ตอนที่ 27
อยากพบหน้า
ด้านจงเยว่ชิงที่อยู่ ๆ ก็ล้มป่วยนั้น เมื่อได้ยินเรื่องที่หลงจิวซิ่งเรียกอนุจี้ไปปรนนิบัติตนก็รู้สึกไม่พอใจทันที
“เป็นไปได้อย่างไร ข้ารับใช้เขาไม่ได้เขาก็เรียกหาสตรีอื่นทันทีหรือ แล้วที่บอกว่ารักใคร่ข้ามากมายนั่นเป็นเพียงเรื่องโกหกสินะ!!”
“นายหญิงใจเย็นก่อนเถอะเจ้าค่ะ อย่างไรคุณชายใหญ่ก็เป็นเพียงหมากตัวหนึ่งบนกระดานเท่านั้น นายหญิงจะใส่ใจไปทำไมกัน คนที่นายหญิงควรใส่ใจคือนายท่านต่างหากเจ้าค่ะ” มี่มี่เอ่ยเตือนนายสาว
“จริงสิ แต่ข้าล้มป่วยเช่นนี้จะพบผู้ใดได้อีก กว่าจะหายนายท่านคงลืมข้าไปแล้วกระมั้ง” หญิงสาวเอ่ยอย่างหงุดหงิด
“ข้าจะลืมเจ้าได้อย่างไร ต่อให้เจ้าล้มป่วยข้าจะยังจะมาหาเจ้าเช่นเดิมนั่นแหละ” เสียงบุรุษดังขึ้นที่หน้าห้อง พร้อมกับตัวคนที่ถือกล่องบางอย่างเข้ามา
“นายท่านข้ากำลังป่วยอยู่อย่าเข้าใกล้ข้าเลย ท่านจะติดหวัดจากข้าเอาได้นะเจ้าคะ” จงเยว่ชิงเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นอ่อนหวานทันที
“ช่างปะไรข้าไม่กลัวเรื่องนั้นเสียหน่อย ขอเพียงให้ได้อยู่ใกล้ชิดเจ้าก็พอ วันนี้ข้าเอาชุดใหม่ที่สั่งตัดมาให้เจ้าด้วยนะ ดูก่อนว่าเจ้าชอบหรือไม่” หลงเจิ้งสิงเอ่ยพร้อมกับยื่นกล่องในมือให้หญิงสาว
“ขอบคุณนายท่านที่ใส่ใจข้าตลอด ข้าไม่รู้จะตอบนายท่านอย่างไรหมดแล้วเจ้าค่ะ” จงเยว่ชิงเอ่ยพร้อมแสดงท่าทีเอียงอาย
“ไม่ต้องตอบแทนข้าเลย ขอเพียงเจ้าอยู่เป็นดวงใจของข้าเช่นนี้ไปตลอดก็พอ” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับดึงหญิงสาวมากอดอย่างไม่ถือตัว
“จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร ข้าเป็นอนุของบุตรชายท่านนะเจ้าคะ อีกอย่างหากฮูหยินใหญ่รู้เรื่องของเราก็คงไม่ยอมแน่” จงเยว่ชิงเอ่ยพลางบีบน้ำตาราวกับสั่งได้
“อย่าห่วงเรื่องอื่นเลย ข้าจะจัดการทุกอย่างเองขอเพียงเจ้าเชื่อใจข้าก็พอ รับรองวันหน้าเจ้าจะได้ชื่อว่าเป็นสตรีของข้าแน่นอน”
หลงเจิ้งสิงเอ่ยให้คำมั่นสัญญาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่นั้นผิดเพียงใด แต่เขากับนางรักกันด้วยความบริสุทธิ์ใจ
หากถึงวันที่นางไร้พันธะสัญญาแล้ว เขาจะพานางไปอยู่ที่เรือนนอกเมือง เลี้ยงดูอย่างดีเป็นนายหญิงของจวน ยามเขาเหนื่อยจากงานก็ไปหานางที่นั่น
เท่านี้ก็ไม่มีผู้ใดต่อว่าเขาได้แล้ว ส่วนฮูหยินของเขานางจะขัดขวางอะไรเขาได้ จะป่าวประกาศออกไปยิ่งไม่ได้ไปใหญ่
เรื่องผู้นำตระกูลคนต่อไปก็ย่อมต้องเป็นบุตรชายเขากับจงเยว่ชิงเท่านั้น ส่วนบุตรชายคนอื่น ๆ ก็ค่อยแบ่งกิจการให้คนละเล็กน้อยพอ
ที่หลงเจิ้งสิงเป็นเช่นนี้เพราะซ่งอี้เฉินใช่ยากล่อมจิตใจ ให้ตาแก่บ้าเด็กสาวมีความคิดไปเช่นนั้น
โจวเยี่ยนเหยียนจัดการเรื่องกิจการที่กำลังจะเปิดอยู่ในเรือน กลับพบว่ามีก้อนหินห่อกระดาษถูกขว้างเข้ามาทางหน้าต่าง นางจึงหยุดมือที่กำลังเขียนรายการสิ่งของลุกไปหยิบเจ้าสิ่งนั้นขึ้นมา
“นายหญิงทำสิ่งใดอยู่หรือเจ้าคะ” ลู่หลิ่งเอ่ยถามขณะเดินเข้ามา เพราะเมื่อครู่ตนไปเอาของว่างให้นายหญิงตัวเอง
“ไม่รู้เช่นกัน เมื่อครู่มันถูกขว้างเข้ามาทางหน้าต่าง” นางตอบพร้อมกับแกะอ่าน
ศาลาในสวน
นั่นเป็นประโยคที่อยู่ในกระดาษใบเล็ก เมื่ออ่านจบนางก็ขวมดคิ้วมุ่นทันที
“ศาลาในสวนงั้นหรือเจ้าคะ ให้บ่าวไปดูให้ก่อนดีกว่าเผื่อเป็นของอันตรายหรือมีบุคคลอื่นแอบเข้าจวนมาเจ้าค่ะ” ลู่หลิ่งเอ่ยพร้อมกับเดินออกจากห้องไปทันที
“นายหญิงลู่หลิ่งบอกว่ามีของแปลก ๆ ส่งมาให้นายหญิงหรือเจ้าคะ” ลู่หลินวิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น
“ยังไม่แน่ใจนัก ลู่หลิ่งกำลังไปดูที่สวนน่ะ” นางเอ่ยพร้อมกับจดรายการสิ่งของที่ต้องซื้อต่อ
“นายหญิงมาแล้วเจ้าค่ะ ในกล่องข้าเปิดดูแล้วเป็นขนมเฉียวกั่วเจ้าค่ะ แถมยังมีจดหมายฉบับนี้อยู่ด้วย” ลู่หลิ่งเอ่ยพร้อมกับวางของและยื่นจดหมายให้นาง
“เป็นผู้ใดกันที่เล่นอะไรเช่นนี้ หรือจะเป็นคุณชายใหญ่ที่จะง้อนายหญิงของเราหรือ” ลู่หลินเอ่ย
“ข้าว่าไม่ใช่คนผู้นั้นหรอก”
นางเอ่ยพร้อมกับเปิดจดหมายออกอ่าน ลายมือในจดหมายหนักแน่นมั่นคง ทุกตัวอักษรทรงพลังแต่เนื้อความในจดหมายกลับทำให้นางแปลกใจ
ให้เจ้าเป็นดั่งสตรีทอผ้า ส่วนข้าจะเป็นชายเลี้ยงวัว
“ในนั้นเขียนสิ่งใดไว้หรือเจ้าคะ เหตุใดนายหญิงจึงทำหน้าเช่นนั้น” ลู่หลินเอ่ยถามอย่างสงสัย
“อะไรคือสตรีทอผ้ากับชายเลี้ยงวัว” นางเอ่ยถามพร้อมกับยื่นกระดาษให้สองสาวใช้อ่าน
“หญิงทอผ้ากับชายเลี้ยงวัวเป็นตำนานที่เล่าขานกันมานานในเทศกาลชีซีเจ้าค่ะ ตามตำนานวันที่เจ็ดเดือนเจ็ด ฝูงนกกางเขนจะสร้างสะพานข้ามแม่น้ำบนท้องฟ้า เพื่อให้หญิงทอผ้ากับชายเลี้ยงวัวได้มาพบกันเจ้าค่ะ” ลู่หลิ่งเอ่ย
เทศกาลชีซีงั้นหรือ ถ้าเป็นโลกก่อนก็คงเป็นวันวาเลนไทน์ล่ะมั้ง เช่นนั้นคนที่ส่งจดหมายกับขนมนี่มาก็กำลังจีบนางอยู่งั้นหรือ
เมื่อคิดได้เช่นนั้นภาพใบหน้าบุรุษแสนเย็นชาและน่ากลัวผู้หนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัว
“ผู้ใดกันที่กล้าส่งขนมเฉียวกั่วมาให้ฮูหยินผู้อื่นเช่นนี้” ลู่หลินเอ่ยไปเรื่อยจึงถูกลู่หลิ่งตีแขนไปหนึ่งที
“เจ้าอย่าได้พูดเรื่องนี้ออกมาเด็ดขาด! ขนมนี่นายหญิงอยากกินข้าเลยออกไปหาซื้อมาให้จากข้างนอก เข้าใจหรือไม่!!!” ลู่หลิ่งเอ่ยเสียงดุ
โจวเยี่ยนเหยียนลองพลิกจดหมายที่แนบมาก็พบสัญลักษณ์เมฆก้อนเล็ก ๆ ที่มุมกระดาษ
“หากข้ายังเป็นเพียงคุณหนูผู้หนึ่ง มีบุรุษส่งขนมมาเกี้ยวพาเช่นนี้คงอายจนตัวม้วนตกเก้าอี้ไปแล้ว” นางเอ่ยทีเล่นทีจริงพร้อมกับหัวเราะออกมา
“นายหญิงทำเช่นนั้นจะถูกดุเอานะเจ้าคะ แล้วอีกอย่างคนผู้นี้ช่างเสียมารยาทนัก รู้ทั้งรู้ว่านายหญิงออกเรือนแล้วแต่ยังทำเช่นนี้ เหมือนไม่ให้เกียรตินายหญิงเลยนะเจ้าคะ”
ลู่หลิ่งเอ่ยด้วยท่าทีจริงจัง แต่มือก็หยิบขนมในกล่องขึ้นมากัดไปหนึ่งคำ ที่ทำเพราะต้องการตรวจสอบพิษ เมื่อครู่นางลองดมแล้วไม่มีกลิ่นผิดแปลก แต่เพื่อความแน่ใจจึงต้องลองชิมเอง
“เขาคงไม่ใส่พิษมาในขนมนี่หรอก ถ้าเป็นยาปลุกกำหนัดก็ไม่แน่” นางเอ่ยพร้อมกับหัวเราะออกมา
“นายหญิง!! พูดเช่นนี้อย่าบอกว่านายหญิงรู้จักคนผู้นี้หรอกนะเจ้าคะ!!” ลู่หลินเอ่ยอย่างตกใจ
“ไม่รู้จักแต่เคยพบอยู่ อื้ม...สามครั้งได้กระมั้ง”
นางเอ่ยพร้อมกับทำท่าคิด แต่นั่นกลับทำให้สาวใช้นางตกใจอย่างมาก นายหญิงไปพบบุรุษยามใดกัน ในเมื่อพวกนางก็อยู่กับนายหญิงตลอดเวลา
“นายหญิงต้องอยู่ให้ห่างบุรุษเช่นนี้นะเจ้าคะ วันหน้าเขาจะทำให้นายหญิงเสื่อมเสียเอาได้” ลู่หลิ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
“จริงเจ้าค่ะ นายหญิงไปพบเขายามใดกันเหตุใดข้ากับลู่หลิ่งไม่เคยรู้มาก่อน หรือเป็นก่อนหน้าที่พวกข้าจะมาอยู่กับนายหญิงงั้นหรือเจ้าคะ” ลู่หลินเองก็ตื่นตระหนกไม่ต่างกัน
“เอาล่ะ ๆ ข้าพบกับเขานานแล้ว พวกเจ้าอย่าตื่นตระหนกไปเลยต่อไปนี้ข้าจะอยู่ให้ห่างบุรุษผู้นี้มากที่สุดนะเจ้าคะท่านสาวใช้ทั้งสอง” นางเอ่ยทีเล่นทีจริง พร้อมกับหัวเราะออกมา
“นายหญิงอย่าเรียกพวกบ่าวเช่นนี้สิเจ้าคะ นายหญิงเป็นนายพวกข้าเป็นเพียงบ่าวนะเจ้าคะ” ลู่หลินรีบเอ่ยห้าม เมื่อนางเรียกทั้งสองว่าท่าน
ด้านซ่งอี้เฉิน ที่เขาส่งขนมไปให้นางนั้นเพราะลูกน้องคนสนิทเอ่ยแนะนำมา แล้วมันก็ดูจะได้ผลเสียด้วยเพราะนางกินขนมของเขาจนเกือบหมดกล่อง ไม่เสียแรงที่เจ้านั่นเป็นลูกน้องของเขาจริง ๆ
เหตุการณ์ก่อนหน้านี้
“นายท่านเอาแต่มาแอบมองว่าที่นายหญิงเช่นนี้ แล้วเมื่อไหร่นางจะรู้ตัวกันว่านายท่านมีใจให้” ซุนเข่อซินเอ่ยถามผู้เป็นนายที่กำลังเกาะอยู่บนต้นไม้ข้างเรือนหญิงสาว
“เจ้าหุบปากเสีย เสียงของเจ้ารบกวนเวลามีความสุขของข้า” เสียงเย็นชาของผู้เป็นนายตอบกลับมา
“นายท่านลองส่งอะไรไปให้นางดีหรือไม่ นางจะได้รู้ตัวแล้วเราจะได้สังเกตท่าทีว่านางคิดเช่นไรกับนายท่าน” ซุนเข่อซินเสนอแนวทาง ทำให้ซ่งอี้เฉินฉุกคิดขึ้นมาได้
หากส่งของไปทุกวันก็จะทำให้นางรู้ว่าเขาใส่ใจนางเสมอ เช่นนั้นก็ย่อมดีกว่าที่เขามาแอบมองนางโดยที่นางไม่รู้ตัวเช่นนี้
“เจ้าคิดว่าข้าควรส่งของแบบใดไปให้นางดีเล่า” เขาเอ่ยถามความเห็นลูกน้องคนสนิท เพราะหยกประจำตัวตนก็ให้นางไปแล้ว
“เอาเป็นของที่สตรีชอบก็น่าจะดีนะขอรับ อย่างเครื่องประดับ หรือไม่ก็ของกิน ยิ่งเป็นของที่สื่อความหมายเกี่ยวกับความรักได้จะยิ่งดี ผู้รับจะได้รู้ว่าท่านกำลังต้องการสื่อสิ่งใด”
ของที่สตรีชอบงั้นหรือ เขาเคยได้ยินมาว่าสตรีชอบของหวาน เช่นนั้นส่งขนมไปให้นางดีหรือไม่ หรือจะเป็นเครื่องประดับงดงามดี
แต่จากที่สังเกตมานางแทบจะไม่สวมเครื่องประดับแพง ๆ เหล่านั้นเลย มีเพียงปิ่นกลไกนั่น
คิดถึงตรงนี้เขาก็คล้ายจะตัดสินใจบางอย่างได้ ก่อนจะตรงกลับเรือนเพื่อเขียนจดหมาย ก่อนจะไปซื้อขนมเฉียวกั่วที่ร้านขึ้นชื่อ พร้อมกับเอาไปวางให้นางในสวนเสร็จสรรพ
ใบหน้าที่หัวเราะร่าเริงของนางช่างเป็นภาพที่งดงามนัก หากได้เห็นนางหัวเราะเช่นนี้ทุกวันคงดีไม่น้อย
“เจ้าไปศึกษามาว่ามีวิธีใดบ้างที่จะชนะใจสตรีได้” ซ่งอี้เฉินเอ่ยสั่งลูกน้องคนสนิท
“ห๊ะ!! แต่นายท่านข้าจะไปศึกษาจากที่ใดได้เล่าขอรับ!!!!!!!” ซุนเข่อซินอุทานอย่างตกใจ
“เจ้าเคยบอกว่าเชี่ยวชาญเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่หรือ เช่นนั้นเจ้าก็ไปหาวิธีมา ข้าให้เวลาเจ้าสามวันเท่านั้น” เอ่ยจบก็หันหลังให้ลูกน้องคนสนิททันที
ซุนเข่อซินถึงกับกุมขมับ วิธีเอาชนะใจบุรุษยังพอถามเอาได้จากสตรีในหอโคมแดง แล้ววิธีเอาชนะใจสตรีเขาจะไปถามเอาจากที่ใด
“เจ้าอย่าคิดมากไปเลย ลองไปหลอกถามเอาจากบุรุษในตรอกฟ้าครามสิ เผื่อพวกเขาจะรู้ว่าสตรีต้องการสิ่งใดนะ ฮ่าฮ่าฮ่า!!!” สหายของเขาเอ่ยแนะนำแกมหัวเราะพร้อมตบบ่าให้กำลังใจ
ซุนเข่อซินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจออกไปที่ย่านโคมแดงแทน อย่างน้อยก็น่าจะได้อะไรกลับมาบ้าง
นายท่านจะมีฮูหยินทั้งที แต่ทำไมเขาจึงต้องมาลำบากเช่นนี้เนี่ย!!!
ตอนที่ 28หาเรื่องพักนี่หลงจิวซิ่งปวดหัวกับการส่งสินค้าลับเป็นอย่างมาก เพราะล่าสุดสินค้าที่เขาลอบนำเข้ามาถูกทางการจับกุมได้ทั้งหมด และคนที่เป็นผู้นำจับในครั้งนี้ก็คืออ๋องโจวจิ้งห้าว พ่อตาของเขานั่นเองมูลค่าสินค้าครั้งนี้เสียหายกว่าสิบล้านตำลึงทอง นับว่ามากที่สุดตั้งแต่ทำการค้านี้มาเลยก็ว่าได้“นายท่านตอนนี้คนของเราส่งข่าวมาว่าอ๋องโจวจิ้งห้าวเค้นเอาความจากคนของเราจนสาวมาถึงพ่อค้าที่ส่งของให้เราแล้วขอรับแต่ยังไม่สามารถจับตัวได้ และพ่อค้าที่เราทำการค้าด้วยก็ส่งคนมาขอความช่วยเหลือจากเรา หากไม่ช่วยเหลือเขาขู่จะเปิดโปงเรื่องทุกอย่างขอรับ”คนของหลงจิวซิ่งเอ่ยพร้อมกับยื่นจดหมายฉบับหนึ่งให้ เมื่อเปิดอ่านชายหนุ่มก็ขย้ำมันจนยับยู่ยี่ด้วยความโกรธ“จัดการเสีย คนตายย่อมไม่สามรถพูดได้ อย่าให้มันได้มีโอกาสเอ่ยปากถึงข้าได้!” เอ่ยจบก็เผาจดหมายฉบับนั้นทิ้งทันที“มูลค่าสินค้าที่เราสูญเสียไปนั้นมากมายนัก ตอนนี้เงินใ
ตอนที่ 27อยากพบหน้าด้านจงเยว่ชิงที่อยู่ ๆ ก็ล้มป่วยนั้น เมื่อได้ยินเรื่องที่หลงจิวซิ่งเรียกอนุจี้ไปปรนนิบัติตนก็รู้สึกไม่พอใจทันที“เป็นไปได้อย่างไร ข้ารับใช้เขาไม่ได้เขาก็เรียกหาสตรีอื่นทันทีหรือ แล้วที่บอกว่ารักใคร่ข้ามากมายนั่นเป็นเพียงเรื่องโกหกสินะ!!”“นายหญิงใจเย็นก่อนเถอะเจ้าค่ะ อย่างไรคุณชายใหญ่ก็เป็นเพียงหมากตัวหนึ่งบนกระดานเท่านั้น นายหญิงจะใส่ใจไปทำไมกัน คนที่นายหญิงควรใส่ใจคือนายท่านต่างหากเจ้าค่ะ” มี่มี่เอ่ยเตือนนายสาว“จริงสิ แต่ข้าล้มป่วยเช่นนี้จะพบผู้ใดได้อีก กว่าจะหายนายท่านคงลืมข้าไปแล้วกระมั้ง” หญิงสาวเอ่ยอย่างหงุดหงิด“ข้าจะลืมเจ้าได้อย่างไร ต่อให้เจ้าล้มป่วยข้าจะยังจะมาหาเจ้าเช่นเดิมนั่นแหละ” เสียงบุรุษดังขึ้นที่หน้าห้อง พร้อมกับตัวคนที่ถือกล่องบางอย่างเข้ามา“นายท่านข้ากำลังป่วยอยู่อย่าเข้าใกล้ข้าเลย ท่านจะติดหวัดจากข้าเอาได้นะเจ้าคะ&rdqu
ตอนที่ 26เวลาเปลี่ยนคนเปลี่ยนหลงจิวซิ่งโกรธทั้งฮูหยินเอกและมารดาตัวเอง วันนั้นจึงประชดโดยการทิ้งสตรีทั้งสองให้รอเก้ออยู่ในเรือนตามลำพัง ส่วนตัวเองก็ไปนอนกกกอดกับอนุจงเช่นเคยแต่อนุทั้งสองไม่ได้เหมือนนาง ที่ไม่ได้รับความโปรดปรานก็สามารถอยู่ได้ ดังนั้นวันนี้นางจึงมาหาแรงจูงใจให้ทั้งสองเสียหน่อย“หากพวกทั้งคนใดคนหนึ่งสามารถปรนนิบัติคุณชายใหญ่ได้ก่อน ข้าจะมีรางวัลให้อย่างงาม” นางเอ่ยขณะที่ทั้งสองมายกน้ำชาให้ตนในเช้าวันถัดมาที่นางทำเช่นนี้เพราะอยากเห็นชายหนุ่มแตกหักกับอนุจง ทุกอย่างทำไปเพราะความสนุกของตัวเองล้วน ๆแต่อีกนัยหนึ่งคือเขาจะได้ไม่มีเวลามายุ่งวุ่นวายเรื่องกิจการของนาง ที่ยามนี้ดำเนินการไปได้เกือบเสร็จแล้ว“จริงหรือเจ้าคะ!!! นายหญิงพอจะบอกได้หรือไม่ว่ารางวัลนั้นคือสิ่งใด” จี้เหมยกุ้ยเอ่ยถามอย่างตื่นเต้น“ข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้าจะชอบมันหรือไม่ เครื่องหัวชิ้นนี้ทำมาจากหยกชั้นดี การออกแบบงดงามยังไม่มีวางขายในเมืองหลวง เพราะมันเป็นเครื่องประดับที่ข้าสั่งทำขึ้นมาเอง”นางเอ่ยพร้อมกับเปิดกล่องเครื่องประดับในมือให้ทั้งสองดู แม้จะเป็นเพียงปิ่นระย้าแต่รูปแบบงดงามนัก“งดงามยิ่งนัก ข้าไม่เคยเ
ตอนที่ 25แม่สามีซ่งอี้เฉินได้ยินทุกประโยคที่หญิงสาวพูดคุยกัน ตนตามนางมาตั้งแต่หอนางโลม เข้าออกร้านอาภรรณ์และร้านเครื่องประดับ จนมาถึงโรงเตี๊ยมแห่งนี้“นางช่างแสดงงิ้วได้เก่งกาจนัก หากนายท่านไม่ให้ข้าเฝ้าดูนางก่อนหน้านี้ ข้าคงคิดว่านางน่าสงสารแล้ว อึก!!!!”ซุนเข่อซินพูดจบก็รู้สึกจุกที่ท้องทันที เพราะถูกผู้เป็นนายซัดพลังยุทธใส่ แม้ไม่ได้แรงมากแต่ก็ทำเอาเขาตัวงอได้เช่นกัน“พูดมากเช่นนี้ข้าควรส่งเจ้าไปฝึกกับอี้เจินสักสองปี” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับมองลูกน้องตัวเองด้วยสายตาเย็นชา“ยะ อย่าเลยขอรับ ข้าจะไม่พูดอีกแล้ว” ซุนเข่อซินรีบปิดปากตัวเองทันที ก่อนจะถูกไล่ให้ไปเอารถม้า เพราะโจวเยี่ยนเหยียนออกจากห้องข้าง ๆ แล้วหลงจิวซิ่งกำลังตรวจบัญชีอยู่ในห้องทำงานหลังร้าน ก็มีบ่าวเข้ามาแจ้งว่าอนุจงเอาสำรับมาส่ง“รีบให้นางเข้ามา” ชายหนุ่มวางพู่กันในมือลงพร้อมกับลุกไปรับหญิงสาว“ท่านพี่ทำงานอยู่หรือเจ้าคะ ข้ามารบกวนท่านหรือไม่” จงเยว่ชิงเอ่ยพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม“รบกวนอะไรกันเจ้าอุตส่าห์หิ้วปิ่นโตมาหาข้าเพียงนี้ แต่เจ้าไม่น่าลำบากเอาอาหารมาส่งข้าเช่นนี้เลย นั่งก่อนเถอะ” ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับประคอง
ตอนที่ 24รับอนุให้สามีเมื่อได้ฟังจบนางก็ยิ้มเย้ยหยันออกมาทันที ที่สร้างเรื่องพวกนี้ก็เพื่อเอาไว้บีบให้นางอยู่ใต้เท้าตัวเองนี่เอง“เกินไปแล้ว!! ถึงกับใส่ร้ายกันเพียงนี้คงไม่ต้องการให้นายหญิงออกงานสังคมได้เลยสินะ” ลู่หลิ่งเอ่ยเพราะโกรธแทนนายสาว“พวกเจ้าเชื่อข่าวลือเหล่านั้นหรือไม่” นางหันไปถามสาวใช้ทั้งสองอย่างใจเย็น“จะเชื่อได้อย่างไรเล่าเจ้าคะ ในเมื่อพวกข้าก็อยู่กับนายหญิงตลอดเวลา ย่อมมองออกว่านายหญิงเป็นคนเช่นไร” ลู่หลินรีบเอ่ย“เช่นนั้นข้าจะเล่านิทานให้ฟัง” นางเอ่ยพร้อมกับเริ่มเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาให้ฟัง รวมทั้งเรื่องที่ตนสันนิษฐานเกี่ยวกับสามีผู้นี้ด้วย“เช่นนั้นนายหญิงจะทำอย่างไรต่อไปดีเจ้าคะ ขนาดเพิ่งมาถึงเมืองหลวงไม่นานยังกล้าทำถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นายหญิงไปเข้าเฝ้าไทเฮามาแท้ ๆ พวกเขายังไม่เกรงใจเลยสักนิด”ลู่หลินเอ่ยด้วยสีหน้ากังวล คนจวนนี้ไม่คิดเกรงกลัวอำนาจของราชวงศ์เลยสักนิด คงคิดว่าการค้าของตัวเองเรืองอำนาจมากสินะ“ข้าคิดว่าจะให้บิดาช่วยเรื่องหย่า จากนั้นข้าจะหายไปเสีย ออกไปใช้ชีวิตคนเดียวเปิดกิจการเลี้ยงตัวเอง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับราชวงศ์อีก”นางเอ่ยความคิดที่ตนวางแผนไว้ แ
ตอนที่ 23ฮูหยินอำมหิต“ฮูหยินน้อยเกิดสิ่งใดขึ้นหรือเจ้าคะ ให้พวกบ่าวเข้าไปได้หรือไม่!!” เสียงลู่หลิ่งตะโกนมาจากด้านนอก“เข้ามา!!!! แล้วให้คนมาพาคุณชายใหญ่กลับเรือนไปด้วย!!!!!” นางเอ่ยพลางหอบหายใจเพราะความโกรธเมื่อเห็นสภาพของหลงจิวซิ่งสาวใช้ทั้งสามก็รีบเอามือปิดปากกลั้นเสียงร้องของตัวเองทันที“นายหญิงเจ็บที่ใดหรือไม่เจ้าคะ!!”ลู่หลินรีบเข้ามาดูนาง ก่อนจะตาโตอย่างตกใจอีกครั้ง เมื่อเห็นนางมีเลือดซืมที่มุมปาก พร้อมกับใบหน้าด้านซ้ายเริ่มบวมแดงแล้ว“ไปตามหมอเถอะ” นางบอกสาวใช้สั้น ๆ ก่อนจะเดินไปรอที่ห้องรับรองแขก เพราะหากมีการตามหมอเรื่องก็คงวุ่นวายกว่านี้แน่กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก็ผ่านมาเกือบสองชั่วยาม หมอมาดูอาการนางแล้วบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก ก่อนจะเขียนใบสั่งยาแล้วกลับไปส่วนหลงจิวซิ่งนั้นหัวแตก หากเป็นในโลกที่นางจากมาคงได้เย็บไม่ต่ำกว่าสิบเข็มแน่ นอกนั้นก็ปากแตกแล้วก็พกช้ำเล็กน้อยเพราะล้มใส่โต๊ะทานข้าว“ฮูหยินน้อยเจ้าอธิบายให้ข้าฟังทีว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร!” ฮูหยินใหญ่ที่ได้โอกาสจึงเอ่ยถามนางด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด“ฮึก!! ท่านพี่เคยเล่าเรื่องที่ทะเลาะกับฮูหยินน้อยตอนอยู่เมือ