Share

2 สั่งลา

last update Terakhir Diperbarui: 2025-05-21 11:00:22

                                                                               2 สั่งลา

โต๊ะสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเมตรครึ่งสองตัวมีผ้าสีขาวคลุมจนถึงพื้นพรม ตั้งอยู่หน้าห้องของผู้จัดการแผนกการตลาด

โต๊ะหนึ่งมีอาหารทานเล่นขนาดพอดีคำ จัดใส่ถาดสี่เหลี่ยมวางเรียงรายดูน่ากิน ด้านข้างมีจานกระดาษ ช้อนและ ส้อมพลาสติก ถัดไปเป็นตู้เย็นขนาดกลางมีน้ำผลไม้กล่องซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัท สุดท้ายคือมุมชา กาแฟ ถาดคุกกี้   เนยสด บราวนี่และผลไม้แห้งของโชคอนันต์

“เอ๊ย ลุย” อรุณเร่งฝีเท้าเดินนำหน้าเดอะแก๊งทันทีที่ เห็นเพื่อนร่วมงานที่เพิ่งมาถึงถือจานตรงสู่โต๊ะอาหาร สามสาวพยักหน้าใส่กันอย่างรู้ใจ เพราะเสือหิวโซอย่างอรุณไม่มีทางปล่อยให้ใครกินก่อนแน่นอน

“แกสั่งของพอยัยอรุณหรือเปล่า” แตงกวาเอ่ยถามคนจัดงานที่ฉีกยิ้มกว้างก่อนจะมองไปยังอรุณอย่างเอ็นดู โดยไม่รู้เลยว่ารอยยิ้มของเธอนั้นได้ทำให้หัวใจของคนมองเต้นแรง

“ก็น่าจะพอนะ คนอื่นปุ้นนับแค่ท้องเดียวแต่อรุณนี่” ข้าวปุ้นกลางมือออกนั่นทำให้แตงกวากับส้มหลุดขำ ส้มเอ่ย

“ใจดีจังนับนังอรุณตั้งห้าท้อง”

“อ้อ ปุ้นสั่งคุกกี้เนยสดให้ส้มด้วยนะ ส่วนน้ำลำไยกับ น้ำมะพร้าวของแตงกวาปุ้นก็ไม่ลืม เนื้อเน้น ๆ เลยแหละ”

“อึ๋ยย…ปุ้นพวกเรารักแกวะ” พูดไม่พูดเปล่าสองสาวโอบเอวคอด ซบใบหน้าลงบนไหล่ของคนช่างใส่ใจก่อนจะพากันเร่งฝีเท้าไปยังกลุ่มคน ทว่าต้องหยุดเมื่อมีบุรุษร่างกำยำยืนขวางอยู่ตรงหน้า ใบหน้าที่กำลังยิ้มแย้มของข้าวปุ้นแปรเปลี่ยนเป็นโหมดเคร่งขรึมในทันที

แม้จะรู้แก่ใจว่าเจ้านายโปรดปรานจนถึงขั้นให้เธอวางตัวตามสบาย แต่เป็นเธอเองที่ทำไม่ได้ นี่ขนาดว่าเธอรักษาระยะห่างระหว่างนายกับลูกน้องแล้ว ก็ยังไม่วายเกิดเสียงซุบซิบนินทา ปากกับความคิดของคนมันเหนือการควบคุม หากคนพูดเหนื่อยก็คงเลิกราไปเอง สิ่งนี้เธอบอกกับตัวเองเสมอ

“ไม่ทราบว่าคุณวสุต้องการอะไรเพิ่มอีกไหมคะ”

“อ้อ ผมเอาจานมาให้นะครับ”

ชายหนุ่มวัยสามสิบห้าปีที่หมกมุ่นทำแต่งานจึงครองสถานะโสด กอปรกับเลขานุการคนเก่าอายุเท่ากับป้าที่บ้าน ชีวิตการทำงานในแต่ละวันของเขาจึงไม่มีอะไรน่าสนใจ

พอมาเจอเลขานุการคนใหม่ที่ขยัน ชอบเรียนรู้ ร่าเริงสดใส แถมยังมีบุคลิกโดดเด่น หัวใจที่เคยเต้นแบบเหนื่อยหน่าย จู่ ๆ ก็มีกำลังวังชาขึ้นมา

“ขอบคุณค่ะ / ขอบคุณค่ะ” แตงกวากับส้มพูดขึ้นแทบจะพร้อมกัน รีบรับจานจากมือของหัวหน้าแล้วรีบเดินหนีเพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งคู่ได้สั่งลา ทั้งคู่เดินไปไม่กี่ก้าวก็หันมาขยิบตาให้เพื่อน

ข้าวปุ้นแน่ใจหนักหนาว่าข่าวลือไม่ได้มาจากปากของเพื่อนสนิท แต่เป็นสายตาอันหวานฉ่ำของเขาต่างหากที่มันฟ้องและทำให้เป็นข่าว จะทำอย่างไรได้นอกจากยิ้มขอบคุณในแววตาขณะหยิบจานกระดาษแล้วเดินเลี่ยงออกไปอย่างสุภาพ

“ข้าวปุ้นกินข้าวกับเป็นมื้อสุดท้ายผมได้ไหมครับ” แม้น้ำเสียงของเขาจะเบาแต่ก็ทำให้อีกฝ่ายชะงักฝ่าเท้า

ข้าวปุ้นหันกลับมาส่งยิ้มให้เจ้านาย วันแรกเธอเคารพเขาเป็นเจ้านายที่แสนดีอย่างไร วันสุดท้ายในใจของเธอก็ไม่เคยเปลี่ยน

“ได้สิคะ พวกเรากำลังคิดอยู่ว่าจะเอาเวลาไหนอวยพรให้คุณวสุ งั้นข้าวปุ้นขอไปตักอาหารนะคะ จะได้มานั่งด้วยกัน”

“ปุ้น” ผู้เป็นนายเอ่ยแผ่วเบาผ่านลำคอแห้งผาก สูดลมหายใจเข้าปอดก่อนจะระบายออกอย่างเชื่องช้า ด้วยว่าพยายามข้ามเส้นคั่นกลางอยู่หลายครั้งก็ไม่เคยสำเร็จ วสุรีบเอานิ้วปัดปลายจมูกแก้เก้อก่อนจะวางมาดนายใหญ่เมื่อรู้สึกว่ามีสายตาหลายคู่จ้องมอง

เพียงไม่นานทั้งสี่คนก็ได้ที่นั่ง ตรงกลางคือโต๊ะกลมขนาดเล็กเต็มไปด้วยแก้วน้ำ จึงจำเป็นต้องวางจานอาหารไว้บนหน้าตัก

“ฮื่อ! น้ำจิ้มป้าหยอดนี่แซ่บในสามโลกจริง ๆ นะแก” แตงกวาตาโตขยับเคี้ยวอาหารในปากอย่างเอร็ดอร่อย ส่วนข้าวปุ้น กินอาหารก็จริงแต่สายตากลับกวาดมองรอบห้องเพราะกลัวว่างานจะออกมาไม่ดี

“ปุ้นกินเถอะ สาว ๆ พวกนั้นดูแลตัวเองได้ ไม่เห็นเหรอว่ามียักษ์ปักหลักคอยช่วยอยู่” แตงกวาพยักพเยิดหน้าส่งสายตาเอ็นดูไปยังนักบัญชีสาวตัวกลม ทรงผมบ๊อบสั้นระดับติ่งหู ตัดหน้าม้ารับกับจมูกเล็ก ริมฝีปากบางเล็กกินยังกับยัดนุ่น ทำตัวเนียนบริการเพื่อนฝูงอยู่ที่โต๊ะบุฟเฟ่ต์ แท้จริงคือคอยซัดคอหมูย่างจนปากมันแผล็บ

“นั่นสิครับ”

ข้าวปุ้นยิ้มเจื่อนกับคำพูดของเจ้านาย เริ่มเกร็งตัวเมื่อสัมผัสถึงกระแสบางอย่างจากแววตาที่ลอบมองมา ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเขาเป็นคนดูดี มีใบหน้าสะอ๊าดสะอาดคล้ายหนุ่มเจ้าสำอาง แต่งตัวภูมิฐานสมกับตำแหน่ง ทำงานเก่ง ฉลาดและรอบคอบ

ตอนที่เธอยังไม่ได้เป็นเลขานุการก็คิดว่าเขาวางตัวแก่กว่าวัย ดูขี้เก๊ก เข้าถึงยาก มีหกเดือนให้หลังนี่แหละที่เธอเริ่มอึดอัดกับความสายตาที่เปลี่ยนไปของเขา แม้เขาจะดีพร้อมและมั่นคงอย่างที่สาวงามหลายคนถวิลหา ทว่ากลับไม่ใช่เธอ      จนเกิดเสียงซุบซิบนินทาประมาณว่า

‘สวยแล้วหยิ่ง’

‘หน้าตาหล่อนดีนี่จะตั้งมาตรฐานสูงก็ไม่แปลก’

แท้จริงแล้วหัวใจดวงน้อยของเธอต่างหากที่ไม่อาจจะรักใครได้อีก ก็คนที่นั่งอยู่ข้างในดันเพียบพร้อมเกินกว่าจะบรรยายอารมณ์ก็ประมาณว่าเคยกินอาหารอร่อยเลิศรสของมิชลินสตาร์ระดับสูงสุดมาแล้ว พอไปกินร้านอื่นทั้งที่เป็นสูตรเดียวกันแท้ ๆ แต่โสตประสาทลิ้นดันฝังใจกับความแซ่บของร้านแรก การเปรียบเทียบนี้ย้ำเตือนว่าเธอยังไม่ลืมเขาคนนั้น

“ลองเปาะเปี๊ยะกุ้งไหมครับ กุ้งสดแป้งกรอบไม่อมน้ำมัน อร่อยมากเลยนะ” คนพูดหยิบเปาะเปี๊ยะทอด มีกุ้งตัวโตยัดไส้แถมราดน้ำจิ้มสามรสมาให้เรียบร้อย เพราะเห็นในถาดมีเปาะเปี๊ยะเจ้าดังน้อยชิ้น เลยตั้งใจเอามาเผื่ออีกคน

“ไม่เป็นไรค่ะหัวหน้าทานเลย ทานเยอะ ๆ นะคะ อยู่ญี่ปุ่นตั้งหนึ่งปี ที่นั่นมีเทมปุระก็จริงแต่คงสู้เปาะเปี๊ยะเจ๊ปานไม่ได้แน่”

วสุจำต้องวางความตั้งใจไว้ในจานดังเดิม แม้สองสาวจะแกล้งไม่สนใจแต่เขาก็ไม่ชินที่จะพูดเรื่องส่วนตัวต่อหน้าลูกน้อง เขาเดาว่าพวกเธอคงจำใจมานั่งตามคำขอของเขมิกา

“ข้าวปุ้นชอบดอกซากุระไหมครับ อีกสามเดือนข้างหน้าก็เป็นเทศกาลฮานามิ เขาลือกันว่าสวยมาก มองไปทางไหนก็เห็นแต่สีชมพูยาวสุดลูกหูลูกตาเลยเชียว”

“ชอบค่ะ ส้มชอบ ใช่ช่วงต้นเดือนพฤษภาไหมคะ เอ๊ยพวกเราลองจัดทริปด้วยกันสักครั้งไหม” คนตอบไม่ได้ยินด้วยซ้ำว่าหัวหน้าถามใคร เพราะมัวแต่แทะปีกไก่ทอดน้ำปลาอย่างเอร็ดอร่อย แตงกวาพูดสวนขึ้นทันควัน

“เมาไก่หรือไงถึงได้พูดจาเพ้อเจ้อ ไปกันหมดแล้วใครจะทำงานยะ”

“อ้าว งั้นก็ไปช่วงวันหยุดสิ” ส้มรีบเช็ดมือกับทิชชูเปียก จากนั้นหยิบโทรศัพท์มือถือเปิดปฏิทินดูวันหยุดนักขัตฤกษ์

“เฮ้ย วันแรงงานหยุดตั้งหลายวันนะแก” พูดเสร็จส้มก็ส่งสายตาวาววับให้กับแม่มาเฟีย ส่วนเพื่อนสาวอีกคนทำหน้านิ่งเฉย เลยรู้ว่าเพื่อนปุ้นโนสนโนแคร์

“พวกแกไปเลย วันหยุดยาวปุ้นว่าจะทำความสะอาดบ้าน”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • สัญญารักของยัยตัวร้าย   บทส่งท้าย-ต่อ-

    “ไอ้คนฉวยโอกาส” เสียงจากริมฝีปากกระจับที่ทำให้คนฟังหน้าชา พาลนึกถึงข้อความของเธอ ‘ฉันเกลียดนาย’ ทว่าเรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะแก้ไขได้ ทุกอย่างถูกกำหนดตั้งแต่ท่านเรียกตัวเขาเข้าไปพบแล้ว“ผู้กองข้าวโอ๊ตต้องทำอะไรสักอย่างนะผมว่า ในข่าวเบลอหน้าให้ก็จริง แต่เบอร์ห้องกับแฟลตตำรวจชัดเจนแบบนี้ฝ่ายหญิงเขาเสียหาย ผมไม่อยากเสียเพื่อน ไม่ต้องการให้วงการสีกากีที่ประชาชนเคารพดูแย่ไปกว่านี้”ตอนนั้นเขานิ่งเงียบ หากปฏิเสธออกไปก็ดูจะไม่เป็นลูกผู้ชาย เพราะหลักฐานในโลกโซเชียลมัดแน่นว่าเขากับเธอจูบกัน พากันเข้าบ้านตอนดึกและออกจากบ้านเกือบเที่ยง โดยที่เขาเองแทบไม่รู้เลยว่าทุกฝีก้าวอยู่ในสายตาของนักข่าว“ครับผมจะแต่งงานกับเธอเอง”“ดีมากไอ้โอ๊ต กล้าทำกล้ารับแบบนี้สิวะถึงเป็นลูกผู้ชาย เยี่ยม ๆ เดี๋ยวกูขอโทรบอกไอ้ศักดิ์ก่อน”สรรพนามที่ท่านเรียกเพื่อนสนิทต่อหน้าบอกเป็นนัย ๆ ว่านี้คือทางรอดเดียวสำหรับตำรวจไร้เส้นสายอย่างเขา ตอนนั้นไม่รู้หรอกว่าเขากำลังต้องมนตร์ของเธออยู่ หรือแค่รักในอาชีพ จนยอมเสียศักดิ์ศรีของตัวเอง…คำต่อว่าของบุตรสาวทำให้ช่อทิพย์หน้าเจื่อน สมศักดิ์ได้แต่ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ตามใจจนลูกกลาย

  • สัญญารักของยัยตัวร้าย   บทส่งท้าย

    “อ่า…พี่ต้นกล้า”ข้าวปุ้นมองสามีโยกเอวพลิ้ว แท่งร้อนจากที่ขยับเนิบ ๆ นาบ ๆ ก็ดุดันขึ้นจนเกิดเสียงหยาบโลนไม่น่าฟัง เธอชอบความฟิตของเขา ยิ่งเวลาพี่ต้นกล้าออกแรงยิ่งเห็นกล้ามเนื้อของเขาขึ้นมัดสวยงาม ใบหน้าคมเข้มก็ดูเซ็กซี่ยั่วยวนอารมณ์มากดีหน่อยที่เขาสร้างความมั่นคงและมั่นใจให้ ไม่เช่นนั้นเธอคงหึงเจ้าของเอวดุ สะโพกหวาน และมีแท่งร้อนสุดแสนจะอร่อยคนนี้จนไม่ได้หลับได้นอนเป็นแน่“อืม…เมียจ๋า…” ต้นกล้าเพิ่มความเร็วสะโพกสอบ ใช้มือดันขาเรียวไปข้างหน้า แล้วจ้องโพรงแสนรักกลืนกินความแข็งแกร่งของเขาอย่างพอใจ“อือ อย่ามองค่ะ ปุ้นอาย” ก็นี่มันกลางวันแสก ๆ ถึงเขาไม่อายแต่เธออายนี่ ฝันไปเถอะว่าเขาจะฟัง“อ๊าย… อื่อ…” เสียงหวีดร้องระบายอาการเสียดเสียวเมื่อโดนอีกฝ่ายกระทุ้ง แถมเขายังทรมานเธอเพิ่มด้วยการบดขยี้บนตุ่มทับทิบ ที่ทำเธอปั่นป่วนจนต้องดิ้นเร่า ความสุขที่อัดแน่นในกายเธอนี้ใกล้จะระเบิดเต็มทีคนตัวโตเร่งจังหวะอย่างรู้ใจ ยิ่งโพรงแคบรัดตอดตัวตนของเขามากเท่าไรเขายิ่งทวีคูณความเผ็ดร้อน ตอกแท่งร้ายใส่โพรงแคบอย่างใจต้องการไม่นานนักคุณพ่อนักรักกับคุณแม่เสียงพิณต่างก็ประสานมือพากันท่องทุ่งดอกลาเวนเดอร์ สอง

  • สัญญารักของยัยตัวร้าย   ตอนพิเศษ

    ตอนพิเศษ หนึ่งเดือนผ่านไปเช้าวันใหม่สำหรับคนไม่มีงานทำก็เป็นธรรมดาที่ไม่จำเป็นต้องรีบเร่ง เรือนร่างอรชรอ้อนแอ้นขยับตัวหลายครั้งพยายามที่จะตื่น ทว่าร่างกายกลับหนักอึ้ง เพราะตั้งแต่เป็นคุณแม่ป้ายแดงนอกจากจะนอนเก่งแล้ว ครอบครัวธนโภคินยังสปอยล์เธอด้วยอาหารชั้นดี จนทำให้ร่างกายที่ซูบผอมเริ่มมีน้ำมีนวลขึ้นมาบ้างแล้วข้าวปุ้นหลับตาพริ้ม อดพรายยิ้มไม่ได้เมื่อแก้มนุ่มสัมผัสกับเพชรเม็ดงาม ที่พาลให้เธอนึกไปถึงคนให้ที่คุยอวดอยู่หลายวันว่าเป็นเพชรน้ำดีที่สุดจากจังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น‘พี่อยากให้ปุ้นรู้สึกมั่นคงห้ามทิ้งพี่นะ’ คิดถึงตรงนี้หัวใจของเธอก็พองโตกับเงินในบัญชีธนาคาร ที่ตัวเธอเองคิดว่าชาตินี้ไม่น่าจะมีปัญญาหาได้ จึงทำเรื่องเอาสมบัติของแม่ออกมาจากธนาคาร ต่อมาก็ซื้อลิปสติกฝากเดอะแก๊งตามที่เคยให้คำมั่นสัญญากันไว้โครกคราก! กลิ่นหอมของอาหารที่ลอยมาตามลมทำให้คนท้องต้องขยับลุก เพราะเจ้าตัวเล็กของเธอกินอาหารตรงเวลา“คุณพ่อทำอะไรให้ทานค่ะวันนี้” เสียงทักใสของคนที่ยื่นอยู่ด้านข้างทำให้พ่อครัวประจำบ้านโน้มหน้าไปหอมแก้มนุ่ม“ใกล้เสร็จแล้วครับผม” ต้นกล้าวางอุปกรณ์ครัวลงบนเคาน์เตอร์ รีบโอบลำตัวข

  • สัญญารักของยัยตัวร้าย   -ต่อ-ตอนจบ

    “เป็นอะไรคะ บอกพี่หน่อยได้ไหม หึ” คนถามพูดยังไม่จบประโยคอีกฝ่ายก็ถลาตัวเข้ามากอด ข้าวปุ้นเงยหน้าขึ้นปลดปล่อยความรู้สึกผิดให้ไหลพรากไปกับน้ำตา เอ่ยถามด้วยเสียงสั่นเทาปนสะอื้น “พี่ต้นกล้าโกรธปุ้นไหม”ต้นกล้าโอบภรรยาสาวให้นั่งลงบนเก้าอี้เด็ก ส่วนเขานั่งชันเข่าจับคางเล็กเบา ๆ ขยับไปมาอย่างเอ็นดู“พี่จะโกรธปุ้นเรื่องอะไร ไหนบอกพี่สิ”“ก็พี่ต้นกล้าทำงานอย่างหนักแต่ปุ้นคิดว่าพี่ต้นกล้ากับมัดหมี่ อื่อ…อื่อ…วันนั้น วันที่แม่ของนายช่างป่วยปุ้นโทรหาพี่ แต่เป็นมัดหมี่รับสายบอกว่าพี่ต้นกล้านอนอยู่ข้าง ๆ ปลุกยังไงก็ไม่ตื่น แล้วมัดหมี่อะใส่แต่เสื้อกล้าม อื่อ…อื่อ…ตอนปลุกยังเอานมถูแขนโชว์ปุ้นด้วย เดี๋ยว ดูนี่สิ โพสต์แบบนี้ด้วย ปุ้นเลยคิดว่าพี่ต้นกล้าไม่รักปุ้นแล้ว” ปากกระจับบิดเบี้ยวพูดฟ้องไม่ต่างจากเด็กสามขวบ คว้ามือถือโชว์โพสต์มหาภัย ร้องไห้สะอึกสะอื้นปาดน้ำตาระรัวขณะส่ายนมเลียนแบบท่าทางของอีกคนพูดถึงตรงนี้ความน้อยเนื้อต่ำใจของเธอก็ปะทุขึ้นอีกจนต้องสะอึกสะอื้นหนักยิ่งกว่าเก่า สิ่งนี้ทำให้คนฟังเข้าใจทุกอย่าง ต้นกล้าปลอบใจอีกฝ่ายด้วยการจูบซับน้ำตาทุกหยดบนใบหน้าอ่อนเยาว์ ชูสามนิ้วสบตาพูดอย่างจริงจัง

  • สัญญารักของยัยตัวร้าย   32 ทาสรัก -ตอนจบ-

    32 ทาสรักเมื่อความเงียบมาเยือนบวกกับความเย็นสบายจากเครื่องปรับอากาศในรถตู้ ดวงตาของคนท้องจากที่ปรือก็หลับไปในที่สุดช่อผกาสั่งให้รถจอดอีกครั้งเพื่อที่จะได้เปลี่ยนที่นั่งกับบุตรชาย ต้นกล้าทะนุถนอมโอบเรือนร่างเล็กที่หลับสนิทให้นอนทับลงบนตัวอยู่ในท่าสบาย ปลายจมูกโด่งพรมหอมผมนุ่มสลวยของเมียรักตลอดเวลา เมื่อความหนาวมาเยือนเรือนร่างบอบบางก็เบียดลำตัวเข้าไปในวงแขนอบอุ่น ลากยาวจนกระทั่งถึงจุดหมาย“ถึงบ้านเราแล้วเดินไหวไหมคะ” เสียงกระซิบจากริมฝีปากอุ่น มอบจูบบางเบาบนหัวกระหม่อมขณะลูบไล้อ่อนโยนบนผิวละเอียด ปลุกคนหลับใหลให้ตื่นหญิงสาวผู้แง่งอนเมื่อรู้สึกตัวก็ดันตัวเองออกจากร่างกำยำ ทว่าก็ไม่ได้เป็นอย่างคิดเพราะถูกเขากอดแน่น จึงเงยหน้าทำตาดุใส่ อยากกัดปลายจมูกโด่งบนใบหน้าคมคายสักที อยากถามเรื่องคาใจในตอนนี้แต่ก็เกรงใจผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ด้านหลังและแล้วนัยน์ตาดำขลับที่จ้องดุก็อ่อนลงเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ใช่แค่พูดอ่อนโยนอย่างเดียว ทว่าแววตาของเขาก็อ่อนโยนเช่นกัน“ให้พี่อุ้มไหม”“ไม่ต้อง! ปล่อย!” เสียงดุเบาในลำคอ“อืม…เมียใครวะดุจัง” กระซิบพร้อมกับขโมยความหอมบนแก้มนุ่ม คนที่ยกมือจะทุบก็ลดกำปั้นลงส่

  • สัญญารักของยัยตัวร้าย   31.1

    “พูดให้ผมฟังหน่อยว่าไปทำลายชีวิตของใครเข้าอีก”ข้าวเม่าเม้มริมฝีปากเล็กน้อย แปลกใจพอสมควรที่หัวใจของเธอกำลังสั่นไปกับสายตาดุที่จ้องมองอย่างไม่ลดละ แน่นอนว่าสิ่งที่เธอทำไม่ว่าจะเป็นพี่ต้นกล้าหรือแม้แต่ป้าของเธอก็ต้องโกรธ แต่เขาอาจจะไม่ คิดได้ดังนั้นมือเรียวก็รีบคว้ากระเป๋าสะพายข้างใบขนาดเล็ก หยิบมือถือขึ้นมาเปิดรูปที่ทำให้คนมองหยุดหายใจไปชั่วขณะ เมื่อเห็นแตงกวาจูบกับชายอื่น“ฉันกลับไปเอารถแล้วถ่ายไว้”“แล้วยังไง”“ฉันปิดหน้าผู้หญิงแล้วส่งไปให้พี่ต้นกล้าน่ะ เขาคงคิดว่าเป็นน้องนายอะสิ”“ไม่คงล่ะครับ คิดแน่นอน ไม่รู้ว่าคุณตีบทนางเอกแตกได้ไงทั้งที่ทำตัวเหมือนพวกนางร้ายขี้อิจฉา”“นี่! ลากฉันมาเนี่ยจะช่วยหรือจะซ้ำเติมไม่ทราบ”“ผมเชื่อว่าคุณคงไม่ได้ตั้งใจ คุณก็แค่อยากให้เขาเจ็บเหมือนที่คุณเจ็บ ก็แค่นั้น” คำปลอบโยนแสนจะธรรมดาที่ทำให้คนฟังรู้สึกซึ้งใจ ด้วยว่าการทำงานในวงการบันเทิงหลายปีมานี้รายล้อมไปด้วยผู้คนที่หวังแต่ผลประโยชน์ หล่อหลอมให้เธอเป็นคนที่ไม่เชื่อใจใครง่าย ๆ และก็ไม่บ่อยนักที่จะมีคนเข้าใจและรับฟังเธอ“นายเชื่อฉันจริง ๆ นะ” เสียงบอกแผ่วเบาที่ทำให้หัวใจของคนฟังเต้นแรง…หลังจากที่ทั้ง

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status