Share

บทที่ 2.1 เริ่มแผลงฤทธิ์

last update Last Updated: 2025-05-31 00:24:26

2 สุรามงคล มอบใหม่แด่ท่านแล้ว

หน้าห้องหอที่ไร้เจ้าบ่าว สาวรับใช้นางหนึ่งมาตะโกนปลุกเจียงเยี่ยนฟางตั้งแต่ฟ้ายังไม่ทันสว่าง เพื่อจะพาอีกฝ่ายไปที่เรือนด้านหลังตามรับสั่งของเจ้านาย

ด้วยเจียงเยี่ยนฟางเดิมก็เป็นคนที่ตื่นก่อนฟ้าจะทันได้เปลี่ยนสีอยู่ตลอด ดังนั้นจึงลุกขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้าได้สักพักแล้ว อาภรณ์บนกายของนางไม่ได้ดูหรูหราสมกับเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลขุนนางอย่างที่ควรจะเป็น หากแต่คล้ายชุดของบุรุษชาวบ้านทั่วไปเสียมากกว่า เนื้อผ้าก็ทั้งหยาบทั้งหนา สีก็ดูหม่นหมอง แถมยังใช้ผ้ารัดไว้ที่ข้อมือเหมือนกับชาวบ้านที่ต้องทำงานแบกหามทั้งวันนั้นก็ด้วยอีก คงมีเพียงผ้าปิดหน้าสีม่วงที่ดูดีอยู่เพียงชิ้นเดียวบนตัวนาง

"เมื่อครู่คนจากวังหลวงเพิ่งจะมาส่งข่าวว่า ไทเฮาทรงพระอาการไม่ค่อยดี อยากพักผ่อน ไม่ต้องรบกวนเจ้าไปยกน้ำชาตามพิธี" สาวใช้ว่าพลางหมุนตัวเดินนำไปที่เรือนไม้ด้านหลังสุดของจวนทางทิศซี [1]

"..." เจียงเยี่ยนฟางไม่ได้ตอบ นางคร้านจะใส่ใจผู้อื่นเป็นทุนเดิม เพียงเดินตามเงียบ ๆ พอไม่ต้องอยู่ต่อหน้าท่านอ๋องผู้นั้นนางก็ค่อยมีเวลาที่เลิกเสแสร้งบ้าง

ระหว่างเดินอยู่ก็กำลังคิดว่า ต่อให้ตระกูลเจียงเป็นถึงขุนนางในวัง ทว่าก็ยังถูกเลือกปฏิบัติอยู่ดี ถึงแม้นนางจะไม่เคยสัมผัสการถูกปรนนิบัติจากผู้อื่นมาก่อน แต่ย่อมรู้แน่ว่าปกติตระกูลสูงศักดิ์เวลาแต่งเข้ามาจำต้องมีสาวใช้มาดูแล และยามนี้นางก็เป็นถึงพระชายารองในจวนชินอ๋อง แม้ทำผิด ถูกพระสวามีลงโทษก็แล้วไป แต่บ่าวรับใช้ก็ควรจะใส่ใจนางบ้างถึงจะถูก และต่อให้ชินอ๋องผู้นี้เคยประกาศขอถอดยศตนเอง แล้วย้ายมานอกวังก็ตาม แต่ทว่าขนบทำเนียมเดิมก็ควรจะพอหลงเหลือไว้บ้างไม่ใช่หรือไร

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะทุกคนรู้อยู่แล้วรึเปล่าว่า อย่างไรเสียชินอ๋องรูปงามผู้นั้นก็มีใจหนึ่งเดียวให้พระชายารองอีกคน จึงไม่ต้องสนใจนางก็ได้กระมัง

เอาเถอะ จะไปโทษคนพวกนี้ก็ไม่ได้ ขนาดขุนนางเจียงผู้เป็นบิดาก็ยังไม่ส่งบ่าวรับใช้ติดตามนางมา คนในจวนนี้พอเห็นนางไร้สาวใช้ที่ติดตามมาจากสินเดิม ก็คงคาดเดาไว้แล้วว่า นางมีสถานะเช่นไรในจวนตระกูลเจียง

เช่นนี้ก็สะดวกดี เจียงเยี่ยนฟางคิดแบบนั้น แต่แล้วก็ตระหนักได้ว่า เมื่อวานนางเพิ่งตัดสินใจอะไรลงไป

'ข้าเพียงหวังพบมารดาอีกสักครั้ง พานางออกมาจากที่แห่งนั้น หนีไปใช้ชีวิตด้วยกัน' เสียงอ่อนหวานเจือแววห่วงหาดังสะท้อนอยู่ในห้วงความคิดของนาง ภาพเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ไม่นานที่นางไม่มีทางลืมก็ยังคงวนเวียนกลับมาอีกครั้ง ทำให้ตระหนักได้ถึงสิ่งที่ตนต้องทำให้สำเร็จ

แรกเริ่มเดิมที นางคิดว่าตนสามารถไม่ใส่ใจเจ้าคนพิการผู้นั้นได้ แต่ตามฤกษ์ยามแล้ว อีกสิบสี่ [2] วันต่อจากนี้ยังต้องกลับตระกูลเจียง อย่างไรก็ยังต้องพึ่งพาเขาอยู่ดี

นึกถึงฤกษ์ยามที่ว่าแล้วก็ช่างน่าขัน ทั้งหมดทั้งมวลเป็นมารดาเลี้ยงผู้นั้นที่พูดเองเออเอง เจ้าตัวบอกนางว่าค่อยกลับบ้านเดิมหลังจากสิบห้าวันผ่านไปแล้ว ไม่รู้ฤกษ์แท้จริงเป็นอย่างไร แต่มีสิ่งหนึ่งที่รู้แน่นั่นก็คือ อีกฝ่ายเพียงประวิงเวลาออกไป ด้วยไม่อยากเจอหน้านางเร็วเกินไปก็เท่านั้น หรือไม่ก็อยากให้นางถูกชินอ๋องไล่ออกจากจวนไปด้วยตัวเขาเอง จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาต้อนรับอีกฝ่ายที่พานางกลับบ้านเดิมไป

ยามนี้ที่กำลังนึกเห็นใบหน้าของสตรีผู้นั้น แววตาของเจียง เยี่ยนฟางที่เฉยเมยอยู่แล้วก็วาบผ่านด้วยความเย็นชาสายหนึ่ง

ไม่นานสาวใช้ก็พานางมาถึงเรือนด้านหลัง แม้จะโชคดีที่สภาพเรือนไม่ได้ย่ำแย่เหมือนเรือนร้างที่นางเคยอยู่มาก่อน แต่ก็ไม่อาจใช้คำว่า 'ดี' มาเปรียบเปรยได้ ถ้าเทียบกับวังหลวงก็คงจะเป็นเหมือนวังเย็น ต่างแค่ไร้กำแพงหนาปิดกั้น เปลี่ยนเป็นรอบด้านถูกล้อมรอบด้วยรั้วไม้ไผ่ผุพังแทน หากแต่รั้วไม้ไผ่เองก็สภาพย่ำแย่ ตั้งสูงต่ำไม่เท่ากัน ดูก็รู้ว่าไม่ได้มีความใส่ใจจะตัดมันให้เท่ากันเลยสักนิด เพียงกั้นไว้แบบขอไปทีเท่านั้น

ตัวนางไม่ได้อยากมีปัญหา คิดอยากทำสิ่งที่ตั้งไว้ในใจให้สำเร็จแล้วจากไป แต่การถูกปฏิบัติเช่นนี้ตั้งแต่แรกแล้วหากยอมทนต่อไป ก็รังแต่จะทำให้นางลำบากในภายหลัง เรื่องอาหารการกินไม่เตรียมไว้ให้ก็แล้วไป นางหาเองได้ แต่นางจะไม่ยอมทำความสะอาดที่นี่เองหรอกนะ

มือเรียวยาวจึงถูกยื่นออกไปขวางทางสาวใช้ที่กำลังหมุนตัวจะจากไปไว้เสียก่อน "ชาวบ้านด้านนอกต่างพูดว่าชินอ๋องไร้ซึ่งความทะเยอทะยาน ปลีกตัวออกมาจากวังตั้งแต่ได้ขึ้นเป็นแม่ทัพใหญ่ แสดงเจตจำนงอย่างชัดเจนว่าไม่สนใจในบัลลังก์มังกร แต่ก็ไม่คิดว่าจะถึงขั้นละเลยการอบรมบ่าวในจวนถึงขั้นนี้"

เจียงเยี่ยนฟางเป็นสตรีที่ตัวสูงกว่าสตรีทั่วไปในแคว้นเฉิง ยามนางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาและกดตาลงมองผู้ที่ตัวเตี้ยกว่า ก็ช่างดูน่าเกรงขามไม่น้อย ทำเอาสาวใช้ที่กำลังถูกจ้องมองถึงขั้นเกิดความหวาดกลัวขึ้นในใจชั่ววูบหนึ่ง

แต่สาวใช้ผู้นั้น พอนึกถึงคำนินทาที่คนในจวนต่างพูดถึงพระชายารองพระนางใหม่ที่เพิ่งตบแต่งเข้ามา ก็ทำให้นางที่หวาดกลัวไปในตอนแรกใจกล้าขึ้นมากกว่าเดิม ราวกับกินดีเสือต่างน้ำเปล่าในตอนตื่นมาก็ไม่ปาน

"คุณหนูใหญ่เจียงอย่าทำให้บ่าว..."

"พระชายา" เจียงเยี่ยนฟางพูดคำนี้เองก็ตะขิดตะขวงใจเอง แต่ก็ต้องพูดออกไป

"คุณหนูใหญ่เจียง..." สาวใช้ยังคงแข็งข้อ แต่ไม่ทันได้พูดจบก็ถูกมือเรียวยาวบีบลงที่บ่าอย่างแรง ทำเอาเจ็บจนน้ำตาซึม เข่าแทบทรุดลงกับพื้น และเหมือนคนที่ลงมือคล้ายรู้ได้ว่านางกำลังจะล้มลงไป มือที่ดูอ่อนนุ่มคู่นั้นจึงบีบนางแรงขึ้นกว่าเดิม เพื่อดึงรั้งตัวนางไว้ได้ด้วยมือเพียงข้างเดียว "อึก" สาวใช้แทบร้องไม่ออก รับรู้ถึงไอสังหารที่เคยได้สัมผัสจากเจ้านายของตนครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว กำลังแผ่ออกมาจากสตรีข้างกาย ทำเอานางหวาดกลัวขึ้นมาจับใจ

 


[1] ซี คือทิศตะวันตก

[2] ปกติการกลับบ้านเดิมที่เราคุ้นเคยตามธรรมเนียมจีนมักจะเป็นเวลาสาม 3 วันหลังแต่งงานตามที่เห็นกันบ่อย ๆ แต่แท้จริงแล้วมีทั้งหมดสามช่วง คือ 3 วัน 7 วัน และ 15 วัน ในกรณีนี้เป็น 15 วันค่ะ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ (6.2).7 เซียวลี่หยางจะไปสำคัญอะไรอีก

    "คนเช่นเจ้า ไม่คู่ควรกับจวนของข้า" น้ำเสียงเย็นชานี้ จะว่าเบาก็เบา หากแต่ทุกผู้ทุกคนที่ยืนล้อมวงอยู่ในตอนนี้กลับได้ยินกันอย่างชัดเจนสาวใช้ของกู่เยว่ชิงต่างพากันมองหน้ากันไปมา คล้ายบอกว่าเจ้านายตนเองอย่างไรก็ต้องชนะ เรื่องในวันนี้ก็คงจะเงียบไป พวกนางก็ไม่ต้องเดือดร้อนแล้ว"..." กู่เยว่ชิงที่แสร้งตีหน้าน้อยใจยกผ้าเช็ดหน้ามาปิดปากอยู่ก็แอบซ่อนรอยยิ้มน้อย ๆ ไว้อย่างพึงพอใจเช่นกันเวลานี้แม้นคนถูกขู่หย่าจะก้มหน้าลงเหมือนเสียใจ แต่ใครจะไปรู้ความจริงที่นางปกปิดไว้ ซ้ำนางยังสวมผ้าปิดหน้าตลอดเวลา และก่อนที่เจียงเยี่ยนฟางจะเอ่ยออกไป นางยังพยายามบีบเสียงให้สั่นเครืออีกนิดเพื่อให้สมจริงขึ้นด้วย "...เช่นนั้นก็ให้คนของท่านอ๋องเข้าไปค้นเถิดเพคะ"เหตุการณ์ครั้งก่อนเรื่องยาพิษ ดูอย่างไรก็รู้ว่าเซียวลี่หยางพยายามทำให้นางเป็นคนผิด ไม่ว่านางจะเป็นคนวางยาจริงหรือไม่ แต่ปลายทางก็ถูกกำหนดให้นางเป็นผู้ผิดตั้งแต่แรกแล้ว ในไม่ช้าเขาก็ต้องกำจัดนางออกไปอยู่ดีและด้วยรู้แต่แรกว่าชินอ๋องผู้นี้ไม่เคยไว้ใจนาง อีกฝ่ายคงส่งคนมาเฝ้าเรือนนางไว้ตลอดอยู่แล้ว คนมาเฝ้าย่อมต้องเห็นแน่ว่ามีใครมาที่เรือนของนางในช่วงเวลาที่นาง

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ (6.2).6 ยื่นหนังสือหย่าให้เจ้าแล้ว

    "ที่เจินเจินตบเจ้า หาใช่เพราะเรื่องที่เจ้าอยากพาคนเข้ามาค้นของโดยไม่ขออนุญาตจากข้า แต่ตบสั่งสอนเพื่อให้เจ้ารู้ว่าเจ้าพูดโดยไม่ทันใช้หัวคิดต่างหาก จวนอ๋องมีกฎที่ต้องปฏิบัติ แต่คนในจวนที่อยู่มานานกลับหละหลวมเสียเอง ใช้ได้เสียที่ไหน" พูดมาถึงตรงนี้เจียงเยี่ยนฟางก็หาเรื่องให้คนอื่นเดือดร้อนเล่น โดยการหันมองสาวใช้ของกู่เยว่ชิงคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ตนที่สุด และเอ่ยถามว่า "เจ้าว่าสมควรแล้วหรือไม่ที่นางถูกตบ"โดยไม่ต้องใช้เวลาคิดนาน สาวใช้ก็ตอบเสียงสั่นว่า "เพ... เพคะ สมควรแล้วเพคะ" แม้นจะถูกพระชายากู่หันมองหน้าในทันที แต่นางก็ทำเพียงหลบสายตาไป ไม่ยอมกลับคำ ก็จะให้นางตอบเช่นไรได้อีก ทางหนึ่งคือพระชายากู่ที่เป็นเจ้านายของตน และเป็นผู้ที่ชินอ๋องโปรดปรานที่สุด หากแต่อีกฝั่งก็มีบิดาเป็นถึงเสนาบดีฝ่ายซ้ายคอยหนุนหลัง ซ้ำยังยกฮ่องเต้ขึ้นมาขู่ แน่นอนว่าน้ำหนักต้องเอนเอียงไปทางฝั่งหลังมากกว่าอยู่แล้ว หากยามนี้นางตอบว่า 'ไม่' ภายหลังก็ต้องถูกจับไปสอบสวน ใครจะทนความเจ็บปวดได้ไหว อย่างไรก็ต้องเล่าเหตุการณ์เมื่อครู่ออกไปอยู่ดี มิสู้โดนพระชายากู่ทำโทษทีหลังจะยังดีเสียกว่า อย่างน้อยก็ยังรักษาชีวิตไว้ได้"เจ้าล่

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ (6.2).5 ไม่ต้องรีบร้อน รอไส้เดือนมันดิ้นเมื่อถูกขี้เถ้า

    เป็นเจินเจินที่เดินมาจากด้านหลัง แทรกตัวผ่านเจียงเยี่ยนฟางออกมา แล้วลงมือตบหน้าจูหลิงเพื่อสั่งสอนอีกฝ่ายแทนเจ้านายตนเอง!"จูหลิง เจ้าเป็นเพียงสาวรับใช้ กล้าเสียมารยาทก็แล้วไป แต่ยังหมิ่นเบื้องสูงไม่เลิก เป็นข้าที่ตบสั่งสอนแทนการถูกตัดหัวเสียบประจานของเจ้า ก็ควรขอบคุณแล้ว!" เจินเจินกางแขนกันเจ้านายตนเองไว้ ใครหน้าไหนจะผ่านเข้าไปก็ต้องสังหารนางให้ตายก่อน แล้วค่อยเหยียบศพนางก้าวเข้าไปในเรือน!"..." กู่เยว่ชิงได้ฟังก็สูดหายใจเข้าลึก เกิดความกลัวขึ้นมาในใจ รีบเข้าไปดึงสาวใช้ของตนเองกลับมา พลางเงยหน้ามองเจียงเยี่ยนฟางอย่างไม่อยากเชื่อสายตา ที่ผ่านมาสตรีผู้นี้ต่างอยู่อย่างสงบเสงี่ยมไม่เรียกร้องสิ่งใด ท่าทางที่เจอแต่ละครั้งก็อ่อนหวานระคนขี้กลัว ดั่งนกน้อยที่ตกจากรังเจอเข้ากับฝูงงู แม้นางจะตัวสูงแต่กลับดูบอบบางอยู่ตลอดเวลา ในตอนที่ท่านอ๋องไล่นางมาอยู่เรือนด้านหลัง นางก็มาอยู่โดยไม่ปริปากบ่นแม้ครึ่งคำ วันนั้นพอถูกใช้ให้ไปต้มน้ำแกงไม่ต่างจากสาวใช้คนหนึ่ง ก็ยังยินยอมทำตามอย่างว่าง่ายอยู่เลยพวกคนใช้ในจวนเองก็ต่างพูดกันให้ทั่วว่า คุณหนูใหญ่เจียงผู้นี้คงรู้ว่าตนไม่มีอำนาจเพียงไร ถึงได้อยู่อย่างเจีย

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ (6.2).4 ตบสั่งสอน

    "เปิด..." เสียงคนด้านนอกดังแว่วเข้ามาเจียงเยี่ยนฟางที่เดินมารออยู่ก่อนแล้ว ก็ดึงประตูเรือนเปิดออกโดยไม่รอให้ใครมาทุบประตูให้หนวกหูอีก"พี่หญิง" นางทำความเคารพสตรีหน้าเรือนก่อนเป็นอันดับแรก สีหน้าและน้ำเสียงค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นกังวลใจ "ไม่ทราบว่าพี่หญิงมีเรื่องอะไรให้น้องสาวคนนี้ช่วยเหลือหรือเจ้าคะ ถึงได้พาคนมาดึกดื่นเช่นนี้""น้องหญิงเจียง เจ้าเห็นความเชื่อใจของข้าเป็นสิ่งใดกัน ทั้งที่... ทั้งที่ข้าเอ็นดูเจ้าขนาดนั้น" กู่เยว่ชิงพูดไปก็เช็ดน้ำตาไป ดวงตาก็เหลือบมองไปด้านหลังตนเองตลอดเวลาเจียงเยี่ยนฟางก็ทำทีเป็นมองไม่เห็นว่าเหมือนนางกำลังรอใครบางคนให้มาถึงอยู่ ในเมื่ออีกฝ่ายเสแสร้งได้แนบเนียน นางเองก็ทำได้เช่นกัน เวลานั้นก็หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากอกเสื้อ ขึ้นมาปิดใบหน้าเลียนแบบอีกฝ่าย "พี่หญิง ท่านพูดเรื่องอะไรกันเจ้าคะ""อย่ามัวเสียเวลาเลยเพคะพระชายา" จูหลิงที่ยืนประคองเจ้านายไว้ก็พูดไปปลอบไป ครั้นจบประโยคนั้นก็หันไปสั่งสาวใช้ที่มาด้วยกันอีกกลุ่มใหญ่ว่า "ค้นเรือน!""เดี๋ยว!" เจียงเยี่ยนฟางยืดตัวเต็มความสูงพลางยื่นมือขวางทางเข้าไว้ แผ่นหลังเหยียดตรง โยนผ้าเช็ดหน้าทิ้งไปที่อื่น น้ำเสียงเอง

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ (6.2).3 หาเรื่องกันไม่ว่างเว้น

    กระทั่งคืนวันต่อมา เจินเจินก็ได้ยินข่าวว่าท่านอ๋องแอบส่งคนไปตามหมอสวี่เข้ามาทางประตูหลัง มารักษาอาการท้องร่วงให้พระชายากู่และคนในเรือนเอินทั้งหมด!เจินเจินพอได้ยินเรื่องนี้แล้วก็รีบรุดไปดูด้วยตาของตนเองว่าเรื่องที่นางได้ยินจากคนใช้ในจวนเป็นความจริงหรือไม่ ครั้นมาถึงเรือนเอินแล้วก็ได้ยินพระชายากู่โวยวายเสียงดังออกมาว่า"ยาพิษที่ทำให้ท้องร่วงพวกนั้นเจ้าเก็บดีหรือไม่ เหตุใดพวกเราถึงโดนไปด้วย!""หม่อมฉันเก็บดีแล้วนะเพคะพระชายา" จูหลิงน้ำเสียงสั่น เมื่อวานนางเพิ่งจะถูกลดเบี้ยของเดือนนี้ไป วันนี้ก็ดันเกิดเรื่องขึ้นอีกแล้ว"แล้วเหตุใดข้าถึงท้องร่วง น่าขายหน้ายิ่งนัก พี่ลี่หยางจะมองข้าอย่างไร! เจ้ามันไม่ได้เรื่อง!" สิ้นเสียงของกู่เยว่ชิงก็มีเสียงของแตกตามมาไม่หยุด"พระชายา ทรงเย็นพระทัยก่อนเพคะ บางที บางทีอาจเป็นพวกของกินที่ห้องครัวเตรียมมาให้ไม่สะอาด จึงทำให้พวกเรา..." เสียงของจูหลิงขาดห้วงไม่เป็นประโยค ด้วยเพราะวิ่งหลบของที่ถูกปามาใส่"เจ้าคิดว่าจะหลอกผู้ใดกัน!" กู่เยว่ชิงตะโกนเสร็จก็หอบหายใจด้วยความเหนื่อย ต่อให้อาหารถูกเตรียมมาไม่ดีแล้วเหตุใดท่านอ๋องทรงไม่เป็นอะไร คนในเรือนอื่นก็ไม่เป็นอะ

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ (6.2).2 เอาคืนทีละนิด

    ด้านเจินเจินไม่ได้สนว่าใครเพิ่งจะตกน้ำไป นางพยายามประคองร่างในมือดันขึ้นไปบนสะพานแทน ปากพร่ำถามว่าพระชายาเป็นอย่างไรบ้างอยู่หลายครั้ง และพอส่งคนขึ้นไปได้แล้ว นางถึงได้ปีนตามขึ้นไป"ไปช่วยนางขึ้นมา!" เซียวลี่หยางหันไปบอกเติ้งอู๋ที่ยังคงยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อนเติ้งอู๋พอถูกสั่งก็ปลดอาวุธประจำกายวางไว้ ก่อนจะลงน้ำไปเพื่อช่วยกู่เยว่ชิงขึ้นมาจูหลิงที่กำลังรออยู่บนสะพานรีบหันไปบอกให้สาวใช้อีกสองคนไปเอาน้ำชากับผ้าคลุมที่อยู่ในศาลามาเตรียมรอเจ้านาย"พระชายา ทรงเป็นอย่างไรบ้างเพคะ" เจินเจินยังคงถามย้ำอีกรอบ รีบกวาดตามองดูตามร่างกายของคนตรงหน้าที่ฟุบอยู่กับพื้นสะพานให้แน่ใจอีกที"..." เจียงเยี่ยนฟางที่ยังไอไม่หยุดก็ยกมือโบกไปมาแทนคำตอบ พอรับรู้ได้ว่ามือตัวเองสั่นขนาดไหนก็รีบลดมือลง แล้วใช้มืออีกข้างเท้าพื้นให้ตัวเองลุกขึ้นมานั่งให้ดี ๆ แทนจังหวะต่อมาเติ้งอู๋ก็พาคนขึ้นมาจากสระบัวได้แล้ว จูหลิงที่ปาดเข้าไปประคองกู่เยว่ชิงก็รีบยกมือลูบแผ่นหลังให้เจ้านายตนเองเพื่อไอเอาน้ำออกมาให้หมด"พี่หญิงกู่ ท่านเป็นอะไรหรือไม่ ขอโทษด้วย เมื่อครู่ไม่ทันระวังดึงท่านแรงไปหน่อย ไม่คิดว่าท่านที่ยื่นมือมาช่วยจะไม่เกร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status