'ไม่เหมาะสม'
คำคำ นี้ ลอยอยู่ในหัวสมองของมิลานนานอยู่นับชั่วโมงตั้งแต่เธอเดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าก้าวขาขึ้นรถประจำทางความคิดของเธอก็ยังไม่ได้หลุดพ้นจากเรื่องนี้ หนึ่งชั่วโมงในก่อนหน้านี้เธอยังได้มีเวลาอยู่ใกล้กันกับเขาราวกับว่าเธอกำลังฝัน แต่ดูเหมือนว่าความสุขในความฝันของเธอจะอยู่ได้ไม่นานเมื่อมีเสียงเพลงคนที่เหมาะสมกับราเชนทร์เข้ามาปลุกให้เธอได้ตื่นขึ้นมาเผชิญกับความเป็นจริงเสียก่อน "หนูกลับมาแล้วค่ะแม่"แม้ข้างในจะรู้สึกเจ็บปวดแต่เธอต้องเก็บมันเอาไว้ มิลานในชุดนักเรียนเดินเข้าไปในตัวบ้านซึ่งตอนนี้กำลังมีร่างของมารดาซึ่งเธอก็พึ่งจะกลับมาจากการขายขนมจากตลาดเช่นเดียวกัน "หิวไหมลูกแม่ซื้อก๋วยเตี๋ยวน้ำตกที่หนูชอบมาด้วยนะ" "ขอบคุณนะคะ หนูกำลังหิวอยู่พอดีเลย"เธอวางกระเป๋าสะพายลงบนโซฟาตัวเล็กก่อนเด็กสาวจะเดินเข้าไปกอดร่างของมารดา ทั้งสองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมา แม้เธอจะเกิดมาแล้วมีแต่ผู้เป็นแม่ที่คอยเลี้ยงดูไม่ได้รวยล้นฟ้าแต่เธอกลับไม่รู้สึกว่าตัวเองขาดแคลนอะไรเลยสักนิด "มิลานของแม่ จะอ้อนเอาอะไรคะ" "เปล่าค่ะ หนูแค่อยากกอดแม่เฉย ๆ " "น่ารักจังเลยลูกสาวคนสวยของแม่"จมูกโด่งของมารดากดลงสูดดมความหอมบนศีรษะของบุตรสาวด้วยความรัก อุษณีย์มารดาของมิลานซึ่งแม้อายุจะย่างเข้าเลขห้าแต่เธอก็ยังคงดูดีแม้เธอจะดำรงทำอาชีพแม่ค้าแต่ก็ใช่ว่าเธอจะดูโทรมหรือมีริ้วรอยบนใบหน้าเหมือนกับคนที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน "ใกล้จะสอบเสร็จแล้วหรือยังคะคนเก่งของแม่" "พรุ่งนี้สอบอีกวันเดียวก็จะเสร็จแล้วค่ะ"อุษณีย์พยักหน้ารับรู้ "แล้วหนูคิดเอาไว้แล้วหรือยังว่าจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ไหน"คำถามนี้ทำให้มิลานชะงักไปชั่วขณะ เธอดันตัวออกจากอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นพลางเงยหน้าสบตามารดา "แม่คะ" "ว่าไงลูก" "หนูไม่อยากเรียนต่อแล้วค่ะ" "มิลาน หนูพูดอะไรออกมารู้ตัวหรือเปล่า"อุษณีย์ดีดตัวลุกขึ้นนั่งหลังตรง เธอเอ่ยถามลูกด้วยน้ำเสียงตกใจเพราะไม่คิดว่าลูกสาวของเธอที่ชื่นชอบในการเล่าเรียนถึงได้คิดในเรื่องนี้ "หนูคิดดีแล้วค่ะแม่ หนูอยากออกมาช่วยแม่ขายของหนูไม่อยากให้แม่ต้องเหนื่อยลำบากหาเงินส่งหนูเรียนเพียงลำพัง"แม้ว่าความหวังของเธอคือการเรียนจบสูง ๆ เพื่อจะได้หางานดี ๆ ทำจะได้มีเงินมาให้มารดาท่านจะได้หยุดขายขนมไม่ต้องออกไปตากแดดทนร้อนเหมือนทุกวันนี้ "หนูไม่อยากให้แม่ต้องมาลำบากเพราะหนูอีกต่อไป" "โถ มิลานลูก"อุษณีย์ดึงร่างของลูกสาวเข้ามากอด เธอร้องไห้ออกมาเมื่อได้ยินคำพูดของลูกสาว ความปวดร้าวมันบาดลึกฝังอยู่ในใจ ถ้าเธอไม่คิดที่จะเดินหนีออกมาจากชีวิตของสามีในวันนั้นป่านนี้ชีวิตของเธอกับลูกก็คงไม่ต้องมาทุกข์ลำบากเหมือนกับทุกวันนี้ มิลานก็คงไม่ต้องถูกตราหน้าว่าเป็นลูกสาวแม่ค้าขายขนม มีแม่เป็นเพียงแค่แม่ค้าจน ๆ คนเป็นแม่รู้สึกผิดขึ้นมาทันทีที่ตนเองพาลูกสาวมาอยู่อย่างยากลำบาก เมื่อก่อนเธอมีอาชีพเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน การที่เธอได้ทำอาชีพนั้นมันทำให้เธอได้ไปทั่วเที่ยวโบยบินไปรอบโลก จนได้มาพบรักกับหนุ่มตาน้ำข้าวที่เมืองมิลาน เขาและเธอตกหลุมรักกันตั้งแต่แรกเจอ ความสุขของเธอคือช่วงที่ได้มีเวลาอยู่กับเขา เราสองคนอยู่ด้วยกันใช้เวลาวันที่ว่างอย่างมีคุณค่า คำว่ารักจากปากของเขาที่บอกเธอมาเธอสัมผัสได้ถึงความจริงจังและจริงใจ แต่ความรักของเราทั้งสองต้องจบลงเพราะเหตุผลบางอย่างที่มันเกินกว่าเธอจะรับไหวและเมื่อเธอได้ตัดสินใจขอจบความสัมพันธ์แล้วหันหลังเดินออกมาอุษณีย์ก็พบว่าคนที่เธอรักได้ฝากอีกหนึ่งชีวิตไว้ในร่างกายของเธอ ถ้าหากวันนี้เธอไม่หุนหันพลันแล่น มิลานลูกสาวของเธอก็คงไม่ต้องมาใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความลำบากเช่นนี้ "มิลานลูก" "คะ" "เรื่องเรียนลูกไม่ต้องเป็นห่วงนะ ลูกอยากจะเรียนคณะอะไรแม่ขอให้ลูกตั้งใจสอบให้เต็มที่"ความมุ่งมั่นในแววตาของมารดาทำให้มิลานรู้สึกชะงักไปเล็กน้อย เด็กสาวที่ไม่เคยรู้เรื่องราวของครอบครัวในอดีตที่ผ่านมาได้แต่นั่งมองหน้าของมารดาด้วยความไม่เข้าใจ "เข้าใจที่แม่บอกหรือเปล่า ไม่ว่าลูกอยากจะเรียนคณะอะไรก็ทำให้เต็มที่" "แม่คะ แต่เรา" "เรื่องค่าใช้จ่ายลูกไม่ต้องเป็นห่วง" "..." "เพราะต่อไปนี้แม่จะไม่ยอมให้หนูต้องมาทนอยู่อย่างยากลำบากอีกแล้ว"ผู้ชายเลวระยำอย่างโรเบิร์ต เลียม ต้องได้รับรู้เสียทีว่าเลือดเนื้อเชื้อไขที่เขาอยากได้ตอนที่ยังคบกับเธอได้ถือกำเนิดเกิดขึ้นแล้ว "หนูขึ้นไปพักผ่อนก่อนนะมิลาน แล้วไม่ต้องคิดมากถึงเรื่องนั้นแม่จะจัดการทุกอย่างให้หนูเอง" "ค่ะ"แม้จะไม่เข้าใจแต่มิลานก็ยังคงทำตามคำที่มารดาบอก เด็กสาวคว้ากระเป๋าสะพายเดินขึ้นไปยังห้องพักของตนเองที่อยู่บนชั้นสองโดยมีสายตาของอุษณีย์มองตามแผ่นหลังเล็ก ๆ ของลูกสาวด้วยแววตารักใคร่และเอ็นดู อุษณีย์เดินขึ้นมาบนห้องพักของตนเองซึ่งแยกออกจากลูกสาว เธอจัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ให้มันดูสดใสเครื่องสำอางที่เก็บไว้ในตู้หลายปีถูกรื้อค้นออกมาใช้ อดีตพนักงานต้อนรับบนเรื่องบินของสายการบินชื่อดังได้เปลี่ยนแปลงตัวเองในรูปโฉมใหม่ แม้อายุจะเข้าใกล้เลขห้าแต่ว่าผิวหน้าผิวเนื้อตามร่างกายยังคงเต่งตึงไม่หย่อนยานแม่เวลาจะล่วงเลยผ่านไปนาน "ไม่รู้ว่าคุณจะยังใช้งานมันอยู่ไหม"แอปพลิเคชันที่เขาฮิตกันทั่วโลกซึ่งอดีตเธอและเขาก็ได้เข้าถึงวิวัฒนาการของมัน อุษณีย์จัดการเปิดบัญชีเก่าที่เธอปิดไว้ไปนานก่อนจะจัดการนอนคว่ำเอียงหน้าสี่สิบห้าองค์ปัดเส้นผมนุ่มสลวยให้ลงมาปรกหน้าก่อนเธอจะจัดการถ่ายรูปแล้วโพสต์ลงบนinstagramพร้อมกับใส่แคปชั่นว่า 'พร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่' แม้จะไม่ได้เปิดบัญชีใช้มานานแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีใครผ่านเข้ามาเจอเธอมองบรรดาเพื่อนเก่าทยอยเข้ามากดไลค์แต่ยังไม่เห็นวี่แววว่าอดีตคนรักอย่างโรเบิร์ตจะเข้ามา ความสวยของเธอเป็นที่โดดเด่นสะดุดทุกสายตาเพราะอดีตเธอก็ฮอตอยู่ไม่น้อยถ้าไม่เช่นนั้นพ่อของมิลานคงไม่ตามหึงตามหวงหลงรักเธอหัวปักหัวปำแบบนั้นหรอก แต่อย่างที่บอกผู้ชายมันก็เหมือนเสือไม่สิ้นลายต่อให้เขามีเธออยู่แล้วก็ไม่แคล้วไปคว้าดอกไม้ข้างทางมาให้ความสุข "แม่จะทำเพื่อหนูนะมิลาน" ครืด โรเบิร์ต เลียม กดถูกใจรูปถ่ายของคุณ"ฉันขอเลียมันนะ""อะ...อื้อ"เสียงครางในลำคอเล็กดังขึ้นเมื่อปลายลิ้นแตะลงบนเนื้อสาวผ่านผิวผ้าบางของกางเกงในสีขาว ใบหน้าของหญิงสาวแดงระเรื่อมีเหงื่อซึมไหลลมหายใจเริ่มหนักหน่วง ตรงช่วงล้างกำลังมีปลายลิ้นร้ายของชายหนุ่มปาดซ้ายเลียขวาเรียกน้ำหวานให้ซึมไหลออกมา"อ๊าส์ ซี๊ด""หวานมากเลยมิลาน"เขาเอ่ยชมก่อนจะก้มลงไปจัดการกับเนินเนื้อของเธอต่อ มิลานน้ำตาคลอเธอยืนขาสั่นเกร็ง ยิ่งเขาเร่งตวัดปลายลิ้นถี่มากเท่าไหร่ยิ่งทำให้เธออ่อนแรงจนแทบจะยืนไม่ไหว"ราเชนทร์ อ๊าส์ เบาหน่อย อื้อ หยุดก่อน"เธอรีบเอ่ยปรามเมื่อรู้สึกว่าเหมือนตัวเองจะปลดปล่อยบางสิ่งบางอย่างออกมาแต่ทว่าชายหนุ่มกลับไม่คิดจะหยุด ราเชนทร์ใช้นิ้วสากของตัวเองเกี่ยวขอบกางเกงในตัวบางให้มาอยู่ตรงกลางกลีบอูม กลีบขาวสีขาวสวยทั้งสองฝั่งรัดกางเกงในตัวบางดันทรงให้เม็ดสวยเด้งขึ้นมาล่อตาล่อใจซึ่งมันเกินกว่าที่ชายหนุ่มจะอดใจไหวได้เม็ดสวยสีชมพูแนบไปกับกางเกงในสีขาวตัวบางจนเห็นเป็นรูปทรงสวย ราเชนทร์ฉวยโอกาสในตอนที่เธอเผลอโน้มหน้าเข้าไปฉกชิมความหอมหวานจากติ่งสวยของเธอจนมิลานดิ้นพล่านแผล็บ แผล็บ แผล็บ"อ๊าย ราเชนทร์ ฉันทนไม่ไหวแล้ว อื้อ""ก็ไม่ต้องทน ปล่
"พ่อกับแม่ไปก่อนนะ แล้วก็อย่าลืมเรื่องหลานนะพ่อกับแม่แก่แล้วอยากอยู่บ้านเลี้ยงหลานมากกว่า"มิลานเขินอายจนหน้าแดงเมื่อมารดาทั้งของเธอและทั้งของชายหนุ่มพูดแบบนั้นออกมา แม้ว่าพวกท่านทั้งสี่จะเดินออกไปจากห้องหอของเธอในคืนนี้ได้สักพักแล้วแต่มิลานก็ยังคงเขินอายจนไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองสามีหมาด ๆ ของตัวเธอพรึ่บ"อุ๊ย"มิลานร้องอุทานเมื่อฝ่ามือใหญ่ของสามีอย่างราเชนทร์แตะลงบนท่อนแขนเปลือย "เป็นอะไรเหรอ""ปะ...เปล่า เราไม่ได้เป็นอะไร"เธอตอบชายหนุ่มออกไปด้วยน้ำเสียงซึ่งไม่ค่อยจะมั่นคงสักเท่าไหร่ สายตาเหลือบมองไปยังท่อนแขนซึ่งยังมีฝ่ามือใหญ่ของชายหนุ่มสัมผัสอยู่"ไม่ได้เป็นอะไรแล้วทำไมตัวสั่นล่ะ หรือว่าเธอกลัว""กะ...ก็""ถ้าเธอกลัว ฉันจะรอให้ถึงวันที่เธอพร้อมก็ได้นะ"เพราะเขาเองก็ไม่อยากฝืนน้ำใจของเธอเหมือนกันแม้ว่าคืนนี้มันจะเป็นคืนสำคัญระหว่างเขาและเธอ"ไม่ใช่อย่างนั้นนะ"มิลานรีบหันตัวใช้ฝ่ามือคว้าท่อนแขนของชายหนุ่มเอาไว้เมื่อเขาดึงฝ่ามือออกจากท่อนแขนของเธอชายหนุ่มหันมามองหน้าภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายปล่อยให้เธอเดินเข้ามาสวมกอดโดยไม่คิดจะผลักเธอออกไปเพราะเรื่องแบบนี้เขาเข้าใจมันดี"คือฉันแค่กลั
'จับมือแล้วเดินกันไปด้วยกันนะ'คำคำนี้พวกเขาทั้งสองมักจะบอกต่างฝ่ายเอาไว้เสมอยามเมื่อต้องเจอเรื่องที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกัน ซึ่งเรื่องเหล่านั้นมันก็จะเกิดขึ้นในชีวิตซึ่งมันเป็นเรื่องปกติสำหรับคู่ของใครหลาย ๆ คนซึ่งหนึ่งในนั้นมันก็เป็นคู่ของเขาแต่ไม่ว่าทั้งสองจะเจอปัญหาอะไรต่างฝ่ายต่างก็ไม่คิดจะเดินหันหลังหนีให้พวกเขาทั้งสองจะใช้เวลาในการปรับความเข้าใจเพราะว่าการทำแบบนี้มันดีกว่าการเดินหนีปัญหาแล้วปล่อยให้คนรักคิดหนักไปต่าง ๆ นานา การเดินหนีปัญหาแล้วปล่อยให้อีกฝ่ายต้องมานั่งจมอยู่กับความคิดมันไม่ใช่ทางเลือกของทั้งสองคน ทั้งราเชนทร์และมิลานจับมือครองรักกันมายาวนานจนถึงสี่ปีตั้งแต่ปีหนึ่งจนถึงปีสี่ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับทั้งสอง คู่รักแห่งปีไม่เคยมีข่าวเสียหายเพราะต่างฝ่ายต่างให้ความสำคัญและยึดมั่นกับคนรักมากกว่าใคร วันรับปริญญาคือวันส่งท้ายการใช้ชีวิตอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยที่ราเชนทร์ได้มอบของขวัญสุดพิเศษให้กับแฟนสาวของเขา"แต่งงานกับเชนทร์นะ"น้ำตาของคนถูกขอแต่งงานอย่างมิลานแทบจะไหลทะลักอวดโชว์กลางสายตานับกว่าร้อยชีวิต มิลานทั้งรู้สึกเขินอายและอยากจะร้องไห้ในเวลาเดียวกัน เธอไม่ทั
ความรู้สึกของทั้งสองตลอดระยะเวลาหลายปีถูกปลดปล่อยมันออกมา ภาพที่ทั้งสองเคยคิดอยู่ในหัวตอนนี้มันได้เป็นจริงเสียแล้ว การคบหาของมิลานและราเชนทร์เป็นที่รับรู้ของทั้งสองครอบครัว เพราะหลังจากราเชนทร์จัดเซอร์ไพรส์มอบเกียร์วิศวะให้กับมิลานในเย็นวันนั้นรุ่งเช้าเขาก็พาเธอเข้าไปพบพ่อแม่ที่บ้านหลังใหญ่เรียกว่าการเปิดตัวคนรักของลูกชายในครั้งนี้ทำเอาคุณสุชาดาและคุณหญิงเพียงเพ็ญแทบจะตั้งตัวรับไม่ทัน'นี่มิลานครับ เธอเป็นแฟนของผม''...''เธอคือคนที่ผมเลือกแล้ว'ราเชนทร์มองตาผู้เป็นบิดา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาก้าวขาเข้ามาเหยียบในบ้านหลังนี้หลังจากเกิดเหตุการณ์ครั้งนั้นซึ่งมันก็ผ่านมานานหลานเดือนบรรยากาศการของพบหน้าบิดามารดาของแฟนหนุ่มแม้มันจะดูผิดแปลกแต่มิลานก็สัมผัสได้ว่าท่านทั้งสองไม่ได้นึกรังเกียจเธอ และบางครั้งเธอก็แอบเห็นแววตาของท่านสุชาดาแอบมองบุตรชายอยู่บ่อยครั้งเหมือนกับว่ามีเรื่องบางอย่างอยากจะพูดด้วย'ขนมฝีมือคุณน้าอร่อยจังเลยนะคะ ไม่ทราบว่าขนมแบบนี้เขาทำกันยังไงเหรอคะ หนูอยากลองทำบ้างเผื่อวันว่าง ๆ จะได้ทำให้ราเชนทร์ได้ทาน''หนูอยากทำเหรอจ๊ะ''ค่ะ หนูอยากทำ'มารดาของราเชนทร์ยิ้มออกมาก่อนท่านจะ
"ทำไมรีบกลับจังเลยล่ะคะไม่อยู่กับหนูก่อนเหรอ"น้ำเสียงออดอ้อนของมิลานดังขึ้นเมื่อรถตู้คันหรูเคลื่อนตัวมาจอดยังสนามบิน ร่างเล็กของมิลานเข้าไปกอดบิดามารดาด้วยความคิดถึงอีกครั้งวันนี้ตลอดทั้งวันเธอได้ใช้เวลาอยู่กับท่านทั้งสองส่วนแฟนหนุ่มอย่างราเชนทร์ได้เดินทางกลับคอนโดเพื่อกลับไปเตรียมตัวสำหรับการประชุมรับน้องในวันนี้"เอาไว้พ่อเคลียร์เรื่องงานเสร็จเมื่อไหร่พ่อกับแม่จะรีบเดินทางมาหาหนูนะลูก""จริงนะคะ""จริงสิ แต่ถ้าลูกอยากจะเดินทางไปหาพ่อกับแม่ที่นั่นก็ได้นะพ่อจะได้ส่งเครื่องบินมารับ"โรเบิร์ตโอบกอดบุตรสาวเพียงคนเดียวด้วยความรัก "แม่กับพ่อต้องไปแล้ว ดูแลตัวเองรักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีนะลูกเข้าใจไหม""ค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะ""จ้ะลูกรัก"บุตรสาวเพียงคนเดียวโบกมือลาทั้งสอง มิลานมองร่างของบิดาและมารดาเดินเคียงคู่ขึ้นไปบนเครื่องบินส่วนตัว รถตู้คันหรูเครื่องตัวออกมาจากตรงนั้นอย่างเชื่องช้า หลังจากฝ่าฟันรถติดในช่วงเวลาเย็นมาได้ทำให้มิลานรู้สึกเหนื่อยอยู่ไม่น้อย ร่างเล็กล้มตัวนอนลงบนโซฟาตัวยาวด้วยความเหนื่อยล้าแต่ทว่าวันนี้กลับเป็นวันที่เธอมีความสุขมากที่สุดเลยก็ว่าได้'พ่อกับแม่อนุญาตให้ลูกทั้งส
หนึ่งชั่วต่อมารถตู้คันหรูสองคันเคลื่อนตัวเข้ามาจอดยังบริเวณหน้าบ้านหลังใหญ่สาวใช้ที่เห็นว่ามีรถคันใหญ่เคลื่อนตัวเข้ามาจอดก็รีบวิ่งไปบอกผู้เป็นเจ้านายแตกต่างกับสีหน้าของคนในรถ"นี่มันอะไรกันเหรอคะ คุณพ่อพาหนูมาที่นี่ทำไม"บ้านหลังใหญ่ที่ครั้งหนึ่งเธอเคยก้าวขาเข้ามาเหยียบที่นี่และตอนนี้เธอก็ได้กลับมาเหยียบอีกครั้งพร้อมกับบิดาและมารดาของเธอ"คุณพ่อคะ""พ่อก็แค่จะทำเรื่องทุกอย่างให้มันจบ"ฝ่ามือสากกุมแก้มข้าวของลูกสาว รอยแผลจากเรื่องเมื่อวานยังคงเป็นรอยอยู่บนใบหน้าของมิลาน"ไม่ต้องกลัวอะไรนะลูก พ่อจะคอยปกป้องหนูเองจะไม่มีใครมาทำร้ายลูกสาวของพ่อได้อีก""คุณพ่อคิดจะทำอะไรคะ"โรเบิร์ตไม่ตอบเขาหันมองออกไปนอกตัวรถเห็นร่างของชายหญิงวัยกลางคนเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าประตู"เราลงจากรถกันเถอะค่ะ"ครืดประตูรถตู้คันหรูถูกเปิดออกด้วยฝีมือของบอดีการ์ดก่อนร่างของอุษณีกับสามีจะก้าวขาเดินลงมาจากรถด้วยท่าทีสง่างามดั่งคนมีเงิน"สวัสดีครับคุณโรเบิร์ตคุณหญิงเป็นเกียรติอย่างมากที่คุณโรเบิร์ตเดินทางมาที่นี่ด้วยตัวเอง"เกริกพลอดีตนักธุรกิจชื่อดังและภรรยาอย่างคุณหญิงประภาพรซึ่งตอนนี้ตำแหน่งคุณหญิงได้ถูกปลดออกไปเป็นที่เ