Share

บทที่ 10

last update Last Updated: 2025-05-13 11:24:44

หลายวันต่อมาอาการของหนานอิงก็ดีขึ้นเป็นอย่างมาก หนานอิงจึงเริ่มรบเร้าที่จะกลับบ้านอีก นางเหมยเซียงไม่ยินยอม หนานอิงจึงขู่จะฆ่าตัวตาย

นางเหมยเซียงหน้าซีด จึงยอมคุยกับนางดี ๆ 

"เหตุใดท่านจึงขัดขวางไม่ให้ข้ากลับบ้านเจ้าคะ"

นางเหมยเซียงไม่ตอบ ข่าวคุณหนูห้าสกุลหนานลือไปทั่วเมืองว่าถูกโจรป่าจับตัวไปย่ำยีสร้างชื่อเสียงด่างพร้อยให้กับสกุลหนานเป็นอย่างยิ่ง เช่นนี้นางจะกลับบ้านไปได้อย่างไร

แต่เมื่อถูกหนานอิงรบเร้าอีกทั้งยังขู่ฆ่าตัวตายเช่นนี้นางเหมยเซียงก็ลำบากใจเป็นอย่างยิ่ง

อีกทั้งหากวันหน้าหนานอิงกลายเป็นฮูหยินหรือพระชายาของท่านอ๋องจริงๆ นางเหมยเซียงก็เกรงว่าในยามนั้นหนานอิงจะมาเอาเรื่องเอาราวกับเรื่องในอดีตทำให้นางเหมยเซียงลำบากในภายหลัง

การได้สตรีผู้นี้มาดูแลทำให้นางร่ำรวยขึ้นไม่น้อย แต่ในขณะเดียวกันก็คล้ายกลับว่าคอของนางกำลังพาดอยู่บนเขียงเช่นกัน

นางเหมยเซียงใคร่ครวญอย่างรอบคอบ โอกาสที่หนานอิงจะเป็นพระชายาย่อมมีมาก ในเมื่อนางเป็นบุตรสาวของเศรษฐีผู้หนึ่งพื้นเพต้นสกุลก็ไม่ธรรมดา จึงใจอ่อนลงไม่น้อย

"หนานอิงเจ้ายังเดินเหินไม่คล่องนัก รออีกสักหน่อยดีหรือไม่ข้ายังไม่ได้สอนสิ่งใดแก่เจ้าเลย"

"ท่านไม่จำเป็นต้องสอนสิ่งใดแก่ข้า เพียงเท่านี้ก็ถือเป็นบุญคุณแล้วเจ้าค่ะ ได้โปรดปล่อยข้ากลับบ้านเถิดนะเจ้าคะ"

"เจ้าแน่ใจในความคิดนี้ของเจ้าจริง ๆ หรือ"

"ท่านแม่ท่านพ่อยังรอข้าอยู่เจ้าค่ะ ข้าคิดถึงพวกท่าน"

นางเหมยเซียงเอ่ยว่า

"หากกลับบ้านแล้วไม่เป็นอย่างที่เจ้าคิดเล่า เจ้าจะไม่เสียใจหรือ"

"ท่านแม่รักข้ายิ่ง ท่านไม่ทอดทิ้งข้าหรอกเจ้าค่ะ ส่วนท่านพ่อก็ถนอมข้าราวแก้วตาดวงใจท่านเป็นพ่อของข้าย่อมไม่ทิ้งข้าเช่นกัน"

นางเหมยเซียงเกินจะทัดทานแล้วนางจึงกำชับในเรื่องที่ควรกำชับ

"หยกของผู้มีพระคุณทั้งสองเก็บเอาไว้ให้ดีอย่าให้หายเข้าใจหรือไม่"

"หนานอิงเข้าใจเจ้าค่ะ"

หนานอิงไม่อยากจะอยู่ที่นี่แล้ว นางรู้ว่าตนเองสูญเสียพรหมจรรย์ให้แก่บุรุษไปแล้ว มิหนำซ้ำยังถูกย่ำยีทั้งด้านหน้าและด้านหลังหนานอิงในยามนี้จึงอยากจะตายเสียให้รู้แล้วรู้รอดด้วยความอับอาย 

แต่นางยังมีท่านแม่ยังมีท่านพอที่รักและเป็นห่วงนาง หนานอิงจึงคิดจะลืมเรื่องนี้ทำราวกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น นางคิดว่าคนที่ย่ำยีนางคงเป็นโจรป่าพวกนั้นเป็นแน่

ในที่สุดรถม้าของหอนางโลมก็ไปส่งนางถึงหน้าประตูคฤหาสน์สกุลหนาน  สาวใช้ผู้ใกล้ชิดเอ่ยกับนางเหมยเซียงว่า

"ปล่อยนางไปเช่นนี้ได้หรือเจ้าคะ" 

นางเหมยเซียงยกมุมปากยิ้มเย็น ต้องให้หนานอิงรับรู้ความเจ็บปวดด้วยตนเองถึงจะยอมเชื่อฟัง

"วางใจเถิดหากนางไม่มีที่ไปนางย่อมกลับมาเอง"

หนานอิงลงจากรถม้าด้วยความลำบาก นางห้อยหยกคู่เอาไว้ที่เอวดูแลอย่างดีไม่ให้ห่างกาย มีสาวใช้คนหนึ่งคอยช่วยพยุงนางลงจากรถม้า

แข้งขาของนางยังไม่ค่อยมีแรงนักแต่ก็สามารถเดินเหินได้คล่องขึ้นแล้ว นางเหมยเซียงให้ตำรากับนางมาเล่มหนึ่งบอกให้นางแอบตำรานี้เอาไว้ให้ดี และให้เปิดศึกษายามอยู่ลำพัง

"หนานอิงตำราฉบับนี้เจ้าจงศึกษาให้กระจ่าง เป็นเคล็ดวิชาสุดยอดของหอนางโลมของข้า หากไม่เข้าใจเจ้าสามารถกลับมาหาข้าได้ทุกเวลา"

หนานอิงตบที่อกเสื้อของตนเองมั่นใจว่าตำรายังปลอดภัยดี ในเมื่อนางเหมยเซียงบอกว่าเป็นตำราดีหนานอิงย่อมเชื่อฟัง

หลังมาส่งรถของหอนางโลมเคลื่อนไปแล้วปล่อยนางเอาไว้เพียงลำพังหน้าคฤหาสน์ กระทั่งมีคนที่ผ่านไปมาเห็นท่าทางของนางที่ไม่ค่อยดีจึงหยุดมองและคนพวกนั้นก็จำนางได้ในทันที

"นี่คุณหนูหนานอิงของสกุลหนานไม่ใช่หรือ ที่ถูกโจรจับตัวไปจู่ ๆ กลับมาได้อย่างไรกัน พวกโจรมันปล่อยตัวแล้วหรือ"

หลายคนจึงเริ่มหยุดมองนาง ด้วยชื่อเสียงของนางที่ถูกโจรร้ายจับตัวไปนานเกือบครึ่งเดือนทำให้พวกเขามองนางเปลี่ยนไป

คุณหนูผู้สูงส่งของท่านเศรษฐีคงยับเยินไปเพราะโจรพวกนั้นแล้ว เหตุใดยังมีหน้ากลับมาให้คนที่บ้านถูกตราหน้าอีก ด้วยท่าทางของหนานอิงที่แม้จะดูอ่อนแอไปบ้างแต่ก็ยังน่าเกรงขามด้วยบุคลิกของคุณหนูจึงไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยคำใดออกมา

ท่ามกลางสายตาของคนที่เข้ามารุมล้อม หนานอิงรู้สึกว่าตนเองบัดนี้ถูกมองเหมือนสัตว์ประหลาดตนหนึ่งที่น่ารังเกียจ สายตาเหล่านั้นบ่งบอกชัดเจนว่านางบัดนี้กลายเป็นสตรีต่ำช้าไปแล้ว

เสียงคนผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นในหมู่ฝูงชน

"เมื่อสักครู่ข้าเห็นชัดเจนว่ารถม้าที่มาส่งนางเป็นรถของหอนางโลมไม่ใช่หรือ เหตุใดนางจึงมากับรถม้าคันนั้นได้ ไม่ใช่พวกโจรย่ำยีนางเสร็จแล้วขายนางให้หอนางโลมไปแล้วหรือ เช่นนี้เหตุใดจึงกล้าบากหน้ากลับมาอีกกัน"

หลังจากนั้นเสียงผู้คนก็เริ่มดังขึ้น ล้วนแต่เป็นการวิพากษ์วิจารย์ตัวนางในทางเสียหาย ถึงแม้น้ำเสียงจะเบาจนไม่ได้ยินชัดเจนแต่หนานอิงกลับรู้สึกถึงคำพูดดูถูกเหล่านั้นทุกถ้อยคำอย่างชัดเจน

หนานอิงกลั้นน้ำตาเอาไว้ ทั้ง ๆ ที่นางถูกจับไปแท้ ๆ เหตุใดพวกเขาจึงได้กล่าวยังกับว่าเป็นนางที่ผิดที่ไปยั่วยวนโจรพวกนั้นให้มาจับตัว

คนพวกนี้เหตุใดใจร้ายเช่นนี้

หนานอิงเจ็บแปลบอยู่ในใจกลั้นน้ำตาเอาไว้สุดความสามารถไม่อาจร้องไห้ให้ผู้ใดเห็นได้ 

นางก้มหน้าไม่มองพวกเขาค่อย ๆ ก้าวขาลากสังขารที่อ่อนแอของตนเองขึ้นบรรไดของจวน กระทั่งบ่าวผู้หนึ่งที่เฝ้าอยู่หน้าประตูคฤหาสน์เดินมาถามนางด้วยความสงสัย

"แม่นางท่านมาพบผู้ใดหรือ"

หนานอิงมองหน้าคนบ่าวผู้นั้นนางเองก็ไม่คุ้นหน้าเขาเช่นกัน หนานอิงเงยหน้ามองป้ายคฤหาสน์ แน่นอนว่านางมาไม่ผิดที่ แต่คนผู้นี้ไม่รู้จักนาง จนกระทั่งสาวใช้ผู้หนึ่งเดินออกมาเห็นนางเข้าจึงร้องออกมาด้วยความดีใจ

"คุณหนูท่านยังไม่ตาย คุณหนูของบ่าว ฮือ ฮือ ท่านกลับมาแล้ว ท่านกลับมาแล้ว"

ที่แท้เป็นสาวใช้คนสนิทของนางนามอาโจว

"อาโจว ข้า ข้า..."

น้ำตาของหนานอิงครานี้ร่วงออกมาเป็นสายราวกับน้ำแข็งที่ถูกความร้อนของเปลวไฟละลาย สาวใช้ที่ซื่อสัตย์ของนางเองก็เช่นกัน

"คุณหนู ข้าช่วยเจ้าค่ะ เกิดอะไรขึ้น ฮือ ฮือ ฮือ คุณหนูของบ่าว บ่าวออกไปที่กรมทหารขอร้องให้ช่วยตามหาคุณหนูทุกวัน แต่พวกเขาเอาแต่ปฏิเสธบอกกลุ่มโจรถูกทหารหลวงฆ่าตายหมดแล้ว เกรงว่าคุณหนูคงตายไปด้วย ฮือ ฮือ บ่าวไม่เชื่อเจ้าคะ บ่าวไม่เชื่อ"

หนานอิงถูกประคองเข้าไปในบ้าน ไม่นานคนแทบจะทั้งบ้านต่างเข้ามารุมล้อมนาง มารดาของนางวิ่งออกอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินเสียงเอะอะว่าเป็นผู้ใดที่กลับมา ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตาและเศร้าหมองมองนางอย่างไม่เชื่อสายตา

"อิงเอ๋อร์ อิงเอ๋อร์ของแม่"

มารดาของนางส่งเสียงร้องไห้คร่ำครวญทั้งกอดนางแนบแน่น คล้ายว่ากำลังจะขาดใจแล้ว หนานอิงผู้ที่เคยคิดว่าจะฆ่าตัวตายบัดนี้ได้กลับเข้าสู่อ้อมกอดของมารดาอีกครั้งน้ำตาของนางจึงยิ่งไหลมากขึ้น

ดีเหลือเกินที่นางไม่คิดสั้นไปเสียก่อน ช่างดีเหลือเกิน

"ท่านแม่ ข้ากลับมาแล้วเจ้าค่ะ ข้ากลับมาแล้ว"

สองแม่ลูกกอดกันแนบแน่น จนกระทั่งท่านพ่อของนางออกมาพร้อมกับฮูหยินใหญ่และบุตรสาวทั้งสอง รวมทั้งอนุและบุตรคนอื่น ๆ ต่างก็มารุมล้อมนาง สายตาของผู้อื่นต่างมองนางด้วยความเกลียดชังหาได้ต้อนรับนางกลับมาไม่

หนานอิงแม้จะอ่อนแอนางพลันคุกเข่า โขกศีรษะลงกับพื้นน้ำตาไหลออกมาเป็นสาย

"ท่านพ่อลูกกลับมาแล้วเจ้าค่ะ"

ท่านหนานกลับไม่เข้ากอดปลอบนาง ดวงตาของเขาแข็งกร้าวเป็นอย่างยิ่งยังมองหนานอิงไม่ต่างจากสายตาของคนด้านนอกประตู

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด   บทที่ 148

    ตอนพิเศษ ลูกของข้า ความทรงจำของลู่หนิงหวังที่มีเกี่ยวกับบิดาของตนเองนั้นช่างเลือนลางจนจำไม่ได้ เขาไม่เคยรับรู้และเข้าใจความหมายของคำ ๆ นี้ จนกระทั่งเมื่อเขาได้พบเด็กชายสองคนที่มีใบหน้าคล้ายคลึงเขากับหานเซียวเป็นอย่างยิ่งเขาไม่รู้ว่าเด็กสองคนนี้เป็นบุตรของผู้ใดระหว่างเขาและหานเซียว ในยามนั้นเมื่อได้พบและคิดว่าใช่ใจของเขากลับหวาดหวั่นอย่างรุนแรง ว่าได้พบหนานอิงนั้นทำให้เขาหวาดกลัวแล้วการได้พบบุตรชายกลับทำให้ลู่หนิงหวังหวาดกลัวมากยิ่งกว่าลู่หนิงหวังรู้สึกสับสนเขากลัวว่าจะเป็นพ่อที่ไม่ดีพอให้เด็กรักใคร่และไม่รู้ต้องทำตัวเช่นไร เมื่อในยามนั้นหานเซียวส่งเด็กสองคนนี้มาสู่อ้อมแขนของเขา“หากอยากประลอง ก็ประลองกับองค์รักษ์ของข้า”ชั่วขณะนั้นที่หานเซียวชี้มาที่ตัวเขา ความรู้สึกหวาดหวั่นนั้นยิ่งรุนแรงมากขึ้นจนกระทั่งเด็กน้อยทั้งสองเดินอย่างองอาจมาหาเขาโดยไร้ความหวาดกลัวอย่างสิ้นเชิงกระทั่งมือเล็ก ๆ สองข้างกำลังจับจูงมือของเขาคนละข้าง ในยามนั้นพลันเกิดเหงื่อชื้นขึ้นที่ฝ่ามือ ความรู้สึกไหลเวียนไปจนทั่วร่าง แต่ที่แปลกประหลาดคือความรู้สึกสับสนนั้นกลับหายไปในที่สุดมือของเขาสั่นเทาอยู่

  • สองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด   บทที่ 147

    ตอนพิเศษ อยากมีอีกเยอะ ๆในตอนที่หนานอิงกำลังชงชาโดยมีอาโจวคอยช่วยเหลืออยู่นั้นขันทีก็รีบเดินกึ่งวิ่งเข้ามารายงาน“ทูลหนานเฟย ฝ่าบาททรงว่าราชการเสร็จแล้วพ่ะย่ะค่ะ”หนานอิงยิ้มแล้วกล่าวว่า“ดียิ่ง ว่าแต่ว่าเหตุใดเจ้าจึงดูร้อนรนยิ่งนัก”“ทูลพระหนานเฟย ท่านอาจารย์ให้กระหม่อมมาทูลว่ามีคนถวายฎีการ้องเรียนเกี่ยวกับองค์ชายทั้งสองที่ทรงแกล้งบุตรชายของท่านราชครูขอรับ แต่ฝ่าบาทเอาแต่เข้าข้างองค์ชายจึงอยากให้หนานเฟยช่วยทูลฝ่าบาทเรื่องนี้ด้วยพ่ะย่ะค่ะ”หนานอิงหุบยิ้มโดยทันใด บุตรชายของนางทั้งสองบัดนี้กลายเป็นองค์ชายใหญ่ลู่หานและองค์ชายรองลู่โหยวที่มีพระอาจารย์อ้ายเจิงเป็นคนลงมือสั่งสอนกับมือ เหตุใดจึงได้ไปกลั่นแกล้งบุตรชายของท่านราชครูซึ่งเป็นสหายเรียนด้วยกันได้อันที่จริงก็พี่น้องกันทั้งนั้น ด้วยบุตรชายของท่านราชครูก็คือหลานของนางเอง ด้วยภายหลังมานี้พี่สาวฝาแฝดของหนานอิงนั้นด้วยความรักตัวกลัวตายหลังจากสกุลหนานล่มสลาย นางทั้งสองก็รีบดีดตัวออกจากสกุลหนานโดยไม่คิดข้องเกี่ยวอีกกระทั่งการที่ฮูหยินใหญ่มารดาของพวกนางถูกหนานอิงจัดการพี่สาวทั้งสองก็ยังได้แต่เอ่ยคำว่าอมิตาพุทธไม่คิดแค้นก่อกรรมทำเข็ญต่อไป

  • สองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด   บทที่ 146

    ตอนพิเศษ ยามเมื่อฟื้นคืนทุกอย่างเปลี่ยนผัน ดอกเหมยในลานกว้างเบ่งบานและร่วงหล่นตกกระทบร่างสูงของบุรุษกลุ่มหนึ่งที่เดินฝ่าความมืดมิดโดยมีเพียงแสงโคมนำทางเล็ก ๆ คอยส่องกระทบพื้นบุรุษผู้หนึ่งอยู่ในชุดคลุมยาวสีดำปักลายมังกร ใบหน้าคมคายหล่อเหลานัยน์ตาเปล่งประกายเจิดจ้า แม้ว่าใบหน้านั้นคล้ายจะอมทุกข์และให้ความรู้สึกสูงส่งและเย็นเยียบ อีกทั้งให้กลิ่นอายของความเหี้ยมโหดเอาเสียดื้อ ๆบุรุษผู้นั้นสูดลมหายใจเข้าลึกสูดดมความหอมของกลิ่นบุปผาเข้าปอด นานแล้วที่เขาไม่เคยได้ทำเช่นนี้ คล้ายกลับว่าความหวังอันลางเลือนของเขาพลันกลับมาชัดเจนอีกครั้ง“ฝ่าบาทระวังพ่ะย่ะค่ะ”อดีตพ่อบ้านจวนอ๋องบัดนี้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งกงกงคนสนิทของเขา แม้จะไม่ได้ผ่านพิธีการตอนดั่งเช่นกงกงผู้อื่นแต่เมื่อเขาต้องการก็มิกล้ามีผู้ใดปริปากลู่หนิงหวังก้าวเท้าเร็วกระทั่งไปถึงหน้าตำหนักแห่งหนึ่ง เมื่อผลักประตูเข้าไปด้านในก็พบอ้ายเจิงและหมอหลวงหัตถ์เทวดาอ้ายเสิ่นบิดาของเขารออยู่ด้านในคนทั้งสองทำความเคารพเขา ลู่หนิงหวังยกมือขึ้นห้าม“ไม่ต้องมากพิธี ข้ากับพวกท่านข้าขอเถิด”ถึงเขาจะเป็นฮ่องเต้ของคนในใต้หล้า ลู่หนิงหวังก็ขอสักที่ท

  • สองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด   บทที่ 145

    หนานอิงพยักหน้า จุมพิตปลายคางของหานเซียวอย่างมีความสุขที่ผ่านมาล้วนเป็นนางที่เลี้ยงดูเด็กทั้งสองเพียงลำพัง การคิดตัดสินใจก็ล้วนเป็นนางที่ชี้นำ ในยามนี้การมีหานเซียวเคียงข้างทำให้หัวใจของหนานอิงอบอุ่นยิ่งกว่าจะออกจากห้องก็ฟ้ามืดแล้ว เด็กสองคนบัดนี้วิ่งเข้ามาหานางเหงื่อของพวกเขาโทรมกาย เสื้อผ้าเต็มไปด้วยฝุ่น ฝ่ามือห้อเลือดเล็กน้อยทั้งยังวิ่งเข้ามาร้องไห้โฮกอดขานางพลางฟ้องเสียงสั่น“ท่านแม่ท่านลุงผู้นั้นฝึกวรยุทธ์ให้ข้า ยังให้ข้านั่งท่าม้าอะไรก็ไม่รู้อยู่หลายชั่วยาม เขายังถือไม้จะตีข้าด้วย ป้ายของท่านพ่อเขาก็เอาไปบอกข้าและน้องชายอ่อนแอ ไม่คู่ควรที่จะห้อยมัน”คนผู้นั้นทำหน้าเย็นชา เอ่ยคำหนึ่ง“เป็นบุรุษเรื่องนี้เล็กน้อยยิ่ง ยังร้องไห้งอแงราวเด็กทารก เป็นเช่นนี้จะปกป้องผู้ใดได้”หนานอิงได้ยินเช่นนั้นตกใจยิ่ง ใบหน้าเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงทันควัน"นายน้อยองครักษ์ของท่านผู้นี้ เหตุใดทำให้ลูกชายข้าเจ็บตัวเช่นนี้ การประลองกับเด็กท่านควรออมมือให้มากมิใช่ทำให้พวกเขาบาดเจ็บ ข้าไม่ยอมท่านต้องจัดการเขาให้ข้าด้วย"“อิงอิงเจ้าใจเย็น ๆ ก่อน เขาคงไม่ได้ตั้งใจ”หานเซียวทำท่าประหลาด ทั้งยังมองคนของตนด้วยสายต

  • สองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด   บทที่ 144

    หนานอิงน้ำตาไหลพราก เมื่อเห็นว่ามารดาร้องไห้เด็กทั้งสองรีบวิ่งเข้ามากอดหนานอิงกอดลูกร้องไห้ นานหลายปีแล้วตั้งแต่บุตรชายฝาแฝดเกิดมาที่นางไม่เคยหลั่งน้ำตาอีก"ท่านแม่ท่านร้องไห้ทำไม ท่านลุงหนวดยาวผู้นี้ทำร้ายท่านหรือ ข้าจะตีเขาให้อย่าร้องนะขอรับ"หนานอิงปาดน้ำตา หานเซียวชี้ที่ตัวเอง"ข้ามิได้รังแกแม่ของเจ้า ข้าไม่มีวันทำเช่นนั้น"หนานอิงยิ้มให้เด็กชายทั้งสอง ก่อนจะส่งเด็กน้อยให้แม่นางเหมยเซียง"ข้าไม่ไป ข้าจะสั่งสอนลุงหนวดยาวผู้นี้ที่กล้ารังแกท่าน"หานเซียวอยากจะหยิกแก้มเด็กน้อย อยากจะโอบกอดพวกเขาแต่สองคนนี้ถือตัวและเหย่อยิ่งเป็นอย่างยิ่ง"อย่ามาแตะข้า คนแปลกหน้ามาประลองกัน"หนานอิงเอ่ยเสียงดุ"ไปอยู่กับท่านยาย แม่มีธุระจะสนทนากับคนผู้นี้"ได้ยินเสียงดุของหนานอิงเด็กทั้งสองถึงกับคอตก"ขอรับ"รับคำพร้อมกันแล้วหันหลังเดินไปหาแม่นางเหมยเซียง หานเซียวจึงเอ่ยขึ้น"หากเจ้าอยากประลอง นั่นคือองครักษ์ของข้าเจ้าประลองกับเขาได้ หากชนะจะให้ข้าทำสิ่งใดก็ได้""จริงหรือขอรับ"เด็กสองคนหันมาแล้วเอ่ยพร้อมกันหานเซียวพยักหน้า องครักษ์ผู้นั้นจึงถูกเด็กถือตัวทั้งสองยอมแตะต้องตัวเขาแล้วลากจูงไปข้างนอกเพื่

  • สองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด   บทที่ 143

    หานเซียวและองค์รักษ์ของเขาแอบตามเด็กน้อยอย่างเงียบเชียบ เห็นเด็กสองคนนี้ถูกแยกออกมาจากเด็กผู้อื่นและมีอาจารย์ใหญ่ของสำนักศึกษาคอยสอนให้เป็นพิเศษก็เกิดสงสัยเป็นอย่างยิ่งเป็นถึงหลานของแม่นางเหมยเซียง เหตุใดจึงไม่ให้มาเรียนที่สำนักศึกษาทั้งที่มีเงินทองมากมายปานนั้น เขารอจนกระทั่งเด็กทั้งสองออกมาแล้วจึงแสร้งไปตีสนิทเพื่อพูดคุยด้วย"ท่านแม่บอกว่าห้ามพูดกับคนแปลกหน้า ข้าไม่บอกท่านหรอกอย่ามาหลอกเด็กเลย"กล่าวจบพวกเขาก็วิ่งด้วยฝีเท้าที่เร็วยิ่ง องครักษ์ทั้งสองต่างมองหน้ากันเด็กสองคนนี้เป็นวรยุทธ์แต่ผู้ใดกันแน่ที่เป็นผู้สอนพวกเขาตามเด็กมาจนถึงหอนางโลมเด็กทั้งสองปีนกำแพงกลับเข้าไปดังเดิมมีบางสิ่งบางอย่างหล่นออกมาจากสาบเสื้อ ด้วยความเป็นเด็กจึงไม่ทันระวัง องครักษ์ผู้หนึ่งก้มลงเก็บของกำลังจะอ้าปากบอกพวกเขาแต่สิ่งที่อยู่ในมือช่างคุ้นตาเป็นอย่างยิ่งคนทั้งคู่ต่างตกตะลึงแล้วพวกเขาตามเด็กเข้าไปในหอนางโลม ขอพบแม่นางเหมยเซียงเป็นการด่วนและถามเรื่องเกี่ยวกับเด็กอย่างตรงไปตรงมาแม่นางเหมยเซียงคิดว่าคนพวกนี้ไม่กลับไปง่าย ๆ แน่ จนกว่าจะได้คำตอบจึงเอ่ยว่า"นายท่านองครักษ์อย่าได้คิดมากไปเจ้าค่ะ แม่ของเด็

  • สองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด   บทที่ 142

    หลายเดือนต่อมาคนของอ้ายเจิงเร่งรุดไปแจ้งว่าหนานอิงคลอดบุตรแล้วแต่เมื่ออ้ายเจิงเร่งออกมาพบนางเขากลับพบเพียงความว่างเปล่าอยู่ที่คฤหาสน์ที่เขาจัดเตรียมไว้ หนานอิงหายไปอย่างไร้ร่องรอยทิ้งเพียงจดหมายฉบับหนึ่งเอาไว้ข้ากับลูกที่ผ่านมาขอบคุณท่านมาก ต่อไปพวกเราขอใช้ชีวิตตามลำพังเถิด อ้ายเจิงปวดหัวเป็นอย่างยิ่ง เขาจะทำเช่นไรดีเล่าครานี้ ทำเมียกับลูกผู้อื่นหายเช่นนี้ครานี้แม้แต่หัวคงไม่อาจรักษาเอาไว้ได้ที่ผ่านมาหนานอิงเองก็เชื่อฟังมาตลอดมิใช่หรือ แต่เหตุใดครานี้จึงหายไปโดยไม่บอกกล่าวกันเช่นนี้กระทั่งหลานเป็นชายหรือหญิงเขาเองก็ยังไม่รู้ สตรีผู้นี้ทำให้อ้ายเจิงปวดหัวแล้วอ้ายเจิงออกติดตามหาหนานอิงแทบจะพลิกแผ่นดิน แต่กลับไม่พบแม้คนของเขาจะมีอยู่มากมายแต่เขาลืมไปว่ามือสังหารของเขาล้วนเป็นสตรีหนานอิงได้รับคำสั่งแต่งตั้งจากลู่หนิงหวังให้เป็นหัวหน้ามือสังหาร แน่นอนว่าคนพวกนั้นย่อมรับคำนั่งนางและไม่ยอมปริปากบอกที่ซ่อนของนางให้ผู้ใดรู้อ้ายเจิงจึงต้องคลำทางประดุจคนตาบอด ค้นหาตัวนางด้วยตนเอง ลู่หนิงหวังมีโทสะแล้ว เขาสั่งให้คนวาดภาพเหมือนหนานอิงประกาศหาตัวไปทั่วแคว้น หากผู้ใดจับได้จะมีรางวัลเพราะส

  • สองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด   บทที่ 141

    หนานอิงเดินเหม่อลอยมาเรื่อย ๆ นางมิได้ใช้มีดสั้นที่ลู่หนิงหวังและหานเซียวแล้วจึงเก็บเอาไว้ในหีบอย่างดี แต่นางยังพกหยกติดกายอยู่ตลอดเวลาหนานอิงรู้สึกหิวเล็กน้อยพบร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่ตรงหน้าจึงเดินเข้าไปสั่งก๋วยเตี๋ยวมาชามหนึ่ง กินอย่างซึมกะทือไร้ชีวิตจิตใจกินไปได้เพียงสองสามคำกลับรู้สึกอยากอาเจียนเป็นอย่างยิ่งหนานอิงจ่ายเงินวิ่งไปอาเจียนที่ข้างกำแพง ศีรษะมึนเล็กน้อยนางนั่งลงรอจนกระทั่งตนเองรู้สึกดีขึ้นจึงคิดว่าตนเองคงเครียดไปจึงเกิดอาการประหลาดหลายวันต่อมาอาการของหนานอิงกลับไม่หายไป แต่นางอดทนและฝืนตนเองเอาไว้นางพบลู่หนิงหวังในยามที่เขามาฝึกซ้อมยิงธนู หนานอิงกลายเป็นองครักษ์ของเขาเต็มตัวจึงต้องคอยอยู่ข้างเขาตั้งแต่เข้าวังมาลู่หนิงหวังเห็นใบหน้าของนางซีดเซียวแรงของลูกศรที่ปักลงตรงเป้าดูเบากว่าเดิมจึงเอ่ยเสียงเย็น"มีตำแหน่งเป็นถึงองครักษ์ของฮ่องเต้แต่กลับปล่อยให้ตนเองไม่สบาย มีโทษโบยสามสิบไม้"อ้ายเจิงถอนหายใจ เขาเอ่ยเบา ๆ "ฝ่าบาทอย่าทรงแกล้งนางเลย"ลู่หนิงหวังเพียงเอ่ยว่า"เห็นวาจาของฮ่องเต้เป็นคำล้อเล่นหรือ ชิชะท่านเสนาบดีผู้นี้คิดจะแข็งข้อกับข้าหรือ"อ้ายเจิงมิได้กลัวเขาอยู่แล้ว

  • สองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด   บทที่ 140

    บทที่ 140 ตอนพิเศษ เหตุการณ์หลังความตายของหานเซียวพิธีศพของหานเซียวถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายและยังถูกปิดบังมิให้ผู้ใดรู้กระทั่งฝ่าบาทเองด้วยบัดนี้ภายในวังยุ่งเหยิงเป็นอันมาก ลู่หนิงหวังหลังจากจัดการกับกบฏองค์รัชทายาทถูกขับออกไปยังชายแดนทั้ง ๆ ที่ร่างกายพิการแขนขาดตาบอดบัดนี้เหตุการณ์สงบสุข ลู่หนิงหวังเองได้กวาดล้างคนขององค์รัชทายาทจนไม่มีผู้ใดกล้าก่อความไม่สงบเพียงแต่ครานี้หาได้ฆ่าคนดั่งเช่นที่เคยเกิดขึ้นอย่างเช่นในรัชสมัยก่อน ขุนนางให้ปลดจากตำแหน่งส่งไปชายแดนอันกันดารเพื่อใช้แรงงานรวมทั้งเด็กชายอายุสิบสองขวบขึ้นไปสตรีและเด็กต่ำกว่าสิบสองขวบให้ไปเป็นชาวนาปลูกข้าวให้ราชสำนักห้ามมิให้ทายาทถัดไปอีกสิบรุ่นรับราชการหรือประกอบอาชีพอื่น แม้จะถูกคัดค้านว่าอาจทำให้คนพวกนี้หาทางกลับมาแก้แค้นลู่หนิงหวังกลับหาได้สนใจ"ไม่ว่าจะฆ่ามากเท่าใดคนคนพวกนี้คิดการใหญ่อย่างไรก็ต้องหาทางกลับมาล้างแค้น เขาสังหารคนมามากในสงครามย่อมรู้ดีว่าการฆ่ามิใช่ทางออกสำหรับผู้บริสุทธิ์"คนสกุลหนานที่ยังหลงเหลือบัดนี้มาคุกเข่าที่หน้าจวนขอร้องให้หนานอิงช่วยชีวิตพวกเขา บ่าวไพร่ที่เคยดีต่อหนานอิงอาฉีจัดการตามสัญญาปล่อยพวก

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status