Share

สามชาติ สองภพ จบปรารถนา
สามชาติ สองภพ จบปรารถนา
Author: เหลียนฮวาสีชมพู/เสี่ยวอวี้

บทที่ 1

“ด่านรัก!”

เหยียนหลัวหวางร้องตะโกนเสียงดังลั่น ดวงตาผู้ยิ่งใหญ่เเห่งเเดนยมโลกมองบุรุษเบื้องหน้าด้วยเเววเหลือเชื่อ นี่เทพนอกคอกผู้นี้คิดจะสร้างความวุ่นวายอะไรให้เเก่พวกเขาอีก

ยามนี้เเดนสวรรค์ถูกปกครองโดยเง็กเซียนฮ่องเต้ เหล่าเทพรุ่นใหม่ถือกำเนิดขึ้นปานดอกเห็ด ทว่าบรรดาเทพยุคเก่ากลับเริ่มเสื่อมถอย ในหมู่เทพบรรพกาลนอกขอบฟ้า หลายองค์บ้างถึงกาลเเตกดับ บางองค์ก็ลงไปเผชิญกับด่านเคราะห์เล่นเเก้เบื่อ

เเต่นั่นไม่ใช่กับผู้ที่กำลังอยู่ตรงหน้าเขา จอมเทพนอกฝั่งฟ้าผู้นี้หาได้เคยให้ความสนใจแก่ผู้ใด อีกทั้งยังมีความเป็นมาลึกลับเกินกว่าจะกล่าวถึง เพราะเทพบรรพกาลองค์นี้ถือกำเนิดขึ้นมาได้อย่างไรนั้น ไม่มีผู้ใดสามารถให้คำตอบได้ เเม้เเต่เหล่าเทพในยุคก่อนด้วยกันเองก็ตาม

เนื่องด้วยเขานั้นไร้ตัวตนอย่างยิ่ง ทำให้แม้แต่บนหินสามชาติก็หาได้มีชื่อสลักดั่งผู้อื่น นับว่าเป็นเทพที่อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ทั้งปวง ไร้ซึ่งความเป็นมา ไร้นามให้ขับขาน ดังนั้นเหล่าบรรดาเทพเซียนทุกตนจึงพากันขนานนามอีกฝ่ายว่า ‘ตี้จวิน’ จนติดปาก

เเต่พลังของเทพนอกฝั่งฟ้าผู้นี้กลับมิได้ไร้ตัวตนเหมือนสถานะของเขาแม้แต่น้อย เมื่อรวมเข้ากับนิสัย ‘มองหน้าเเปลว่าหาเรื่อง’ ของเจ้าตัว ทำให้แม้แต่องค์เง็กเซียนยังเอือมระอา คร้านจะข้องเกี่ยวด้วย

“ไม่ได้อย่างนั้นหรือ” เสียงทุ้มเอ่ยเรื่อยเอื่อยราวสายน้ำเย็นฉ่ำ

เหยียนหลัวหวางฟังแล้วนึกเคลิบเคลิ้ม ก่อนจะพลันสะบัดศีรษะเพื่อเรียกสติกลับคืน เพราะเขาเเละทุกคนในสามภพหกเเดนล้วนรู้ดี ภาพลักษณ์ที่มองเห็นอยู่นั้นเป็นเพียงสิ่งหลอกลวง ตี้จวินผู้นี้แท้จริงแล้วทั้งเอาแต่ใจและเผด็จการอย่างร้ายกาจในความเป็นจริง

“ใช่ว่าจะไม่ได้ เเต่ตี้จวินเองก็รู้ดีว่าบนหินสามชาตินั้นหามีชื่อของท่านสลักอยู่ไม่ เช่นนั้นแล้วจะไปมีชื่อคู่วาสนาท่านปรากฏได้อย่างไร เกรงว่าต่อให้ตี้จวินปรารถนาจะลิ้มรสด่านเคราะห์จากรักที่ไม่สมหวังนี้สักเพียงใด ตาเฒ่าจันทราก็มิอาจผูกด้ายเเดงให้ได้ตามประสงค์”

“เรื่องนี้หาได้ยากเย็นอันใด ข้าเพียงเเต่สร้างคู่วาสนาของตนเองขึ้นมาก็จบ หลังจากนั้นค่อยให้เจ้าเฒ่าจันทราจัดการผูกด้ายแดงเสีย”

เจ้าตัวกล่าวขึ้นอย่างไม่ยี่หระ พลางค้นหาข้าวของภายในแขนเสื้อตนเอง หมายใจสร้างคู่วาสนาแบบมักง่าย ทว่าสุดท้ายเมื่อไม่เจอของที่สามารถใช้ได้ ดวงตาคู่งามจึงเหล่มองไปที่ต้นกระบองเพชรบนโต๊ะทำงานคู่สนทนาอย่างมีเลศนัย ก่อนจะส่งยิ้มร้ายกาจไปยังผู้ที่เป็นเจ้าของมัน

เหยียนหลัวหวางสะดุ้งเฮือก ในใจเกิดความตระหนกจนถึงขีดสุด รีบเอื้อมมือคว้ากระถางใบเล็กๆ นั้นมาถือเอาไว้อย่างหวงแหน

“ไม่ได้เด็ดขาด นี่เป็นของฝากจากสหายที่อยู่แดนไกลของข้าเชียวนะ”

พญายมราชกัดฟันแน่น เอ่ยขึ้นอย่างไม่ยินยอม ลองคิดดูสิว่าการจะนำต้นไม้จากโลกเบื้องบนลงมา มันยากลำบากขนาดไหน และในบรรดาต้นไม้ที่สหายของเขานำมาให้ ก็มีเพียงแค่ ‘อิ๋งอิ๋ง’ กระบองเพชรน้อยนี่เท่านั้น ที่สามารถทานทนต่อปราณหยินอันหนักหน่วงของยมโลกได้

เเต่กว่าที่จะมาเเข็งเเรงออกดอกสีชมพูสดใสให้ได้เชยชมเเบบนี้ เขาต้องเเอบหนีไปด้านบนเพื่อให้เเสงเเก่นางทุกวันเทียวนะ เเล้วไหนจะยังน้ำที่ใช้รดนั่นอีก ถึงแม้อิ๋งอิ๋งน้อยจะเป็นเเค่ต้นกระบองเพชรธรรมดาในโลกมนุษย์ แต่เขาก็ขโมยน้ำทิพย์จากสระมรกตขององค์เง็กเซียนมารดนางโดยตลอด

เขาต้องปกป้องอิ๋งอิ๋งน้อยเอาไว้ให้ได้ เพราะฉะนั้นย่อมไม่มีทางมอบต้นกระบองเพชรน้อยที่ตนเองนั้นแสนจะทะนุถนอมให้เจ้าเทพอันธพาลตรงหน้านี่อย่างเด็ดขาด บอกได้คำเดียวเลยว่า...

ไม่-มี-วัน!

“ส่งมา อย่าให้ข้าต้องเอ่ยซ้ำ รู้ใช่ไหมว่าเจ้าเด็กเง็กเซียนก่อนหน้านี้ออกว่าราชการไม่ได้ไปกี่วัน”

“...”

เคยเห็นผู้ใดข่มขู่พญายมราชไหมเล่า ถ้าไม่เคยเห็นก็เคยกันเสียเถอะ...ไอ้เทพจอมเอาแต่ใจ เอะอะก็จะใช้กำลังบังคับ

“อย่าจับนางแรงนักนะตี้จวิน อิ๋งอิ๋งเพิ่งออกดอกเป็นครั้งแรก ประเดี๋ยวดอกนางจะหลุดเอา”

สุดท้ายเพื่อป้องกันไม่ให้ยมโลกของตนถูกจอมเทพผู้ชั่วร้ายรังควาน เหยียนหลัวหวางจึงได้เเต่ยอมเสียสละต้นกระบองเพชรน้อยในมือ เขามองกลีบดอกสีชมพูที่สั่นระริกนั้นด้วยท่าทีประหนึ่งจะขาดใจ

'โธ่...อิ๋งอิ๋งน้อยของข้า'

เจ้าของร่างสูงยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ต้นไม้บนฝ่ามือนั้นดูแปลกตาดีเหลือเกิน นิ้วเรียวยาวประหนึ่งหยกงามไล้ลงบนกลีบสีชมพูแผ่วเบา หนามแหลมที่อยู่รอบๆ เจ้าต้นไม้น้อยก็พลันกางออกคล้ายต้องการปกป้องตนเองจากผู้รุกราน ขณะเดียวกันก็รู้สึกราวกับว่าเจ้าดอกน้อยๆ นั้นกำลังเกิดความเอียงอาย ยามสัมผัสจึงรู้สึกได้ถึงอาการไหวสั่นระริกของกลีบดอก จนคนลูบพลันเกิดความรู้สึกอยากกลั่นแกล้งขึ้นมาในอก

“อืม...เอาเป็นเจ้านี่ก็แล้วกัน” เทพบรรพกาลผู้เอาแต่ใจเอ่ย พลางยกมืออีกข้างขึ้นมาสะบัดวูบหนึ่ง

ฉับพลันกระบองเพชรน้อยในกระถางก็หายวับไป บนฝ่ามือของเขาปรากฏกลุ่มแสงสีขาวนวลจับตัวเป็นก้อนกลมขนาดไม่ใหญ่มากนักแทนที่ หลังจากนั้นร่างสูงจึงยื่นส่งสิ่งที่อยู่ในมือให้เหยียนหลัวหวางพลางกล่าวกำชับ

“ข้าจะไปดื่มน้ำแกงยายเมิ่งแล้ว เจ้าก็จงเร่งนำนางไปเกิดให้โดยเร็วเถิด จะได้รีบเริ่มด่านเคราะห์รักนี้ให้จบเรื่องราว” ออกคำสั่งจบผู้พูดก็เดินอาภรณ์ปลิวออกจากห้อง

เหยียนหลัวหวางพลันเกิดความสงสัย อดร้องถามขึ้นมามิได้ “ตี้จวิน ท่านไม่เคยสนใจความเป็นไปของโชคชะตาแล้ว เพราะเหตุใดท่านถึงอยากลงไปเผชิญด่านเคราะห์กันเล่า”

“ข้าเเพ้พนันเดินหมากกับเจ้าเด็กเง็กเซียน เจ้านั่นตั้งเงื่อนไขให้ข้าลงไปเผชิญด่านเคราะห์จากรักที่ไม่สมหวัง” เอ่ยจบก็เดินจากไปทันที

เหยียนหลัวหวางฟังแล้วยืนนิ่งอยู่กับที่ ผ่านไปสักพักหนึ่งถ้อยคำก่นด่าสารพัดจึงถูกพ่นออกมาแทบไม่หยุดหายใจ ทำเอาองค์เง็กเซียนที่กำลังประชุมชาวสวรรค์อยู่ถึงกับไอสำลักไม่หยุดเช่นกัน

เง็กเซียนบ้านั่นต้องการหาเรื่องไล่เจ้าเทพอันธพาลลงไปโลกมนุษย์ก็แล้วไปเถอะ แต่ทำไมถึงกลายเป็นเขาที่ต้องเสียสละอิ๋งอิ๋งน้อยไปด้วยเล่า ไม่ยุติธรรมเลยสักนิด

หลังจากยืนขุดบรรพชนเง็กเซียนขึ้นมาทักทายถึงสามรุ่นจนเป็นที่พอใจ เหยียนหลัวหวางจึงประคองก้อนเเสงในมือออกจากห้อง ไอ้อาลัยมันก็อาลัยอยู่หรอกนะ แต่ถ้าเขาส่งอิ๋งอิ๋งน้อยไปเกิดช้า ทางโน้นเกิดหงุดหงิดขึ้นมาจะลำบากตนเองเอาได้

‘อิ๋งอิ๋ง ข้าขอโทษด้วย เพื่อความสงบของแดนสวรรค์และยมโลก จำเป็นต้องให้เจ้าเสียสละเเล้ว’

“ไม่รู้ว่าเป็นบุญหรือกรรม ที่เจ้าต้องไปเป็นคู่วาสนาให้เจ้าเทพจอมวายร้ายนั่นแบบนี้ เอาเถอะอิ๋งอิ๋ง...สู้ๆ นะ”

เรื่องนี้จะเป็นแนวกลับชาติของเทพเซียน แต่ไม่ใช่แฟนตาซีอะไรมากค่ะ โทนเรื่องก็ยังสไตล์ไรต์ กินกาวไปเรื่อย😁

ขอฝากน้องกระบองเพชรกับท่านเทพอันธพาลด้วยนะคะ💖💖💖
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   บทที่ 61

    หลังจบพิธีการสำคัญ เฟยเซียนและจ้าวเหมยฮวาจึงได้พูดคุยสารทุกข์สุกดิบกับผู้เฒ่าฟ่งต่อ ทารกน้อยฟังเนื้อหาใจความสำคัญแล้วจึงเข้าใจ ที่แท้ผู้อาวุโสท่านนี้คิดจะนำขันทีที่หมดสภาพไปวังหลวง แน่นอนเหตุผลหลักๆ ย่อมมีเพียงข้อเดียว นั่นคือไปเพื่อหาเรื่องระบายอารมณ์กับเจ้านายอีกฝ่ายฮองเฮาท่านไปทำกรรมอันใดมานะ ถึ

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   บทที่ 60

    “ชวี่เอ๋อร์ต้องการปลอบใจพ่อสินะ สมแล้วที่เป็นลูกรักของพ่อ ต่อไปในอนาคตเจ้าต้องเชื่อฟังคำพ่อนะ ขึ้นชื่อว่าบุรุษไม่มีใครรักพวกเจ้าเท่าบิดามารดาเป็นแน่ อย่าไปหลงคารมหวานๆ จนเผลอมอบใจให้ตามที่พวกมันล่อลวงเล่า”แม่นมมองผู้เป็นนายที่พยายามพร่ำคำพูดให้บุตรสาวที่ยังเป็นทารกฟังด้วยสีหน้าเอือมระอา นายท่านของพ

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   บทที่ 59

    จากวิญญาณต้นไม้ธรรมดาข้ามสะพานอนิจจังกลายเป็นมนุษย์ แล้วจากมนุษย์ต้องไปเผชิญกับสภาพสุนัขจิ้งจอก มายามนี้นางได้กลับคืนสู่ฐานะมนุษย์อีกครั้งแล้วหยูหนิงหรือจ้าวชวี่ในคราบทารกวัยเพียงหนึ่งเดือนไม่อาจทำสิ่งใดตามที่ใจคิดได้ ในหนึ่งวันของนางมีเพียงแค่กิน ถ่าย แล้วก็นอนโง่ๆ เท่านั้น แน่นอนการไม่สามารถทำอะไ

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   บทที่ 58

    “อัปมงคลบ้านเจ้าน่ะสิ เมียข้าคลอดลูกถึงสองคนถือเป็นเรื่องน่ายินดี มีตรงไหนที่เป็นโชคร้ายกัน กับอีแค่เลือดจากการคลอดบุตรยังต้องหลบลี้หนีหน้า ต่อไปข้าจะนำทัพออกศึกได้อย่างไร”หมอตำแยจนใจจะกล่าวคำ ในเมื่ออีกฝ่ายไม่กลัวโชคร้ายก็แล้วไปเถิด เพราะถึงอย่างไรไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่เกี่ยวข้องกับตนเสียหน่อย

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   บทที่ 57

    จ้าวหมิงหลงฟังแล้วเห็นด้วยกับคนสนิทเป็นอย่างมาก แม่ทัพพยายามเก็บอาการกระวนกระวายไว้ในใจ พลางท่องบอกตนเองว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรก ภรรยาตนคลอดบุตรมาได้อย่างปลอดภัยแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ก็ย่อมต้องเป็นไปได้ด้วยดีแน่นอน สิ่งที่เขาควรต้องทำนั้นคือรอคอยอย่างสงบใช่แล้ว รออย่างสงบ...“...”แล้วถ้าไม่เป็นอย่างท

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   บทที่ 56

    เพราะเกิดการปะทะกันระหว่างพรรคมารกับฝ่ายธรรมมะ เป็นสาเหตุให้สัตว์เลี้ยงของเจ้าหุบเขามังกรฟ้าตาย ทำให้เขาต้องยื่นมือมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องผู้นำ ข่าวนี้แพร่กระจายจนบรรดาเหล่าคนในยุทธภพรู้กันทั่ว อีกทั้งงานชุมนุมเพื่อเฟ้นหาประมุขยุทธภพคราวนี้ยังล่มไม่เป็นท่างานชุมนุมคราวนี้ไม่เพียงไม่สามารถหาผู้มารับตำ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status