Share

ตอนที่ 2 เด็กเถื่อน

last update Last Updated: 2025-11-30 21:55:13

กุลวดีลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยอาการสะลึมสะลือ ตาพร่ามองดูเพดานสีขาวด้านบนที่ประดับด้วยโคมไฟห้อยระย้าราคาแพงที่ไม่คุ้นตา เธอกวาดสายตาไปรอบบริเวณเสียงคนสนทนาดังแว่วเข้าหู ภาพเหตุการณ์วิ่งเข้ามาในความทรงจำ หญิงสาวลุกพรวดขึ้นมาทันที พร้อมเซถลาเพราะอาการปวดหนึบที่หัวเหมือนเอาก้อนหินมาผูกถ่วงไว้ จนต้องนั่งลงอีกครั้งที่โซฟาหรูอันเดิม

          “ยัยมายด์”

ทันทีที่เห็นหน้าพี่สาวเธอก็โผเข้ากอดทันที กอดแน่นเหมือนกลัวหลุดหายไป น้ำใส ๆ เอ่อล้นขอบตา แม้ในเวลาที่เธอต้องการที่สุดหญิงคนเดิมก็โผล่มาให้เห็น

          “พี่เป็นห่วงแทบแย่ ไม่เป็นไรใช่ไหม” ถามทั้งที่ยังกอดอยู่

“มายด์มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”

เธอผละออกจากอ้อมแขนของเมยาวี และถามหลังจากคลายความตื่นตระหนก

“คุณเสือเขาเห็นเหตุการณ์พอดี เลยช่วยมายด์ไว้ได้ทัน”

เมยาวีหันมาทางชายหนุ่ม หญิงสาวหันไปมองตามพี่สาว แต่ยังไม่ทันจะขอบคุณคนที่ช่วยเธอไว้หน้าไอ้เจิดก็ลอยมาทันที

          “ไอ้เจิด มันมากับใครไม่รู้”

“ไอ้เจิดเหรอ” เมยาวีทวนชื่ออีกครั้ง ผู้เป็นน้องพยักหน้า

“ไอ้เจิด” หรือ “บรรเจิด” ผีพนันสามีสุดที่รักของผู้เป็นแม่ หลังจากที่พ่อจากไปได้ไม่นาน แม่ของเธอก็พบรักใหม่กับไอ้เจิด คบหาดูใจกันได้ไม่นานแม่ก็พามันเข้ามาอยู่บ้าน ความสุขในชีวิตซึ่งไม่เคยจะได้รับจากผู้เป็นแม่อยู่แล้ว ขาดสะบั้นลงทันทีเมื่อบวกกับความเป็นไอ้เจิดเข้าไป

สองพี่น้องไม่สามารถแยกออกจากกันได้ไม่ว่าจะกินหรือนอน เพราะต้องคอยหวาดระแวงไอ้ชั่วที่อยู่ในบ้านในเวลาที่แม่ไม่อยู่ จากแววตาหื่นที่ออกจากสมองชั่วของไอ้เจิดมีหรือสองพี่น้องจะมองไม่ออก มีแค่แก้วตาเท่านั้นที่เหมือนจะตาบอดเรื้อรัง สุดท้ายบ้านที่พ่อแลกมาด้วยหยาดเหงื่อก็ต้องถูกยึดไป ด้วยฝีมือสองผัวเมียผีพนัน

บริษัทกิตติณรงค์

กุลวดีแต่งกายในชุดยูนิฟอร์มวันแรกของการเริ่มงานใหม่ หญิงสาวนั่งรอในห้องอบรมของบริษัทอย่างตื่นเต้น โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายฝึกอบรมได้เตรียมข้อมูลก่อนเริ่มงานตามระเบียบของบริษัท เพื่อทำความเข้าใจในระบบงานทั้งหมด ก่อนเริ่มงานในแผนกการตลาด และจากนั้นทวีได้มอบหมายให้ “อภินันท์” ผู้ช่วยหนุ่มคนเก่งมือขวาของเขาป้อนงานสำคัญสำหรับเตรียมการให้กุลวดี เพื่อเป็นผู้ช่วยแบ่งเบางานของเมยาวีในอนาคต

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วในเดือนแรกของการทำงาน หญิงสาวไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามกลับรู้สึกดีกับงานตรงหน้าเสมอ ทำให้ลืมเรื่องราวที่คอยป่วนประสาทของเธออยู่บ่อย ๆ หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น ทวีให้เธอย้ายมาอยู่ที่บ้านกิตติณรงค์พร้อมกับเมยาวีเพื่อความปลอดภัย บ้านหลังใหญ่ที่ก่อนหน้ามีแค่ทวีที่เป็นเจ้าของบ้านอาศัยอยู่ และมีป้าดาวเรืองแม่บ้านคนเก่าคนแก่ของบ้าน และสาวใช้อีกหนึ่งราย รวมคนขับรถอีกหนึ่ง

ตอนเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ของกุลวดี บรรยากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝนเหมาะสำหรับการทำอาหารพักผ่อนสมองของเธอในวันนี้ ประจวบกับป้าดาวเรืองแม่บ้านและน้ำฝนหลานสาว ที่เพิ่งขอลาหยุดไปธุระงานศพต่างจังหวัดพร้อมกัน และเธอจะอาสาโชว์ฝีมือทำอาหารให้พี่สาวและพี่เขยในวันนี้

เสียงฮัมเพลงเบา ๆ ดังมาจากในครัวเป็นเสียงที่ไม่คุ้นหู ทำให้ชายหนุ่มที่เพิ่งตื่นเดินตามเสียงไป หลังจากหลายเดือนที่ไม่เคยกลับมานอนค้างบ้าน คอนโดคือที่ส่วนตัวในการใช้ชีวิตตามแบบฉบับของเขา

กุลวดีก้ม ๆ เงย ๆ อยู่หน้าเตาในครัว เธอสวมเสื้อยืดตัวโคร่งคลุมยาวถึงน่อง พร้อมผ้ากันเปื้อนสำหรับทำอาหาร มองผิวเผินแทบไม่เห็นกางเกงขาสั้นที่สวมอยู่ ผมยาวสลวยตอนนี้ถูกเกล้าขึ้นสูงแบบง่าย ๆ เรียวขายาวเดินก้าวไปมาวุ่นอยู่คนเดียว ปากก็ฮัมเพลงเบา ๆ ไปเรื่อย ชายหนุ่มยืนกอดอกพิงประตูมองดูเจ้าของเสียงที่มือกับปากแข่งกันทำหน้าที่

ภาพในความทรงจำเก่าก็ผุดขึ้นมา หล่อนคงจำเขาไม่ได้ ไฟสลัวในวันที่อากาศเป็นใจ จากประสบการณ์ส่วนตัวไม่ต้องเดาให้ยากกับความไม่ประสีประสาของหล่อนในคืนนั้น แต่ที่แปลกใจกว่านั้นคือหล่อนทำไปทำไม หากเดือดร้อนเรื่องเงินแค่บอกพี่สาวก็คงไม่ยาก พ่อเขาเองก็มีเงินมากมายใช้จนตายก็ไม่พร่อง

“คุณเสือ”

เสียงเรียกจากด้านหลังทำให้หญิงสาวปิดสวิตช์เสียงเพลงที่ปากทันที เมยาวีที่เดินเข้าครัวทักทายจักรพรรดิ

“เมย์ไม่ทราบมาว่าค้างที่บ้าน”

เขาไม่ตอบแค่ยิ้มน้อย ๆ เท่านั้น เดินตรงไปที่มุมกาแฟก่อนจัดแจงให้ตัวเองด้วยความเคยชินจนเรียบร้อยโดยไม่ต้องพึ่งแม่บ้านแล้วเดินออกไป

อาหารเช้าถูกจัดเตรียมไว้พร้อมเต็มโต๊ะ สมาชิกบนโต๊ะอาหารวันนี้เพิ่มเป็นสี่ราย กุลวดีที่ยังไม่ตักอาหารใส่ปากลอบมองชายหนุ่ม

          “เอ่อ…คือ วันนั้นมายด์ยังไม่ได้ขอบคุณคุณเสือเลยค่ะมัวแต่ตกใจ”

“ขอบคุณมากนะคะ”

ก้มศีรษะเล็กน้อยและยิ้มอย่างสุภาพ

“ไม่เป็นไร”

ตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉยหันมามองแค่ครู่เดียว แล้วตักข้าวเข้าปากเคี้ยวเหมือนไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร

“อินโทรเวิร์สแน่นอน” กุลวดีคิดในใจ

ดีเหมือนกันที่เขาไม่สนใจ ยังไงเสียหากเขาไม่ปลื้มแล้ววุ่นวายกับเธอมาก ๆ คงจะอยู่ลำบาก เพราะที่นี่เป็นบ้านของเขา และที่ดีไปกว่านั้นคือ ทวีก็บอกแล้วว่าสองชาติเขาจะกลับมาบ้านแค่ครั้งสองครั้งเท่านั้นเอง

“งานยุ่งมากไม่ค่อยได้มีเวลาคุยกันเลย”

“แล้วตำรวจว่าไงบ้าง จับคนร้ายได้หรือยัง” ทวีเอ่ยขึ้น

“ยังเลยค่ะ”

เธอขี้เกียจอธิบาย ยังไงเสียหล่อนก็คงไม่ปล่อยให้ไอ้พ่อเลี้ยงหน้าเป็ดนั่นลอยนวลไปง่าย ๆ แน่

เนื่องจากเมยาวีต้องเดินทางไปทำงานพร้อมกับสามีในทุกวัน รถที่เธอเคยใช้ประจำจึงตกมาเป็นของกุลวดีโดยปริยาย เพื่อความสะดวกในการเดินทางและสิ่งสำคัญคือความปลอดภัยจากไอ้ชั่วเจิดและพวกของมัน

กุลวดีเดินเข้าที่ทำงานตามปกติในตอนเช้ากับบรรยากาศเดิมที่คุ้นเคย แต่สิ่งที่แปลกไปคือมีแม่บ้านของสำนักงานเข้าปัดกวาดเช็ดถูทำความสะอาดสองห้องที่อยู่ติดกัน นับตั้งแต่กุลวดีเข้ามาทำงานที่กิตติณรงค์ ยังไม่เคยเห็นสองห้องนี้เปิดไฟเลยสักครั้ง คือห้องผู้จัดการฝ่ายการตลาด และห้องรองประธาน

กองแฟ้มมหึมาตรงหน้าที่แทบจะมองไม่เห็นคนที่นั่งหลังโต๊ะทำงาน

“ขนมาทำไมเยอะแยะ”

ชายหนุ่มเอ่ยถาม อภินันท์ ผู้ช่วยของทวี

“ท่านประธานสั่งครับ ให้คุณจักรพรรดิดูรายละเอียดทั้งหมดนี้ภายในอาทิตย์นี้ครับ”

“และให้รายงานท่านก่อนเข้าประชุมในวันจันทร์หน้าครับ”

ชายหนุ่มเบือนหน้ามองออกนอกกระจกห้อง คิดเหรอว่าเขาจะนั่งอ่านเรื่องพวกนี้เป็นวักเป็นเวรไม่รู้กี่แฟ้มต่อกี่แฟ้ม ก็บอกแล้วว่าเขาไม่ชอบงานเอเจนซีที่จิดาภารักนักรักหนา แต่ผู้เป็นพ่อก็พยายามยัดเยียดให้ไม่มีที่สิ้นสุด

“ถ้าไม่อย่างงั้น….”

“ท่านประธานจะอายัดบัตรทุกใบ ยึดรถและคอนโดคืนครับ”

หันขวับมามองผู้พูดทันที อภินันท์ โค้งคำนับอย่างสุภาพและเดินออกไป

ทวีเงยหน้าขึ้นจากเอกสารตรงหน้าหันมองตามเสียงเคาะที่ประตูหน้าห้อง

“เข้ามาสิ”

“มีอะไรก็ว่ามา”

รู้อยู่แล้วว่ายังไงก็ต้องโผล่หน้ามา ชายหนุ่มนั่งลงเก้าอี้ด้วยท่าทีใจเย็น แต่ข้างในคือความขุ่นเคืองจากการกระทำของผู้เป็นพ่อ

“ผมก็มาช่วยงานคุณพ่อตามคำขอแล้ว จะบีบบังคับอะไรผมอีก”

“ถ้าฉันไม่บีบ แกจะทำไหม๊ล่ะ”

“มาช่วยงาน แต่ไม่รู้เรื่องงาน แกจะช่วยทำผีอะไรได้”

“ผมบอกไปแล้วว่าผมไม่ชอบงานการตลาด” เขาอธิบายความเป็นตัวเอง

“พอให้ดูงานส่งออกแกก็บอกไม่อยากเป็นรองประธาน การตลาดแกก็ไม่เอา”

“นี่ไอ้เสือ…ฉันไม่เข้าใจแกจริง ๆ เลย กองเงินกองทองท่วมหัวอยู่ตรงหน้า แกจะดิ้นรนทำโปรเจคส่วนตัวของแกไปเพื่ออะไรกัน ฉันจะตายวันตายพรุ่งยังไม่รู้เลย มรดกที่สุมหัวฉันอยู่นี่มันก็ของแกทั้งนั้น”

ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย

“ยังไงแกก็ต้องดูงานการตลาด ให้มันซึมเข้าไปในสมองของแก”

“เพราะยังไงมันก็เป็นสมบัติของแก ฉันตายไปก็เอาไปไม่ได้สักบาท แกต้องดูจนกว่าจะหาคนที่เหมาะสมในตำแหน่งนี้แทนแกได้ และหลังจากนั้นแกก็ต้องรับตำแหน่งรองประธานโดยที่ไม่มีข้อแม้”

คนฟังที่นั่งไขว่ห้างหน้านิ่งถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนหน้านั้นที่จิดาภานั่งตำแหน่งรองประธาน ส่วนตัวเขารับตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาดช่วยงานจิดาภา ลักษณะของงานไม่มีอะไรซับซ้อนวุ่นวาย แต่สิ่งที่เป็นปัญหาสำหรับเขาคือภาพของพี่สาวที่ต้องคอยเอาอกเอาใจลูกค้า เห็นแล้วมันขัดหูขัดตาไปเสียหมด จนต้องแยกตัวเองออกไปทำโปรเจคทองกับพีรภัส

“เอาล่ะ เอาไว้ฉันจะหาคนช่วยแกก็แล้วกัน” พูดตัดบท และสรุปให้

“ค่อย ๆ เรียนรู้ไปมีอะไรก็บอก” ผู้เป็นพ่อพูดเสียงอ่อนลงอย่างเหนื่อยใจ

กุลวดีและอภินันท์ ยืนรออยู่ด้านหลัง ในมือถือเอกสารรอเข้าพบท่านประธานอยู่ ทวีพยักหน้าส่งสัญญาณให้เข้ามา

“งั้นให้คุณอภินันท์ไปช่วยผม”

“ไม่ได้”

ผู้เป็นพ่อเสียงแข็งสวนทันควัน

“อภินันท์เขาดูงานส่งออกทั้งหมดของฉันก็ไม่มีเวลาเหลือแล้ว ไหนจะงานอสังหาฯ อีก”

“งั้นก็”

ชี้มือมาที่กุลวดี ผู้หญิงน่าจะเอาใจลูกค้าได้ดีกว่า เขาคิดในใจ

กุลวดีที่นั่งอ่านรายละเอียดของงานที่อภินันท์ขนมาวางทีละแฟ้มอย่างตั้งใจ ส่วนเจ้านายหนุ่มหายหัวออกไปข้างนอกตั้งแต่สั่งงานเธอเสร็จ มีเวลาอีกหลายวันที่ต้องบันทึกข้อมูลลงในหัว และสรุปไว้เป็นหัวข้อให้เขาตามคำสั่งที่เขาต้องรายงานประธานก่อนเข้าประชุม

หลังเลิกงานหญิงสาวหอบแฟ้มกลับไปอ่านต่อที่บ้าน จากที่เพิ่งเริ่มงานใหม่ได้ไม่นาน และถูกดึงตัวให้เข้ามาช่วยงานเจ้านายหนุ่มที่ไม่มีความต้องการในตำแหน่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ดูเหมือนว่าหล่อนจะมีความพยายามทำความเข้าใจในงานที่ต้องรับผิดชอบของเจ้านายอยู่ฝ่ายเดียว

จักรพรรดิเรียนรู้เร็วและหัวไวมาตั้งแต่เด็ก ๆ ข้อนี้ทวีเข้าใจได้เป็นอย่างดี หากเขาชอบและคิดจะทำอะไรไม่มีว่าจะไม่สำเร็จ แต่ข้อเสียของเขาคือไม่ชอบให้ใครมาบงการชีวิต ทำให้ทวีต้องงัดมาตรการขั้นเด็ดขาดมาขู่เขา

กุลวดียื่นแฟ้มที่เธออ่านจนตาแฉะมาหลายวันและสรุปประเด็นสำคัญไว้เป็นหัวข้อสั้น ๆ ไว้ให้เจ้านายหนุ่ม

“เรียบร้อยค่ะ”

“พรุ่งนี้ประธานมีประชุมช่วงบ่ายนะคะ ผู้จัดการต้องรายงานท่านตอนเช้าค่ะ”

จักรพรรดิมองหน้าเลขาคนใหม่ ที่เปลี่ยนสรรพนามเรียกเขาตามตำแหน่ง แต่อยู่บ้านเธอจะเรียกชื่อเขา ซึ่งไม่เข้าใจว่าจะแยกให้ปวดไปหัวทำไม หยิบแฟ้มตรงหน้าที่หญิงสาววางไว้เปิดอ่านผ่านตาแค่ลวก ๆ ไม่กี่วินาทีก็ยื่นคืนให้เธอ

“อ่านให้ผมฟัง”

“โอ้ว…โหว พ่อคุณ นี่เขาจะหายใจรับออกซิเจนอย่างเดียวเลยหรือยังไง”

หญิงสาวที่ยืนอึ้งต้องสะดุ้งเมื่อเขากระแอมและมองหน้าแทนคำถาม

“ค่ะ”

ชายหนุ่มเอนกายพิงพนักเก้าอี้และหลับตาอย่างผ่อนคลาย ฟังเสียงคนตัวเล็กที่รับบทเป็นเด็กนักเรียนอ่านหนังสือให้เขาฟังอยู่ตรงหน้า

“นี่เหรอพ่อเนื้อทองที่สาว ๆ คลั่งไคล้”

กุลวดีอ่านไปเรื่อย ๆ และคอยลอบมองใบหน้าคมที่หลับอย่างสบายใจขณะเว้นวรรคและเปลี่ยนแฟ้ม ยิ่งมองใกล้ ๆ ยิ่งเห็นความหล่อคมเข้มของใบหน้าที่เรียบเฉยตลอดเวลาของเขา ทรงดีดูสุขุม แถมรวยอีกต่างหาก แบบนี้สาว ๆ ถึงได้กรี๊ด เธอคิดในใจและเริ่มอ่านต่อ

“ดัง ๆ หน่อยไม่ได้ยิน”

เขาพูดขณะหลับตาอยู่ หญิงสาวเพิ่มระดับเสียงขึ้นตามคำสั่งของคนที่กำลังหลับตาอยู่ เหมือนกำลังท่องอาขยานให้ครูฟังก่อนเลิกแถวกลับบ้าน แต่เสียงก็ค่อย ๆ เบาลงอัตโนมัติด้วยความล้าและคอแห้ง แต่ก็ต้องเพิ่มระดับให้ดังขึ้นอีกจากการกระแอมเตือนของคนตรงหน้า

          จักรพรรดิลืมตามองหน้านกแก้วนกขุนทองที่เสียงใสเจื้อยแจ้วอยู่ตรงหน้า เธอยืนถือแฟ้มอยู่ในมือสายตาจดจ่ออยู่ที่ตัวหนังสือด้านใน ดวงตากลมโตที่หลุบลงต่ำจนเห็นแผงขนตางอนดำขวับ ปากเล็กที่ส่งเสียงตามตัวหนังสือขยับอยู่ตลอดเวลา และเว้นช่วงกลืนน้ำลาย

ภาพในวันนั้นที่เลือนรางขาด ๆ หาย ๆ ผ่านเข้ามาในหัว มือเล็กที่เหมือนจะไม่มีเรี่ยวแรงของเธอเอาแต่ผลักอกเขาออก และส่ายหน้าพูดพึมพำฟังไม่ได้ความ ยังติดในหัวของเขาเป็นคำถามอยู่

“ไอ้พีมันไปหาเด็กไม่ประสีประสาคนนี้มาได้ยังไง”

ในวันวุ่นวายของประชุมใหญ่ประจำสัปดาห์ของประธานทวี เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายเดินสวนเข้าออกในห้องประชุมตลอดทั้งวัน ตามตารางรายงานผลการทำงานของแผนก

“วันนี้ประธานมีประชุมยาว แต่นัดคุณ โฆษิต ทานข้าวกลางวันไว้”

“ให้ผมมาแจ้งคุณจักรพรรดิไปแทนครับ” คือคำบอกกล่าวของอภินันท์

เสียงรองเท้าส้นสูงที่กระทบพื้นถี่ ๆ ของหญิงสาวที่เดินกึ่งวิ่งตามร่างสูงลงมาจากสำนักงาน แบบไม่ได้เตรียมตัว ชายหนุ่มเป็นคนขับและพ่วงเลขาสาวติดมาด้วยในนัดมื้อกลางวันกับลูกค้าวันนี้

อาหารมื้อกลางวันผ่านไปอย่างราบรื่น ลูกค้าสูงวัยที่มากับบุตรชายเหมือนจะชื่นชอบการเอาใจใส่ของกุลวดีอย่างมาก เนื่องจากหญิงสาวเคยได้ยินเมยาวีและทวีพูดกันบ่อยครั้งในโต๊ะอาหารมื้อเย็น เกี่ยวกับธุรกิจของนายโฆษิต และเขามีความสนใจเข้าร่วมเป็นคู่ค้ากับ กิตติณรงค์ ในอนาคต การสนทนาในวันนี้เป็นการพูดคุยเรื่องทั่วไป โดยหญิงสาวถือไวน์ชั้นดีติดมือมาด้วย เป็นของฝากจากท่านประธานที่มอบให้กับนายโฆษิตแทนคำขอโทษที่ผิดนัดในวันนี้

เมื่อเจ้านายหนุ่มที่มาด้วยเอาแต่อมสากกะเบือ หรือไม่ก็คงกลัวดอกพิกุลจะร่วง ทำให้ปากหุบอยู่อย่างนั้น นาน ๆ จะมีครับว่า “ครับ” และยิ้มมุมปากจากพ่อรูปหล่อสักครั้ง หากปล่อยไปตามยถากรรมอาหารมื้อกลางวันครั้งนี้อาจเป็นมื้อสุดท้ายในการพูดคุยกับลูกค้ากระมัง กุลวดีที่รับรู้เรื่องราวของเขาตามที่ทวีเรียกพบก่อนให้เธอมาฝึกเป็นเลขาเพื่อช่วยงานเขา จึงไม่เป็นปัญหาที่เธอจะปรับตัวให้เข้ากับการทำงานของเจ้านายหนุ่ม และเพื่อความรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ด้วยความสบายใจ

“เสร็จธุระแล้วผู้จัดการกลับก่อนได้เลยนะคะ”

“มายด์ขอไปทำธุระใกล้ ๆ นี้แป๊บนึงเดี๋ยวกลับเองค่ะ”

เธอเอ่ยหลังจากเดินออกมาจากร้านอาหาร

“นานไหม๊” ถามหน้านิ่ง ไหน ๆ ก็ขี้เกียจเข้าบริษัทอยู่แล้ว

“คะ ?”

“ไม่รีบ รอได้ เดี๋ยวไปส่ง”

“เอ่อ…คือ” จะบอกว่าอยากไปคนเดียวแต่ต้องหยุดคำพูดไว้แค่นั้น จากสายตาที่ตวัดขึ้นมองแบบ “อย่าขัดใจ”

“จอดรอมายด์ตรงนี้ก็ได้ค่ะ มายด์ไปแป๊บเดียว”

“แต่ถ้าผู้จัดการมีธุระไปก่อนได้เลยนะคะ มายด์เกรงใจ” เธอพูดก่อนลงจากรถไป

เขาแค่พยักหน้า

หญิงสาวก้าวขาเดินฉับ ๆ ตรงไปจนสุดทางห่างรถออกไปเรื่อย ๆ

“รถก็ขับไปต่อได้จะเดินให้เหนื่อยทำไม”

เขาคิดในใจ และเคลื่อนรถออกไปช้า ๆ ตามร่างเล็กที่เพิ่งเลี้ยวจนลับสายตาไป กุลวดีกดโทรศัพท์พูดคุยสักครู่ก็วางสาย หนุ่มนิรนามอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับหญิงสาวสามราย เดินออกมาจากตลาดสดพูดคุยกันสักพักก็เดินต่อไปด้วยกัน

“ไม่ได้เจอกันนานเลยมายด์ สบายดีนะ”

ชายหนึ่งในสามเอ่ยถามกุลวดี

“เก่ง” บุตรชายเสี่ย “วิชัย” เจ้าของตลาดสดและบ่อนพนันที่มีอิทธิพลในย่านนี้ รวมถึงแหล่งเงินกู้สีเทารายใหญ่ แม้แต่ตำรวจก็ต้องก้มหัวให้กับส่วยก้อนโตที่เขาจ่ายให้อยู่เป็นประจำ

ผู้ซึ่งตามจีบกุลวดีตั้งแต่ ม.ต้น ยัน ม.ปลาย ไม่เปลี่ยนแปลง พ่อของเขาเป็นแหล่งเงินกู้เบอร์หนึ่งของแม่เธอและไอ้เจิด และเขาคือคนเดียวที่จะทำให้ความฝันของเธอเป็นจริง กับการแก้แค้นไอ้ชั่วชาติหมาหน้าเป็ดอย่างไอ้เจิด ไม่งั้นเธอคงนอนตายตาไม่หลับเป็นแน่

หญิงสาวขอให้เก่งส่งข่าวหา หากสามีสุดที่รักของผู้เป็นแม่แวะมาบ่อนของเสี่ยวิชัย ไอ้เก่งที่ร้ายได้กับทุกคนและทุกเรื่องแต่เป็นเทพบุตรสำหรับกุลวดีเสมอ มีเหรอที่เขาจะปฏิเสธในการช่วยเหลือ

“อืม…สบายดี งานยุ่งด้วยน่ะไม่ค่อยได้มาแถวนี้”

“เก่งเป็นไงบ้าง คงสบายดีนะ” ผู้ถูกถามพยักหน้า

เดินและพูดคุยถามไถ่กันไปตามถนนคับแคบในซอย ผู้คนเดินสวนไปมาตลอดเส้นทาง เสียงพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดแหกปากขายของกันอย่างคึกคัก

“มีอะไรให้ช่วยก็บอกเราได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ”

หญิงสาวยิ้มแทนคำขอบคุณ

สองหนุ่มสาวยืนพูดคุยกันรออยู่หน้าตึกคูหาสามชั้น ไม่นานสมุนสองนายของไอ้เก่งก็เดินมาพร้อมกับพ่อเลี้ยงของหล่อน สองหนุ่มสาวยืนกอดอกมองหน้าไอ้เจิดอย่างใจเย็น ผู้ถูกจ้องหน้าค่อนข้างแปลกใจปนตกใจที่เห็นหญิงสาวแต่คุมอาการไว้ ส่วนไอ้เก่งผู้ภักดีในความรู้สึกที่มีต่อหญิงตรงหน้า รับรู้เรื่องราววีรกรรมของไอ้เจิดจากสาวในดวงใจ ตอนนี้เลือดในร่างมันเดือดปุด ๆ

“จับมันไว้”

สิ้นสุดคำสั่งสองสมุนก็ล็อกแขนไอ้เจิดคนละข้างแน่นราวกับคีมเหล็ก หญิงสาวตัวเล็กที่สวมส้นสูงพร้อมชุดยูนิฟอร์มกระโปรงสั้นเหนือเข่าเดินตรงไปหาไอ้เจิดที่โดนล็อกปีกไว้

“อะไรวะไอ้มายด์” ไอ้เจิดโวยวาย

“เก่ง…มีอะไรค่อยพูดค่อยจากันก็ได้”

สิ้นเสียงกำปั้นเล็กก็เสยเข้าปลายคางจนหน้าหงาย มันส่ายหน้าไล่ความมึน แต่ก็ได้แค่ชั่วครู่ เมื่อกำปั้นเล็กกระแทกซ้ำเข้าที่ขากรรไกรซ้าย และหยุดให้มันหายใจรับออกซิเจนเข้าปอด ก่อนจะตบท้ายด้วยการฝังกำปั้นลงที่กลางจมูก เลือดข้น ๆ ซึมออกที่รูจมูกของไอ้เจิด หญิงสาวสะบัดมือไปมาคลายความเจ็บจากกระดูกหน้าที่ปะทะกับกำปั้น คนเจ้าเล่ห์อย่างได้เจิดมันต้องใช้ตัวช่วย

“นี่มันยังน้อยไปสำหรับแก ที่ทำกับฉันในคืนนั้นไอ้เจิด” เธอพูดเสียงต่ำและกัดฟันแน่น

ผู้คนที่เดินไปมาในละแวกนั้นหยุดมุงดูแต่ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่ง เพราะชายหนุ่มที่ยืนกอดอกคุมเชิงอยู่ แม้แต่เจ้าหน้าที่ รปภ. ที่เป่านกหวีดวิ่งมาอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นไทมุงและเสียงเอะอะ ก็ต้องหยุดชะงักแค่เห็นหน้าลูกชายเจ้าของตลาด ใครจะกล้าหาเรื่องตาย หญิงสาวเดินเข้าไปใกล้ไอ้เศษสวะของเธอ

“ขอเตือนแกเป็นครั้งสุดท้าย”

“ถ้าแกไม่เลิกยุ่งกับฉันและพี่เมย์ แกได้ลงไปอยู่กับเปรตในนรกแน่”

“เพราะห้องขังสำหรับแกมันก็คงเป็นเหมือนสวนดอกไม้”

ไอ้เจิดพี่พยายามดิ้นให้หลุดการล็อกปีกแต่ไม่เป็นผล เข่าเรียวเล็กกระทุ้งที่กล่องดวงใจของมันเต็มกำลัง แค่นั้นมันยังไม่สาแก่ใจกับสิ่งที่มันทำมาตลอดเวลาหลายปีสำหรับกุลวดี

“จำใส่กะโหลกแกไว้ได้ด้วยไอ้ชาติหมา”

 สิ้นเสียงน้ำลายก็ถูกพ่นออกจากปากของหญิงสาวกระจายเต็มหน้าไอ้เจิด ส่วนสมุนสองนายที่ล็อกแขนมันไว้โยกหลบแทบไม่ทัน ก่อนปล่อยร่างไอ้เจิดที่หน้าเขียวเส้นเลือดปูดขึ้นสองข้างขมับนอนกองกับพื้น มือกุมกล่องดวงใจราวกับว่าเข่าคนกระแทกยังติดอยู่ข้างใน

“อีมายด์” มันคำรามในลำคอแทบไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา

“มายด์กลับแล้วนะเก่ง ถ้ามีโอกาสไว้เจอกันใหม่นะ”

“ขอบคุณมากสำหรับวันนี้”

เธอส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่มอย่างหยดย้อย ก่อนหันหลังเดินจากไป

ไอ้เก่งเดินไปใกล้ไอ้เจิดใช้เท้ายันตัวมันที่นอนมือกุมเป้าอยู่ที่พื้นให้หงายขึ้น

“ถ้ามึงกล้าแตะต้องแฟนกูอีก มึงจะเหลือแต่ชื่อไอ้เจิด” ชายหนุ่มถือโอกาสทึกทักเอา แต่มันก็เป็นผลดีไอ้เจิดพยักหน้าหงึก ๆ

“เถื่อนไม่เบาเด็กคนนี้”

จักรพรรดิที่ยืนเนียนกับกลุ่มไทมุงตรงหน้า คิดในใจคนเดียวยิ้มมุมปากกระตุกกับภาพที่เห็น ก่อนกลับออกไปที่รถ

หญิงสาวที่ยืนกอดอกรอเจ้าของรถ ดวงตาส่งประกายเจ้าเล่ห์กับความสมหวังเมื่อครู่ แค่นหัวเราะอยู่คนเดียว ยังไงเสียหล่อนก็ยังไม่คลายความเกลียดจากตัวไอ้เจิดลงไปได้ ครั้งนี้ถือว่าได้ระบายความแค้นออกมาบ้างก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย หลับตาสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเหมือนได้รับออกซิเจนสุดวิเศษจากยอดเขา และผ่อนออกยาวยืดก่อนสะดุ้งกับเสียงกระแอมที่คุ้นหู

“ไปหรือยัง”

“ค่ะ” เธอยิ้มน้อย ๆ ก่อนเปิดประตูเข้าไปในรถ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สะดุดรักกับดักกามเทพ   ตอนที่ 18 แค่อยากแต่งงาน

    กุลวดีรู้สึกตัวในเช้าของวันใหม่ขยับตัวบิดเหยียดร่างกายไปมา รู้สึกเหมือนได้พักผ่อนอย่างยาวนาน แต่ร่างกายยังคงมีความเพลียหลงเหลืออยู่จนอยากนอนต่ออีกสักงีบ วันนี้วันอะไร? ใช่วันทำงานหรือเปล่า? ถามตัวเองทั้งที่ตายังหลับอยู่และเรียบเรียงคำตอบให้ตัวเองลำดับเหตุการณ์ในความจำในขณะที่ยังสะลึมสะลือ ก่อนจะดีดตัวลุกขึ้นนั่งทันทีกับภาพที่พอจะจำได้เลือนรางในเหตุการณ์ของเมื่อวาน“ตื่นแล้วเหรอ?”เสียงทุ้มที่คุ้นเคยดังอยู่ข้างเตียง หันไปมองเจ้าของเสียงและกวาดตาไปทั่วห้องสับสนมึนงงไปชั่วขณะ นี่เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? ใครพาเธอมา…เขาเหรอ? เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?และสารพัดคำถามในหัวตอนนี้พร้อมกับเสียงเคาะประตู เมยาวีเดินเข้ามาด้านในพร้อมกับถ้วยข้าวต้มที่ส่งกลิ่นหอมโชยเข้าจมูก ตามด้วยร่างของทวี“ตื่นแล้วเหรอ?” ถามคำถามเดียวกันเมยาวีทักทายผู้เป็นน้องสาว ในใจนึกโมโหยัยตัวแสบอยู่ไม่น้อยกับเหตุการณ์ที่จักรพรรดิถ่ายทอดให้ฟังกับการกระทำของเธอ แต่คงไม่มีประโยชน์หากจะตำหนิและดุด่าเรื่องเดิมซ้ำ ๆ ในตอนนี้ ชายหนุ่มรับถ้วยเข้าต้มจากมือของเธอและวางลงตรงโต๊ะข้างหัวเตียง ลุกไปนั่งท

  • สะดุดรักกับดักกามเทพ   ตอนที่ 17 ถ้าไม่คิดจะจริงจังก็ปล่อยไป

    กุลวดีวางสายจากเมยาวีหลังจากโทรนัดผู้เป็นพี่ให้มาหาที่สำนักงานคอนโดเพราะมีข่าวเรื่องแม่จะหาหรือ หลีกเลี่ยงการเข้าไปหาที่กิตติณรงค์เพราะไม่อยากเจอใครบางคนที่นั่น“เก่งส่งถ้าไม่คิดจะจริงจังก็ปล่อยไปข่าวมาบอกว่าตอนนี้แม่กับไอ้เจิดอยู่ในคุก”“ครั้งนี้ไม่ใช่คดีเล่นพนันเหมือนทุกครั้ง เจ้าทุกข์เขาไม่ยอม”พูดเรื่องปวดหัวเดิม ๆ ของผู้เป็นแม่“พี่รู้แล้วล่ะมีคนส่งข่าวมาบอกแล้ว พี่จะจัดการเองมายด์ไม่ต้องกังวลหรอก”ไม่อยากให้ผู้เป็นน้องต้องหนักใจ สังเกตจากสีหน้าและแววตาเรื่องกังวลในใจของเธอคงยังไม่ถูกเคลียร์ ไม่ควรเอาเรื่องไร้สาระที่ไม่มีวันจบสิ้นของผู้เป็นแม่ยัดเข้าไปในหัวให้เธออีก“มายด์มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า?”เธอหมายถึงนอกจากเรื่องของแม่ กุลวดีส่ายหน้าฝืนยิ้มจืด ๆ ให้ผู้เป็นพี่“เปล่า”“มายด์นอนดึกไปหน่อยเลยรู้สึกเพลีย ๆ” โกหกด้วยแววตาหม่นเมยาวีช้อนตามองหน้าคู่สนทนาตรงหน้าที่พยายามยิ้มฝืนซ่อนความรู้สึกข้างในไว้ แต่กระนั้นก็ยังโผล่พ้นมาให้เห็นอยู่ ซึ่งไม่ต่างจากจักรพรรดิแม้แต่น้อยกับภาพที่เมยาวีเห็นและรับรู้ ที่วัน ๆ มีแต่ความขุ่นมัวบึ้งตึงบนใบหน้า โดยเฉพาะเรื่องงานที่มีปัญหาโดนเรียกเ

  • สะดุดรักกับดักกามเทพ   ตอนที่ 15 ปลอกคอราคาแพง

    เหมือนตกจากที่สูงหัวใจกุลวดีหล่นวูบลงรู้สึกชาที่ใบหน้าไปชั่วขณะ ใครกันสาวสวยคนนี้ที่เดินเคียงข้างมากับเขา? ไหนบอกว่าไปรับแขกคนสำคัญ?หรือแขกที่ว่าคือเธอคนนี้?“ไอ้เสือมาพอดี”เสียงทวีปลุกเธอให้ตื่นจากภวังค์ กุลวดีเหมือนถูกตรึงอยู่ชั่วขณะลืมแม้กระทั่งการขยับตัว จักรพรรดิพาสาวงามไปนั่งที่โต๊ะพูดคุยกันสักครู่ ก่อนที่ผู้เป็นพ่อจะส่งสัญญาณให้เดินมาหา เมยาวีที่จูงมือกุลวดีเดินไปพร้อมกันเพื่อทำความรู้จักแขกผู้ใหญ่ในงาน“ขอให้มีความสุขสุขภาพแข็งแรงนะครับคุณทวี”“ขอบคุณครับ” สองผู้สูงวัยยื่นมือสัมผัสกันด้วยรอยยิ้ม “ยินดีที่ได้รู้จักหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงอย่างคุณจักรพรรดินะครับ ได้เจอตัวจริงเสียที”“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ” ชายหนุ่มสัมผัสมือเป็นการทักทายอย่างสุภาพ“ไม่ทราบว่าสาวสวยข้างคุณจักรพรรดิคนนี้…”“ใช่ว่าที่สะใภ้ของกิตติณรงค์ไหม๊ครับ?”ชายสูงวัยมองมาที่กุลวดีที่คาดเดาว่าต้องเป็นคนรักของเขาเป็นแน่ หลังจากส่งคำถามมาที่เธอ หญิงสาวที่ถูกเอ๋อกินส่งยิ้มให้ผู้อาวุโสยังคงปั้นหน้าไม่ถูกเพราะในหัวมีเรื่องให้กังวลอยู่ พร้อมสีหน้าผู้ถามที่รอคำตอบจากเธอ“เอ่อ…” ยังตั้งสติอยู่ก่อนจะยกมือไห

  • สะดุดรักกับดักกามเทพ   ตอนที่ 16 มาเพื่อหาเรื่องทะเลาะ ก็กลับไปเถอะ

    จักรพรรดิขับรถด้วยอารมณ์ขุ่นมัวตรงไปดักรอที่คอนโดของเธอทันที นี่เธอจะกล้าเกินไปแล้วที่ปิดโทรศัพท์ท้าทายเขา นั่งรอในห้องรับรองดูซิว่าจะมาถึงกี่โมงนี่ขนาดออกมาพร้อมกันแท้ ๆ อารมณ์หงุดหงิดวิ่งพล่านทั่วตัวแสงไฟหน้ารถสาดส่องตามท้องถนนที่โล่งตาในตอนกลางคืน สองหนุ่มสาวพูดคุยทำลายความเงียบในรถ กวินวัฒน์ที่ดื่มมาบ้างแม้ไม่ได้มากมายก็ระมัดระวังในการขับขี่เป็นพิเศษ คนจรจัดที่หอบหิ้วถุงพลาสติกพะรุงพะรังอยู่ข้างถนนมองเห็นแต่ไกลลิบ ๆ จากแสงไฟของเสาไฟฟ้าข้างทางทันใดทันเขาก็วิ่งข้ามถนนมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย พร้อมกันกับที่มอเตอร์ไซค์ขับตรงมาด้วยความเร็วสูงหักหลบกะทันหันทำให้เสียหลักล้มไถลไปตามถนน เสียงโลหะครูดกับคอนกรีตดดังสนั่นชวนเสียวฟัน พร้อมกับร่างคนขับที่ไถลไปคนละทางกับรถ และชายคนจรที่หายไปในความมืด“จอดก่อนค่ะคุณกวิน”ตีไฟกะพริบเข้าจอดข้างทางพร้อมโทรแจ้งเหตุ ก่อนรอรถเจ้าหน้าที่มาถึงและนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลจักรพรรดิที่นั่งดื่มย้อมใจรอการกลับมาของใครบางคน ยกมือขึ้นมองหน้าปัดนาฬิกา กดข่มอารมณ์ไว้พร้อมความร้อนวูบวาบที่ใบหน้า แก้วเหล้าในมือแทบแตกเป็นจุณจากการบีบ“ขอบคุณคุณกวินมากนะคะที่มาส่ง”“ยิน

  • สะดุดรักกับดักกามเทพ   ตอนที่ 14 ฉลองห้องใหม่

    จักรพรรดิที่นั่งจิบกาแฟในห้องรับรองของสำนักงานคอนโดเพียงลำพัง ถึงแม้งานจะล้นตารางแต่ชายหนุ่มก็ปลีกตัวออกมานั่งรอเธอ เพื่อออกไปกินข้าวกลางวันด้วยกัน แต่สุดท้ายเขาก็โดนเธอเทโดยข้ออ้างคือยังติดลูกค้าอยู่ ตั้งแต่เปิดโครงการมาเธอแทบไม่มีเวลาโทรหาเขาเลย ข้อความหวาน ๆ ที่เคยส่งหาเขาเป็นประจำทุกวันก็เริ่มห่างหายไปกุลวดีเปลี่ยนไปมากทั้งสไตล์การแต่งตัวและบุคลิก ดูมีชีวิตชีวาและสดใสตลอดเวลาในการทำงาน เธออาจจะอึดอัดในตำแหน่งเลขาของเขาแต่ไม่กล้าขัดทวี และคงชอบงานในลักษณะนี้มากกว่า ขืนปล่อยไว้แบบนี้คงไม่เป็นผลดีกับเขาแน่“โทษทีให้รอนาย”เสียงพีรภัสปลุกให้ตื่นจากความคิด ทักทายและนั่งลงตรงข้าม สุดท้ายเขาก็กลับมาตายรังกับเพื่อนรัก สองเพื่อนซี้พูดคุยสับเพเหระไปตามเรื่อง นั่งดื่มจนเริ่มได้ที่“นั่นคุณเมย์กับคุณมายด์นี่”พีรภัสเอ่ยขึ้น ชายหนุ่มหันออกไปมองสองพี่น้องสาวสวยเดินเข้ามาในร้านพร้อมกับชายสูงอายุและชายหนุ่มหน้าตาดีทรงสมาร์ท และเลือกนั่งโซนหน้าร้านในขณะที่เขาและพีรภัสนั่งมุมด้านในจักรพรรดิมองภาพข้างหน้าไม่วางตา หนุ่มรูปหล่อที่ดูจะใส่ใจกุลวดีเป็นพิเศษอย่างสุภาพบุรุษ ตั้งแต่เริ่มเดินเข้ามาในร้าน

  • สะดุดรักกับดักกามเทพ   ตอนที่ 13 หึงจนหน้ามืดตามัว (ต่อ)

    ชิดสุดารับหน้าที่เป็นศิราณีนั่งฟังเพื่อนระบายความอัดอั้น พร้อมทั้งกระดกเครื่องดื่มแก้วแล้วก็เล่า แต่ไม่คิดจะห้ามเพราะถ้าเมาแล้วจะได้รีบส่งเพื่อนกลับบ้าน เพราะวันนี้เธอมีนัดพิเศษ แต่ดูเหมือนกุลวดีจะไม่มีท่าทีว่าจะกลับและยังดื่มต่อได้อีกหลังจากตารางงานวันนี้เสร็จสิ้นจนมืดค่ำ อภินันท์ที่มีนัดดินเนอร์กับชิดสุดาหลังจากเริ่มสานสัมพันธ์กันตั้งแต่วันที่ไปส่งหญิงสาวที่บ้านในคืนนั้น แต่ฝ่ายสาวยกเลิกนัดเนื่องจากต้องนั่งเฝ้ากุลวดีเพื่อนรักที่เริ่มเมาแอ๋ แต่ยังหัวชนฝาว่าจะไม่ยอมกลับและขอไปค้างกับเธอที่บ้าน ทั้งที่บอกเหตุผลไปแล้วว่าไม่ว่างแต่ดูเหมือนกุลวดีจะฟังไม่เข้าใจเสียแล้ว อภินันท์ครุ่นคิดแผนอยู่ในหัว“ผมขอรบกวนประธานสักเรื่องได้ไหมครับ?”“ผมติดต่อคุณเมย์ไม่ได้”“จะเรียนคุณเมย์ให้ส่งคนไปรับคุณมายด์”“ตอนนี้เมามากและไม่ยอมกลับบ้าน ชิดสุดาคนเดียวน่าจะเอาไม่อยู่ครับ”จักรพรรดิที่หันขวับมองหน้าทันที หมอนี่รู้ได้ยังไงว่าเธอไปไหน พร้อมอภินันท์ที่พอจะรู้ตัวเมื่อถูกมองหน้า“ชิดสุดาโทรบอกผมครับ”นี่คือแผนของอภินันท์เพื่อดึงชิดสุดาออกมาและตัวเองกลับบ้านแต่งตัวเพื่อรอออกไปดินเนอร์ และยิ้มให้กับความชาญฉล

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status