คนตัวเล็กเมื่อถูกเรียกชื่อ ดันเผลอลืมตา เป็นเหตุสองสายตาสอดประสานกัน เข้าอย่างจัง ทำเอาคนมากเลห์ต้องเปลี่ยนแผนเล่นบทเหยื่อสาว ผู้เคราะห์ร้าย จ้องมองเขากลับด้วยนัยน์ตาใสแป๋วใสซื่อบริสุทธิ์
"พะ..พี่ดิน! นี่มันเกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?" นิรณาถามเสียงแผ่ว เแสร้งทำเป็นตื่นขึ้นมา ตีหน้าซื่อ เสมือนว่าตัวเองไม่ได้มีส่วนร่วมกับสิ่งเขาทำ ทั้งที่เมื่อตะกี้ก็ยังนอนบิดกายเร่า ระบายความซาบซ่านในตัวอยู่แท้ ๆ บดินทร์แม้จะมองผ่านความมืดสลัว แต่ท่าทางตกใจกลัวจนตัวสั่นสะท้าน ทำให้คนตัวสูงต้องรีบถอนแกนกายออกจากร่างนิรณาแทบทันที เร่งละล่ำละลักกล่าวออกมา "พะ..พี่ขอโทษครับ พี่ไม่ได้ตั้งใจ!" 'เฮอะ ปากบอกว่าพี่ไม่ได้ตั้งใจ แต่กลับกระแทกเอา ๆ จนระบมไปทั้งตัว มาบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ มันน่าจะโดนจับตีนัก' นิรณาค่อนขอด อยู่ภายใน จิตใจรู้สึกขุ่นมัวไม่ใช่น้อย อยากจับบดินทร์กลับไปดูการกระทำของตัวเองเมื่อตะกี้ซะจริง ๆ "คิดซะว่าเป็นอุบัติเหตุเถอะค่ะ..อย่ามารับผิดชอบนิเลย นิมันโง่ นิมันง่ายเอง พี่ดินไม่ต้องมาสนใจหรอก" คนตัวเล็กกล่าวตัดพ้อเล็กน้อย ท่าทางดูแง่งอน ซะจนแก้มซาลาเปาป่องออกมาตามกิริยาเจ้าของร่างกาย "อย่าโทษตัวเองเลย ผิดก็ต้องว่าไปตามผิด แต่ว่าครั้งนี้เราสองเมามาก หนูคงไม่ถือสาเอาความกันใช่ไหม?" "พี่ทำยังไงต่อจากนี้คะ?" นิรณาถามหยั่งเชิง "แล้วนิอยากได้อะไรล่ะครับ เงิน ทองหรือ.." "เห็นนิเป็นคนยังไงคะ? อีตัวเหรอ ถึงได้สักแต่จะเอา ๆ เอา แล้วใช้เงินฟาดหัว" เสียงหวานแวดใส่อย่างหัวเสีย ผู้ชายคนนี้ก็ไม่ต่างอะไรคนอื่นเลยสักนิด อุตส่าห์หลงคิดว่าเป็นผู้รากมากดี สุดท้ายสันดานเขาก็เหมือนนังงูพิษคนนั้นไม่มีผิดแผก เฮอะ คนแบบนี้โคตรน่าสมเพช ทว่าคิดแค่นั้นต้องหยุดชะงัก เมื่อหูได้ยินน้ำเสียงทุ้มส่อถึงความอ่อนโยนสอบถาม ดวงตาเขาฉายแววความรู้สึกผิดไว้เต็มประดา "พี่จะต้องทำยังไงครับ ถ้าพี่อยากจะรับผิดชอบจริง ๆ พี่ต้องทำยังไง..หนูถึงจะพอใจ?" "ลองคบกันดูไหมคะ? นิยังโสด ไม่มีคนคุย ไม่มีแฟน ไม่มีอะไรทั้งนั้น แล้วพี่ดินละคะมีแฟน..เอ๊ย ไม่สิ ระดับนี้ คงต้องถามว่า..พี่ดิน พี่เมียหรือยังคะ?" นิรณารัวคำถามให้เขางงไปงั้นแหละ เธอสืบมาหมดแล้ว บดินทร์ยังโสดและไม่มีภรรยา แต่ถึงมีผู้หญิงคนนั้นก็ตายไปนานมากแล้ว เพราะฉะนั้น ถ้าหากเขายังกล้าจะโกหก เรื่องราวคงจบไม่สวยแน่นอน "มีแล้วครับ" "ห๊ะ" เสียงหวานอุทานด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะมีแฟนสาวซุกเอาไว้ ทั้งที่เธออุตส่าห์สืบมาหมดแล้ว "พี่เป็นโสด มาเกือบสามปี..เพิ่งได้มาเมื่อกี้นี้แหละครับ" "พี่ดินกำลังจะหมายความว่า?" นิรณาถามอย่างตื่นเต้น นัยน์ตากลมโตเป็นประกายวิบวับ ความหวังที่ตัวเองจะได้เอาคืนพวกคนโฉดชั่ว ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ "คงไม่เสียหายอะไรใช่ไหม ถ้าเราจะ..ลองคบหากัน?" "พูดจริง ๆ ใช่ไหมคะ?" นิรณาถามเสียงสั่น รู้สึกตื่นเต้น "ไม่จริง! ขอให้ฟ้าผ่าตาย" เขาว่า แล้วชูสามนิ้ว ทำท่าปฏิญาณตน ท่าทีดูผ่อนลงคลายลงมาก จากตอนแรกที่เจอกัน "โคตรเชยเลยอ่าา แต่ว่านิชอบนะคะ..มันดูคลาสสิคดี!" "เอ่อ..ไหน ๆ เราก็ได้เสียกันแล้ว ถ้าพี่อยากจะขอต่ออีกสักครั้งได้ไหมครับ?" คนค้างคาอ้อนขอไม่อายแล้ว ตอนนี้แกนกายปวดร้าวไปหมด ซ้ำยังดื้อดึงโหยหา เพียงแค่สัมผัสอ่อนนุ่มที่เพิ่งได้รับ หากแต่ต้องหยุดไปเพราะความตกใจ "ถ้าได้นิแล้ว พี่ดินต้องรับผิดชอบนะคะ?" นิรณาถามอย่างไม่แน่ใจ มือบางแอบกดอัดเสียงไว้ หวังเอาเป็นหลักฐานมัดตัวมัดใจคนตรงหน้าไว้ ให้แน่นหนา หากว่าเขาทำผิดคำสัญญาเมื่อไหร่ ตัวเองนั้นจะได้ใช้เรื่องราวนี้..ให้เป็นประโยชน์ "ได้ไปรอบหนึ่งแล้วนี่ครับ" บดินทร์หยอกเย้าเล่น นานมาก ที่ไม่ได้รู้สึกสบายใจเวลาอยู่กับผู้หญิงอื่นนอกจากภรรยา "พี่ดินอ่าา" นิรณาทุบกำปั้นลงบนอกแกร่งเบา ๆ รู้สึกขัดเขินไม่น้อย ยามถูกมือหนาเอื้อมรุกเร้าสัมผัสจุดอ่อนไหว แต่คนอย่างเธอ..มีหรือจะยอมน้อยหน้า รีบส่งรอยยิ้มหวาน ๆ แล้วไล่เรียวนิ้วเล็กไต่ไปตามแผงอกกว้าง แต่ยังไม่ทันที่จะได้ยั่วยวนเขามากมาย ร่างกายกลับต้องอ่อนระทวยไปเสียก่อนจากริมฝีปากที่ก้มลงมา แลกรับสัมผัสอ่อนหวาน ในโพรงปาก คนตัวเล็กจึงวาดวงแขนเรียวไปโอบรอบคอเขา ขยับขาถ่างออกให้บดินทร์สอดแทรกตัวตนเข้าไปง่าย ๆ ปล่อยตัวให้เขาโหมแรงใส่ร่างของตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่อาจทานทนสะกดกลั้นอารมณ์ความใคร่ที่กำลังคุกรุ่น ปลดปล่อยเสียงครวญครางแผ่วหวานออกมา ยามเมื่อถูกกระหน่ำกระแทก จากมือที่คล้องคอแปรเปลี่ยนเป็นจิกเกร็งใส่แผ่นหลัง บิดกายไปมาระบายความเร่าร้อนที่ผุบเข้าออกจากตัว ปล่อยให้คนบนร่างควบคุมบทเพลงรักจนมาถึงท่อนสุดท้าย เขาทอดถอนกายออกจากความหวานฉ่ำของกลีบดอกไม้ แล้วส่งกลับเข้าไปลึกสุดใจ ทำจังหวะให้ดำเนินไปพร้อม ๆ กัน ส่งให้คนใต้ร่างขึ้นสวรรค์ ส่วนตัวเองเร่งจังหวะให้หนักหน่วงซ้ำไปอีกสามสี่รอบปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่น ให้แตกกระจาย เข้าสู่โพรงอ่อนนุ่ม เวลาผ่านไปไม่นาน สองหนุ่มสาวนอนหอบเหนื่อยกัน บนเตียงนุ่มหยุ่น ยัยคนเก่งที่ตอนแรก เอาแต่ยั่วยวน บัดนี้หมดซึ่งเรี่ยวแรง ฟุบนอนเบียดเฉียดข้างกายเขา คว้ามือหนาให้มาโอบเอวตัวเองไว้ ตามประสาคนติดการสกินชิพเป็นชีวิตจิตใจ พลางออดอ้อนเสียงหวาน "ช่วยกอดนิไว้สักพักนะคะ" บดินทร์ก็ไม่ว่าอะไร มือหนาเอื้อมไปดึงผ้าห่มสีขาว มาคลุมเรือนร่างขาวนวล ด้วยกลัวว่าเธอจะหนาว ก่อนจะแอบชำเลืองหางตา ลอบมองหน้าคนที่พร้อมจะหลับได้ตลอดเวลา กำลังพูดอ้อแอ้แทบจะไม่ได้ยินเสียง "ถ้าเกิดว่าตื่นมาพรุ่งนี้..แล้วนิไม่เจอพี่ เราได้เห็นดีกันแน่!" สิ้นสุดคำ เธอก็ผล็อยหลับไปสักพัก บดินทร์พลันเริ่มเคลิ้มตาม ปิดเปลือกตาลง โดยที่อ้อมแขนยังคงตระกองกอดร่างเล็กไว้ไม่ให้ห่างกาย เริ่มรู้สึกผูกพันกันขึ้นมาแบบแปลก ๆนิรณามองสามีด้วยแววตาอ่อนล้า หัวใจหนักอึ้งด้วยความเวทนา บดินทร์กลายเป็นเจ้าชายนิทรามานานกว่าห้าเดือนแล้ว ร่างกายที่เคยแข็งแรงบัดนี้นอนนิ่งไร้การตอบสนอง ไม่มีวี่แววว่าจะฟื้นคืนสติ"ขอโทษนะคะ ขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้านิไม่ก้าวมาในชีวิตของพี่ เรื่องราวก็คงไม่เป็นแบบนี้" เสียงแผ่วเบาแฝงความเศร้าหมอง คำพูดเดิมที่เธอพร่ำบอกเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดเวลาที่เขาหลับใหล เธอเอาแต่โทษตัวเอง วันแล้ววันเล่าที่จมดิ่งอยู่กับความรู้สึกผิด ไม่อาจปลดเปลื้องความทุกข์ในใจได้แต่เพราะเด็กชายที่อยู่ในท้อง คนเป็นแม่จำต้องพยายามไม่ให้ตัวเองเครียดมากนัก หาสิ่งต่าง ๆ ทำวนเวียนไป เพื่อไม่ให้มีเวลาครุ่นคิดจนเกินไป แต่สุดท้าย ไม่ว่าจะพยายามสักเพียงใด ก็ไม่อาจลบเลือนความคิดถึงที่มีต่อสามีได้แม้แต่น้อยทุกลมหายใจเข้าออกยังคงเป็น...บดินทร์หากการอ้อนวอนต่อฟากฟ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใด ๆ จะช่วยได้ นิรณาอยากจะร้องขอสักครั้ง..ขอให้คืนคนรักของเธอกลับมาขอเพียงให้ลูกน้อยที่ใกล้จะลืมตาขึ้นมาเผชิญโลกกว้าง ได้มีพ่อที่เป็นปกติเหมือนเช่นคนอื่นได้โปรดแต่คำอธิษฐานดูจะไม่มีวันได้รับคำตอบ เวลาผ่านล่วงเข้าสู่เดือนที่เจ็ดของการหล
จนเวลาล่วงเลยผ่านมาอีกสามวัน นิรณายังคงวนเวียนอยู่แถวบริเวณนี้ เพื่อติดตามการค้นหาบีบีและเตชินใช้เส้นสายที่มีให้ติดประกาศจับ แต่ยังไม่พบเจอว่าคนทั้งคู่ไปหลบเลี่ยงอยู่ในรูไหน ทุกอย่างเลยมืดแปดด้าน"พี่! พี่..เจอแล้วพี่" นราภพวิ่งเข้ามาในห้องพัก ก่อนจะหยุดยืนหอบต่อหน้านิรณา แล้วยื่นมือถือมาให้ดู"สายของผมถ่ายรูปคล้ายกับไอ้เตชินได้แถวท่าเรือร้างทางใต้ เมื่อประมาณครึ่งชั่วโมงก่อน ผมเลยให้มันไล่ตามไปแต่ก็คลาดกันจนได้" เสียงสั่นด้วยความเหนื่อยอธิบายเร็ว ๆฝั่งนิรณาเพียงแค่กวาดสายตามองรูปก็จำได้แทบทันที ว่าชายในภาพคือเตชิน แม้ว่าสภาพจะเละเทะ เนื้อตัวเสื้อผ้าสกปรกเปรอะเปื้อนไปดินโคลนทว่าสำหรับบุคคลที่เคยอยู่ร่วมกันมาหลายปีย่อมจำได้ แม้แต่ปลายเส้นผม เธอก็จำได้..จำได้ว่าเขาคือ เตชิน!"รีบเตรียมรถ พี่จะรออยู่ด้านหน้า" เสียงจริงจังหันไปสั่งน้องชาย ก่อนจะเดินไปหยิบอาวุธ และเช็กดูกระสุนในที่สุดสองพี่น้อง..ก็เดินทางมาถึงท่าเรืออันเงียบสงบ จนน่าประหลาดใจ เวลานั้นสัญชาติ..บอกให้นิรณาระวังตัว เธอเร่งหันไปส่งสัญญาณให้น้องชายตามมา ก่อนจะลัดเลาะไปตามตู้คอนเทนเนอร์ที่เรียงราย ดั่งเขาวงกตจนมาถึงอีกฝั่ง
ฝั่งนิรณาในที่สุด..ก็สามารถตามตัวเจอ จากข้อความที่นราภพ สู้อุตส่าห์ไปตามสืบ จนพบว่าคนพวกนั้น ไปปรากฎตัว อยู่แถวท่าเรือ อันเป็นสถานที่..ที่พวกอาชญากรทั้งหลายมักจะใช้หลบหนีออกนอกประเทศยิ่งทำให้กลัวใจ..กลัวว่ามันจะทำการหลบหนีได้สำเร็จ สองเท้าก้าวฉับ ๆ คว้าเอากุญแจรถ เตรียมมุ่งหน้าไปตามหาพวกมัน หวังจะจับให้ได้ด้วยมือตัวเองจวบจนเวลาเข้าสู่ยามโพล้เพล้ใกล้ค่ำ นิรณาที่ขับรถวนรอบเกาะและท่าเรือที่คาดว่าพวกมันจะไปกลับไม่เจอเลยสักนิด จนรู้สึกท้อใจ ตัดสินใจแวะปั๊มทางข้าง ลงไปล้างหน้า ล้างตา ให้รู้สึกสดใส จะได้มีแรงฮึดต่อดวงตากลับเหลือบเห็นใครบางคนในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนส์สีดำ สวมแมส สวมหมวก ปิดบังใบหน้า แต่ออร่าความหล่อยังพุ่งกระจาย ยืนเคียงข้างกับหญิงสาวตัวเล็ก ๆ ในชุดเดรสสีชมพู สวมปีกกว้างกำลังยืนลังเล..อยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆทว่าหากเป็นคนนอกมองมา คงคิดว่าเป็นคู่รักดารา แอบมาเที่ยวสวีทหวาน ไม่อยากให้ใครเห็นหน้าแต่นั้นไม่ใช่กลับนิรณา เธอมองแค่ปราดเดียวก็จำได้ทันทีว่า..สองคนนั้นแหละ! คือคู่ผัวเมียที่ตัวเองมาตามจับแต่ขณะที่ค่อย ๆ ย่องเข้าไป มือกำลัง เตรียมปืนจะยกขึ้นเล็งขู
สามอาทิตย์..ก่อนหน้านั้น"หมอขอแสดงความเสียใจด้วยครับ ทางเราสามารถยื้อชีวิตคุณบดินทร์ได้แล้ว แต่เขาถูกสารเสพติดประเภทหลอนประสาท ทำลายสมองมากเกินไป ฝั่งการรับรู้เลยไม่ทำงาน" แพทย์วัยกลางคนอธิบายเสียงเศร้า อับจนปัญญาที่จะช่วยเหลือได้นอกจากรอเวลา ให้ร่างกายคนไข้ ฟื้นตัวเอง ซึ่งแทบจะไม่มีปาฏิหาริย์ เพราะสมอง ส่วนการรับรู้โดนฤทธิ์ของยานรกที่เกินขนาดเล่นงานให้"หมายความว่าพี่ดินจะต้องนอนเป็นผักอยู่แบบนี้เหรอคะ?" สิ้นคำถาม แพทย์เจ้าของไข้พยักหน้ารับ ก่อนจะขอตัวไปตรวจอาการคนอื่นต่อนิรณาเลยได้แต่มองตามหมอจนลับสายตา ความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามาใส่ตัว เธอไม่น่าใช้บดินทร์เพื่อเป็น..เครื่องมือแก้แค้น ไม่น่าทำแบบนั้นเลยสักนิดมันความคิด..ที่ผิดพลาด ตั้งแต่เริ่ม ถ้าวันนั้นตัดสินใจ ไม่เข้าหา ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า เขาก็คงไม่ต้องมานอนหลับไม่รู้สติอยู่แบบนี้พอยิ่งคิดถึงความหลัง นิรณายิ่งโทษตัวเอง ได้แต่ถามว่าทำไม ๆ ทำไมบดินทร์ต้องเป็นคนรับกรรมที่ตัวที่เขาไม่ได้สร้าง ทำไม ไม่เป็นเธอที่ต้องนอนอยู่ตรงนี้ทำไมทุกอย่างมันเลวร้าย แย่ลงไปหมด ทั้งที่เขาไม่ได้ทำผิดอะไร ทั้งที่เขาทำดีทุกอย่างแต่สุดท้าย คนใจดีคนนั
"อโหสิกรรมให้กันเถอะนะ แล้วชาติฉันท์ใด อย่าได้มาเจอะมาเจอกันอีกเลย" สิ้นเสียงพูด นิรณายกมือไหว้ พร้อมปักธูปลงลงบนกระถาง ใบหน้าราบเรียบ ไร้ซึ่งชีวิตชีวา"ป้าเสียใจด้วยนะคะ..คุณนิ" หญิงวัยกลางเดินมาหาคนเป็นเจ้าภาพงานขาวดำครั้งนี้ แล้วยื่นมือไปรับธูป นำไปเคารพคนจากไป สีหน้าที่เศร้าสร้อย"หนูเสียใจด้วยนะคะ" หญิงสาวอีกคนที่ตามเข้ามาเอ่ยด้วยเสียงซึมเล็กน้อย นิรณาก็ไม่ได้พูดอะไร และยังคงตีสีหน้าเฉยเมย พร้อมยื่นธูปให้คนคนนั้นไป ดั่งหุ่นยนต์นัยน์ตาสีหวานว่างเปล่า ไร้ซึ่งความรู้สึก ตอนนี้ชีวิตเคว้งคว้าง มองไปทางไหนก็มีแต่ความว่างเปล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเลยเถิด จนทำให้เธออยากจะเป็นบ้าอีกด้านหนึ่ง พวกคุณหญิงต่างพากัน หันหน้ามาซุบซิบ"เห้ออ..สงสารคุณนิเนอะ ท้องตั้งหลายเดือนขนาดนั้น ยังต้องมาคอยจัดการงานตัวคนเดียวอีก""ฉันได้ข่าวมาว่าเขาไม่มีญาติเหลือเลยสักคน""แบบนั้นก็น่าสงสารแย่เลย" หญิงอีกคนพูด รู้สึกเห็นใจ ทั้งนิรณาและคนเสียชีวิต"นั้นสินะ! ยังหนุ่มยังแน่นอยู่แท้ ๆ ทำไมถึงมาด่วนจากไปเร็วก็ไม่รู้""เมื่อเช้าฉัน..ก็ลองถามหาสาเหตุนะ แต่ว่าคุณนิไม่ยอมพูดอะไรเลย" อีกคนกล่าวสมทบ"เธอก็คงช็อกมากแ
นิรณากลับมาถึงบ้านด้วยความเหนื่อยอ่อน ไม่ว่าจะทำยังไง..คนเห็นแก่ตัวก็ไม่หมดไปสักทีทำเอางานในมือเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ต่างจากคนปฏิบัติงานที่มีเพียงเพียงน้อยนิด ไม่สัมพันธ์กันแต่แล้วเมื่อเปิดประตูห้องนอนออก บดินทร์กลับไม่อยู่พอลองโทรหา ก็ไม่ติด ทำให้คนเป็นภรรยาเริ่มกังวลใจตั้งแต่คบกันมาเวลาเขาจะไปไหน มักจะส่งข้อความบอกตลอด แต่วันนี้กลับไม่มีปฏิบัติการตามหาสามีจึงเริ่มต้นขึ้น เธอออกสำรวจไปทั่วบ้าน จนถึงโรงรถพบว่ายังมีรถบดินทร์จอดอยู่ ไม่ได้ไปไหน"สวัสดีค่ะ คุณนิ" แม่บ้านคนหนึ่งเดินปะหน้ากับนิรณาพอดี ยกมือขึ้นไหว้ทักทาย เธอจึงส่งมอบรอยยิ้มกลับไป"ฉันมาตามหาพี่ดินค่ะ พี่พอจะรู้ว่าเขา อยู่ที่ไหนหรือเปล่าคะ?" เสียงหวานถามออกไปอย่างเป็นมิตร"คิดว่าน่าจะบ้านคุณบีบีนะคะ เห็นพวกแม่บ้านฝั่งนั้น วุ่นวายออกไปซื้ออาหารตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้ว""พวกเขามีนัดทานข้าวกันตอนเย็นเหรอคะ?" นิรณาถามอย่างงุนงง บดินทร์ก็นะ ไม่ยอมบอกอะไรเธอสักอย่าง"ค่ะ ฉันเห็นว่าคุณดิน ไปบ้านหลังนั้น ตั้งแต่ห้าโมงเย็นแล้วนะคะ" แม่บ้านรายงานทุกอย่างตามความจริง"ขอบคุณที่บอกค่ะ""แล้วคุณนิจะไปบ้านคุณบีบีไหมคะ?""เกรงว่าถ้าไปแล้วระเบิ