อรุณเบิกฟ้า นกกาโบยบิน สองสามีภรรยาหลังจากกินอาหารเช้าเสร็จแล้ว ตระเตรียมข้าวของสำหรับขึ้นเขา ตะกร้าสะพายหลัง เตรียมอาหารและน้ำดื่มเสร็จสรรพ เดินขึ้นเขาทันที วันนี้ตั้งใจว่าจะเข้าไปในป่าให้ลึกอีกหน่อย เพื่อที่จะหาสมุนไพรบำรุงร่างกายให้ท่านพ่อและท่านแม่ สัตว์ที่ล่าได้วันนี้จะไม่นำไปขาย
เนี่ยหลิงนางตั้งใจว่าจะเริ่มสะสมเสบียงให้มากหน่อยนางตั้งใจว่าจะเอากลับไปให้บ้านฝั่งมารดาของนางเองด้วย ไม่ได้กลับไปเลยตั้งสองปีแล้วด้วยปัญหาหลายๆอย่าง ตอนนี้นางตั้งใจที่จะทำให้ครอบครัวฝั่งสามีและฝั่งมารดาของนาง ได้ผ่านพ้นหน้าหนาวไปได้และต้องมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ถึงแม้บิดาของนางจะเป็นนายพรานที่เก่งกาจแต่นั่นมันเมื่อก่อน ตอนนี้ท่านพ่อของนางเองก็แก่ชรามากแล้ว ท่านแม่เองก็สุขภาพไม่ค่อยดี ที่บ้านมีเพียงน้องชายที่ยังไม่ได้แต่งภรรยา อายุ16 หนาวแล้วคงต้องเร่งหาเงินและหาเสบียงให้มากหน่อย
“ท่านพี่เจ้าคะ วันนี้ข้าว่าจะเข้าไปในป่าชั้นกลางเพื่อที่จะหาสมุนไพร บำรุงร่างกายให้ท่านพ่อและท่านแม่ของท่าน อีกส่วนหนึ่งข้าจะแบ่งไปให้ท่านพ่อและท่านแม่ของข้าด้วยนะเจ้าคะ”
“มันจะดีหรือน้องหญิง มันอันตรายมากนะ หากว่าเจอกับสัตว์วิญญาณจะทำเช่นไร”
“ข้าจะไม่เข้าไปลึกมากเจ้าค่ะ และข้ามีเรื่องจะบอกให้ท่านพี่ทราบด้วย”
เนี่ยหลิงตัดสินใจจะบอกถึงการมีอยู่ของแหวนมิติ และความสามารถของธนูให้สามีฟังเพราะนางตั้งใจจะล่าสัตว์ไปเป็นเสบียงจำนวนมาก ลำพังแค่นางกับสามีคงไม่สามารถขนกลับไปได้หมด
“เรื่องอะไรหรือน้องหญิง”
“วันที่ข้าพลัดตกเขาข้าได้ตกลงไปในหุบเขาข้าหมดสติไป พอฟื้นขึ้นมาข้าได้เดินมาเจอถ้ำๆหนึ่งเพื่อหาที่นั่งพักข้าเลยลองเข้าไปดูข้าพบกับหีบหนึ่งใบ ธนูที่ข้าสะพายมาด้วยอันนี้และลูกธนูและมีแหวนมิติอีกหนึ่งวง เจ้าค่ะ”
“เจ้าว่าอะไรนะ แหวน แหวนมิติรึข้าได้ยินแต่คำบอกเล่า ไม่นึกว่าจะมีจริงๆเรื่องนี้เจ้าห้ามแพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เด็ดขาด มันอันตรายมากนะน้องหญิง”
“ข้าทราบเจ้าค่ะ ในหีบยังมีตำราฝึกปราณ ตำราฝึกยุทธ์ และวิธีเปิดจุดชีพจรเพื่อฝึกปราณ และตำราปรุงโอสถด้วยเจ้าค่ะ”
“สวรรค์เมตตาครอบครัวเราแล้ว ตอนนี้เรายังอ่อนแอไม่สามารถที่จะปกป้องตัวเองได้ เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ใครรู้เป็นเด็ดขาด"
“และธนูนี้ สามารถยิงสัตว์ให้ตายได้ทันทีแม้จะไม่โดนจุดตายของสัตว์ตัวนั้น”
“เช่นนั้นเจ้าทำอะไรอย่าได้ประมาทและระวังให้มาก”
“ข้าเข้าใจเจ้าค่ะท่านพี่”
ทั้งสองคนเดินเข้ามาจนถึงป่าชั้นกลาง เนี่ยหลิงและหยางหลง เดินเข้าป่าลึกผ่านต้นไม้น้อยใหญ่ เดินมาประมาณครึ่งชั่วยาม ก็เจอกับฝูงกระต่ายแสงจันทร์สัตว์วิญญาณระดับต่ำ เนี่ยหลิง ขึ้นสายธนู และยิงออกไปโดยเล็งที่จ่าฝูง ฟิ้วววว ปั๊ก เจ้ากระต่ายเคราะห์ร้ายล้มลงทันที กระต่ายตัวอื่นๆเมื่อเห็นจ่าฝูงล้มลงก็หนีเข้าป่าทันที เนี่ยหลิงจัดการเก็บกระต่ายเข้าแหวนมิติทันที
“นะ น้องหญิง ธนูของเจ้าช่าง วิเศษนัก" หยางหลงเอ่ยออกมา ด้วยความตกใจ
“ไปกันเถอะท่านพี่ เวลาไม่ช้าแล้วเราจะกลับมืดค่ำเอาได้ ”
ทั้งสองเดินเข้าไปในป่าชั้นกลางเรื่อยๆ ในป่าเงียบสงบ และดูวังเวงพิกลสองตาสอดส่าย มองหาสมุนไพรพลันสายตาก็ไปหยุดที่ตรงพุ่มไม้เตี้ยๆสีแดงส้มๆประมาณ 5-6 ต้น นางแทบจะกรี๊ดลั่นป่า สองเท้าสาวเข้าไปทันที
“น้องหญิง นั่นเจ้าจะไปไหน”
“ท่านพี่ ท่านพี่เจ้าคะ ข้าว่าข้าเจอโสม เจ้าค่ะ”
“โสมรึ น้องหญิง ”
“ใช่เจ้าค่ะท่านพี่ ช่วยข้าขุดเร็วๆ อย่าให้โดนรากนะเจ้าคะ ค่อยๆขุด”
“ได้” หยางหลงรับคำและรีบลงมือขุด ถึงแม้มือจะสั่นไปบ้าง แต่เขาพยายาม อย่างถึงที่สุดเพราะกลัวจะขุดโดนราก ทำให้สมุนไพร เสียหายได้
โสมป่า
ขุดเสร็จทั้งสองคนเดินต่อ ระหว่างทาง ทั้งสองพบเจอสัตว์ บ้างประปราย แล้วเนี่ยหลิงก็ไม่พลาดที่จะล่าด้วยเช่นกัน หยางหลงเองก็ล่าได้ ทั้งไก่ป่า หมูป่า กระต่ายป่า ตอนนี้ในป่ามองไม่เห็นแสงของดวงอาทิตย์ เลยไม่รู้ว่าตอนนี้เวลาไหนแล้ว ทั้งคู่หยุดพักทานอาหารด้วยความหิวโหย
“น้องหญิงพี่ว่า เราน่าจะเดินลงเขาได้แล้วพี่กลัวมันจะมืดค่ำ และเกิดอันตรายได้"
“เอาตามที่ท่านพี่ว่าเถอะเจ้าค่ะ ข้าเองก็คิดเช่นนั้น สัตว์ป่าได้มาหลายตัวแล้ว และอีก สองวัน ข้าจะกลับไปเยี่ยมท่านพ่อ ท่านแม่ข้านะเจ้าคะ จะเอาอาหารและของที่จำเป็นไปให้ด้วย”
“ได้ เอาตามที่น้องหญิงว่า พี่ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้ พาเจ้ากลับไปตั้งสองปี หวังว่า ท่านพ่อตาและท่านแม่ยาย คงจะยกโทษให้เขย อกตัญญูเช่นพี่”
“ท่านพี่อย่าได้โทษตัวเองเลย ท่านพ่อ ท่านแม่ข้า เข้าใจดีที่สุดถึงความจำเป็นของครอบครัวท่านพี่เจ้าค่ะ”
เมื่อทั้งสอง กินอาหารเสร็จ ก็เดินลงจากเขาพอดี ระหว่างทางก็ล่าสัตว์ และเก็บผักป่า และเห็ด ไปด้วย เดินลงมาเรื่อยๆ อยู่ๆเนี่ยหลิงก็หยุดเดินกะทันหัน หยางหลงเห็นผู้เป็นภรรยา หยุดเดิน จึงหยุดเดินด้วย เขามองเห็นภรรยา อ้าปากค้าง ตาโต ชี้มือ ไปที่ ใต้ร่มไม้ใหญ่ และได้ยินเสียงพึมพำๆของผู้เป็นภรรยา
“ท่านพี่ๆ นั่นมัน นั่นมัน หญ้าวานรเวหาใช่หรือไม่ สมุนไพรวิญญาณระดับกลางด้วย ท่านพี่ๆ นี่ข้าฝันไปใช่หรือไม่”
หยางหลงไม่ได้ตอบ เนี่ยหลิงเพราะ เขาเองทำสิ่งใดไม่ถูก ตาค้างอ้าปากกว้าง ยืนอึ้งนิ่งค้างไปตั้งแต่สายตามองเห็นหญ้าวานรเวหาตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว
“ท่านพี่ ท่านพี่เจ้าคะ”
“ห๊ะ ว่าเยี่ยงไรน้องหญิง”
“ท่านจะยืนอึ้งอีกนานหรือไม่ รีบช่วยข้าเก็บไวๆเจ้าค่ะ ข้าจะคอยคุ้มกันให้ อาจจะมีสัตว์วิญญาณที่เฝ้าหญ้าวานรเวหาอยู่ก็เป็นได้”
ไม่รอช้าหยางหลงรีบเก็บหญ้าวานรเวหาทันที วันนี้นับว่าโชคดี ที่ได้พบกับหญ้าวานรเวหา ท่านพ่อ ท่านแม่ จะได้มียาบำรุง และหายจากอาการเจ็บป่วยเสียที ขอบคุณสวรรค์ที่เมตตาครอบครัวของเขา และก็เป็นไปตามคาด หยางหลงเก็บสมุนไพรเสร็จพอดี ทั้งสองกำลังจะหันหลังเดินออกมา หมีขนเหล็กก็พุ่งเข้าหาทั้งสองคนทันที มันอุตส่าห์เฝ้า สมุนไพรไม่ให้สัตว์ตัวอื่นมาเข้าใกล้ มันแค่ออกไปหาอาหารแป๊บเดียว มนุษย์ตัวเหม็นสองคนนี้กลับมาชุบมือเปิบเอาไป
ทั้งสองคนกระโดดหลบไปคนละทาง เนี่ยหลิงตกใจมาก พอได้สติ เล็งธนูใส่หมีขนเหล็กทันที ก่อนที่หมีจะตะปบสามีของนางได้ทันท่วงที พลางถอนใจอย่างโล่งอก ครั้งนี้นับว่า ประมาทมากจริงๆ เพราะอารามดีใจ ที่ได้สมุนไพรวิญญาณ นางเก็บหมีเข้าแหวน มิติ และรีบเร่งเดินออกจากป่าชั้นกลางทันที
“ท่านพี่รีบไปกันเถอะเจ้าค่ะ”
“ได้” หยางหลง ที่ยังตกใจหน้าซีด เป็นกระดาษ รีบเดินตามภรรยาไปทันที พลางคิดในใจ นึกว่าจะไม่รอดแล้ว
อันตรายจริงๆ ป่าชั้นกลาง น่ากลัวจริงๆ