สามี(2)-2
"เจท...หอมว่าจะชวนเจทไปดูหนัง เห็นว่าเจทชอบเลยชวน" น้ำหอมเพื่อนห้องเดียวกันสมัยอนุบาล แยกย้ายจากกันไปเรียนต่างที่นานหลายปี แต่พอเข้ามหาวิทยาลัยกลับได้มาพบเจอกันอีกครั้งอย่างบังเอิญ
"ขอโทษนะน้ำหอม พอดีเรามีนัดแล้ว" ชายหนุ่มพูดขึ้นด้วยความลนลาน สายตามองตามเพื่อนสนิทที่เดินไม่เหลียวหลัง ตรงไปยังรถยนต์ที่จอดอยู่
"อย่างนั้นเหรอ...นัดกับไอติมเหรอ?" น้ำหอมเอ่ยถามพร้อมยิ้มอย่างเป็นมิตรหว่านเสน่ห์ มือไม้เกาะเกี่ยวลำแขนแกร่งอย่างถือวิสาสะ
"ใช่เรานัดไอติมไว้เเล้ว...ไปก่อนนะ" เจทพูดจบพร้อมแกะมือของน้ำหอมออกเร็วไวแล้วรีบวิ่งตามไอติมไปติด ๆ สีหน้าของเธอก่อนจากมา ใบหน้าที่นิ่งขรึม สายตากร้าวดุดันปนเศร้าเมื่อเห็นน้ำหอมเดินเข้ามา...ทีท่าเช่นนี้เจทไม่ค่อยชอบใจ เขาชอบไอติมผู้ร่าเริงสดใสยิ้มเก่งในแบบที่ผ่านมา
"เจท! เจท! เดี๋ยวก่อนเจท!...อีไอติม!" เสียงแหลมแผดดังตามหลัง กำมือแน่นอย่างเจ็บแค้นที่ถูกชายหนุ่มที่หมายตาปฏิเสธ แม้น้ำเสียงจะดังจนเขาได้ยินชัด แต่ก็ไม่คิดจะหันกลับไปมอง สองขารีบสับวิ่งเร็วไว อยากถึงตัวเพื่อนเกลอที่หน้าบึ้งเง้างอน
...ชายหนุ่มรับรู้อย่างลึกซึ้งว่าไอติมไม่ชอบหน้าน้ำหอม เหตุการณ์ในวัยเด็กที่เธอมักถูกน้ำหอมล้อเลียนและกลั่นแกล้งมันยังตราติดในภาพความทรงจำไม่รู้ลืม
"ไอติม...แฮ่ก แฮ่ก...ไอติมคือเจท..." ทันทีที่วิ่งมาถึงตัวเพื่อนสนิทด้วยอาการเหนื่อยหอบ...แต่ก็ยังพยายามส่งเสียงเรียกชื่อหญิงสาว ที่ยืนหลังพิงรถมือกอดอก
"รีบไปเถอะไอติมจะได้รีบกลับ" หญิงสาวพูดแทรกขึ้นโดยที่เจทยังพูดไม่ทันจบประโยค ก่อนจะหันหน้าเข้ากับตัวรถอย่างสื่อความหมายให้เจทนั้นปลดล็อกประตู เมื่อสัญญาณปลดล็อกเสียงดังเบา ๆ ด้วยฝีมือของเจท ร่างระหงของไอติมก็เคลื่อนคล้อยนั่งบนรถทันที
...ตลอดการเดินทางไปยังโรงหนัง ความเงียบเข้าปกคลุมอยู่เนิ่นนาน และอาการของเพื่อนหญิงมักเป็นเช่นนี้ประจำเมื่อพบเจอหน้าน้ำหอม...เธอแค้นจนไม่อยากมองหน้าน้ำหอมด้วยซ้ำ ความร้ายกาจในวัยเด็กส่งผลมายังตอนโต หากยามใดที่เธออยู่ลำพังไร้เจทเคียงกาย หากเมื่อพบเห็นก็ไม่วายเว้นจะพูดเสียดสีไอติมอยู่ร่ำไป มักเอ่ยถึงเพื่อนชายคนสนิทที่เดาไม่ยากว่าเธอนั้นหมายปอง
"ไอติม~~" น้ำเสียงนุ่มของเจทเอื้อนเอ่ย เมื่อเพื่อนหญิงคนที่พูดมากนั้นเงียบปากผิดปกติ ... ไม่สนใจที่จะพูดคุยเฮฮาในแบบที่เธอชอบทำ
"........" เธอยังคงเงียบกริบไม่สนใจ สายตามองเพียงหน้าจอโทรศัพท์ที่เผยแอบพลิเคชันเฟซบุ๊กเท่านั้น
"ไอติมคุยกับเจทหน่อยสิ"
"ขับรถไปเถอะน๊า" หญิงสาวพูดขึ้นอย่างหน่าย ๆ สายตาจ้องมองเพียงจอโทรศัพท์ คำพูดที่ไร้ความนุ่มละมุนสื่อความหมายของการห้ามปราม ว่าเธอนั้นไม่ต้องการคุยกับเขาในตอนนี้
"ขอโทษ..." แม้ไม่รู้ว่าสิ่งใดที่ทำให้เธอโกรธ แต่เจทจะเป็นคนเอ่ยปากขอโทษก่อนเสมอ เพียงเพราะไม่อยากให้เธอเง้างอนเขา ไม่อยากให้เธอเงียบเหงา มันทำให้เขารู้สึกถึงความห่างเหิน ไม่อยากเผชิญความเดียวดายแม้เป็นเพียงเสี้ยวความคิด...เพราะเธอคือคนที่เขาแคร์
ห้องทำงานของผู้เป็นสามียังเปิดสว่างจ้าแม้ว่าตอนนี้จะเริ่มดึกแล้ว เธอมองไปยังห้องทำงานของสามีก่อนจะเดินเข้าห้องตัวเอง หวังจัดการชำระร่างกายที่เหนื่อยล้ามาทั้งวัน ความตั้งใจหลังจัดการตัวเองเสร็จ คิดจะเข้าไปหาผู้เป็นสามีด้วยความห่วงใยที่มี พร้อมกับแก้วนมอุ่น ๆ ในมือ“งานใกล้เสร็จยัง” ผู้เป็นภรรยาเอ่ยถามพร้อมกับร่างกายที่เย้ายวนเดินนวยนาดเข้าไปใกล้ชายผู้เป็นสามี“ใกล้แล้วครับ ลูกหลับแล้วเหรอ?” เขาเงยหน้ามอง แล้วจึงเอ่ยถามพร้อมกับร่างของภรรยาให้นั่งลงบนตักแกร่ง วงแขนโอบรอบเอวของเธอ และซบแก้มลงต้นแขนเล็กนั้นอย่างรักใคร่“หลับแล้วค่ะ สกีอยากให้เจทเล่านิทานให้ฟัง แต่บอกแล้วว่าเจททำงานไอติมเล่าให้ฟังแป๊บเดียวก็หลับปุ๋ยเลย...อ่ะ! ดื่มนมอุ่น ๆ หน่อยนะไอติมชงมาให้” เธอยื่นแก้วนมในมือไปตรงหน้าสามีพร้อมกับยิ้มอ่อน“ไม่อยากกินมันไม่อร่อย”“ก็นมที่เจทดื่มประจำนะ รสชาติก็เหมือนเดิมจะไม่อร่อยได้ยังไงคะ?”“งั้นไอติมก็กินเองสิ ชิมดูว่ามันอร่อยจริงหรือเปล่า”เธอบอกตามจริง พร้อมกับสิ่งที่ทำให้สงสัยต่อคำปฏิเสธที่สามีเปรยออกมา แต่หารู้ไม่ว่ามันเป็นความกะล่อนของสามีเธอที่แอบแฝงเธอยกแก้วนมขึ้นมาดื่มอย่างว่าง่
สี่ปีผ่านไปเด็กน้อยเติบใหญ่ไปตามกาลเวลา จนตอนนี้อยู่ในวัยที่กำลังหัดพูดและช่างสงสัย เป็นหลานชายของบ้านที่ทุกคนนั้นรักและเอ็นดูที่สุด เพราะความน่ารักของเด็กชาย ใบหน้าของลูกเสี้ยวที่มีเคล้าของผู้เป็นพ่อประปราย ทำให้เด็กชายนั้นดูน่ารักน่าเอ็นดูตลอดเวลาสี่ปีที่ผ่านมามีเรื่องวุ่นวายให้เธอและครอบครัวนั้นปวดหัว เพราะความมักมากของอาไฟที่ทำให้ต้องมีการดัดนิสัยกันมากมาย กว่าจะมามีครอบครัวที่สมบูรณ์ก็กินเวลาไปนานหลายปี แต่สุดท้ายพ่อเสือก็สิ้นลายกลับกลายมาเป็นลูกแมวที่แสนเชื่อง และยังมีเมียเด็กรุ่นราวคราวเดียวกับกลาน แถมยังมีเด็กหญิงอันดาผู้น่ารักสดใส เธอเป็นที่รักของทุก ๆ คน ส่วนนิสัยของเธอนั้นไม่ต้องพูดถึง เธอได้พ่อมาเต็ม ๆ แต่เหมือนจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ แต่ก็มีบางมุมที่อ่อนไหวง่ายดั่งกับผู้เป็นแม่ และเธอก็มักจะมาเที่ยวเล่นกับเด็กชายสกีเป็นประจำ"มัมสกีอยากหาน้าปัง" เด็กชายตัวน้อยเอ่ยบอกผู้เป็นแม่ ที่ตอนนี้อยู่ในครัวเตรียมมื้อเช้า เขามักเป็นแบบนี้ประจำเพราะติดคุณน้าขนมปังที่สดใส ผูกพันจนใกล้ชิดกันมาแต่ไหนแต่ไร"วันนี้น้าปังไม่อยู่ครับคนเก่ง" คุณแม่ไอติมย่อตัวลงต่ำ แล้วลูบหัวลูกชายตัวน้อยอย่างอ่
การแต่งงานที่เป็นสัญลักษณ์ยืนยันต่อการใช้ชีวิตคู่ มันคือการเริ่มต้นของชีวิตที่ต้องจับมือเดินเคียงข้างกันไป ไม่ว่าจะพบเจออุปสรรคอะไรจะต้องฝ่าฟันมันไปให้ได้ และจะต้องเชื่อใจซึ่งกันและกัน ความรักของคนทั้งสองที่มีให้กันยังคงมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง จนบัดนี้ล่วงเลยเวลามานานเป็นปี และพวกเขากำลังจะมีทายาทตัวน้อยหลังจากที่พยายามผลิตจนตอนนี้สำเร็จผลแล้ว"เจทคะ...เสร็จหรือยัง" ไอติมเรียกขานผู้เป็นสามี เพราะว่าวันนี้มีนัดฉลองวันเกิดให้กับน้องสาวที่ก้าวขึ้นสู่อายุสิบแปดปีบริบูรณ์"เสร็จแล้วครับ" เจทที่อยู่ในชุดธรรมดา แค่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ก็ทำให้เขาดูดีได้ เพราะรูปลักษณ์ภายนอกดีเป็นทุนเดิม"หล่อจังเลยค่ะคุณพ่อเจท" ไอติมเอ่ยแซวผู้เป็นสามีพร้อมฉีกยิ้มสวยส่งให้"วันนี้คุณแม่ก็สวย" ต่างคนก็ต่างชมกันไปมาตามประสาคนที่รักกันเสมอต้นเสมอปลาย“จุ๊บ!! สามีน่ารักจริง ๆ เลย” ไอติมเขย่งเท้าแล้วแตะจูบริมฝีปากของผู้เป็นสามี กิริยาเช่นนี้พวกเขามักแสดงออกเป็นประจำจนคุ้นชิน“เนี้ยก็ชอบทำให้รักตลอดเลย เจทจะไปไหนได้ล่ะครับ หื้ม” ผู้เป็นสามีแนบหน้าผากชิดกับหญิงสาว ปลายจมูกถูกเสียดสีไปมา เป็นความน่ารักของคนทั้งสองที่ยัง
"เจท วันนี้น้ำอุ่นเข้ามาสมัครงานแล้วนะ ไอติมดีใจมากเลยจะได้มีคนช่วยงานอาไฟแล้ อาไฟจะได้ไม่เหนื่อย"หญิงสาวที่นั่งทานข้าวอยู่ในร้านอาหารกับสามีเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางที่แสนจะดีใจกับการมาร่วมงานของรุ่นน้องที่เธอเอ็นดู แม้จะไม่ค่อยได้เอ่ยถึง แต่ทั้งสองก็ผูกพันกัน"เหรอ ดีแล้วล่ะ" เจทว่าขึ้นพร้อมกับตักข้าวเข้าปาก"เจทว่าน้ำอุ่นจะทำงานกับอาไฟไหวไหมอ่ะ ไอติมกลัวว่าน้ำอุ่นจะทนไม่ไหว เพราะอาไฟค่อนข้างจริงจังกับงานมาก ๆ""น่าจะได้นะ จากที่เห็นน้องน่าจะมีความอดทนดีเลยทีเดียว" ความกังวลใจทำให้เธอต้องเอ่ยถามผู้เป็นสามีออกไป แล้วเจทก็ให้คำตอบในทันที"ไอติมก็ว่าแบบนั้นแหละ...แล้วกับข้าวอร่อยไหมคะ?"เธอตอบอย่างเห็นตาม แล้วจึงเอ่ยถามถึงอาหารตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม"อร่อย แต่ไม่สู้กินเมีย เอ๊ย!! กินกับเมียที่บ้าน"“เจท!! พูดบ้าอะไรเนี้ย อายคนอื่นบ้างไหม?”เจทพูดแซวพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ไอติมเธอต่อว่าเขา พร้อมกับฟาดมือลงแขนแกร่งนั้นอย่างลงโทษ คำพูดแซวมันทำให้เธอเขินอาย เพราะอยู่ในที่สาธารณะ มองซ้ายมองขวาเพื่อดูว่ามีใครได้ยินหรือไม่ แล้วจึงจ้องตาเขม็งข่มขู่ผู้เป็นสามี“ล้อเล่นครับ ไม่เอาไม่ทำหน้าแบบนั้น หน้า
การฮันนีมูนจบสิ้นในระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ของหลายเดือนที่ผ่านมา กลับเข้าสู่การทำงานสานต่อธุรกิจของครอบครัวอย่างเต็มตัว ทั้งเจทและไอติมได้เข้ามาทำงานกับผู้เป็นพ่อจนชำนาญ ตามความถนัดของแต่ละคน และพ่อเจก็ฝึกฝนจนคนทั้งคู่นั้นเก่งพอที่จะทำงานได้โดยไม่ต้องมีพ่อเจคอยแนะนำแบบแต่ก่อนLineLineLineเสียงของการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันสีเขียวดังขึ้น เรียกความสนใจของคนที่กำลังนั่งก้มหน้าก้มตาทำงานที่กองท่วมหัว“น้ำอุ่น”เมื่อเห็นว่าเป็นใครที่เฝ้ารอตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่ที่ได้พบเจอกันในต่างแดนเธอก็เฝ้ารอด้วยความหวังจากรุ่นน้องที่เอ็นดู เห็นดังนั้นจึงรีบตอบกลับทันทีไอติม : “ดีใจที่น้ำอุ่นทักมา สบายดีไหม?”ไอติมพิมพ์ถามกลับบ้าน พร้อมกับรอยยิ้มของความหวังและห่วงใยรุ่นน้องที่ทักมาน้ำอุ่น : “สบายดีค่ะ พี่ไอติมสบายดีเหมือนกันใช่ไหม?”ไอติม : “สบายดีมาก ๆ เลยจ้า การทักมาครั้งนี้พี่จะได้รับข่าวดีหรือเปล่าน้อ”ทั้งสองคนพิมพ์ตอบโต้กันไปมา งานที่คั่งค้างของไอติมถูกเมินไปชั่วครู่ เมื่อเธอมีสิ่งที่สนใจมากกว่าน้ำอุ่น : “ยังว่างให้หนูทำงานด้วยไหมคะ?”ไอติม : “ดีใจจัง พี่รอเรามานานแล้ว ยังว่างอยู่หน้าที่เดิ
เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการ ทั้งคู่จึงเดินออกมาเพื่อมุ่งหน้ากลับสู่ที่พัก การมาเที่ยวพักผ่อนทำให้กระชับความสัมพันธ์ของคนทั้งสองให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม พวกเขาเธอเรียบไปตามทางเดินที่มีผู้คนพลุกพล่านมากมาย แสงไฟในยามราตรีดูสวยงามตระกานตา เดินมาเรื่อย ๆ จนเกือบจะถึงที่พักพลางหยอกล้อพูดคุยกันอย่างสนุกสนานตามประสาปึก!“อ๊ะ!!”“ขอโทษค่ะ”เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นเป็นภาษาอังกฤษและก้มหัวอย่าง เมื่อเธอนั้นเดินมาชนกับหญิงสาวที่เดินเกาะแขนของผู้เป็นสามี“น้ำอุ่น”“พี่ไอติม บังเอิญจังเลยค่ะ ดีใจจัง”“นี่พี่เจทค่ะ สามีของพี่...เจทนี่น้ำอุ่นค่ะเป็นรุ่นน้องของไอติม เจทจำได้ไหม ที่ไอติมเคยเล่าให้ฟังว่าน้องน่ารักมาก”“อ่อ จำได้ ๆ สวัสดีครับ”“สวัสดีค่ะพี่เจท”ไอติมทักท้วงทันทีเมื่อเงยหน้ามองแล้วพบเจอกับคนรู้จัก ทั้งคู่มีอาการตกใจไม่ต่างกันกับการพบเจอในต่างแดน ไอติมรีบแนะนำสามีให้รู้จักกับรุ่นน้อง แม้จะเรียนอยู่ที่เดียวกันแต่เจทผู้ที่ไม่ค่อยสนใจใคร นอกจากผู้หญิงที่ชื่อไอติมเพียงคนเดียว ทั้งสองคนทักทายกันด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นมิตรด้วยสีหน้าระรื่น“แล้วน้ำอุ่นมาเที่ยวเหรอ...พอดีพี่กับเจทมาฮันนีมูล