Share

6. ไม่สมปรารถนา (3)

last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-28 14:28:32

“ดูท่าโอรสของข้าจะชื่นชอบการแสดงนี้ ใช่หรือไม่หลี่เฉียง”

“พ่ะย่ะค่ะ งดงามยิ่ง” เด็กน้อยวัยสาวหนาวพูดเจื้อยแจ้ว

“ฮ่าๆ เช่นนั้นก็ตกรางวัลให้พวกนางเสียหน่อย”

ลี่อิ่งอดยิ้มให้กับความช่างพูดของเด็กน้อยไม่ได้ แม้จะรู้สึกหน่วงๆ อยู่บ้าง แต่นางก็พยายามเก็บซ่อนความโศกเศร้าที่สูญเสียบุตรไว้ เพราะวันนี้ถือเป็นวันดี

“อิ่งเอ๋อร์ วันนั้นเจ้ากับท่านแม่ทัพมีเรื่องกันรุนแรงหรือ พี่ใหญ่เห็นเขาหันมามองเจ้าอยู่หลายครา” เพราะเคยชินกับการอยู่ในค่าย สวีต้าหัวจึงเอ่ยเรียกว่าที่น้องเขยว่าท่านแม่ทัพ

“มิมีสิ่งใดเจ้าค่ะ พี่ใหญ่อย่าได้ใส่ใจ ท่านดูแม่นางน้อยพวกนั้นร่ายรำเถิด อยู่ในค่ายคงไม่ได้เห็นกระมัง”

“ก็จริง ฮ่าๆ แต่ละคนงดงามทั้งนั้น” ลี่อิ่งส่ายหัวให้กับท่าทีกระชุ่มกระชวยของพี่ชาย ก่อนจะปรายตาไปทางที่นั่งของเชื้อพระวงศ์ ซึ่งก็เป็นอย่างที่พี่ใหญ่พูด

เขามองนางอยู่จริงๆ

แต่ไม่นานอีกฝ่ายก็มองไปทางอื่น ลี่อิ่งจึงไม่คิดจะสนใจ หันมาดูความน่ารักขององค์ชายน้อยแทน

เด็กชายวัยสามขวบพูดคุยไม่หยุด เดินไปหาคนนั้นทีคนนี้ที ทั้งยังอ้าปากรับเอาอาหารที่มารดาป้อน ด้วยสีหน้าเอร็ดอร่อย

แต่แล้วคิ้วได้รูปก็ขมวดเข้าหากัน เมื่อเห็นว่าองค์ฮองเฮากำลังป้อนบางอย่างให้องค์ชายน้อย

“ช้าก่อนเพคะ! นะ น้ำแกงนั่นมีส่วนผสมของกุ้ง” ลี่อิ่งตะโกนออกมาท่ามกลางการร่ายรำ ทำให้นักดนตรีต้องหยุดเล่น

“คุณหนูสวีว่าอย่างไรนะ” คำถามขององค์กษัตริย์ทำให้คนในลานพิธีจ้องมาที่สวีลี่อิ่งเป็นตาเดียว

“เมื่อครู่หม่อมฉันชิมน้ำแกง พบว่าเนื้อหมูบดที่ปั้นเป็นก้อน มีส่วนผสมของกุ้งอยู่เพคะ ฝ่าบาท”

เรื่องที่องค์ชายน้อยแพ้กุ้งมิได้เป็นความลับ ไม่แปลกที่ลี่อิ่งจะรู้ ดีที่นางชิมน้ำแกงถ้วยนี้แล้ว จึงได้เอ่ยเตือนทันเวลา

“ฝ่าบาท เป็นจริงอย่างที่คุณหนูสวีว่าเพคะ” ฮองเฮาลองตักเข้าปาก ก็พบว่ามีส่วนผสมของกุ้งอยู่จริงๆ

“เสด็จพ่อ เรื่องนี้ลูกของตรวจสอบด้วยตนเองได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

“อืม ให้พ้นงานนี้ไป รัชทายาทก็จัดการให้เรียบร้อยเถิด” องค์รัชทายาทเจี้ยนหลิวเหว่ยรับคำสั่ง

เรื่องนี้อาจจะเป็นเพียงความผิดพลาด หรือมากกว่านั้น อย่างไรเสียก็ต้องตรวจสอบให้รู้เรื่อง มิเช่นนั้นน้องชายร่วมมารดาของเขาคงต้องตกอยู่ในอันตราย

“ดีที่คุณหนูสวีเตือนไว้ก่อน หม่อมฉันจึงยังไม่ได้ป้อนน้ำแกงให้กับหลี่เฉียง” องค์ฮองเฮาถอนหายใจด้วยความโล่งอก พลันทำให้ทุกคนในลานพิธีพลอยยินดีไปด้วย

“ขอบใจคุณหนูสวีมาก เจ้าอยากได้สิ่งใดเล่า ข้าจะให้เป็นรางวัลตอบแทน” ก่อนหน้าก็เอ็นดูบุตรสาวของท่านอาจารย์อยู่แล้ว ยิ่งนางช่วยชีวิตโอรสของพระองค์ไว้ ก็ยิ่งรู้สึกยินดี

“เอ่อ มิเป็นไรเพคะ หม่อมฉันเพียงเป็นห่วงองค์ชายน้อยเท่านั้น”

“ว่ามาเถิด เจ้าอยากได้สิ่งใด ข้าจะมอบให้”

สวีเหมิงซานพยักหน้าให้บุตรสาวเอ่ยสิ่งที่ต้องการออกไป เพราะการไม่รับของพระราชทานจากฝ่าบาท มิใช่เรื่องดีนัก

“หม่อมฉันมีเพียงเรื่องเดียวที่อยากให้ฝ่าบาทช่วยเหลือเพคะ”

“เจ้าว่ามา”

“หม่อมฉันกำลังจะแต่งให้กับท่านชายเจี้ยนอี้โจวในอีกสามเดือนข้างหน้า” ลี่อิ่งเหลือบไปมองสีหน้าร้อนรนของว่าที่สามีเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขอออกไป

“…”

จึงมิอยากให้ท่านชายแต่งสตรีใดเข้ามา นับจากนี้ไปอีกสามปี”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • สตรีแสนดีผู้นั้น ได้ตายไปแล้ว   55. ตอนพิเศษ ไม่อยากให้อดีตซ้ำรอย (3)

    เสียงซ้อมดาบดังมาจากหลังเรือนอย่างชัดเจน ทำเอาลี่อิ่งที่พึ่งทำมื้อค่ำให้บุตรสาวคนเล็กเสร็จ ถึงกับต้องเดินไปดู จึงพบว่าเป็นบุตรชายคนโตกับสามีที่ต่อสู้กัน รอบสนามก็มีทหารสองสามคนที่บาดเจ็บอยู่“อันใดกัน แค่ฝึกซ้อมมิใช่หรือ เหตุใดรุนแรงถึงขั้นบาดเลือดตกยางออก”“อิ่งเอ๋อร์” / “ท่านแม่”“พวกเจ้าไปทำแผลก่อนเถิด ส่วนสองพ่อลูก ตามมาทางนี้”ศาลากลางเรือนถูกใช้เป็นสถานที่พูดคุยกันของสามพ่อแม่ลูก ชายทั้งสองนั่งคุกเข่ายกแขน ทำโทษตนเองไปตามระเบียบ เพราะสิ่งที่ลี่อิ่งสั่งห้ามโดยเด็ดขาดคือการโมโห แล้วไปลงกับการซ้อมต่อสู้ จนทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บไปด้วย“ท่านชาย ท่านเป็นพ่อ เหตุใดไม่ห้ามลูก”“ท่านแม่อย่าโกรธท่านพ่อเลยขอรับ เรื่องนี้เป็นความผิดของข้าเอง ข้าอารมณ์ไม่ค่อยดีขอรับ” เจี้ยนตงหยางไม่อยากให้บิดามารดาผิดใจกัน จึงรีบยอมรับ“แม่เคยสั่งห้ามไปแล้ว”“ขออภัยขอรับ”“ลูกควรไปขอโทษทหารที่เจ้าฝึกด้วยเมื่อครู่ พวกเขาบาดเจ็บถึงขั้นเลือดตกยางออก” ลี่อิ่งยังคงใช้เสียงแข็ง“ขอรับ ลูกจะไปขอโทษพวกเขา”“อืม ลุกขึ้นมานั่งดีๆ ส่วนอาตงไปขอโทษทหารทั้งสามนายเสียก่อน แล้วค่อยกลับมาพูดคุยกัน”“ขอรับ”เมื่อบุตรชายเดินลงไปจ

  • สตรีแสนดีผู้นั้น ได้ตายไปแล้ว   54. ตอนพิเศษ ไม่อยากให้อดีตซ้ำรอย (2)

    สองสตรีเดินชมธรรมชาติไปเรื่อยๆ พูดคุยเรื่องความงามบ้าง เรื่องการบ้านการเรือนบ้างตามประสา“ท่านอาหญิงเองก็เลี้ยงปลามิใช่หรือเจ้าคะ เห็นว่ามีถึงยี่สิบตัว”“ใช่เพคะ หม่อมฉันเลี้ยงพวกมันมาตั้งแต่อาตงเกิดแล้ว มันจึงออกลูกออกหลานเสียเต็มสระ”“เพราะแบบนั้นถึงอยากสร้างสระเพิ่มสินะเจ้าคะ”“…”“แล้วท่านอาหญิงจำชื่อพวกมันได้อย่างไรเจ้าคะ ตงหยางเอ่ยว่าท่านเรียกชื่อถูกตลอด”ลี่อิ่งขมวดคิ้วกับคำพูดขององค์หญิง ปกติแล้วตงหยางมิใช่คนที่จะพูดคุยเรื่องในเรือนให้ใครฟัง เพราะติดนิสัยจากบิดาพฤติกรรมเช่นนี้น่าแปลกนัก…“อาตงเล่าให้องค์หญิงฟังหรือเพคะ” องค์หญิงผู้นี้เกิดจากชายาขององค์ชายใหญ่เจี้ยนซ่งอวิ๋น ที่พึ่งรู้ว่าตนเองตั้งครรภ์หลังจากที่สามีก่อกบฏลี่อิ่งก็เคยได้ยินมาบ้าง ว่าการอยู่ในวังหลังไม่ได้เป็นเรื่องง่ายสำหรับเจียงหนี่ว์เลยสักนิด หญิงสาวเติบโตมา ด้วยแววตาที่สดใสได้ถึงเพียงนี้ถือว่าเก่งมากแล้ว“เจ้าค่ะ ตงหยางเล่าให้ฟัง มีหลายเรื่องเลยนะเจ้าคะ แต่…ต่อจากนี้คงไม่ได้ฟังแล้ว ดูเหมือนเขาจะโกรธข้ามาก”“องค์หญิงมีใจให้อาตงหรือเพคะ” ลี่อิ่งถามกับหญิงสาวตามตรง และก็ได้รับการตอบกลับเป็นใบหน้าที่แดงก่ำ“…”“

  • สตรีแสนดีผู้นั้น ได้ตายไปแล้ว   53. ตอนพิเศษ ไม่อยากให้อดีตซ้ำรอย (1)

    “ขอฝ่าบาททรงตัดสินพระทัยใหม่เถิดพ่ะย่ะค่ะ” แม่ทัพใหญ่เจี้ยนอี้โจวกล่าวขอร้องต่อองค์ฮ่องเต้เจี้ยนหลิวเหว่ย“ตั้งแต่เล็กจนโต องค์หญิงเจียงหนี่ว์ นางประพฤติดีมาโดยตลอด ทั้งยังไม่เคยขอสิ่งใดจากข้า แต่ครั้งนี้นางเอ่ยขอร้องข้าด้วยตัวเอง เจ้าจะให้ข้าปฏิเสธนางลงได้อย่างไร”“แต่ฝ่าบาท บุตรชายกระหม่อมยืนยันว่าคิดกับองค์หญิงเพียงพี่น้องเท่านั้น ขอฝ่าบาทพิจารณาอีกครั้งเถิดพ่ะย่ะค่ะ พระองค์ก็รู้ว่าความรักมิอาจบังคับกันได้”“เอาเถิด ข้าจะลองคิดดู แต่ตอนนี้ข้ากับเจ้าต้องออกไปร่วมพิธีเปิดเทศกาลล่าปาก่อน”“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ” เจี้ยนอี้โจวคำนับลูกพี่ลูกน้องที่บัดนี้ดำรงตำแหน่งฮ่องเต้ของแคว้น ก่อนจะออกจากกระโจม เพื่อมานั่งกับฮูหยินและบรรดาบุตร“ท่านพ่อ ว่าอย่างไรขอรับ ฝ่าบาททรงยกเลิกงานแต่งของข้ากับองค์หญิงใหญ่หรือไม่” เจี้ยนตงหยาง หนุ่มวัยสิบแปดหนาว เอ่ยถามบิดาด้วยความร้อนใจแม้ผู้คนนอกแคว้นจะคิดว่า เจี้ยนตงหยางเป็นเชื้อพระวงศ์ปลายแถว ทว่าคนในแคว้นกลับรู้ดีว่าเขาเป็นถึงหลานรักของฝ่าบาท เก่งกาจทั้งบู๊และบุ๋น จึงได้รับอนุญาตให้เข้าไปศึกษาเล่าเรียนกับเหล่าองค์หญิงองค์ชายในวังด้วยเหตุนี้เขาจึงรู้จักกับองค

  • สตรีแสนดีผู้นั้น ได้ตายไปแล้ว   52. ข่าวดี (จบบริบูรณ์) (2)

    ท้องใหญ่โตใกล้คลอดมิใช่เรื่องง่ายสำหรับลี่อิ่งเลยสักนิด อาการปวดหลัง ปวดเท้า มีมากขึ้นทุกวัน จะเดินเหินไปที่ใดก็ต้องมีคนคอยประคองอยู่ไม่ห่าง“เป็นอย่างไร สวนที่พี่สร้างให้เจ้ากับลูก ชอบหรือไม่” อี้โจวพยุงภรรยาไปเดินเล่นในสวน พลางพยุงร่างอวบให้นั่งลงบนตั่งใต้ร่มไม้“งดงามมากเจ้าค่ะ เหลือแค่ปลาที่ข้ายังไม่ได้ออกไปซื้อเสียที” อันที่จริงสวนนี้ควรจะสร้างเสร็จตั้งนานแล้ว แต่ช่วงก่อนจวนอ๋องติดปัญหามากมาย ทั้งยังเกิดเรื่องกบฏ ขึ้นอีก ทุกอย่างจึงล่าช้า แต่ก็ยังดีที่เสร็จก่อนที่ลี่อิ่งจะคลอดบุตร“มิต้องกังวลไป พอเจ้าคลอด พักฟื้นให้หายดีแล้ว พี่ย่อมพาเจ้าไปซื้อ”“เจ้าค่ะ” ลี่อิ่งหันมองตามสามี มาถึงตอนนี้นางก็รู้ว่าตนเองตัดสินใจไม่ผิด ที่ให้โอกาสอีกฝ่าย อย่างน้อยเขาก็ก้มลงนวดเท้าให้นางโดยไม่สนใจสายตาผู้ใด ไม่สนใจว่าใครจะมองว่าเสียเกียรติ“เดินจากตรงนั้นมา เจ้าปวดเท้าหรือไม่”“ปวดเพียงเล็กน้อยเจ้าค่ะ พอท่านพี่นวดให้ก็ดีขึ้นมาเลย”“หึ ปากหวานนัก”“ท่านก็เคยชิมแล้วมิใช่หรือ อ๊ะ โอ๊ย!” ทั้งที่กำลังเอ่ยเย้าสามี แต่บุตรในครรภ์ดันไม่เป็นใจเสียอย่างนั้น“อิ่งเอ๋อร์ เป็นอันใด น้ำ มีน้ำออกมา”“อึก!”“มี่มี

  • สตรีแสนดีผู้นั้น ได้ตายไปแล้ว   51. ข่าวดี (จบบริบูรณ์) (1)

    ความหวาดกลัวกัดกินหัวใจแกร่งจนเจ็บปวด แทบเอ่ยออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ แม่ทัพหนุ่มไม่เคยคิดเลยว่าระยะทางจากค่ายทหารกับจวนอ๋องจะห่างไกลถึงเพียงนี้ทันทีที่มาถึงหน้าประตูจวน ร่างกำยำก็กระโดดลงจากหลังม้า วิ่งตรงไปที่เรือนของตน โดยมีรองแม่ทัพสวีตามมาติดๆ“อิ่งเอ๋อร์! อิ่งเอ๋อร์!”“อาโจว ใจเย็นก่อน รอให้ท่านหมอตรวจอาการก่อนเถิด” ชินอ๋องรีบรั้งบุตรชายเอาไว้ไม่ให้ไปขัดขวางท่านหมอ“ท่านชายอย่าได้กังวลอิ่งเอ๋อร์ของข้าแข็งแรงมาตั้งแต่เด็ก ย่อมไม่เป็นอะไรร้ายแรง”“จริงอย่างท่านพ่อว่าขอรับท่านแม่ทัพ” สวีต้าหัวรีบยืนยันคำพูดของบิดา เพราะไม่อยากให้น้องเขยกังวลเกินเหตุ“ท่านพ่อตาก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือ” อี้โจวก้มคำนับคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อตาและอาจารย์ของบิดา เมื่อครู่เขาคิดถึงแต่ฮูหยินรัก จึงไม่ทันเห็นว่าท่านพ่อตาก็อยู่ด้วยแต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้อี้โจววางใจ แม้จะได้รับคำปลอบใจจากทุกคน ชายหนุ่มกลับย้อนนึกถึงความสูญเสียในชาติก่อน ตอนนั้นเขาเองก็ทำได้เพียงจ้องมองนางตายตกไปต่อหน้า โดยไม่ได้ทำสิ่งใด“ท่านหมอว่าอย่างไร เหตุใดยังไม่รู้อีก!”“ท่านชายโปรดระงับอารมณ์ ข้าต้องตรวจให้ละเอียดว่าเป็นชีพจรมงคลหรือไม่” ท่านหม

  • สตรีแสนดีผู้นั้น ได้ตายไปแล้ว   51. ความจริง (3)

    ในขณะที่เอกบุรุษกำลังคิดหาวิธีอยู่นั้น พลันได้ยินเสียงตะโกนกู่ร้องและเสียงฝีเท้าของคนจำนวนมากวิ่งตรงมาทางนี้และก็เป็นรองแม่ทัพสวีที่ควบม้า ชูตราทัพนำหน้าขบวนทหารมา“หึ สมกับเป็นฮูหยินของข้า ย๊า!”เมื่อกำลังพร้อม จิตใจพร้อม ก็ไม่มีทางที่เจี้ยนอี้โจวจะแพ้กว่าการต่อสู้จะสิ้นสุดลง กว่าเหล่าศัตรูจะตายตกไป ก็กินเวลาไปนานและสูญเสียเลือดเนื้อไปมากองค์ฮ่องเต้จึงได้ประกาศเยียวยาให้กับครอบครัวทหารที่ล้มตาย และประชาชนที่เดือดร้อนกับเหตุการณ์ในครั้งนี้“ฝ่าบาททรงหายจากอาการประชวรแล้วหรือเจ้าคะ” ลี่อิ่งนอนซบอกเปลือย พลางเอ่ยถามผู้เป็นสามี“อืม พอได้รับยาถอนพิษจากองค์ชายใหญ่ พระอาการก็ดีขึ้น”“องค์ชายใหญ่น่าสงสารเสียจริง”“พี่ก็คิดเช่นนั้น”“เฮ้อ” ลี่อิ่งถอนหายใจ เมื่อนึกถึงสิ่งที่องค์ชายใหญ่ต้องพบเจอ ทั้งอาการป่วยนานนับสิบกว่าปี ทั้งต้องมารู้ว่าบิดาวางยาตน ไหนจะเรื่องที่ไม่ใช่สายเลือดของฮ่องเต้อีก“แต่ตอนนี้คงไม่มีผู้ใดน่าสงสารไปกว่าพี่ ขนาดนอนกอดกัน ภรรยายังนึกถึงชายอื่น”“อันใดกันเจ้าคะ ท่านพี่ก็รังแกข้าทั้งคืนแล้วมิใช่หรือ” ลี่อิ่งหันหลังหมายจะลงจากเตียง แต่กลับถูกฉุดดึงให้ไปอยู่ในอ้อมกอดเหมื

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status