Share

ตอนที่ 3 ครอบครัวในความฝัน

last update Last Updated: 2025-11-17 10:07:19

คืนนั้นหลังจากแก่นคูณป้อนยาภรรยาเสร็จจึงอุ้มเธอขึ้นไปนอนในห้องด้วยกัน เพราะบ้านหลังนี้มีเพียงสองห้องนอน คือห้องของเขากับห้องของแม่เท่านั้น ซึ่งลูกทั้งสองจะนอนกับแม่อยู่แล้ว เขาให้ภรรยานอนด้านใน ส่วนเขานอนด้านนอก

            แก่นคูณนั่งมองภรรยาพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนดับตะเกียงเจ้าพายุ แล้วล้มศีรษะลงนอน กายขยับออกห่างจากภรรยามากกว่าที่เคยเป็น

            วันต่อมาแก่นคูณตื่นแต่เช้าเพื่อมานึ่งข้าวแทนผู้เป็นแม่ เกือบปีมาแล้วที่แม่มีอาการปวดเข่าปวดขา ต้องคอยซื้อยามากินอยู่เสมอ เหตุผลที่แม่ยังไม่หายขาดก็เพราะเขาไม่มีเงินซื้อยามาให้แม่กินอย่างต่อเนื่อง ทำให้แม่เดินเหินไม่ค่อยสะดวก และเดินไปไหนไกล ๆ ไม่ค่อยได้ แต่แค่เลี้ยงหลานอยู่บ้านสองคนแม่ก็เหนื่อยมากแล้ว

            ตะวันเริ่มสาดแสงออกมาจากปลายเขาลูกใหญ่ ภาคภูมิกับพอใจจึงเดินออกไปหาพ่อที่อยู่ในครัว ซึ่งเป็นพื้นที่ค่อนข้างโล่งติดกับลานอเนกประสงค์ที่ใช้สำหรับนั่งเล่น กินข้าว และรับแขกไปในตัว ด้านหน้าเป็นชานบ้านและมีบันไดสำหรับขึ้นลง

            “พ่อครับ แม่ฟื้นหรือยังครับ” ภาคภูมิถามพ่อ

            “ยัง”

            “ผมไปหาแม่นะครับ”

            “หนูไปด้วยค่ะ” พอใจว่าตาม

            “ไปล้างหน้าแปรงฟันก่อน” พ่อเอ่ยเสียงดุ

            “ครับ” ภาคภูมิจึงจูงแขนน้องไปล้างหน้าแปรงฟันด้วยกัน

            ภาคภูมิแง้มประตูห้องนอนของพ่อออกชะเง้อหน้าเข้าไปด้านในก่อน น้องสาวเอ่ยถามพี่ชายเสียงกระซิบกระซาบ “พี่ภูมิ แม่ตื่นยัง”

            “ยัง” เขายังเห็นแม่นอนหลับตาอยู่จึงตอบออกไปเช่นนั้น

            เด็กน้อยทั้งสองย่องเข้ามาในห้องอย่างเบาเท้าแล้วนั่งลงข้าง ๆ แม่

            “แม่คะ” พอใจเรียกแม่

            แต่พี่ชายกลับทำปากจู๋แตะนิ้วชี้ที่ปากตน “ชู่ อย่าเสียงดัง เดี๋ยวแม่ตื่น”

            “พี่ภูมิไม่อยากให้แม่ตื่นเหรอคะ” คิ้วเรียวเลิกสูงขึ้น ดวงตากลมมองพี่ชายด้วยความสงสัย

            “อยาก แต่แม่ต้องนอนพักผ่อนให้มาก ๆ”

            ปานตะวันที่ได้ยินเสียงเด็กคุยกันอยู่ใกล้ ๆ จึงลืมตาตื่นขึ้นมา พลันรู้สึกปวดตุบ ๆ ในหัวอย่างรุนแรง

            “แม่ตื่นแล้ว” เสียงเล็กแหลมของพอใจพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น ดวงตาทอประกายพราวระยับ

            ปานตะวันลืมความปวดนั้นไปชั่วขณะ คิ้วค่อย ๆ ขมวดเข้าหากันมองเด็กชายเด็กหญิงทั้งสองด้วยแววตานิ่งงัน

            “แม่?” เธอพูดออกเสียงแหบแห้ง นี่เธอมีลูกตั้งแต่เมื่อไร เกิดมาไม่เคยมีสามี แล้วจะมีลูกได้อย่างไร

            “เมื่อวานแม่ตกบันไดจนสลบไป พ่อไปตามหมอเผื่อนมาฉีดยาให้แม่แล้วครับ” ภาคภูมิอธิบายให้แม่ฟัง

            ปานตะวันคิดทบทวนตามที่เด็กชายพูด ตกบันได พ่อ หมอเผื่อน ฉีดยา ทันใดนั้นก็เกิดคำถามขึ้นมาในใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่ ก่อนหน้านั้นเธอฝันว่านางฟ้ามาหา นางฟ้าบอกว่ามาส่งเธอ แล้วเธอก็หลับใหลไปเลย

            แต่เอ๋… ทำไมหน้าตาเด็กสองคนนี้ถึงได้คุ้นนักเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน

            “แม่ตื่นแล้วเหรอใจ” ร่างสูงใหญ่เปิดประตูเดินเข้ามาพร้อมกับเอ่ยถาม

            “ค่ะพ่อ”

            ปานตะวันจ้องหน้าผู้ชายที่เดินเข้ามาด้วยแววตาตื่นตระหนก นี่มัน… นี่มันผู้ชายที่เธอเคยฝันเห็นคนนั้นนี่นา แล้วเธอมานอนอยู่ที่นี่ได้อย่างไร หรือว่า… เธอตายจากโลกเดิมมาแล้ว แล้วมาอยู่ในร่างภรรยาของผู้ชายคนนี้

            แย่แล้ว! มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วยหรือนี่ เพียงเธอคิดได้เช่นนั้น ความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมก็พรั่งพรูเข้ามาในหัวจนเธอต้องพูดออกมา “ปวดหัว”

            “ลุกขึ้นมากินข้าวก่อนค่อยกินยา” เขาพูดเสียงเรียบห้วน “ภูมิกับใจออกไปล้างมือเตรียมตัวกินข้าวกับย่าก่อนลูก” แก่นคูณบอกลูก

            “ครับ/ค่ะ”

            ลูกชายลูกสาวออกไปแล้ว แก่นคูณจึงพูดกับภรรยา “กินข้าวเสร็จแล้วฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ”

            เขาไม่รอให้เธอตอบกลับ ร่างสูงใหญ่เดินออกจากห้องไปในทันที ปานตะวันนั่งลำดับเหตุการณ์ที่หลั่งไหลเข้ามาในสมองตนด้วยอาการมึนงงอีกครั้ง

            เมื่อเข้าใจทุกอย่างดีแล้วจึงถอนหายใจออกมา นี่หรือคือชีวิตใหม่ของปานตะวันที่นางฟ้าคนนั้นเคยบอก รู้อย่างนี้ให้เธอตายไปเลยยังดีเสียกว่าย้อนเวลามาอยู่ในร่างนี้

            โครก!

            เสียงท้องของเธอร้องประท้วง เพราะไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อวาน ปานตะวันในร่างของละออง ค่อย ๆ ยืนขึ้นแล้วเดินออกไปกินอาหารด้านนอก ตอนที่อยู่โลกเดิมเธอป่วยจึงไม่ได้สัมผัสกับอาการหิวเป็นเวลาหลายปี แต่ตอนนี้ร่างนี้ปกติดีทุกอย่างเธอจึงรู้สึกอยากกินอาหารขึ้นมา

            น้อยเหลือบมองลูกสะใภ้แวบหนึ่ง แล้วกินอาหารต่ออย่างไม่ใส่ใจ ส่วนลูกทั้งสองขยับกายให้แม่นั่งลงบนเสื่อด้านข้าง

            “ไข่ไม่มี หมูไม่มี บะหมี่ไม่มี ถ้ากินไม่ได้ก็ไม่ต้องกิน” แม่สามีพูดขึ้นเมื่อลูกสะใภ้นั่งลงเรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างที่เธอกล่าวมาคืออาหารที่ละอองกินเป็นประจำ

            ละอองคนใหม่กวาดสายตามองอาหารที่มีเพียงสองอย่างก็คือ ลาบกระต่ายป่า และกบภูเขาทอด ด้านข้างมีถ้วยน้ำจิ้มแจ่ว ในถาดที่สานด้วยไม้ไผ่มีผักแว่นสด และลวกผักกาดนกเขา สิ่งเหล่านี้เป็นอาหารพื้นบ้านที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี เพราะตอนที่อยู่โลกเดิมเธอก็เป็นคนอีสานและเคยกินของพวกนี้มาทั้งสิ้น กลิ่นหอมของข้าวคั่วและมะนาวในลาบกระต่ายทำให้เธอรู้สึกอยากอาหารมากขึ้น

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สามี... ลืมไปแล้วหรือว่าเราหย่ากันแล้ว   ตอนที่ 8 ทำอาหาร

    “อาบน้ำก่อนดีไหม” เนื้อตัวลูกชายค่อนข้างมอมแมมกว่าทุกวัน เสื้อและกางเกงยังเปื้อนดินโคลนดูท่าถนนหนทางน่าจะลื่นจริง ๆ น้อยจึงรู้สึกเป็นห่วง เกรงว่าเขาจะเหนียวเหนอะหนะตามตัวแล้วกินข้าวไม่อร่อย“ไม่เป็นไรครับแม่” เขาเองก็ไม่อยากให้ลูกกับแม่รอกินข้าวนาน จึงพูดออกไปเช่นนั้น“งั้นล้างมือล้างเท้าก่อน”“ครับ”ละอองลุกไปยกถาดอาหารมาอย่างรู้หน้าที่ ภาคภูมิกับพอใจเดินไปช่วยแม่หิ้วกระติบข้าวเหนียว ทุกคนนั่งล้อมวงกันบนเสื่อกก และเริ่มลงมือกินอาหาร“แม่ตำน้ำพริกปลาอะไรเหรอครับ อร่อยดี” แก่นคูณถามแม่ วันนี้ฝีมือการทำอาหารของแม่อร่อยขึ้นอย่างเห็นได้ชัด“แม่ไม่ได้ทำ”“เหรอครับ” แก่นคูณอึ้งไปครู่หนึ่ง งั้นก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากละออง ปกติเธอไม่กินปลาเขาจึงไม่รู้ว่าเธอจะทำน้ำพริกอร่อย“วันนี้แม่ไม่ได้เข้าครัว” เป็นครั้งแรกที่ลูกสะใภ้ทำเองหมดทุกอย่างเหมือนกันคราแรกน้อยคิดว่าลูกชายแสร้งพูดเธอจึงลองกินดู แต่มันกลับอร่อยอย่างที่เขาว่าจริง ๆ เธอจึงนั่งกินข้าวอย่างเดียวโดยไม่พูดอะไร จากไปเป็นปี เพิ่งรู้ว่าลูกสะใภ้ไปฝึกทำอาหารมาด้วย ก็ดียังรู้จักปรับตัวละอองก็กินทุกอย่างที่ตนเองทำเช่นกัน รวมถึงป้อนข้าวลูกกั

  • สามี... ลืมไปแล้วหรือว่าเราหย่ากันแล้ว   ตอนที่ 7 บ้านมิติ

    ละอองเดินไปยังลำธารที่มีน้ำใสไหลลงมาจากภูเขา ชาวบ้านเรียกภูเขาลูกนี้ว่าภูโน ซึ่งเป็นภูเขาที่สามีของเธอเข้าไปหาของป่าตอนนี้เธอใช้ถังตักน้ำเพื่อไปนั่งซักผ้าในร่ม ซักเสร็จล้างให้สะอาดแล้วจึงถือตะกร้าผ้ากลับไปตากที่บ้าน หลังจากตากผ้าเสร็จจึงไปตักน้ำในลำธารมาใส่โอ่งไว้สำหรับอาบและล้างสิ่งของ ไม่ลืมที่จะนำมีดมาด้วย ละอองเห็นบอนขึ้นอยู่ข้างริมธารเธอรู้ว่ามันเป็นบอนหวานจึงตัดกลับไปด้วย เสร็จจากตักน้ำใช้ก็ไปตักน้ำดื่มข้าง ๆ บ้านยายเมี้ยน ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่อยู่ถัดกันไป และบ่อน้ำดื่มแห่งนี้คนในหมู่บ้านก็ใช้ร่วมกัน ทั้งหมู่บ้านจะมีบ่อน้ำดื่มอยู่สามบ่อ และบ่อนี้ก็อยู่ใกล้บ้านเธอตักน้ำดื่มเสร็จละอองจึงแหงนหน้ามองท้องฟ้า ดวงตะวันคล้อยต่ำลงมากแล้ว น่าจะใกล้ห้าโมงเย็นแล้วกระมัง ตอนทำความสะอาดครัวเธอเห็นฟืนอยู่บนบ้านไม่กี่ดุ้นเท่านั้น พอมองเข้าไปใต้ถุนบ้านก็ไม่มีฟืนเหลืออยู่แล้ว ละอองจึงตัดสินใจผ่าฟืนก่อนจะไปนึ่งข้าวมือเรียวยาวลากฟืนท่อนยาวท่อนหนึ่งที่สามีแบกลงมาจากภูเขา จากนั้นจึงใช้มีดอีโต้หั่นครึ่งให้สั้นลงอีก ก่อนจะนั่งลงบั่นฟืนท่อนใหญ่ให้ได้อีกท่อนละสามดุ้น ขณะที่บั่นฟืนอยู่นั้นล

  • สามี... ลืมไปแล้วหรือว่าเราหย่ากันแล้ว   ตอนที่ 6 ทำความสะอาดบ้าน

    แก่นคูณเดินออกจากห้องนอนด้วยความรู้สึกสับสนเล็กน้อย วันนี้เขาได้พูดทุกอย่างที่เขาอยากพูดออกไปทั้งหมดแล้ว แต่เหตุใดเขาถึงไม่รู้สึกโล่งใจเลยสักนิด ละอองเองก็ดูแปลกไปอย่างน่าประหลาด ปกติถ้าทั้งสองมีปากเสียงกัน เขาผู้เป็นสามีไม่เคยได้อ้าปาก เพราะละอองจะถลึงตาเถียงฉอด ๆ จนคอเป็นเอ็น ไม่มีทางที่เขาจะได้พูดเกินสามคำ และทุกครั้งเธอต้องทำลายข้าวของในบ้านจนพังย่อยยับไปข้างหนึ่ง แต่ครั้งนี้ละอองกลับรับฟังอย่างสงบ ไม่มีตอนไหนที่เธอขึ้นเสียงกับเขาเลยคนนี้ใช่ละอองจริง ๆ หรือแก่นคูณเดินไปไกลแล้ว แต่ก็ยังหยุดคิดเรื่องพฤติกรรมอันสงบเสงี่ยมของภรรยาไม่ได้ หลังจากสามีขึ้นเขาไปแล้ว ละอองมองสำรวจไปทั่วห้อง ข้าวของวางระเกะระกะตามประสาคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่ต้องทำงานทุกอย่างเพื่อครอบครัว คงไม่มีเวลาเก็บกวาดห้องเท่าไรนัก ละอองส่ายศีรษะน้อย ๆ เอาเถอะ! ขอนอนพักเอาแรงสักงีบก่อน แล้วค่อยตื่นขึ้นมาทำงาน เพราะตอนนี้รู้สึกปวดหัวเหลือเกิน ใครจะคาดคิดว่าจะได้เกิดใหม่เร็วปานนี้ มิหนำซ้ำยังต้องมารับกรรมที่ตนไม่ได้ก่อ แต่คิดในแง่ดีเข้าไว้ อย่างไรร่างนี้ก็ไม่เจ็บป่วยเหมือนในชาติก่อน เธอยังกินข้าวอร

  • สามี... ลืมไปแล้วหรือว่าเราหย่ากันแล้ว   ตอนที่ 5 ขอหย่า

    แก่นคูณรับเงินมาแล้วจึงตัดสินใจพูดคำที่คิดว่าไตร่ตรองมาดีแล้วออกไป “วันจันทร์เราจะไปหย่ากัน” วันนี้วันศุกร์ อีกทั้งละอองยังบาดเจ็บ ให้เธอได้พักผ่อนสองวันจากนั้นค่อยไปจัดการเรื่องหย่าให้เรียบร้อยละอองทำปากเอ่ออ่าจะพูดอยู่หลายคราเพราะไม่รู้จะพูดคำใดออกไป ไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้จากปากสามี สามีแค่วันเดียวอีกต่างหาก ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยพูดคำนี้เลยนี่นา แล้วทำไมความซวยถึงได้มาตกอยู่ที่เธอเล่า“ฉัน…” คิดจะพูดต่อแต่เขาก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน“ฉันทนเธอไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เธอเห็นฉันเป็นตัวอะไร อยากมาก็มา อยากไปตอนไหนก็ไป เธอไม่สงสารลูกบ้างเหรอ” แก่นคูณยังพูดเสียงราบเรียบและควบคุมโทนเสียงให้สงบเพราะเกรงว่าลูกกับแม่จะได้ยิน “อีกอย่างเธอเคยเห็นหัวแม่ฉันบ้างไหม เธอเห็นแม่เป็นอะไร ไปไม่เคยลามาไม่เคยไหว้ ฉันเป็นลูกแท้ ๆ ฉันยังไม่กล้าทำเหมือนเธอเลย” ไม่เห็นหัวเขาเขาไม่ว่า แต่นี่ทุกครั้งที่ลูกสะใภ้หนีไปและกลับมาบ้าน แม่ของเขาไม่เคยบ่นเคยว่าลูกสะใภ้สักคำ มีครั้งนี้ซึ่งเป็นครั้งที่สี่แล้วที่เธอทำเช่นนี้ และเป็นครั้งที่เธอจากไปนานที่สุด แม่ของเขาก็เลยทนไม่ได้จึงได้ว่ากล่าวลูกสะใภ้ออกไปทุกครั้งที่ละอองหนีไป เข

  • สามี... ลืมไปแล้วหรือว่าเราหย่ากันแล้ว   ตอนที่ 4 อาหารอันคุ้นเคย

    ละอองใช้มือเปิบข้าวเหนียว แล้วจิ้มลาบกระต่ายเข้าปาก หยิบผักกาดนกเขาลวกม้วนแล้วส่งเข้าปากตาม คำที่สองก็กินอีก ครั้งนี้เด็ดยอดผักแว่นอวบสดม้วนให้เรียบร้อยแล้วส่งเข้าปากเช่นกัน โอย! ไม่เคยกินลาบกระต่ายป่าที่อร่อยเท่านี้มาก่อนเลย จากนั้นสายตามองไปยังกบทอดเกลือตัวใหญ่ กบภูเขาเธอก็ไม่เคยกินเหมือนกัน เคยกินแต่กบตามทุ่งนาและตามร้านขายอาหารป่าเท่านั้น วันนี้กบภูเขาทอดสีเหลืองน่ากินจริง ๆ ละอองหยิบต้นขาของกบขึ้นมาฉีกเนื้อแปะลงบนคำข้าวเหนียวของตน แล้วจิ้มน้ำจิ้มแจ่วในถ้วยเล็ก สองมือประคองคำข้าวเข้าปากอย่างทะนุถนอมแล้วเคี้ยวตุ้ย ๆ ความนัวของปลาร้าในน้ำจิ้มบวกกับความเผ็ดนิดเปรี้ยวหน่อยของน้ำมะขามเปียก ทำให้ละอองกินกบทอดอย่างเอร็ดอร่อย สีหน้าของเธอดูมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง อาหารแบบนี้คิดถึงโลกเดิมที่จากมาสุด ๆแก่นคูณกับน้อยนั่งมองละอองตาค้าง ก่อนหน้าละอองไม่เคยกินอาหารพวกนี้มาก่อน ถ้าทำอาหารอย่างหนึ่งเธอจะกินอีกอย่าง มีปลาจะกินไข่ ไม่กินผักตามท้องไร่ท้องนา ไม่กินกบเขียด ไม่กินปลาสดนอกจากปลาตากแห้งและต้องเป็นปลาขาวอย่างเดียว และไม่กินของป่าทุกชนิดนอกจากเห็ดป่าเท่านั้น อีกอย่างเธอไม่กินปล

  • สามี... ลืมไปแล้วหรือว่าเราหย่ากันแล้ว   ตอนที่ 3 ครอบครัวในความฝัน

    คืนนั้นหลังจากแก่นคูณป้อนยาภรรยาเสร็จจึงอุ้มเธอขึ้นไปนอนในห้องด้วยกัน เพราะบ้านหลังนี้มีเพียงสองห้องนอน คือห้องของเขากับห้องของแม่เท่านั้น ซึ่งลูกทั้งสองจะนอนกับแม่อยู่แล้ว เขาให้ภรรยานอนด้านใน ส่วนเขานอนด้านนอก แก่นคูณนั่งมองภรรยาพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนดับตะเกียงเจ้าพายุ แล้วล้มศีรษะลงนอน กายขยับออกห่างจากภรรยามากกว่าที่เคยเป็น วันต่อมาแก่นคูณตื่นแต่เช้าเพื่อมานึ่งข้าวแทนผู้เป็นแม่ เกือบปีมาแล้วที่แม่มีอาการปวดเข่าปวดขา ต้องคอยซื้อยามากินอยู่เสมอ เหตุผลที่แม่ยังไม่หายขาดก็เพราะเขาไม่มีเงินซื้อยามาให้แม่กินอย่างต่อเนื่อง ทำให้แม่เดินเหินไม่ค่อยสะดวก และเดินไปไหนไกล ๆ ไม่ค่อยได้ แต่แค่เลี้ยงหลานอยู่บ้านสองคนแม่ก็เหนื่อยมากแล้ว ตะวันเริ่มสาดแสงออกมาจากปลายเขาลูกใหญ่ ภาคภูมิกับพอใจจึงเดินออกไปหาพ่อที่อยู่ในครัว ซึ่งเป็นพื้นที่ค่อนข้างโล่งติดกับลานอเนกประสงค์ที่ใช้สำหรับนั่งเล่น กินข้าว และรับแขกไปในตัว ด้านหน้าเป็นชานบ้านและมีบันไดสำหรับขึ้นลง “พ่อครับ แม่ฟื้นหรือยังครับ” ภาคภูมิถามพ่อ “ยัง” “ผมไปหาแม่นะครับ”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status