Home / รักโบราณ / สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ / บทที่ 2.2 สตรีที่พวกเจ้านินทา มาแล้วจ้า 5555 จ๊ะเอ๋ \( ̄(oo) ̄)/

Share

บทที่ 2.2 สตรีที่พวกเจ้านินทา มาแล้วจ้า 5555 จ๊ะเอ๋ \( ̄(oo) ̄)/

last update Last Updated: 2025-05-31 00:24:46

"ท่านอ๋องสั่งให้คนเตรียมเรือนให้ข้า นี่คือสิ่งที่เจ้าทำได้ดีที่สุดแล้ว?" เจียงเยี่ยนฟางเอ่ยเนิบช้า ดวงตาจ้องมองบ่าวที่เริ่มตัวสั่นด้วยความกลัว "ไปพาคนมาทำความสะอาดเรือนให้ข้าใหม่"

"เพ... เพคะ พระชายา หม่อม หม่อม หม่อมฉันทราบแล้ว" สาวใช้พยายามเค้นเสียงตอบ ไม่คิดว่าสตรีที่แม้จะตัวสูงกว่านางแต่ผอมบางพอ ๆ กันจะมีแรงมากถึงขนาดนี้ หัวไหล่ของนางทั้งปวดทั้งชาไปหมด ซ้ำยังคิดว่าหากถูกบีบนานกว่านี้อีกนิด หัวไหล่ของตนคงหลุดเป็นแน่

"อ่อ อีกอย่าง..." เจียงเยี่ยนฟางโน้มใบหน้าลงไปกระซิบบอก "เรื่องนี้อย่าแพร่งพรายเล่า"

"เพคะ..." แรงกดที่บ่าทำเอานางแทบจะเอ่ยปากไม่ออก รีบก้มคำนับขอตัวจากไปทันทีที่มือดั่งเหล็กกล้าของคนตรงหน้าคลายออกแล้ว

ครั้นเมื่อคนจากไปแล้ว เจียงเยี่ยนฟางก็เดินกลับไปอีกทาง โผล่อีกทีที่ห้องครัวท้ายจวนในทิศฝั่งตรงข้ามแทน

ไอความร้อนสีขาวพวยพุ่งขึ้นมาเหนือเตา กลิ่นหอมของอาหารที่อยู่ในเตาแผ่กระจายอบอวลในอากาศ

เสียงมีดสับลงเขียง เสียงของกระทะและกระบวยดังมาประปราย หรือกระทั่งเสียงการพูดคุยของผู้คนที่ดังมาไม่ขาดสาย ก็ช่วยบ่งบอกถึงการมีอยู่ของผู้คนได้เป็นอย่างดี

ณ ที่แห่งนี้ค่อยสมกับเป็นจวนของชินอ๋องซึ่งควรมีผู้คนอยู่มาก ๆ เสียหน่อย ช่างมีชีวิตชีวา รับรู้ได้ถึงการมีอยู่ของผู้คน ต่างจากห้องหอสีแดงแสบตาเมื่อคืน และเรือนไม้เก่า ๆ ซึ่งเป็นที่อยู่ใหม่ของนางเมื่อครู่อย่างชัดเจน

"ข้าเคยบอกแล้วว่า ต่อให้เป็นถึงคนของตระกูลเจียงแล้วอย่างไร ดูเอาเถิด สุดท้ายไม่พ้นคืนเข้าหอก็ถูกท่านอ๋องสั่งย้ายไปเรือนร้างด้านหลังแล้ว นี่ยังว่าท่านอ๋องทรงใจดีมีพระเมตตา ให้นางย้ายไปในตอนเช้าแทน!"

"ท่านอ๋องชมชอบพระชายากู่เพียงผู้เดียว หากมิใช่มีสมรสมงคลถูกประทานลงมา มีหรือท่านอ๋องจะตบแต่งสตรีนางอื่นเข้าจวน" พวกนางต่างก็เห็นกันมาตลอดว่าที่ผ่านมาท่านอ๋องเอาใจพระชายากู่เพียงไร ดังนั้นสตรีอีกคนที่เพิ่งถูกยัดเยียดมาให้ ในไม่ช้าก็เป็นเพียงคนไร้ค่าผู้หนึ่งในจวน อีกทั้งใครต่อใครก็รู้ว่า แม้ตระกูลเจียงจะหอบสินเดิมตามติดขบวนเจ้าสาวมามากมาย แต่สตรีผู้นั้นก็เดินทางมาเพียงลำพัง ไร้สาวใช้ ดูก็รู้ว่ามีฐานะอย่างไรในตระกูล ช่างไม่คู่ควรกับท่านอ๋องของพวกนาง!

"เมื่อเช้าอาหลี่แบกน้ำไปส่งที่เรือนใหญ่ จำต้องผ่านห้องหอ เจ้านั่นเห็นคุณหนูใหญ่เจียงกำลังเดินไปที่โรงเก็บฟืนเก่าด้านหลังจวน ทั้งยังบอกว่านางปิดหน้าปิดตา คงเป็นสตรีที่งดงามผู้หนึ่ง" สาวใช้ที่กำลังล้างกระทะใบใหญ่อยู่ก็หันมาพูด

"ต่อให้นางงดงามแล้วมีประโยชน์อันใด อย่างไรเสียก็ไม่มีทางที่ท่านอ๋องจะสนใจอยู่แล้ว"

เสียงกลั้วหัวเราะของคนด้านในครัวก็ดังตามมาหลังจากจบประโยคนั้น

แต่เรื่องสนุกปากของพวกนางไหนเลยจะจบภายในสองสามประโยค ย่อมต้องพูดต่อจนจะพอใจ

"ชาวบ้านบอกว่าคุณหนูใหญ่เจียงถูกส่งไปอยู่ต่างเมืองหลายปี มิใช่ว่านิสัยก็อาจจะหยาบกระด้าง ไม่สมเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่หรอกรึ เมื่อวานท่านอ๋องถึงได้ไล่นางไปเรือนไม้ด้านหลังเพื่อดัดนิสัย บ่าวที่เฝ้ายามกลางคืนยังเล่าอีกว่าเพราะนางทำสุรามงคลหล่นแตกจึงถูกลงโทษเช่นนั้น

แต่น่าแปลกยิ่งนัก เรื่องแค่นี้จะต้องถึงขั้นต้องไล่ไปนอนในเรือนไม้พัง ๆ แบบนั้นเลยรึไร ห้องสาวใช้ของพวกเรายังจะดีกว่าเสียอีก ปกติท่านอ๋องก็ไม่ได้มีนิสัยโหดร้ายขนาดนั้น" คนพูดหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงหยอกเย้าว่า "หรือบางทีสตรีผู้นั้นพอเห็นว่า ท่านอ๋องของพวกเรารูปงามมากขนาดไหน ก็ห้ามใจไม่อยู่ขึ้นมา เผลอกระโจนเข้าใส่ มิใช่เพราะไม่สำรวมเช่นนั้นหรือไร ท่านอ๋องถึงได้ไล่นางไปให้ไกลตา!"

เจียงเยี่ยนฟางที่แอบฟังอยู่ก็ได้แต่เค้นเสียงเย็นในใจ ท่านอ๋องของพวกนางก็รูปงามสมคำร่ำลืออยู่หรอก แต่พวกบ่าวในจวนแห่งนี้คงลืมไปแล้ว ว่าชาวบ้านเองก็ร่ำลือถึงเรื่องที่ตรงนั้นของชินอ๋องผู้เกรียงไกรใช้การไม่ได้แล้วเช่นกัน ต่อให้นางจะหน้ามืดตามัวหลงในรูปโฉมเพียงไร แต่จะไปทำอะไรกับคนพิการได้เล่า

แม้นเรื่องราวที่พ่นออกมาจากปากสาวใช้ในครัวจะมีแต่เรื่องของนาง แต่ยามนี้เจียงเยี่ยนฟางก็ไม่ได้คิดอยากจะแสดงตัวออกไป แล้วลากพวกนางมาลงโทษอย่างที่ควรทำ หากแต่เพียงรอจังหวะเหมาะที่จะจัดการเรื่องที่ตั้งใจแทน ไม่มีเวลามาใส่ใจสาวใช้พวกนี้

ช่วงเวลาเดียวกันก็มีบ่าวชายคนหนึ่งกำลังเดินผ่านนางเข้าไปในครัวพอดี เจียงเยี่ยนฟางจึงขยับตัวไปขวางไว้ก่อน "พี่ชายพอดีข้ามีเรื่องจะรบกวน" เห็นอีกฝ่ายลอบสังเกตนางพลางพยักหน้าให้ นางก็พูดสิ่งที่ต้องการต่อ "เมื่อวานดูเหมือนว่าพระชายาจะทำสุรามงคลตกแตก ข้าจึงมารับสุรามงคลใหม่อีกรอบ เพื่อนำไปมอบให้ท่านอ๋องตามคำสั่งของพระชายา"

"...จะดื่มสุราตอนนี้?" บ่าวชายมีสีหน้างุนงง แต่เพราะไม่คุ้นหน้าสตรีผู้นี้มาก่อน ซ้ำการแต่งตัวก็ไม่เหมือนคนของที่นี่ เขาจึงคิดไปแล้วว่า อีกฝ่ายอาจจะเป็นคนของพระชายาพระนางใหม่ที่ถูกส่งตามมาทีหลังก็เป็นได้ "เจ้ารออยู่ที่นี่ข้าจะไปเอามาให้ เข้ามากินข้าวก่อนเถิด ปกติพวกเราจะกินหลังจากเจ้านายกินเสร็จแล้ว แต่เจ้าคงต้องรีบกลับไป เช่นนั้นเจ้าเอาผักตะกร้านี้เข้าไปในห้องครัวแทนข้า ส่วนข้าจะไปเอาสุรามาให้"

เขารู้ว่าคนในจวนต่างไม่สนใจพระชายาที่เพิ่งแต่งเข้ามาใหม่ เมื่อครู่บรรดาแม่ครัวก็ยังพูดเรื่องของอีกฝ่ายเสียงดังออกมาข้างนอกอยู่เลย แต่บ่าวที่ติดตามพระชายามาไม่ได้มีความผิดด้วย แถมเพิ่งเข้ามาอยู่ใหม่คงไม่รู้ต้องหาอะไรกินได้ที่ไหน เขาเลยโบกมือให้เจียงเยี่ยนฟางเข้าไปในครัว พร้อมยื่นตะกร้าผักให้นาง

"ขอบคุณพี่ชาย รบกวนท่านแล้ว" เจียงเยี่ยนฟางรับตะกร้ามา พลางพยักหน้าแผ่วเบา นิสัยต่างกับเมื่อครู่ที่เพิ่งจะข่มขู่สาวใช้อีกคนมา นางไม่ใช่คนเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ใครทำดีมาก็ดีตอบ อย่างเช่นบ่าวชายคนนี้

พอคนจากไปแล้ว เจียงเยี่ยนฟางก็เดินเข้าไปในห้องครัว เสียงพูดคุยได้หยุดลงไปตั้งแต่เมื่อครู่ยามที่นางตะโกนพูดเรื่องสุราอยู่ด้านนอกแล้ว เวลานี้สายตาของคนในครัวทั้งหมดจึงตกต้องมาที่นางอย่างระแวดระวัง

"ไม่เห็นมีใครบอกว่าตระกูลเจียงส่งคนติดตามมาด้วย" สาวใช้หนึ่งในนั้นกระซิบถามคนข้าง ๆ มองดูการแต่งตัวของสตรีหน้าประตูครัวที่ปิดหน้าปิดตาเหมือนคนที่พวกนางพูดถึงไปเมื่อครู่ ต่างก็คิดว่านี่อาจจะเป็นการแต่งตัวของคนในแถบพื้นที่ที่คุณหนูใหญ่เจียงไปอาศัยอยู่ตั้งแต่วัยเยาว์ จึงไม่เกิดความระแวงสงสัยว่านี่แหละ คือพระชายาพระนางใหม่ที่พวกนางเพิ่งจะนินทากันไป เพราะเมื่อครู่อีกฝ่ายก็ตะโกนเสียเสียงดังลั่นอยู่ข้างนอกว่าตนมาตามรับสั่งของพระชายา

"เจ้ายังไม่รู้ แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไร!" สาวใช้ที่อยู่ข้างกันรีบกัดฟันตอบกลับแบบไม่เปิดปาก ดวงตาก็จดจ้องมองผู้มาเยือนที่ในมือถือตะกร้าผักไว้ ซึ่งนางจำได้ว่าตัวเองเพิ่งจะใช้อาฉู่ไปเอามาให้ แต่อย่างไรก็ปักใจเชื่อไปแล้วว่าคนตรงหน้าไม่ใช่คนในจวนชินอ๋องแน่ ๆ

------

ไรท์ขอโทษสำหรับชื่อตอน แต่มันตลกดีชอบ จ๊ะเอ๋ พวกคนครัว ว่าไงจ๊ะ แต่คนพวกนี้เราทำไรมากไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวเนื้อเรื่องมันยาวไม่ใช่ไร 55555ヽ (´▽) ノ  

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 17.4 นางไหนจะเกรงกลัวผู้ใด

    ยามนี้ผ่านไปนานเกือบสิบเอ็ดปี จดหมายฉบับแรกนอกเหนือจากเงินที่เขาส่งมาให้ ก็คือเรียกข้ากลับไปแต่งงาน แต่ข้าไม่อยากแต่ง ข้ามีคนที่ข้ารัก...คนผู้นั้นเป็นเหมือนดั่งพี่ชายของข้า เป็นเหมือนดั่งสหายของข้า พวกเราเจอกันตั้งแต่ข้าอยู่ที่เมืองหลวง จนข้าจากไปไกลจึงทำได้เพียงเขียนจดหมายกลับไปหาเขา นับแต่นั้นมา ก็มีเขาที่ยังคอยห่วงหาข้าตลอด เราให้สัญญากัน ข้าเองก็รับปากแล้วว่าจะเป็นภรรยาของเขา" เวลามีเรื่องคิดไม่ตก เจียงเยี่ยนฟางมักจะติดนิสัยเดิม โดยชอบหยิบผ้าผูกผมที่ป้าซูทำให้มาจับเล่นอย่างเผลอตัว ในตอนนี้เองก็เช่นกันเสวี่ยหว่านมองตามมือของนางไปก็พบว่าสิ่งที่นางจับอยู่คือผ้าผูกผมรูปดอกไม้ที่มีปักลายเฉพาะ ผ้าผูกผมชิ้นนั้นดูไม่เข้ากับชุดที่เจียงเยี่ยนฟางขอสลับของนางไปใส่แม้แต่น้อย จังหวะต่อมาจึงเงยหน้าสบตาอีกฝ่ายแล้วถาม "...แล้วคนผู้นั้นตอนนี้เขารู้หรือไม่ว่าท่านกำลังจะไปแต่งงาน"เสวี่ยหว่านเป็นหมอยาพิษ การทำงานในจุดนี้ของนางย่อมพบเจอคนตายมาไม่น้อย จิตใจนับว่าด้านชาจนแทบไร้ความรู้สึก ยิ่งไม่สนใจเรื่องความรัก ยิ่งเมื่อได้ฟังก็เกิดสับสน บุรุษผู้นั้นดูแล้วน่าจะไม่ใช่คนธรรมดาที่สามารถเข้าออกจวนขุนนางจ

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 17.3 เรื่องราวของจุดเริ่มต้น

    เรื่องนี้เป็นความลับของนาง แต่ก็ไม่คิดจะปิดบังคนที่ช่วยชีวิตตนเองไว้ อีกทั้งนางก็ทะนงตนว่า สตรีตัวเล็กเช่นคนตรงหน้าไม่มีทางทำอะไรตนเองได้ หรือต่อให้อีกฝ่ายเอาเรื่องนางไปป่าวประกาศบอกผู้อื่นจนนางเดือดร้อน นางก็คิดว่านางสามารถแบกรับไหว"!!!" สองคนในรถม้าต่างตกใจ คนที่จะทำงานด้านนี้ได้มือต้องแปดเปื้อนมาไม่น้อย แต่สตรีตรงหน้าถึงจะไม่ค่อยยิ้ม ใบหน้าเรียบนิ่ง แต่น้ำเสียงกลับน่าฟัง ท่าทางไม่ถึงขั้นอ่อนหวานเหมือนสตรีที่ได้รับการอบรม แต่ท่าทางก็ดูนุ่มนวลไม่หยาบกระด้าง การพูดการจาก็ดูมีมารยาทไม่ทำตัวโผงผาง หากบอกว่าเป็นบุตรสาวตระกูลร่ำรวยพวกนางก็เชื่อ ไหนเลยจะถูกอีกฝ่ายใช้รูปลักษณ์ภายนอกมาตบตาเข้าให้แล้ว"คุณหนูทั้งสองไม่ต้องตกใจไป ผู้ที่มีบุญคุณ เสวี่ยหว่านผู้นี้ ย่อมไม่คิดร้ายด้วย อีกทั้งก็เป็นเพียงผู้ทำยาพิษและยาแก้พิษ ไม่ใช่ผู้ใช้พิษเสียหน่อย" เรื่องหลังนั้น... แน่นอนว่า ย่อมโกหกไปเจ็ดส่วน!อีกสองสามวันต่อมา เสวี่ยหว่านผู้นี้ก็ไม่ยอมจากไปเสียที จนซูเจียวเริ่มทนไม่ไหว ในตอนที่อยู่บนรถม้าก่อนจะลงไปเช่าโรงเตี๊ยมในหมู่บ้านกวนพักผ่อน นางก็เอ่ยปากถามด้วยตนเอง"พี่เสวี่ยหว่าน ท่านคิดจะไปที่ใดกันแน

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 17.2 บุญคุณครั้งเดียว จดจำจนตาย

    "เป็นคน เมื่อครู่ ข้ามั่นใจ!" เจียงเยี่ยนฟางตะโกนบอกไประหว่างทาง ดวงตาจ้องมองมือที่โผล่ขึ้นเหนือน้ำเพียงสองครั้งแล้วจมหายไป แต่ใต้ผืนน้ำที่ไหลแรงก็ยังพอมองเห็นเงาร่างสีม่วงเข้มได้เลือนราง"คน? คนอะไรไปอยู่... ไม่ ๆ ๆ คนที่ไหนจะโดนน้ำพัดขนาดนี้แล้วยังรอด คุณหนู อย่า ไม่!" ซูเจียวเพิ่งจะรู้สึกไปเมื่อครู่เองว่า สายน้ำเส้นนี้นั้นไหลแรงเกินไปจนน่ากลัวไม่อยากเข้าใกล้ และไม่อยากแม้แต่จะข้ามสะพานไม้นั้นอีกรอบอยู่เลย แต่คุณหนูของนางพูดแค่ 'เป็นคน' แล้วก็กระโจนลงน้ำไปได้อย่างไร!ซูเจียววิ่งตามไปหยุดอยู่ตรงจุดที่เจียงเยี่ยนฟางเพิ่งจะกระโดดลงไปเมื่อครู่ "คุณหนู คุณหนู!" นางตะโกนหาอีกฝ่ายพร้อมดวงตาก็กวาดมองไปทั่วผืนน้ำ หัวใจเต้นไม่หยุดด้วยความกลัว ถึงแม้นางจะบอกว่าตนไม่ค่อยชอบเจียงเยี่ยนฟางเพราะรู้สึกว่าตนอยู่ต่ำกว่าเสมอ แต่เมื่อถึงเวลาคับขันแห่งความเป็นความตาย นางกลับรู้สึกเป็นห่วงคนที่โตมาด้วยกันอย่างน่าประหลาดซูเจียวถอดรองเท้าและเสื้อตัวนอกออก หวังกระโดดลงน้ำไปดึงเจียงเยี่ยนฟางขึ้นมา ในระหว่างที่กำลังถอดเสื้อตัวนอกออกอยู่นั้น ก็ไม่หยุดสายตาสอดส่องมองหาคนไปทั่วผืนน้ำแต่ไม่ทันที่นางจะกระโดดลงไป

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 17.1 เรื่องราวเมื่อเดือนก่อน

    บทที่ 17วาสนาได้พานพบผู้มีบุญคุณเพียงชั่วครู่สารทฤดูเริ่มต้นไปได้ครึ่งทางแล้ว ใบไม้รอบด้านเริ่มเปลี่ยนสียามเมื่อออกเดินทางเวลานี้ ถือว่าเป็นผลพลอยได้ที่จะได้ชื่นชมธรรมชาติไปในตัวแต่คนบนรถม้าคันหนึ่งที่กำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงกลับดูเป็นกังวลไม่น้อย"คุณหนู ท่านจะแต่งเข้าจวนอ๋องจริงหรือเจ้าคะ" ซูเจียวนั่งอยู่บนพื้นของรถม้าก็เอ่ยถามสตรีอีกคนที่นั่งอยู่บนเบาะ ที่ผ่านมาตัวนางถูกเลี้ยงดูมากับสตรีตรงหน้า อยู่ด้วยกันในบ้านหลังเล็กที่เมืองลี่เจียง ดุจดั่งเป็นครอบครัวเดียวกันทว่าตั้งแต่เยาว์วัย มารดาของนางชอบบังคับให้นางเรียกอีกฝ่ายว่าคุณหนูอยู่ตลอด คราแรกนางไม่เข้าใจ และทุกครั้งที่ตีตัวเสมอเจียงเยี่ยนฟาง นางก็จะถูกมารดาดุด่าเป็นประจำ ตักเตือนให้นางนอบน้อมกับเจียงเยี่ยนฟางให้มากหน่อย นางก็ต้องทำโดยไม่สามารถอิดออดได้ ทั้งที่เจียงเยี่ยนฟางก็ถูกมารดาใช้งานหนักพอ ๆ กัน ไม่เคยปล่อยปละละเลยให้อีกฝ่ายทำเพียงแค่นอนและกินเหมือนคุณหนูจริง ๆ ต่างต้องทำงานทุกอย่างให้เป็นกระทั่งไม่กี่วันก่อนคุณหนูของนางได้รับจดหมายจากบิดาที่ทอดทิ้งตัวเองไปนาน เรียกตัวกลับเมืองหลวงเพื่อแต่งงานเข้าจวนชินอ๋อง!ชินอ๋อง

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 16.3 + บทที่ 16.4 มีผู้บุกรุก+ผู้เกรียงไกรก็มีวันล้มเป็น

    เจียงเยี่ยนฟางกลับมายังร้านน้ำชาอีกครั้งพร้อมถุงซาลาเปาในมือ คนที่รอนางอยู่ก็ได้ย้ายตัวเองไปบนรถม้าอยู่ก่อนแล้ว พอนางมาถึง บรรยากาศก็ผิดแผกไปอย่างเห็นได้ชัด เซียวลี่หยางไม่พูดไม่จาอันใดแม้ครึ่งคำแต่...ไม่พูดไม่จาก็แล้วไปเถิด นางอาจมาช้าทำให้เขารอนานจนเกิดไม่พอใจขึ้นมา เรื่องนั้นก็พอเข้าใจได้ ทว่าแววตารังเกียจที่เหมือนคราแรกพานพบกันในห้องหอนั้น กลับมาปรากฏบนสายตาเขาอีกครั้งนี่สิ นางถึงได้รู้สึกแปลกใจขึ้นมาคนผู้นี้เช้าเป็นอย่าง ดวงตะวันคล้อยบ่ายก็เป็นอีกอย่าง นางคาดเดาเขาไม่ได้เลยยามเมื่อเดินทางกลับมาถึงจวนแล้ว คนในรถม้าที่นั่งมากับนางนานสองนานก็ไม่รอให้นางออกไปก่อน เขารีบเรียกหงเปามาพาตัวเองเข็นรถลงไปทันทีที่รถม้าหยุดลง ประหนึ่งว่าไม่อยากใช้ลมหายใจในรถม้าร่วมกับนางนานกว่านี้ จึงทิ้งนางไว้เบื้องหลังไม่ใส่ใจ"เมื่อเช้ายังไปด้วยกันดี ๆ อยู่เลย ยามนี้ท่านอ๋องเหมือนจะกำลังไม่พอใจอยู่..." สาวใช้ที่อยู่ไม่ไกลก็พากันซุบซิบนินทา คิดว่าระยะขนาดนี้พระชายาเจียงน่าจะไม่ได้ยิน"แปลกอันใดกัน ที่ผ่านมาท่านอ๋องกับพระชายากู่ที่มักตัวติดกันตลอด แต่ท่านอ๋องก็นิ่งสงบปานท่อนไม้ขนาดนั้น ดูอย่างไรก็ไม่เหม

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 16.2 ช่างน่ารังเกียจเกินไปแล้ว!

    "เร็วหน่อยก็ดี แล้วเร็วที่สุดของเถ้าแก่ราวกี่วัน""สองชิ้นก็เจ็ดวัน ข้าจะหาช่างฝีมือสองคนทำก็แล้วกัน จะได้รอไม่นานเกินนี้""เงินในถุงพอค่ามัดจำหรือไม่" เจียงเยี่ยนฟางหันมองถุงเงินที่หายไปอยู่ในมือเถ้าแก่ตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้"พอ ๆ ๆ ๆ แม่นาง...อยากเน้นส่วนไหนเป็นพิเศษ แจ้งมาได้เลย" เถ้าแก่พอได้จับถุงเงินแล้วก็อารมณ์ดีขึ้นอีกห้าส่วน ดวงตาสะท้อนไปด้วยเงินทองอยู่ภายใน"เถ้าแก่จัดการได้เลย อีกเจ็ดวันข้าจะมารับ" เจียงเยี่ยนฟางกล่าวเสร็จก็เตรียมจากไป"แม่นางเดินทางปลอดภัย" เถ้าแก่ร้านมีท่าทีกระตือรือร้นกว่าตอนแรกที่เจียงเยี่ยนฟางเข้ามามากนัก ถึงขั้นเดินออกมาส่งด้วยตัวเองเจียงเยี่ยนฟางพอออกมาจากร้านเครื่องประดับแล้วก็ยังคงแวะไปอีกหลายแห่งเพื่อสั่งของที่นางอยากได้ กระทั่งมาหยุดยืนอยู่หน้าร้านขายเครื่องประดับแผงลอยข้างทางร้านหนึ่ง เป็นร้านเล็ก ๆ ที่เน้นไปทางเชือกผูกผมกับปิ่นที่ทำมาจากไม้ หากแต่สิ่งที่สะดุดตานางมากที่สุดไม่ใช่ผ้าไหมซึ่งถูกทออย่างประณีต แต่เป็นลายปักบนผ้าผูกผมอันแสนคุ้นตานั่นต่างหาก"คุณหนู สนใจผ้าผูกผมสักชิ้นหรือไม่ ลองดูก่อนได้ ไม่เสียหายอะไร"เจียงเยี่ยนฟางเงยหน้าขึ้นสบตาแม่ค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status