เขตแดนรออยู่ไม่นาน ลูกน้องคนสนิทของเขาก็เข้ามาพบตามคำสั่ง พร้อมกับนำเรื่องบางอย่างมารายงานด้วย
“นี่ครับนาย”
เมื่อภามยื่นซองเอกสารให้เจ้านายแล้ว เขาก็ขยับตัวถอยหลังมายืนประสานมือไว้ข้างหน้า
“ได้เรื่องหรือเปล่า” เขตแดนถามในสิ่งที่ตัวเองมอบหมายให้ลูกน้องไปทำ
“ชื่อของคุณน้ำฟ้า ถูกแจ้งว่าเสียชีวิตพร้อมกับหมอคาร์ลแล้วครับ”
“แล้วธารทีราล่ะ” ชายหนุ่มถามเรียบ ๆ โดยไม่ยอมละสายตาไปจากเอกสารในมือ ซี่งเป็นประวัติของคุณหมอสาวที่เขาสั่งให้ลูกน้องไปสืบมา
“นี่แหละครับที่แปลก” ภามรีบรายงานเจ้านายต่อ เพราะเขาเจอพิรุธบางอย่างที่มันน่าจะเชื่อมกัน
“มีอะไร” เขตแดนเงยหน้าจากเอกสารขึ้นจ้องหน้าลูกน้องตาเขม็ง
“คุณไอซ์ไม่มีประวัติการแจ้งเกิดที่ไทย แต่ไปแจ้งเกิดที่อเมริกา เพิ่งจะมีการยื่นขอสัญชาติไทยเมื่อไม่กี่เดือนนี้เองครับ”
ภามเดินเข้าไปยืนข้างโต๊ะทำงาน แล้วเปิดเอกสารให้เขตแดนดู
ชายหนุ่มครุ่นคิดขณะกวาดสายตาไปบนหน้าเอกสารที่ลูกน้องเปิดค้างไว้ พร้อมกับคิดถึงใบหน้าสวยหวานของธารทีราไปด้วย
“ผมตามสืบได้ด้วยนะครับ ว่ามีคนหลายคนพยายามหาข้อมูลของคุณไอซ์อยู่เหมือนกัน”
ความเงียบของเจ้านาย ทำให้ภามพูดต่อพลางเปิดภาพที่เขาแอบให้คนถ่ายได้เอาไว้ในตอนที่มีคนพยายามมาสืบเรื่องของธารทีรา ซ้ำยังมีอข้อมูลต่าง ๆ ของคนพวกนั้นอีกจำนวนหนึ่ง
เขตแดนไล่ดูภาพที่ถ่ายได้ และรายละเอียดต่าง ๆ ที่ภามไปสืบมาอย่างเงียบเชียบ ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยเสียงเคร่งเครียด
“ไอ้ไทเกอร์”
“ครับ หนึ่งในนั้นคือคนของคุณไทเกอร์” ภามพยักหน้ารับแล้วอธิบายให้เจ้านายฟัง
ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่มายืนมองทิวทัศน์ตรงหน้าต่าง พร้อมกับเอ่ยถาม
“แล้วมีอย่างอื่นอีกหรือเปล่า”
มีครับ ปีเกิดที่แจ้งไว้ของคุณไอซ์ เป็นปีเดียวกับของคุณน้ำฟ้าครับ”
คำพูดของลูกน้อง ทำให้เขตแดนหันมามองหน้าภาม แล้วเดินกลับมานั่งเก้าอี้ตัวเดิม ชายหนุ่มเอนหลังพิงพนักเบาะขบคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงสั่งการบางอย่าง
“มึงไปตามสืบเรื่องไอ้ไทด์ต่อ”
“ครับ” ภามขานรับ และคงเดินออกไปแล้ว หากเจ้านายหนุ่มไม่รั้งไว้
“เดี๋ยว”
“นายต้องการอะไรครับ”
“หาคนมาให้ฉันด้วย”
“หาคน นายจะ…” ภามถามยังไม่ทันจบประโยค ว่าเจ้านายจะเอาคนไปทำไม อีกฝ่ายก็ชิงอธิบายเสียก่อน
“หาคนที่ไว้ใจได้ และส่งไปดูแลธารทีราด้วย ดูแลห่าง ๆ อย่าให้เธอรู้ตัวล่ะ”
"แล้วคุณซีล...“ ภามค่อนข้างลังเลในเรื่องนี้ เนื่องจากคนที่เจ้านายให้หาคนไปดูแลคือน้องสาวของหนึ่งนที
“เดี๋ยวฉันจะบอกไอ้ซีลเอง”
“ครับ” ภามรับคำสั่งของเจ้านาย ก่อนจะเดินออกไปเมื่อเจ้านายหนุ่มโบกมือเป็นเชิงไล่
หลังจากนั้น เขตแดนก็เอาแต่จ้องมองไปยังภาพถ่าย รวมถึงข้อมูลประวัติของธารทีรา พลางคิดในใจว่าหญิงสาวคนนี้คือคนเดียวกับที่เขาตามหามานานแล้วใช่หรือไม่
ปลายนิ้วของเขาเลื่อนไปลูบไล้ภาพถ่ายตรงช่วงใบหน้าของหญิงสาวอย่างเบามือ ราวกับกลัวว่าภาพนั้นจะเสียหาย หากเขาลงน้ำหนักมือมากเกินไป
“ใช่เธอจริงๆ ใช่ไหม น้ำฟ้าของพี่”
เวลาห้าทุ่มที่ห้อง VIP ของผับ เพื่อนๆ ทุกคนมักจะมาสังสรรค์กันที่นี่หลังเลิกงาน แม้แต่เจ้าของผับอย่างเขตแดนก็ถูกชวนลงมาดื่มด้วย และแม้แต่หนึ่งนทีที่มีงานยุ่งทั้งวันก็ตามมาสมทบเช่นกัน
ด้านหนึ่งนทีได้รับรายงานจากซันมาแล้ว ว่าภามตามสืบเรื่องของน้องสาวอยู่ ซึ่งชายหนุ่มก็คิดว่าเพื่อนของเขาคงกำลังสงสัยอะไรบางอย่างในตัวธารทีราอยู่เป็นแน่ หรือไม่บางทีเขตแดนอาจจะล่วงรู้ทุกอย่างแล้วก็เป็นได้
“นี่พวกมึงเป็นปลากัดหรือเปล่าวะ เล่นนั่งจ้องตากันจนจะท้องแล้วนะ”ภูริทยกเท้าเขี่ยขาของหนึ่งนที ขณะพูดเสียงดังใส่เพื่อนทั้งสอง ที่เอาแต่นั่งเงียบและจ้องตากันเขม็ง
“มีอะไรกันหรือเปล่าวะ” จีน่าที่นั่งมองเพื่อนทั้งสองอยู่นานตัดสินใจถามขึ้นมา ด้วยกลัวว่าเพื่อนทั้งสองจะมีปัญหากัน
“เปล่า ไม่มีอะไร” หนึ่งนทีละสายตาจากเขตแดนมามองเพื่อนทุกคนแล้วส่ายหน้า พร้อมยกแก้วเหล้าในมือขึ้นดื่ม
“กูขอตัวนะ” เขตแดนบอก พร้อมกระดกเหล้าเข้าปากจนหมดแล้ววางแก้วลงบนโต๊ะ จากนั้นก็เดินออกจากห้องไปทันที
“อะไรของมันวะ” กระทิงถามเพื่อน ๆ ทุกคน
ด้านซีลไม่พูดอะไร แต่กลับลุกขึ้น เขาเดินตามเขตแดนออกจากห้อง โดยมีสายตาของเพื่อนทั้งสี่มองตามไปด้วยความกังวล
บทที่ 37เมื่อเดินตามมาถึงดาดฟ้าของผับ หนึ่งนทีเห็นเพื่อนเดินไปยืนมองทิวทัศน์เบื้องหน้า ที่ส่วนใหญ่เต็มไปด้วยความมืดมิด มีเพียงบางจุดเท่านั้นที่มีแสงสว่างให้เห็นชายหนุ่มเดินเข้าไปยืนข้างๆ เพื่อน แล้วถามขึ้นว่า“มึงให้คนตามสืบเรื่องน้องกูทำไม”“กูแค่อยากรู้อะไรบางอย่าง” เขตแดนดูดบุหรี่เข้าปอดทีหนึ่ง พลางส่งซองบุหรี่ให้เพื่อนด้วย หนึ่งนทีรับมาถือโดยมีเอีกฝ่ายช่วยจุดให้“เฮ้อ...” หนึ่งนทีถอนหายใจ พลางพ่นควันบุหรี่ออกมาอย่างเซ็ง ๆ“ปิดกูทำไม” ยิ่งเห็นท่าทางของเพื่อน เขตแดนก็ยิ่งมั่นใจในสิ่งคิด แต่ที่ไม่เข้าใจเลยก็คือ ทำไมทุกคนต้องปิดบังเขาด้วย“ปิดอะไร” หนึ่งนทีทำเป็นไม่รู้เรื่อง เพราะเรื่องนี้บรรดาผู้ใหญ่ต่างต้องการให้ปิดเป็นความลับ เขาจึงไม่กล้าพูดอะไรมาก“อย่าคิดว่ากูไม่รู้” เขตแดนพูดเสียงเย็น พลางมองเพื่อนอย่างจับพิรุธ แต่คนฟังยังคงเฉไฉ“มึงอย่าถามมากเลยน่า ตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความปลอดภัยของยัยไอซ์หรอก”“แล้วมึงคิดว่ากูไม่ห่วงเหรอ” พอเห็นเพื่อนรักไม่ยอมพูดอะไร ชายหนุ่มก็สำทับต่อ “กูจะส่งคนของกูไปดูแลอีกทาง”เขตแดนรู้ว่าเพื่อนลำบากใจจึงเปลี่ยนเรื่องพูด อย่างน้อยตอนนี้เขาก็เหมือน
บทที่ 38ด้านคุณจอห์น แม้ว่าลูกชายจะขึ้นห้องไปนานแล้ว แต่เขายังคงนั่งอยู่ที่เดิมและจมอยู่ในห้วงความหลัง สายตาไหวสะท้านแดงก่ำ ขณะมองรูปภาพของตัวเองที่ยืนเกาะบ่าน้องชายถ่ายรูปคู่กันด้วยใบหน้าแช่มชื่นมีความสุข“มึงจะจองล้างจองผลาญกูไปถึงไหน” เขาสบถออกมาคำหนึ่งด้วยความแค้นใจ ยามคิดถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านเลย ณ คฤหาสน์หลังใหญ่ ที่มีบอดี้การ์ดชุดดำยืนกระจายอยู่ทั่วบริเวณ ต่างพากันวิ่งมายืนต้อนรับ เมื่อเห็นรถของไทเกอร์ขับเข้ามาจอดที่ลานจอดรถ“นายครับ” การ์ดคนสนิทรีบเปิดประตูรถให้ไทเกอร์ก้าวลงมาด้วยท่าทีนอบน้อม“ป๋าอยู่ไหนวะ” ไทเกอร์สอบถามการ์ด เมื่อก้าวลงจากรถ“อยู่ที่สวนบอนไซครับ”เมื่อสิ้นคำรายงาน ไทเกอร์ก็รีบเดินไปยังสวนบอนไซที่อยู่ด้านหลังคฤหาสน์ ชายหนุ่มรีบยกมือห้ามเมื่อเห็นว่าการ์ดเดินตามทันทีที่มาถึงสวนบอนไซ ชายหนุ่มก็รีบเดินตรงไปยังจุดที่บิดากำลังวุ่นวายอยู่กับการตกแต่งบอนไซทันที“ป๋าครับ” ไทเกอร์เรียกพ่อ แล้วเดินเข้าไปยืนใกล้ ๆ มือสองข้างประสานกันแล้วไขว้หลังไว้เสียงของลูกชาย ทำให้ดาเนียลนักธุรกิจในวงการสีเทาที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอเมริกาชะงักนิ่งไป เขาหยุดตกแต่งกิ่งบอนไซ พลางวา
บทที่ 39นายหญิงของบ้านนามว่าอันนาที่ยืนฟัง และดูท่าทีของลูกทั้งสองสักพักแล้วเอ่ยเรียกลูกชาย เมื่อเห็นว่าลูกสาวของท่านเดินออกไปแล้ว“ไทด์”เสียงของแม่ทำให้ไทเกอร์ที่มีสีหน้าเคร่งเครียดก่อนหน้านี้ต้องรีบปรับให้เป็นปกติ แล้วหันไปมองและยิ้มให้แม่“แม่ครับ”“น้องไปเที่ยวอีกแล้วหรือ”“แม่ลงมาทำไมครับ”ไทเกอร์มองสีหน้าซีดเซียวของแม่ แล้วก็เป็นห่วง ชายหนุ่มจึงเดินขึ้นไปประคองแม่ และพาไปนั่งที่ห้องรับแขก“ไปทำงานมาเหรอลูก”“ครับ”“วันนี้ทำงานหนักไหมลูก ทำไมทำหน้าเครียดจัง”สีหน้ายุ่งยากใจของลูก ทำให้มาดามอันนายื่นมือเข้าไปประคองหน้าหล่อเหลาของลูกชายขึ้นมามองให้เต็มตา“เปล่าครับ” ชายหนุ่มยิ้มอย่างอ่อนโยน ขณะดึงมือท่านมาจุมพิตด้วยความรัก“มีอะไรเล่าให้แม่ฟังได้นะลูก” คนพูดเอ่ยขึ้นอย่างต้องการปลอบโยน ท่านเลี้ยงลูกมาเองกับมือ มีหรือจะไม่รู้ว่าตอนนี้อีกฝ่ายกำลังรู้สึกเช่นไรไทเกอร์ครุ่นคิดเล็กน้อย แล้วถามแม่ว่า“แม่ช่วยเล่าเรื่องของป๋ากับคุณจอห์นให้ฟังได้ไหมครับ”“ใครนะ” มาดามอันนาถามเสียงดัง เมื่อได้ยินชื่อที่ไม่ได้ยินมานานมากแล้ว“คุณจอห์นครับ แม่รู้จักเหรอครับ” ไทเกอร์ขมวดคิ้วจนหน้าผากเป็นรอยหย
บทที่ 40“เธอมีอะไร”“คุณคิดจะทำอะไรกันแน่ ดาเนียล” มาดามอันนาถามขึ้นอย่างอดไม่ได้ พลางมองสามีเหมือนคนที่ไม่รู้จักกัน แววตามีแต่ความเย็นชา“ฉันทำอะไร” ดาเนียลจ้องหน้าภรรยาตาเขม็งเช่นกัน“คุณให้ไทด์ไปยุ่งกับคุณจอห์นทำไม”“ทำไมฉันจะยุ่งไม่ได้”“คุณพรากครอบครัวน้องชายเขาไปหมดแล้วนะ จะจองล้างจองผลาญพวกเขาไปถึงไหน”ดาเนียลหน้ากระตุก ไม่คิดว่าภรรยาจะขึ้นเสียงใส่จึงพูดเสียงเหี้ยมว่า“ยัง...มันยังไม่จบ”“หมายความว่ายังไง”“เด็กที่ฉันให้ไอ้ไทด์ไปยุ่งด้วย คือลูกสาวของไอ้คาร์ล”ดาเนียลแสยะยิ้มอย่างร้ายกาจเมื่อบอกภรรยา“คุณว่าอะไรนะ!” มาดามอันนาตกใจไม่แพ้กันที่ได้ยินแบบนั้น“นังเด็กนั่นมันยังไม่ตายยังไงล่ะ” ดาเนียลบอกภรรยา ยามคิดถึงเรื่องอดีต แววตาของเขาก็วาวโรจน์ขึ้นอย่างน่ากลัว“นะ...นี่คุณ” มาดามอันนาตกใจมาก ที่ได้ยินคำตอบจากสามี“ใช่” ดาเนียลพูดไปหัวเราะไป ในตอนนี้เขาเหมือนคนโรคจิตก็ไม่ปาน“คุณมันบ้าไปแล้ว” มาดามอันนารับไม่ได้กับความเลวของสามี “คุณมันบ้าไปแล้ว”“หุบปาก!” ดาเนียลตวาดเสียงเหี้ยม“คุณจะทำแบบนั้นไม่ได้นะดาเนียล” เธอพยายามขอร้องให้สามีหยุดการกระทำอันเลวร้าย แต่ดูเหมือนผู้เป็นสามีจ
บทที่ 41ช่วงเวลาที่นั่งรอพนักงานเอากระเป๋ามาให้ดู อุษาก็มองไปรอบด้าน แล้วดึงธารทีราให้ลุกขึ้น จากนั้นก็ลากเพื่อนไปดูกระเป๋ารุ่นใหม่ที่โชว์อยู่ในตู้“ขอดูสองใบนี้ได้ไหมคะ” อุษาหันไปบอกพนักงานคนใหม่ที่คอยเดินตามเธอ“ได้ค่ะ” พนักงานบอก แล้วเอากระเป๋าออกจากตู้โชว์มาวางตรงหน้าอุษา“มีสองใบเหรอคะ” อุษาถามพนักงาน พลางมองกระเป๋าราคาแพงสองใบที่วางอยู่ตรงหน้า“ค่ะ สำหรับรุ่นนี้ตอนนี้มีเข้ามาแค่สองใบค่ะ”“ไอซ์” อุษาหันมองเพื่อนที่ไม่ได้มีทีท่าอยากได้เลย“อื้อ” ธารทีราขานรับเสียงในลำคอ“ซื้อไหม เอาคนละใบ” อุษาเอ่ยถามเพื่อน“ไม่ดีกว่า ฉันมีกระเป๋าเยอะแล้ว” ธารทีราส่ายหน้าปฏิเสธ เพราะเธอเป็นคนที่ไม่ได้ติดแบรนด์เนมเลยสักนิด“ฮือ ไม่เอาอะแก ซื้อเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะ รุ่นนี้มีแค่สองใบเองนะ ฉันใบหนึ่ง แกใบหนึ่งไง” อุษาทำท่าร้องไห้งอแงที่โดนปฏิเสธ“เออ ๆ ก็ได้ ซื้อก็ซื้อ” ธารทีราเห็นดังนั้นก็ปฏิเสธเพื่อนไม่ลงจึงพยักหน้ารับไป ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วเธอไม่อยากได้เลยเมื่อเพื่อนพยักหน้า อุษาก็ยิ้มกว้าง พร้อมทั้งบอกพนักงานตรงหน้า“เอาทั้งสองใบนี้เลยค่ะ”ในจังหวะที่พนักงานจะหยิบกระเป๋าอีกใบออกมา ห่อใส่กระดาษ
บทที่ 42“พี่ไทด์”ชื่อที่ถูกเรียก ทำให้ธารทีราต้องชะงักแล้วหันไปมอง เธอยืนนิ่งไม่ขยับ เมื่อเห็นว่าคน ๆ นั้นเป็นใคร‘คุณไทเกอร์’ “ไอซ์ แกเป็นอะไร” อุษารีบเดินไปเกาะแขนเพื่อน แล้วเอ่ยถาม เมื่ออีกฝ่ายเอาแต่ยืนนิ่งและจ้องเขม็งไปด้านหน้า“ปะ...เปล่า” ธารทีราส่ายหน้าปฏิเสธ แต่ก็ยังจ้องไทเกอร์แบบไม่กะพริบตา“เจอกันอีกแล้วนะครับ คุณหมอ” ไทเกอร์ยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ แล้วเดินเข้าไปหาหญิงสาวตรงหน้าเมื่อหันมาเห็นเธอ“สะ...สวัสดีค่ะ คุณไทเกอร์” ธารทีราพยายามทำหน้านิ่ง ๆ แล้วเอ่ยทักทาย แต่เธอก็อดที่จะเสียงสั่นไม่ได้“ครับ” ไทเกอร์พยักหน้ารับอย่างพอใจนาเดียร์ร์หน้างอที่พี่ชายเดินหนี จึงเดินตามมาเกาะแขนกำยำ แล้วถามเขาด้วยเสียงไม่พอใจว่า“พี่ไทด์รู้จักเธอคนนี้เหรอคะ”“รู้จัก” ไทเกอร์ตอบน้องสาวโดยที่ไม่ได้หันไปมอง เพราะเขาเอาแต่มองคุณหมอคนสวยไม่วางตา“ชิ!” นาเดียร์ร์ทำเสียงไม่พอใจ เมื่อเห็นพี่ชายสนใจผู้หญิงอื่นมากว่าเธอท่าทีฮึดฮัดดึงแขนของเขาไม่หยุด ทำให้ไทเกอร์ละสายตาจากคุณหมอมามองน้องสาว เมื่อเห็นหญิงสาวทำหน้าไม่สบอารมณ์จึงเอ่ยถาม“เป็นอะไร ทำไมหน้างอ”“ก็กระเป๋าคอลเลคชั่นใหม่ที่เดียจะมาซื้อ ถ
บทที่ 43เมื่อพวกนั้นเดินไปจนลับสายตาแล้ว นาเดียร์ก็หันมาถามพี่ชายด้วยความสงสัย“พี่ไทด์รู้จักพวกมันเหรอคะ”“รู้สิ” ไทเกอร์พยักหน้ารับ และยังไม่ยอมละสายตาจากจุกที่คุณหมอคนสวยเพิ่งเดินไป“ถ้าอย่างนั้นพี่ไทด์ต้องจัดการให้เดียนะ” นาเดียร์ดึงแขนพี่ชายแรง ๆ เพื่อให้เขาหันมาสนใจเธอ“อื้อ” ไทเกอร์ไม่อยากจะเถียงกับน้องสาวจึงพยักหน้ารับไปส่ง ๆท่าทีไม่จริงจังของพี่ชาย ทำให้นาเดียร์ต้องเอ่ยเรียกด้วยเสียงไม่สบอารมณ์“พี่ไทด์?”“อย่าทำหน้างอ ดูสิไม่สวยเลย บอกพี่มาจะไปไหนต่อ”ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น พลางประคองหน้าน้องสาวที่สะบัดไปทางอื่นให้หันมาสบตากัน“พี่ไทด์กลับไปก่อนเลยค่ะ” นาเดียร์ร์ฉีกยิ้ม พร้อมแบมือขอกุญแจรถ“เดียจะไปไหน” ไทเกอร์ถาม เมื่อเอากุญแจรถของเขาให้น้องสาว“เดียจะไปหาพ่อของลูกเดีย” นาเดียร์พูดขึ้น แล้วทำหน้าเพ้อฝันถึงชายหนุ่มที่เธอเอ่ยถึง“ใคร”“ชื่อเขตแดนค่ะ เป็นเจ้าของผับที่เดียชอบไปเที่ยวไงคะ”นาเดียร์ร์บอกพี่ชายยิ้ม ๆ ขณะนึกถึงใบหน้าชวนฝันของชายหนุ่มคนนั้น“เธอห้ามไปยุ่งกับมัน” ไทเกอร์สั่งน้องสาวเสียงเข้ม เมื่อได้ยินชื่อของเขตแดน“ทำไมคะ พี่ไทด์รู้จักเขาเหรอคะ” นาเดียร์ถามหาเหตุผล ด้วย
บทที่ 44“ถ้าอย่างนั้นถ้าพรุ่งนี้นายนั่นไปที่โรงพยาบาลอีก ฉันจะรับหน้าให้แกเอง”“แกอย่าไปยุ่งกับเขาเลย” ธารทีราห้ามไม่ให้เพื่อนไปยุ่งเกี่ยวกับคนพวกนั้น เพราะรู้ว่าพวกมันไม่ใช่คนดี แล้วเผลอ ๆ เพื่อนของเธอก็อาจจะได้รับอันตราย“ไม่ได้ คนแบบนั้นต้องเจอฉัน คนอะไร ไม่รู้จักแยกแยะ ไม่ถูกกับพี่เขา แต่มาทำให้น้องสาวเขากลัว”ด้านธารทีราไม่พูดอะไร เธอยิ้มแห้ง ๆ ให้เพื่อน และไม่อยากเล่าเรื่องเลวร้ายที่คนพวกนั้นทำกับครอบครัวของเธอให้ฟัง“เดี๋ยวพี่จัดการให้คนมาช่วยดูแลคุณหมออุษาเองค่ะ”มีนาเสนอขึ้นมา ซึ่งธารทีราก็ยิ้มรับพร้อมกับเอ่ยว่า“ขอบคุณพี่มีนามากค่ะ”แม้ว่าก่อนหน้านี้พี่ชายของเธอจะเข้าใจมีนาผิดไปคิดว่าอาจเป็นพวกของไทเกอร์จนสั่งไปทำงานอื่น แต่จากเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ หญิงสาวก็คิดว่ามีนาไม่น่าจะใช่พวกเดียวกับคนพวกนั้นหรอกณ คอนโดของอุษามีนาจอดรถบริเวณข้างถนนฝั่งตรงข้ามคอนโดของอุษา หลังจากที่หญิงสาวบอกว่าจอดตรงนี้ได้ เมื่อรถจอดสนิทแล้ว อุษาที่นั่งอยู่เบาะหลังคู่กับธารทีราก็เอ่ยขึ้นว่า“ขอบใจที่มาส่งนะแก”“ไม่เป็นไร” หญิงสาวยิ้มให้เพื่อน ก่อนที่จะลงจากรถ อุษาชะโงกหน้าไปฝั่งคนขับรถ แล้วเอ่ยขึ้
บทที่ 97สองอาทิตย์แล้วที่นักรบกลับมาอยู่บ้าน และวันนี้เป็นวันแรกที่ธารทีราต้องไปยังบริษัทอีกแห่ง ซึ่งพ่อของเธอและพ่อของเขตแดนหุ้นกันเปิดขึ้นมาตั้งแต่เธอยังเล็ก ๆ“มาหาใครคะ” พนักงานต้อนรับเอ่ยถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“คุณเขตแดนค่ะ” ธารทีราบอกพนักงาน“เอ่อ คุณได้นัดไว้ไหมคะ แล้วคุณ…”ธารทีราไม่รอให้พนักงานถามจนจบ เธอก็บอกไปว่า“ฉันชื่อธารทีราค่ะ เป็นน้องสาวของคุณหนึ่งนที” เธอบอกออกไปก่อนจะส่งบัตรวีไอพีของที่นี่ให้อีกฝ่ายดู“อ๋อค่ะ สวัสดีค่ะ” พนักงานฟังแล้วก็รีบเอ่ยทักทายอย่างรวดเร็วจากนั้นพนักงานก็เชิญเธอไปที่ลิฟต์“ชะ...เชิญทางนี้เลยค่ะ”เมื่อขึ้นลิฟต์มาถึงหน้าห้องทำงานของเขตแดน พนักงานก็ขอตัวทันที ทำให้หญิงสาวเคาะประตูขออนุญาต“เชิญ”เมื่อได้รับอนุญาตจากคนด้านใน ธารทีราก็เปิดประตูเข้าไปทันทีด้านเขตแดนที่นั่งทำงานอยู่เงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อย พอเห็นว่าใครเปิดประตูเข้ามาก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปหา“น้ำมาได้ยังไงครับ”“ทำอะไรอยู่คะ น้ำมากวนหรือเปล่า” หญิงสาวเอ่ยถาม ก่อนจะยอมให้อีกฝ่ายคว้าร่างของเธอไปกอด“ไม่กวนครับ” เขตแดนเอ่ยอย่างนุ่มนวล พลางฉวยโอกาสหอมแก้มไปหนึ่งที“พี่ดิน” เธอตีที่ท่อนแขนแข็
บทที่ 96“ป้านมคือคนที่คอยเลี้ยงเราสองคนไง” ธารทีราหันไปอธิบายให้พี่ชายฟังด้วยรอยยิ้ม“ขอโทษด้วยครับ ผม…” นักรบเอ่ยด้วยเสียงที่ขาดห้วงไป ด้วยรู้สึกผิดที่ตนเองจำคนใกล้ตัวในอดีตไม่ได้เลย ป้านมเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีอึดอัดใจจึงเอ่ยแทรกขึ้นว่า“ไม่เป็นไรนะคะ ป้าดีใจที่สุดเลยค่ะที่คุณรบกลับมา”“นี่เป็นเอกสารใหม่ของรบนะ คุณลุงทำไว้ให้จ้ะ” คุณหญิงโสภายื่นซองเอกสารไปให้หลานชายนักรบหยิบเอกสารขึ้นมาเปิดดู ซึ่งมันคือเอกสารการเปลี่ยนชื่อและเอกสารกรรมสิทธิ์ต่าง ๆ ของเขา ทั้งเรื่องบ้านและตัวธุรกิจที่เคยเป็นส่วนแบ่งของหมอคาร์ล“ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นกรรมสิทธิ์ของรบนะ”“แล้วน้ำล่ะครับ บ้านหลังนี้ก็ของพ่อแม่นี่ ทำไมถึง…” นักรบถามไม่ทันจบคำ ธารทีราก็พูดขึ้นว่า“คุณแม่จะยกบ้านหลังโน้นของคุณแม่ให้น้ำค่ะ ส่วนของพี่ซีลคุณแม่จะยกบ้านตากอากาศอีกหลังหนึ่งให้แทน”นักรบมองตามมือน้องสาวที่ชี้ให้เขาดูบ้านที่มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับบ้านหลังนี้ ซึ่งอยู่ข้าง ๆ กัน โดยแค่มีรั้วต้นไม้กั้นไว้เท่านั้น“รบคงไม่ว่าป้านะ ถ้าในช่วงนี้ป้าจะให้น้ำไปอยู่กับป้า”"ผมเข้าใจครับ มีน้ำไปอยู่กับคุณป้าก็ดีแล้วล่ะครับ““ขอบใจมากจ้ะ ตอนนี้ซีลไปพักท
บทที่ 95พอมาถึงเจดีย์สีขาวสะอาดที่โดยรอบมีการทำความสะอาดและมีดอกไม้พร้อมกระถางธูปจัดวางอย่างเรียบร้อย ชายหนุ่มก็หันมาหาน้องสาว“น้ำมาที่นี่บ่อยใช่ไหม”“คุณพ่อ...เอ่อ...ลุงจอห์นให้คนจัดการให้ตลอดค่ะ มันก็เลยดูดีแล้วก็สะอาดแบบนี้” หญิงสาวเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ เพราะทุกวันนี้เธอก็ยังคงเสียใจอยู่ จนพี่ชายต้องยกมือขึ้นไปจับที่บ่าบางแล้วบีบเบา ๆ“น้ำ ไม่เป็นไรนะ”“ค่ะ น้ำก็แค่คิดถึงอดีตที่ดี ๆ น่ะค่ะ คุณพ่อดีกับน้ำมาก ทั้งที่น้ำเป็นแค่หลานเท่านั้นเอง” เธอหันไปบอกพี่ชาย ก่อนจะยกมือขึ้นสัมผัสที่รูปของพ่อแม่ที่กำลังอุ้มพี่ชายของเธอตอนเล็ก ๆ อยู่ด้วย“เอาไว้น้ำจะให้คนมาเปลี่ยนรูปให้ใหม่นะคะ คุณพ่อคุณแม่”ธารทีราเอ่ยกับพ่อแม่ ทำเหมือนกับว่าท่านทั้งสองได้ยินสิ่งที่พูดไป จากนั้นก็หันมายิ้มให้พี่ชายสลับกับการมองเจดีย์ตรงหน้า“พ่อคะ แม่คะ น้ำพาพี่รบมาหาค่ะ”“พ่อครับ แม่ครับ ผมมาหาแล้วนะครับ” นักรบยกมือไหว้พ่อแม่ แม้หมอจะบอกว่าเขาคงไม่อาจจดจำอะไรได้แล้ว แต่เขาก็รู้ว่าพ่อกับแม่จะต้องรักเขามากอย่างแน่นอน จึงรู้สึกดีใจระคนเศร้าที่ได้มาหาพวกท่านจากนั้นสองพี่น้องต่างก็จมอยู่ในห้วงคิดส่วนตัว แต่แววตาของค
บทที่ 94หนึ่งอาทิตย์ต่อมา...เมื่อรถจอดตรงลานจอด เขตแดนก็ลงจากรถเดินอ้อมไปฝั่งข้างคนขับเพื่อเปิดประตูให้ธารทีรา“นี่ถ้าคุณแม่ไม่บอกให้มา น้ำก็ไม่อยากมาหรอกนะคะ”“พี่เข้าใจ ยังไงเขาก็ตายแล้ว น้ำก็อโหสิกรรมให้เขาเถอะ”“ก็เพราะว่าอโหสิกรรมให้ไงคะน้ำถึงมา” ธารทีราย่นหน้าใส่เขตแดน เอาจริงๆ ถึงจะโกรธและแค้นดาเนียลมากแค่ไหนพ่อแม่เธอก็คงไม่ฟื้นขึ้นมาอยู่ดี“งั้นเข้าไปกันเถอะ” เขตแดนบอก พร้อมจับมือหญิงสาวมากุม แล้วพาเดินเข้าไปในวัดช่วงเวลาที่เดินเข้าไปในวัดนั้น ธารทีราก็ถามเพราะสงสัยมากที่ดาเนียลซึ่งเป็นลูกครึ่งนั้นนับถือศาสนาพุทธ“ตอนแรกนึกว่าเขาจะจัดงานศพแบบคริสต์นะคะเนี่ย”“เห็นว่าเขานับถือศาสนาตามภรรยาน่ะ”“อ้อ...” ธารทีราตอบรับ ก่อนจะถามถึงเรื่องอื่น “พี่ดิน พี่รู้ไหมว่าพี่ซีลไปไหน ตั้งแต่เสร็จงานศพคุณพ่อก็ไม่ยอมกลับบ้านเลยค่ะ โทรไปหาก็บอกแต่ว่าขอไปพักผ่อนเงียบ ๆ สักพัก พอถามก็ไม่ยอมบอกว่าอยู่ที่ไหน”“ไม่รู้สิ พี่ก็ไม่เห็นมันไปที่ผับนานแล้วนะ ปกติมันจะเข้าผับทุกคืน นี่มันยังทิ้งงานที่บริษัทให้พี่ทำเลย บอกแค่ว่าอยากไปทำใจสักพัก”“ความจริงงานศพของดาเนียลคุณแม่จะให้พี่ซีลมานะ แต่พี่ซีลเล่น
บทที่ 93นักรบเองก็อึ้งไปเช่นกัน แต่แล้วชายหนุ่มก็ดึงสติกลับมาเมื่อมีมือของนาเดียร์ยื่นมาจับมืออีกข้างของเขาไว้ โดยที่มีอีกข้างตอนนี้มีธารทีราจับไว้เช่นกัน“แล้วแม่ล่ะ” นักรบถามเสียงเรียบ ทั้งที่ในใจกำลังห่วงใยมาดามอันนาอย่างที่สุด“คุณแม่ความดันกำเริบหมดสติ ตอนนี้นอนพักอยู่ที่ห้องพักฟื้นค่ะ” หญิงสาวร้องไห้ออกมาอีก ตอนนี้เธอเอาแต่ก้มหน้า เพราะไม่กล้าจะสู้หน้าใคร ทั้งที่เมื่อก่อนเป็นผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเองมาตลอด“แม่...” นักรบเอ่ยเสียงสั่น ครั้งนี้เขายอมปล่อยมือน้องสาวแท้ ๆ เพื่ออ้าแขนโอบกอดน้องสาวอีกคนไว้ ถึงจะไม่ใช่น้องแท้ ๆ แต่เขาก็รักเธอเหมือนน้องสาว“ไม่ต้องร้องไห้นะ เงียบซะ” นักรบกอดนาเดียร์ไว้แน่น และพูดปลอบขวัญอย่างอ่อนโยน“พี่ไทด์อยู่เป็นเพื่อนเดียก่อนได้ไหม เดียไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี ป๋ายังนอนอยู่ในนั้น คุณแม่ก็…” นาเดียร์ไม่ทันได้พูดจบประโยค เสียงทุ้มต่ำที่เธอไม่อยากได้ยินก็ดังขึ้น“ไอ้รบ ถ้ามึงช่วยเป็นธุระจัดงานศพให้ไอ้ฆาตกรที่มันฆ่าพ่อแม่มึงและฆ่าพ่อกู กูจะขอเป็นศัตรูกับมึงตลอดไป” หนึ่งนทีปล่อยแม่ให้ยืนอยู่กับธารทีรา แล้วเดินเข้าไปยืนใกล้นักรบที่กำลังยืนกอดนาเดียร์อยู่“ซี
บทที่ 92ณ โรงพยาบาลคุณหญิงโสภรีบเดินทางมายังโรงพยาบาลทันทีหลังทราบว่าสามีของตนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ“ซีล น้ำ พ่อเป็นยังไงบ้าง” เสียงสั่นเครือของคุณหญิงดังมาก่อนตัว โดยตอนนี้ที่หน้าห้องฉุกเฉินมีทั้งธารทีรา นักรบ หนึ่งนที รวมถึงเขตแดนยืนออกันอยู่“หมอยังไม่ออกมาบอกเลยค่ะ”“เกิดอะไรขึ้น ใครยิงพ่อ” คุณหญิงโสภามองลูกสาวและลูกชายที่ยังยืนหันหลังให้ เพราะหนึ่งนทีเอาแต่ยืนมองประตูห้องฉุกเฉินอย่างไม่ยอมละสายตาคำถามของแม่ ทำให้หญิงสาวหันไปมองนักรบ เมื่อพี่ชายพยักหน้าจึงเล่าให้แม่ฟัง“น้ำไม่แน่ใจค่ะว่าใครยิงคุณพ่อ เหตุการณืตอนนั้นวุ่นวายไปหมด แต่ที่แน่ ๆ ดาเนียลสั่งลูกน้องให้ยิงพวกเราค่ะ”“ไอ้ดาเนียล มึงทำร้ายพ่อกู ถ้าพ่อกูเป็นอะไรขึ้นมา กูจะฆ่าล้างโคตรมึง” หนึ่งนทีมองนักรบด้วยแววตาไม่พอใจ แม้เขาจะไม่โทษอีกฝ่ายออกมาตรง ๆ แต่ลึก ๆ ธารทีรารู้ดีว่าหนึ่งนทีคงไม่พอใจนักรบอย่างมากที่เอาตัวเข้าไปเสี่ยง จนทำให้พ่อของเขาต้องตามไปช่วย“คุณหมอ คุณลุงเป็นยังไงบ้างครับ” เขตแดนเอ่ยถามเมื่อเห็นว่ามีหมอคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินด้านคุณหมอมีสีหน้าเคร่งเครียด เขามองหน้าทุกคน โดยเฉพาะคุณหญิงโสภา ก่อนจะพูดอ
บทที่ 91“พี่รบ” ธารทีรากรีดร้อง ขณะถูกผลักให้พ้นจากวิถีกระสุน“ไม่เป็นไรนะน้ำ” นักรบถามพร้อมกับเข้าไปกอดน้องสาวไว้ แล้วยิงสวนกลับไปแต่ก็พลาดเป้าเนื่องจากฝ่ายตรงข้ามหลบเข้าที่กำบังได้ทันเวลา“ไทด์ ไม่ต้องห่วงแม่ พาน้องไทด์หนีไป” มาดามอันนาตะโกนบอกลูกชายดาเนียลจึงหันไปยิงปืนขู่ภรรยาทันที ทำให้ทั้งอันนาและนาเดียร์ต่างก็กรีดร้อง และกระโจนเข้ากอดกันด้วยความกลัว“กูบอกให้เงียบ!” ดาเนียลสั่งพร้อมชี้ปืนใส่ภรรยากับลูกสาว“พอได้แล้วดาเนียล” คุณจอห์นที่เข้ามาใกล้ตัวดาเนียลมากขึ้นพยายามห้าม แต่ตอนนี้ดาเนียลได้คลั่งไปแล้ว ทั้งยังสั่งให้ลูกน้องกราดยิงไปทั่ว“กูไม่หยุด วันนี้พวกมึงกับกูต้องตายกันไปข้าง ยิงพวกมันให้ตายไปให้หมด!”หลังจากที่คาเนีลออกคำสั่งก็เกิดการชุลมุนกันเกิดขึ้น กระสุนจำนวนมากสาดไปทั่วทุกทิศ ทว่านัดหนึ่งกลับพุ่งเข้าใส่คุณจอห์นที่หลบไม่ทัน“โอ๊ย!” คุณจอห์นใช้มือกุมหน้าอกที่เลือดค่อยๆ ไหลออกมา ทำให้เขาทรุดลงไปนอนนิ่งบนพื้น“คุณพ่อ!” ธารทีราที่อยู่ใกล้ที่สุดรีบวิ่งเข้าไปหาพ่อที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นด้วยความตกใจด้านนักรบทนเห็นดาเนียลทำร้ายใครต่อไปไม่ได้อีกแล้ว จึงตัดสินใจยิงไปที่อีกฝ
บทที่ 90หลังวางสายจากดาเนียลเมื่อวาน ในที่สุดนักรบก็ออกจากโรงพยาบาล ทั้งที่ยังบาดเจ็บและหมอก็ห้ามแต่เขาไม่ฟัง และในตอนนี้ทั้งธารทีรากับนักรบก็เดินทางมาถึงโกดังร้างที่นัดหมายไว้กับดาเนียลเรียบร้อยแล้ว โดยมีน้องสาวเป็นคนขับรถมาให้“ผมมาแล้ว” นักรบลงจากรถ แล้วเดินอ้อมไปยืนข้างน้องสาว พร้อมพูดเสียงเรียบใส่มือถือที่กำลังสนทนาอยู่กับดาเนียล“เข้ามา” ดาเนียลพอใจที่เห็นสองพี่น้องมากันแค่สองคนผ่านกล้องวงจรปิด เขาละสายตาจากกล้องที่ดูอยู่หันไปหัวเราะใส่ภรรยา“ฮ่า ๆ มันรักเธอจริง ๆ นะอันนา”“คุณมันเลว” มาดามอันนาโกรธจัด จึงต่อว่าสามีที่เอาเธอกับลูกสาวมาเป็นเหยื่อล่อดาเนียลหัวเราะเสียงดัง เขาไม่สนใจความรู้สึกของภรรยาและลูกสาว เพราะตอนนี้เขามีความสุขมากที่กำลังจะได้ทวงแค้นคืนจากครอบครัวนั้น และช่วงที่เขากำลังมีความสุขกับเสียงหัวเราะ ดาเนียลก็ต้องหุบยิ้ม เมื่อสองพี่น้องก้าวเข้ามา“หวัดดี ไอ้ลูกรัก หนูธารทีรา” ดาเนียลทักทายทั้งสองคนด้วยท่าทางสบาย ๆ“พี่รบ” ธารทีรารีบขยับไปยืนข้างหลังของพี่ชาย เพราะรู้สึกกลัวสายตาของคนตรงหน้าที่มองมา“น้ำไม่ต้องกลัว” นักรบกระซิบบอกน้องสาว พลางใช้ร่างของตนบังอีกฝ่ายเ
บทที่ 89เมื่อได้ยินเสียงปืนและเสียงร้องของแม่กับน้องนักรบก็ยิ่งร้อนรน เขาพยายามจะลงจากเตียง ทำให้น้องสาวที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ต้องถลันเข้าไปหา“พี่รบ อย่าค่ะ” ธารทีราพยายามห้ามพี่ชาย แต่ก็พอจะเดาได้ว่าคงจะเกิดเรื่องไม่ดีบางอย่างขึ้นกับมาดามอันนาและนาเดียร์แน่นอน พี่ชายของเธอถึงได้ร้อนรนปานนี้“ว่ายังไง”เสียงถามจากคนในสาย ทำให้นักรบหลือบตามองธารทีราครู่หนึ่ง ก่อนจะถามกลับไปว่า“ที่ไหน”“โกดังร้างนอกเมืองที่มึงก็น่าจะรู้จักดี”เมื่อได้บอกที่นัดหมายแล้ว ดาเนียลก็วางสายไปทันทีด้านนักรบเมื่อได้คำตอบแล้ว ชายหนุ่มก็ทรุดนั่งบนขอบเตียง มือใหญ่กำมือถือไว้แน่นจนเส้นเอ็นปูด“พี่รบเกิดอะไรขึ้นคะ” หญิงสาวเอ่ยถาม พร้อมทั้งเอามือถือจากมือพี่มาเก็บไว้ “คลายมือออกก่อนนะคะ เลือดย้อนขึ้นไปในสายน้ำเกลือหมดแล้ว”“น้ำ…” นักรบยังไม่ทันได้บอกน้องสาว ทั้งสองก็ต้องหันไปมองที่ประตูที่มีคนเปิดเข้ามา“มีอะไรกัน” คุณจอห์นเอ่ยถามขึ้น เพราะเมื่อครู่เหมือนจะทันได้ยินเสียงร้อนรนของลูกสาว ในขณะที่คุณหญิงโสภา หนึ่งนที รวมถึงเขตแดนที่ตามเข้ามาด้วยก็มองมาอย่างห่วงใยเช่นกัน“คุณพ่อ คุณแม่” หญิงสาวเรียกท่านทั้งสอง แต่ยังไม่กล