“พี่ไทด์”
ชื่อที่ถูกเรียก ทำให้ธารทีราต้องชะงักแล้วหันไปมอง เธอยืนนิ่งไม่ขยับ เมื่อเห็นว่าคน ๆ นั้นเป็นใคร
‘คุณไทเกอร์’
“ไอซ์ แกเป็นอะไร” อุษารีบเดินไปเกาะแขนเพื่อน แล้วเอ่ยถาม เมื่ออีกฝ่ายเอาแต่ยืนนิ่งและจ้องเขม็งไปด้านหน้า
“ปะ...เปล่า” ธารทีราส่ายหน้าปฏิเสธ แต่ก็ยังจ้องไทเกอร์แบบไม่กะพริบตา
“เจอกันอีกแล้วนะครับ คุณหมอ” ไทเกอร์ยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ แล้วเดินเข้าไปหาหญิงสาวตรงหน้าเมื่อหันมาเห็นเธอ
“สะ...สวัสดีค่ะ คุณไทเกอร์” ธารทีราพยายามทำหน้านิ่ง ๆ แล้วเอ่ยทักทาย แต่เธอก็อดที่จะเสียงสั่นไม่ได้
“ครับ” ไทเกอร์พยักหน้ารับอย่างพอใจ
นาเดียร์ร์หน้างอที่พี่ชายเดินหนี จึงเดินตามมาเกาะแขนกำยำ แล้วถามเขาด้วยเสียงไม่พอใจว่า
“พี่ไทด์รู้จักเธอคนนี้เหรอคะ”
“รู้จัก” ไทเกอร์ตอบน้องสาวโดยที่ไม่ได้หันไปมอง เพราะเขาเอาแต่มองคุณหมอคนสวยไม่วางตา
“ชิ!” นาเดียร์ร์ทำเสียงไม่พอใจ เมื่อเห็นพี่ชายสนใจผู้หญิงอื่นมากว่าเธอ
ท่าทีฮึดฮัดดึงแขนของเขาไม่หยุด ทำให้ไทเกอร์ละสายตาจากคุณหมอมามองน้องสาว เมื่อเห็นหญิงสาวทำหน้าไม่สบอารมณ์จึงเอ่ยถาม
“เป็นอะไร ทำไมหน้างอ”
“ก็กระเป๋าคอลเลคชั่นใหม่ที่เดียจะมาซื้อ ถูกสองคนนี้แย่งไปน่ะสิ” นาเดียร์ได้โอกาสจึงรีบฟ้องพี่ชาย แล้วชี้ไปที่ธารทีรากับอุษา
“อ้าว พูดให้มันดี ๆ นะ พวกฉันมาก่อนแล้วซื้อก่อน แค่ไม่ขายให้นี่ถึงกับบอกว่าแย่งเลยเหรอ” อุษาที่ยังอารมณ์ค้างอยู่เถียงขึ้นด้วยท่าทางเอาเรื่องไม่แพ้กัน
“ก็ฉันอยากได้” นาเดียร์เองก็ไม่ยอมเช่นกัน
“แล้วคนอื่นไม่อยากได้หรือยังไง” อุษากลอกตาตามองบนอย่างเอือมๆ
“แต่กระเป๋านั่น...” นาเดียร์ร์ตอบโต้ไม่ทันจบประโยคก็ต้องหยุด และหันไปหน้างอใส่พี่ชาย เมื่อไทเกอร์เอ่ยห้ามน้องสาวเสียงดังว่า
“เดีย พอได้แล้ว”
“พี่ไทด์ นี่พี่ว่าเดียเหรอ” นาเดียร์เสียงดังใส่พี่ชาย เธอไม่ชอบเลยเมื่อถูกเขาขัดใจแบบนี้
“พี่บอกให้หยุด”
เสียงเอะอะดังอยู่ไม่ไกล ทำให้การ์ดของธารทีราที่เดินตามหาจนมาเจอเข้า รีบเข้าไปยืนใกล้ ๆ อย่างรวดเร็ว
“คุณไอซ์” มีนารีบวิ่งผ่านหน้าการ์ดไปดึงมือของธารทีราให้มายืนอยู่ข้างหลังอย่างปกป้อง
“พี่มีนา” ธารทีราทำหน้างง เมื่อเห็นมีนาอยู่ที่นี่ เพราะวันนี้มีนามอบหน้าที่ให้การ์ดคนอื่นมาคุ้มครองเธอนี่นา
ด้านไทเกอร์หันมายิ้มมุมปาก พร้อมเอ่ยทักทายมีนาอย่างคนรู้จักกันมาก่อนว่า
“ไงมีนา สวัสดี”
เสียงทักทายอย่างกวน ๆ ของไทเกอร์ทำให้มีนาชักสีหน้านิ่ง แล้วถามกลับไปว่า
“นายมาทำอะไรที่นี่ ไทเกอร์”
“ฉันก็มาเดินเล่นกับน้องสาวฉันน่ะสิ แล้วเธอล่ะ มาทำอะไร” ไทเกอร์ทำท่ากวนๆ ใส่มีนา
ด้านมีนาไม่ตอบ แต่กลับชักสีหน้าเหี้ยมใส่ไทเกอร์
“เป็นการ์ดให้คุณหมอธารทีราเหรอ” ไทเกอร์ถาม พร้อมกวาดสายตาเจ้าเล่ห์มองมีนา
“ร้อยวันพันปีนายไม่เคยมาห้างนี้ แล้วนี่มาเที่ยวมันจะไม่บังเอิญหน่อยเหรอ” มีนาถาม เพราะไม่เชื่อว่าไทเกอร์จะมาเดินเล่นจริง ๆ
“ใช่ บังเอิญมาก ที่เจอคุณหมอธารทีราที่นี่ด้วย จริงไหมครับหมอ” ไทเกอร์พูดยียวนกวนประสาทมีนา แล้วหันไปยิ้มใส่คุณหมอสาวอีกครั้ง
ฝ่ายธารทีราไม่ตอบโต้ เธอยืนจ้องหน้าไทเกอร์ตาเขม็ง พลางกุมมือเพื่อนรักเอาไว้แน่น
อุษารับรู้ถึงอาการตัวสั่นของเพื่อนจึงรู้สึกเป็นห่วง และกระซิบถามเพื่อนว่า
“แกเป็นไรไหม”
“ฉันไม่เป็นไร” ธารทีรากระซิบบอกเพื่อน ถึงจะกลัวชายหนุ่มตรงหน้า แต่เธอก็ยังคงไม่ยอมละสายตาจากใบหน้าของไทเกอร์
“พรุ่งนี้ผมจะเอาผลตรวจเอกซเรย์ไปให้คุณหมอดูนะครับคุณหมออย่าลืมที่เรานัดกันไว้นะครับ” ไทเกอร์พูดยิ้ม ๆ แต่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ร้ายกาจ
“ค่ะ ฉันขอตัวก่อนนะคะ” คนพูดพยักหน้าให้ไทเกอร์ แล้วรีบเดินออกมา โดยที่มีอุษาเดินตาม รวมถึงการ์ดและมีนาก็เดินตามหลังมาเป็นขบวน
บทที่ 43เมื่อพวกนั้นเดินไปจนลับสายตาแล้ว นาเดียร์ก็หันมาถามพี่ชายด้วยความสงสัย“พี่ไทด์รู้จักพวกมันเหรอคะ”“รู้สิ” ไทเกอร์พยักหน้ารับ และยังไม่ยอมละสายตาจากจุกที่คุณหมอคนสวยเพิ่งเดินไป“ถ้าอย่างนั้นพี่ไทด์ต้องจัดการให้เดียนะ” นาเดียร์ดึงแขนพี่ชายแรง ๆ เพื่อให้เขาหันมาสนใจเธอ“อื้อ” ไทเกอร์ไม่อยากจะเถียงกับน้องสาวจึงพยักหน้ารับไปส่ง ๆท่าทีไม่จริงจังของพี่ชาย ทำให้นาเดียร์ต้องเอ่ยเรียกด้วยเสียงไม่สบอารมณ์“พี่ไทด์?”“อย่าทำหน้างอ ดูสิไม่สวยเลย บอกพี่มาจะไปไหนต่อ”ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น พลางประคองหน้าน้องสาวที่สะบัดไปทางอื่นให้หันมาสบตากัน“พี่ไทด์กลับไปก่อนเลยค่ะ” นาเดียร์ร์ฉีกยิ้ม พร้อมแบมือขอกุญแจรถ“เดียจะไปไหน” ไทเกอร์ถาม เมื่อเอากุญแจรถของเขาให้น้องสาว“เดียจะไปหาพ่อของลูกเดีย” นาเดียร์พูดขึ้น แล้วทำหน้าเพ้อฝันถึงชายหนุ่มที่เธอเอ่ยถึง“ใคร”“ชื่อเขตแดนค่ะ เป็นเจ้าของผับที่เดียชอบไปเที่ยวไงคะ”นาเดียร์ร์บอกพี่ชายยิ้ม ๆ ขณะนึกถึงใบหน้าชวนฝันของชายหนุ่มคนนั้น“เธอห้ามไปยุ่งกับมัน” ไทเกอร์สั่งน้องสาวเสียงเข้ม เมื่อได้ยินชื่อของเขตแดน“ทำไมคะ พี่ไทด์รู้จักเขาเหรอคะ” นาเดียร์ถามหาเหตุผล ด้วย
บทที่ 44“ถ้าอย่างนั้นถ้าพรุ่งนี้นายนั่นไปที่โรงพยาบาลอีก ฉันจะรับหน้าให้แกเอง”“แกอย่าไปยุ่งกับเขาเลย” ธารทีราห้ามไม่ให้เพื่อนไปยุ่งเกี่ยวกับคนพวกนั้น เพราะรู้ว่าพวกมันไม่ใช่คนดี แล้วเผลอ ๆ เพื่อนของเธอก็อาจจะได้รับอันตราย“ไม่ได้ คนแบบนั้นต้องเจอฉัน คนอะไร ไม่รู้จักแยกแยะ ไม่ถูกกับพี่เขา แต่มาทำให้น้องสาวเขากลัว”ด้านธารทีราไม่พูดอะไร เธอยิ้มแห้ง ๆ ให้เพื่อน และไม่อยากเล่าเรื่องเลวร้ายที่คนพวกนั้นทำกับครอบครัวของเธอให้ฟัง“เดี๋ยวพี่จัดการให้คนมาช่วยดูแลคุณหมออุษาเองค่ะ”มีนาเสนอขึ้นมา ซึ่งธารทีราก็ยิ้มรับพร้อมกับเอ่ยว่า“ขอบคุณพี่มีนามากค่ะ”แม้ว่าก่อนหน้านี้พี่ชายของเธอจะเข้าใจมีนาผิดไปคิดว่าอาจเป็นพวกของไทเกอร์จนสั่งไปทำงานอื่น แต่จากเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ หญิงสาวก็คิดว่ามีนาไม่น่าจะใช่พวกเดียวกับคนพวกนั้นหรอกณ คอนโดของอุษามีนาจอดรถบริเวณข้างถนนฝั่งตรงข้ามคอนโดของอุษา หลังจากที่หญิงสาวบอกว่าจอดตรงนี้ได้ เมื่อรถจอดสนิทแล้ว อุษาที่นั่งอยู่เบาะหลังคู่กับธารทีราก็เอ่ยขึ้นว่า“ขอบใจที่มาส่งนะแก”“ไม่เป็นไร” หญิงสาวยิ้มให้เพื่อน ก่อนที่จะลงจากรถ อุษาชะโงกหน้าไปฝั่งคนขับรถ แล้วเอ่ยขึ้
บทที่ 45“คุณคะ สวัสดีค่ะ เอ่อ....เข้าไม่ได้นะคะ”เลขาหน้าห้อง นามว่า ‘จอย’ ทักทาย และรีบลุกขึ้นเดินออกจากโต๊ะทำงานไปยืนขวาง เมื่อเห็นว่าหญิงสาวแปลกหน้าทำท่าจะเดินเข้าไปยังห้องทำงานของเจ้านายตน“ทำไมฉันจะเข้าไม่ได้ หลีกไปเดี๋ยวนี้ ฉันจะเข้าไปหาคุณเขตแดน” นาเดียร์ทำหน้ายักษ์ใส่เลขา เธอสืบมาหมดแล้วว่าอีกฝ่ายอยู่ที่นี่ ไม่ว่าอย่างไรวันนี้ก็ต้องเจอหน้าเขาให้ได้“ได้นัดไว้หรือเปล่าคะ ถ้าไม่ได้นัดก็เข้าไปพบคุณเขตแดนไม่ได้ค่ะ” เลขาจอยบอกเสียงเรียบนาเดียร์โมโหมาก จึงตะคองเสียงเขียวว่า“นี่แก…” แต่ก็ไม่ทันได้พูดจบประโยคว่า ‘นี่แก แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร’ เธอก็หยุดพูดและหันไปมองตามสายตาของเลขาหน้าห้องเลาขาจอยยกมือไหว้ พร้อมทั้งเอ่ยทักทาย“คุณมีนา สวัสดีค่ะ”“คุณหนึ่งนทีกับคุณเขตแดนอยู่ข้างในใช่ไหม เลขาจอย”มีนาถามเลขา แต่สายตากลับเหลือบมองไปทางนาเดียร์ที่จ้องมองเธอและธารทีราเช่นกัน“ค่ะ” เลขาจอยพยักหน้า แล้วขยับหลีกทางให้“ไปกันเถอะค่ะคุณหนู” มีนาหันมาชวนเจ้านายของตนฝ่ายธารทีราไม่พูดอะไร และก่อนที่จะเดินนำหน้ามีนาไปยังห้องทำงานของพี่ชาย เธอก็เหลือบตามองหญิงสาวคนนั้นเล็กน้อย ซึ่งธารทีราแปลกใจม
บทที่ 46มีนาชิงอธิบายแทนอย่างรวดเร็ว“คุณคนนี้มาหาคุณเขตแดน แต่เลขาจอยไม่ให้เข้าไปเพราะไม่ได้นัดไว้ คุณคนนี้ก็เลยไม่พอใจค่ะ”“คุณเขตแดนต้องช่วยเดียนะ คนของคุณรังแกเดีย แล้วก็กีดกันเดียไม่ยอมให้เข้าไปหาคุณ”“มึงรู้จักเหรอ” หนึ่งนทีถามเพื่อนด้วยเสียงไม่พอใจเล็ก ๆเขตแดนส่ายหน้าปฏิเสธอย่างเร็ว พร้อมกับแกะมือของนาเดียร์ออกจากแขน นาเดียร์หน้าเสียที่อีกฝ่ายทำเหมือนไม่รู้จักกัน แต่คนอย่างเธอจะแพ้ไม่ได้จึงรีบแนะนำตัวเอง“คุณเขตแดน นี่นาเดียร์ไงคะ เราเคยเจอกันที่ผับของคุณ”“แล้ว?” เขตแดนถามอย่างฉงน เพราะเขายังนึกไม่ออกอยู่ดี วัน ๆ ที่ผับของเขามีคนเข้าออกมากมาย เขาไม่ได้เก็บมาใส่ใจนักหรอก“เดียมาหาคุณไงคะ” นาเดียร์ยังคงหน้าด้านเข้าไปกอดแขนของเขตแดนอีกครั้ง และครั้งนี้หล่อนยังซบหน้าลงบนต้นแขนกำยำอย่างไม่แคร์สายตาใครอีกด้วย“ขอโทษนะ เราไม่เคยรู้จักกัน” เขตแดนพูดเสียงนิ่ง พลางแกะมือออก พร้อมกันนั้นชายหนุ่มก็มองหน้าธารทีราไปด้วย“คุณเขตแดน!”“คุณกลับไปได้แล้ว และอย่ามาหาผมที่นี่อีก”“คุณเขตแดน นี่คุณไล่เดียหรือคะ” นาเดียร์ถามอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตนเอง ที่ผ่านมาไม่เคยมีผู้ชายคนไหนทำเช่นนี้กับเธอเลย
บทที่ 47“นี่มันอะไรกัน” ดาเนียลดันลูกสาวออกจากอก แล้วถามเสียงแข็ง“ป๋าคะ ป๋าต้องจัดการให้เดียนะคะ พวกมันทำเหมือนเดียไม่มีศักดิ์ศรี”นาเดียร์สะอื้นไห้ น้ำตาไหลอาบแก้มขณัฟ้องพ่อ“เกิดอะไรขึ้น ใครทำลูก บอกป๋ามาสิ” คุณดาเนียลถามลูกสาวด้วยความสงสัย“วันนี้เดียโดนหักหน้า พี่ไทด์ก็ไม่ช่วยเดียเลย” นาเดียร์ฟ้องเรื่องพี่ชายก่อน ที่ครั้งนี้ไม่ยอมเข้าข้างเธอเลยสักนิด“มีอะไรเล่าให้ป๋าฟังสิ” คุณดาเนียลถามด้วยเสียงที่เย็นลง เพราะถ้าไทเกอร์ที่ตามใจนาเดียร์มาตลอดทำแบบนี้ แสดงว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติแล้ว“เดียไปเที่ยวห้าง แล้ว...” นาเดียร์เล่าเรื่องที่ห้าง และเรื่องที่เธอไปหาเขตแดนที่บริษัทของเขาให้พ่อฟัง“นี่แกชอบไอ้เขตแดนหรือ”คุณดาเนียลได้ยินเรื่องที่ลูกสาวเล่าก็ชักสีหน้าไม่พอใจ“ค่ะ ป๋าต้องช่วยเดียนะ” นาเดียร์อ้อนพ่อ แต่สิ่งที่คุณดาเนียลบอกลูกสาวคือ“ไม่ได้”“ป๋า” นาเดียร์ร์เอ่ยเสียงดังเมื่อถูกขัดใจ“แกจะรักใครชอบใครก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่ศัตรูของฉัน”ถึงจะรักลูกสาวมากแค่ไหน แต่คุณดาเนียลก็ไม่สนใจความรู้สึกของลูก เพราะนักธุรกิจด้านมืดอย่างเขา ไม่ได้มองเรื่องครอบครัวเป็นที่หนึ่งอยู่แล้ว“ป๋า” นาเดียร์เ
บทที่ 48ณ บ้านของคุณจอห์น“พี่เราได้บอกหรือยัง ว่าให้ลางานสักอาทิตย์” คุณจอห์นเอ่ยถามลูกสาว ขณะที่นั่งกินข้าวกันอยู่“นั่นสิ ลูกลางานหรือยัง” คุณหญิงโสภาเอ่ยถามเช่นกัน พลางตักอาหารใส่จานให้อย่างต้องการเอาใจ“จะไปไหนกันเหรอคะ ทำไมต้องลางานคะ หรือว่ามีอะไร”ธารทีราเอ่ยถาม ขณะมองหน้าพ่อแม่สลับกันไปมา“คือเราจะไปไร่ทานตะวันน่ะ” คุณหญิงฉีกยิ้ม เมื่อเอ่ยบอกลูกสาว“ไร่ทานตะวัน” ธารทีราทำหน้าสงสัย เธอรู้สึกคุ้นเคยกับชื่อนี้อยู่เหมือนกัน แต่ก็นึกไม่ออกว่าไปคุ้นมากจากไหน“จ้ะ ไร่ของคุณลุงสิงหากับคุณป้าม่านแก้วไง ลูกจำไม่ได้เหรอ”“อ๋อค่ะ คุณลุงสิงหากับคุณป้าม่านแก้ว เป็นอะไรเหรอคะ”“คุณลุงสิงหากับป้าม่านแก้วจะมีงานเลี้ยงน่ะ เลยชวนครอบครัวของเราไปด้วย” คุณหญิงโสภาอธิบายให้ลูกสาวฟังด้านคุณจอห์น พอเห็นสีหน้าตื่น ๆ ของลูกสาวจึงถามว่า“ที่โรงพยาบาลมีงานด่วนหรือเปล่า”“ไม่มีค่ะ” ธารทีราหันไปคุยกับพ่อ“ถ้าอย่างนั้นก็ดี เราจะได้ไปเที่ยวกัน ตั้งแต่กลับมไอซ์ก็ทำงานเลย คงไม่มีเวลาได้พักผ่อน” คราวนี้คุณหญิงเป็นคนบอกลูกสาวด้วยความห่วงใย“คุณแม่คะ ไอซ์พักมานานแล้วนะคะ อยู่ที่โน่นแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย”“แต่แม
บทที่ 49ณ คอนโดของเขตแดนครืด! ครืด!แรงสั่นของโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะ ทำให้เขตแดนต้องหยิบมาดูพอเห็นว่าเป็นใครเขาก็กดรับทันที“อื้ม...ว่า”‘พรุ่งนี้มึงมารับน้องกูด้วย’คำพูดของคนในสาย ทำให้เขตแดนไม่พูดอะไร เพราะชายหนุ่มยังงุนงงและไม่เข้าใจเมื่อเขตแดนไม่พูด คนในสายจึงถามเสียงดังว่า“เข้าใจที่กูพูดหรือเปล่า”เขตแดนทำหน้ายุ่ง พร้อมพูดเสียงนิ่งว่า“ไม่เข้าใจ”“ก็น้องกูจะนั่งรถไปกับมึง”“ไอ้ซีล” เขตแดนเรียกเพื่อนเสียงดัง ใบหน้าหล่อนั้นเต็มไปด้วยความสุข“เออ กูช่วยมึงได้แค่นี้แหละเพื่อน”คำพูดของเพื่อนทำให้เขตแดนได้แต่นั่งนิ่ง จนไม่รู้ตัวว่าเพื่อนวางสายไปนานแล้ว ด้วยเรื่องที่เพื่อนโทรมาหาเขาวันนี้ รวมถึงอะไรหลายอย่างในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เขายิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าธารทีราก็คือน้ำฟ้า น้องสาวคนสำคัญที่เขาเคยคิดว่าตายจากไปแล้วอย่างแน่นอนเช้าวันใหม่รถหรูของเขตแดนขับเข้ามาจอดที่หน้าบ้านของคุณจอห์น จากนั้นชายหนุ่มก็เข้าไปทักทายเจ้าของบ้านแล้วเดินออกมา เมื่อเห็นเพื่อนเดินลงมาส่งน้องสาวที่ประตูบ้าน“สวัสดีค่ะ” ธารทีรายกมือไหว้เขตแดน“หวัดดี” เขตแดนพยักหน้ารับ แล้วเอากระเป๋าเสื้อของหญิงสาวที่หนึ่งนที
บทที่ 50ในช่วงเวลาเที่ยง เขตแดนเคลื่อนรถเข้าไปจอดที่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งที่อยู่ข้างทาง ก่อนจะหันไปปลุกคนข้างกายด้วยเสียงนุ่มนวล“ไอซ์...ไอซ์”“อื้ออ...”ธารทีราทำเสียงงัวเงียง แล้วลืมตา พอเห็นหน้าคนตัวใหญ่ที่ลอยเด่นอยู่ตรงหน้าก็รีบเบี่ยงตัวหลบ“ตื่นได้แล้ว” เขตแดนจ้องหน้าคนสวยตาไม่กะพริบ มิหนำซ้ำยังยื่นหน้ามาใกล้ขึ้น จนทำให้หญิงสาวที่หันมามองเช่นกันต้องถึงกับผวา เพราะตอนนี้จมูกของเขาสัมผัสเข้ากับปลายจมูกของเธออย่างแนบชิด และเหมือนเขาจะจงใจให้เป็นเช่นนั้นอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะถอยออกมาธารทีรารู้สึกเขินอายจนหน้าแดงที่ปลายจมูกโด่งของเขาชนจมูกของเธอเมื่อครู่ พอก้มลงมองดูที่ตักก็พบว่ามีเสื้อของชายหนุ่มกองอยู่เพียงเท่านี้เธอก็รู้ได้ทันทีว่า อีกฝ่ายคงจะสละเสื้อคลุมของเขาให้กับเธอในตอนที่เผลอหลับไปน่าอายชะมัดเลย...หญิงสาวบ่นตนเองในใจ ก่อนจะถามแก้เก้อ“ถึงแล้วเหรอคะ”“ยัง แวะกินข้าวก่อน” เขตแดนยิ้มเจ้าเล่ห์ เมื่อเห็นคนตัวเล็กหน้าแดง“เสื้อค่ะ” หญิงสาวส่งเสื้อคืนให้อย่างขวยเขิน“เก็บไว้บนรถนี่แหละ ไปกันเถอะ”เมื่อทั้งสองลงจากรถ ชายหนุ่มก็ก้าวไปยืนข้างกายธารทีราพร้อมกับเอ่ยถาม“กินได้หรือเปล่า”
บทที่ 97สองอาทิตย์แล้วที่นักรบกลับมาอยู่บ้าน และวันนี้เป็นวันแรกที่ธารทีราต้องไปยังบริษัทอีกแห่ง ซึ่งพ่อของเธอและพ่อของเขตแดนหุ้นกันเปิดขึ้นมาตั้งแต่เธอยังเล็ก ๆ“มาหาใครคะ” พนักงานต้อนรับเอ่ยถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“คุณเขตแดนค่ะ” ธารทีราบอกพนักงาน“เอ่อ คุณได้นัดไว้ไหมคะ แล้วคุณ…”ธารทีราไม่รอให้พนักงานถามจนจบ เธอก็บอกไปว่า“ฉันชื่อธารทีราค่ะ เป็นน้องสาวของคุณหนึ่งนที” เธอบอกออกไปก่อนจะส่งบัตรวีไอพีของที่นี่ให้อีกฝ่ายดู“อ๋อค่ะ สวัสดีค่ะ” พนักงานฟังแล้วก็รีบเอ่ยทักทายอย่างรวดเร็วจากนั้นพนักงานก็เชิญเธอไปที่ลิฟต์“ชะ...เชิญทางนี้เลยค่ะ”เมื่อขึ้นลิฟต์มาถึงหน้าห้องทำงานของเขตแดน พนักงานก็ขอตัวทันที ทำให้หญิงสาวเคาะประตูขออนุญาต“เชิญ”เมื่อได้รับอนุญาตจากคนด้านใน ธารทีราก็เปิดประตูเข้าไปทันทีด้านเขตแดนที่นั่งทำงานอยู่เงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อย พอเห็นว่าใครเปิดประตูเข้ามาก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปหา“น้ำมาได้ยังไงครับ”“ทำอะไรอยู่คะ น้ำมากวนหรือเปล่า” หญิงสาวเอ่ยถาม ก่อนจะยอมให้อีกฝ่ายคว้าร่างของเธอไปกอด“ไม่กวนครับ” เขตแดนเอ่ยอย่างนุ่มนวล พลางฉวยโอกาสหอมแก้มไปหนึ่งที“พี่ดิน” เธอตีที่ท่อนแขนแข็
บทที่ 96“ป้านมคือคนที่คอยเลี้ยงเราสองคนไง” ธารทีราหันไปอธิบายให้พี่ชายฟังด้วยรอยยิ้ม“ขอโทษด้วยครับ ผม…” นักรบเอ่ยด้วยเสียงที่ขาดห้วงไป ด้วยรู้สึกผิดที่ตนเองจำคนใกล้ตัวในอดีตไม่ได้เลย ป้านมเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีอึดอัดใจจึงเอ่ยแทรกขึ้นว่า“ไม่เป็นไรนะคะ ป้าดีใจที่สุดเลยค่ะที่คุณรบกลับมา”“นี่เป็นเอกสารใหม่ของรบนะ คุณลุงทำไว้ให้จ้ะ” คุณหญิงโสภายื่นซองเอกสารไปให้หลานชายนักรบหยิบเอกสารขึ้นมาเปิดดู ซึ่งมันคือเอกสารการเปลี่ยนชื่อและเอกสารกรรมสิทธิ์ต่าง ๆ ของเขา ทั้งเรื่องบ้านและตัวธุรกิจที่เคยเป็นส่วนแบ่งของหมอคาร์ล“ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นกรรมสิทธิ์ของรบนะ”“แล้วน้ำล่ะครับ บ้านหลังนี้ก็ของพ่อแม่นี่ ทำไมถึง…” นักรบถามไม่ทันจบคำ ธารทีราก็พูดขึ้นว่า“คุณแม่จะยกบ้านหลังโน้นของคุณแม่ให้น้ำค่ะ ส่วนของพี่ซีลคุณแม่จะยกบ้านตากอากาศอีกหลังหนึ่งให้แทน”นักรบมองตามมือน้องสาวที่ชี้ให้เขาดูบ้านที่มีขนาดใหญ่พอ ๆ กับบ้านหลังนี้ ซึ่งอยู่ข้าง ๆ กัน โดยแค่มีรั้วต้นไม้กั้นไว้เท่านั้น“รบคงไม่ว่าป้านะ ถ้าในช่วงนี้ป้าจะให้น้ำไปอยู่กับป้า”"ผมเข้าใจครับ มีน้ำไปอยู่กับคุณป้าก็ดีแล้วล่ะครับ““ขอบใจมากจ้ะ ตอนนี้ซีลไปพักท
บทที่ 95พอมาถึงเจดีย์สีขาวสะอาดที่โดยรอบมีการทำความสะอาดและมีดอกไม้พร้อมกระถางธูปจัดวางอย่างเรียบร้อย ชายหนุ่มก็หันมาหาน้องสาว“น้ำมาที่นี่บ่อยใช่ไหม”“คุณพ่อ...เอ่อ...ลุงจอห์นให้คนจัดการให้ตลอดค่ะ มันก็เลยดูดีแล้วก็สะอาดแบบนี้” หญิงสาวเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ เพราะทุกวันนี้เธอก็ยังคงเสียใจอยู่ จนพี่ชายต้องยกมือขึ้นไปจับที่บ่าบางแล้วบีบเบา ๆ“น้ำ ไม่เป็นไรนะ”“ค่ะ น้ำก็แค่คิดถึงอดีตที่ดี ๆ น่ะค่ะ คุณพ่อดีกับน้ำมาก ทั้งที่น้ำเป็นแค่หลานเท่านั้นเอง” เธอหันไปบอกพี่ชาย ก่อนจะยกมือขึ้นสัมผัสที่รูปของพ่อแม่ที่กำลังอุ้มพี่ชายของเธอตอนเล็ก ๆ อยู่ด้วย“เอาไว้น้ำจะให้คนมาเปลี่ยนรูปให้ใหม่นะคะ คุณพ่อคุณแม่”ธารทีราเอ่ยกับพ่อแม่ ทำเหมือนกับว่าท่านทั้งสองได้ยินสิ่งที่พูดไป จากนั้นก็หันมายิ้มให้พี่ชายสลับกับการมองเจดีย์ตรงหน้า“พ่อคะ แม่คะ น้ำพาพี่รบมาหาค่ะ”“พ่อครับ แม่ครับ ผมมาหาแล้วนะครับ” นักรบยกมือไหว้พ่อแม่ แม้หมอจะบอกว่าเขาคงไม่อาจจดจำอะไรได้แล้ว แต่เขาก็รู้ว่าพ่อกับแม่จะต้องรักเขามากอย่างแน่นอน จึงรู้สึกดีใจระคนเศร้าที่ได้มาหาพวกท่านจากนั้นสองพี่น้องต่างก็จมอยู่ในห้วงคิดส่วนตัว แต่แววตาของค
บทที่ 94หนึ่งอาทิตย์ต่อมา...เมื่อรถจอดตรงลานจอด เขตแดนก็ลงจากรถเดินอ้อมไปฝั่งข้างคนขับเพื่อเปิดประตูให้ธารทีรา“นี่ถ้าคุณแม่ไม่บอกให้มา น้ำก็ไม่อยากมาหรอกนะคะ”“พี่เข้าใจ ยังไงเขาก็ตายแล้ว น้ำก็อโหสิกรรมให้เขาเถอะ”“ก็เพราะว่าอโหสิกรรมให้ไงคะน้ำถึงมา” ธารทีราย่นหน้าใส่เขตแดน เอาจริงๆ ถึงจะโกรธและแค้นดาเนียลมากแค่ไหนพ่อแม่เธอก็คงไม่ฟื้นขึ้นมาอยู่ดี“งั้นเข้าไปกันเถอะ” เขตแดนบอก พร้อมจับมือหญิงสาวมากุม แล้วพาเดินเข้าไปในวัดช่วงเวลาที่เดินเข้าไปในวัดนั้น ธารทีราก็ถามเพราะสงสัยมากที่ดาเนียลซึ่งเป็นลูกครึ่งนั้นนับถือศาสนาพุทธ“ตอนแรกนึกว่าเขาจะจัดงานศพแบบคริสต์นะคะเนี่ย”“เห็นว่าเขานับถือศาสนาตามภรรยาน่ะ”“อ้อ...” ธารทีราตอบรับ ก่อนจะถามถึงเรื่องอื่น “พี่ดิน พี่รู้ไหมว่าพี่ซีลไปไหน ตั้งแต่เสร็จงานศพคุณพ่อก็ไม่ยอมกลับบ้านเลยค่ะ โทรไปหาก็บอกแต่ว่าขอไปพักผ่อนเงียบ ๆ สักพัก พอถามก็ไม่ยอมบอกว่าอยู่ที่ไหน”“ไม่รู้สิ พี่ก็ไม่เห็นมันไปที่ผับนานแล้วนะ ปกติมันจะเข้าผับทุกคืน นี่มันยังทิ้งงานที่บริษัทให้พี่ทำเลย บอกแค่ว่าอยากไปทำใจสักพัก”“ความจริงงานศพของดาเนียลคุณแม่จะให้พี่ซีลมานะ แต่พี่ซีลเล่น
บทที่ 93นักรบเองก็อึ้งไปเช่นกัน แต่แล้วชายหนุ่มก็ดึงสติกลับมาเมื่อมีมือของนาเดียร์ยื่นมาจับมืออีกข้างของเขาไว้ โดยที่มีอีกข้างตอนนี้มีธารทีราจับไว้เช่นกัน“แล้วแม่ล่ะ” นักรบถามเสียงเรียบ ทั้งที่ในใจกำลังห่วงใยมาดามอันนาอย่างที่สุด“คุณแม่ความดันกำเริบหมดสติ ตอนนี้นอนพักอยู่ที่ห้องพักฟื้นค่ะ” หญิงสาวร้องไห้ออกมาอีก ตอนนี้เธอเอาแต่ก้มหน้า เพราะไม่กล้าจะสู้หน้าใคร ทั้งที่เมื่อก่อนเป็นผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเองมาตลอด“แม่...” นักรบเอ่ยเสียงสั่น ครั้งนี้เขายอมปล่อยมือน้องสาวแท้ ๆ เพื่ออ้าแขนโอบกอดน้องสาวอีกคนไว้ ถึงจะไม่ใช่น้องแท้ ๆ แต่เขาก็รักเธอเหมือนน้องสาว“ไม่ต้องร้องไห้นะ เงียบซะ” นักรบกอดนาเดียร์ไว้แน่น และพูดปลอบขวัญอย่างอ่อนโยน“พี่ไทด์อยู่เป็นเพื่อนเดียก่อนได้ไหม เดียไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี ป๋ายังนอนอยู่ในนั้น คุณแม่ก็…” นาเดียร์ไม่ทันได้พูดจบประโยค เสียงทุ้มต่ำที่เธอไม่อยากได้ยินก็ดังขึ้น“ไอ้รบ ถ้ามึงช่วยเป็นธุระจัดงานศพให้ไอ้ฆาตกรที่มันฆ่าพ่อแม่มึงและฆ่าพ่อกู กูจะขอเป็นศัตรูกับมึงตลอดไป” หนึ่งนทีปล่อยแม่ให้ยืนอยู่กับธารทีรา แล้วเดินเข้าไปยืนใกล้นักรบที่กำลังยืนกอดนาเดียร์อยู่“ซี
บทที่ 92ณ โรงพยาบาลคุณหญิงโสภรีบเดินทางมายังโรงพยาบาลทันทีหลังทราบว่าสามีของตนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ“ซีล น้ำ พ่อเป็นยังไงบ้าง” เสียงสั่นเครือของคุณหญิงดังมาก่อนตัว โดยตอนนี้ที่หน้าห้องฉุกเฉินมีทั้งธารทีรา นักรบ หนึ่งนที รวมถึงเขตแดนยืนออกันอยู่“หมอยังไม่ออกมาบอกเลยค่ะ”“เกิดอะไรขึ้น ใครยิงพ่อ” คุณหญิงโสภามองลูกสาวและลูกชายที่ยังยืนหันหลังให้ เพราะหนึ่งนทีเอาแต่ยืนมองประตูห้องฉุกเฉินอย่างไม่ยอมละสายตาคำถามของแม่ ทำให้หญิงสาวหันไปมองนักรบ เมื่อพี่ชายพยักหน้าจึงเล่าให้แม่ฟัง“น้ำไม่แน่ใจค่ะว่าใครยิงคุณพ่อ เหตุการณืตอนนั้นวุ่นวายไปหมด แต่ที่แน่ ๆ ดาเนียลสั่งลูกน้องให้ยิงพวกเราค่ะ”“ไอ้ดาเนียล มึงทำร้ายพ่อกู ถ้าพ่อกูเป็นอะไรขึ้นมา กูจะฆ่าล้างโคตรมึง” หนึ่งนทีมองนักรบด้วยแววตาไม่พอใจ แม้เขาจะไม่โทษอีกฝ่ายออกมาตรง ๆ แต่ลึก ๆ ธารทีรารู้ดีว่าหนึ่งนทีคงไม่พอใจนักรบอย่างมากที่เอาตัวเข้าไปเสี่ยง จนทำให้พ่อของเขาต้องตามไปช่วย“คุณหมอ คุณลุงเป็นยังไงบ้างครับ” เขตแดนเอ่ยถามเมื่อเห็นว่ามีหมอคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องฉุกเฉินด้านคุณหมอมีสีหน้าเคร่งเครียด เขามองหน้าทุกคน โดยเฉพาะคุณหญิงโสภา ก่อนจะพูดอ
บทที่ 91“พี่รบ” ธารทีรากรีดร้อง ขณะถูกผลักให้พ้นจากวิถีกระสุน“ไม่เป็นไรนะน้ำ” นักรบถามพร้อมกับเข้าไปกอดน้องสาวไว้ แล้วยิงสวนกลับไปแต่ก็พลาดเป้าเนื่องจากฝ่ายตรงข้ามหลบเข้าที่กำบังได้ทันเวลา“ไทด์ ไม่ต้องห่วงแม่ พาน้องไทด์หนีไป” มาดามอันนาตะโกนบอกลูกชายดาเนียลจึงหันไปยิงปืนขู่ภรรยาทันที ทำให้ทั้งอันนาและนาเดียร์ต่างก็กรีดร้อง และกระโจนเข้ากอดกันด้วยความกลัว“กูบอกให้เงียบ!” ดาเนียลสั่งพร้อมชี้ปืนใส่ภรรยากับลูกสาว“พอได้แล้วดาเนียล” คุณจอห์นที่เข้ามาใกล้ตัวดาเนียลมากขึ้นพยายามห้าม แต่ตอนนี้ดาเนียลได้คลั่งไปแล้ว ทั้งยังสั่งให้ลูกน้องกราดยิงไปทั่ว“กูไม่หยุด วันนี้พวกมึงกับกูต้องตายกันไปข้าง ยิงพวกมันให้ตายไปให้หมด!”หลังจากที่คาเนีลออกคำสั่งก็เกิดการชุลมุนกันเกิดขึ้น กระสุนจำนวนมากสาดไปทั่วทุกทิศ ทว่านัดหนึ่งกลับพุ่งเข้าใส่คุณจอห์นที่หลบไม่ทัน“โอ๊ย!” คุณจอห์นใช้มือกุมหน้าอกที่เลือดค่อยๆ ไหลออกมา ทำให้เขาทรุดลงไปนอนนิ่งบนพื้น“คุณพ่อ!” ธารทีราที่อยู่ใกล้ที่สุดรีบวิ่งเข้าไปหาพ่อที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นด้วยความตกใจด้านนักรบทนเห็นดาเนียลทำร้ายใครต่อไปไม่ได้อีกแล้ว จึงตัดสินใจยิงไปที่อีกฝ
บทที่ 90หลังวางสายจากดาเนียลเมื่อวาน ในที่สุดนักรบก็ออกจากโรงพยาบาล ทั้งที่ยังบาดเจ็บและหมอก็ห้ามแต่เขาไม่ฟัง และในตอนนี้ทั้งธารทีรากับนักรบก็เดินทางมาถึงโกดังร้างที่นัดหมายไว้กับดาเนียลเรียบร้อยแล้ว โดยมีน้องสาวเป็นคนขับรถมาให้“ผมมาแล้ว” นักรบลงจากรถ แล้วเดินอ้อมไปยืนข้างน้องสาว พร้อมพูดเสียงเรียบใส่มือถือที่กำลังสนทนาอยู่กับดาเนียล“เข้ามา” ดาเนียลพอใจที่เห็นสองพี่น้องมากันแค่สองคนผ่านกล้องวงจรปิด เขาละสายตาจากกล้องที่ดูอยู่หันไปหัวเราะใส่ภรรยา“ฮ่า ๆ มันรักเธอจริง ๆ นะอันนา”“คุณมันเลว” มาดามอันนาโกรธจัด จึงต่อว่าสามีที่เอาเธอกับลูกสาวมาเป็นเหยื่อล่อดาเนียลหัวเราะเสียงดัง เขาไม่สนใจความรู้สึกของภรรยาและลูกสาว เพราะตอนนี้เขามีความสุขมากที่กำลังจะได้ทวงแค้นคืนจากครอบครัวนั้น และช่วงที่เขากำลังมีความสุขกับเสียงหัวเราะ ดาเนียลก็ต้องหุบยิ้ม เมื่อสองพี่น้องก้าวเข้ามา“หวัดดี ไอ้ลูกรัก หนูธารทีรา” ดาเนียลทักทายทั้งสองคนด้วยท่าทางสบาย ๆ“พี่รบ” ธารทีรารีบขยับไปยืนข้างหลังของพี่ชาย เพราะรู้สึกกลัวสายตาของคนตรงหน้าที่มองมา“น้ำไม่ต้องกลัว” นักรบกระซิบบอกน้องสาว พลางใช้ร่างของตนบังอีกฝ่ายเ
บทที่ 89เมื่อได้ยินเสียงปืนและเสียงร้องของแม่กับน้องนักรบก็ยิ่งร้อนรน เขาพยายามจะลงจากเตียง ทำให้น้องสาวที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ต้องถลันเข้าไปหา“พี่รบ อย่าค่ะ” ธารทีราพยายามห้ามพี่ชาย แต่ก็พอจะเดาได้ว่าคงจะเกิดเรื่องไม่ดีบางอย่างขึ้นกับมาดามอันนาและนาเดียร์แน่นอน พี่ชายของเธอถึงได้ร้อนรนปานนี้“ว่ายังไง”เสียงถามจากคนในสาย ทำให้นักรบหลือบตามองธารทีราครู่หนึ่ง ก่อนจะถามกลับไปว่า“ที่ไหน”“โกดังร้างนอกเมืองที่มึงก็น่าจะรู้จักดี”เมื่อได้บอกที่นัดหมายแล้ว ดาเนียลก็วางสายไปทันทีด้านนักรบเมื่อได้คำตอบแล้ว ชายหนุ่มก็ทรุดนั่งบนขอบเตียง มือใหญ่กำมือถือไว้แน่นจนเส้นเอ็นปูด“พี่รบเกิดอะไรขึ้นคะ” หญิงสาวเอ่ยถาม พร้อมทั้งเอามือถือจากมือพี่มาเก็บไว้ “คลายมือออกก่อนนะคะ เลือดย้อนขึ้นไปในสายน้ำเกลือหมดแล้ว”“น้ำ…” นักรบยังไม่ทันได้บอกน้องสาว ทั้งสองก็ต้องหันไปมองที่ประตูที่มีคนเปิดเข้ามา“มีอะไรกัน” คุณจอห์นเอ่ยถามขึ้น เพราะเมื่อครู่เหมือนจะทันได้ยินเสียงร้อนรนของลูกสาว ในขณะที่คุณหญิงโสภา หนึ่งนที รวมถึงเขตแดนที่ตามเข้ามาด้วยก็มองมาอย่างห่วงใยเช่นกัน“คุณพ่อ คุณแม่” หญิงสาวเรียกท่านทั้งสอง แต่ยังไม่กล