"อื้ออ!!!" ชายหนุ่มชักท่อนเนื้อออกมาจนเกือบสุดแล้วค่อยๆกระทุ้งงัดเข้าไปจนมิดด้ามอีกรอบหนึ่ง ทำเอาร่างบางที่นอนราบอยู่บนเตียงบิดเร่าขยำผ้าปูที่นอนแน่นจนยับยู่ยี่
"พี่จะเริ่มแล้วนะคะคนเก่ง" สิงห์ตัวร้ายกระตุกยิ้มมุมปากพร้อมกับใช้สองฝ่ามือจับเอวคอดกิ่วเอาไว้แล้วเริ่มออกแรงดันสะโพกถาโถมเข้าไปในช่องทางคับแคบอย่างไม่บันยะบันยังจนเรือนร่างบางสั่นคลอนไม่เป็นจังหวะ "อ๊ะ อ๊ะ อื้อส์! อ่าห์ พะ...พี่สิงห์ขา" ดวงตากลมโตดั่งไข่ห่านหวานเยิ้มดั่งน้ำผึ้งเดือนห้าทอดมองไหล่ลาดสวยไล่ต่ำลงมาเป็นเนื้อกำยำที่ถูกอัดแน่นด้วยกล้ามเนื้อรายเรียงเป็นระเบียบมีหยาดเหงื่อจากอุณหภูมิร้อนในกายไหลซึมออกมาอย่างไม่เกรงใจเครื่องปรับอากาศที่ลดองศาต่ำลงจนเย็นเฉียบ ช่างดูเซ็กซี่น่าดึงดูดเหลือเกิน จะดูเซ็กซี่หากเธอได้ดูภาพนี้เพียงคนเดียว! "ฮือ" สิงห์ส่งเสียงคำรามในลำคออย่างพึงพอใจ เขาไม่สามารถละสายตาจากเต้าอวบอิ่มตรงหน้าได้เสียจริงจึงมุดลงไปใช้ปลายลิ้นลากตวัดเลียดูดเม้มยอดปทุมถันสีชมพูจนแดงเถือกและมันวาวไปด้วยหยาดน้ำลาย "ไปทำอะไรมาคะเนี่ย ทำไมถึงได้ใหญ่ขนาดนี้" "พะ...พี่สิงห์ อื้อ ชะ..ชอบใหญ่ๆไม่ใช่หรอคะ จะได้ ถะ...ถนัดมือ" ไฮโซน้ำหนึ่งเล่นหูเล่นตาแพรวพราวกลับไป ก่อนจะใช้แขนเรียวบางขึ้นไปรั้งท้ายทอยลงมาจูบจนทั้งสองร่างคล้ายจะใช้ลมหายใจร่วมกัน "หึ! แน่นอนอยู่แล้วค่ะ" เขาถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง จับร่างบางพลิกคว่ำเป็นท่าหมาแล้วเบียดเสียดสีแนบชิดกายแกร่งเข้าไปในโพรงเนื้อนุ่มอีกรอบ "อ่า เซ็กซี่" เขาใช้ฝ่ามือฟาดลงบนก้นขาวเนียนของภรรยา แล้วกระแทกกระทั้นความยาว ทำให้ปลายเนื้ออวบถาโถมชนเข้ากับโพรงเนื้อนุ่มเกิดเสียงลามกดังสนั่นแข่งกับเสียงร้องกระสับกระส่ายไม่เป็นภาษาของร่างบางที่แทบจะเอนตัวติดชิดกับฟูกเตียง “อ๊ะ อื้อ! พะ...พี่สิงห์ขา ระ...แรงกว่านี้” เธอร้องขอเสียงหลงขึ้นจมูก มีหรือที่เขาจะขัด ออกแรงดันสะโพกถี่ถี่ ทั้งงัด ทั้งสวน จนแข้งขาของเธออ่อนเรี่ยวอ่อนแรงประคองตัวไม่อยู่แทบจะทรุดอยู่รอมร่อ แต่เขาน่ะหรือ! ใช้ฝ่ามือแกร่งดันสะโพกกลับมาแล้วกระทุ้งสวนกันจนทรวงอกเต่งตึงสั่นคลอนคล้ายลูกคลื่นพัดกระทบฝั่ง ทั้งยังใช้ปลายจมูกสันโด่งสูดดมกลิ่นหอมกรุ่นบนผิวเนื้อเนียนนุ่มสามารถเรียกความร้อนรุ่มอารมณ์กระสันภายในกายเขาให้ทวีคูณความรุนแรง ยิ่งเป็นไอ้ประเภทที่ว่า...ต้องการทางเพศสูง วินาทีนี้ก็เลยเหลือเพียงเลือดความปรารถนาในกายที่เล่นพลุกพล่าน “อื้อ อื้มห์ มะ...ไหวแล้วอ่า” เสียงหวานขาดหายไปในลำคอเป็นช่วงๆเพราะความเสียวซ่านที่ได้รับมอบจากเขา “น้ำหนึ่งครางชื่อผัวหน่อย” เขากระซิบบอกข้างๆ ใบหูนิ่มแบบประทับริมฝีปากจูบเบาๆลงบนต้นคอขาวเนียน "พะ...พี่สิงห์ขา อื้อ! พะ..พี่สิงห์ หนึ่งมะ...ไม่ไหว" เมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาก็เร่งจังหวะให้เร็วขึ้นกว่าเดิม พร้อมทั้งกระเด้งสะโพกสวนลำเอ็นขนาดใหญ่เข้าไปในโรงเนื้อนุ่มที่กำลังตอดบีบรัดและทวีคูณความรุนแรงขึ้นเป็นเท่าตัวทำให้เรือนร่างบางสะดุ้งเฮือก ภาพภายในสมองขาวโพลนกระตุกน้ำสายธารจากสวรรค์หลั่งรินลงมาไหลย้อนตามง่ามขาเมื่อเขาค่อยๆถอดถอนความเป็นชายแล้วรูดเกราะป้องกันทิ้งลงในถังขยะข้างเตียง "ให้หนึ่งทำให้นะคะ" ฝ่ามือเล็กค่อยๆประคองเนื้อแข็งขืนขึ้นมาให้อยู่ในอ้อมนิ้ว ก่อนจะใช้ปลายลิ้นนุ่มตวัดเลียพร้อมกับกระดกเร็วระรัวบริเวณปลายเห็ดสีชมพูคล้ำที่ยังคงมีน้ำเหนียวหนึบไหลซึมอยู่ "อื้อ!" เขาเลื่อนฝ่ามือลงไปจับศีรษะทุยตามสัญชาตญาณ พร้อมทั้งลูบเบาๆ แลมองทุกการกระทำและสีหน้าที่แสดงความเร่าร้อนผ่านออกมาจากแววตาคู่นั้นอย่างพึงพอใจ "ฮึก!" ริมฝีปากเล็กค่อยๆครอบเข้าไปจนสุดความยาวเอ็นแต่ต้องเบ้หน้าน้ำตาเล็ดเพราะมันทั้งจุกและคับแน่นจนแทบปริ แต่ก็ยังคงฝืนทำ ดูดๆ เหมือนที่นางเอก AV ทำในนิยายหนังโป๊ และดูเหมือนเขาจะชอบพออยู่ไม่ใช่น้อย "อ่า...ตรงนั้นแหละหนึ่ง" ฝ่ามือหนาดันศีรษะทุยให้กดเข้าไปจนสุดความยาวพร้อมทั้งกระแทกกระทั้นอัดแน่นสะโพกสวนกลับเข้าไปส่วนภายในไม่กี่นาทีถัดมาเขาก็เสร็จสมหลั่งรินน้ำสีขาวขุ่นสูบฉีดเข้าไปในโพรงปากทุกหยาดหยด "อี๋! ไม่เห็นจะอร่อยเลย" เธอแทบพุ่งไปอ้วกแต่ก็จำใจกลืนลงไปในลำคอ "ไปฝึกมาจากไหนคะเนี่ย ทำไมถึงได้เก่งขนาดนี้" แววตาเริ่มดุดันจ้องใบหน้าภรรยาเขม่น "แล้วพี่สิงห์ชอบหรือเปล่าคะ" ฝ่ามือเล็กดันแผงอกแกร่งให้นอนราบลงไปบนเตียงแทนแล้วค่อยๆคลานเลื้อยขึ้นไปบนร่างกายแกร่งกำยำ บดสะโพกเบียดเสียดสีกับความใหญ่โตของเขาเพื่อปลุกเร้าอารมณ์แล้วแอบใช้ปลายนิ้วสะกิดติ่งเล็กๆที่โผล่พ้นขึ้นมาตรงยอดหน้าอกทั้งสองข้าง ก่อนจะโน้มใบหน้าลงไปสบถจูบตวัดหยอกล้อกับปลายลิ้นของเขาอย่างเมามัน "อื้อ" "หนึ่งจะไม่ยอมให้พี่สิงห์ไปทำแบบนี้กับผู้หญิงคนไหนอีก" เธอยกสะโพกขึ้นแล้วจับแท่งแข็งขืนจ่อร่องกลีบลำดวนแล้วค่อยๆบดเบียดกลืนกินเข้าไปในโพรงนุ่ม "อ่าห์" สองฝ่ามือเล็กดันค้ำลงบนเนินหน้าท้องแกร่งเพื่อช่วยในการผ่อนผันเรี่ยวแรง ก่อนจะเริ่มลงมือควงสะโพกเป็นวงกลมร่ายรำคล้ายนางพญาอยู่บนร่างกายของเขา เวลานี้เธอเป็นคนคุมเกมทุกอย่าง! เธอปลดปล่อยอารมณ์ให้ไหลไปตามความรู้สึกและมันก็ได้ผลเกินคาด เลือดกระสันที่อยู่ภายในกายเพิ่มพูนความปรารถนาอันแรงกล้า ไฟสวาทแผดเผาความใสซื่อไร้เดียงสาหล่อรวมเป็นความเร่าร้อนและอยากจะทำให้เขาประทับใจด้วยการออนท๊อป กระดกก้นถี่ๆกระชั้นชิดติดต่อกันอย่างไม่มีหอบเหนื่อย "อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊าส์" "เมียพี่สุดยอดไปเลยค่ะ" ยอมรับตรงๆตอนนี้เลยว่าเธอค่อนข้างเร้าอารมณ์และทำให้เขาหลงใหลหัวปักหัวปำ ใครมันจะนึกคิดว่าผู้หญิงใสซื่อไร้เดียงสา จืดชืดแม้กระทั่งจูบอย่างเก้กังหากให้ทำเรื่องอย่างว่าก็คงจะตัดประเด็นนี้ออกไปจากศีรษะได้เลย แต่ทว่า...นี่มันโอ้มายก๊อด "สุดยอดก็ต้องมีหนึ่งแค่คนเดียวนะคะ" เสียงพวงกลมๆอวบอ้วนกระทบกับแก้มก้นขาวเนียนเคล้าคลึงดังเสียงครวญครางระงมรอบห้อง ฝ่ามือฟ้อนเฟ้นลูบคลำตามเรือนร่างบางอย่างหนักหน่วง ไม่ว่าจะเป็นเอวคอดกิ่วหน้าท้องแบนราบ ไล่ขึ้นไปใช้สองฝ่ามือประคองเต้ากลมลูกซาลาเปาอวบอ้วนแล้วดึงตัวร่างบางเข้ามาโถมจูบด้วยแววตาหื่นกระหายคล้ายกับจะกลืนกินเข้าไปทั้งก้อน พร้อมทั้งสวนสะโพกขึ้นลงถี่ๆ ยิ่งเห็นใบหน้ายั่วยวนและเสียงครางเรียกอารมณ์เขาก็อยากจะฟัดเธอให้แหลกละเอียดเหมือนตอนที่เสือขยุ้มเหยื่อจึงขบเขี้ยวขบฟันลงบนเนินเนื้อขาวเนียนฝากรอยคิสมาร์กเป็นจ้ำแดงๆไว้หลายจุด ตอนนี้เขาเหมือนไอ้พวกโรคจิตที่กระหายเหยื่อประเภทผู้หญิงอย่างไฮโซน้ำหนึ่ง เธอตอบสนองความต้องการของเขาได้ดีกว่าที่คิดคราวแรกก็นึกว่าจะร้องห้ามโวยวายแต่ที่ไหนได้กลับแอ่นหน้าอกรับรสสัมผัสแล้วขยุ้มศีรษะจนไรดกดำผมเล็ดลอดออกมาตามง่ามนิ้ว ถ้าเธอมีเซ็กส์แบบนี้ให้เขาได้ตั้งแต่แรก เขาก็คงไม่ต้องไปขนขวายหาความสุขนอกบ้าน...แต่ทว่าความน่าเร้าใจและความตื่นเต้นมันก็คงจะมีลิมิตแตกต่างกันออกไป "อ๊า อ๊ะ" แล้วทั้งสองก็เสร็จสรรพถึงฝั่งสวรรค์อีกครั้ง ใบหน้างดงามฟุบลงไปซบบนแผงอกแกร่งกำยำของเขาด้วยความหมดเรี่ยวหมดแรง ทว่าแลดูเหมือนเขาจะยังไม่พอใจ ผลักตัวร่างบางให้นอนราบ สวมใส่เกราะป้องกันกลิ่นสตอเบอรี่ชิ้นใหม่แล้วนำไปถูไถช่องทางคับแคบก่อนจะดันเข้าไป "หนึ่งเหนื่อยแล้วนะคะพี่สิงห์" "งั้นหนึ่งก็นอนเฉยๆเดี๋ยวที่เหลือพี่ทำเอง" ฝ่ามือหนาเลื่อนขึ้นไปรูปเรือนผมยาวสลวยแล้วจุมพิตลงบนหน้าผากมนเบาๆหนึ่งครั้ง "หนึ่งมีหน้าที่แค่นอนอ้าขาแล้วร้องก็เท่านั้นพอ" ประโยคนี้เขาโน้มลงไปจุมพิตข้างๆใบหูเล็กแล้วหายใจรินรดต้นคอขาวเนียนจนเธอเสียวซ่านไปทั้งกาย "พี่สิงห์เอาแต่ใจชะมัดเลย!" ไฮโซน้ำหนึ่งมองค้อนสามีด้วยความไม่พอใจแต่มันแฝงไปซึ่งความน่ารักน่าเอ็นดูน่าหยอกเย้าจนเขาอดใจไม่ไหว "พี่ไม่ได้เอาแต่ใจอย่างเดียวนะคะ" น้ำเสียงหวานปนแหบพร่าที่เขามักจะใช้กำราบเหยื่อถูกนำมาใช้อีกรอบ "พี่อยากจะเอาแต่หนึ่งด้วย" ไม่ว่างเปล่าฝ่ามือซุกซนก็เลื่อนลงไปบีบคลึงเต้าอวบอิ่มแล้วปัดป่ายแป้งซาลาเปาสีชมพูจนแข็งชันเป็นไต "ปากบอกว่าเหนื่อยแต่ไอ้นี่ชี้โด่เลยนะคะเนี่ย หึ" "พี่สิงห์!" ไฮโซน้ำหนึ่งเบี่ยงเบนหน้าหนีไปทางอื่นด้วยความขวยเขิน ปากหวาน! แล้วจะให้เธอไม่หลงรักหัวปักหัวปำอย่างไรล่ะ "งั้นต่อนะคะ" ไม่ได้รอคำตอบจากภรรยาสะโพกสอบก็เริ่มทำงานราวกับมีปุ่มอัตโนมัติกดสั่งการได้ แน่นอนว่า... บทเพลงรักอันเร่าร้อนยังคงบรรเลงต่อไปเรื่อยๆ ทั้งยังเสียงร้องกระเส่าของคนตัวเล็กดังระงมกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อสนั่นทั่วห้องสี่เหลี่ยมไม่มีท่าทีว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ชายหนุ่มเก็บร่างกายอันบอบช้ำและอ่อนแอเต็มทีประคองตัวขึ้นมาบนรถสปอร์ตคันหรูของตนเองในใบหน้าที่แปดเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตาซบลงบนพวงมาลัยอย่างหมดเรี่ยวแรง...ที่ผ่านมาเขามันโง่งมเอง...เขาทำร้ายผู้หญิงที่รักเขามากที่สุดในชีวิตมาโดยตลอด เธอคิดว่าเธอคือของตาย จะอย่างไรเสียหันกลับไปเมื่อไหร่ก็คงจะเจอ...แต่เปล่าเลยทุกคำพูดและทุกการให้อภัยที่เกิดขึ้นเปอร์เซ็นต์ความศรัทธาและเปอร์เซ็นต์ที่อยากจะอยู่ต่อมันค่อยๆ เลือนหายและลดหลั่นลงไปตามลำดับจนไม่หลงเหลืออยู่เลย...เพิ่งมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ต้องสูญเสียแล้วไม่สามารถเรียกร้องกลับคืนมาได้อีกยิ่งได้รับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังศึกษาดูใจกับผู้ชายคนใหม่…มันทำให้ความหวังที่เธอจะให้โอกาสเขาอีกครั้งหนึ่งเริ่มร่อยหรอและค่อยๆ ลดน้อยลงไปทุกทีทุกที“ฮึก!! หนึ่ง พะ...พี่ขอโทษ ขอโทษจริงๆ” สิงห์พูดอย่างติดๆ ขัดๆ พลางเสียงสะอื้นแทรกเข้ามาเป็นระยะๆ ท่าทีแสดงอาการเย็นชาและคำพูดเปิดตัวคนรู้ใจใหม่จากภรรยาสาวแปรเปลี่ยนเป็นอาวุธไร้รูปร่างเชือดเฉือนก้อนเนื้อหัวใจของเขาจนไม่เหลือชิ้นดีจบแล้วใช่ไหม...เจ็บปวดเหลือเกิน...หากขอพรจากฟ้าได้ข้อหนึ่ง...เขาไม่ต้องการเงินทองเป็นร้อยเป็นพั
ท่านเจ้าสัวสุรเดชจะไม่มีวันยอมให้หลานสาวของตัวเองกลับไปอยู่ในวงโคจรนรกแบบนั้นอีกแล้ว! หลานสาวของเขาจะต้องเจอคนที่ดีกว่านี้ เจอคนที่ไม่ทำให้แกต้องเสียใจ เจอคนที่สามารถดูแลและทะนุถนอมความรู้สึก ความรัก ความศรัทธาของแกจริงๆ!“ท่านเจ้าสัว ผมขอเจอหน้าน้ำหนึ่งจะได้ไหมครับ ผมมีเรื่องจะคุยกับน้ำหนึ่ง ผมขอเถอะนะครับท่านเจ้าสัว” สิงห์คุกเข่าลงตรงหน้าท่านเจ้าสัวสุรเดชเพื่อร้องขอความเห็นใจให้เขาเมตตาผู้ชายคนนี้สักนิด...ให้เขาได้มีโอกาสพูดคุยกับน้ำหนึ่งสักหน่อย“ฉันไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าแกจริงๆ ไอ้สิงห์ แกทำให้หลานสาวฉันต้องเสียใจไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ฉันก็ยังออมมือไม่เอาเรื่องเอาราวเพราะน้ำหนึ่งขอเอาไว้! แต่นี่แกมันโง่ แกดันเล่นชู้กับเพื่อนสนิทของหลานสาวฉัน! ฉันไม่ทำให้ชีวิตแกพังก็บุญแค่ไหนล่ะ!! อันที่จริงถ้าฉันจะยึดบริษัทซื้อหุ้นส่วนทั้งหมดให้หลานสาวฉันเป็นคนดูแลบริหารก็ยังได้เลย! นี่ถือว่าฉันยังเห็นแก่คุณปู่ของแก ฉันเลยไว้หน้าอยู่บ้าง นับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป ไสหัวไปซะ! อย่ามายุ่งวุ่นวายกับหลานสาวฉันอีกแล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือน” ท่านเจ้าสัวสุรเดชพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ดูสุขุมนุ่มลึกน่าเก
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะคะ”“ก็ผมกลัวว่าผมจะล้ำเส้นน้ำหนึ่งมากเกินไป เราสองคนตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีสถานะอะไรนอกจากกำลังคุยๆ คุยดูใจกันอยู่” เขาให้เกียรติน้ำหนึ่ง...เขาไม่อยากทำให้เธอเสื่อมเสียชื่อเสียงและถูกนำไปนินทาเสียๆ หายๆ“ก็ถ่ายในฐานะเพื่อนคนรู้จักหรือคนที่กำลังคุยกันอยู่ก็ได้” ในเมื่อคิดจะเปิดใจแล้วเธอก็ลุยเต็มที่!อย่างว่าเธอเป็นคนทุ่มเทกับความรัก! ตอนรักก็รักและให้ไปสุดใจอย่างไม่คิดจะเผื่อเปอร์เซ็นต์ไว้เจ็บปวด แต่ตอนเลิกเนี่ยสิทรมานจวนเจียนหมดลม!“ดูหัวเราะคิกคักมีความสุขกันมากเลยนะ” เสียงของแขกไม่ได้รับเชิญดังขึ้น “ดูหนึ่งแฮปปี้และเอ็นจอยมากเลยนะคะไม่เหมือนคนที่เพิ่งหย่ากับสามีไปหมาดๆ”แขกไม่ได้รับเชิญคนนั้นนั่นก็คืออดีตสามีห่วยแตก...แต่สภาพสิงห์แทบจะดูไม่เป็นผู้เป็นคนและดูไม่ได้เลยด้วยซ้ำ...ใบหน้าของเขาทรุดโทรมซูบเซียวคล้ายกับคนขาดสารอาหารพร้อมทั้งดวงตาอ่อนล้ารอบๆ หมองคล้ำอย่างกับอดหลับอดนอนมาเป็นระยะเวลาหลายคืน...“สวัสดีค่ะคุณสิงห์” น้ำหนึ่งยังคงให้เกียรติเขาเช่นเดิม“สวัสดีครับคุณสิงห์” นนทกานต์เองก็สวัสดีผู้ที่มีอาวุโสกว่าเขา เนื่องจากเขาอายุไล่เลี่ยกับน้ำหนึ่ง...ห่างกันเพียงแค่สอ
@สามเดือนผ่านไปในส่วนของสิงห์ได้รับผลกระทบจากการกระทำของตัวเองพอสมควร...นั่นก็คือถูกปลดออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารบริษัทยักษ์ใหญ่! เนื่องจากทำความเสื่อมเสียชื่อเสียงมาจนถึงบริษัทจนลูกค้าเกิดความไม่ไว้วางใจและขุ่นเคืองใจเป็นอย่างมากกับพฤติกรรมของเขาจึงมีคนยกเลิกออเดอร์กันไปเป็นขบวน สร้างความเสียหายหลายล้าน ทั้งยังถูกประนามจากสังคมผ่านโลกโซเชียลวิเคราะห์ถึงนิสัยใจคอที่ไม่สามารถรับได้ จะไปจะมาที่ไหนก็ล้วนมีแต่คนซุบซิบนินทา...แต่ก็ได้ข่าวว่าเขาชอบชีวิตอิสระของตัวเอง จะทำอะไร จะไปที่ไหนก็ไม่ต้องแคร์ใคร! สิงห์ที่คั่วผู้หญิงเป็นว่าเล่น เข้าผับทุกคืนซ้ำยังได้ผู้หญิงติดไม้ติดมือมาล้วนงานดีทั้งนั้น! นี่มันสวรรค์ที่เขาใฝ่หาชัดๆ! ข่าวลือหนาหูพาดหัวข่าวจากหนังสือพิมพ์และโลกโซเชียลกระหน่ำไม่เว้นวัน...บ้างก็ข่าวกับดาราคนนู้น บ้างก็ข่าวกับนางเอกคนนี้ บ้างก็เขากับไฮโซคนนั้น...ส่วนชะเอมเองก็ได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน หล่อนถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักมาก ถูกตัดช่องทางการทำมาหากินทุกอย่างจนแทบจะต้องมุดหัวอยู่ในกระดองเพราะไม่กล้าออกไปเผชิญหน้ากับสังคม เนื่องจากโดนด่า โดนว่าจนอับอายขายขี้หน้า บางวันก็เล่นใ
น้ำหนึ่งเหยียดยิ้มอย่างชั่วร้ายชำเลืองตามองเพื่อนสนิทที่พร้อมจะเหยียบย่ำเธอให้จมดินสลับกับอดีตสามีเฮงซวยซึ่งคิดทำร้ายทั้งจิตใจและความรู้สึกเธอสารพัด“หนึ่ง...” สิงห์ส่ายศีรษะเพื่อห้ามปรามให้เธอหยุดพูด เพราะในตอนนี้เขาแทบไม่เหลือศักดิ์ศรีให้ยืนหยัดในแท่นผู้บริหารได้อย่างมีเกียรติแล้วแต่มันกลับเปล่าประโยชน์...“หนึ่งจับได้ว่าพี่สิงห์มีผู้หญิงคนอื่นค่ะ” กล่าวประโยคนี้จบเสียงฮือฮาซุบซิบนินทาก็เริ่มหนาหูขึ้น ส่วนเพื่อนสนิทเธอนั้นเมื่อรู้ตัวว่าไฟใกล้จะลามมาถึงขาตนก็ทำทีท่าจะก้าวย่องออกไปอย่างเงียบๆ ทว่าอันนาไหวตัวทันก็เลยรั้งแขนหล่อนเอาไว้“จะไปไหนเหรอเพื่อนรัก?” คนอย่างชะเอมคบไม่ได้ ฉะนั้นอันนาก็ไม่มีเหตุผลจำเป็นอะไรที่ต้องเก็บเอาไว้ ต่อให้คบหารู้จักกันมานานตั้งแต่สมัยเรียนเรียน แต่นั่นมันก็เป็นเครื่องช่วยย้ำเตือนอีกอย่างหนึ่งว่าเวลาไม่ได้ช่วยขัดเกลาทำให้จิตใจคนสูงส่งขึ้นมาได้เลยหากวันหนึ่งหล่อนทำอะไรที่ไม่เข้าตาชะเอมเข้า ชะเอมก็คงจะใช้มูลเหตุนั้นชักจูงให้ตัวเองกระทำความผิดแล้วใส่ไม่ยั้งกับหล่อนเหมือนที่กระทำกับน้ำหนึ่งแน่นอน“โดยปกติแล้วคุณสิงห์ก็มีผู้หญิงคนอื่นอยู่เรื่อยไม่ใช่เหรอคะ?”
“หนึ่ง...”“พี่สิงห์รีบเซ็นเถอะค่ะ เราจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลานั่งอยู่ตรงนี้นานมาก เพราะหนึ่งมีธุระต้องไปทำต่อ” น้ำหนึ่งเลื่อนเอกสารไปตรงหน้าของสิงห์ซ้ำยังใช้ประโยคบีบบังคับให้เขาลงลายมือชื่อโดยเร็ว“...” สิงห์ค่อนข้างลังเล ภายในหัวใจมันวูบวาบร้อนรุ่มอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกหนึ่งก็อยากเซ็นให้จบๆ เพื่อคืนอิสรภาพให้แก่ตนเองหลังจากนี้จะได้คั่วผู้หญิงอย่างตามใจโดยไม่ต้องแคร์สายตาคนอื่น แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกเสียดายเธออยู่ไม่ใช่น้อย...อยู่ด้วยกัน คุยกัน ทำความรู้จักกันมาตั้งนาน หากวันหนึ่งน้ำหนึ่งไปมีผู้ชายคนอื่นจริงๆ เขาจะต้องทำตัวอย่างไรนะ?น้ำหนึ่งทั้งสวย เพียบพร้อม ฉลาด มีคุณสมบัติครบด้านซะขนาดนี้เธอจะมีผู้ชายอีกสักกี่ร้อยกี่พันคนที่คัดเลือกเข้ามาอยู่ในวงโคจรก็ยังได้เลย...ของของเขา ของที่เขาเคยสัมผัสทุกกระเบียดนิ้วในเรือนร่างนี้ ในอีกไม่ช้ามันอาจจะต้องกลายเป็นคนอื่นมาซ้ำรอยแค่คิดก็จุกอก!!!เขาอยากให้น้ำหนึ่งเป็นของเขาเพียงแค่คนเดียว! แต่...เขาจะมีผู้หญิงอีกสักกี่คนก็ย่อมได้ นี่คงเป็นความคิดของคนที่เห็นแก่ตัวสินะ...แต่เขาไม่อยากเสียน้ำหนึ่งไปให้ใครจริงๆ น้ำหนึ่งเป็นของเขา เป็นผู้หญิงของส
“ฮือ” เธอเข้าไปกอดท่านเจ้าสัวสุรเดชซ้ำเป็นครั้งที่สอง “เจ็บ...เจ็บเหลือเกินค่ะคุณปู่ หนึ่งทั้งรัก ทั้งดูแลและจงรักภักดีต่อพี่สิงห์มาโดยตลอด มอบให้เขาเป็นโลกทั้งใบแต่เขากลับทำกับหนึ่งแบบนี้...ต่อให้เขามีพวกผู้หญิงคนอื่นอีกสักร้อยสักพันคนหนึ่งก็ไม่รู้สึกจุกอกเท่าที่เห็นเขากำลัง...อยู่กับเพื่อนหนึ่ง เขาทำแบบนี้กับหนึ่งได้ยังไงอ่ะ”มันเป็นความรู้สึกสูญเสียทั้งเพื่อนสนิทและคนรักในเวลาเดียวกัน...ทั้งสองคนคือคนที่เธอรัก คือคนที่เธอไว้ใจแต่กลับมาหักหลังทรยศแล้วเล่นกันเองเสียอย่างนั้น...“เพราะไอ้สาระเลวนั่นมันหน้าตัวเมียไง หนึ่งโชคดีแล้วหลานที่ออกมาได้ ต่อจากนี้ชีวิตของหลานจะมีแต่ความสุข ความสงบสุขและเจริญก้าวหน้าไปเรื่อยๆ หลานจะเจอคนที่เขารักหลานได้มากกว่านี้ หลานจะเจอคนที่เขาพร้อมพอในการดูแลหลาน ในการรักหลานและไม่ทำให้หลานเสียใจเหมือนผู้ชายคนนี้อีก หลานสาวของปู่ทั้งสวย ทั้งเก่งขนาดนี้ ผู้ชายดีๆ เพอร์เฟคยังมีอีกเยอะที่รอต่อแถวกดบัตรคิวกันเป็นขบวน” สิ่งที่ท่านเจ้าสัวสุรเดชกล่าวออกมานั้นล้วนเป็นความจริง...ตั้งแต่ที่ไฮโซน้ำหนึ่งเปลี่ยนโฉมปรับลุคการแต่งตัวก็มีชายหลายคนทั้งไฮโซ ทั้งเซเลบ ทั้งดารา
“โอ๊ย!!” เสียงโอดโอยของสิงห์ร้องดังขึ้นเมื่อเพื่อนสนิทอย่างกระทิงจิ้มจุ่มสำลีลงบนบาดแผลบริเวณมุมปากของเขาอย่างแรง “เจ็บนะเว้ยไอ้กระทิง”“สมน้ำหน้า!! ทำอะไรโง่ๆ นะมึงเนี้ย แล้วก็ลำบากกูกับไอ้เหยี่ยวต้องมานั่งเป็นเพื่อนมึงตีสองตีสามขนาดนี้” กระทิงล่ะเหลืออดกับเพื่อนคนนี้เสียจริง“ก็กูเดือดร้อนจริงๆ นี่!” เดือดร้อนจริงหรือเดือดร้อนเล่นๆ ก็ให้สังเกตจากใบหน้าอันหล่อเหลาที่เดิมทีเคยมีสง่าราศีของสิงห์ตัวพ่อคาสโนว่าระดับประเทศ แต่ทว่าตอนนี้มันถูกประดับประดาด้วยรอยจ้ำแดงๆ ที่มีเลือดสีแดงสดไหลซิบ ทั้งหัวคิ้ว กราม โหนกแก้มทั้งซ้ายขวา มุมปาก แล้วไหนจะรอยช้ำบริเวณแขนและขาหลายจุดอีกด้วย!ก็ไอ้รอยบ้าๆ พวกนี้เกิดขึ้นตอนที่เขาขับรถออกมาจากผับได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่น้ำหนึ่งหายตัวไปนั่นแหละ...และมั่นคงจะเป็นฝีมือใครไปไม่ได้นอกเสีย...“ก็มึงเล่นไปทำกับหลานท่านเจ้าสัวซะขนาดนั้น นี่เขาไว้ชีวิตมึงก็บุญหัวแล้วไอ้สิงห์! เอาจริงมึงนี่ไม่น่าชื่อสิงห์เลยนะ ทั้งนิสัยทั้งสันดานเหี้ยชัดๆ” กระทิงกล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำไม่ได้แลดูเห็นอกเห็นใจเพื่อนสนิทเลยแม้แต่น้อย“ไอ้กระทิง!!”“ก็กูพูดความจริงนี่หว่า ที่ผ่านม
เรือนร่างบางระหงวิ่งลงมาจากชั้นล่างของผับด้วยสภาพใบหน้าแปดเปื้อนหยาดน้ำตาโดยได้ยินเสียงเรียกร้องของสิงห์ตามหลังมาติดๆตุ้บ!! น้ำหนึ่งชนเข้ากับใครสักคน สายตาเล็กค่อยๆ แหงนขึ้นไปมองหน้าเขาแล้วรีบกล่าวคำขอโทษ“ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”“หนึ่ง!! หนึ่ง!!!”ผู้ชายรูปหล่อเหลา ใบหน้าคมเข้มราวกับเทพบุตรที่ถูกวาดโดยพู่กันแต่งแต้มสีสันลงบนกระดาษร้อยปอนด์ด้วยช่างฝีมือดีระดับโลก คิ้วเป็นคิ้ว ปลายจมูกสันโด่งรับกับริมฝีปากที่มีสีสันสดใสคล้ายกับได้รับการแต่งแต้มด้วยลิปสติก“!!” เขาไหวตัวทันรีบดึงตัวร่างบางมาหลบเอาไว้แนบประชิดแผงอกแกร่งกำยำ ชำเลืองมองดูว่าสิงห์ผ่านออกไปจนแลไม่เห็นแล้วจึงค่อยๆ ผละออก“คุณหนีผู้ชายคนนั้นเหรอครับ?”“คุณช่วยพาฉันออกไปจากที่นี่ทีจะได้ไหมคะ” เธอไม่อยากพบหน้าใครทั้งนั้นแม้กระทั่งคีรินหรืออันนา แต่จะให้ทำอย่างไรในเมื่อเธอวิ่งออกมาตัวเปล่าไม่ได้หยิบแม้กระทั่งกระเป๋าสะพายที่ถูกบรรจุกุญแจรถเอาไว้ติดไม้ติดมือด้วย“ครับ” เขาไม่ปฏิเสธ..@ทะเลทั้งสองแล่นรถออกมาไกลพอสมควรจนถึงชายหาดแถบพัทยาใกล้ๆ กับกรุงเทพฯ ร่างบางถอนหายใจเฮือกใหญ่ทิ้งตัวลงบนหาดทรายขาวทอดมองทะเลอันกว้างขวางในยามค่