Home / รักโบราณ / สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ / บทที่ 4.3 คนรักของนาง หน้าตาดีไม่ใช่เล่น

Share

บทที่ 4.3 คนรักของนาง หน้าตาดีไม่ใช่เล่น

last update Last Updated: 2025-06-04 09:34:59

ดังเสียจนเจียงเยี่ยนฟางยังตกใจไปด้วย นางกำลังสนุกอยู่เลย อยากรู้ว่าใครจะวางเงินเดิมพันมากที่สุด และพวกเขาจะคาดเดาว่านางจะอยู่ได้นานเท่าไรกันบ้าง ส่วนเวลาในใจของนางนั้น ย่อมไม่เกินสองเดือนอย่างแน่นอน!

"หลีหมิ่น เจ้าเป็นอะไรของเจ้ากัน!" ห้องด้านข้างเริ่มโวยวายขึ้นมาอีกครั้ง ตามมาด้วยเสียงลากเก้าอี้เหมือนคนกำลังจะลุกขึ้น

"นี่! หลีหมิ่น!"

เจียงเยี่ยนฟางที่นั่งสงบนิ่งมาตั้งนานถึงกลับชะงักค้าง มือที่ถือจอกชาจะยกดื่มพลันรีบวางลงที่เดิม ก่อนหยิบจดหมายในสาบเสื้อออกมาดู หน้าซองจดหมายเขียนไว้ว่า 'พี่หลีหมิ่น' นิ้วเรียวจิกซองจดหมายแน่น ตัดสินใจลุกขึ้นทันที

ค่าห้องในครั้งนี้ ไม่คุ้มค่าเท่าไรแล้ว!

เมื่อเดินพ้นประตูห้องออกมานางยังคงได้ยินเสียงบ่นของคนในห้องตามมาไม่หยุด ส่วนด้านหน้าของนางเวลานี้ก็คือบุรุษร่างสูงในชุดสีน้ำเงินเข้มที่สะท้อนแสงไฟในหอน้ำชาจนมันเลื่อม ยิ่งยามที่อีกฝ่ายเร่งรีบเดินด้วยความเร็วเพราะไม่พอใจจะรีบจากไป ก็ทำให้เนื้อผ้าขยับไปมาอย่างพลิ้วไหว พาให้คนดูสูงส่ง เพียงแค่แผ่นหลังก็พานให้ผู้คนหลงใหลได้แล้ว

เวลาเดียวกันนั้น เจียงเยี่ยนฟางที่เคยนึกภูมิใจว่าตนเองขายาว เดินไวกว่าสตรีนางอื่น ก็รู้สึกถึงความพ่ายแพ้ขึ้นมา เพราะต่อให้นางจะสับเท้าอย่างเร่งรีบเพียงไร ก็แทบจะเดินตามบุรุษตัวโตที่ดูราวกับลอยหนีไปได้ไม่ทันเสียที และยิ่งพยายามตามให้ทันเท่าไร ก็ทำเอานางเกือบจะขาพันกันล้มหน้าคะมำอยู่รอมร่อ แต่จะให้นางวิ่งตามก็กลัวจะเป็นจุดเด่นจนเกินไป สุดท้ายพอพ้นนอกร้านมาแล้ว และพบว่าเส้นทางของประตูด้านหลังที่บุรุษตัวโตเดินออกมานั้นร้างไร้ผู้คน เจียงเยี่ยนฟางถึงได้ตัดสินใจออกเท้าวิ่งตามให้ทัน

"พี่หลีหมิ่น" พลางตะโกนเรียกอีกฝ่ายออกไป

"..." กั่วหลีหมิ่นชะงักเท้าลงในทันที หันกลับไปมองตามเสียงเรียก ใบหน้าที่ขมวดมุ่นด้วยความโมโหพลันคลายออกทีละน้อย

เมื่อได้เห็นหน้าอีกฝ่ายอย่างชัดเจน เจียงเยี่ยนฟางก็พึมพำกับตนเองว่า "เจียงเยี่ยนฟางหนอเจียงเยี่ยนฟาง บุรุษข้างกายเจ้าแต่ละคนหน้าตามิสามัญจริง ๆ" ฝ่ายตรงข้ามเองก็กำลังมองนางตั้งแต่หัวจรดเท้า ใบหน้าที่ตรึงเครียดกลับแปรเปลี่ยนเป็นสงสัยแทน "พี่หลีหมิ่น?" นางเองก็ไม่มั่นใจ จึงเอ่ยเรียกเขาอีกรอบ แน่นอนว่าคนในห้องข้าง ๆ ก็เรียกอีกฝ่ายเช่นนั้น แต่ที่นางไม่มั่นใจก็คือ เขาใช่คนเดียวกันกับที่นางต้องการตามหาหรือไม่

เจียงเยี่ยนฟางจึงหยิบซองจดหมายคนละฉบับกับก่อนหน้านี้ออกมา ซองจดหมายฉบับนี้เก่าจนเป็นสีเหลือง หน้าซองคือชื่อของ 'เยี่ยนฟางตัวน้อย' เป็นตัวบรรจงอย่างสวยงาม บ่งบอกว่าผู้เขียนฝึกฝนและร่ำเรียนมามากเพียงใด มีฐานะสูงส่งขนาดไหน

นางขยับเท้าเดินไปอีกสามก้าว ก่อนจะยื่นจดหมายให้เขาดู ครั้นเมื่อบุรุษผู้นั้นกวาดตาลงมองจดหมายในมือ ดวงตาที่สงสัยก็เริ่มเปลี่ยนเป็นเบิกโตด้วยความตกใจแทน

"เยี่ยนฟางตัวน้อย?"

"เป็นข้า" เจียงเยี่ยนฟางพยายามยกยิ้มจนมุมปากกระตุก จู่ ๆ ก็รู้สึกผิดขึ้นมา ในดวงตาที่ยังคงกระจ่างจึงดูไร้แววไปชั่วครู่

"เจ้า เจ้ามาช้าเหลือเกิน" กั่วหลีหมิ่นสาวเท้าเข้าไปหานาง เพียงก้าวทีเดียวก็ถึงตัวสตรีตรงหน้า หมายมั่นจะเข้าไปกอด ทว่ากลับถูกอีกฝ่ายถอยหลบ "จริงด้วย... เจ้าไม่ใช่เด็กแล้ว" พลันนั้นสีหน้าก็เศร้าหมองลง

"..." เจียงเยี่ยนฟางก้มหน้าลงต่ำ ส่ายหน้าไปมาแผ่วเบา ท่าทางเศร้าสร้อยไม่ต่างกัน "ท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้าเป็นสตรีที่แต่งงานแล้วต่างหาก" น้ำเสียงเองก็แฝงไปด้วยความเสียใจระคนเสียดาย

"เยี่ยนฟางตัวน้อย ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ได้เต็มใจแต่งเข้าจวนชินอ๋อง" กั่วหลีหมิ่นจ้องมองมืองดงามของนาง ใจอยากจับขึ้นมากุมไว้ แต่ก็ทำได้เพียงจ้องมองอย่างเดียว

"แต่เป็นข้าที่ผิดสัญญา" เจียงเยี่ยนฟางหยิบจดหมายฉบับก่อนหน้านี้ที่หน้าซองเขียนชื่อของอีกฝ่ายออกมา แล้วยื่นให้เขาไป

กั่วหลีหมิ่นรับมาถือไว้ก็รู้สึกว่ามันไม่เหมือนที่เคยได้รับมาตลอดหลายปี พอก้มมองดูซองจดหมายยับยู่ยี่ในมือที่คล้ายมีอะไรใส่มาด้านในด้วย เขารีบเปิดมันออกดูก็พบว่าคือจี้หยกที่เขาเคยมอบให้อีกฝ่ายใช้เป็นสัญญาระหว่างกัน แต่มันกลับแตกไม่เหลือชิ้นดี "เจ้าหมายความว่าอย่างไร?"

"ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทำแตก แต่ระหว่างทางเกิดเรื่องขึ้นมากมาย..."

"ข้าไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น เหตุใดถึงส่งคืนให้ข้า" กั่วหลีหมิ่นขยับเข้าไปใกล้อีกนิด แต่สตรีที่เขาโต้ตอบจดหมายหากันมานานหลายปีกลับถอยหนีเขาราวกับเจอแมลงที่หวาดกลัว ทำเอาความรู้สึกไม่ดีผสมผสานเข้ามาในจิตใจ

"พี่หลีหมิ่น อดีตก็คืออดีต เวลานี้ข้าแต่งเข้าจวนชินอ๋องแล้ว เรื่องราวที่ผ่านมา ท่านลืมมันไปเสียเถิด"

"แต่เยี่ยนฟางตัวน้อย..."

"เรียกข้าว่าเยี่ยนฟางเฉย ๆ จะเป็นสิ่งที่ข้านึกขอบคุณท่านอย่างมาก"

"เยี่ยนฟาง เจ้าก็รู้ว่าชินอ๋องไม่นานก็จะหย่ากับเจ้า รอหลังจากนั้นข้าก็จะไป..."

"แล้วอย่างไร! ถึงเวลานั้นแล้วอย่างไร สตรีที่หย่าร้างสุดท้ายก็ไม่มีใครต้องการ ท่านยอมรับได้ แล้วบิดาของท่านจะยินยอมหรือ ยิ่งตัวข้าเป็นสตรีที่ถูกตบแต่งให้คนในราชวงศ์ยิ่งแล้วใหญ่ ตระกูล กั่วจะแบกรับความกดดันไหวได้อย่างไร" แถมบางทีหากเกิดเรื่องเช่นนี้จริง นางอาจถูกสั่งเก็บเพราะไร้ประโยชน์แล้วก็เป็นได้ ดูอย่างที่คนพิการผู้นั้นจงเกลียดจงชังนางตั้งแต่ยังไม่รู้จักกันเถิด ถึงเวลาที่นางหลุดพ้นจากใต้ปีกเขาเมื่อไร ตัวนางจะเป็นอย่างไรก็ไม่อาจคาดเดาได้

"เยี่ยนฟางอย่าพูดเช่นนั้น ข้าไงที่ต้องการเจ้า ข้าจะคุยกับท่านพ่อให้ดี ขอเพียงเจ้ารอข้าก่อน ข้าจะรีบจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย จะไปรับเจ้ากลับมา!" กั่วหลีหมิ่นพูดรวดเร็วยิ่งนัก ราวกับคิดประโยคนี้มาแล้วหลายตลบ จนในวันนี้ก็ได้บอกมันออกมาต่อหน้าสตรีที่ตนคนึงหามาหลายปี

"พี่หลีหมิ่น... เราเลิกพบกันเถิด ทำเช่นนี้มีแต่ท่านที่ลำบาก ต่อแต่นี้ไป ข้าจะเดินด้วยขาของตนเอง" เจียงเยี่ยนฟางถอยหลังอีกสองก้าว ยืนขาชิดกัน ผสานมือก้มตัวโน้มลงไปด้านหน้าครึ่งตัว เป็นการจากลาที่นับว่าตัดขาดอย่างแท้จริง

เมื่อนางยืดตัวขึ้นเต็มความสูง ก็ได้สบตาเข้ากับดวงตาคู่สวยที่ดูเจ็บปวดจนยากจะบรรยายออกมาของอีกฝ่าย หากแต่ก็หาได้อยู่ในสิ่งที่นางต้องสนใจไม่ เจียงเยี่ยนฟางร่ำลาเป็นครั้งสุดท้ายเสร็จแล้วก็หมุนตัวจากไป

สิ่งที่ควรทำก็ทำแล้ว ไม่ติดค้างกันอีก

"เยี่ยนฟาง! เยี่ยนฟาง!"

นางยังคงได้ยินเสียงตะโกนเรียกตามหลังมาอีกหลายครา แต่ใบหน้าของนางที่ฉายชัดถึงความกังวลในเมื่อครู่ได้จางหายไปแล้ว แววตากลับมาเฉยชาดั่งเดิม

'เจียงเยี่ยนฟางรอมาเนิ่นนานแล้ว เป็นเจ้าที่ช้าจนเกินไป เวลานี้ยังมาร่ำร้องต้องการสิ่งใดอีก'

เส้นทางด้านหน้าช่างว่างเปล่า พานให้นึกเวทนาโชคชะตาของผู้คน ไม่มีใครสมดั่งที่ปรารถนาไปเสียหมด ไม่เว้นแม้แต่ชินอ๋องเทพสงครามผู้เกรียงไกร เคยทรงม้าออกรบอย่างองอาจ เวลานี้กลับทำได้เพียงนั่งอยู่บนรถเข็น เป็นตัวตลกให้ผู้คนเอ่ยถึง ช่างน่าขันนัก ผู้คนบ้างเกรงกลัวเขา บ้างเอาเขามาพูดสนุกปาก คนผู้หนึ่งทำเพื่อใครมากมายแล้วอย่างไร สุดท้ายไม่นานก็กลายเป็นเพียงเรื่องเล่าขานที่นานนับวันไป ผู้คนก็จะหลงลืมอยู่ดี

ตะวันใกล้ตกดินแล้ว นภาเริ่มอาบสีส้มเจือจาง ไล่สีฟ้าครามให้เลือนรางไปทีละส่วน

เจียงเยี่ยนฟางที่เดินเล่นไปทั่วตลาดหลังจากออกมาจากร้านน้ำชาได้สักพักแล้ว ก็คิดที่จะกลับจวนพอดี แต่ระหว่างทางก็พบว่ามีคนมาดักรอนางอยู่ก่อนแล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ (6.3).3 ชีวิตไร้ค่าของเจ้า ผู้ใดจะอยากได้!

    'ข้าไม่มีเงินพอจะช่วยเจ้าได้' สินเดิมของเจียงเยี่ยนฟางก็ถูกเซียวลี่หยางยึดไปยังไม่ยอมคืน แต่อย่างไรเสีย แรกเริ่มเดิมทีของมีค่าเหล่านั้นก็ไม่ใช่ของนางอยู่แล้ว นางจึงไม่ต้องการแตะต้องแม้แต่น้อย เพียงแค่ต้องการนำกลับคืนมาให้ได้เท่านั้น ถึงมันไม่ใช่ของนางก็จริง ทว่าก็หาใช่ของเขาเช่นกัน'...' เจินเจินพยักหน้าเข้าใจ ไม่เรียกร้องสิ่งใดอีกหากแต่เมื่อกลับมาถึงเรือน คุณหนูใหญ่เจียงกลับถามนามของน้องชายนาง ก่อนจะเขียนจดหมายให้สองฉบับ ฉบับหนึ่งส่งให้นางไปมอบให้คุณชายกั่วที่มายืนรอเจอคุณหนูใหญ่เจียงอยู่ที่ประตูหน้าของจวนมาสามวันติดแล้ว กับอีกฉบับมอบให้นางไปส่งให้ใครบางคน'หากเจ้าจะออกไปข้างนอกก็ต้องทำเช่นนี้ ฉบับนี้เป็นจดหมายที่ข้าส่งให้กั่วหลีหมิ่น นำไปส่งที่จวนของเขา เวลานี้เขาคงกลับจวนไปแล้ว' เจียงเยี่ยนฟางยื่นจดหมายให้ดูว่าอันไหนเป็นอันไหน ซึ่งตัวซองจดหมายของกั่วหลีหมิ่นเป็นซองจดหมายธรรมดาที่ใช้ทั่วไป ต่างแค่ไม่ได้ปิดผนึกไว้ส่วนอีกอันไม่ได้ใส่ในซอง เป็นเพียงกระดาษแผ่นเล็ก ๆ เท่าสองนิ้วมือ ดูคล้ายจดหมายลับ 'เจ้าต้องไปรายงานท่านอ๋องก่อนเพื่อไม่ให้โดนจับได้ บอกว่าข้าให้ไปส่งจดหมายให้คุณชายรองตระ

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ (6.3).2 ถูกเผยตัวแล้ว

    ย้อนไปสองวันหลังจากที่เจินเจินมาอยู่กับเจียงเยี่ยนฟางพอเจียงเยี่ยนฟางได้รู้ว่าสามารถออกไปข้างนอกได้ ก็มักจะพาเจินเจินไปนั่งที่ร้านน้ำชาใกล้ ๆ กับตลาด เฝ้ามองดูผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาจากบนชั้นสองของร้าน พลางใช้ความคิดไปอยู่นานสองนาน แต่ช่วงจังหวะหนึ่งก็หันกลับมามองสาวใช้ของตน 'เจินเจิน''เจ้าค่ะคุณหนู' เจินเจินที่ยืนอยู่ข้างกายก็ขานรับออกไป นางจำต้องเรียกอีกฝ่ายต่างจากปกติ เพราะท่านอ๋องบัญชาลงมาว่า เมื่ออยู่ภายนอกจวนไม่อาจให้ใครรู้สถานะจริงของคุณหนูใหญ่เจียงได้ เพื่อกันเรื่องวุ่นวายในภายหลัง'เจ้าจะทำงานให้ใครข้าไม่สน แต่ถ้าเจ้าทำให้ข้าเดือดร้อนเมื่อไหร่ ข้าไม่ไว้ชีวิตเจ้าแน่' นิ้วมือเรียวยาวกรีดกรายยกจอกน้ำชาขึ้นมาจรดริมฝีปาก อีกมือก็ยกผ้าปิดหน้าขึ้นเปิดออก็ย ท่าทางและกิริยางดงามจนพาให้ผู้มองหลงใหลแต่ผู้มองคนนั้นยามนี้กลับใจหล่นไปอยู่ตาตุ่มแทนที่จะมัวมาหลงใหลในนิ้วมืองดงามของผู้อื่น!ดวงตาของเจินเจินยังคงเบิกโต ในหัวทบทวนว่านางพลาดไปจนถูกจับได้ตั้งแต่ตอนไหนกัน!แต่คิดหัวแทบแตกก็จำไม่ได้ จากที่ยืนอยู่จึงทรุดลงนั่งคุกเข่า เอาหัวโขกพื้นเสียงดังลั่น 'พระชายา ได้โปรดไว้ชีวิตด้วย!!' เวลา

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ (6.3).1 ไหนเลยจะให้ผ่านไปได้โดยง่าย

    บทที่ 6.3คราสามไหนเลยจะทนอีก!"ช้าก่อน เมื่อวานข้าเองก็หากำไลหยกไม่เจอ บางทีอาจถูกขโมยไปเช่นเดียวกัน และหัวขโมยก็อาจจะเป็นคนเดียวกันก็ได้ มิสู้ให้ข้าช่วยพี่หญิงหาอีกแรง จะได้หากำไลของข้าและหาปิ่นของท่านไปพร้อมกันด้วย เป็นอย่างไร" เจียงเยี่ยนฟางไม่พูดเปล่า ยกมือขึ้นแล้วปัดลงกลางอากาศเพื่อสั่งให้เจินเจินไปค้นทุกคนที่กำลังจะเข้าไปในเรือนของตน"เจ้า..." จูหลิงหยุดคำพูดไว้ได้ทัน ลืมไปว่าเวลานี้ท่านอ๋องก็อยู่ด้วย "พระชายาเจียงกำลังทำอะไรเพคะ" ปากพูดกับเจียงเยี่ยนฟางแต่สายตากับเหลือบมองไปทางเจินเจินที่เดินผ่านหน้าตนเองไปแทน"พระชายาของเจ้าอยากเข้ามาค้นของในเรือนข้า หากเจอก็ได้ของคืนไป หากไม่เจอก็คือไม่เจอ แต่กำไลหยกของข้าเล่า ถ้าพวกเขาเข้ามาแล้วก็กลับออกไป ข้าจะจับมือใครดมได้อีก บางทีปิ่นที่หายไปก็อาจจะเป็นคนของพวกเจ้าที่เอาไปก็ได้นี่น่า เช่นนั้นก็ค้นตัวพวกเจ้าเสียก่อนเข้าไปให้เสร็จเถิดเพราะเมื่อวานตอนที่ข้ากำลังลองกำไลข้อมือในคลังเก็บของ จำได้ว่าข้ายังสวมกำไลหยกวงที่หายไปไว้อยู่เลย มันเป็นของที่มารดามอบให้ ข้าจึงหวงมาก ไม่เคยถอดออกเลยสักครั้ง แต่เพราะตอนนั้นกลัวกำไลที่กำลังจะลองจะกระทบกัน

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ (6.2).7 เซียวลี่หยางจะไปสำคัญอะไรอีก

    "คนเช่นเจ้า ไม่คู่ควรกับจวนของข้า" น้ำเสียงเย็นชานี้ จะว่าเบาก็เบา หากแต่ทุกผู้ทุกคนที่ยืนล้อมวงอยู่ในตอนนี้กลับได้ยินกันอย่างชัดเจนสาวใช้ของกู่เยว่ชิงต่างพากันมองหน้ากันไปมา คล้ายบอกว่าเจ้านายตนเองอย่างไรก็ต้องชนะ เรื่องในวันนี้ก็คงจะเงียบไป พวกนางก็ไม่ต้องเดือดร้อนแล้ว"..." กู่เยว่ชิงที่แสร้งตีหน้าน้อยใจยกผ้าเช็ดหน้ามาปิดปากอยู่ก็แอบซ่อนรอยยิ้มน้อย ๆ ไว้อย่างพึงพอใจเช่นกันเวลานี้แม้นคนถูกขู่หย่าจะก้มหน้าลงเหมือนเสียใจ แต่ใครจะไปรู้ความจริงที่นางปกปิดไว้ ซ้ำนางยังสวมผ้าปิดหน้าตลอดเวลา และก่อนที่เจียงเยี่ยนฟางจะเอ่ยออกไป นางยังพยายามบีบเสียงให้สั่นเครืออีกนิดเพื่อให้สมจริงขึ้นด้วย "...เช่นนั้นก็ให้คนของท่านอ๋องเข้าไปค้นเถิดเพคะ"เหตุการณ์ครั้งก่อนเรื่องยาพิษ ดูอย่างไรก็รู้ว่าเซียวลี่หยางพยายามทำให้นางเป็นคนผิด ไม่ว่านางจะเป็นคนวางยาจริงหรือไม่ แต่ปลายทางก็ถูกกำหนดให้นางเป็นผู้ผิดตั้งแต่แรกแล้ว ในไม่ช้าเขาก็ต้องกำจัดนางออกไปอยู่ดีและด้วยรู้แต่แรกว่าชินอ๋องผู้นี้ไม่เคยไว้ใจนาง อีกฝ่ายคงส่งคนมาเฝ้าเรือนนางไว้ตลอดอยู่แล้ว คนมาเฝ้าย่อมต้องเห็นแน่ว่ามีใครมาที่เรือนของนางในช่วงเวลาที่นาง

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ (6.2).6 ยื่นหนังสือหย่าให้เจ้าแล้ว

    "ที่เจินเจินตบเจ้า หาใช่เพราะเรื่องที่เจ้าอยากพาคนเข้ามาค้นของโดยไม่ขออนุญาตจากข้า แต่ตบสั่งสอนเพื่อให้เจ้ารู้ว่าเจ้าพูดโดยไม่ทันใช้หัวคิดต่างหาก จวนอ๋องมีกฎที่ต้องปฏิบัติ แต่คนในจวนที่อยู่มานานกลับหละหลวมเสียเอง ใช้ได้เสียที่ไหน" พูดมาถึงตรงนี้เจียงเยี่ยนฟางก็หาเรื่องให้คนอื่นเดือดร้อนเล่น โดยการหันมองสาวใช้ของกู่เยว่ชิงคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ตนที่สุด และเอ่ยถามว่า "เจ้าว่าสมควรแล้วหรือไม่ที่นางถูกตบ"โดยไม่ต้องใช้เวลาคิดนาน สาวใช้ก็ตอบเสียงสั่นว่า "เพ... เพคะ สมควรแล้วเพคะ" แม้นจะถูกพระชายากู่หันมองหน้าในทันที แต่นางก็ทำเพียงหลบสายตาไป ไม่ยอมกลับคำ ก็จะให้นางตอบเช่นไรได้อีก ทางหนึ่งคือพระชายากู่ที่เป็นเจ้านายของตน และเป็นผู้ที่ชินอ๋องโปรดปรานที่สุด หากแต่อีกฝั่งก็มีบิดาเป็นถึงเสนาบดีฝ่ายซ้ายคอยหนุนหลัง ซ้ำยังยกฮ่องเต้ขึ้นมาขู่ แน่นอนว่าน้ำหนักต้องเอนเอียงไปทางฝั่งหลังมากกว่าอยู่แล้ว หากยามนี้นางตอบว่า 'ไม่' ภายหลังก็ต้องถูกจับไปสอบสวน ใครจะทนความเจ็บปวดได้ไหว อย่างไรก็ต้องเล่าเหตุการณ์เมื่อครู่ออกไปอยู่ดี มิสู้โดนพระชายากู่ทำโทษทีหลังจะยังดีเสียกว่า อย่างน้อยก็ยังรักษาชีวิตไว้ได้"เจ้าล่

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ (6.2).5 ไม่ต้องรีบร้อน รอไส้เดือนมันดิ้นเมื่อถูกขี้เถ้า

    เป็นเจินเจินที่เดินมาจากด้านหลัง แทรกตัวผ่านเจียงเยี่ยนฟางออกมา แล้วลงมือตบหน้าจูหลิงเพื่อสั่งสอนอีกฝ่ายแทนเจ้านายตนเอง!"จูหลิง เจ้าเป็นเพียงสาวรับใช้ กล้าเสียมารยาทก็แล้วไป แต่ยังหมิ่นเบื้องสูงไม่เลิก เป็นข้าที่ตบสั่งสอนแทนการถูกตัดหัวเสียบประจานของเจ้า ก็ควรขอบคุณแล้ว!" เจินเจินกางแขนกันเจ้านายตนเองไว้ ใครหน้าไหนจะผ่านเข้าไปก็ต้องสังหารนางให้ตายก่อน แล้วค่อยเหยียบศพนางก้าวเข้าไปในเรือน!"..." กู่เยว่ชิงได้ฟังก็สูดหายใจเข้าลึก เกิดความกลัวขึ้นมาในใจ รีบเข้าไปดึงสาวใช้ของตนเองกลับมา พลางเงยหน้ามองเจียงเยี่ยนฟางอย่างไม่อยากเชื่อสายตา ที่ผ่านมาสตรีผู้นี้ต่างอยู่อย่างสงบเสงี่ยมไม่เรียกร้องสิ่งใด ท่าทางที่เจอแต่ละครั้งก็อ่อนหวานระคนขี้กลัว ดั่งนกน้อยที่ตกจากรังเจอเข้ากับฝูงงู แม้นางจะตัวสูงแต่กลับดูบอบบางอยู่ตลอดเวลา ในตอนที่ท่านอ๋องไล่นางมาอยู่เรือนด้านหลัง นางก็มาอยู่โดยไม่ปริปากบ่นแม้ครึ่งคำ วันนั้นพอถูกใช้ให้ไปต้มน้ำแกงไม่ต่างจากสาวใช้คนหนึ่ง ก็ยังยินยอมทำตามอย่างว่าง่ายอยู่เลยพวกคนใช้ในจวนเองก็ต่างพูดกันให้ทั่วว่า คุณหนูใหญ่เจียงผู้นี้คงรู้ว่าตนไม่มีอำนาจเพียงไร ถึงได้อยู่อย่างเจีย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status