นบางคนที่อยากเรียนจริงๆ กลับถูกบีบออกยิ่งมีบางคนมาเพื่อเรียนรู้มารยาทจากคุณนายใหญ่เจิ้งกั๋ว หรือเรียนรู้ทักษะที่ดูแลบ้าน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1089

    บางครั้งผู้หญิงเป็นคนที่ร้ายกับผู้หญิงมากที่สุด แม้ว่าหยานไท่ฟู่จะเป็นผู้นำของขุนนางฝ่ายบริสุทธิ์ แต่หยานหรูอวี้อายุยังน้อย เมื่อได้ยินคำพูดของพวกนางก็รู้สึกเสียใจไม่น้อยหากแค่เป็นเช่นนี้ ซ่งซีซีก็คิดว่ามันจัดการได้ง่าย แต่กลัวว่ามีคนที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มคนนี้ จงใจจะเล่นงานสถาบันการศึกษาสตรีเพียงแต่ว่าปัจจุบันคนเหล่านี้มีผู้นำโดยคุณหนูตระกูลฉี และยังไม่พบได้รับคำสั่งจากคนอื่นตระกูลฉีมีจุดอ่อนมากมายในมือนาง ยังกล้ามาเล่นงานสถาบันการศึกษาสตรีหรือซ่งซีซีไปปลอบใจหยานหรูอวี้ก่อน กลัวว่าอารมณ์ของนางจะได้รับผลกระทบหยานหรูอวี้นั่งอยู่ในห้องทำงานด้านใน มองดูกองหนังสือลอกเลียนกองอยู่ตรงหน้า นางอ่านทีละหน้า พลางขมวดคิ้ว ไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของซ่งซีซีที่เดินเข้ามาด้วยซ้ำซ่งซีซีเรียกนางเบาๆ นางถึงกับเงยหน้าขึ้น ดวงตาของนางยังคงบูดบึ้งอยู่ ก่อนที่นางจะคารวะ ริมฝีปากได้ฉีกรอยยิ้มออกมา "เจ้าสำนักมาเมื่อไร ข้าเสียมารยาทไป"ซ่งซีซีจับมือที่นางคำลังไหว้นั้นแล้วโค้งคำนับ "อาจารย์หยานเชิงนั่ง"ทั้งสองนั่งลง ซ่งซีซีสังเกตเห็นสมุดลอกเลียนแบบตรงหน้า นางนึกถึงตอนที่เข้ามาอีกฝ่าได้ขมวดคิ้วอยู่ นา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1090

    ซ่งซีซีพยักหน้า จากนั้นอ่านดูสมุดลอกเลียนแบบของคนอื่น ให้พวกนางลอกเลียนแบบ โดยหวังว่าพวกนางจะมีลายมือที่สวยและตรวจดูพื้นฐานก่อนหนังสือลอกเลียนแบบหลายเล่มค่อนข้างดี และมีบางเล่มมีลายมือแบบสวยดี เขียนอย่างจริงจังมากนางวางมันลงและพูดว่า "ที่เจ้าไม่พอใจเพราะเรื่องนี้หรือ งั้นที่พวกนางลือเจ้า... กับเจ้าสิบเอ็ดฝางนั้น เจ้าไม่ได้เก็บมันใส่ใจสินะ"หยานหรูอวี้กล่าวว่า "มันปากของพวกนาง จะชอบว่าอะไรก็แล้วแต่ ไม่ได้ส่งผลต่อการกิน การอยู่ของข้า หรือทำให้ข้าบาดเจ็บแต่อย่างใด เหตุใดข้าต้องไปใส่ใจเล่า"นางพูดและยิ้ม "แต่พวกนางรู้วิธีใช้เรื่องจากสมัยก่อนเพื่อประชดข้าก็ถือว่ามีความสร้างสรรค์ ไม่ใช่แค่เอาแต่ด่าว่าข้าหน้าเงิน น่าเกลียด"หลังจากได้ยินคำพูดของนาง ซ่งซีซีก็ชื่นชมนางจากใจจริงๆ ต้องมีความมั่นใจที่แข็งแกร่งเช่นไรถึงจะมองข้ามข่าวลือพวกั้นไปจู่ๆ นางก็ขมวดคิ้ว "แต่ไม่รู้ว่าจะสร้างปัญหาให้กับแม่ทัพฝางหรือไม่"ซ่งซีซีกล่าวว่า "ไม่หรอก โดยทั่วไปแล้วสิ่งเหล่านี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ชายมากนัก"หลังจากหยุดชั่วคราว เมื่อเห็นว่าหยานหรูอวี้ได้แต่ทำตัวไม่สนใจ นางก็พูดตรงๆ ว่า "บวกกับเรื่องที่พวกเ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1091

    ซ่งซีซีเห็นว่าพวกนางแต่งกายหรูหรา ผู้หญิงที่กำลังพูดนั้นสวมเสื้อคลุมตัวกลางผ้าไหมชั้นดีสีชมพูอ่อนและกระโปรงจีบสีฟ้า ดูทั้งน่ารักและหรูหรา ที่คออมีสร้อยหยก และมีถุงเล็กๆ ห้อยอยู่ที่เอวของนาง ถุงนั้นได้ปักคำว่า "ฉี" และพอมองดูก็รู้ตัวตนของนางในทันทีเสื้อผ้าและเครื่องประดับของคนอื่นๆ นั้นก็มีราคาแพงมากเช่นกัน ดูท่าว่าก็คงเป็นเจ้าปัญหาพวกนั้นพวกเขาหัวเราะ แต่ซ่งซีซียังคงนิ่ง มีสีหน้าเป็นมิตร จากนั้นพูดเบาๆ ว่า "ดูสิ พวกเจ้ากำลังอยู่ในวัยที่ชอบหัวเราะ งั้นก็ยืนอยู่ที่นี่ให้หัวเราะสักหนึ่งชั่วยามค่อยออกไป"หลังจากพูดจบ นางก็ปรบมือ จากนั้นเห็นเฟินหวาน ซึ่งเป็นเพื่อนของหงเซียวเดินออกมาจากมุมห้อง ทไท่าไหว้ก่อนจะพูดว่า "พระชายาเจ้าค่ะ"หงเซียว ชิงเหลิง เฟิยอวิ๋นและเฟินหวานต่างก็เป็นคนที่ศิษย์พี่ผิงสั่งให้อยู่ต่อในเมืองหลวง หงเซียวมีหน้าที่รับผิดชอบในการสืบสวน จริงๆ แล้วเฟินหวานมักจะทำงานกับนาง แต่ส่วนมากไม่ต้องให้นางลงมือเองวันนี้เป็นครั้งแรกนางสัญญาว่าจะให้หยานหรูอวี้จัดการเอง แต่บัดนี้ได้จับได้ว่านางล่วงเกินถึงหน้าตนเอง งั้นก็ไม่ปล่อยโอกาสนี้แน่ๆซ่งซีซีพูดอย่างใจเย็น "เฟินหวาน เฝ้า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1092

    ใบหน้าของพวกฉีซี่หลี่แข็งทื่อด้วยเสียงหัวเราะ พวกนางจะถูกรังแกแบบนี้มาก่อนที่ไหนกัน ตอนนี้ ถูกเฟินหวานบังคับให้หัวเราะอยู่ที่นี่เป็นเวลาหนึ่งชั่วยาม ถือเป็นความคับข้องใจและความอัปยศอย่างยิ่งสำหรับพวกนาง จากนั้นก็ไปฟ้องกั๋วไท่ฮูหยิน(ตำแหน่งยศของผู้หญิง)กั๋วไท่ฮูหยินมักจะเป็นคนใจดี ในตอนแรก นางสอนเรื่องมารยาท ดื่มชา ดูแลบัญชี จัดการคนใช้ ฯลฯ ในตอนนี้ยังไม่ได้สอนความรู้อื่นใดเลย เพราะได้คำนึงถึงฐานะของพวกนาง ไม่ว่าต่อไปจะแต่งงานกับผู้คนที่มีฐานะสูงกว่าหรือต่ำกว่า ล้วนต้องดูแลบ้านเรื่องมารยาท พวกนางเคยเรียนมาแล้ว แค่สอนเล็กๆ น้อยๆ เพิ่ม จะทำให้พวกนางไม่เสียมารยาทหรือทำตัวไม่งามเวลาจัดงานเลี้ยงหรือต้อนรับแขกในส่วนการดูแลบัญชี นี่เป็นความสามารถของผู้หญิงในการดูแลบ้าน และยังเป็นความรู้ประเภทหนึ่งอีกด้วย เพราะท้ายที่สุดแล้ว ผู้หญิงในโลกนี้ก็ยังคงต้องดูแลฝ่ายใน เรื่องพื้นฐานแบบนี้จึงต้องเรียน พอเรียนเรื่องนี้ให้รู้เรื่องก่อนค่อยเรียนเรื่องอื่นๆ ก็ไม่สายไปผู้หญิงมักจะต้องทุ่มเทความพยายามมากกว่าผู้ชาย ถึงมีโอกาสให้พวกเขายอมฟังเสียงของผู้หญิงบ้าง แต่ยังไม่มีสิทธิ์มาขอร้องให้เท่าเทียมกันว

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1093

    ก่อนที่อ๋องเยี่ยนจะออกจากเมืองหลวง เขาได้เข้าไปในพระราชวังเพื่อกล่าวคำอำลากับพระสนมหรง พระสนมหรงกล่าวทั้งน้ำตาว่า "หากเจ้ากตัญญู ก็ไปขอให้ฝ่าบาทอนุญาติให้ข้าไปกับเจ้าไปที่เยี่ยนโจวเถอะ จะได้ไม่ต้องให้แมลูกจากกัน ไม่รู้ต้องรออีกนานแค่ไหนถึงได้เจอหน้าอีก"อ๋องเยี่ยนคุกเข่าลงกับพื้น เสียงของเขาสะอื้นสะอื้น "ลูกก็ไม่อยากทิ้งเสด็จแม่ด้วย แต่เยี่ยนโจวนั้นเทียบกับวังมิได้ และร่างกายของท่านก็ทนต่อความเหนื่อยล้าจากการเดินทางมิได้"พระสนมหรงปาดน้ำตาแล้วพูดว่า "ปกติมีน้องของเจ้าเข้ามาดูแลข้า บัดนี้น้องสาวของเจ้าได้เข้าไปในสำนักกิจการราชวงศ์ และเจ้าก็จะกลับเยี่ยนโจว เสด็จแม่จะมีความหวังอะไรอีก อีกอย่างเสด็จแม่ก็หายดีแล้ว ไม่กลัวการเดินทางนี้หรอก หากเจ้าไม่ไปขอร้อง งั้นเสด็จแม่จะไปขอเอง ฝ่าบาทมีเมตตา จะอนุญาตให้เราอยู่ด้วยกันแน่ๆ""เสด็จแม่ เราแม่ลูกจะต้องได้กลับมาพบกันอีกครั้งอย่างแน่นอน โปรดรอลูกสักพัก"ไทเฟยหรงจับมือเขาไว้ หลังจากป่วยมานาน นางก็บางเหมือนกิ่งไม้ที่ตายแล้ว แต่กลับกำมือแน่นมาก "ลูกเอ๋ย บ้านเมืองตอนนี้สงบสุขแล้ว ชาวบ้านก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เขตหนานเจียงได้รับการยึดกลับมา สงคร

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1094

    อ๋องเยี่ยนรู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็หลุดหลิดด้วย "ทำไมเสด็จแม่ถึงพูดแบบนี้ ลูกไม่สามารถอยู่ห่างไกลดูแลท่านไม่ได้ แน่นอนว่าจะหวังว่าไทเฮาใจดีและดูแลท่านอย่างดี แบบนี้ลูกก็ไม่ต้องเป็นห่วง""เอาล่ะ หยุดพูดได้แล้ว เจ้าไปเถอะ เดินทางปลอดภัยด้วย" ไทเฟยหรงโบกมือ บุตรชายที่ตนเองเลี้ยงกับมือ นางจะไม่รู้นิสัยใจคอของเขาได้อย่างไร จะมองสีหน้าจองเขาไม่ออกได้อย่างไร"ลูกอกตัญญู เดือนกรกฎาคมร้อนมากจริงๆ เลยไม่สามารถพาท่านไปด้วย หากลูกพาท่านไป แล้วฝ่าบาทจะคิดอย่างไร ต่อให้ลูกจะบริสุทธิ์ ฝ่าบาทก็จะเกิดความสงสัย กลัวว่าลูกจะต้องถูกหาว่าด้วย"ไทเฟยหรงพยักหน้าและไม่พูดอะไรมากความ "เข้าใจแล้ว จงไปเถอะ"อ๋องเยี่ยนคำนับ จากนั้นก็ให้นางเสิ่น ชายารองจิน และลูกสี่คนเข้ามาและกล่าวคำอำลาไม่ว่าจะเป็นลูกสะใภ้หรือหลานตนเอง ไทเฟยหรงก็ไม่ได้แสดงความรักต่อพวกเขามากนัก มีสีหน้าเฉยเมยหลังจากที่ทุกคนออกไปแล้ว ไทเฟยหรงก็ไอสองสามครั้งขันทีเกาซึ่งอยู่ข้างๆ นางรู้ว่าไทเฟยกำลังเสียใจอยู่ เขาจึงชักชวนสองสามคำว่า "อากาศมันร้อนมากจริงๆ ให้ท่านเดินทางไปด้วยก็ไม่สะดวก ไม่ดีต่อสุขภาพของท่านนะ ท่านอ๋องก็ห่วงใยท่านนะ ท่าน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1095

    อ๋องเยี่ยนพาครอบครัวไปเยี่ยมไทเฮาเพื่อกล่าวคำอำลา จักรพรรดิ์ซูชิงก็อยู่ที่นั่นด้วยอาหลานสองคนต่างมีความคิดของตนเอง ไทเฮาทำตัวไม่รู้อะไร และคุยเล่นกับพวกเขา เล่าเรื่องในอดีตไทเฮาอุทานว่า ตอนที่อดีตฮ่องเต้มีชีวิตอยู่นั้น มักจะพูดถึงเรื่องพี่น้องกับอ๋องเยี่ยน"มีอยู่หนึ่งปี พวเจ้าพี่น้องทั้งหลายติดตามอดีตฮ่องเต้ไปล่าสัตว์ในฤดูใบไม้ร่วง เจ้ายังเด็กและมีพลัง และยืนกรานที่จะขี่ม้าที่แข็งแรงสูงพอๆ กับเจ้า แต่ไม่คาดคิดว่าม้าตัวนั้นเป็นบ้าขึ้นมา เกือบทำให้เจ้าต้องล้มกับพื้น เขาขี่มาเข้ามา แล้วใช้แสม้ามัดเจ้าไว้ แต่สุดท้ายพวกเจ้าสองคนก็ถูกโยนออกไปพร้อมกัน โชคดีที่อดีตฮ่องเต้ช่วยเหลือเจ้า เจ้าจึงไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเกินไป แต่หลังของเขาเองกลับมีเลือดไหลเยอะ โดนหินทำให้บาดเจ็บมีแผลหลายที่ด้วย""พระองค์ตรัสว่าในบรรดาน้องชายทั้งหลายนั้น พระองค์เอ็นดูเจ้ามากที่สุด เจ้าฉลาดรู้ความ เป็นเด็กดีว่าง่ายสอนง่าย มีของดีอะไรก็มักจะแบ่งแยกให้เจ้าชุดหนึ่ง ตอนที่พระราชทานที่ดิน พระองค์เลยพระองค์เยี่ยนโจวแก่เจ้า คิดว่าอยากจะให้เจ้ามีชีวิตที่ดี และอยู่อย่างสงบสุข"ไทเฮากล่าวด้วยรอยยิ้ม อันที่จริงนางก็รู้ว่า

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1614

    สนมฮุ่ยไทเฟยย่อมมีฐานะมั่นคงเช่นนี้ หลายปีมานี้ไม่ค่อยมีค่าใช้จ่าย รายรับกลับมากไม่น้อยเบี้ยหวัดจากในวัง ของกำนัลจากทุกบ้าน อีกทั้งบรรดาลูกหลานที่โตแล้วต่างก็สามารถตัดสินใจเองได้ บรรดาผู้ที่กตัญญูต่อท่านมีไม่น้อย โดยเฉพาะเสิ่นว่านจื่อ ยิ่งกตัญญูไม่ยั้งมือสำหรับหลานสาวคนเดียวนี้ ท่านไม่มีสิ่งใดที่เสียดายเลย คำพูดที่มักติดปากคือ เมื่อท่านสิ้นไป สมบัติทั้งปวงย่อมตกเป็นของหลานสาวบัดนี้เมื่อแม่ลูกสองคนไปถึงที่อยู่ของท่าน ท่านก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถึงเรื่องที่เซี่ยเจิงจะไปภูเขาเหม่ยชานฝึกวรยุทธ์อีกครา"ไม่ใช่ว่าข้าไม่เห็นดีเห็นงาม เพียงแต่การไปนานถึงเพียงนั้น ปีหนึ่งกลับมาได้ไม่กี่ครั้ง อนาคตยังบอกว่าจะออกไปผจญภัยอีก เด็กหญิงน้อยๆ เช่นนี้ จะไปฝ่าโลกภายนอกได้อย่างไร? ข้าขัดท่านพ่อของเจ้าไม่ไหว เขาเป็นคนไม่เข้าใจโลก พูดอะไรก็ไม่เคยพูดให้เข้าใจได้ ข้าก็ไม่มีทาง""ท่านยาย หลานไม่ใช่เด็กสาวบอบบางหรอกเจ้าค่ะ ท่านลองดูหมัดของหลานเถิด" เซี่ยเจิงชูหมัดขึ้น โบกไปมาอยู่ตรงหน้าสนมฮุ่ยไทเฟย กล่าวอย่างภาคภูมิว่า "หมัดนี้ของหลาน แม้แต่หมูป่ายังต้องสลบเหมือด"สนมฮุ่ยไทเฟยทอดถอนใจ "บุตรีบ้านอื่น มือเอา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1613

    สองสามีภรรยาเอ่ยถึงเรื่องราวในอดีต ยิ่งพูดยิ่งรู้สึกอบอุ่นในใจ โดยเฉพาะซ่งซีซี ที่แต่เดิมรู้สึกว่าการแต่งงานครั้งนั้นเป็นการถูกบังคับ แต่ใครจะคาดคิดว่าจะได้พบกับความสุขเช่นวันนี้ช่างเป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดานักทันใดนั้นก็มีคนวิ่งพรวดพราดเข้ามาทางประตู ยังไม่ทันเห็นหน้าชัด ก็โผเข้ากอดเซี่ยหลูโม่แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นยินดี "ท่านพ่อ ของขวัญพิธีปักปิ่นที่ท่านมอบให้ข้านั้น ข้าชอบมากนัก ขอบคุณท่านพ่อ ข้ารักท่านพ่อที่สุดเลยเจ้าค่ะ"เซี่ยหลูโม่กล่าวว่า "ยังคงซุกซนเช่นเดิมหรือ? โตเป็นสาวแล้ว ต้องสุขุมให้มากหน่อย"แม้ว่าจะเอ่ยเช่นนั้น ทว่าดวงตากลับเปี่ยมด้วยความเอ็นดู มือช่วยจัดปิ่นที่นางสวมในพิธีปักปิ่นให้เรียบร้อย แล้วเอ่ยต่อว่า "เครื่องประดับหัวทับทิมแดงนั่นเจ้าไม่ชอบหรือ? ท่านแม่ของเจ้าตั้งใจเลือกให้นัก""ชอบเจ้าค่ะ ชอบทุกอย่างเลย" เซี่ยเจิงยิ้มจนตาหยี รักทุกสิ่งที่พ่อแม่มอบให้เซี่ยหลูโม่มองรอยยิ้มของบุตรสาวแล้วพลันรู้สึกเคลิ้มใจบุตรสาวยิ่งโต ยิ่งเหมือนซ่งซีซี ในวันแรกที่พบซ่งซีซีที่ภูเขาเหม่ยชาน นางก็ยิ้มเช่นนี้แต่หลังจากนั้น นางก็แทบไม่เคยยิ้มแบบนี้อีก ต่อ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1612

    สายหมอกเย็นยะเยือกปกคลุมยอด ดอกเหมยเบ่งบานหลายคราเซี่ยเจิงมีพรสวรรค์ทางวรยุทธ์สูงส่งนัก เรื่องนี้เรียกได้ว่าเก็บข้อดีของเซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีมาไว้ทั้งหมดเหรินหยางอวิ๋นสามารถกล่าวได้อย่างภาคภูมิใจว่า เซี่ยเจิงคือลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์สูงสุดในบรรดาศิษย์ทั้งหลายของภูเขาเหม่ยชานอูโซเว่ยเองก็ไม่อาจปฏิเสธเรื่องนี้ได้ เมื่อนางถูกเซี่ยเจิงถามว่าใครเก่งกว่ากัน ระหว่างนางกับท่านพ่อ อูโซเว่ยได้แต่ตอบอย่างเลี่ยงๆ ว่า "พอๆ กัน ต่างก็มีข้อดี"วรยุทธ์ของเซี่ยเจิงที่ฝึกฝนมาจนถึงวันนี้ หาได้มาจากเพียงหมื่นสำนักเท่านั้นนางได้ร่ำเรียนจากทุกฝ่ายในภูเขาเหม่ยชานเมื่อนางมาถึงภูเขาเหม่ยชาน ยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อย ผิวขาวเนียนราวหยก รอยยิ้มหวานละมุน ผู้ใดเห็นก็ต้องเอ็นดูนางช่างพูด ช่างคุ้นเคยเร็ว อีกทั้งปากหวานนัก หลอกล่อให้บรรดาหัวหน้าสำนักต่างถ่ายทอดวิชาให้หมดเปลือกเดิมทีนางมีนิสัยซุกซน แต่ด้วยการมุ่งมั่นฝึกวรยุทธ์ และฝึกฝนวิชาเนื้อใน จิตใจก็สงบนิ่งขึ้นมากครั้นถึงปีที่สิบห้า นางได้เข้าพิธีเก็บปิ่นพิธีเก็บปิ่นจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ของขวัญย่อมหลั่งไหลมาดังสายน้ำ ส่งเข้ามาไม่ขาดสายซ่งซีซีได้มอบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1611

    แสงแดดสาดลงบนกิ่งไม้ ใต้พุ่มใบหนาแน่น เผยให้เห็นขาเล็กๆ คู่หนึ่งแกว่งไปมา ดูแล้วชวนให้รู้สึกสบายใจนักนางมีนามเดิมว่าเซี่ยเจิง ชื่อนี้จารึกอยู่ในหยกพงศ์ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นชื่อเล่นว่าจิ้งเหยียนว่ากันว่าเพราะมารดาของนางรังเกียจที่นางพูดมาก จึงตั้งชื่อนี้เพื่อกดทับให้นางสงบลงเซี่ยเจิงเองเห็นว่าตั้งชื่อนี้ก็เปล่าประโยชน์ อีกทั้งฟังดูไม่น่าฟัง จิ้งเหยียนก็คือการเงียบงัน เช่นนั้นแล้วนางมีปากไว้ทำไม หากไม่ได้พูด เอาแต่กินหรือ?เช่นนั้นไม่ต้องกินจนอ้วนกลมไปหรอกหรือ?“ท่านหญิงของข้า ท่านอยู่ที่นี่เอง หาเสียจนข้าเหนื่อย” เป่าจูเงยหน้าขึ้นจากใต้ต้นไม้ ทั้งโกรธทั้งขบขัน “รีบลงมาเถิด ท่านอ๋องกับพระชายากำลังตามหาท่านอยู่”“ท่านอาเป่าจู พวกเขาเรียกหาข้าด้วยเรื่องอันใดกัน?” เสียงใสๆ ดังลงมาจากบนต้นไม้ แฝงด้วยความสบายใจและอิ่มหนำ“พระชายาจะไปภูเขาเหม่ยชาน บอกว่าจะพาท่านไปด้วย ท่านอยากไปหรือไม่?” เป่าจูเอ่ยเซี่ยเจิงได้ยินดังนั้น ก็รีบลื่นไถลลงจากลำต้นไม้ สองข้างไหล่มีเจ้าสุนัขจิ้งจอกสีขาวสองตัวเกาะอยู่ นางยิ้มดีใจกล่าวว่า “จริงหรือ? เช่นนั้นรีบไปเถิด”สองสุนัขจิ้งจอกนั้น ตัวหนึ่งชื่อเซวียนเช

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1610

    เพียงแต่ ข้าก็รู้ดีว่าในใจของซ่งซีซีไม่ได้มีเสด็จน้อง นางเลือกแต่งกับเสด็จน้อง ก็เพียงเพราะไม่อยากเข้าวังถวายงานแม้นไม่ใช่สามีภรรยาที่จิตใจเป็นหนึ่งเดียว เช่นนั้นข้าจึงแต่งตั้งซ่งซีซีเป็นแม่ทัพใหญ่กองทัพซวนเจีย ให้รับผิดชอบดูแลกองทัพซวนเจียแทนในสายตาของผู้อื่น กองทัพซวนเจียยังคงอยู่ในมือของสามีภรรยาคู่นี้ ข้าไม่ได้ตัดอำนาจของเสด็จน้องเพิ่มเติมเมื่อมองในขณะนั้นแล้ว นับเป็นความคิดที่แยบยลอย่างยิ่งแต่ข้ากลับไม่คาดคิดว่าสามีภรรยาจะไม่ใช่คู่ที่ใจไม่ตรงกันเสมอไป เมื่อนานวันเข้าย่อมเกิดความรักใคร่ อีกทั้งผลประโยชน์ก็เป็นหนึ่งเดียวกันข้าไม่รู้เลย เพราะข้ากับฮองเฮาแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ได้ใจตรงกัน ข้าเองก็ไม่เคยไตร่ตรองเรื่องของสามีภรรยาแต่โชคดีที่ แม้ว่าพวกเขาสองสามีภรรยาจะรักใคร่กันภายหลัง แต่ก็ไม่เคยเกิดความทะเยอทะยานที่คิดจะชิงอำนาจเป็นข้าที่ระแวงเกินไปเดิมที ข้าเห็นว่าซ่งซีซีแม้จะมีวรยุทธ์สูงส่ง แต่การบัญชาการกองทัพซวนเจียย่อมลำบาก อีกทั้งมีผู้ไม่ยอมรับนางมากมาย ข้าคิดว่านางอาจถอดใจในสามหรือห้าเดือน เช่นนั้นข้าก็จะหาคนใหม่มาแทนที่แต่ไม่คาดเลยว่า เหล่าทหารหัวแข็งในกองทัพซวนเจี

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1609

    แต่!แต่คนหนึ่งจะมีจิตใจที่มั่นคงและกล้าหาญได้อย่างไรเล่า?ใครจะคิดว่าในวันนั้นซ่งซีซีไม่ได้รับความไว้วางใจจากข้า แต่กลับขี่ม้าไปยังหนานเจียงเพื่อแจ้งข่าวให้เสด็จน้องทราบนี่เป็นเรื่องใหญ่ที่น่าตกใจและน่าทึ่งจริงๆ!หญิงที่หย่าร้างออกจากบ้าน ไม่มีผู้ติดตามหรือองครักษ์ กล้าบุกเข้าไปในค่ายทหารหนานเจียง ความกล้าหาญและความเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ในราชสำนักนี้ไม่มีใครทำได้หลายคนเสด็จน้องและข้าก็ต่างกัน เขาเชื่อในตัวซ่งซีซี และเตรียมทัพก่อนเวลา เพื่อรับมือกับกองทัพพันธมิตรแคว้นซาและซีจิงสนามรบจะอันตรายแค่ไหน ข้ารู้ดีไม่ต้องเล่ารายละเอียดเมื่อข่าวดีในการยึดหนานเจียงมาถึง น้ำตาไหลนองหน้าข้าหลังจากนั้นเสด็จน้องส่งคำกราบทูลเพื่อยกย่องทหารซ่งซีซีและพรรคพวกของนางแน่นอนว่าเป็นผู้มีคุณูปการใหญ่ ข้าจะให้รางวัลแก่พวกเขาแต่จ้านเป่ยว่างและยี่ฝางกลับทำให้ข้าผิดหวัง ข้าจึงต้องคิดอย่างลึกซึ้งถึงเหตุผลที่คนจากซีจิงทำลายข้อตกลงในสนามรบหนานเจียงข้าก็ไม่ใช่คนที่เริ่มคิดเรื่องนี้ในเวลานี้ แต่การแบ่งเขตแดนของเส้นแนวกั้นหลิ่งหลิงก็เป็นหนึ่งในผลงานการบริหารของข้า ข้าจึงพอใจในใจคนเรามักจะโลภ แต่ก็ต้องรู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1608

    เมื่อครั้งที่ข้าขึ้นครองราชย์ การศึกชิงคืนหนานเจียงก็ดำเนินมาแล้วหลายปี ชายแดนเฉิงหลิงก็ยังไม่สงบ ส่งผลให้ท้องพระคลังร่อยหรอ ราษฎรพลัดถิ่นไร้ที่อยู่อาศัยยามที่ข้าสวมอาภรณ์มังกร ประทับเหนือบัลลังก์มังกร ก็ลั่นวาจาในใจว่า ถึงจะไม่อาจเปรียบได้กับสมเด็จพระบรมราชบุพการีผู้ทรงพระปรีชาสามารถ แต่ข้าก็จะไม่เป็นจักรพรรดิที่โง่เขลาไร้ความสามารถ ข้าจะต้องชิงคืนหนานเจียง ทำให้แคว้นซางรุ่งเรือง ราษฎรมีความสุขต่อมาข้าจึงได้รู้ว่า มนุษย์นั้นมีเพียงในยามโง่เขลาหรือมีสติปัญญาเป็นเลิศเท่านั้น ถึงกล้าตั้งปณิธานยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้หนานเจียงพ่ายแพ้ ตระกูลซ่งทั้งเจ็ดพี่น้องล้วนพลีชีพในสนามรบแรกเริ่ม เสด็จพ่อและข้าก็ยังมีความหวังลมๆ แล้งๆ คิดว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งมีประสบการณ์ในสนามรบมาก อีกทั้งทหารที่เขานำก็กล้าหาญเชี่ยวชาญเสียดายที่เสบียงล่าช้า ทหารต้องสู้รบทั้งที่ท้องว่าง แม้จะทุ่มสุดกำลัง ก็ยังสู้ฝ่ายศัตรูไม่ได้ยิ่งเมื่อเคยยึดหนานเจียงกลับมาได้แล้ว แต่ต้องเสียคืนไป ผู้คนก็ยิ่งเชื่อว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งยังมีหวังจะตีคืนได้ด้วยเหตุผลหลายประการและความลังเลมากมาย ทำให้ข้าไม่อาจส่งกองทัพเป่ยหมิงของเสด็จน้องไปได

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1607

    ข้าเคยอ่านบันทึกการชันสูตรศพโดยมือชันสูตรแล้ว คำให้การของเขานั้นตรงกับบันทึกแทบทุกประการรายละเอียดอื่นๆ ของคดีก็เช่นกัน ข้าซักถามทีละข้อ เมื่อมั่นใจว่าตรงกันหมดแล้ว จึงส่งตัวเขาไปยังสำนักเขตจิงจ้าว และให้ท่านกงไต้เหรินส่งคนไปค้นหาอาวุธสังหารข้านึกว่าเมื่อจับคนร้ายได้ คดีนี้ก็ถือว่าเสร็จสิ้น ไม่นับว่าสิ่งที่ข้าอดทนลอบเฝ้าอยู่หลายวันนั้นสูญเปล่าใครจะรู้ว่า พอไปถึงสำนักเขตจิงจ้าว หลิวเซิ่งกลับกลับคำให้การ บอกว่าถูกข้าบีบบังคับจนต้องรับสารภาพ คำสารภาพที่ข้าให้เขาเอ่ยออกมา ล้วนเป็นสิ่งที่ข้าบังคับให้เขาพูดทีละคำเขาร้องขอความเป็นธรรม ยืนกรานว่าตนเองบริสุทธิ์กลับกัน เขายังกล่าวหาข้าว่าเป็นโจรหญิง ขอให้สำนักเขตจิงจ้าวจับข้าและข่าวร้ายก็มาอีก ระบุจุดที่เขาบอกว่าโยนอาวุธสังหารไป สำนักเขตจิงจ้าวส่งคนหลายสิบลงงมหา กลับไม่พบเสื้อผ้าหรือมีดเลยแม้แต่น้อยสำนักเขตจิงจ้าวสอบสวนอยู่หลายวัน เพราะเขามีบาดแผล จึงไม่ได้ใช้การทรมาน เขายังคงร้องขอความเป็นธรรม ตะโกนเสียงแหบพร่า ว่าตนบริสุทธิ์ไร้ซึ่งหลักฐาน อีกทั้งยังถูกข้อกล่าวหาว่าข้าบีบบังคับคำสารภาพ จึงจำต้องปล่อยตัวเขาไปก็ในตอนนั้นเอง ข้าจ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1606

    ผู้ใต้บัญชาทำงานรวดเร็วยิ่งนัก ตอนที่เขาลืมตาตื่น เครื่องทรมานก็ถูกขนเข้ามาเรียบร้อยแล้วเตาถ่านถูกตั้งขึ้น คีมเหล็กถูกเผาจนแดง แส้ที่เปื้อนเลือดฟาดกลางอากาศสองสามครั้ง เพี้ยะ เพี้ยะ ดังสะท้านใจหลิวเซิ่งถึงอย่างไรก็เคยฆ่าคนมาก่อน ใจคอจึงหนักแน่นแม้ยามเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ มิแม้แต่กระพริบตา กล่าวว่า “พวกเจ้าตั้งศาลเถื่อนเช่นนี้ ถือเป็นความผิดใหญ่หลวง พวกเจ้ายังมีขื่อมีแปหรือไม่?”คนบางประเภทก็มักเป็นเช่นนี้ คิดว่ากฎหมายใช้บังคับกับใครก็ได้ ยกเว้นตนเองตนกระทำผิด แต่กลับคิดใช้กฎหมายปกป้องตนกับคนประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องโต้แย้ง การโต้แย้งมีแต่จะยิ่งเปิดช่องให้เขาพูดจาไร้สาระมากขึ้นข้าหยิบคีมเหล็กที่ถูกเผาจนแดงก่ำหนีบเข้าที่แขนเขาทันที พอกดแน่นลงไป เสื้อก็ละลายจนเป็นรู เสียงเนื้อถูกไหม้ดัง ซี่ๆๆ…เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นไม่เป็นไร ที่นี่เป็นห้องใต้ดินลับ ต่อให้ร้องจนเสียงขาดหาย ก็ไม่มีผู้ใดได้ยินแม้กระดูกจะแข็งเพียงใด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเครื่องทรมาน ก็ไร้ซึ่งพลังต่อต้านข้ายังมิทันได้เริ่มถอนเล็บ เขาก็สารภาพทุกสิ่งอย่างละเอียดทั้งสองครอบครัวสนิทกันจริง พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายร

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status