กลับถึงบ้านก็เกือบได้เวลาอาหารเย็น ทั้งสอง เดินเข้าบ้าน คอกวัว สร้างเสร็จแล้ว หลังคาซ่อมเสร็จแล้วเช่นกันคงเหลือแต่ผนังบ้านที่ชำรุด เป็นบางจุด ช่างจะมาซ่อมแซม ให้ในวันพรุ่งนี้ ค่าใช้จ่ายทั้งหมด 100 เหรียญทอง ทั้งสองเอาของทั้งหมดที่ได้มาวันนี้ เอาไปกองไว้ในห้องครัวก่อน พรุ่งนี้ เนี่ยหลิง จะเข้าเมือง เพื่อไปขายของป่าที่ได้มาวันนี้ และจะไปสำรวจตลาดด้วย เผื่อ จะมีแนวทางในการหาเงิน เพิ่มขึ้น
ได้เวลาอาหารเย็น ทุกคน มารวมกันที่ ห้องโถง ที่ใช้เป็นห้องกินข้าวด้วย นางได้กล่าวกับพ่อสามีว่า อีก สองวันจะกลับไปเยี่ยมบ้านเดิม ซึ่งหนิงเหวินเทียนเองไม่ได้คัดค้านลูกสะใภ้ พร้อมสนับสนุนด้วย
“สองปีแล้ว ที่เจ้าไม่ได้กลับไปเยี่ยมบิดามารดา เจ้าไปคราวนี้ก็เอาของไปมากหน่อย พ่อแม่ของเจ้าอายุมากขึ้น คงทำงานหนักไม่ได้เช่นเก่าก่อน ดูว่าขาดเหลือสิ่งใด เจ้าจัดหาไปให้ด้วยก็แล้วกัน นี่ก็ใกล้จะเข้าหน้าหนาวแล้ว”
“เจ้าค่ะท่านพ่อ ท่านพ่อเจ้าคะ วันนี้ข้ากับท่านพี่ได้สิ่งนี้มาเจ้าค่ะ” นางเอาหญ้าวานรเวหาขึ้นมาวาง พอทุกคนเห็นสิ่งที่นางเอามา ถึงกับนั่งนิ่ง อ้าปากค้าง ตาโตเท่าไข่ห่าน
“นี่ นี่มัน หญ้าวานรเวหา ถึงกับเป็นสมุนไพร วิญญาณระดับกลาง ทั้งยังมีตั้งห้าต้น พวกเจ้าได้มันมาจากไหนใช่ว่าพวกเจ้าเข้าป่าชั้นกลางมาใช่หรือไม่”
“ข้ากับน้องหญิงพบมันที่ ป่าชั้นนอกติดกับป่าชั้นกลางขอรับท่านพ่อ” หยางหลงเอ่ยโกหก ออกไป เพราะกลัวบิดาจะกังวลนี่ ถ้าท่านพ่อรู้ว่าเขาเกือบโดนหมีขนเหล็กตบ ท่านพ่อคงได้อาการป่วยกำเริบอีกแน่
“ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้ากับน้องหญิงจะไม่นำไปขาย น้องหญิงบอกว่าให้ท่านต้มบำรุงร่างกายและรักษา โรคเก่าของท่านทั้งสองให้หายดี พอถึงหน้าหนาวจะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมาน อีก”
“พ่อและแม่ ขอบใจเจ้าทั้งสองมาก” ท่านพ่อกล่าวออกมาด้วยตวงตาแดงกล่ำ ท่านแม่เองถึงกับร้องไห้ออกมา ทุกคน พลอยยินดีไปด้วย ต่อไปนี้ ความเป็นอยู่คงจะค่อยๆดีขึ้น ไม่ต้องอดมื้อกินมื้อ เงินที่หามาได้ ก็ไม่ต้องหมดไปกับค่ายาของ สองผู้เฒ่าอีก
“เอาล่ะ กินข้าวกันเถอะ ประเดี๋ยวอาหารจะเย็นแล้วไม่อร่อย”
หลังจากที่ทุกคน ทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว ท่านแม่น้องเล็ก เก็บถ้วยชามไปล้าง เนี่ยหลิง และทุกคน นั่งหารือเรื่องซื้อที่ดินและสร้างบ้าน ส่วนลูกๆ ทั้งสามนั้น ออกไปวิ่งเล่น เพื่อย่อยอาหาร ที่ลานบ้าน
“ท่านพ่อเจ้าคะ พรุ่งนี้ รบกวนท่านพ่อไปติดต่อซื้อที่ดินเพิ่มจากหัวหน้าหมู่บ้าน เจ้าค่ะ”
“เจ้าต้องการมากน้อยแค่ไหน อาหลิง”
“ข้าต้องการที่ดินรอบๆบ้านของเรา ทั้งหมด ด้านหลังยาวไปถึงลำธารเล็ก จนถึงตีนเขาเจ้าค่ะท่านพ่อ”
“มากมายเพียงนั้น เงินที่มี จะพอสร้างบ้านหรือไม่ หากซื้อที่ดินมากมายเพียงนั้น”
“ท่านพ่อไม่ต้องกังวลนะขอรับ วันนี้ข้าและน้องหญิง ได้กระต่ายแสงจันทร์มาสองตัว และเห็ดหลินจือ ยังมีโสมอีกด้วย”
“ใช่เจ้าค่ะท่านพ่อ ท่านไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน ข้ากับท่านพี่ จะเข้าเมืองไปขายของพรุ่งนี้ เจ้าค่ะ”
“น้องรอง น้องสาม พวกเจ้า หาฟืนให้ได้มากที่สุด อีกสองวันข้าจะไปบ้านพ่อตาแม่ยาย หลังจากกลับมาแล้วพวกเราจะขึ้นเขาอีกครั้ง”
“ขอรับพี่ใหญ่"
หลังจากจบการพูดคุยปรึกษาหารือกันแล้ว ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อน เนี่ยหลิงเดินไปตามลูกๆให้ไปอาบน้ำ เข้านอน เมื่อเข้ามาในแล้วห้าคน พ่อแม่ลูก นอนเบียดกันบนเตียงเตา ไม่นานก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย
เช้าวันใหม่ หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ เนี่ยหลิงกับหยางหลง เข้าเมืองไปขายสัตว์ป่า ที่ล่ามาได้ และสมุนไพร ส่วนน้องชายทั้งสอง ไปหาฟืน ท่านแม่กับน้องเล็ก ยังคงทำปลาตากแห้ง เหมือนเดิม นอกเหนือจาก ตัดชุดสำหรับทุกคน ส่วนท่านพ่อ ไปติดต่อซื้อที่ดินเพิ่มที่บ้านหัวหน้าหมู่บ้านโดยมีหลานๆทั้งสามตามไปด้วย เดินเข้ามาในหมู่บ้านสักพักก็มาถึงบ้านหัวหน้าหมู่บ้าน บ้านอิฐหลังใหญ่ หัวหน้าหมู่บ้านถือว่าร่ำรวยคนหนึ่ง ลูกชาย คนโต ทำอาชีพนายพรานเช่นเดียวกับคนในหมู่บ้าน ส่วนลูกชายคนที่สอง เปิดร้านขายของชำในเมืองสายรุ้ง ลูกชายคนที่สาม ทำงานเป็นนายบัญชีในเมืองสายรุ้งเช่นกัน ส่วนลูกสาว แต่งงานกับชายหนุ่มฐานะร่ำรวยหมู่บ้านข้างๆ ท่านพ่อเคาะประตูทันทีที่เดินมาถึง
“ มีคนอยู่หรือไม่ขอรับ ท่านหัวหน้าหมู่บ้านอยู่หรือไม่” สักพักก็มีคนออกมาเปิดประตู
“สามีข้า อยู่ในบ้าน เชิญท่านหนิง เข้ามาก่อนเจ้าค่ะ” ฮูหยินเหลียนเชิญท่านพ่อเข้าไปในบ้าน
“นั่งรอสักครู่เจ้าค่ะ ข้าจะไปเรียก ท่านพี่มาให้” นางเหลียนหันหลังเดินออกไป สักพักหัวหน้าหมู่บ้าน ก็เข้ามา
“มีอะไรให้ข้าช่วยเหลือเช่นนั้นหรือ ” ทันทีที่นั่งลงหัวหน้าหมู่บ้านเอ่ยปากถามทันที
“ข้าต้องการซื้อที่ดินเพิ่มขอรับ ”
“ซื้อที่ดินงั้นรึ เจ้าต้องการตรงไหนล่ะ ”
“ข้าต้องการที่ว่างรอบๆบ้านข้า ยาวไปถึงลำธารตีนเขา ขอรับ ไม่ทราบว่ามีเจ้าของหรือไม่”
“มากมายเพียงนั้น เจ้าต้องการที่ดินไปทำอะไรหรือ ที่ติดเขา ไม่มีเจ้าของดอก เพราะคนกลัวสัตว์ป่าลงมาทำร้าย"
“ไม่เป็นไรขอรับ ลูกชายคนโตของข้ากับภรรยา ต้องการที่จะเพาะปลูก และเลี้ยงสัตว์ ไม่ทราบว่า ราคาที่ดิน หมู่ละเท่าไหร่ขอรับ”
“ที่ดิน ราคาหมู่ละ 10 ตำลึงทอง ตามที่ทางการกำหนด ที่ดินที่เจ้าต้องการ รวมทั้งสิ้น 200 หมู่ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,000 ตำลึงทอง"
“นี่ขอรับเงิน” ท่านพ่อนำตั๋วเงิน มาจ่ายค่าที่ดิน และเหลือเงิน สำรองที่บ้าน เพียง 200ตำลึงทอง เท่านั้น
หัวหน้าหมู่บ้าน เขียนหนังสือสัญญาซื้อขาย ให้ท่านพ่อ ลงชื่อ ท่านพ่อใส่ ชื่อในโฉนดที่ดิน เป็นชื่อหยางหลง หนังสือสัญญาทำขึ้น สามฉบับ เก็บไว้ที่ท่านพ่อ หนึ่งฉบับ หัวหน้าหมู่บ้านหนึ่งฉบับ และ ส่งให้ทางการหนึ่งฉบับ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ท่านพ่อให้ค่าน้ำชา หัวหน้าหมู่บ้าน 10 ตำลึงเงิน เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ท่านพ่อและหลานๆ กลับบ้านทันที
หลังจากท่านพ่อออกมาแล้ว หัวหน้าหมู่บ้าน เอ่ยกับนางเหลียน ผู้เป็นภรรยาทันที เรื่องบ้านหนิงมาซื้อที่ดินเป็นจำนวนมาก ข่าวที่ว่า หยางหลงและภรรยา ได้พบเจอวาสนาในป่า คงเป็นเรื่องจริง คงได้สิ่งล้ำค่าจากป่าไปขาย ไม่เช่นนั้น คงไม่มีเงิน มากมายขนาดนี้ ทั้งๆที่ สองปีมานี้ บ้านหนิง มีความเป็นอยู่ที่แร้นแค้นมาก
“ท่านพี่ บ้านหนิงซื้อที่เยอะหรือเจ้าคะ”
“200 หมู่ เลยล่ะ สงสัยข่าวที่ว่า ลูกชายคนโตพบเจอสมุนไพรล้ำค่า คงเป็นเรื่องจริง ทั้งยังซื้อเกวียนวัว อีกด้วย”
“คงเป็นเช่นนั้นเจ้าค่ะ ”
ณ บ้านสกุลหนิง
“ท่านพี่ สำเร็จหรือไม่เจ้าคะ เงินพอหรือไม่” ท่านแม่ที่รออยู่ ที่บ้านเอ่ยปากถามสามี ทันทีที่ สามีกลับมาถึงบ้าน
“ที่ทั้งหมด 200 หมู่ เป็นเงิน 2,000 ตำลึงทอง เงินมีเพียงพอจ่าย เจ้าไม่ต้องกังวล”
“เจ้าค่ะท่านพี่ ท่านดื่มน้ำก่อนเจ้าค่ะ แล้วนี่ หลานๆทั้งสาม ไปไหน ไม่ใช่แอบตาม ท่านอาทั้งสอง ขึ้นไปหาฟืนบนเขานะ”
“ปล่อยหลาน ไปเถอะ หาฟืนแค่ ป่ารอบนอกไม่มีอันตรายอะไรหรอก ลูกรอง ลูกสามดูแลหลานได้”
ขณะที่ ทั้งสองพูดคุยกันอยู่นั้น เหม่ยหลัน ก็อุ้มชิงหลงที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นเข้ามา
“หลงเอ๋อร์ เจ้าร้องไห้ทำไม เจ็บที่ใดรึ มาให้ย่าดูหน่อย”
“หลานไม่ได้เป็นอะไรหรอกเจ้าค่ะท่านแม่ แค่เสียใจ ที่ พี่ๆ ไม่ให้ขึ้นเขาไปหาฟืนกับพี่ รองและพี่สาม ”
“หลงเอ๋อร์ ยังเด็ก บนเขาอันตราย อยู่กับ ย่ากับปู่ดีหรือไม่ ย่าจะให้อาเล็ก ทำขนมอร่อยๆให้ กิน ไม่ร้องแล้ว นะ เป็นลูกผู้ชายต้องไม่ร้องไห้ งอแง"
“ก็ ได้ ขอ ยับ หลานจะเชื่อฟัง ท่านปู่ ท่านย่า”