LOGINยามเฉินลู่ชุนเดินเข้ามาในบ้าน ก็เห็นว่าจ้าวลี่หลินกำลังนั่งเท้าคางมองหีบใบเล็กที่อยู่บนโต๊ะ เขาเดินมานั่งลงตรงข้ามกับนาง ครั้นนั่งลงไปแล้วหญิงสาวจึงได้รู้สึกตัว นางรีบเทน้ำใส่ถ้วยยื่นไปให้เขา
"ท่านเพิ่งฝึกวรยุทธ์มาดื่มน้ำเปล่าดีกว่าน้ำชา" ลู่ชุนรับถ้วยน้ำเปล่ายกขึ้นดื่มจนหมด เขาวางมันลงบนโต๊ะ แต่ก็ยังเห็นว่าสีหน้าของนางดูเหมือนจะไม่ค่อยดีสักเท่าไร
"เจ้าไม่สบายหรือ ไปหาหมอหรือไม่"
"ข้าสบายดี" นางส่ายหน้าปฏิเสธ เขาพยักหน้าแต่ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไร เห็นนางเป็นเช่นนี้ในใจเขาก็พลันบีบรัดจนแทบจะหายใจไม่ออก
"หากมีสิ่งใด เจ้าสามารถบอกกับข้าได้"
"จริง ๆ ก็มีนั่นแหละ ท่านพี่ข้าให้ท่านเอาเครื่องประดับข้าไปขายท่านก็ไม่ยอม ยามนี้เงินที่เรานำมาจากเมืองหลวงเหลือไม่กี่ตำลึงแล้ว ท่านว่าพวกเราจะทำสิ่งใดเลี้ยงชีพดีเจ้าคะ" จ้าวลี่หลินกลัวว่าสามีของนางจะรับการเป็นพ่อค้าไม่ได้ เขาเป็นถึงรองแม่ทัพอุดร ความจริงศึกกับแคว้นเป่ยเหลียงครั้งนั้น เขาเกือบจะได้เลื่อนยศเป็นแม่ทัพแล้ว ทว่ากลับเกิดเรื่องขึ้นเสียก่อน
นางเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องราวสักเท่าไรนัก รู้เพียงว่าสกุลลู่เมื่อครั้งที่ท่านทวดยังหนุ่มได้สร้างชื่อเสียงอันโด่งดังจากการรบ จนพาสกุลลู่ขึ้นมาสู่ขั้นป๋อ บรรดาศักดิ์สืบทอดให้ทายาทได้ ทว่ารุ่นปู่และรุ่นบิดาของลู่ชุนกลับไม่มีผู้ใดที่มีความสามารถเช่นนั้นอีก จนกระทั่งมาถึงรุ่นเหลน ลู่ชุนเหมือนมังกรในหมู่คน เขามีความสามารถโดดเด่นไต่เต้าขึ้นมาจนได้เป็นถึงรองแม่ทัพ ทว่าชาติกำเนิดกลับต่ำต้อยเป็นเพียงบุตรอนุในจวนขัดหูขัดตาลู่ฮูหยิน
ความทรงจำของร่างเดิมบอกนางว่า ลู่ชุนถูกใส่ร้ายจากแม่ทัพอุดร ซึ่งเป็นพี่ชายของลู่ฮูหยิน เขาจึงถูกไล่ออกจากกองทัพ เท่านั้นยังไม่พอ จ้าวลี่หลินในร่างเก่ายังสร้างเรื่องทำร้ายเขา ด้วยการวางยาในสุราจนเขาสลบไสลไม่ได้สติ คนพวกนั้นจึงได้หามเขาเข้าไปนอนในห้องหวังอี๋เหนียง เช้าวันต่อมาลู่ฮูหยินก็พาบิดาของเขามาจับโจร แต่บังเอิญเจอบุตรชายตนเองกับอี๋เหนียงคนโปรดนอนด้วยกัน ต่อให้ลู่ชุนจะไม่ได้ทำอันใด ต่อให้มีปากก็ไร้กำลังที่จะปฏิเสธ หลังจากนั้นสามวันลู่ชุนและจ้าวลี่หลินก็ถูกไล่ออกจากจวน
"เงินหมดก็หาใหม่ เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลเช่นนั้น เครื่องประดับเจ้าย่อมเป็นของเจ้า ไม่จำเป็นต้องพูดถึงอีก" จ้าวลี่หลินคิดเอาไว้ไม่มีผิด เขาวางศักดิ์ศรีตนเองไม่ลง ย่อมไม่ยอมให้นางขายเครื่องประดับ ครั้นนางจะเอาไปขายเองก็เป็นเรื่องที่เกินกำลัง ทางไปในตัวอำเภอไปเช่นไรก็สุดจะรู้
"เช่นนั้นพวกเราจะทำเช่นไร"
"เอาอย่างนี้เถอะ ประเดี๋ยวข้าจะขึ้นเขาเสียหน่อย ยามที่ข้าออกรบ บางครั้งพวกเราติดอยู่ในป่าเป็นเวลาหลายวัน พวกข้าก็ล่าสัตว์มาเป็นอาหาร เจ้าไม่ต้องกลัวว่าจะอดตาย สองมือข้ามีย่อมหาอาหารให้เจ้าได้"
"เช่นนั้นก็รบกวนท่านพี่แล้ว" ลู่ชุนมองใบหน้าที่ยังคงไม่คลายความกังวลของภรรยา ในใจก็อัดอั้นเป็นอย่างยิ่ง นางเป็นคุณหนูในห้องหอย่อมไม่เคยพบเจอความลำบาก หลายเดือนที่ผ่านมาก็ถือว่านางอดทนได้มากแล้ว เขาเองก็ไม่ใช่ไม่รู้ นางเปลี่ยนไปมาก อาจเพราะพบเจอกับเรื่องราวหนักหนาสาหัสจึงทำให้นางเปลี่ยนไปกระมัง
หลังจากวันนั้นลู่ชุนก็นำเงินที่เหลือไปซื้อข้าวและธัญพืชมาเก็บไว้ในบ้าน เขาดักไก่และยิงกระต่ายใกล้ ๆ บ้านมาเก็บเอาไว้ในบ่ออาหาร ตรวจดูแล้วว่า อาหารเหล่านี้พอให้จ้าวลี่หลินกินได้ไปหลายวัน ส่วนตนเองก็เตรียมตัวขึ้นเขา
"สามสี่วันนี้ข้าไม่กลับบ้านเจ้านอนคนเดียวได้ใช่หรือไม่" จ้าวลี่หลินเบิกตาขึ้น เดินไปคว้าปลายแขนเสื้อของเขาเอาไว้แน่น
"ท่าน..ท่านจะไปที่ไหน ให้ข้าไปด้วยเถอะ" สีหน้าที่ตื่นตกใจของนาง ทำให้เขาเบิกบานใจเหลือเกิน นั่นไม่ใช่หมายความว่า นางต้องการเขาหรอกหรือ การเป็นที่ต้องการของใครสักคนมันดีจนเขาไม่อยากจะเสียมันไป อยู่ ๆ เขาก็รวบตัวนางมากอดเอาไว้แนบอกอย่างไม่ทันตั้งตัว
จ้าวลี่หลินเขินอายเป็นอย่างมาก แต่กระนั้นอาการตื่นตกใจก็ยังคงมีมากกว่า จะว่าไปแล้วถึงแม้เขาและนางจะนอนเตียงเดียวกัน แต่ก็ไม่เคยร่วมหอกันเลยสักครั้ง นางไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเขาจึงไม่คิดจะทำเรื่องเช่นนั้น เห็นได้ชัดว่าตั้งแต่วันที่เขาเกือบจะรุกล้ำนางที่ธารน้ำเดือนที่แล้ว เขาก็ไม่เคยทำเช่นนั้นอีก แม้กระทั่งกอดหรือจูบก็ยังไม่มี แต่วันนี้เขากลับดึงนางมากอด คงไม่ใช่หลอกล่อให้นางตายใจและทิ้งนางไปหรอกนะ
"เจ้าอยู่บ้านกับเสี่ยวไป๋ดีหรือไม่ ข้าจะทิ้งเสี่ยวไป๋ให้อยู่เป็นเพื่อนเจ้า"
"แล้วท่านพี่จะไปที่ใดหรือเจ้าคะ" ครั้นได้ยินว่าเขาทิ้งไอ้ม้าดำชื่อขาวนั้นไว้กับนางก็พลันสบายใจขึ้น เพราะเขากับเจ้าม้าบ้านั่นร่วมเป็นร่วมตายกันมาหลายครั้งหลายหน หากถามว่าระหว่างนางและเสี่ยวไป๋เขาจะเลือกใคร ตอบได้เลยว่าเขาเลือกเสี่ยวไป๋!!..
"ข้าจะขึ้นไปล่าสัตว์บนเขา สอบถามลุงไห่มาแล้ว ร้านอาหารรวมทั้งเหลาสุราในตัวอำเภอมีอยู่หลายร้าน หากเราล่าสัตว์ได้ ลองเอาไปขายส่งให้ร้านโดยตรง หากเขาไม่ซื้อข้าก็ให้ลุงไห่นำไปขาย เพราะถึงอย่างไรบ้านนั้นก็หาของป่าไปขายอยู่แล้ว แต่อย่างนั้นเราก็ต้องจ่ายเงินให้กับลุงไห่และป้าหยางจำนวนหนึ่ง" ยอมเป็นนายพรานแต่ไม่ยอมทำการค้า เข้าใจอยู่ว่าอาชีพค้าขายดูต่ำต้อยในยุคนี้ แต่ต่ำต้อยแล้วอย่างไร นางจะบอกให้ว่าการค้าขายนี่แหละ สามารถสร้างเนื้อสร้างตัวได้ดียิ่งนัก
วันต่อมาลู่ชุนก็ไม่รอช้า เขาสั่งจ้าวลี่หลินกับเสี่ยวไป๋ในเรื่องต่าง ๆ เสร็จก็แบกอาวุธขึ้นเขาไป วันแรกที่นางนอนคนเดียวก็กระสับกระส่ายอยู่บ้าง ก็คนเคยนอนด้วยกัน อยู่ ๆ ต้องมานอนคนเดียวมันก็เหงาเช่นกัน นางอาศัยช่วงเวลาที่สามีไม่อยู่บ้าน หยิบหีบเครื่องประดับขึ้นมา ต่อให้ไปขายเองไม่ได้ก็ฝากป้าสะใภ้หยางและลุงไห่ไปก็ได้นี่นา หญิงสาวคว่ำหีบใบเล็กลงจากโต๊ะ ปิ่นปักผมราคาแพงหล่นกระทบโต๊ะเสียงดัง เมื่อรื้อกองปิ่นนั้นออก นางก็แทบจะไม่เชื่อสายตาตนเอง ก้อนทองห้าก้อนกองรวมอยู่ในนี้ด้วย จ้าวลี่หลินหัวเราะออกมาด้วยความดีใจ นางกับลู่ชุนรอดแล้ว
"ฮี่ ๆ" เสียงร้องของเสี่ยวไป๋ดังมาจากทางหลังบ้าน นางชะโงกหน้าออกไปดู ก็เห็นว่าหญ้าที่ลู่ชุนตัดมากองไว้หมดลงแล้ว
"หึ..เจ้าม้าบ้าเอ๊ย เชือกก็ไม่ได้มัดเอาไว้ จะเดินไปกินเองไม่ได้หรือ ข้ามิได้เป็นบ่าวดูแลม้านะ" นางเบะปากบ่นออกมา แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงต้องเดินออกไปยกกองหญ้าเอามาให้มันอยู่ดี เสี่ยวไป๋เห็นนางเดินออกมา ก็พ่นลมหายใจดังฟืด หันหัวไปที่ถังน้ำ เหมือนต้องการจะสั่งให้นางไปตักน้ำมาให้ จ้าวลี่หลินสูดลมหายใจเข้า พยายามห้ามใจไม่ให้สังหารม้าหน้าตายนี่เสีย ไอ้ม้าคุณชายนี่มันจะมากไปแล้วนะ บังอาจมาสั่งให้นางยกน้ำให้หึ..แต่กระนั้นนางก็เดินไปยกมาให้มันอยู่ดี
ตอนที่ 21 ซื้อที่ดินเพิ่มในเมื่อลู่ชุนรับของกำนัลของภรรยามาแล้วทั้งคืน เช้าวันต่อมาเขาก็ไม่รอช้า หากรีบจัดการธุระให้นางเสร็จเร็วไวไม่แน่ว่า คืนนี้เขาอาจจะได้นอนมองหญิงงามควบขี่บนตัวเขาอีกก็ได้ "ท่านหัวหน้าหยางขอรับ" ลู่ชุนตะโกนเรียกผู้เฒ่าสกุลหยางอยู่หน้ารั้วบ้าน ป้าหยางชะโงกหน้าออกมาดู ครั้นเห็นเป็นผู้ใดก็รีบวิ่งเข้าไปเรียกหยางซูเม่ยออกมาต้อนรับ แน่นอนว่าซูเม่ยย่อมต้องยินดี นางจัดทรงผมตนเองให้เรียบร้อย ใบหน้าประดับไปด้วยรอยยิ้ม เดินด้วยท่วงท่าที่ดูเหมือนจะงดงามออกไป"พี่ชุนเองหรือ เข้ามาก่อนเถอะเจ้าค่ะ ท่านปู่ออกไปดูนาข้าวสาลีอีกประเดี๋ยวก็คงกลับมาแล้ว" ลู่ชุนดูลังเลอยู่บ้าง ทว่าซูเม่ยก็บอกว่ายังมีมารดาของนางที่อยู่ในบ้านอีก เขาจึงได้ตอบตกลง แต่กระนั้นก็นั่งรอที่โต๊ะใต้ต้นไม้เท่านั้น ไม่ได้เข้าไปถึงในบ้าน ถึงแม้เขาจะไม่ได้คิดอันใด แต่ชายหญิงก็ไม่ควรอยู่กันตามลำพัง อีกอย่างเขาก็มีภรรยาแล้วด้วย ต่อให้อยากเห็นนางดื่มน้ำส้มบ้างก็ตาม"แม่ข้าซื้อชามาใหม่ ท่านปู่ชอบดื่มชาน่ะ พี่ชุนลองดื่มดูเจ้าค่ะ" "ขอบใจเจ้ามาก" ลู่ชุนรับจอกชาขึ้นดื่ม กลิ่นชาเก่ามีกลิ่นอับ รสชาติของชาก็ไม่ดีเท่าไร หากไม
ตอนที่ 20 สามีกลับมาแล้วจ้าวลี่หลินเดินกลับจากลำธารพร้อมกับว่านถิงถิง ครั้นเมื่อถึงทางแยกบ้านสกุลว่านต้องเลี้ยวไปทางซ้าย ส่วนบ้านสกุลลู่ยังต้องตรงไปจนเกือบถึงเขาด้านหลังหมู่บ้าน นางอุ้มตะกร้าเดินอ้อมไปยังหลังหมู่บ้าน ไม่รู้ป่านนี้เสี่ยวไป๋จะกลับมาหรือยัง แต่ในใจนางก็รู้ดีว่า อาชาตัวนั้นเป็นม้าที่รู้ความเป็นอย่างมาก มันทั้งรู้ภาษามนุษย์ และยังมีความเฉลียวฉลาด แต่กระนั้นก็อดห่วงมันไม่ได้ ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ทั้งนางและลู่ชุนก็เปลี่ยนเครื่องแต่งกายใหม่จนหมด อาภรณ์หรูหราที่เคยใส่ในเมืองนำออกไปขายจนเกือบหมด เหลือไว้เพียงไม่ถึงสามชุด เปลี่ยนมาใส่เสื้อผ้าเหมือนชาวบ้านที่นี่ แต่ก็ไม่น่าเสียดายเลยสักนิด นางชอบที่นี่ทั้งยังชินกับมันอีกด้วย ร่างอรชรเดินมาหยุดที่รั้วบ้าน ครั้นเห็นว่าประตูเปิดอยู่ นางก็ยิ้มกว้างออกมา รีบวิ่งเข้าไปวางตะกร้าเอาไว้ที่พื้น ก่อนจะกระโดดกอดชายหนุ่มที่ยืนอ้าแขนรออยู่ก่อนแล้ว"ข้ากลับมาแล้ว""ท่านกลับมาแล้ว ท่านพี่เหตุใดจึงกลับช้านักเจ้าคะ เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือไม่ ท่านได้รับบาดเจ็บหรือเปล่าให้ข้าดูหน่อยเถอะ อาหารแห้งที่ข้าทำให้พอกินหรือไม่เจ้าคะ" "ข้าตอบไม่ทันแล้ว หลินห
ตอนที่ 19 ภรรยาของพี่ชุนวันที่สี่ผ่านไปจ้าวลี่หลินก็ยังคงต้องอยู่กับอนุไป๋ที่บ้านเพียงลำพัง ตอนแรกสามีบอกว่าจะกลับมาวันนี้ แต่รอจนแล้วจนเล่าก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา นางเดินไปชะเง้อมองที่หน้าประตูบ้าน และเดินกลับเข้ามาอย่างนี้ซ้ำ ๆ จนครั้งสุดท้ายเจ้าม้าดำชื่อขาวก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป มันเดินเข้าไปกัดอาภรณ์ของนาง และลากกลับเข้าไปในบ้าน จากนั้นก็ใช้เท้าถีบประตูปิดลง นางโกรธเป็นอย่างมาก ตะโกนด่าเจ้าม้าบ้านั่นอย่างไม่ไว้หน้า"ไอ้ม้าบ้าเอ๊ย ไหนเจ้าหวงสามีข้านักหนา เขายังไม่กลับบ้านแต่เจ้ากลับดีนัก ไม่เป็นห่วงแล้วยังมาขังข้าไว้อีก" เสี่ยวไป๋ส่งเสียงร้องขึ้นมาหนึ่งคำ ก็เลิกสนใจนางอีก มันเดินกลับไปที่คอกของตนเอง ปล่อยให้นายหญิงวิปลาสตะโกนด่าต่อไปจ้าวลี่หลินด่าไปจนเหนื่อยล้านางหลับไปตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบ ตื่นขึ้นมาก็เป็นยามเช้าเข้าไปแล้ว หญิงสาวลากร่างกายที่ห่อเหี่ยวไปล้างหน้าบ้วนปาก และออกไปที่คอกเสี่ยวไป๋"ข้าลืมตัดหญ้ามาให้ เจ้าออกไปหากินเองละกัน นี่พูดก็พูดเถอะ ปกติแล้วเป็นม้าก็ต้องออกไปหาอาหารเองอยู่แล้ว มิใช่หน้าหนาวเสียหน่อย ยังต้องให้ตัดหญ้าให้อีก" เสี่ยวไป๋ไหนเลยจะสนใจนาง มันย่ำเท้าวิ่งออกไ
ตอนที่ 18 เก็บเกี่ยวผลผลิตรอบแรกลู่ชุนขึ้นเขาไปได้สามวันแล้ว ในช่วงสามวันนี้ช่างน่าเบื่อยิ่งนัก วัน ๆ นางก็เอาแต่ก่อกวนเสี่ยวไป๋ ทะเลาะกับมันสักรอบสองรอบ จากนั้นก็ไปทำปุ๋ยหมักของนาง ตั้งแต่ที่ได้ฟังคำพูดของสามี นางก็เลิกคิดเรื่องมือวิเศษของนางไปเสีย เพราะนางลองใช้ชุบชีวิตหนูที่สามีหามา ปรากฏว่ามันก็ต้องถูกนำมาแกงอยู่ดี และอีกอย่างตามความคิดของนางนั้น ไม่ว่ามือคู่นี้จะปลูกอะไรก็มักจะขึ้นเสมอ นางจึงนำก้อนทองที่เก็บไว้ห้าก้อนมาปลูกเสีย นอกจากทองจะไม่งอกแล้ว มันยังดำอีกด้วย เรื่องนี้จึงเป็นอันจบไป "สะใภ้ลู่!!..สะใภ้ลู่อยู่หรือไม่" จ้าวลี่หลินยกเท้าขึ้นจากบ่อหมัก นางเดินไปล้างเท้าที่ถังน้ำ แล้วจึงเดินมาหน้าบ้าน"น้าชิงอีนี่เอง เข้ามาก่อนเจ้าค่ะ" ชิงอีมารดาของอาซินเดินเข้าไปในบ้าน นางก้มหน้ามองแต่ทางตรงหน้า ไม่สอดส่ายสายตามองไปทั่วเหมือนป้าหยางภรรยาลุงไห่ นั่นจึงทำให้จ้าวลี่หลินรู้สึกดีกับนางมากขึ้น นางพาน้าชิงอีเข้ามานั่งในห้องโถงใหญ่ในบ้าน รินน้ำชาส่งไปตรงหน้า "อืม..ชาดี..สมแล้วที่เป็นสตรีจากเมืองหลวง" ชิงอีสูดดมกลิ่นชาก่อนจะยกขึ้นดื่ม ความจริงนางไม่รู้หรอกว่าชาดีหรือไม่ ชาวบ้านเช่นนาง
ตอนที่ 17 ปีศาจสาวของข้าผู้เดียว"เจ้ากำลังคิดสิ่งใดอยู่หรือ" หลังจากจบบทรักลู่ชุนก็รั้งภรรยาสาวเข้ามากอด เขาก้มลงจูบที่กลางศีรษะ ดวงตาปรือฉ่ำใกล้เข้าสู่ห้วงนิทราเต็มที่แล้ว แต่กระนั้นก็ฝืนเอาไว้ เห็นใบหน้าหวานเหมือนกำลังมีเรื่องค้างคาใจ "เปล่าหรอกเจ้าค่ะ..ท่านพี่ครั้งนี้ท่านจะขึ้นเขานานหรือไม่" "คิดว่าจะไปสักสี่ห้าวัน ครั้งนี้อาตงกับอาซินขอไปด้วย คงต้องล่าให้เยอะขึ้นหน่อย จะได้ปันกันได้""ก็ดีเจ้าค่ะ" ลู่ชุนลูบหลังนางเบา ๆ เขาหลับตาลงอีกครั้ง ครั้นกำลังจะหลับก็ได้ยินเสียงนางอีกแล้ว"ท่านพี่คิดว่าผักที่ข้าปลูกโตไวเกินไปหรือไม่ อาตงบอกว่าผักข้าโตไวเกินไป มันผิดปกติใช่หรือไม่""โตไวแล้วไม่ดีหรือ โตไวก็เอาไปขายได้ไว เจ้าก็บอกไปอย่างที่เจ้าบอกก็ถูกต้องแล้ว ปุ๋ยอะไรของเจ้านั่นอย่างไร มันเร่งการเจริญเติบโตให้ผักพวกนั้น หลินหลินเจ้าอย่าคิดมากเลย ดินดี น้ำดี การดูแลดีย่อมทำให้ผลผลิตออกมาดี" "แต่ชาวบ้านที่นี่ยังคงเชื่อเรื่องลี้ลับ ข้าเกรงว่า"อาทิตย์ก่อนมีนักพรตผ่านมาทางหมู่บ้าน นักพรตชรานั่นบอกว่าที่หมู่บ้านมีกลิ่นอายของปีศาจ จึงได้ทำพิธีขับไล่สิ่งอัปมงคล ท่านหัวหน้าหยางให้ภรรยาเรี่ยไรเงิ
ตอนที่ 16 ผักโตไวซ่า!!..น้ำอุ่นร้อนไหลออกจากถังไม้ไผ่กระเพื่อมแล้วกระเพื่อมเล่า มือเรียวเกาะขอบถังยันตัวขึ้นรับแรงอัดกระแทกจากทางด้านล่าง"อ้าส์...ท่านพี่..""หลินหลินนั่งทับลงมาเร็วเข้า" มือหนาบีบเอวบางจนขึ้นรอยนิ้ว เขาอ้าขาออกแรงดึงเอวเล็ก บังคับให้นางทิ้งตัวลงมาบนกลางกายเขา "อื้อ...จุกเจ้าค่ะ" จ้าวลี่หลินเชิดหน้าห่อปากความคับแน่นทำให้นางไม่อาจขยับกายได้ ลู่ชุนถูกความบีบรัดของนางทรมานจนแทบจะสิ้นท่า เขาคำรามเสียงแหบพร่า โน้มตัวดันนางไปข้างหน้า กดทับให้นางเป็นฝ่ายตั้งรับ จ้าวลี่หลินคุกเข่าในอ่างน้ำ มือเล็กกำขอบอ่างเอาไว้แน่น สะโพกมนแอ่นขึ้นรับแรงกระแทกจากสามีจนตัวโยน"หลินหลินเด็กดี..อ้าส์..อ้าขาออกอีกนิด""มะ..ไม่ได้แล้วเจ้าค่ะ..อื้อ..มันชิดขอบแล้ว..อู๊ย..." นางก็อยากจะอ้าขาให้กว้างกว่านี้อยู่หรอก ทว่าอ่างน้ำมันก็มีพื้นที่อยู่เท่านี้ "รัดแน่นถึงเพียงนี้ชอบที่สามีทำใช่หรือไม่..ซี้ด.."เสียงแหบพร่าของสามีหนุ่มทำเอาร่างอรชรทรุดตัวลงไปในน้ำ ลู่ชุนรั้งเอวนางขึ้นมา ขยับท่าให้ถนัดกระแทกแท่งเนื้อเข้าในช่องรัก ยิ่งโหมกระแทกแรงเพียงใด เสียงครางหวานและเสียงแหบพร่าก็ประสานกันดังยิ่งขึ้น กลบเ







