"มิลานพวกฉันสองคนต้องขอโทษเธอจริง ๆ นะ"
"ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ได้โกรธอะไรพวกเธอเลยจริง ๆ " "แต่ถึงยังไงพวกฉันสองคนก็ยังรู้สึกผิดอยู่ดี"บทสนทนาของเพื่อนรักทั้งสามดังขึ้นนานอยู่หลายนาที เนื่องจากเพื่อนทั้งสองไม่ได้มาตามนัดจนทำให้ทั้งคู่เกิดความไม่สบายใจกลัวว่ามิลานจะโกรธ "เราไม่เป็นไรจริง ๆ เธอสองคนไม่ต้องคิดมากนะ" "จริง ๆ นะ"ลูกคุณหนูทั้งสองแววตาเปล่งประกาย "แต่เธอต้องบอกฉันมาก่อนว่าทำไมถึงไม่ยอมไปตามนัด ทำไมถึงปล่อยให้ฉันต้องอยู่กับราเชนทร์สองคน"มิลานนั่งมองหน้าจอโทรศัพท์เครื่องเก่าซึ่งบนหน้าจอสามารถมองเห็นปฏิกิริยาของเพื่อนทั้งสองผ่านการวิดีโอคอลได้ "เรื่องนี้ฉันไม่เกี่ยวนะ เป็นความคิดของยัยมีนาล้วน ๆ "กุ๊กไก่โบกมือไปมาเพราะเธอเองก็ถูกมีนาสั่งห้ามจนต้องใช้ให้คนขับรถอย่างกราฟฟิกพาเธอมาส่งที่บ้านแทนที่จะมุ่งหน้าไปห้างสรรพสินค้าตามที่นัดกันไว้ "ว่าไงมีนา" "ก็ฉันอยากให้เธอได้มีเวลาอยู่กับคนที่เธอชอบนี่"เด็กสาวคนคิดแผนนี้ขึ้นมาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง "ฉันคิดว่าการเปิดทางให้เธอได้อยู่กับราเชนทร์เพียงแค่สองคนมันจะทำให้เธอได้มีโอกาสบอกชอบหมอนั่น เธออย่าโกรธฉันเลยนะมิลาน" "ฉันไม่โกรธเธอหรอก อย่าคิดมากสิ"มิลานยิ้มตาหยีมันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่เธอและราเชนทร์ได้อยู่ใกล้ชิดกัน "แล้วเป็นยังไงบ้างเธอได้บอกความรู้สึกในใจหรือยัง"กุ๊กไก่ชะโงกใบหน้าเข้ามาใกล้ด้วยความอยากรู้ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงกุ๊กไก่มีนาเองก็ยังตั้งใจรอฟังคำตอบจากปากของมิลาน "ยังไม่ได้บอก" "โห" "ทำไมอ่า"สองเพื่อนรักโอนครวญด้วยความเสียดาย เพราะโอกาสที่ทั้งสองจะอยู่ด้วยกันนั้นเป็นไปได้ยากอีกทั้งเวลาในรั้วโรงเรียนก็ใกล้จะหมดแล้วเช่นเดียวกัน "ทำไมเธอไม่บอกความรู้สึกให้หมอนั่นได้รู้ล่ะ" "ก็ ฉันไม่กล้า"เธอไม่มีความกล้ามากพอที่จะบอกความรู้สึกให้อีกฝ่ายได้รับรู้ "เธอต้องกล้าได้แล้วนะมิลาน อีกไม่กี่วันเธอกับหมอนั่นก็จะไม่ได้เจอหน้ากันแล้วนะ" "ใช่ ดีกว่าเธอเก็บความรู้สึกไว้คนเดียวนะ" "แต่ฉัน" "กล้า ๆ หน่อยสิ บางทีหมอนั้นอาจจะรอให้เธอไปสารภาพความในใจอยู่ก็ได้นะ" "ฮ่า ๆ ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีสิ"มิลานพูดพลางหัวเราะออกมา แม้จะไม่มีน้ำตาแค่ความเจ็บปวดมันกำลังจุกอยู่ที่อกของเธอ 'ไม่เหมาะสม'ประโยคสั้น ๆ แต่มันมีความหมายมากมายทำให้เธอไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปบอกความในใจให้ชายหนุ่มได้รู้ "ตื่นเต้นจังเลยนะพรุ่งนี้ก็จะสอบวันสุดท้ายแล้ว" "อื้ม สัญญากันได้ไหมว่าถ้าหากออกไปใช้ชีวิตในรั้วมหาลัยแล้วจะไม่ลืมกัน กุ๊กไก่ มิลาน" "อืม ฉันจะไม่มีลืมพวกเธอสองคนอยู่แล้ว" "ฉันก็ด้วย" "ถ้าเป็นไปได้ฉันอยากให้เราทั้งสามคนได้เรียนที่เดียวกัน ไม่ต้องคณะเดียวกันก็ได้แต่ขอให้อยู่ในมหาลัยเดียวกัน"คำพูดของมีนาเพียงคนเดียวทำให้เพื่อนสนิทอีกสองคนถึงกับเงียบจนพูดไม่ออก เพราะอนาคตของทั้งสามสาวก็ไม่มีใครล่วงรู้ได้ว่ามันจะเป็นยังไง ในวันที่ท้องฟ้าสดใสแต่มิลานรู้สึกไม่อยากก้าวขาเข้ามาในโรงเรียนสักนิด ถ้าไม่ติดว่าวันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายเธออยากจะขอลาหยุดนอนอยู่บ้านเสียมากกว่า "นั่นไงมิลานมาพอดี"เสียงหวานของมีนาดังขึ้นทันทีเมื่อเธอเดินเข้ามาใต้อาคารเรียน สองเท้าไม่อยากจะก้าวไปข้างหน้าเมื่อเห็นว่าเพื่อนทั้งสองคนยืนจับกลุ่มคุยอยู่กับใคร ร่างสูงใหญ่อยู่ในชุดนักเรียนถูกระเบียบกำลังยืนจ้องหน้าของเธอด้วยสายตายากจะคาดเดา สุดท้ายแล้วมิลานก็ต้องยอมเดินเข้าไปรวมกลุ่มกับเพื่อนสนิททั้งสอง "มีอะไรกันหรือเปล่า" "ไม่รู้สิ ก็หมอนี่มาตามหาเธอ"กุ๊กไก่ชี้ไปยังร่างของราเชนทร์ซึ่งยังคงยืนจ้องหน้าของเธอนิ่ง "นายมีธุระอะไรกับเราเหรอเชนทร์"มิลานดันกรอบแว่นตาให้เข้ากับกรอบหน้า เธอยืนรอฟังคำพูดของชายหนุ่มว่าเขาจะพูดอะไรออกมา "เอ่อถ้าพวกเธอทั้งสองคนมีธุระจะคุยด้วยกัน ถ้าอย่างนั้นฉันกับกุ๊กไก่ขอตัวไปหาอะไรทานก่อนนะ"มีนาลากแขนกุ๊กไก่ให้เดินตามออกมาทิ้งให้มิลานยืนเผชิญหน้าอยู่กับราเชนทร์เพียงลำพัง "เมื่อวาน เธอกลับยังไง" "เอ่อ ฉันก็กลับรถเมล์ว่าแต่นายถามทำไม" "เมื่อวานหลังจากที่ฉันกลับแล้ว เสียงเพลงได้ไปหาเธอหรือเปล่า"คำถามของราเชนทร์ทำเอามิลานแทบหยุดหายใจอะไรทำให้เขาตั้งคำถามนี้กับเธอได้ "ปะ...เปล่า ฉันไม่ได้เจอเสียงเพลงเลย"ราเชนทร์หรี่ตาจับพิรุธของมิลาน แม้เธอจะไม่ได้แสดงอาการออกมาแต่ทว่าดวงตากลมสวยคู่นั้นกลับลนลานไม่กล้าจะเงยขึ้นมาสบตาเขา "นายถามแบบนี้มีอะไรหรือเปล่า" "เปล่าหรอก" "..." "ฉันก็แค่อยากจะบอกเธอว่าไม่ต้องไปฟังในสิ่งที่เสียงเพลงพูดให้มันมาก"มิลานเงยหน้าสบตาชายหนุ่มทันทีเมื่อเขาพูดแบบนั้นออกมาราวกับราเชนทร์รับรู้อะไรบางอย่างมาหลังจากที่เขาและเธอแยกทางกันตั้งแต่เมื่อวาน "ฉันก็ยังเป็นฉัน ไม่ได้เป็นของใคร"ดวงตาคมเข้มสื่อความหมายอะไรบางอย่างยามเมื่อมองหน้าของเด็กสาวอย่างมิลาน ราเชนทร์หมุนตัวเดินออกมาปล่อยให้มิลานยืนขบคิดในคำพูดของเขาในเมื่อครู่ โดยมีสายตาขุ่นเคืองคู่หนึ่งแอบมองอยู่ไม่ไกลและได้เห็นว่าทั้งสองใกล้ชิดกันอีกครั้ง "หลังจากสอบเสร็จแล้ว ทางโรงเรียนจะจัดกิจกรรมส่งท้ายให้กับนักเรียนมอหกทุกคน"อาจารย์ที่ปรึกษาเกริ่นขึ้นหลังจากนักเรียนทุกคนจัดการส่งกระดาษคำตอบของวิชาสุดท้ายของวันนี้หมดแล้ว "กิจกรรมที่ทางโรงเรียนจะจัดให้เป็นแนวคิดของท่านผู้อำนวยการคนใหม่ นั้นก็คือการพานักเรียนไปผ่อนคลายที่ทะเลหลังจากที่สอบเสร็จ" "เย้" "จะเดินทางไปวันไหนครับอาจารย์" "เราจะเดินทางวันมะรืน สำหรับใครที่ผู้ปกครองไม่อนุญาตให้ไปสามารถบอกอาจารย์ได้เลยนะ"นักเรียนทุกคนภายในห้องต่างพากันดีใจเพราะนี้คือโอกาสสุดท้ายที่พวกเขาจะได้ไปเที่ยวเล่นสนุกด้วยกัน "ไปเที่ยวทะเลหลังสอบแบบนี้ก็ดีน่ะสิ" "ใช่ ฉันจะได้ใส่บิกินี่แล้ว" "นี่ น้อย ๆ หน่อย ใครเขาใส่บิกินี่กันล่ะ เกรงใจเพื่อน ๆ ในห้องกันบ้างสิ"มีนาเอ่ยปากเถียงกับกุ๊กไก่โดยมีสายตาของมิลานมองทั้งคู่ด้วยความเอ็นดู แต่เธอคงไม่รู้ว่ามีสายตาคมเข้มของใครอีกคนกำลังมองแผ่นหลังเล็ก ๆ ของเธออยู่แทบจะตลอดเวลา"ฉันขอเลียมันนะ""อะ...อื้อ"เสียงครางในลำคอเล็กดังขึ้นเมื่อปลายลิ้นแตะลงบนเนื้อสาวผ่านผิวผ้าบางของกางเกงในสีขาว ใบหน้าของหญิงสาวแดงระเรื่อมีเหงื่อซึมไหลลมหายใจเริ่มหนักหน่วง ตรงช่วงล้างกำลังมีปลายลิ้นร้ายของชายหนุ่มปาดซ้ายเลียขวาเรียกน้ำหวานให้ซึมไหลออกมา"อ๊าส์ ซี๊ด""หวานมากเลยมิลาน"เขาเอ่ยชมก่อนจะก้มลงไปจัดการกับเนินเนื้อของเธอต่อ มิลานน้ำตาคลอเธอยืนขาสั่นเกร็ง ยิ่งเขาเร่งตวัดปลายลิ้นถี่มากเท่าไหร่ยิ่งทำให้เธออ่อนแรงจนแทบจะยืนไม่ไหว"ราเชนทร์ อ๊าส์ เบาหน่อย อื้อ หยุดก่อน"เธอรีบเอ่ยปรามเมื่อรู้สึกว่าเหมือนตัวเองจะปลดปล่อยบางสิ่งบางอย่างออกมาแต่ทว่าชายหนุ่มกลับไม่คิดจะหยุด ราเชนทร์ใช้นิ้วสากของตัวเองเกี่ยวขอบกางเกงในตัวบางให้มาอยู่ตรงกลางกลีบอูม กลีบขาวสีขาวสวยทั้งสองฝั่งรัดกางเกงในตัวบางดันทรงให้เม็ดสวยเด้งขึ้นมาล่อตาล่อใจซึ่งมันเกินกว่าที่ชายหนุ่มจะอดใจไหวได้เม็ดสวยสีชมพูแนบไปกับกางเกงในสีขาวตัวบางจนเห็นเป็นรูปทรงสวย ราเชนทร์ฉวยโอกาสในตอนที่เธอเผลอโน้มหน้าเข้าไปฉกชิมความหอมหวานจากติ่งสวยของเธอจนมิลานดิ้นพล่านแผล็บ แผล็บ แผล็บ"อ๊าย ราเชนทร์ ฉันทนไม่ไหวแล้ว อื้อ""ก็ไม่ต้องทน ปล่
"พ่อกับแม่ไปก่อนนะ แล้วก็อย่าลืมเรื่องหลานนะพ่อกับแม่แก่แล้วอยากอยู่บ้านเลี้ยงหลานมากกว่า"มิลานเขินอายจนหน้าแดงเมื่อมารดาทั้งของเธอและทั้งของชายหนุ่มพูดแบบนั้นออกมา แม้ว่าพวกท่านทั้งสี่จะเดินออกไปจากห้องหอของเธอในคืนนี้ได้สักพักแล้วแต่มิลานก็ยังคงเขินอายจนไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองสามีหมาด ๆ ของตัวเธอพรึ่บ"อุ๊ย"มิลานร้องอุทานเมื่อฝ่ามือใหญ่ของสามีอย่างราเชนทร์แตะลงบนท่อนแขนเปลือย "เป็นอะไรเหรอ""ปะ...เปล่า เราไม่ได้เป็นอะไร"เธอตอบชายหนุ่มออกไปด้วยน้ำเสียงซึ่งไม่ค่อยจะมั่นคงสักเท่าไหร่ สายตาเหลือบมองไปยังท่อนแขนซึ่งยังมีฝ่ามือใหญ่ของชายหนุ่มสัมผัสอยู่"ไม่ได้เป็นอะไรแล้วทำไมตัวสั่นล่ะ หรือว่าเธอกลัว""กะ...ก็""ถ้าเธอกลัว ฉันจะรอให้ถึงวันที่เธอพร้อมก็ได้นะ"เพราะเขาเองก็ไม่อยากฝืนน้ำใจของเธอเหมือนกันแม้ว่าคืนนี้มันจะเป็นคืนสำคัญระหว่างเขาและเธอ"ไม่ใช่อย่างนั้นนะ"มิลานรีบหันตัวใช้ฝ่ามือคว้าท่อนแขนของชายหนุ่มเอาไว้เมื่อเขาดึงฝ่ามือออกจากท่อนแขนของเธอชายหนุ่มหันมามองหน้าภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายปล่อยให้เธอเดินเข้ามาสวมกอดโดยไม่คิดจะผลักเธอออกไปเพราะเรื่องแบบนี้เขาเข้าใจมันดี"คือฉันแค่กลั
'จับมือแล้วเดินกันไปด้วยกันนะ'คำคำนี้พวกเขาทั้งสองมักจะบอกต่างฝ่ายเอาไว้เสมอยามเมื่อต้องเจอเรื่องที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกัน ซึ่งเรื่องเหล่านั้นมันก็จะเกิดขึ้นในชีวิตซึ่งมันเป็นเรื่องปกติสำหรับคู่ของใครหลาย ๆ คนซึ่งหนึ่งในนั้นมันก็เป็นคู่ของเขาแต่ไม่ว่าทั้งสองจะเจอปัญหาอะไรต่างฝ่ายต่างก็ไม่คิดจะเดินหันหลังหนีให้พวกเขาทั้งสองจะใช้เวลาในการปรับความเข้าใจเพราะว่าการทำแบบนี้มันดีกว่าการเดินหนีปัญหาแล้วปล่อยให้คนรักคิดหนักไปต่าง ๆ นานา การเดินหนีปัญหาแล้วปล่อยให้อีกฝ่ายต้องมานั่งจมอยู่กับความคิดมันไม่ใช่ทางเลือกของทั้งสองคน ทั้งราเชนทร์และมิลานจับมือครองรักกันมายาวนานจนถึงสี่ปีตั้งแต่ปีหนึ่งจนถึงปีสี่ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับทั้งสอง คู่รักแห่งปีไม่เคยมีข่าวเสียหายเพราะต่างฝ่ายต่างให้ความสำคัญและยึดมั่นกับคนรักมากกว่าใคร วันรับปริญญาคือวันส่งท้ายการใช้ชีวิตอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยที่ราเชนทร์ได้มอบของขวัญสุดพิเศษให้กับแฟนสาวของเขา"แต่งงานกับเชนทร์นะ"น้ำตาของคนถูกขอแต่งงานอย่างมิลานแทบจะไหลทะลักอวดโชว์กลางสายตานับกว่าร้อยชีวิต มิลานทั้งรู้สึกเขินอายและอยากจะร้องไห้ในเวลาเดียวกัน เธอไม่ทั
ความรู้สึกของทั้งสองตลอดระยะเวลาหลายปีถูกปลดปล่อยมันออกมา ภาพที่ทั้งสองเคยคิดอยู่ในหัวตอนนี้มันได้เป็นจริงเสียแล้ว การคบหาของมิลานและราเชนทร์เป็นที่รับรู้ของทั้งสองครอบครัว เพราะหลังจากราเชนทร์จัดเซอร์ไพรส์มอบเกียร์วิศวะให้กับมิลานในเย็นวันนั้นรุ่งเช้าเขาก็พาเธอเข้าไปพบพ่อแม่ที่บ้านหลังใหญ่เรียกว่าการเปิดตัวคนรักของลูกชายในครั้งนี้ทำเอาคุณสุชาดาและคุณหญิงเพียงเพ็ญแทบจะตั้งตัวรับไม่ทัน'นี่มิลานครับ เธอเป็นแฟนของผม''...''เธอคือคนที่ผมเลือกแล้ว'ราเชนทร์มองตาผู้เป็นบิดา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาก้าวขาเข้ามาเหยียบในบ้านหลังนี้หลังจากเกิดเหตุการณ์ครั้งนั้นซึ่งมันก็ผ่านมานานหลานเดือนบรรยากาศการของพบหน้าบิดามารดาของแฟนหนุ่มแม้มันจะดูผิดแปลกแต่มิลานก็สัมผัสได้ว่าท่านทั้งสองไม่ได้นึกรังเกียจเธอ และบางครั้งเธอก็แอบเห็นแววตาของท่านสุชาดาแอบมองบุตรชายอยู่บ่อยครั้งเหมือนกับว่ามีเรื่องบางอย่างอยากจะพูดด้วย'ขนมฝีมือคุณน้าอร่อยจังเลยนะคะ ไม่ทราบว่าขนมแบบนี้เขาทำกันยังไงเหรอคะ หนูอยากลองทำบ้างเผื่อวันว่าง ๆ จะได้ทำให้ราเชนทร์ได้ทาน''หนูอยากทำเหรอจ๊ะ''ค่ะ หนูอยากทำ'มารดาของราเชนทร์ยิ้มออกมาก่อนท่านจะ
"ทำไมรีบกลับจังเลยล่ะคะไม่อยู่กับหนูก่อนเหรอ"น้ำเสียงออดอ้อนของมิลานดังขึ้นเมื่อรถตู้คันหรูเคลื่อนตัวมาจอดยังสนามบิน ร่างเล็กของมิลานเข้าไปกอดบิดามารดาด้วยความคิดถึงอีกครั้งวันนี้ตลอดทั้งวันเธอได้ใช้เวลาอยู่กับท่านทั้งสองส่วนแฟนหนุ่มอย่างราเชนทร์ได้เดินทางกลับคอนโดเพื่อกลับไปเตรียมตัวสำหรับการประชุมรับน้องในวันนี้"เอาไว้พ่อเคลียร์เรื่องงานเสร็จเมื่อไหร่พ่อกับแม่จะรีบเดินทางมาหาหนูนะลูก""จริงนะคะ""จริงสิ แต่ถ้าลูกอยากจะเดินทางไปหาพ่อกับแม่ที่นั่นก็ได้นะพ่อจะได้ส่งเครื่องบินมารับ"โรเบิร์ตโอบกอดบุตรสาวเพียงคนเดียวด้วยความรัก "แม่กับพ่อต้องไปแล้ว ดูแลตัวเองรักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีนะลูกเข้าใจไหม""ค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะ""จ้ะลูกรัก"บุตรสาวเพียงคนเดียวโบกมือลาทั้งสอง มิลานมองร่างของบิดาและมารดาเดินเคียงคู่ขึ้นไปบนเครื่องบินส่วนตัว รถตู้คันหรูเครื่องตัวออกมาจากตรงนั้นอย่างเชื่องช้า หลังจากฝ่าฟันรถติดในช่วงเวลาเย็นมาได้ทำให้มิลานรู้สึกเหนื่อยอยู่ไม่น้อย ร่างเล็กล้มตัวนอนลงบนโซฟาตัวยาวด้วยความเหนื่อยล้าแต่ทว่าวันนี้กลับเป็นวันที่เธอมีความสุขมากที่สุดเลยก็ว่าได้'พ่อกับแม่อนุญาตให้ลูกทั้งส
หนึ่งชั่วต่อมารถตู้คันหรูสองคันเคลื่อนตัวเข้ามาจอดยังบริเวณหน้าบ้านหลังใหญ่สาวใช้ที่เห็นว่ามีรถคันใหญ่เคลื่อนตัวเข้ามาจอดก็รีบวิ่งไปบอกผู้เป็นเจ้านายแตกต่างกับสีหน้าของคนในรถ"นี่มันอะไรกันเหรอคะ คุณพ่อพาหนูมาที่นี่ทำไม"บ้านหลังใหญ่ที่ครั้งหนึ่งเธอเคยก้าวขาเข้ามาเหยียบที่นี่และตอนนี้เธอก็ได้กลับมาเหยียบอีกครั้งพร้อมกับบิดาและมารดาของเธอ"คุณพ่อคะ""พ่อก็แค่จะทำเรื่องทุกอย่างให้มันจบ"ฝ่ามือสากกุมแก้มข้าวของลูกสาว รอยแผลจากเรื่องเมื่อวานยังคงเป็นรอยอยู่บนใบหน้าของมิลาน"ไม่ต้องกลัวอะไรนะลูก พ่อจะคอยปกป้องหนูเองจะไม่มีใครมาทำร้ายลูกสาวของพ่อได้อีก""คุณพ่อคิดจะทำอะไรคะ"โรเบิร์ตไม่ตอบเขาหันมองออกไปนอกตัวรถเห็นร่างของชายหญิงวัยกลางคนเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าประตู"เราลงจากรถกันเถอะค่ะ"ครืดประตูรถตู้คันหรูถูกเปิดออกด้วยฝีมือของบอดีการ์ดก่อนร่างของอุษณีกับสามีจะก้าวขาเดินลงมาจากรถด้วยท่าทีสง่างามดั่งคนมีเงิน"สวัสดีครับคุณโรเบิร์ตคุณหญิงเป็นเกียรติอย่างมากที่คุณโรเบิร์ตเดินทางมาที่นี่ด้วยตัวเอง"เกริกพลอดีตนักธุรกิจชื่อดังและภรรยาอย่างคุณหญิงประภาพรซึ่งตอนนี้ตำแหน่งคุณหญิงได้ถูกปลดออกไปเป็นที่เ