ホーム / รักโบราณ / สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ / บทที่ 4.3 คนรักของนาง หน้าตาดีไม่ใช่เล่น

共有

บทที่ 4.3 คนรักของนาง หน้าตาดีไม่ใช่เล่น

last update 最終更新日: 2025-06-04 09:34:59

ดังเสียจนเจียงเยี่ยนฟางยังตกใจไปด้วย นางกำลังสนุกอยู่เลย อยากรู้ว่าใครจะวางเงินเดิมพันมากที่สุด และพวกเขาจะคาดเดาว่านางจะอยู่ได้นานเท่าไรกันบ้าง ส่วนเวลาในใจของนางนั้น ย่อมไม่เกินสองเดือนอย่างแน่นอน!

"หลีหมิ่น เจ้าเป็นอะไรของเจ้ากัน!" ห้องด้านข้างเริ่มโวยวายขึ้นมาอีกครั้ง ตามมาด้วยเสียงลากเก้าอี้เหมือนคนกำลังจะลุกขึ้น

"นี่! หลีหมิ่น!"

เจียงเยี่ยนฟางที่นั่งสงบนิ่งมาตั้งนานถึงกลับชะงักค้าง มือที่ถือจอกชาจะยกดื่มพลันรีบวางลงที่เดิม ก่อนหยิบจดหมายในสาบเสื้อออกมาดู หน้าซองจดหมายเขียนไว้ว่า 'พี่หลีหมิ่น' นิ้วเรียวจิกซองจดหมายแน่น ตัดสินใจลุกขึ้นทันที

ค่าห้องในครั้งนี้ ไม่คุ้มค่าเท่าไรแล้ว!

เมื่อเดินพ้นประตูห้องออกมานางยังคงได้ยินเสียงบ่นของคนในห้องตามมาไม่หยุด ส่วนด้านหน้าของนางเวลานี้ก็คือบุรุษร่างสูงในชุดสีน้ำเงินเข้มที่สะท้อนแสงไฟในหอน้ำชาจนมันเลื่อม ยิ่งยามที่อีกฝ่ายเร่งรีบเดินด้วยความเร็วเพราะไม่พอใจจะรีบจากไป ก็ทำให้เนื้อผ้าขยับไปมาอย่างพลิ้วไหว พาให้คนดูสูงส่ง เพียงแค่แผ่นหลังก็พานให้ผู้คนหลงใหลได้แล้ว

เวลาเดียวกันนั้น เจียงเยี่ยนฟางที่เคยนึกภูมิใจว่าตนเองขายาว เดินไวกว่าสตรีนางอื่น ก็รู้สึกถึงความพ่ายแพ้ขึ้นมา เพราะต่อให้นางจะสับเท้าอย่างเร่งรีบเพียงไร ก็แทบจะเดินตามบุรุษตัวโตที่ดูราวกับลอยหนีไปได้ไม่ทันเสียที และยิ่งพยายามตามให้ทันเท่าไร ก็ทำเอานางเกือบจะขาพันกันล้มหน้าคะมำอยู่รอมร่อ แต่จะให้นางวิ่งตามก็กลัวจะเป็นจุดเด่นจนเกินไป สุดท้ายพอพ้นนอกร้านมาแล้ว และพบว่าเส้นทางของประตูด้านหลังที่บุรุษตัวโตเดินออกมานั้นร้างไร้ผู้คน เจียงเยี่ยนฟางถึงได้ตัดสินใจออกเท้าวิ่งตามให้ทัน

"พี่หลีหมิ่น" พลางตะโกนเรียกอีกฝ่ายออกไป

"..." กั่วหลีหมิ่นชะงักเท้าลงในทันที หันกลับไปมองตามเสียงเรียก ใบหน้าที่ขมวดมุ่นด้วยความโมโหพลันคลายออกทีละน้อย

เมื่อได้เห็นหน้าอีกฝ่ายอย่างชัดเจน เจียงเยี่ยนฟางก็พึมพำกับตนเองว่า "เจียงเยี่ยนฟางหนอเจียงเยี่ยนฟาง บุรุษข้างกายเจ้าแต่ละคนหน้าตามิสามัญจริง ๆ" ฝ่ายตรงข้ามเองก็กำลังมองนางตั้งแต่หัวจรดเท้า ใบหน้าที่ตรึงเครียดกลับแปรเปลี่ยนเป็นสงสัยแทน "พี่หลีหมิ่น?" นางเองก็ไม่มั่นใจ จึงเอ่ยเรียกเขาอีกรอบ แน่นอนว่าคนในห้องข้าง ๆ ก็เรียกอีกฝ่ายเช่นนั้น แต่ที่นางไม่มั่นใจก็คือ เขาใช่คนเดียวกันกับที่นางต้องการตามหาหรือไม่

เจียงเยี่ยนฟางจึงหยิบซองจดหมายคนละฉบับกับก่อนหน้านี้ออกมา ซองจดหมายฉบับนี้เก่าจนเป็นสีเหลือง หน้าซองคือชื่อของ 'เยี่ยนฟางตัวน้อย' เป็นตัวบรรจงอย่างสวยงาม บ่งบอกว่าผู้เขียนฝึกฝนและร่ำเรียนมามากเพียงใด มีฐานะสูงส่งขนาดไหน

นางขยับเท้าเดินไปอีกสามก้าว ก่อนจะยื่นจดหมายให้เขาดู ครั้นเมื่อบุรุษผู้นั้นกวาดตาลงมองจดหมายในมือ ดวงตาที่สงสัยก็เริ่มเปลี่ยนเป็นเบิกโตด้วยความตกใจแทน

"เยี่ยนฟางตัวน้อย?"

"เป็นข้า" เจียงเยี่ยนฟางพยายามยกยิ้มจนมุมปากกระตุก จู่ ๆ ก็รู้สึกผิดขึ้นมา ในดวงตาที่ยังคงกระจ่างจึงดูไร้แววไปชั่วครู่

"เจ้า เจ้ามาช้าเหลือเกิน" กั่วหลีหมิ่นสาวเท้าเข้าไปหานาง เพียงก้าวทีเดียวก็ถึงตัวสตรีตรงหน้า หมายมั่นจะเข้าไปกอด ทว่ากลับถูกอีกฝ่ายถอยหลบ "จริงด้วย... เจ้าไม่ใช่เด็กแล้ว" พลันนั้นสีหน้าก็เศร้าหมองลง

"..." เจียงเยี่ยนฟางก้มหน้าลงต่ำ ส่ายหน้าไปมาแผ่วเบา ท่าทางเศร้าสร้อยไม่ต่างกัน "ท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้าเป็นสตรีที่แต่งงานแล้วต่างหาก" น้ำเสียงเองก็แฝงไปด้วยความเสียใจระคนเสียดาย

"เยี่ยนฟางตัวน้อย ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ได้เต็มใจแต่งเข้าจวนชินอ๋อง" กั่วหลีหมิ่นจ้องมองมืองดงามของนาง ใจอยากจับขึ้นมากุมไว้ แต่ก็ทำได้เพียงจ้องมองอย่างเดียว

"แต่เป็นข้าที่ผิดสัญญา" เจียงเยี่ยนฟางหยิบจดหมายฉบับก่อนหน้านี้ที่หน้าซองเขียนชื่อของอีกฝ่ายออกมา แล้วยื่นให้เขาไป

กั่วหลีหมิ่นรับมาถือไว้ก็รู้สึกว่ามันไม่เหมือนที่เคยได้รับมาตลอดหลายปี พอก้มมองดูซองจดหมายยับยู่ยี่ในมือที่คล้ายมีอะไรใส่มาด้านในด้วย เขารีบเปิดมันออกดูก็พบว่าคือจี้หยกที่เขาเคยมอบให้อีกฝ่ายใช้เป็นสัญญาระหว่างกัน แต่มันกลับแตกไม่เหลือชิ้นดี "เจ้าหมายความว่าอย่างไร?"

"ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทำแตก แต่ระหว่างทางเกิดเรื่องขึ้นมากมาย..."

"ข้าไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น เหตุใดถึงส่งคืนให้ข้า" กั่วหลีหมิ่นขยับเข้าไปใกล้อีกนิด แต่สตรีที่เขาโต้ตอบจดหมายหากันมานานหลายปีกลับถอยหนีเขาราวกับเจอแมลงที่หวาดกลัว ทำเอาความรู้สึกไม่ดีผสมผสานเข้ามาในจิตใจ

"พี่หลีหมิ่น อดีตก็คืออดีต เวลานี้ข้าแต่งเข้าจวนชินอ๋องแล้ว เรื่องราวที่ผ่านมา ท่านลืมมันไปเสียเถิด"

"แต่เยี่ยนฟางตัวน้อย..."

"เรียกข้าว่าเยี่ยนฟางเฉย ๆ จะเป็นสิ่งที่ข้านึกขอบคุณท่านอย่างมาก"

"เยี่ยนฟาง เจ้าก็รู้ว่าชินอ๋องไม่นานก็จะหย่ากับเจ้า รอหลังจากนั้นข้าก็จะไป..."

"แล้วอย่างไร! ถึงเวลานั้นแล้วอย่างไร สตรีที่หย่าร้างสุดท้ายก็ไม่มีใครต้องการ ท่านยอมรับได้ แล้วบิดาของท่านจะยินยอมหรือ ยิ่งตัวข้าเป็นสตรีที่ถูกตบแต่งให้คนในราชวงศ์ยิ่งแล้วใหญ่ ตระกูล กั่วจะแบกรับความกดดันไหวได้อย่างไร" แถมบางทีหากเกิดเรื่องเช่นนี้จริง นางอาจถูกสั่งเก็บเพราะไร้ประโยชน์แล้วก็เป็นได้ ดูอย่างที่คนพิการผู้นั้นจงเกลียดจงชังนางตั้งแต่ยังไม่รู้จักกันเถิด ถึงเวลาที่นางหลุดพ้นจากใต้ปีกเขาเมื่อไร ตัวนางจะเป็นอย่างไรก็ไม่อาจคาดเดาได้

"เยี่ยนฟางอย่าพูดเช่นนั้น ข้าไงที่ต้องการเจ้า ข้าจะคุยกับท่านพ่อให้ดี ขอเพียงเจ้ารอข้าก่อน ข้าจะรีบจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย จะไปรับเจ้ากลับมา!" กั่วหลีหมิ่นพูดรวดเร็วยิ่งนัก ราวกับคิดประโยคนี้มาแล้วหลายตลบ จนในวันนี้ก็ได้บอกมันออกมาต่อหน้าสตรีที่ตนคนึงหามาหลายปี

"พี่หลีหมิ่น... เราเลิกพบกันเถิด ทำเช่นนี้มีแต่ท่านที่ลำบาก ต่อแต่นี้ไป ข้าจะเดินด้วยขาของตนเอง" เจียงเยี่ยนฟางถอยหลังอีกสองก้าว ยืนขาชิดกัน ผสานมือก้มตัวโน้มลงไปด้านหน้าครึ่งตัว เป็นการจากลาที่นับว่าตัดขาดอย่างแท้จริง

เมื่อนางยืดตัวขึ้นเต็มความสูง ก็ได้สบตาเข้ากับดวงตาคู่สวยที่ดูเจ็บปวดจนยากจะบรรยายออกมาของอีกฝ่าย หากแต่ก็หาได้อยู่ในสิ่งที่นางต้องสนใจไม่ เจียงเยี่ยนฟางร่ำลาเป็นครั้งสุดท้ายเสร็จแล้วก็หมุนตัวจากไป

สิ่งที่ควรทำก็ทำแล้ว ไม่ติดค้างกันอีก

"เยี่ยนฟาง! เยี่ยนฟาง!"

นางยังคงได้ยินเสียงตะโกนเรียกตามหลังมาอีกหลายครา แต่ใบหน้าของนางที่ฉายชัดถึงความกังวลในเมื่อครู่ได้จางหายไปแล้ว แววตากลับมาเฉยชาดั่งเดิม

'เจียงเยี่ยนฟางรอมาเนิ่นนานแล้ว เป็นเจ้าที่ช้าจนเกินไป เวลานี้ยังมาร่ำร้องต้องการสิ่งใดอีก'

เส้นทางด้านหน้าช่างว่างเปล่า พานให้นึกเวทนาโชคชะตาของผู้คน ไม่มีใครสมดั่งที่ปรารถนาไปเสียหมด ไม่เว้นแม้แต่ชินอ๋องเทพสงครามผู้เกรียงไกร เคยทรงม้าออกรบอย่างองอาจ เวลานี้กลับทำได้เพียงนั่งอยู่บนรถเข็น เป็นตัวตลกให้ผู้คนเอ่ยถึง ช่างน่าขันนัก ผู้คนบ้างเกรงกลัวเขา บ้างเอาเขามาพูดสนุกปาก คนผู้หนึ่งทำเพื่อใครมากมายแล้วอย่างไร สุดท้ายไม่นานก็กลายเป็นเพียงเรื่องเล่าขานที่นานนับวันไป ผู้คนก็จะหลงลืมอยู่ดี

ตะวันใกล้ตกดินแล้ว นภาเริ่มอาบสีส้มเจือจาง ไล่สีฟ้าครามให้เลือนรางไปทีละส่วน

เจียงเยี่ยนฟางที่เดินเล่นไปทั่วตลาดหลังจากออกมาจากร้านน้ำชาได้สักพักแล้ว ก็คิดที่จะกลับจวนพอดี แต่ระหว่างทางก็พบว่ามีคนมาดักรอนางอยู่ก่อนแล้ว

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 5.2 ตบหัวแล้วลูบหลัง

    เจียงเยี่ยนฟางคร้านจะพูดมาก นางเดินมากระชากแขนของหงเปาไปนั่งตรงที่นางบอก นึกย้อนไปหลายสิบปีที่ผ่านมา ตั้งแต่มาอยู่ ณ ที่แห่งนี้นางพูดมากที่สุดแล้ว ปกติวัน ๆ หนึ่งนางเอ่ยออกมาแทบจะนับคำได้เลย ยามนี้จึงเริ่มอารมณ์เสียขึ้นมาเมื่อต้องพูดหลายรอบเกินไปหงเปาที่ถูกกดไหล่ให้นั่งลงบนเก้าอี้ก็ตัวแข็งเกร็ง ก้นแทบจะระบมเพราะแรงกระแทก แต่กลับไม่กล้าร้องออกมาแม้ครึ่งคำ เพิ่งเคยเห็นสตรีที่ทำท่าทางไม่พอใจเขาถึงขนาดนี้เป็นครั้งแรก แม้เขาจะบอกว่าตนเป็นบ่าวของชินอ๋อง แต่เบื้องหลังเขาเองก็ไม่ใช่ครอบครัวธรรมดา เป็นถึงตระกูลที่ร่ำรวยอันดับต้น ๆ ของแคว้นเฉิงตระกูลของเขาดูแลเรื่องการค้าขายระหว่างแคว้นมาตั้งแต่รุ่นก่อน ตัวเขาถึงได้เข้าไปเป็นสหายร่วมเรียนกับเหล่าองค์ชาย ด้วยเพราะฮ่องเต้พระองค์ก่อนต้องการอำนาจของตระกูลเขา บิดาจึงก็ได้รับเกียรติไม่ต่างกับขุนนางราชสำนัก เป็นที่เชิดหน้าชูตาในแวดวงการค้าไม่น้อย ทำให้เหล่าสตรีไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านทั่วไป หรือคุณหนูจากตระกูลสูงศักดิ์ก็ยังต้องเคารพเขาอยู่แปดส่วน แต่คุณหนูใหญ่เจียงผู้นี้กลับแสดงความไม่พอใจอย่างออกนอกหน้าเพียงเพราะเขาไม่ยอมทำตามที่นางสั่งเนี่ยนะ?!"เลิกขึ

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 5.1 เมื่อมีอำนาจก็ใช้ให้เป็นประโยชน์

    5 พิสูจน์อีกกี่ครา รอดไปอีกกี่หน"พระชายาเจียง เหตุใดถึงออกมานอกจวนไม่บอกผู้ใดพ่ะย่ะค่ะ" หงเปามองดูคุณหนูใหญ่เจียงที่แต่งเข้ามายังไม่พ้นสามวันก็ทำให้เขามีเรื่องปวดหัวไปแล้วสี่ครั้งอย่างจนปัญญา"ถ้าบอกแล้ว ท่านอ๋องจะให้ออกมา?" เจียงเยี่ยนฟางหัวเราะแผ่วเบาเมื่อเห็นสีหน้าของหงเปาที่ดูตกใจกับการย้อนถามของนาง ก่อนจะเดินนำหน้าผ่านตัวเขาไป "เป็นเจ้าไม่ใช่รึ ที่บอกไม่ให้เดินเพ่นพ่านในจวน ข้าเลยออกมาเดินข้างนอกแทน เวลานี้ต่อให้ผิดหรือไม่ ก็ยังไม่ดีพอในสายตาของพวกเจ้าอยู่ดี"หงเปาเม้มปากแน่น ที่นางกล่าวมาก็ไม่ผิดแม้ครึ่งคำ และในตอนที่มัวแต่คิดเรื่องที่นางพูดออกมาเมื่อครู่อยู่ สตรีผู้นั้นเพียงหนึ่งลมหายใจก็ทิ้งห่างไปเขาหลายก้าวแล้ว พาให้เขาเร่งเท้าต้องเดินตามจนน่าหงุดหงิดใจ "นั่นก็เป็นเพราะพระชายาทำกิริยาไม่สำรวม ท่านอ๋องถึงให้พระชายาประทับอยู่ที่เรือนด้านหลังเป็นการลงโทษ เหตุใดจึงไม่อยู่อย่างสงบเสงี่ยม"สงบเสงี่ยม? เจียงเยี่ยนฟางได้ยินแล้วก็เค้นเสียงเย็นในใจ เป็นแค่คนรับใช้ข้างกายท่านอ๋อง แต่กล้าพูดกับนางด้วยคำคำนี้? "ท่านอ๋องของเจ้าสั่งให้ข้าอยู่เรือนเก่าทรุดโทรม ไม่มีคนมาทำความสะอาด ข้าไม่เคย

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 4.3 คนรักของนาง หน้าตาดีไม่ใช่เล่น

    ดังเสียจนเจียงเยี่ยนฟางยังตกใจไปด้วย นางกำลังสนุกอยู่เลย อยากรู้ว่าใครจะวางเงินเดิมพันมากที่สุด และพวกเขาจะคาดเดาว่านางจะอยู่ได้นานเท่าไรกันบ้าง ส่วนเวลาในใจของนางนั้น ย่อมไม่เกินสองเดือนอย่างแน่นอน!"หลีหมิ่น เจ้าเป็นอะไรของเจ้ากัน!" ห้องด้านข้างเริ่มโวยวายขึ้นมาอีกครั้ง ตามมาด้วยเสียงลากเก้าอี้เหมือนคนกำลังจะลุกขึ้น"นี่! หลีหมิ่น!"เจียงเยี่ยนฟางที่นั่งสงบนิ่งมาตั้งนานถึงกลับชะงักค้าง มือที่ถือจอกชาจะยกดื่มพลันรีบวางลงที่เดิม ก่อนหยิบจดหมายในสาบเสื้อออกมาดู หน้าซองจดหมายเขียนไว้ว่า 'พี่หลีหมิ่น' นิ้วเรียวจิกซองจดหมายแน่น ตัดสินใจลุกขึ้นทันทีค่าห้องในครั้งนี้ ไม่คุ้มค่าเท่าไรแล้ว!เมื่อเดินพ้นประตูห้องออกมานางยังคงได้ยินเสียงบ่นของคนในห้องตามมาไม่หยุด ส่วนด้านหน้าของนางเวลานี้ก็คือบุรุษร่างสูงในชุดสีน้ำเงินเข้มที่สะท้อนแสงไฟในหอน้ำชาจนมันเลื่อม ยิ่งยามที่อีกฝ่ายเร่งรีบเดินด้วยความเร็วเพราะไม่พอใจจะรีบจากไป ก็ทำให้เนื้อผ้าขยับไปมาอย่างพลิ้วไหว พาให้คนดูสูงส่ง เพียงแค่แผ่นหลังก็พานให้ผู้คนหลงใหลได้แล้วเวลาเดียวกันนั้น เจียงเยี่ยนฟางที่เคยนึกภูมิใจว่าตนเองขายาว เดินไวกว่าสตรีนางอื่น

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 4.2 อย่าเอาถ่านร้อนมาให้ข้า! อุ้ย!! ถ่านร้อนหนักเหลือเกิน รับไว้ก็ได้ (´・ᴗ・ ` )

    "อะแฮ่ม" เถ้าแก่กระแอมไอ ด้วยนิสัยเดิมขี้คุยโวโอ้อวด การที่คุยแบบนี้ก็แสดงให้เห็นว่าตนนั้นเป็นร้านผ้าขึ้นชื่อที่เหล่าสนมชื่นชอบผ้าร้านเขาขนาดไหน ทำให้หลงลืมไปแล้วว่าแม่นางตรงหน้ากำลังรีบร้อนอยู่ "ระหว่างทางคนของพระสนมที่นำทางให้ข้าก็ดันปวดท้องเข้าห้องน้ำ จึงให้ข้ายืนรอก่อน แต่ขันทีผู้ดูแลวังในที่ผ่านมาพอดีก็กลับเข้าใจผิด เขาเจอข้าเข้าและคิดว่าข้านำผ้าอีกส่วนมาส่งตามวันที่ได้นัดหมายกัน ข้าเองก็เข้าใจผิดไปในตอนแรก คิดว่าเขาจะนำทางข้าเอาผ้าไปเก็บในคลังของพระสนมพระนางนั้น แต่เขากลับพาไปที่คลังเก็บผ้าของของวังหลวงแทน สิ่งที่ข้าเจอในห้องเก็บผ้าของวังหลวงก็คือผ้าจากแคว้นจ้าว! ผู้ดูแลเห็นข้ามองอย่างสนใจก็ยิ้มเยาะข้า! เหอะ! ก็ข้าไม่เคยเห็นนี่... ""..." เจียง‍เยี่ยน‍ฟางจ้องมองนิ่ง เขาคิดจะออกนอกเรื่องอีกแล้ว? เถ้าแก่ถูกสายตาด่าแทนการพูดส่งมาถึง ก็รีบกระแอมไอกลบเกลื่อน กลับเข้าเรื่องสำคัญต่อ "อะแฮ่ม ขันทีผู้ดูแลก็เลยบอกว่า แคว้นจ้าวเพิ่งนำมาส่งมอบเป็นของบรรณาการเมื่อหกวันก่อน แต่เหมือนฮ่องเต้ดูจะไม่ทรงชอบสีและลวดลาย จึงให้จัดไว้ในคลังผ้าสำหรับตัดเย็บให้คนในวังทั่วไป..." เถ้าแก่มองซ้ายมองขวาเหม

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 4.1 ร้านผ้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง

    4 สูงส่งแล้วอย่างไร ผู้คนก็นินทาเหมือนเดิมในยามที่จวนชินอ๋องยังคงวุ่นวายกับการที่หัวมังกรของบ้านถูกวางยาพิษ เจียงเยี่ยนฟางกลับหนีออกไปนอกจวนทางกำแพงฝั่งด้านหลังของเรือนไม้ตั้งแต่เช้าตรู่ ด้วยประตูของจวนทั้งด้านหน้าและด้านหลังถูกคนเฝ้าอยู่ตลอดเวลา นางจึงต้องหาเส้นทางอื่นแทน สุดท้ายก็พบว่ากำแพงหลังเรือนไม้ของตนเองช่างเหมาะจะใช้ปีนออกไปพอดี และด้วยชุดของนางเป็นชุดของสตรีในพื้นที่ราบนิยมใส่ขี่ม้ากัน ดังนั้นการปีนกำแพงก็ไม่ใช่เรื่องยากสถานที่ซึ่งนางแวะไปที่แรกคือร้านสมุนไพร ไม่นานหลังจากเข้าไปก็กลับออกมา ก่อนจะแวะไปที่ร้านผ้ากลางตลาดต่อ"เถ้าแก่" เจียงเยี่ยนฟางเอ่ยเรียกผู้ที่กำลังหันหลังอยู่"แม่..." เถ้าแก่เมื่อหันมาก็ลังเล เสียงที่เขาได้ยินก่อนหันกลับมาต้อนรับลูกค้านั้นเป็นเสียงของสตรีไม่ผิดแน่นอน แม้หันมาแล้วจะตกใจกับเสื้อผ้าที่อีกฝ่ายสวม กอปรกับความสูงที่หากมองผิวเผินก็คงจะนึกว่าบุรุษเพศ จึงทำให้เขาชะงักไปในตอนแรก แต่เขาเป็นเจ้าของร้านค้าผ้ามาเกือบสามสิบปี ย่อมรู้ว่าชุดแบบนี้คือชุดของสตรีในพื้นที่ราบอันห่างไกล จึงรีบเอ่ยอย่างกระตือรือร้นกับอีกฝ่ายว่า "แม่นาง ท่านต้องการผ้าไปตัดชุดหรื

  • สลับชะตามาเป็นชายาอ๋องพิการ   บทที่ 3.5 ในเมื่อท่านอ๋องทำไม่สำเร็จ นางย่อมต้องช่วย

    อีกฝั่งหนึ่งจูหลิงที่ขยับกายหลบไปข้างเสาอีกนิดก็เอ่ยขึ้นว่า "ดูเหมือนนางจะรู้ตัวว่าพวกเรามาแอบดูอยู่เลยนะเพคะพระชายา""ไกลขนาดนี้แถมเรายังอยู่ในที่มืด นางไม่น่าจะมองเห็น" กู่เยว่ชิงเข้าใจถูกแล้ว เจียงเยี่ยนฟางมิได้มองเห็นพวกนางชัดขนาดนั้น เพียงแค่คาดเดาจากเงาร่างเลือนรางก็เท่านั้น"แล้วเหตุใดนางถึงยังไม่โดนจับไปขังคุกอีก มิใช่ว่าท่านอ๋องทรงแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าเป็นนางที่วางยา""บิดาของนางเป็นถึงขุนนางฝ่ายซ้าย ต่อให้ท่านอ๋องคาดการณ์ว่านางอาจเป็นคนของฮ่องเต้ส่งมา แล้วอยากจับนางโยนออกไปเสียเดี๋ยวนี้ก็คงเป็นเรื่องที่เกินกำลัง ตัวนางมีคนหนุน หลังถึงขนาดนั้น คงไม่อาจทำอะไรบุ่มบ่าม" กู่เยว่ชิงเอ่ยวาจานุ่มนวล ทว่าดวงตากลับเต็มไปด้วยความไม่พอใจ มือที่แอบซ่อนไว้ในแขนเสื้อก็บีบเข้าหากันแน่นเพื่อระบายอารมณ์ นึกน้อยใจในโชคชะตาของตนเอง เพียงเพราะชาติกำเนิดของนางต้อยต่ำ หาไม่แล้วยามนี้นางคงได้ขึ้นเป็นพระชายาเอกไปนานแล้วสองปีก่อนที่ตบแต่งเข้ามา ท่านอ๋องยืนยันหนักแน่นว่าจะรับนางเป็นพระชายาเอกและจะไม่ตบแต่งผู้ใดอีก หากแต่ไทเฮาและฮ่องเต้ทรงเห็นพ้องต้องกันว่า ครอบครัวของนางเป็นเพียงแค่สามัญชนที่เพิ่งได

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status