공유

สตรีอุ่นเตียงของแม่ทัพบ้าเลือด
สตรีอุ่นเตียงของแม่ทัพบ้าเลือด
작가: กะปอมพ่นไฟ

บทนำ

last update 최신 업데이트: 2025-09-26 11:27:57

บทนำ

เด็กน้อยในวันเพียง 7 ปีเติบโตขึ้นมาท่ามกลางความรักของผู้เป็นมารดา ตั้งแต่นางจำความได้ไม่มีวันไหนที่ท่านแม่จะดุด่าหรือทุบตีนางเลยสักครั้งเดียว มีเพียงรอยยิ้มและน้ำเสียงอันอบอุ่นอ่อนโยนที่ดังก้องไปในจิตใจของเด็กน้อย ทว่าในทางกลับกันนางกลับเห็นท่านแม่แอบมานั่งร้องไห้คนเดียวอยู่บ่อยครั้ง สาเหตุก็เป็นเพราะบิดาผู้ให้กำเนิดนางนั้นเอง

จนกระทั่งในวันที่อากาศสดชื่นแจ่มใส ท้องฟ้าปลอดโปร่งภายใต้แสงอาทิตย์อันอบอุ่นที่สาดแสงลงมา ตัวนางกลับต้องแยกจากอกของมารดา เพียงเพราะผู้เป็นใหญ่แห่งแว่นแคว้นเล็งเห็นว่าจะใช้นางให้เป็นประโยชน์ได้ เขาส่งนางไปฝึกให้เป็นสายลับที่พร้อมจะพลีชีพเพื่อแคว้นจ้าว!

นับจากวันนั้นชีวิตอันเรียบง่ายของนางก็จบสิ้นลง มีเพียงต้องตื่นมาฝึกหนักตั้งแต่เช้าจรดค่ำ หากนางทำไม่ดีหรือไม่เป็นที่น่าพอใจก็จะถูกลงโทษอย่างหนัก ซ้ำร้ายมารดาที่อยู่ไกลออกไปยังถูกลงโทษเสียด้วย ชีวิตของนางราวกับตกอยู่ในขุมนรก มีวันคืนที่แสนเลวร้ายจนอยากจะปลิดชีพของตัวเองในวัยที่ 10 แต่เพราะการได้พบหน้ามารดาอีกครั้งทำให้ความคิดของนางเปลี่ยนไป...

"ซิงเอ๋อร์... อดทนไว้นะลูก อย่าได้ยอมแพ้ต่อโชคชะตาของเรา แม่เชื่อว่าในที่สุดสวรรค์จะต้องเห็นใจเราสองแม่ลูกเป็นแน่ ขอเพียงเราไม่ยอมแพ้"

"ท่านแม่... ข้าเหนื่อยเหลือเกิน ข้าไม่อยากเป็นสายลับ เหตุใดถึงต้องเป็นข้าด้วย"

นางร่ำไห้ออกมาด้วยความไม่เข้าใจที่ชีวิตของตัวเองต้องพบเจอกับเรื่องเช่นนี้ การถูกฝึกให้เป็นสายลับช่างยากเย็นนัก ไม่เคยมีวันไหนที่ร่างกายนี้จะไม่มีร่องรอยของบาดแผลเลย

"ต้องโทษที่แม่เกิดมาต่ำต้อยจึงทำให้เจ้าต้องลำบากถึงเพียงนี้ แม่ขอโทษซิงเอ๋อร์ แม่ขอโทษ..."

'หานซีอิ๋ง' โอบกอดบุตรสาวเพียงคนเดียวด้วยความเจ็บปวดในหัวใจ ยิ่งเห็นบุตรสาวร้องไห้อย่างหนัก ภายในใจของนางก็ยิ่งเจ็บปวดมากขึ้นกว่าเดิม ต้องโทษที่นางอ่อนแอไร้กำลังจะปกป้องบุตรสาวเพียงคนเดียวได้ หากนางเลือกได้คงไม่คิดจะเหยียบย่างเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ กลายเป็นเบี้ยล่างให้กับคนไร้หัวใจผู้นั้นเป็นอันขาด

"ท่านแม่ไม่ผิดเลยเจ้าค่ะ เป็นเขาต่างหากที่ผิดต่อเราสองแม่ลูก!"

'เหมยซิง' ดรุณีน้อยผู้ร้องไห้ออกมาอย่างน่าสงสารกอดตอบมารดาแน่นด้วยความคั่งแค้นในอก ทุกคืนวันอันแสนลำบากในสถานที่แห่งนั้น นางล้วนจดจำได้เป็นอย่างดี แม้เขาจะเป็นผู้ให้กำเนิดทว่าตัวนางกลับไม่เคยคิดเรียกเขาว่าบิดาเลย คนเช่นนั้นน่ะหรือจะเป็นบิดาได้อย่างไรกัน!

"แม่ขอโทษที่ทำให้ลูกต้องมาพบเจอเรื่องเช่นนี้"

เหมยซิงที่ร้องไห้พลันเงียบเสียงลง ในนัยน์ตาคู่สวยพลันสาดแสงแห่งความหวังออกมา นางจะไม่มีวันยอมแพ้กับโชคชะตาของตนเองเป็นอันขาด นางเชื่อว่าหากยังมีความหวังและไม่ยอมแพ้ สักวันหนึ่งจะต้องหลุดพ้นจากขุมนรกนี้ได้อย่างแน่นอน... แม้ความหวังจะดูริบหรี่นักก็ตาม

"ข้าไม่เป็นอะไรแล้วเจ้าค่ะท่านแม่ สักวันหนึ่งข้าจะต้องพาท่านแม่หนีจากคนผู้นั้นให้จงได้ ข้าสัญญา..."

เหมยซิงขยับตัวออกห่างจากอ้อมกอดของมารดา ในแววตาของนางทอประกายแห่งความมุ่งมั่นออกมาอย่างเปี่ยมล้น ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่นางจะร้องไห้เช่นนี้

"เหมยซิงของแม่ เจ้าช่างเข้มแข็งยิ่งนัก... เหมือนท่านตามิมีผิดเลย"

หานซีอิ๋งพลันร้องไห้โหออกมาเมื่อนึกถึงบิดาที่ได้จบชีวิตลงแล้ว และสาเหตุการตายของบิดาก็มาจากคนผู้นั้น เหตุเพราะมาช่วยนางกับลูกให้หนีออกไปจากแคว้นจ้าว ทว่าพวกนางก็ไม่อาจหนีคนผู้นั้นพ้น สุดท้ายคนที่รักนางกับลูกมากที่สุดก็ต้องมาจบชีวิตอย่างน่าอนาถเช่นนี้!

"ข้าเป็นหลานของท่านตา ข้าย่อมต้องเข้มแข็งและกล้าหาญอย่างท่านตาเจ้าค่ะ ท่านแม่อย่าร้องไห้เลยนะเจ้าคะ รอข้า... ข้าสัญญาว่าจะต้องพาท่านหนีออกไปจากที่นี่ได้อย่างแน่นอนเจ้าค่ะ"

เหมยซิงเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาที่เปรอะเปื้อนแก้มนวลเนียนของมารดาทิ้งออกไป... นางจะทำให้ความฝันของตนและท่านแม่เป็นจริงให้จงได้!

8 ปีผ่านไป

บนแผ่นดินอันกว้างใหญ่มีแคว้นต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย ทว่าแคว้นที่ดูมีอำนาจกลับมีไม่มากนัก ไกลออกไปทางทิศตะวันออกเป็นที่ตั้งของแคว้นใหญ่อย่างแคว้นฉิน เหนือสุดของแผ่นดินใหญ่มีแคว้นใหญ่อย่างแคว้นเซี่ยที่รวบรวมแคว้นข้างเคียงเข้ามาเป็นปึกแผ่น และแคว้นเว่ยที่แข็งแกร่งด้วยกำลังทหาร โดยแคว้นเว่ยมีกำลังทหารอันกล้าแกร่งภายใต้การนำของ 'ชินอ๋องเว่ยสือหยาง' ผู้เป็นพระอนุชาคนโปรดขององค์ฮ่องเต้ เขาคือแม่ทัพใหญ่ผู้พิทักษ์แห่งแคว้นเว่ย เป็นโล่มีชีวิตที่คอยปกปักดูแลความสงบของแคว้น ทว่าตัวเขากลับได้รับการขนานนามว่า 'แม่ทัพบ้าเลือด'

ในตอนนี้เขาได้รับหน้าที่มาดูแลยังชายแดนเหนืออันอยู่ติดกับแคว้นจ้าว แคว้นเล็ก ๆ ที่กลับมีเหมืองแร่มากมายที่ใช้ผลิตอาวุธอันล้ำค่า โดยที่ตั้งของแคว้นจ้าวกลับลึกลับซับซ้อน อันเนื่องมาจากอยู่ภายในขุนเขาอันสูงชันที่โอบล้อมราวกับกำแพงธรรมชาติ

แคว้นจ้าวกับแคว้นเว่ยคือศัตรูคู่อาฆาตกันมาอย่างช้านานตั้งแต่บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งแคว้น เว่ยสือหยางเคยคิดจะบุกเข้าไปตีแคว้นจ้าวอยู่หลายครั้ง ทว่าด้วยไม่สันทัดในชัยภูมิอันเป็นภูเขาสูงชันที่เต็มไปด้วยหมอกและสัตว์พิษที่อันตราย ทำได้เพียงคุมเชิงและเฝ้าระวังภัยเท่านั้น ขณะเดียวกันแคว้นจ้าวที่มีกำลังคนน้อยกว่าก็มิอาจบุกตีแคว้นเว่ยได้เช่นกัน

ทั้งสองแคว้นต่างคุมเชิงกันอยู่เช่นนี้มาเกือบร้อยปีแล้ว!

"รายงาน! มีสารลับจากแคว้นฉินพ่ะย่ะค่ะ"

'หลิ่งอี้' องครักษ์มือซ้ายของเว่ยสือหยางเข้ามาพร้อมกับกระบอกส่งสารลับ เขารีบส่งมอบให้กับเจ้านายด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ด้วยมีไม่บ่อยนักที่แคว้นฉินจะส่งสารมาด้วยตนเอง

เว่ยสือหยางหยิบสารลับขึ้นมาเปิดอ่านทันที เขากวาดสายตาคมดุกวาดตาอ่านเพียงรอบเดียวก็เข้าใจได้ ก่อนจะนำสารลับนั้นไปลนไฟกับตะเกียงเพื่อทำลายทิ้ง

"ชินอ๋อง เกิดอะไรขึ้นหรือพ่ะย่ะค่ะ"

"แคว้นจ้าวจะส่งสายลับเข้ามาในคืนนี้ คาดว่าจะเป็นนางคณิกาที่แฝงตัวเข้ามาในงานเลี้ยงของจวนเจ้าเมือง"

"เช่นนั้นกระหม่อมจะเตรียมการจับกุมนางทันทีพ่ะย่ะค่ะ" หลิ่งอี้เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง

"เจ้าไม่คิดว่านี่เป็นโอกาสของเราเช่นกันหรือ เพราะแคว้นจ้าวมีทางเข้าออกที่ลึกลับซับซ้อนทำให้เรามิอาจส่งคนเข้าไปแฝงตัวในแคว้นจ้าวได้โดยง่าย ในเมื่อทางนั้นเป็นคนส่งคนเข้ามาเองเราก็ควรต้อนรับนางให้ดีเสียหน่อยสิ" ริมฝีปากหยักพลันยกโค้งเป็นรอยยิ้มอันน่าขนลุก

"ชินอ๋องทรงหมายถึงให้ปล่อยนางไปก่อนใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ"

"ใช่! สายลับผู้นี้ข้าจะทำให้นางยอมเผยความลับของแคว้นจ้าวเอง!"

"เช่นนั้นกระหม่อมจะคอยจับตามองนางเองพ่ะย่ะค่ะ หากแม้นว่านางมีแผนการจะมาลอบสังหารชินอ๋องกระหม่อมจะได้ฆ่าทิ้งทันที"

คิ้วกระบี่พลันกระตุกเมื่อได้ฟังคำของหลิ่งอี้ ก็รู้อยู่หรอกว่าเป็นห่วงแต่เขาหาใช่เด็กน้อยไม่ แค่สายลับคนหนึ่งจะสามารถเอาชีวิตของเขาได้เลยหรือ ช่างน่าขันนัก!

เขาเป็นถึงศิษย์เอกคนสำคัญของท่านอาจารย์สวี่เหอ ผู้เป็นปรมาจารย์ทางด้านดาบของสำนักดาบเฟิ่งเทียนเชียวนะ

"เจ้าคิดว่าข้าฆ่านางไม่ได้หรือ"

หลิ่งอี้ที่เห็นว่าชินอ๋องกำลังมีสีหน้าหงุดหงิดก็รีบคุกเข่าลงทันที "หามิได้พ่ะย่ะค่ะ ชินอ๋องทรงเก่งกล้าสามารถจะถูกสายลับจากแคว้นจ้าวทำร้ายได้อย่างไร เพียงแต่กระหม่อมแค่ไม่อยากให้ชินอ๋องต้องทรงมาใส่ใจกับสายลับตัวเล็ก ๆ เพียงคนเดียวเท่านั้นเองพ่ะย่ะค่ะ"

เว่ยสือหยางเห็นเช่นนั้นก็ไม่ได้ติดใจอะไร เขาโบกมือให้หลิ่งอี้ลุกขึ้นยืนอย่างไม่ใส่ใจนัก

"ช่างเถอะ เจ้าส่งคนไปสืบดูว่าคืนนี้มีนางคณิกาเข้าร่วมงานเลี้ยงกี่คน และมาจากหอใดบ้าง"

"พ่ะย่ะค่ะ เอ่อ... มีอีกเรื่องเกี่ยวกับคุณหนูโจวพ่ะย่ะค่ะ"

"เรื่องอะไรอีก ข้าเคยบอกไม่ใช่หรือว่าถ้าไม่ใช่เรื่องสำคัญไม่ต้องรายงาน"

หลิ่งอี้พลันเหงื่อแตกพลั่กด้วยความกริ่งเกรง เขาก็รู้อยู่หรอกว่าชินอ๋องไม่ชอบแต่จะให้ทำอย่างไรได้เล่า จะไม่รายงานก็ไม่ได้เสียด้วย

"คุณหนูโจวจะเดินทางมาที่แดนเหนือพ่ะย่ะค่ะ โดยมาพร้อมกับคณะแพทย์หลวงที่จะถูกส่งมากับกองทัพของท่านรองแม่ทัพโจวพ่ะย่ะค่ะ"

"บัดซบ!"

เว่ยสือหยางพลันสบถออกมาด้วยความไม่สบอารมณ์ นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้เขารู้สึกรำคาญใจนัก หากเป็นศัตรูก็สามารถฆ่าทิ้งได้โดยง่ายอย่างไม่นึกลังเล ทว่าคุณหนูโจวผู้นี้คือคุณหนูคนสำคัญของตระกูลโจว บิดาของนางคืออัครเสนาบดีฝ่ายซ้าย ทั้งยังมีพี่ชายเป็นสหายสนิทของเขา แล้วยังพ่วงตำแหน่งเป็นถึงรองแม่ทัพด้วย

ผู้ใดจะรู้ว่าแค่การช่วยเหลือนางเพียงครั้งเดียวจากการถูกโจรวิ่งราวเมื่อ 3 ปีก่อน จะทำให้นางมาหลงใหลเขาถึงเพียงนี้ ทั้งฝ่าบาทยังเห็นดีเห็นงามที่จะให้เขาแต่งงานกับนางด้วย แต่เขาไม่ได้รักนางจะแต่งนางเป็นภรรยาได้อย่างไรกันเล่า!

เว่ยสือหยางพลันรู้สึกหงุดหงิดใจขึ้นมาทันที!

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • สตรีอุ่นเตียงของแม่ทัพบ้าเลือด   บทที่ 3 พูดออกมา

    บทที่ 3พูดออกมาจอกสุราถูกเขวี้ยงไปทางเหมยซิงอย่างรวดเร็ว ทั้งยังแฝงไปด้วยลมปราณอันเข้มข้นเสียด้วย เหมยซิงเบี่ยงตัวหลบได้ทันอย่างว่องไว ทว่าตัวนางกลับถูกบุรุษตรงหน้าคว้าตัวเข้ามากักขังในอ้อมกอด กายสูงแผ่กลิ่นอายสังหารออกมาอย่างเข้มข้น นางเป็นวรยุทธ์จริงด้วย เพราะหากเป็นคนธรรมดาทั่วไปย่อมหลบจอกสุราของเขาไม่พ้นอย่างแน่นอน!"หญิงคณิกาเช่นเจ้าเหตุใดถึงได้มีวรยุทธ์ พูด!"เหมยซิงแสร้งทำหน้าตาเลิ่กลั่ก เขาฉลาดยิ่งนัก "ท่านอ๋องพูดเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันเป็นเพียงนางระบำในหอคณิกาที่ขายศิลป์เท่านั้น สตรีเช่นหม่อมฉันจะมีวรยุทธ์ได้อย่างไร"เว่ยสือหยางพลันขบกรามแน่นเมื่อสตรีตรงหน้ายังกล้าปากแข็ง ท่าทางของนางดูหวาดกลัวเขาเหลือเกิน ทว่าดวงตาคู่นี้กลับแย้มยิ้มราวกับดีใจเสียอย่างนั้น"ในเมื่อเจ้าปากแข็งบอกว่าตัวเองเป็นเพียงสตรีที่มาจากหอคณิกา เช่นนั้นราตรีนี้เจ้าก็จงทำหน้าที่ของเจ้าซะ ปรนนิบัติข้าทั้งคืนจนกว่าข้าจะพอใจ!" เขาเอ่ยขู่เสียงเข้ม"หม่อมฉันไม่ขายเรือนร่างเพคะ ต่อให้เป็นท่านอ๋องหม่อมฉันก็ไม่ขาย" แววตาของเหมยซิงพลันแข็งกร้าวขึ้นมาทันที สร้างความสนุกสนานให้กับเว่ยสือหยางอย่างน่าประหลาด ด้วยท

  • สตรีอุ่นเตียงของแม่ทัพบ้าเลือด   บทที่ 2 เจ้าเป็นใครกันแน่

    บทที่ 2เจ้าเป็นใครกันแน่เหมยซิงผู้เป็นนางคณิกาของหอหลันฮวายืนนิ่งราวกับหินผา แม้ว่านางจะยืนอยู่ต่อหน้าของเว่ยสือหยาง ผู้เป็นชินอ๋องที่บ้าเลือดและน่าหวั่นเกรงผู้นั้น ทว่านางกลับมิได้รู้สึกหวาดกลัวเขาเลย กลับกัน... นางอยากจะรู้ว่าเขามีค่ามากพอที่นางจะใช้เป็นตัวหมากได้หรือไม่!"เจ้าร่ายรำได้หรือไม่""เพคะ หม่อมฉันถนัดร่ายรำและการเล่นผีผาเพคะ""ดี! เช่นนั้นเจ้าก็ร่ายรำให้ข้าดู""เพคะ"แม้จะแปลกใจกับการกระทำของเขา แต่เหมยซิงก็หาได้รู้สึกตกใจไม่ นางขยับตัวออกไปยืนตรงกลางโดยที่ผีผาได้ถูกนางคณิกาคนอื่นนำออกไปแล้ว ทันทีที่เสียงดนตรีขึ้น ร่างอรชรที่มีส่วนเว้าส่วนโค้งภายใต้ชุดนางระบำที่เปิดเผยเนื้อหนังมังสาอย่างชัดเจน ก็ได้หมุนตัวไปตามจังหวะของเสียงดนตรีนั้นร่างกายของนางสอดประสานไปกับเสียงของดนตรีที่ดังก้องกังวานอย่างดงาม ท่วงท่าการร่ายรำมีทั้งความอ่อนช้อยและแข็งแรง พลิ้วไหวดั่งใบไผ่ที่ลู่ไปกับสายลมที่พัดโหมกระหน่ำดั่งพายุคลั่ง เห็นได้ชัดว่านางได้ถูกฝึกฝนมาเป็นอย่างดีเว่ยสือหยางพลันกระตุกยิ้มเย็น ก่อนจะแกล้งโยนผลผิงกั่ว (แอปเปิล) ไปให้นาง หากเป็นสตรีธรรมดาจะตกใจและรีบหลบผลผิงกั่วทันที ทว่าสต

  • สตรีอุ่นเตียงของแม่ทัพบ้าเลือด   บทที่ 1 นางคณิกาจากหอหลันฮวา

    บทที่ 1นางคณิกาจากหอหลันฮวาจวนเจ้าเมืองเป่ยซีได้มีการจัดงานเลี้ยงรื่นเริงเพื่อต้อนรับชินอ๋องเว่ยสือหยาง แขกผู้สูงศักดิ์ที่จะมาประจำการยังแดนเหนือของพวกเขา ถึงแม้ว่าจะรู้สึกหวั่นเกรงกับชื่อเสียงของชินอ๋องมากเพียงใด ทว่าตัวเขากลับรู้สึกอุ่นใจมากกว่าเสียอีก ด้วยตั้งแต่ชินอ๋องมาที่นี่ พวกโจรป่าและชาวนอกด่านก็ไม่กล้าบุกเข้ามาทำร้ายชาวเมืองเป่ยซีอีกเลย"คารวะชินอ๋องพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเป็นเกียรติมากที่ได้มีโอกาสรับใช้ชินอ๋องผู้ห้าวหาญของแคว้นเว่ยของเรา วันนี้กระหม่อมจึงบังอาจขออนุญาตจัดงานเลี้ยงต้อนรับชินอ๋องพ่ะย่ะค่ะ" 'อี้ไฉ' ท่านเจ้าเมืองผู้อยู่ในวัย 40 กว่าปี ใบหน้าอวบอิ่มยิ้มแก้มปริด้วยความยินดียิ่ง ในตอนที่เขาขยับกายไปมาดูคล้ายกับก้อนซาลาเปาเดินได้ด้วยรูปร่างที่อ้วนท้วนอุ้ยอ้าย ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะเคยเป็นถึงนายกองคนสำคัญก่อนจะได้ถูกแต่งตั้งมาเป็นท่านเจ้าเมืองที่นี่ ผิดกับชาวบ้านในเมืองเป่ยซีที่ดูซูบผอมและใบหน้าอมทุกข์ มิรู้ว่าอี้ไฉผู้นี้ปกครองเมืองเป่ยซีอย่างไรกันแน่ เห็นทีเขาคงจะต้องลองสืบดูเสียหน่อยแล้ว"จัดงานได้ดี แต่ครั้งหน้าหากจะทำอะไรก็มาแจ้งข้าเสียก่อน ข้าไม่ชอบความวุ่นวายและไม

  • สตรีอุ่นเตียงของแม่ทัพบ้าเลือด   บทนำ

    บทนำเด็กน้อยในวันเพียง 7 ปีเติบโตขึ้นมาท่ามกลางความรักของผู้เป็นมารดา ตั้งแต่นางจำความได้ไม่มีวันไหนที่ท่านแม่จะดุด่าหรือทุบตีนางเลยสักครั้งเดียว มีเพียงรอยยิ้มและน้ำเสียงอันอบอุ่นอ่อนโยนที่ดังก้องไปในจิตใจของเด็กน้อย ทว่าในทางกลับกันนางกลับเห็นท่านแม่แอบมานั่งร้องไห้คนเดียวอยู่บ่อยครั้ง สาเหตุก็เป็นเพราะบิดาผู้ให้กำเนิดนางนั้นเอง จนกระทั่งในวันที่อากาศสดชื่นแจ่มใส ท้องฟ้าปลอดโปร่งภายใต้แสงอาทิตย์อันอบอุ่นที่สาดแสงลงมา ตัวนางกลับต้องแยกจากอกของมารดา เพียงเพราะผู้เป็นใหญ่แห่งแว่นแคว้นเล็งเห็นว่าจะใช้นางให้เป็นประโยชน์ได้ เขาส่งนางไปฝึกให้เป็นสายลับที่พร้อมจะพลีชีพเพื่อแคว้นจ้าว! นับจากวันนั้นชีวิตอันเรียบง่ายของนางก็จบสิ้นลง มีเพียงต้องตื่นมาฝึกหนักตั้งแต่เช้าจรดค่ำ หากนางทำไม่ดีหรือไม่เป็นที่น่าพอใจก็จะถูกลงโทษอย่างหนัก ซ้ำร้ายมารดาที่อยู่ไกลออกไปยังถูกลงโทษเสียด้วย ชีวิตของนางราวกับตกอยู่ในขุมนรก มีวันคืนที่แสนเลวร้ายจนอยากจะปลิดชีพของตัวเองในวัยที่ 10 แต่เพราะการได้พบหน้ามารดาอีกครั้งทำให้ความคิดของนางเปลี่ยนไป..."ซิงเอ๋อร์... อดทนไว้นะลูก อย่าได้ยอมแพ้ต่อโชคชะตาของเรา แม่เชื่อว

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status