ครืนน ครืนน ครืนนน!!
ครืนน ครืนน ครืนนน!!
เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูสั่นดังติดต่อกันอยู่หลายครั้ง ทำให้คนที่นอนหลับใหลด้วยความเหนื่อยล้าบนเตียง เริ่มได้สติลืมตาตื่นขึ้นมาในที่สุด เอริคค่อย ๆ กะพริบตาอย่างช้า ๆ เพื่อปรับสายตารับแสง เขาหันมองซ้ายมองขวาสำรวจภายในห้อง ก็เห็นว่าตัวเองอยู่ในห้องนี้เพียงคนเดียว แปลว่าไอ้จีนหื่นคงจะหนีไปแล้วสินะ พอรู้ว่าเฟยไม่ได้อยู่ในห้องนี่แล้ว เอริคก็กำหมัดแน่นด้วยความเจ็บใจและความโกรธจัด คิดว่าทำกับเขาขนาดนี้ แล้วจะหนีไปได้ง่าย ๆ หรือไง ฝันไปเถอะ
เขานอนจ้องเพดานนิ่งอยู่พักใหญ่เพื่อรวบรวมสติ เพราะเขารู้สึกว่าหัวหนักอึ้งและตื้อไปหมด แถมจะยังความเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวพวกนี้อีก เอริคกัดฟันแน่นเพื่อพยายามฝืนร่างกายค่อย ๆ ขยับลุกขึ้นนั่งอย่างช้า ๆ
“โอ๊ย!...เจ็บชิบ!”
แต่พอเอริคขยับเพียงเล็กน้อย ก็ต้องร้องลั่นออกมาอย่างอดไม่อยู่ เมื่อรู้สึกเจ็บระบมไปทั้งตัว โดยเฉพาะช่องทางด้านหลัง ที่ถูกเฟยกระหน่ำกระแทกใส่ไม่หยุด มันทั้งเจ็บทั้งแสบราวกับว่าตอนนี้มันฉีกขาดเป็นชิ้น ๆ ไปแล้ว เอริคไม่เคยรู้สึกเจ็บมากขนาดนี้มาก่อน แถมลำคอของเขาก็แห้งผาก รู้สึกเจ็บจนแทบกลืนน้ำลายลงคอไม่ได้
เอริคก้มมองดูสภาพของตัวเองก็แทบช็อต เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยดูดรอยกัด ขึ้นสีแดงคล้ำจนแทบไม่เห็นสีผิวเดิม ที่หว่างขาก็มีแต่คาบเมือกสีขาวขุ่น ทั้งใหม่เก่าเหนียวหนืดติดเต็มขาไปหมด
ใบหน้าหล่อคมรู้สึกแดงร้อนขึ้นมาทันที เวลานี้เขาทั้งรู้สึกโกรธทั้งรู้สึกอายปะปนกันไปหมด โดยเพราะตัวเองเอริครู้สึกโกรธตัวเองมาก ที่ขัดขืนอะไรไอ้บ้านั้นไม่ได้เลยสักนิด แถมยังมีบางช่วงที่หลงคารมคล้อยตามมันอีก ถึงเอริคจะพยายามตั้งสติต่อต้านสุดชีวิตสักเท่าไหร่ แต่ร่างกายของเขามันกับทรยศ ไม่ว่าเฟยจะทำอะไรมันก็ตอบสนองดีซะทุกครั้งไป ดีจนเขารู้สึกหงุดหงิด เอริคจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเฟยหยุดทำตอนไหน เพราะหลังจากที่ถูกจับกระแทกห้าหกชั่วโมงติดต่อกัน เขาที่อ่อนเพลียมาก สุดท้ายร่างกายก็ทนรับไม่ไหว จนหมดสติไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้
ครืนน ครืนน ครืนนน!!
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้เอริคว่างเรื่องของเฟยไว้ก่อน แล้วหันมาสนใจโทรศัพท์ที่ดังอยู่ข้าง ๆ แทน
“อืม ว่าไง” เอริคกดรับสายแล้วพูดถามออกไปเสียงเข้ม
(เออ เจ้านายเรือเทียบท่าแล้วนะครับ) แซมพูดขึ้น
เมื่อเห็นว่าเอริคไม่ยอมออกมาจากห้องพักสักที แถมตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะต้องลงจากเรือแล้วด้วย แซมกับเซ็นเลยรู้สึกกังวลมาก เลยตัดสินใจโทรหาเอริคอีกครั้ง
เอริคมองดูเวลาในโทรศัพท์ เห็นว่าตอนนี้เย็นมากแล้ว นี่เขาหลับไปนานเลยสินะ ทุกอย่างที่เป็นแบบนี้ก็เพราะไอ้จีนบ้านั่นคนเดียวเลย พอนึกถึงใบหน้ายิ้มระรื่นของคนหื่น เอริคก็กำโทรศัพท์ในมือแน่นอย่างโกรธเกรี้ยวไม่ได้ โดยเฉพาะรอยยิ้มพวกนั้น เขาเกลียดมันที่สุดเลย!!
“แล้วไอ้เฟยล่ะ” เอริคพูดถามชื่ออีกคนออกไปอย่างสงสัย เพราะเขาหมดสติไป เลยไม่รู้ว่าเฟยออกไปตั้งแต่ตอนไหน
(อ๋อ คุณเฟยลงเรือไปได้พักใหญ่แล้วครับ) แซมตอบกลับเสียงใส เมื่อได้ยินเอริคถามหาคู่นอนของตัวเอง สงสัยเจ้านายของเขาคงจะเป็นห่วงบาร์เทนเดอร์หนุ่มคนนั้นมากเลยสินะเนี่ย ถึงได้ถามหาแบบนี้
“หนีไปแล้วอย่างงั้นเหรอ” เอริคพึงพำออกมาอย่างเจ็บใจ เมื่อรู้ว่าเฟยใช่โอกาสตอนที่ตัวเองหมดสติ หนีออกจากห้องนี้ไปอย่างง่ายดาย
หนีลงเรือไปแล้วอย่างงั้นเหรอ ไอ้เฟย!!
(เออ เจ้านายพูดว่าอะไรนะครับ) แซมได้ยินไม่ชัดว่าเอริคพูดว่าอะไร เลยถามกลับอย่างสงสัย
“ไม่มีอะไร...สิบห้านาทีเดี๋ยวกูออกไป” เอริคขี้เกียจอธิบาย เลยพูดตัดจบไป
(ครับ) แซมรับคำก่อนวางสายไปอย่างงง ๆ
ในใจมีเรื่องอยากจะพูดถามเต็มไปหมด แต่ก็ไม่กล้าถามออกไป เพราะกลัวเอริคจะหันมาอาละวาดใส่ตัวเอง เจ้านายของเขายิ่งอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่ด้วย
เอริคนั่งเงียบทำใจอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ ลากร่างกายที่ปวดร้าวของตัวเอง ก้าวเดินไปเข้าห้องน้ำด้วยความยากลำบาก เพราะแต่ละก้าวที่เขาเดิน มันเจ็บสะท้านไปทั้งร่างเลย ฝากไว้ก่อนนะไอ้เฟย! เจอกันกันครั้งหน้ากูจะทำให้มึงเจ็บปวด และทรมานกว่ากูเป็นร้อยเท่าพันเท่าเลยคอยดู
เรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เอริคไม่รู้จะพูดบอกลูกน้องตัวเองว่ายังไง จะให้บอกว่าตัวเองถูกไอ้บาร์เทนเดอร์นั่นข่มขืนแล้วหนีไป มันก็ไม่ใช่ เขาเป็นถึงเจ้าของคาสิโนที่ทุกคนเกรงกลัว เพราะฉะนั้นจะให้รู้เรื่องน่าอัปยศครั้งนี้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด!!
“ไอ้เฟยอย่าคิดว่าจะหนีกูรอด กูจะต้องฆ่ามึงให้ได้เลยคอยดู”
เอริคจะไม่มีวันลืมความอัปยศครั้งนี้อย่างแน่นอน เขาจะต้องลากคอไอ้จีนหื่นหน้ายิ้ม กลับมาทรมานให้สาสมกับสิ่งที่มันทำเอาไว้
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป
ห้องทำงานเอริค
เพล้ง!!
“ไม่ได้เรื่อง แค่คนคนเดียวก็หาไม่เจอ”
เสียงแก้วเหล้าในมือถูกปาลงกับพื้นห้อง เพื่อระบายความเกรี้ยวโกรธที่พลุ่งพล่านออกมา เอริคยืนตะคอกใส่แซมกับเซ็นอย่างหัวเสีย เมื่อเขาใช่ให้ทั้งสองไปตามสืบหาที่อยู่ของเฟย แต่นี่ก็ผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้ว สองคนนี้ก็ยังสืบหาที่อยู่มาให้ไม่ได้สักที
“...” ทั้งสองยืนก้มหน้าเงียบด้วยความกลัว
“เออ...คือว่าเท่าที่เรารู้ คุณเฟยรับงานเป็นบาร์เทนเดอร์ให้กับเรือสำราญหรูหลายที่ และทำแบบชั่วคราวด้วยนะครับ เลยหาที่อยู่แบบแน่ชัดไม่ได้” เซ็นค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นพูดอธิบายให้เอริคฟัง อย่างกล้า ๆ กลัว ๆ การจะหาคนที่เดินทางอยู่ตลอดเวลา มันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยนี่นา
แซมกับเซ็นไม่เข้าใจความคิดของเอริคตอนนี้เลยจริง ๆ แค่ตามหาคู่นอนไม่เจอ ทำไมถึงได้ดูโมโหมากมายขนาดนี้ ปกติเจ้านายของเขาไม่ใช่คนที่ชอบกินอะไรซ้ำซากนี่ แล้วทำไมครั้งนี้ถึงได้อยากเจอบาร์เทนเดอร์คนนั้นมาก ถึงขั้นให้พวกเขาสืบหาตัวแบบนี้นะ
“ใช่ครับ มันก็เลยทำให้ตามหายากนะครับ อีกอย่างทางบริษัทเรือหลายแห่ง มีการเก็บข้อมูลของลูกจ้างเป็นความลับด้วยนะครับ มันก็เลย...” แซมเงยหน้าพูดเสริมอีกคน
ไม่ใช่ว่าเขาไร้ความสามารถนะ แต่ทางนั้นเล่นเดินทางย้ายที่อยู่แทบทุกอาทิตย์ เรือสำราญที่ทำงานด้วยก็ระดับสูง ๆ ทั้งนั้น แล้วใครมันจะหาตัวเจอกันแหละ
“พวกมึงเลยไม่รู้ ว่าตอนนี้ไอ้เฟยไปทำงานอยู่ที่ไหนว่างั้น” เอริคถามกลับเสียงเรียบ
พอฟังคำแก้ตัวของลูกน้องทั้งสองคนจบ ก็อดหงุดหงิดขึ้นมาอีกครั้งไม่ได้ ตามหายากอย่างงั้นเหรอ แล้วไง ไม่ว่าจะต้องพลิกแผ่นดินหา เขาก็จะต้องหาให้เจอ จากนั้นก็ลากคอไอ้บ้านั้นมาทรมานอย่างสาสม กับสิ่งที่มันได้ทำไว้กับเขา!!
“ครับ ครับ” แซมกับเซ็นพยักหน้าตอบพร้อมกัน ก่อนจะกลับไปยืนก้มหน้าเหมือนเดิม
“ตามหาต่อไป จนกว่าจะเจอ” เอริคออกคำสั่งอีกครั้ง ไม่ว่าจะต้องใช้เงินใช้เวลามากเท่าไหร่ เขาก็ไม่สน ขอแค่หาตัวไอ้บ้านั้นให้เจอ เขายอมหมดทุกอย่าง
“ครับ” ทั้งสองพยักหน้ารับคำ แล้วรีบเดินออกจากห้องไป
แซมอดสงสัยไม่ได้ ว่าตอนที่ทั้งสองคนอยู่ในห้องด้วยกัน ทำไมไม่พูดหรือแลกเบอร์กันไว้ก่อนที่จะแยกย้าย มันไม่มีเวลาคุยกันขนาดนั้นเลยหรือไง แล้วตอนนี้เป็นไง มาลำบากพวกเขาให้ตามหาทีหลังอีก แซมไม่เข้าใจนายเจ้าตัวเองเลยจริง ๆ และอีกอย่างทั้งที่รอบตัวของเอริคยังมีผู้ชายนับร้อย ที่สนใจในตัวเขา บางคนดูน่ารักกว่าบาร์เทนเดอร์หนุ่มคนนั้นซะอีก แต่เอริคกลับไม่สนใจใครเลยสักคน แล้วมายึดติดอยู่กับผู้ชายเพียงคนเดียวซะอย่างงั้น
เพียะ!“โอ๊ย!...คุณเอริคตีผมทำไมครับ” เฟยร้องขึ้นทันที เมื่อถูกฝ่ามือของเอริคฟาดลงที่กลางหลังเต็มแรง“ไอ้เฟย! ไอ้เร็ว! มันเป็นแผนของมึงใช่ไหม ที่ให้กูมาหาที่นี่นะ” เอริคด่าเฟยสุดเสียงอย่างฉุนเฉียวตอนนี้เอริคเริ่มจับต้นชนปลายเรื่องราวทั้งหมดได้แล้ว เมื่อพอมารอคิดดูดี ๆ แล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นนี้มันก็ดูแปลกมากจริง ๆ เพราะตอนแรกเขาให้ลูกน้องตามหาตัวเฟยตั้งนาน กลับไม่มีวี่แววเลยสักนิด แต่อยู่ ๆ ครั้งนี้กลับมีชื่อของเฟยโผล่ขึ้นมาบนเรือลำนี้ซะดื้อ ๆอีกอย่างดูเหมือนเฟยจะมีการเตรียมพร้อม คอยรับมือเขาทุกอย่าง ตอนเจอกันที่บาร์ เฟยก็ไม่มีท่าทีตกใจที่ได้เจอเขาเลยสักนิด แปลว่าไอ้จีนหื่นนี่ มันจะต้องเป็นคนวางแผนล่อเขามาที่นี่แน่ ๆโอ๊ย! นี่เขาหลงกลไอ้จีนบ้ากาม ตั้งแต่ยังไม่ขึ้นเรือเลยสินะเนี่ย!! พอเอริคคิดย้อนกลับไปแล้ว ก็อยากด่าตัวเองจริง ๆ ทำไมเขาถึงไม่เอะใจเรื่องนี้เลยนะ“ที่ผมทำไป ก็เพราะผมคิดถึงคุณมากไงครับ” เฟยขยับตัวกอดเอริคไว้แน่น พร้อมเอ่ยยอมรับกับข้อกล่าวหาทุกอย่างของอีกฝ่าย“หึหึ คิดถึง
“แล้วน้องบาร์เทนเดอร์คนนั้นไม่มาด้วยเหรอวะ”ไซออนพูดถามออกมาอย่างสงสัย พร้อมหันซ้ายหันขวามองหาไปรอบ ๆ เอาน้องเขาไปนอนกกข้ามวันข้ามคืนขนาดนั้น ก็น่าจะพามาแนะนำให้เพื่อนรู้จักบ้างสิ ไม่ใช่หวงเก็บไว้ดูคนเดียว“หรือว่า ยังลุกจากเตียงไม่ขึ้นวะ” มังกรพูดเสริมขึ้นเพราะคิดว่าบาร์เทนเดอร์หนุ่มจะต้องอาการหนักกว่าเพื่อนของตัวเองแน่ ๆ ขนาดเอริคยังสภาพย่ำแย่แบบนี้เลยนี่นา แล้วน้องเขาจะสภาพย่ำแย่แค่ไหน จริงไหม“กูว่าเป็นไปได้วะ ขนาดตัวพ่อยังเสียศูนย์ขนาดนี้เลย” ไซออนหันหน้าไปพูดออกความเห็นกับมังกรอย่างเป็นตุเป็นตะ“พวกมึงนี่นะ...มันก็มาพร้อมกูนี่ละ แต่แวะไปซื้อเครื่องดื่มอยู่”เอริคส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมระอากับความคิดของพวกเพื่อน ๆ ก่อนจะเอ่ยพูดบอกออกไปอย่างเหนื่อยใจแต่พวกมันจะคิดกันแบบนั้นก็ไม่แปลก เพราะเอริคถูกเฟยกักตัวต้มยำทำแกงอยู่ในห้องนานตั้งสองวันเลยนี่นา เขาไม่อยากคิดเลยว่า ถ้าตัวเองไม่ยอมทำตามข้อเสนอนั้นเวลานี้เขาจะได้ลงจากเตียงหรือยัง“อ๋อออ” ทั้งสองยกยิ้มขึ้น ก่อน
หลังจากที่ทั้งสองพูดคุยตกลงกันเรียบร้อยแล้ว เฟยก็ยอมปล่อยเอริคลงเตียง พร้อมจัดการอุ้มพาเข้าไปอาบน้ำ แถมบริการช่วยอาบให้อีกหนึ่งเซต ถึงเจ้าตัวจะร้องปฏิเสธลั่นห้องน้ำยังไง บาร์เทนเดอร์หนุ่มผู้ใจดีก็ไม่สนใจพออาบเสร็จเฟยก็โทรสั่งอาหารมากินกันในห้อง เพราะสภาพของเอริคตอนนี้ย่ำแย่มาก ถึงเมื่อครู่จะได้นอนแช่น้ำอุ่นมาแล้ว แต่ร่างกายที่เจอศึกหนักติดต่อกันมาเป็นเวลานาน มันเลยปวดระบมไปหมดทั้งตัว แถมเนื้อตัวของเขายังมีแต่รอยแดง ที่ถูกดูดถูกกัดเต็มตัวไปหมด โดยเฉพาะรูรักของเขาที่ถูกเฟยกระแทกเข้าออกไม่หยุด มันเจ็บจี๊ดทุกครั้งที่เขาขยับตัวเลยเอริครู้สึกว่าครั้งนี้อาการดีกว่าครั้งแรกอยู่มาก เพราะครั้งก่อนตอนก้าวลงจากเตียงก้าวแรก เขาเจ็บมากจนตัวทรุดลงไปกองกับพื้นเลยทีเดียวแต่ที่หน้าเจ็บปวดที่สุด คือไอ้ตัวต้นเหตุมันไม่มีทีท่าจะสำนึกผิดเลยสักนิด เพราะในหัวมีแต่ความคิดจะจับเขากินอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับตอนนี้...จ๊วบ! จ๊วบ! จ๊วบ!เสียงลิ้นร้อนตวัดดูดกัดอยู่ที่หน้าอกหนา ข้างหนึ่งถูกดูดจนเปียกชุ่มเต็มไปด้วยน้ำลาย ส่วนอีกข้างก็ถูกนิ้วเรียวส
เฟยรู้ดีว่าในใจของเอริคกำลังคิดมากเรื่องอะไรอยู่ จากผู้ล่ากลายเป็นเหยื่อชั่วข้ามคืน เป็นเขาก็คงจะทำใจยอมรับไม่ได้เช่นกัน แต่ทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้ว เวลานี้ก็มีแต่ต้องยอมปรับเปลี่ยน เดินหน้าต่อเท่านั้นไม่ใช่หรือไง“งั้น คุณเอริคลองฟังข้อเสนอของผมก่อนไหมครับ” เฟยคิดอะไรบางอย่างได้ เลยพูดออกไป“ข้อเสนอ?” เอริคพูดทวน แล้วมองหน้าเฟยกลับสงสัย‘ข้อเสนอ’ อย่างงั้นเหรอ ไอ้จีนบ้านี่มันคิดจะทำอะไรแผลง ๆ อีกนะ“ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด เพื่อน ๆ กับพวกลูกน้องของคุณ คงคิดว่าผมถูกคุณจับกิน แล้วคุณเกิดถูกใจในตัวผมมาก เลยมาหาผมที่เรือลำนี้อีกครั้งใช่ไหมครับ”เฟยพูดเรียงลำดับเหตุการณ์ขึ้นตามที่ตัวเองคิดให้เอริคฟัง ถ้าเขาคิดไม่ผิดเรื่องที่เกิดขึ้น อีกฝ่ายคงยังปิดเป็นความลับไว้อยู่อย่างแน่นอน“แล้วไง?” เอริคถามกลับอย่างไม่เข้าใจ“งั้นผมจะยอมเป็นคู่นอนฝ่ายรับในนามของคุณ ตามที่ทุกคนคิดให้ก็ได้นะครับ เพื่อแลกกับชีวิตน้อย ๆ ของผม” เฟยพูดข้อเสนอให้เอริคฟังต่อหน้าคนอื่นเขายอมถูกมองว่าเปลี่ยนมาเป็นรับเองก็ได้ เพราะสำหรับเฟยแล้ว เขาไม่เคยสนใจเรื่องภาพลัก
“ไม่ต้องท้า กูทำแน่” เอริคพูดตอบเสียงแข็งสายตาดุดันจ้องมองคนตรงหน้าไม่กะพริบ คิดว่าเขาไม่กล้าฆ่าจริง ๆ หรือไง หึหึ รู้จักเอริคคนนี้น้อยไปซะแล้วเอริคเหนี่ยวไกปืนตามคำท้าของเฟยอย่างไม่ลังเล แต่...แกร็ก! แกร็ก! แกร็ก!!เสียงของปืนถูกเหนี่ยวไกซ้ำ ๆ ติดกันหลายครั้ง แต่คนถูกยิงกับยังคงนอนยิ้มระรื่นอยู่เหมือนเดิม“หรือว่ามึง...” เอริคเห็นปืนในมือยิงไม่ออก ก็พึมพำออกมาอย่างหัวเสีย เมื่อรู้ว่าตัวเองช้ากว่าเฟยไปก้าวหนึ่งอีกแล้ว เพราะเขาไม่คิดว่าเฟยจะแอบเอาลูกปืนออกไปจนหมดแบบนี้ บ้าเอ๊ย!!“หึหึ...คุณคิดจริง ๆ เหรอ ว่าผมจะทิ้งปืนที่มีลูกไว้ใกล้มือคุณแบบนั้น” เสียงหัวเราะในลำคออย่างชอบใจ เมื่อได้เห็นสีหน้าท่าทางของเอริคที่ทำตัวเองไม่ถูกเฟยรู้ดีว่าถ้าเอริคฤทธิ์ยาหมดจะต้องฆ่าตัวเองแน่ ๆ ดังนั้นพอจบศึกรอบสุดท้าย ก่อนที่ตัวเองจะนอน เลยแอบเอาลูกกระสุนไปทิ้งก่อน แล้วค่อยกลับขึ้นมานอนกับเอริคอีกครั้ง“มึง..!” เอริคโกรธจัดเมื่อเห็นว่าปืนไม่มีลูกกระสุน เขาเลยคิดจะเปลี่ยนใช้ปืนกระบอกมาตีหัวของเฟยแทน...แต่มือของเอริคก็ต้องหยุดอยู่กลางอากาศ เพราะถูกเฟยรู้ทันซะก่อน เลยรีบคว้ามือข้างที่จะตีเอาไว้ได้... เ
แสงแดดยามเช้าเริ่มสอดส่องเข้ามาในห้อง ทำให้เห็นร่างเปลือยเปล่าทั้งสอง ที่นอนขยับบดเบียดกันอยู่บนเตียงชัดขึ้น สะโพกหนาก็ยังคงขยับโยกขึ้นลงอย่างต่อเนื่อง บางครั้งก็เร่งจังหวะ บางครั้งก็ขยับช้าเนิน สลับสับเปลี่ยนกันไปริมฝีปากบางขบกัดริมฝีปากหนาอย่างหื่นกระหาย แสดงถึงความปรารถนาที่ไม่อาจห้ามใจได้ ขณะเดียวกันลิ้นร้ายก็ตวัดลากไปมา อย่างเร่าร้อนอยู่ในโพลงปากไม่หยุด เอริคที่ถูกเฟยปรนเปรอให้ยันเช้าอีกครั้ง ก็ได้แต่ส่งเสียงควรญครางอยู่ในลำคออย่างห้ามไม่ได้ เพราะถึงตอนนี้ฤทธิ์ในร่างกาย จะจางหายไปหมดแล้วก็ตาม...แต่เมื่อเฟยไม่ยอมหยุดการกระทำ บวกกับร่างกายของเขาที่อ่อนระทวยไร้เรี่ยวแรง เอริคก็มิอาจต่อต้านอีกฝ่ายได้เลย...“อื้ออ...อื้อออ”เอริคยกมือทุบอกขาว เพื่อให้คนด้านบนถอนริมฝีปากออก เมื่อเริ่มรู้สึกหายใจไม่ทัน ถึงเขาจะถูกเฟยกดจูบหลายครั้ง จนริมฝีปากเริ่มรู้สึกเจ็บแสบ แต่เอริคก็ไม่เคยชินกับรสจูบของเฟยเลยสักที“ชอบใช่ไหมครับ” เฟยเงยหน้าขึ้นถามด้วยสายตาหวานเยิ้ม ถึงครั้งนี้ที่เอริคยอมนอนกับเขาก็เพราะจำใจ แต่เขาก็ยังอยากถามว่าอีกฝ่ายจะพูดตอบกลับมายังไง“ไม่” เอริคปฏิเสธกลับเสียงแข็งอย่างไม่ยอมรับ