หลังจากที่ทั้งสองพูดคุยตกลงกันเรียบร้อยแล้ว เฟยก็ยอมปล่อยเอริคลงเตียง พร้อมจัดการอุ้มพาเข้าไปอาบน้ำ แถมบริการช่วยอาบให้อีกหนึ่งเซต ถึงเจ้าตัวจะร้องปฏิเสธลั่นห้องน้ำยังไง บาร์เทนเดอร์หนุ่มผู้ใจดีก็ไม่สนใจ
พออาบเสร็จเฟยก็โทรสั่งอาหารมากินกันในห้อง เพราะสภาพของเอริคตอนนี้ย่ำแย่มาก ถึงเมื่อครู่จะได้นอนแช่น้ำอุ่นมาแล้ว แต่ร่างกายที่เจอศึกหนักติดต่อกันมาเป็นเวลานาน มันเลยปวดระบมไปหมดทั้งตัว แถมเนื้อตัวของเขายังมีแต่รอยแดง ที่ถูกดูดถูกกัดเต็มตัวไปหมด โดยเฉพาะรูรักของเขาที่ถูกเฟยกระแทกเข้าออกไม่หยุด มันเจ็บจี๊ดทุกครั้งที่เขาขยับตัวเลย
เอริครู้สึกว่าครั้งนี้อาการดีกว่าครั้งแรกอยู่มาก เพราะครั้งก่อนตอนก้าวลงจากเตียงก้าวแรก เขาเจ็บมากจนตัวทรุดลงไปกองกับพื้นเลยทีเดียว
แต่ที่หน้าเจ็บปวดที่สุด คือไอ้ตัวต้นเหตุมันไม่มีทีท่าจะสำนึกผิดเลยสักนิด เพราะในหัวมีแต่ความคิดจะจับเขากินอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับตอนนี้...
จ๊วบ! จ๊วบ! จ๊วบ!
เสียงลิ้นร้อนตวัดดูดกัดอยู่ที่หน้าอกหนา ข้างหนึ่งถูกดูดจนเปียกชุ่มเต็มไปด้วยน้ำลาย ส่วนอีกข้างก็ถูกนิ้วเรียวสวย บดขยี้เม็ดเล็กเล่นอย่างไม่น้อยหน้า เมื่อคืนเฟยเห็นว่าเอริคดูอ่อนล้ามาก เลยยอมปล่อยให้อีกฝ่ายนอนพักหลับยาวตลอดทั้งคืน แต่พอตื่นเช้ามาเขาก็รีบทำหน้าที่เป็นคนปลุกอีกฝ่ายทันที
วิธีปลุกของเขาก็คือการปรนเปรอ ทำให้อีกฝ่ายเสียวซ่านจนทนไม่ไหวนั้นเอง
“อึ่มม...อืม...เลิกดูดมันได้แล้ว”
เสียงครางสั่นสะท้านดังขึ้นอย่างอดไปอยู่ เมื่อถูกปลุกเล้าโลมจุดอ่อนไหว จนรู้สึกเสียวซ่านไปทั่วร่าง ก่อนจะเอ่ยพูดดุขึ้นปิดท้าย เอริคยอมรับว่าที่เฟยทำนั้นมันรู้สึกดีมาก ถึงมันจะมีความรู้สึกเจ็บปะปนมาด้วยก็เถอะ แต่เอริคคิดว่าเฟยจะหมกมุ่นกับเรื่องบนเตียงมากเกินไปแล้ว
เอริคยกมือขึ้นดันใบหน้าของเฟย ให้ออกห่างจากหน้าอกของตัวเอง เมื่อถูกอีกฝ่ายดูดเลียจนบวมแดงทั้งสองข้าง ไม่รู้ว่าจะอะไรกับหน้าอกของเขาหนักหนา
“มันอยู่ในร่มผ้า ไม่มีใครเห็นสักหน่อยนี่ครับ”
เฟยเงยหน้าพูดขึ้นอย่างเอาแต่ใจ ใบหน้าหล่อหงิกงอขึ้นเมื่อถูกขัดใจ ราวกับเด็กน้อยที่ถูกห้ามกินของชอบที่อยู่ตรงหน้า
“แต่มึงดูดมันจนบวดหมดแล้วไหม...ลงไปเลย กูจะอาบน้ำแล้ว”
เอริคพูดว่าออกไปเสียงดัง พร้อมชักสีหน้าไม่พอใจใส่คนเอาแต่ใจ แล้วพยายามยกมือผลักดันอีกฝ่ายให้ออกห่าง เอริครู้ดีว่ามันอยู่ในเสื้อไม่มีใครเห็น แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำรอยเท่าไหร่ก็ได้ไหม ไอ้จีนบ้านี่คิดจะไม่ให้เนื้อตัวเขามีสีเนื้อเดิมเลยหรือไง
“ขอทำรอบหนึ่งก่อนไม่ได้เหรอครับ”
เฟยทิ้งน้ำหนักนอนทับบนตัวของเอริค พร้อมเอาใบหน้าซุกอยู่ที่ซอกคอแล้วกอดเอวหนาไว้แน่น เมื่อคนด้านล่างพยายามดิ้น ผลักดันตัวเองให้ออกห่าง ก่อนจะเอ่ยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงออดอ้อน เมื่อคืนเขาอุตส่าห์ยอมปล่อยให้นอนยาวถึงเช้าแล้ว เพราะฉะนั้นก็ต้องให้เขากินตอนเช้าแทน สิจริงไหม
เพียะ!
“กูระบมไปหมดทั้งตัวแล้วเนี่ย” เอริคพูดว่าออกมาเสียงดัง พร้อมยกมือฟาดไปที่แผ่นหลังของเฟยหนึ่งทีอย่างอดไม่อยู่
ตอนนี้เอริคยังรู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวไม่หายเลย ยังมีหน้ามาขอทำต่ออีกนะ จะหื่นก็ให้มันมีขีดจำกัดบ้าง ไม่ใช่คิดจะทำอย่างเดียว ไม่ดูสภาพร่างกายของเขาเลยแบบนี้
เฟยกับเอริคยึกยักกันไปมาอยู่บนที่นอน ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกันอยู่นั้น อยู่ ๆ ประตูห้องนอนที่ปิดสนิทยู่ ก็ถูกเปิดออกโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต
“เจ้านายครับ เอออ...ขอโทษครับ”
แซมเห็นว่าเช้าแล้ว เลยเข้ามาหาเอริคที่ห้อง เพื่อจะถามเรื่องอาหารเช้าว่าจะกินที่ไหน เพราะเขาโทรมาหลายสายแล้วแต่ไม่มีใครรับ
...แต่พอเปิดประตูเข้ามาภาพตรงหน้าก็คือ เจ้านายของตัวเองกำลังนอนหยอกล้อ กับบาร์เทนเดอร์หนุ่มอยู่บนเตียง แซมที่ไม่เคยเห็นภาพแบบนี้ก็ชะงักค้างไปชั่วครู่ ก่อนจะรีบก้มหน้าแล้วเอ่ยพูดขอโทษออกไปเสียงสั่น บอกเลยว่านี่เป็นครั้งแรก แซมเห็นเจ้านายตัวเองนอนกอดกับคู่นอนแบบนี้เลยจริง ๆ
“ออกไป” เอริคหันมองตามเสียงอย่างตกใจ พอรวบรวมสติได้ก็รีบตะโกนไล่ลูกน้องตัวเองออกจากห้องไปเสียงดัง
“ครับ” แซมพยักหน้ารับ แล้วรีบหันหลังเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
ปัง!
เอริคหลับพริ้มนอนนิ่งอยู่บนเตียง ในใจก็ภาวนาขอไม่ให้ลูกน้องตัวเองรู้สึกผิดสังเกตอะไรกับภาพที่เห็นไปเมื่อครู่ แต่ก็ไม่รู้ว่ามันจะช่วยได้มากน้อยแค่ไหน เพราะเวลานี้บนตัวของเอริคมีเฟยนอนทับอยู่ด้านบน ร่างกายตั้งแต่เอวลงไปมีผ้าห่มผิดคุมอยู่ ทำให้เห็นแค่ร่างเปลือยแค่ส่วนบน แต่โชคดีที่ตัวของเอริคมีเฟยนอนทับอยู่ เลยปิดรอยแดงรอยกัดบนตัวเอาไว้ได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าแซมจะเอะใจเรื่องที่เฟยนอนทับอยู่บนตัวเขาหรือเปล่า
ปกติเอริคนอนกับใคร ก็รักษาระยะห่างพอสมควร เรื่องที่ว่ามานอนกอด นอนจูบกันเหมือนตอนนี้ บอกเลยว่าเขาไม่เคยทำ แถมให้คู่นอนทับอยู่ด้านบนแบบนี้ด้วย เขายิ่งไม่เคยเข้าไปกันใหญ่ เพราะฉะนั้นถ้าพวกลูกน้องเห็นแล้วจะตกใจมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย
“เกือบไปแล้วนะครับ” พอประตูปิดลง เฟยก็หันหน้ามาพูดกับเอริคด้วยสีหน้าระรื่น อย่างไม่สะทกสะท้านกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“เพราะมึงนั่นแหละ ลุก...ไอ้เฟย” เอริคพูดว่ากลับเสียงแข็ง แล้วออกแรงผลักเฟยให้ออกห่างอีกครั้ง
เอริครู้สึกเหนื่อยใจกับความดื้อความมึนของเฟยมาก ไม่ว่าเขาจะพูดดุหรือตะคอกใส่ยังไง อีกฝ่ายก็ไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด แถมยังมีหน้ามายิ้มพูดกวนเขาต่อไม่หยุดอีก
“ครับบบ” เฟยลากเสียงตอบกลับอย่างไม่เต็มใจ แล้วค่อย ๆ ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง พร้อมส่งสายตาอ้อนไปให้เอริค เพื่อหวังว่าอีกฝ่ายจะเห็นใจให้เขากินสักคำ
“โอ๊ย!...เจ็บบ”
เอริคทำเป็นมองไม่เห็นสีหน้าของเฟยที่ส่งมา แล้วค่อย ๆ ขยับลุกลงจากเตียง แต่เพราะลืมลงน้ำหนักเท้ามากไป เลยทำให้สะโพกกับช่องทางด้านหลังของเขา รู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาอีกครั้ง
“ไหวไหมครับ...รู้สึกผิดจัง”
เฟยรีบลุกเข้าไปประคองเอริคจากทางด้านหลัง แล้วแกล้งทำหน้าสลดพูดถามออกมาเสียงอ่อน ราวรู้สึกผิดกับเรื่องที่ตัวเองทำลงไป
“หึหึ แต่หน้ามึงมันไม่ได้บอกแบบนั้นเลยนะ” เอริคเหลือบมองใบหน้าของคนรู้สึกผิดเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะเยาะหยันออกมาอย่างอดไม่ได้
เพราะถึงเฟยจะทำหน้าเศร้าหมอง แต่แววตาก็ยังคงเป็นประกายวาววับอยู่เหมือนเดิม ลองเขาบอกว่าให้ทำได้ดูสิ คงจะรีบลากเขาขึ้นเตียงอีกครั้งแน่นอน
“ให้ผมอุ้มไปอาบน้ำไหมครับ” เฟยไม่สนใจคำพูดของเอริค ที่รู้ทันตัวเอง แล้วหันมาฉีกยิ้มหวาน เสนอตัวช่วยอีกฝ่ายแทน
“ไม่จำเป็น” เอริครู้ทันความคิดของคนหวังดี เลยพูดปฏิเสธกลับไปเสียงแข็ง พร้อมแกะมือของเฟยออกจากเอวตัวเองอย่างไม่ไยดี คิดว่าเขาโง่รู้ไม่ทันหรือไง ฝันไปเถอะ ไอ้จีนหื่น!!
“แต่ผมอยากช่วยนี่ครับ” พอเห็นว่าเอริครู้ทันความคิดตัวเอง เฟยเลยเปลี่ยนแผน จัดการอุ้มคนตรงหน้าลอยขึ้นแนบอก ก่อนจะก้มหน้าพูดด้วยน้ำเสียงยียวน หึหึ คิดจะหนีเขาเหรอ ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก
“ไอ้เฟย!” เอริคที่ถูกอุ้มแบบไม่ทันตั้งตัว ก็ตะโกนเรียกชื่ออีกฝ่ายออกมาเสียงดังลั่น ก่อนจะพยายามดิ้นไปมาอยู่ในอ้อมแขนไม่หยุด ทำไมถึงได้เอาแต่ใจแบบนี้นะ
“อย่าดื้อ นะครับ” เฟยไม่สนใจเสียงร้องโวยวาย อุ้มเอริคเดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยใบหน้ายิ้มระรื่น
บาร์เทนเดอร์หนุ่มวางร่างเปลือยของคนในอ้อมกอดลงที่อ่างน้ำ ก่อนจะพาตัวเองลงตามไปติด ๆ โดยทำเป็นไม่เห็นสายตาขุ่นเคืองที่มองมาทางตัวเอง หึหึ ยังไงเช้านี้เขาก็จะต้องได้กินสมใจอยาก
“มึงจะเอาแต่ใจเกินไปแล้ว...อื้ออ” เอริคพูดว่าออกไปอย่างเหลืออด พร้อมใช้มือทุบตีที่แผงอกของเฟยไปมาไม่หยุด
แต่ก็ร้องโวยวายได้ไม่นาน เมื่อมือทั้งสองข้างที่ทุบตีอกอยู่ ถูกเฟยจับไว้แน่น แล้วดึงเข้ามาหาตัวเอง จนทำให้ร่างกายของทั้งสองคนแนบชิดติดกัน เฟยไม่รอให้เอริคพูดว่าอะไรได้อีก รีบกดริมฝีปากของตัวเองจูบลงไปทันที
...จากนั้นไม่นานเสียงร้องควรญคราง ก็ดังก้องไปทั่วห้องน้ำติดต่อกันเป็นชั่วโมง ถึงได้เงียบลง...
ดาดฟ้าเรือสำราญ
แสงแดดอ่อน ๆ ยามบ่ายสาดส่องลงบนดาดฟ้าเรือ สายลมทะเลพัดเอื่อย ๆ พาเอาความสดชื่นมา กลิ่นอายของทะเลและเกลือแตะที่จมูกเบา ๆ ท้องฟ้าไร้เมฆเผยให้เห็นสีครามเข้มข้น ตัดกับผืนน้ำสีฟ้าครามของทะเลที่ทอดยาวสุดสายตา ผิวน้ำระยิบระยับราวกับเพชรนับล้านเม็ด ที่กระจายอยู่บนผืนผ้าไหมอันกว้างใหญ่ ทำให้วิวทิวทัศน์ตรงหน้าดูงดงามและลงตัวราวกับภาพวาด
ดาดฟ้าเรือสำราญที่มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ตรงกลาง และมีเก้าอี้อาบแดดอยู่ล้อมรอบ จัดเป็นกลุ่ม ๆ ไว้ให้แขกหนุ่มสาวได้มานั่งพักผ่อนคุยเล่นกัน บางคนอยากเปลี่ยนบรรยากาศนั่งกินข้าวไปดูคลื่นทะเลไป บางคนก็ออกมาเพื่อนอนอาบแดด หรือไม่ก็ออกมาเพื่อนั่งดื่มด่ำธรรมชาติกัน
“ไงครับคุณเพื่อน พอได้เจอคนที่ตามหา ก็ลืมเพื่อนลืมฝูงเลยนะ”
เสียงเอ่ยแซวดังขึ้น เมื่อไซออนเห็นเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันมาเกือบสองวันเต็ม ๆ เดินมาทางที่ตัวเองนั่งเล่นกันอยู่
ครั้งนี้ไซออนกับมังกรได้ตามติดเอริคมาด้วย แต่พวกเขาทั้งสามคนแทบจะไม่ได้เจอหน้ากัน เพราะเพื่อนสนิทของพวกเขา หายเข้าห้องไปกับบาร์เทนเดอร์หนุ่มตั้งแต่คืนแรกที่ขึ้นเรือมา ไซออนคิดว่าถ้าวันนี้ยังไม่พากันออกมาอีก พวกเขาคงจะต้องตามให้ผู้ดูแลไปเช็กดูสักหน่อยแล้ว ว่าทั้งคู่ตายคาเตียงกันไปหรือยัง
“กูไม่ได้ขอให้มึงมาด้วยสักหน่อย” เสียงทุ้มเข้มตอบกลับอย่างไม่สบอารมณ์ เขาไม่ได้ขอให้มาด้วยสักหน่อย ขอมากันเองยังจะพูดมากกันอีกนะ
“ใจร้ายวะ” มังกรพูดขึ้นอย่างน้อยใจ คนเขาอุตส่าห์เป็นห่วง พอเจอของที่ต้องการ ก็ไม่เห็นหัวเพื่อนอย่างพวกเขาเลยนะ รู้อย่างนี้หน้าจะปล่อยให้นั่งเครียดต่อซะให้เข็ด ไม่น่าช่วยตามหาตัวให้เลยจริง ๆ
เอริคเดินมาหยุดที่โต๊ะของไซออนกับมังกร แล้วนั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามของทั้งสองด้วยสีหน้าเซ็ง ๆ แต่พอก้มลงถึงเก้าอี้สีหน้าของเอริค ก็เปลี่ยนเป็นหน้านิ่วคิ้วขมวดจนเป็นปมอย่างเห็นได้ชัด เพราะด้วยความลืมตัว ลืมว่าสะโพกกับก้มของตัวเองยังเจ็บอยู่ เอริคเลยเผลอทิ้งน้ำหนักลงเก้าอี้อย่างเต็มแรง ทำให้ความรู้สึกเจ็บแผ่ไปทั่วร่าง จนแสดงสีหน้าออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“ไงครับ หายไปสองคืนเต็ม ๆ สะโพกพังเลยเหรอวะ” มังกรสังเกตเห็นท่าทางของเอริค ก็อดพูดแซวขึ้นมาอีกครั้งไม่ได้ หึหึ ดูถ้าจะจัดชุดใหญ่พิเศษกันทั้งคืนทั้งวันเลยสินะ ถึงได้อยู่สภาพนี้
มังกรอดคิดไม่ได้ว่าอาการของเพื่อนตัวเองเป็นนั้น อาจจะเกิดขึ้นเพราะหักโหมกับเรื่องบนเตียงมากเกินไป เขาไม่อยากคิดเลยจริง ๆ ขนาดเพื่อนของเขายังสภาพนี้ แล้วบาร์เทนเดอร์หนุ่มที่ต้องไปฝ่ายรองรับอารมณ์จะอยู่สภาพไหน น้องเขาไม่ช้ำไปหมดทั้งตัวเลยหรือไง
“เสือกกก” เอริคพูดว่าออกไปอย่างหงุดหงิด
พวกมันคิดว่าเขาอยากอยู่สภาพนี้มากหรือไงกัน ตอนแรกเอริคกะว่าจะนั่งกินข้าวที่ห้อง และนอนพักต่ออีกสักหน่อย แต่เพราะไซออนกับมังกรโทรหาเขาไม่หยุด เอริคเลยต้องจำใจลากสังขาร ที่ช้ำไปทั้งตัวออกมาแบบนี้ และอีกเหตุผลหนึ่งที่เขาต้องออกมาคือ ถ้าอยู่ในห้องต่อก็กลัวเฟยหาเรื่องจับกินอีกนั้นเอง
เพียะ!“โอ๊ย!...คุณเอริคตีผมทำไมครับ” เฟยร้องขึ้นทันที เมื่อถูกฝ่ามือของเอริคฟาดลงที่กลางหลังเต็มแรง“ไอ้เฟย! ไอ้เร็ว! มันเป็นแผนของมึงใช่ไหม ที่ให้กูมาหาที่นี่นะ” เอริคด่าเฟยสุดเสียงอย่างฉุนเฉียวตอนนี้เอริคเริ่มจับต้นชนปลายเรื่องราวทั้งหมดได้แล้ว เมื่อพอมารอคิดดูดี ๆ แล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นนี้มันก็ดูแปลกมากจริง ๆ เพราะตอนแรกเขาให้ลูกน้องตามหาตัวเฟยตั้งนาน กลับไม่มีวี่แววเลยสักนิด แต่อยู่ ๆ ครั้งนี้กลับมีชื่อของเฟยโผล่ขึ้นมาบนเรือลำนี้ซะดื้อ ๆอีกอย่างดูเหมือนเฟยจะมีการเตรียมพร้อม คอยรับมือเขาทุกอย่าง ตอนเจอกันที่บาร์ เฟยก็ไม่มีท่าทีตกใจที่ได้เจอเขาเลยสักนิด แปลว่าไอ้จีนหื่นนี่ มันจะต้องเป็นคนวางแผนล่อเขามาที่นี่แน่ ๆโอ๊ย! นี่เขาหลงกลไอ้จีนบ้ากาม ตั้งแต่ยังไม่ขึ้นเรือเลยสินะเนี่ย!! พอเอริคคิดย้อนกลับไปแล้ว ก็อยากด่าตัวเองจริง ๆ ทำไมเขาถึงไม่เอะใจเรื่องนี้เลยนะ“ที่ผมทำไป ก็เพราะผมคิดถึงคุณมากไงครับ” เฟยขยับตัวกอดเอริคไว้แน่น พร้อมเอ่ยยอมรับกับข้อกล่าวหาทุกอย่างของอีกฝ่าย“หึหึ คิดถึง
“แล้วน้องบาร์เทนเดอร์คนนั้นไม่มาด้วยเหรอวะ”ไซออนพูดถามออกมาอย่างสงสัย พร้อมหันซ้ายหันขวามองหาไปรอบ ๆ เอาน้องเขาไปนอนกกข้ามวันข้ามคืนขนาดนั้น ก็น่าจะพามาแนะนำให้เพื่อนรู้จักบ้างสิ ไม่ใช่หวงเก็บไว้ดูคนเดียว“หรือว่า ยังลุกจากเตียงไม่ขึ้นวะ” มังกรพูดเสริมขึ้นเพราะคิดว่าบาร์เทนเดอร์หนุ่มจะต้องอาการหนักกว่าเพื่อนของตัวเองแน่ ๆ ขนาดเอริคยังสภาพย่ำแย่แบบนี้เลยนี่นา แล้วน้องเขาจะสภาพย่ำแย่แค่ไหน จริงไหม“กูว่าเป็นไปได้วะ ขนาดตัวพ่อยังเสียศูนย์ขนาดนี้เลย” ไซออนหันหน้าไปพูดออกความเห็นกับมังกรอย่างเป็นตุเป็นตะ“พวกมึงนี่นะ...มันก็มาพร้อมกูนี่ละ แต่แวะไปซื้อเครื่องดื่มอยู่”เอริคส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมระอากับความคิดของพวกเพื่อน ๆ ก่อนจะเอ่ยพูดบอกออกไปอย่างเหนื่อยใจแต่พวกมันจะคิดกันแบบนั้นก็ไม่แปลก เพราะเอริคถูกเฟยกักตัวต้มยำทำแกงอยู่ในห้องนานตั้งสองวันเลยนี่นา เขาไม่อยากคิดเลยว่า ถ้าตัวเองไม่ยอมทำตามข้อเสนอนั้นเวลานี้เขาจะได้ลงจากเตียงหรือยัง“อ๋อออ” ทั้งสองยกยิ้มขึ้น ก่อน
หลังจากที่ทั้งสองพูดคุยตกลงกันเรียบร้อยแล้ว เฟยก็ยอมปล่อยเอริคลงเตียง พร้อมจัดการอุ้มพาเข้าไปอาบน้ำ แถมบริการช่วยอาบให้อีกหนึ่งเซต ถึงเจ้าตัวจะร้องปฏิเสธลั่นห้องน้ำยังไง บาร์เทนเดอร์หนุ่มผู้ใจดีก็ไม่สนใจพออาบเสร็จเฟยก็โทรสั่งอาหารมากินกันในห้อง เพราะสภาพของเอริคตอนนี้ย่ำแย่มาก ถึงเมื่อครู่จะได้นอนแช่น้ำอุ่นมาแล้ว แต่ร่างกายที่เจอศึกหนักติดต่อกันมาเป็นเวลานาน มันเลยปวดระบมไปหมดทั้งตัว แถมเนื้อตัวของเขายังมีแต่รอยแดง ที่ถูกดูดถูกกัดเต็มตัวไปหมด โดยเฉพาะรูรักของเขาที่ถูกเฟยกระแทกเข้าออกไม่หยุด มันเจ็บจี๊ดทุกครั้งที่เขาขยับตัวเลยเอริครู้สึกว่าครั้งนี้อาการดีกว่าครั้งแรกอยู่มาก เพราะครั้งก่อนตอนก้าวลงจากเตียงก้าวแรก เขาเจ็บมากจนตัวทรุดลงไปกองกับพื้นเลยทีเดียวแต่ที่หน้าเจ็บปวดที่สุด คือไอ้ตัวต้นเหตุมันไม่มีทีท่าจะสำนึกผิดเลยสักนิด เพราะในหัวมีแต่ความคิดจะจับเขากินอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับตอนนี้...จ๊วบ! จ๊วบ! จ๊วบ!เสียงลิ้นร้อนตวัดดูดกัดอยู่ที่หน้าอกหนา ข้างหนึ่งถูกดูดจนเปียกชุ่มเต็มไปด้วยน้ำลาย ส่วนอีกข้างก็ถูกนิ้วเรียวส
เฟยรู้ดีว่าในใจของเอริคกำลังคิดมากเรื่องอะไรอยู่ จากผู้ล่ากลายเป็นเหยื่อชั่วข้ามคืน เป็นเขาก็คงจะทำใจยอมรับไม่ได้เช่นกัน แต่ทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้ว เวลานี้ก็มีแต่ต้องยอมปรับเปลี่ยน เดินหน้าต่อเท่านั้นไม่ใช่หรือไง“งั้น คุณเอริคลองฟังข้อเสนอของผมก่อนไหมครับ” เฟยคิดอะไรบางอย่างได้ เลยพูดออกไป“ข้อเสนอ?” เอริคพูดทวน แล้วมองหน้าเฟยกลับสงสัย‘ข้อเสนอ’ อย่างงั้นเหรอ ไอ้จีนบ้านี่มันคิดจะทำอะไรแผลง ๆ อีกนะ“ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด เพื่อน ๆ กับพวกลูกน้องของคุณ คงคิดว่าผมถูกคุณจับกิน แล้วคุณเกิดถูกใจในตัวผมมาก เลยมาหาผมที่เรือลำนี้อีกครั้งใช่ไหมครับ”เฟยพูดเรียงลำดับเหตุการณ์ขึ้นตามที่ตัวเองคิดให้เอริคฟัง ถ้าเขาคิดไม่ผิดเรื่องที่เกิดขึ้น อีกฝ่ายคงยังปิดเป็นความลับไว้อยู่อย่างแน่นอน“แล้วไง?” เอริคถามกลับอย่างไม่เข้าใจ“งั้นผมจะยอมเป็นคู่นอนฝ่ายรับในนามของคุณ ตามที่ทุกคนคิดให้ก็ได้นะครับ เพื่อแลกกับชีวิตน้อย ๆ ของผม” เฟยพูดข้อเสนอให้เอริคฟังต่อหน้าคนอื่นเขายอมถูกมองว่าเปลี่ยนมาเป็นรับเองก็ได้ เพราะสำหรับเฟยแล้ว เขาไม่เคยสนใจเรื่องภาพลัก
“ไม่ต้องท้า กูทำแน่” เอริคพูดตอบเสียงแข็งสายตาดุดันจ้องมองคนตรงหน้าไม่กะพริบ คิดว่าเขาไม่กล้าฆ่าจริง ๆ หรือไง หึหึ รู้จักเอริคคนนี้น้อยไปซะแล้วเอริคเหนี่ยวไกปืนตามคำท้าของเฟยอย่างไม่ลังเล แต่...แกร็ก! แกร็ก! แกร็ก!!เสียงของปืนถูกเหนี่ยวไกซ้ำ ๆ ติดกันหลายครั้ง แต่คนถูกยิงกับยังคงนอนยิ้มระรื่นอยู่เหมือนเดิม“หรือว่ามึง...” เอริคเห็นปืนในมือยิงไม่ออก ก็พึมพำออกมาอย่างหัวเสีย เมื่อรู้ว่าตัวเองช้ากว่าเฟยไปก้าวหนึ่งอีกแล้ว เพราะเขาไม่คิดว่าเฟยจะแอบเอาลูกปืนออกไปจนหมดแบบนี้ บ้าเอ๊ย!!“หึหึ...คุณคิดจริง ๆ เหรอ ว่าผมจะทิ้งปืนที่มีลูกไว้ใกล้มือคุณแบบนั้น” เสียงหัวเราะในลำคออย่างชอบใจ เมื่อได้เห็นสีหน้าท่าทางของเอริคที่ทำตัวเองไม่ถูกเฟยรู้ดีว่าถ้าเอริคฤทธิ์ยาหมดจะต้องฆ่าตัวเองแน่ ๆ ดังนั้นพอจบศึกรอบสุดท้าย ก่อนที่ตัวเองจะนอน เลยแอบเอาลูกกระสุนไปทิ้งก่อน แล้วค่อยกลับขึ้นมานอนกับเอริคอีกครั้ง“มึง..!” เอริคโกรธจัดเมื่อเห็นว่าปืนไม่มีลูกกระสุน เขาเลยคิดจะเปลี่ยนใช้ปืนกระบอกมาตีหัวของเฟยแทน...แต่มือของเอริคก็ต้องหยุดอยู่กลางอากาศ เพราะถูกเฟยรู้ทันซะก่อน เลยรีบคว้ามือข้างที่จะตีเอาไว้ได้... เ
แสงแดดยามเช้าเริ่มสอดส่องเข้ามาในห้อง ทำให้เห็นร่างเปลือยเปล่าทั้งสอง ที่นอนขยับบดเบียดกันอยู่บนเตียงชัดขึ้น สะโพกหนาก็ยังคงขยับโยกขึ้นลงอย่างต่อเนื่อง บางครั้งก็เร่งจังหวะ บางครั้งก็ขยับช้าเนิน สลับสับเปลี่ยนกันไปริมฝีปากบางขบกัดริมฝีปากหนาอย่างหื่นกระหาย แสดงถึงความปรารถนาที่ไม่อาจห้ามใจได้ ขณะเดียวกันลิ้นร้ายก็ตวัดลากไปมา อย่างเร่าร้อนอยู่ในโพลงปากไม่หยุด เอริคที่ถูกเฟยปรนเปรอให้ยันเช้าอีกครั้ง ก็ได้แต่ส่งเสียงควรญครางอยู่ในลำคออย่างห้ามไม่ได้ เพราะถึงตอนนี้ฤทธิ์ในร่างกาย จะจางหายไปหมดแล้วก็ตาม...แต่เมื่อเฟยไม่ยอมหยุดการกระทำ บวกกับร่างกายของเขาที่อ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรง เอริคก็มิอาจต่อต้านอีกฝ่ายได้เลย...“อื้ออ...อื้อออ”เอริคยกมือทุบอกขาว เพื่อให้คนด้านบนถอนริมฝีปากออก เมื่อเริ่มรู้สึกหายใจไม่ทัน ถึงเขาจะถูกเฟยกดจูบหลายครั้ง จนริมฝีปากเริ่มรู้สึกเจ็บแสบ แต่เอริคก็ไม่เคยชินกับรสจูบของเฟยเลยสักที“ชอบใช่ไหมครับ” เฟยเงยหน้าขึ้นถามด้วยสายตาหวานเยิ้ม ถึงครั้งนี้ที่เอริคยอมนอนกับเขาก็เพราะจำใจ แต่เขาก็ยังอยากถามว่าอีกฝ่ายจะพูดตอบกลับมายังไง“ไม่” เอริคปฏิเสธกลับเสียงแข็งอย่างไม่ยอมรับ