“เนย!” เป็นอธิปที่ได้สติก่อน ร่างสูงร้องเรียกชื่อคนตรงหน้าเสียงดัง
“พี่ธาม” เสียงที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากบางแสนเบา
อภัสรากะพริบตาถี่ ๆ เพื่อไล่อาการมึนงงกับภาพตรงหน้า ก่อนที่สมองจะประมวลผล ร่างบางผวาลุกขึ้นอย่างเร็ว รวบร่างอ้วนกลมขึ้นอุ้มก่อนจะวิ่งตรงไปที่ประตู ไม่สนใจอะไรอีก แม้กระทั่งคนที่มาด้วยกัน
อภิวัฒน์ที่เดินกลับมาจากห้องน้ำตกใจกับอาการของน้องสาวก่อนจะรีบวิ่งตามออกไป เมื่อเห็นร่างบางแบกลูกที่ยังคงร้องจ้าออกไปนอกร้าน อภัสราฝากลูกไว้กับเขา แต่เขาดันปวดท้อง เลยบอกคนตัวเล็กให้นั่งรอที่โต๊ะ
อธิปตกตะลึงกับภาพที่เห็น ก่อนจะวิ่งตามมือยังฉวยรถบังคับคันเล็กที่ร่วงลงพื้นมาด้วย ไม่สนใจกับเสียงของพนักงานในร้านที่ร้องเรียกตามหลังเพราะเขาทิ้งทุกอย่างไว้บนโต๊ะ
อภัสราลนลานออกมาโดยไม่ได้มองอะไรทั้งนั้น นาทีนี้ เธออยากไปให้พ้นจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด ร่างบางที่หอบลูกวิ่งสุดชีวิตจนไม่มองทางชนเข้ากับอะไรบางอย่าง ดีที่เขากอดประคองเธอไว้ จึงไม่เสียหลักล้มลง อ้อมแขนยกกระชับลูกให้แน่นขึ้นก่อนจะหันมาเอ่ยกับคนที่ถูกเธอชน
“ขอทะ... พี่เต้ย!” คำพูดถูกกลืนหาย เสียงหวานแหลมอุทานลั่น ก่อนจะถอยหลังมองซ้ายขวาแล้วออกวิ่งต่อ
“อะไรวะ” ภพธรงง เมื่อจู่ ๆ ก็ถูกเรียกชื่อเหมือนคนชนรู้จักเขา
“อ้าวธาม จะไปไหน” ภพธรงงอีกรอบเมื่อเห็นอธิปวิ่งเร็ว ๆ มาทางนี้
“เต้ย! ตามมา” อธิปหันไปร้องเรียก
“แม่เนย ๆ รถไทม์ ๆ” เด็กน้อยหันมามอง ก่อนจะร้องบอกเมื่อเห็นรถในมือคนที่วิ่งตามมา
“ช่างมันค่ะ เดี๋ยวแม่ซื้อให้ใหม่” ถึงแม้จะเหนื่อยแต่ไม่วายตอบปลอบใจลูก
“ลุงวัฒน์รถไทม์ ๆ” เด็กน้อยตะโกนบอกคนที่วิ่งเร็ว ๆ ตามมา
“เนย... เนยโว้ย เกิดอะไรขึ้น” อภิวัฒน์ตะโกนถามน้อง
“พี่วัฒน์เร็ว ๆ เลยค่ะ ไปเอารถมาเร็ว ๆ” อภัสราหันไปบอกกับพี่ชาย ร่างบางหมุนเข้าหลังเสาเพื่อซ่อนตัว
“อย่าเสียงดังนะลูก เขาเป็นคนใจร้าย เขาจะทำร้ายเรา อยู่นิ่ง ๆ นะคะ อย่าส่งเสียง”
ร่างบางยืนหอบหายใจหนัก ๆ หลังจากกำชับลูก อ้อมแขน ยกร่างตุ้ยนุ้ยในอกให้กระชับขึ้น หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อได้ยินเสียงคนเดินมาทางนี้ ดวงตากลมโตมองหารถอภิวัฒน์แต่ก็ยังไม่มีท่าทีว่าพี่ชายจะมาเร็วกว่านี้
“เนย!” ร่างสูงที่วิ่งตามมาร้องเรียก ก่อนจะเดินหาไปเรื่อย ๆ อธิปมั่นใจว่าเขาเห็นหลังสองคนแม่ลูกหายไปทางนี้
“เนย อยู่ตรงนั้นหรือเปล่า หนีพี่ทำไม พี่เอารถมาคืนลูกเนยนะ” อธิปร้องเรียกอีกครั้ง เขาตั้งใจเอาของเล่นมาคืนเจ้าตัวเล็ก จริง ๆ
เด็กน้อยในอ้อมแขนแม่ตาโตเมื่อได้ยินคำว่ารถ ด้วยวัยเพียงหกขวบที่ยังไม่รู้จักแยกแยะ เพราะอยากได้ของคืนจึงตะโกนตอบ
“เอารถไทม์มานะ” ร่างกลมป้อมดิ้นลงจากอกแม่ เมื่ออยากได้ของเล่นคืน เพราะความอ่อนแรงอภัสราจึงไม่ทันระวังตัว มารู้ อีกทีลูกก็หลุดจากอ้อมแขนเสียแล้ว ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อเห็นเจ้าตัวเล็กยืนกอดอกมองหน้าคนตัวสูง สบตากันอย่างไม่มีใคร ยอมใคร
“อะไรวะธาม” ภพธรที่เดินตามเพื่อนมาถามอย่างงง ๆ
“ไอ้เปี๊ยกมันหาเรื่องกู” อธิปหันไปตอบเพื่อน
“ฮะ!” ภพธรอุทานลั่นอย่างไม่เชื่อหู เมื่อเพื่อนกล่าวหาเด็ก ตัวเล็กเท่ามด
“เออสิ... มึงจะช่วยกูรุมมันไหม” ดวงตาคมเข้มขยิบให้กับดวงตาคมดุ ก่อนที่อธิปจะโบ้ยหน้าให้ภพธรมองตามไปทางเสาที่มีชายกระโปรงลูกไม้สีชมพูอ่อนโผล่ออกมาจากที่กำบัง
“ได้สิ... เรื่องนี้กูถนัด” ภพธรพยักหน้าเข้าใจ ก่อนเอ่ยรับมุกอย่างขำ ๆ
“เขารังแกไทม์ก่อน” เด็กน้อยพยายามอธิบายให้คนมาใหม่ฟัง
“ไม่ฟังโว้ย! ลุย” อธิปตวาดเสียงดังพร้อมกับก้าวเข้าหาทำท่าทางคุกคามเด็กตัวเล็ก น่าแปลกที่เจ้าเปี๊ยกไม่ร้องสักแอะ และ ไม่มีท่าทางกลัวเขาทั้งสองคนด้วย
“แม่เนย! หนีไป ไทม์จะปกป้องแม่เอง” ปากเล็กร้องบอกคนเป็นแม่ เท้าเล็กขยับถอยหนี ร่างบางที่ยืนหลังเสากำมือเข้าหากันแน่นจนตัวสั่นเทา เมื่อได้ยินคำที่คนทั้งสองพูดกับลูกชาย เธอรู้ว่ากำลังโดนสองคนนั้นล่อลวงให้เธอออกไป
“เก่งนักนะตัวแค่นี้ คิดจะช่วยแม่เหรอ เรียกแม่ออกมาเดี๋ยวนี้ไม่งั้นจะโดนกินตับนะ” ภพธรขู่เสียงต่ำ อธิปขำพรืด
“ไอ้เต้ยมึงขู่อย่างอื่นได้ปะ สัตว์ กูขำ” อธิปกระซิบบอกเพื่อนก่อนจะกลั้นเสียงหัวเราะ
“ไอ้ธาม มึงจะขำเพื่อ ขู่เด็กก็ต้องขู่แบบนี้แหละ”
“มึงจะกินตับเด็กเนี่ยนะ”
“ขู่โว้ย! ทะลึ่ง” ภพธรโวยวาย เมื่ออธิปแปลความหมายคำว่ากินตับของเขาไปอีกทาง
“เออ ๆ เนยออกมานะ” พยักหน้าเข้าใจก่อนจะร้องเรียก อภัสราอีกครั้ง
“เนยไหนวะธาม” ภพธรหันไปถามเพื่อนเมื่อรู้สึกสงสัย
“น้องเนยปีหนึ่งไง ที่สวย ๆ น่ะ” อธิปหันมาตอบ ก่อนจะส่ายหน้ารำคาญเพื่อน
“คนไหนวะ นึกหน้าไม่ออก...”
“เสือกมาสงสัยอะไรตอนนี้วะ คนที่เข้ามาเรียนปีเดียวแล้วก็หายไปน่ะ นึกออกยัง” ถึงแม้จะบ่นให้แต่ก็ยังอธิบายเพิ่ม
“ไม่อะ กูจำไม่ได้” ภพธรส่ายหน้าหวือ เมื่อยังนึกหน้าคนหลังเสาไม่ออก
“ไอ้เวร! เนยที่กูพาไปนอนห้องมึงสองคืนน่ะไอ้สัตว์ จำได้ยัง”
เพราะความรำคาญจึงทำให้อธิปโพล่งคำที่ไม่น่าพูดออกมาดัง ๆ
“ไอ้เชี่ยธาม!” ภพธรตะลึงค้าง
“สัตว์!” อธิปสบถลั่น ทั้งโมโหตัวเองและโมโหเพื่อนไป พร้อม ๆ กัน
คำพูดของคนทั้งสองเข้าหูคนที่ยืนตัวสั่นอยู่หลังเสาทุกคำ ร่างบางแทบทรุดเมื่อจู่ ๆ อดีตที่อยากฝังกลบถูกคนเลวทั้งสองขุดคุ้ยขึ้นมาอีก และที่สำคัญเขากำลังพูดถึงมันต่อหน้าลูกของเธอ ถึงแม้ลูกจะยังไร้เดียงสาไม่เข้าใจสิ่งที่สองคนนั้นกำลังพูดถึง แต่เธอก็ ไม่อยากให้ลูกต้องมารับรู้
และก่อนที่เธอจะสติหลุดไปมากกว่านี้รถของอภิวัฒน์ก็มาจอดเทียบตรงหน้าพร้อมกับร่างสูงใหญ่ที่ก้าวเร็ว ๆ ไปอุ้มหลาน ตัวน้อยออกมาจากคนเลวกลุ่มนั้น ร่างบางรวบรวมสติเมื่อเห็นอภิวัฒน์อุ้มเจ้าตัวเล็กใส่รถ
นับหนึ่งถึงสามในใจ ก่อนจะวิ่งเร็ว ๆ อาศัยจังหวะที่สองหนุ่มกำลังตกใจกับคำพูดตัวเอง ผ่านหน้าเขาไปขึ้นรถ พร้อมกับร้องบอกให้อภิวัฒน์ขับออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด
น้ำตาไหลลงมาเป็นสายเมื่อรู้สึกโล่งอกที่รอดออกมาจากเหตุการณ์ที่ชวนให้หัวใจหยุดเต้นตรงนั้นได้
หลังจากถูกส่งตัวให้มาอยู่ในห้องหอตามลำพัง อภัสรากับอธิปก็ยิ้มให้กัน เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาอยู่ด้วยกันตามลำพัง หลังจากที่คืนดีกัน อธิปก็ย้ายเข้ามาอยู่กับเธอ ที่แต่งงานให้ถูกต้องเพราะสงสารฝ่ายหญิง ตลอดชีวิตของอภัสรายอมเขามาโดยตลอด เขาเข้ามาอยู่ด้วยเธอก็ให้อยู่ ทางพ่อแม่ก็ไม่ขัดข้องเพราะลูกโตแล้ว อธิปขอเธอแต่งงานตั้งแต่เธอกลับมา แต่หญิงสาวก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด จนกระทั่งตอนนี้เธอท้องลูกของเขาอีกคน เลยไม่มีข้ออ้าง ที่จะไม่แต่ง ไม่มีใครรู้ว่าเพราะอะไรเธอถึงไม่ยอมแต่งงาน คงมีแต่เธอคนเดียวเท่านั้นที่รู้“เป็นไงบ้าง เหนื่อยไหม” ถามเมื่อล้มตัวลงนอนบนตักของหญิงสาว“ไม่ค่ะ” ตอบพร้อมกับลูบมือไปบนใบหน้าหล่อเหลา“ถ้าแต่งตั้งแต่ยังไม่ท้องก็ไม่เหนื่อยแบบนี้หรอก” อธิปพูดด้วยความน้อยใจ เมื่อเขาต้องขอเมียแต่งงานถึงสามครั้ง“ก็แต่งแล้วไงคะ”“ถ้าไม่ท้องก็ไม่แต่ง”“พักนี้ทำไมขี้ใจน้อยจังเลย แต่งแล้วนี่คะ ไม่งอนนะคะ”“เนยรักพี่หรือเปล่า”“หืม... ถามทำไมคะ”“ไม่รู้ แต่เหมือนเนยไม่รักพี่”“พี่ธามนี่ยิ่งแก่ยิ่งงอแง ถ้าเนยไม่รัก เนยจะอยู่ด้วยไหมล่ะ”“เหมือนจำใจอยู่”“ไปกันใหญ่แล้ว งานก็ไม่ได้ไปทำ ให้อยู่บ้
“โห่ ฮิ้ว โห่ ฮิ้ว โห่ ฮิ้ววววว” เสียงโห่ขันหมากที่ดัง มาจากด้านล่าง ทำให้เจ้าสาวในชุดไทยสีชมพูอมม่วงนั่งไม่ติดพื้น ร่างบางพาตัวเองมายืนแอบดูขบวนขันหมากที่ยกกันมายาวจน สุดทางด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะหัวเราะออกมา เมื่อเห็นหนุ่ม ๆ ที่แต่งตัวด้วยชุดไทยหล่อเหลา เต้นกันไปมาตามจังหวะเพลงที่เปิดลั่นมาตามทางตากลมโตมองเลยไปยังผู้ชายร่างสูงใหญ่ที่ใส่ชุดไทยสวยงาม ก่อนจะมองไปยังคนตัวเล็กที่เดินนำขบวนมาข้างหน้า แทนรักแต่งตัวเหมือนพ่อ เดินอุ้มขันหมากคู่มากับมดยิ้ม ยิ้มให้กับตัวเอง คงมีไม่กี่คู่หรอกที่ให้ลูกมาอุ้มขันหมากงานแต่งพ่อแม่ เธอกับอธิปข้ามขั้นตอนกันไปจนเลยเถิด งานแต่งมีลูกมาร่วมงานด้วยก็ดีไป อีกแบบ จะได้ไม่ต้องตอบคำถามลูก ว่าตอนพ่อกับแม่แต่งงาน หนูอยู่ที่ไหน“ดูน้องไทม์สิ ยิ้มไม่หุบเลย” คุณปราณีเดินเข้ามาในห้อง แล้วมายืนข้างลูกก่อนจะมองไปข้างล่างเช่นกัน“หนุ่ม ๆ สาว ๆ เขาเล่นกันสนุกดีนะ”คุณปราณีพูดขึ้น เมื่อเห็นประตูเงินประตูทองแต่ละด่าน ทำโทษเจ้าบ่าวสารพัดวิธี ทั้งวิดพื้น ทั้งเต้น และยังมีอย่างอื่นอีก สมัยที่นางแต่งงานไม่เคยมีแบบนี้“ผู้ชายพวกนี้บ้าพลังค่ะ” บอกกับ
“มาคุยกันหน่อยสิ” ทันทีที่ก้าวขาลงจากรถ เสียงขู่คำรามก็ดังขึ้น ตากลมโตเบิกกว้างเมื่อเห็นคนตรงหน้า อธิปมายืนรอที่โรงจอดรถ มืดค่ำป่านนี้ยังมารอเธออีก ไม่มีอะไรให้ทำหรือไง“ไปไหนมา แล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์”อภัสรามองบนไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อนดี“ไปคุยรายละเอียดเรื่องงานมาค่ะ”ตอบเมื่อมายืนข้างหน้าเขา น่าแปลกที่วันนี้เธอกลับไม่รู้สึกกลัวเขาเหมือนเมื่อก่อน ตาคมเข้มแดงก่ำสบกับตากลมโตของเธอ นึกโมโหกับท่าทางนิ่งเฉยของหญิงสาว ปล่อยให้เขาพล่านเป็น หมาบ้า แต่เธอกลับเฉย มันน่าจับฟาดก้นสักที“แล้วทำไมไม่รับสาย”“ประชุมยาวเลยค่ะ เนยว่าจะโทร. กลับก็ลืมไปเลย”“ประชุมยาวตั้งแต่แปดโมงถึงสองทุ่ม ไม่พักเบรกให้ขี้เยี่ยวเลย” พูดพร้อมกับพยักหน้าให้ตัวเอง ทำท่าทางเข้าใจเพื่อประชดเธอ อภัสรากลอกตา มันไม่มีที่ไหนหรอกที่จะประชุมยาวขนาดนั้น อธิปประชดเธอ ที่เธอไม่โทร. กลับเพราะคิดว่าไม่จำเป็น เพราะเขา ก็โทร. หาเธอแค่ครั้งเดียว คงไม่มีธุระอะไรสำคัญ“พักค่ะ เขาก็มีพักเบรกนั่นแหละ”“แต่ไม่โทร. กลับ”“เนยคิดว่าไม่น่าจะมีธุระอะไร พี่ธามโทร. หาแค่ครั้งเดียว นี่คะ” อภัสราอธิบายเหตุผล“ชอบให้โทร. จิก ชอบให้ส่งข้อความ
อภัสรามาถึงสถานที่ประชุมตั้งแต่เช้า เธอสมัครเข้า ร่วมโครงการนี้ตั้งแต่เรียนจบใหม่ ๆ และดีใจมากที่ทางทีมงาน เรียกตัวเธอมาร่วมงาน เธอแค่อยากพิสูจน์ให้หลาย ๆ คนเห็นว่า เธอมีความสามารถ ไม่ได้ต้องการทำประชดใครทั้งนั้น อธิปคง ไม่สนใจเรื่องนี้ เพราะงานเขากับงานที่เธอกำลังทำมันคนละส่วนกัน เธอทำงานให้ภาครัฐ ส่วนเขารับงานของเอกชนเป็นหลัก อภิวัฒน์เองก็ไม่ได้ว่าอะไรแถมยังสนับสนุนอีกด้วย เธอแค่อยากยืนด้วยขาของตัวเอง ใช้ความรู้ความสามารถที่มีมาทำให้เกิดประโยชน์ให้ มากที่สุดครืด~ครืด~มือถือในกระเป๋าสั่นขึ้น เธอทำแค่เพียงหยิบขึ้นมาดู เพราะใกล้ถึงเวลาเข้าประชุม อธิปคงโทร. มาเรื่องลูก วันนี้เป็นหยุดเขาคงอยากพาแทนรักไปเที่ยว คิดก่อนจะเก็บมือถือเข้ากระเป๋าตามเดิม เมื่อรุ่นพี่ที่เคยเรียนด้วยกันเดินเข้ามาทักทาย หากาแฟดื่มสักแก้วก่อนเข้าประชุมคงทำให้สดชื่นขึ้น เพราะเมื่อคืนเธอนอนไม่หลับ ทั้งแปลกที่และตื่นเต้นดีใจที่อธิปมาขอคืนดีกับเธอ“ห่าเอ๊ย!”ร่างสูงสบถลั่นเมื่ออภัสราไม่รับโทรศัพท์ ไอ้โครงการที่เธอไปทำนั่น มันมีระยะสัญญายาวเป็นสิบ ๆ ปี ถ้าเธอเซ็นสัญญาก็ไม่ต่างจากอุทิศตัวให้การกุศล เพรา
“นอนไม่หลับเหรอ” เสียงที่ดังมาจากข้างหลังทำให้คนที่กำลังเทน้ำดื่มใส่แก้วต้องหันไปมอง“ค่ะ”“แปลกที่น่ะสิ ไปอยู่อังกฤษมานาน”“พี่วัฒน์จะดื่มอะไรไหมคะ”“ไม่เอา พี่เห็นเรายังไม่นอนเลยเดินมาหา ว่าจะมาคุยด้วยหน่อย” อภิวัฒน์บอกกับน้อง เมื่อพากันมานั่งที่โต๊ะในห้องอาหาร“เรื่องวันนี้ใช่ไหมคะ” อภัสราถามพี่ชาย พร้อมกับหลบตาเมื่อรู้ว่าตัวเองมีความผิด“ไปเรียนอังกฤษสองปี ได้อะไรมาบ้าง”“ได้ความรู้ค่ะ เนยจะเอากลับมาทำงานใช้หนี้พี่วัฒน์”บอกเสียงใสเมื่อต้องการประจบพี่ชาย“แล้วความเข้มแข็งล่ะ ได้มาบ้างไหม” ตาคมเข้มมองหน้าน้อง เมื่อเห็นแววตาไหววูบในดวงตากลมโตก็ได้แต่ถอนหายใจ“พี่วัฒน์... พี่วัฒน์โกรธเนยเหรอคะ” ใบหน้าสวยซีดเผือด เมื่อพี่ชายถามมาแบบนี้“หน้าซีดเชียว ทำไมถึงคิดว่าพี่จะโกรธ”แม้จะสงสารแต่อภิวัฒน์ก็ยังเฉย ปั้นหน้าให้ดูไร้อารมณ์ที่สุด เพื่อรอดูอาการของน้อง“เนยไปหาเขา เนยให้เขาหอมแก้ม แล้ว... เนยก็”“พอเถอะ นั่นมันเรื่องของเรา สิ่งที่พี่จะบอกก็คือน้องสาวพี่ เก่งมากที่เรียนจบกลับมาตามกำหนด พี่ส่งเราไปเรียนวิศวะ ไม่ได้ให้ไปเรียนพละ ไม่อยากได้หรอกความเข้มแข็งอะไรนั่น สองปีที่เนยไม่กลับมาเม
ปาร์ตี้เล็ก ๆ จัดขึ้นท่ามกลางรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคนที่มาร่วมงาน เพื่อน ๆ ที่มาร่วมงานต่างก็พากันแซวอธิป บางคนถึงกับโห่ร้องเมื่อสุดท้ายอธิปก็กลืนน้ำลายตัวเอง หลายครั้ง ที่มีการวิ่งไล่จับกัน เมื่อบางคนเผาอธิปให้อภัสราฟัง หญิงสาวขำกับพฤติกรรมพ่อของลูก อาจมีน้อยใจบ้างเมื่อเพื่อนย้ำให้รู้ว่าอธิปเคยประกาศไว้ว่าจะไม่มีวันคืนดีกับเธอ หลายครั้งที่อธิปจะอธิบายเพราะกลัวเธอเข้าใจผิด แต่หญิงสาวก็เลือกที่จะเฉยเพราะอธิปก็เคยพูดแบบนี้กับเธอ“พวกมึงนี่เลี้ยงเสียเหล้าจริง ๆ ถ้าจะมาเพื่อเผากูกลับกันไปเลยนะ” อธิปชี้หน้าเพื่อน เมื่อถูกเผาแรง“ทำมาหัวร้อน ที่กูพูดมาเรื่องจริงทั้งนั้น”ใครคนหนึ่งที่อภัสราจำชื่อไม่ได้ตะโกนตอบ และก็ได้ไก่ทอดในจานเป็นของแถม เมื่ออธิปปามันใส่เขาเต็มแรง เรียกเสียงหัวเราะในเพื่อนได้อีกชุดใหญ่“พี่เต้ย มึงจำได้ไหมวันที่เนยไปอังกฤษ วันนั้นมีหมาเศร้า นะโว้ย”“อยู่ภูเก็ตเสือกรู้อีกนะมึง”“ก็มึงนอนตั้งแต่สองทุ่ม ใคร ๆ ก็คิดว่าอกหักทั้งนั้น” ภพธรพูดขึ้นเพราะเขาเป็นคนโทร. หาอธิป“เมื่ออาทิตย์ก่อนใครไปหากูนะ บอกกลัวเนยเอาลูกหนีไปอยู่อังกฤษ หน้างี้เศร้าเหมือนหมาหงอย วันนี้นั่