(ภาค 1)
บทที่ 3
สามีคอแป๊บ(เดียวจอด)
พอไคล์เดนออกจากคฤหาสน์ ก็มีจดหมายจากวังหลวงส่งมาถึงซีเอล
แม้ไม่ต้องเปิดอ่าน แค่เห็นตราครั่งที่ปิดผนึกก็รู้แล้วว่าส่งมาจากใคร...ตราครั่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของเจ้าชายอเล็กซีส
ซีเอลถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่ายก่อนจะเปิดจดหมายอ่าน
เนื้อหาในจดหมายสรุปคร่าวๆ ได้ว่า อีกสิบวัน เจ้าชายรัชทายาทอเล็กซีสจะจัดพิธีเฉลิมฉลองการหมั้นหมายกับนักบุญเรเซฟ และได้เชิญซีเอลกับสามีมาร่วมงานเลี้ยงด้วย
เทียบกับระยะเวลาตามต้นฉบับ เจ้าชายอเล็กซีสกับนักบุญเรเซฟหมั้นหมายกันหลังจากซีเอลแต่งงานแล้วสามเดือน
หนึ่ง พวกเขาต้องการเห็นสภาพที่ซีเอลถูกสามีทารุณ
สอง เพื่อให้ซีเอลรู้สึกสะเทือนใจยามที่เห็นทั้งคู่แสดงความรักต่อกัน
หลักๆ ที่เชิญซีเอลร่วมงานเลี้ยงก็เพื่อเยาะเย้ยถากถางนั่นเอง
ซีเอลยื่นจดหมายให้กับหัวหน้าพ่อบ้าน
“ช่วยเตรียมชุดเข้าคู่ของข้ากับไคล์เดนด้วยนะ งานเลี้ยงจัดขึ้นในอีกสิบวัน”
“รับทราบครับ”
การพบเจอเจ้าชายอเล็กซีสอีกครั้งไม่มีอะไรให้ซีเอลต้องกังวล ชีวิตหลังแต่งงานของซีเอลไม่ได้ดำเนินไปตามต้นฉบับ เขาไม่ได้ถูกสามีทารุณทำร้าย ตรงกันข้าม ไคล์เดนทั้งใจดีและน่ารักมากที่สุด
ดังนั้น ต่อให้คนพวกนั้นพยายามมองหาร่องรอยการถูกทำร้ายก็ต้องบอกว่า เสียใจด้วย เพราะร่องรอยเหล่านั้นจะไม่มีวันเกิดขึ้นบนร่างกายสวยๆ ของเขาแน่
ในตอนบ่าย ไคล์เดนกลับมาถึงคฤหาสน์ ซีเอลออกไปรับสามี ได้รางวัลเป็นหอมหนึ่งฟอด
ซีเอลยิ้มเขินอยู่สักพัก ก่อนจะบอกไคล์เดนเกี่ยวกับจดหมายเชิญไปร่วมงานเลี้ยงในราชวัง
พลันนั้นใบหน้าคมคายหล่อเหลาเปลี่ยนเป็นกลัดกลุ้ม แต่ด้วยความที่ไคล์เดนมีใบหน้าดุดัน สีหน้ากลัดกลุ้มจึงแลดูเหมือนบึ้งตึงไม่พอใจ
เหล่าสาวใช้ที่กำลังทำความสะอาดอยู่บริเวณนั้น พอเห็นนายท่านทำหน้าบึ้งตึง ต่างก็หันไปซุบซิบด้วยความกังวล
เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ สาวใช้ในคฤหาสน์หลังนี้เพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นาน เลยยังไม่ชินกับสีหน้าดุดันของไคล์เดน ไม่เหมือนคนรับใช้ที่คฤหาสน์อาณาเขตเบอร์แรม พวกเขาเหล่านั้นติดตามไคล์เดนมาจากตระกูลฮิลล์ตันจึงพอคาดเดาความคิดของไคล์เดนได้
“นะ นี่...พวกเราทำอะไรผิดไปหรือเปล่า”
“หรือว่าพื้นตรงที่นายท่านเหยียบจะมีฝุ่น พวกเรา...ต้องโดนนายท่านลงโทษแน่ๆ เลย”
ซีเอลยิ้มแหยให้กับคำพูดเหล่านั้น
ไคล์เดนไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องพวกนั้นเสียหน่อย อยู่ๆ ก็ทำหน้ากลัดกลุ้มคงกังวลเรื่องอื่นมากกว่า และยิ่งไม่ใช่เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างซีเอลกับเจ้าชายอเล็กซีส เพราะตลอดมาซีเอลบอกชัดเจนว่าไม่ได้มีใจให้กับฝ่ายนั้น ไคล์เดนเข้าใจเรื่องนี้ดี
“มีเรื่องกลุ้มใจอะไรหรือเปล่าครับ”
พอถูกถาม หว่างคิ้วคมเข้มที่ขมวดชนกันคลายออกเล็กน้อย ก่อนชายหนุ่มจะพยักหน้ายอมรับว่า มี
“ถ้าอย่างนั้นช่วยเล่าให้ข้าฟังได้ไหมครับ หากข้าช่วยที่รักได้ก็อยากช่วย”
“งานฉลองของเจ้าชาย”
ไคล์เดนแย้มด้วยคำพูดนั้น
“งานฉลองของเจ้าชายทำไมเหรอครับ”
“ต้องดื่มฉลอง”
คราวนี้ซีเอลร้อง “อ๋อ”
ในที่สุดก็เข้าใจความกลัดกลุ้มของสามี
ขึ้นชื่อว่างานเลี้ยงย่อมหนีไม่พ้นการสังสรรค์ ไคล์เดนเป็นประเภทคอแป๊บ(เดียวจอด) ไม่แปลกที่จะไม่ถูกกับงานเลี้ยง
ทว่ามีการ์ดเชิญส่งมาแล้ว หลีกเลี่ยงไม่ไปก็ไม่ได้ ซีเอลจึงคิดหาทางออกเพื่อช่วยไคล์เดน ท้ายที่สุดก็เสนอว่าหากฝึกดื่มบ่อยๆ อาจทำให้คุ้นชินกับแอลกอฮอล์
“พวกเรามาฝึกกันดีไหม!”
“ฝึกเหรอ”
“แค่ฝึกเท่านั้นเอง ที่รักจะได้ชินกับเครื่องดื่ม แต่ไม่ได้ให้ดื่มจนติดหรอกนะ อย่าเข้าใจผิดซะล่ะ”
นัยน์ตาสีเหลืองอำพันทอดมองซีเอลอย่างอ่อนโยน
“ขอบใจที่ช่วยคิดหาออกให้นะ ถ้าอย่างนั้นข้าขอทำตามคำแนะนำของภรรยาแล้วกัน”
เพราะเหตุนี้เอง มื้อเย็นวันนี้ บนโต๊ะอาหารจึงมีขวดไวน์แดงตั้งอยู่ด้วย แถมยังมีชีสทานคู่กับไวน์แดงและผลไม้รสเปรี้ยวหวาน
“เริ่มจากลองจิบช้าๆ ดูก่อน” ซีเอลแนะนำพร้อมยกแก้วไวน์ขึ้นมาอังจมูก สัมผัสกลิ่นหอมของไวน์ จากนั้นยื่นออกไปขอชนกับไคล์เดน
ชายหนุ่มหรี่ตา แกล้งกล่าวหยอกภรรยาพลางยื่นแก้วไปข้างหน้า “ถ้าข้าไม่รู้จักเจ้ามาก่อนคงคิดว่าเป็นคุณชายเสเพล”
ซีเอลทำปากยื่นร้อง “แหม...” อย่างประท้วง
ริมฝีปากหยักบางของไคล์เดนยกยิ้ม ก่อนจะจิบไวน์แดงในแก้วทีละนิด
อันที่จริงแล้วแค่ดื่มไวน์นิดๆ หน่อยๆ ไม่ได้มีปัญหาอะไรสำหรับชายหนุ่ม เพียงแต่พอดื่มไปสักพัก ภาพจะตัดแบบไม่รู้ตัว ไคล์เดนกังวลกับปัญหานี้มากกว่า
“รสชาติเป็นยังไงบ้างครับ”
“ฝาด ไม่อร่อย”
“เป็นคำตอบที่ตรงไปตรงมาจังเลยนะ” ซีเอลพูดพลางหัวเราะคิกคัก
ใครจะคิดล่ะว่าผู้ชายที่มีภาพลักษณ์ดุดันเหมือนราชสีห์จะไม่ชอบดื่มขนาดนั้น
กินมื้อเย็นพลางพูดคุยสัพเพเหระไปพลาง รู้ตัวอีกทีไวน์แดงพร่องไปเกือบครึ่งขวด โหนกแก้มคมสันของชายหนุ่มขึ้นสีแดงเรื่อ ดวงตาสีเหลืองอำพันหยาดเยิ้มลึกซึ้ง มิหนำซ้ำยังเทียวมองซีเอลอยู่ตลอดเวลา เหมือนสัตว์ร้ายเห็นเหยื่อโอชะ
“ไหวไหมครับเนี่ย”
ซีเอลถามพลางยื่นมือแตะๆ ใบหน้าคมสัน
ผิวกายของไคล์เดนร้อนฉ่าไปหมดเลย คงเมาจริงๆ
ทันใดนั้น มือใหญ่คว้าหมับเข้าที่ข้อมือเรียวบาง
ไคล์เดนประทับจูบลงบนหลังมือของภรรยาแผ่วเบา
“ที่รัก?”
ซีเอลหน้าแดงแป๊ด ลำคอแห้งผาก
“อยากจูบ”
ชายหนุ่มพึมพำเสียงแหบพร่า ก่อนไล่เลียและพรมจูบตามข้อนิ้วของภรรยาทีละนิ้ว
แค่ถูกจูบบนหลังมือ ร่างบางของซีเอลก็กระสันซ่าน หัวใจเต้นระส่ำอย่างหวั่นไหว
“ภรรยา...” ไคล์เดนเรียกซีเอลพร้อมสายตาฉ่ำเยิ้ม
“ค...ครับ” ซีเอลขานรับเสียงเรียกอย่างสั่นเครือ
“เจ้าหอมจัง”
ซีเอลได้แต่กัดปากล่างเมื่อได้ยินอย่างนั้น
ดวงตาของไคล์เดนเข้มขึ้นอีกนิด “กลับห้องกัน”
คำเชิญชวนแสนซื่อตรง แถมความคิดต่างๆ สื่อออกมาทางสายตาสีอำพันทั้งหมด ซีเอลรู้ว่าหลังจากกลับเข้าห้องแล้วจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเขาบ้าง
คิดแล้วก็นั่งไม่ติด
ซีเอลขยับศีรษะขึ้นลงเบาๆ
ทันทีที่กลับเข้าห้องก็ถูกสามีระดมจูบ กลิ่นไวน์คละเคล้ากับกลิ่นหอมอ่อนจางโชยทั่วห้อง หลังถูกตระโบมจูบจนหนำใจ ไคล์เดนก็อุ้มซีเอลขึ้นเตียง
แผ่นหลังเพิ่งนาบขนาบกับเตียงนุ่ม เสื้อผ้าก็หลุดลุ่ยซะแล้ว
เนื่องเพราะต่างก็ตกอยู่ห้วงอารมณ์วาบหวาม ใช้เวลาเตรียมความพร้อมไม่นาน เครื่องเพศก็ถูกดันพรวดเข้ามาจนมิดลำในคราวเดียว
“อ๊า!” ซีเอลหลุดเสียงครางดังลั่น ท่อนล่างเกร็งแน่น
ไคล์เดนไม่ได้ขยับทันที มือสองข้างยันอยู่ข้างลำตัวของซีเอล ขณะก้มลงขบจูบริมฝีปากงามสีแดงเรื่อ
ชายหนุ่มรอจนกระทั่งให้ซีเอลผ่อนคลาย บั้นเอวแกร่งถึงค่อยๆ ขยับไหว จากจังหวะเนิบช้าเปลี่ยนเป็นกระแทกกระทั้นอย่างเร่าร้อนหิวกระหาย
ไม่รู้ว่าไคล์เดนจะรู้ตัวหรือไม่ ค่ำคืนนั้น ชายหนุ่มเติมเต็มความรักให้กับภรรยาระลอกแล้วระลอกเล่า ถึงขั้นวันถัดมาซีเอลเอวแทบเคล็ด!
คลื่นความสุขแผ่ซ่านไปทั่วร่างของทั้งสอง เสียงครางสะอื้นดังผสานเสียงเนื้อกระทบกัน
(ภาค 2) บทที่ 40เวทมนตร์ของฟาฟา ก่อนหน้านั้นเล็กน้อย... คาร์ริสจูงมือฟาร์เลียสแล้วเดินนำมาที่ห้องนั่งเล่นที่อยู่ข้างๆ ห้องทำงานของริคาร์โด ภายในห้องนั่งเล่นถูกตกแต่งสำหรับเด็กเล็กโดยเฉพาะ ตู้หนังสือตัวเตี้ยมีหนังสือภาพและหนังสือนิทานเต็มชั้น กลางห้องปูด้วยพรมนุ่มๆ มีทั้งหมอนทั้งตุ๊กตา รวมถึงของเล่นอื่นๆ อีกมากมาย ดวงตาสีเขียวมรกตของฟาร์เลียสเบิกโตเมื่อเห็นหนังสือที่อยู่ในชั้น ปิดบังความตื่นเต้นไม่มิด เจ้าหนูน้อยยิ้มอย่างภาคภูมิ วิ่งไปหยิบหนังสือนิทานออกมาหลายเล่มแล้วยื่นให้พี่ชายคนสวย “ฟาฟาชอบอ่านหนังสือเหยอ” “ชอบมาก!” ฟาร์เลียสพยักหน้าแรงๆ พลางรับหนังสือนิทานมาจากมือของเจ้าตัวน้อย “คายิ้ดก็ชอบ” ว่าแล้วก็นั่งแหมะบนพื้นพรม ฟาร์เลียสนั่งตาม “ถ้าอย่างนั้นมาอ่านนิทานกันนะครับ ท่านคาร์ริส” “เรียกคายิ้ดเจยๆ” เจ้าตัวจิ๋วไม่เพียงกำชับ ยังยื่นมือเล็กปิดปากเด็กชายที่โตกว่า มือเล็กที่ปิดปากฟาร์เลียสนุ่มนิ่มแล
(ภาค 2) บทที่ 39ความสงสัยที่ถูก(ขัดจังหวะ) ดาร์เรียนที่กำลังจะก้าวออกจากประตู หากก็ต้องหมุนตัวหันกลับมามองริคาร์โด แต่รอแล้วรอเล่า ชายหนุ่มกลับเอาแต่นั่งเงียบ “ท่านริคาร์โด มีธุระกับข้าหรือครับ?” ดาร์เรียนเอียงศีรษะถามด้วยความสงสัย ริคาร์โดประสานมือเท้าคาง ...เจ้าจำข้าไม่ได้จริงหรือ ...เรื่องคืนนั้นในคฤหาสน์เล็กด้วย ...หลังจากนั้น ทำไมไม่ติดต่อข้า ...ตอนนี้เจ้ากับเจ้าชายอเล็กซีสยังติดต่อกันหรือไม่ คำถามมากมายผุดขึ้นในหัว แต่จนแล้วจนรอดริคาร์โดก็ไม่ได้ถามออกมา สุดท้ายทำได้แค่มองดาร์เรียนด้วยสีหน้าขึงขัง หากกระนั้นก็หลุดปากคำว่า ‘เจ้าชายอเล็กซีส’ ออกมาอย่างไม่รู้ตัว ทันใดนั้นดาร์เรียนแสดงสีหน้ารู้สึกผิด เป็นสีหน้าแบบเดียวกับตอนที่ช่วยเจ้าหนูน้อยคาร์ริสตอนตกบันได เรื่องเจ้าชายอเล็กซีส ดาร์เรียนรู้สึกผิดต่อซีเอลมาตลอด แต่ไม่มีโอกาสได้อธิบายหรือขอโทษ เพราะต่างฝ่ายต่างเจอกันผ่านๆ ในงานเลี้ยงเท่านั้น ในเมื่อริคาร์โดถามขึ้นมา ก็ขอตอบตรงนี้เลย “ข้ากับเจ้าชายไม
(ภาค 2) บทที่ 38พี่ชายคนสวย คลอลีน เทรย์เวอร์...น้องสาวเพียงคนเดียวของบารอนคาร์สัน เทรย์เวอร์ คลอลีนเป็นคนสวย และมีรอยยิ้มที่สดใส แต่การคลอดก่อนกำหนดทำให้เธอมีร่างกายที่อ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก จึงต้องเก็บตัวพักฟื้นที่เมืองโรเวสต์ซึ่งอยู่แถบชนบท อันเป็นบ้านเกิดของท่านยาย คลอลีนเสียชีวิตด้วยอาการป่วยกำเริบเมื่อสี่ปีก่อน คุณผู้หญิงดูมัวส์ในวัยเจ็ดสิบ ได้ถือจดหมายที่เป็นลายมือของหลานสาวเดินทางมายังอาณาเขตกอร์เลต เพื่อนำจดหมายนั้นมาให้กับบารอนคาร์สันผู้เป็นหลานชาย เนื้อหาระบุสั้นกระชับ ราวกับว่าตอนที่เขียนจดหมาย เธอมีเวลาจำกัด ถึงท่านพี่คาร์สัน ชายที่น้องเคารพรักที่สุด ตอนท่านพี่ได้รับจดหมายฉบับนี้ น้องคงกลายเป็นเศษเสี้ยวเล็กๆ ของกลุ่มดาวอยู่ที่ไหนสักแห่งบนฟากฟ้า...ท่านพี่คะ ขออภัยที่ต้องบอกเรื่องนี้กะทันหันผ่านทางจดหมาย น้องขอฝาก ‘สมบัติอันล้ำค่าที่สุดในชีวิต’ ให้ท่านพี่ช่วยดูแลแทนน้องด้วย หากท่านพี่อยากบ่นน้องล่ะก็ ขอเป็นหลังจากนี้สักห้าสิบปี แปดสิบปี หรือหนึ่งร้อยปีก็จะดีใจมาก ท่านพี่ไม่ต้องรีบมาเจอเพื่อบ่นน้องก็ได้ค่ะ
(ภาค 2) บทที่ 37ค่ำคืนนั้น (2) พอถูกครอบครองริมฝีปาก ความปรารถนาก็ถูกกระตุ้นเร้า ดาร์เรียนเหมือนคนสติหลุดทันที ริมฝีปากงามเผยอเปิด จากนั้นเป็นฝ่ายสอดลิ้นเข้าไปในโพลงปากของริคาร์โด ชายหนุ่มเลิกคิ้ว จ้องมองใบหน้าคนสวยจากระยะประชิด พร้อมกับจูบแลกลิ้นอย่างลึกล้ำ ริคาร์โดตั้งใจจะรับผิดชอบดาร์เรียน แม้ว่าอีกฝ่ายจะมีชื่อเสียงไม่ดีนัก แต่...ไม่มีอะไรที่ริคาร์โดควบคุมไม่ได้ ฉะนั้นแล้ว ถึงดาร์เรียนมีนิสัยปอกลอกคนรวย เขาก็จะควบคุมนิสัยด้านนั้นของอีกฝ่ายเอง เสื้อผ้าของดาร์เรียนเลื่อนออกจากร่างกาย เผยผิวพรรณขาวผ่อง ใต้แสงจันทร์สีเงินที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง นัยน์ตาคมเข้มจ้องมองยอดอกซ้ายขวาสีชมพูที่ชูชัน ริคาร์โดก้มหน้าลง ใช้ปลายลิ้นดุนดันยอดอกไปมา “อ่า อ๊า...” ดาร์เรียนร้องคราง เอวบางบิดส่ายอย่างคลุ้มคลั่ง ท่าทางแบบนั้น ยิ่งกระตุ้นเร้าสัญชาตญาณความเถื่อนของอัลฟ่า เรียวลิ้นที่ดุนดันยอดอกพลันเปลี่ยนมาดูดเม้มจนเกิดเสียง หนำซ้ำ มือใหญ่ยังเลื่อนลงเบื้องล่าง แหวกแย้มเรียวขาให้อ้ากว้าง
(ภาค 2) บทที่ 36 ค่ำคืนนั้น (1) กลิ่นหอมหวานอ่อนๆ ปลุกเร้าให้ส่วนที่ต่ำกว่าสะดือตื่นตัว ริคาร์โดไม่อยากรีบสรุปว่าความหอมเย้ายวนนี้คือกลิ่นฟีโรโมนของโอเมก้า(คู่ชีวิต) ทว่า...ยิ่งอยู่ใกล้ดาร์เรียน กลิ่นหอมนี้ยิ่งมัวเมาแทบทำให้สติของเขาหลุดลอย อยากกระโจนเข้าไปครอบครองอีกฝ่ายทันที เก้าปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยได้กลิ่นฟีโรโมนของโอเมก้าอันเกิดจากอาการป่วย แต่แล้ววันนี้ กลิ่นหอมหวานชวนให้โหยหาทั้งเข้มข้นทั้งรุนแรงกระทบอยู่แค่เพียงปลายจมูก “อือ...” ริมฝีปากของคนสวมฮู้ดส่งเสียงงึมงำเหมือนไม่สบายตัว เสียงนั้นช่วยดึงสติของริคาร์โดกลับมาจากความคิด ไหนๆ ก็รู้แล้วว่าเจ้าของใบหน้าใต้ฮู้ดนี้เป็นใคร ขอดูให้เต็มสองตาหน่อยเถอะ ชายหนุ่มคิด ก่อนจะดึงฮู้ดสีเขียวลง ทันใดนั้น นัยน์ตาสีเข้มของริคาร์โดพลันเบิกกว้าง ...เป็นใบหน้าที่สวยมากจริงๆ ผิวขาวผ่องนวล แพขนตาหนา จมูกโด่งเล็กรับกับริมฝีปากคู่สวยสีชมพู จังหวะนี้เอง ดาร์เรียนปรือตาขึ้นเล็กน้อย ริคาร์โดจึงเห็นว่าอีกฝ่ายมีดวงตาสีน้ำตาลธรรมดา ม
(ภาค 2) บทที่ 35 ริคาร์โดกับโอเมก้า(ปริศนา) ...หกเดือนที่แล้ว ถึงแม้ริคาร์โดจะขึ้นชื่อว่าเป็น ‘หนุ่มเจ้าสำราญ’ หากก็ใช่ว่าจะหลับนอนกับใครไปเรื่อย หลังจากปฏิเสธโอเมก้าที่เพิ่งนัดเจอกันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ริคาร์โดตรงมาที่ร้านเหล้าของมาร์โก ดื่ม...และดื่ม เพื่อลืมคำพูดแย่ๆ ของโอเมก้าคนนั้น โอเมก้าบางคนงดงามแค่เพียงภายนอก ธาตุแท้นั้นมีแต่ให้ความรู้สึกแย่เกินรับไหว เหมือนอย่างบุตรชายคนรองของเคานต์เซนน์โรล เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายหน้าสวยถูกใจ ฐานะยังคู่ควรเหมาะสม ริคาร์โดเลยตามจีบอยู่ช่วงหนึ่ง หัวค่ำวันนี้ก็ยังอุตส่าห์ชวนอีกฝ่ายออกมาเดต แต่พอริคาร์โดพูดถึงหลานชายปุบ อีกฝ่ายก็พูดจาเหยียดหยามซีเอลกับคาร์ริสของเขาทันที ‘ท่านริคาร์โดจะเลี้ยงดูลูกนอกสมรสของน้องชายจนถึงเมื่อไรครับ หากท่านแต่งงานแล้ว เด็กคนนั้นก็ยังจะอยู่ที่คฤหาสน์ลูกัสตาร์ต่อไปเหรอ?’ ‘พูดแบบนั้นหมายความว่ายังไง’ ‘เด็กคนนั้นมีปมด้อยเรื่องครอบครัวใช่ไหมล่ะครับ หากท่านริคาร์โดแต่งงานและมีลูกของตัวเองขึ้นมา เด็กนั่นจะต้องเกิดความอิจฉา ข้าคิดว่าท่านส่งเ