อธิปเข้ามาเซ็นเอกสารในบริษัท ก่อนออกไซต์งานเหมือนทุกวัน หลังจากเรียนจบเขากับภพธรก็ร่วมกันลงทุนเปิดบริษัทรับเหมาก่อสร้างตามสายที่เรียนมา ตั้งแต่ภพธรไปเรียนต่อปริญญาโทที่ต่างประเทศ เขาก็รับผิดชอบงานทั้งหมด ตอนนี้ภพธรกลับมาแล้ว แต่งานที่เขาเคยรับผิดชอบก็ยังเหมือนเดิม แถมต้องทำเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า เพราะภพธรไม่ได้ทำงานในส่วนของตัวเอง
หลังจากช่วยเพื่อนรักจัดการปัญหาทุกอย่าง ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวไปได้เปราะหนึ่ง ก็ยังมีเรื่องให้คิด เพราะเรื่องที่ฟ้องร้องกัน กลายเป็นคดีความไปแล้ว ถึงแม้จะมีหลักฐานว่าเรื่องทุจริตที่มันเกิดขึ้นมีคนวางแผนใส่ร้ายภพธร แต่ก็ใช่ว่ามันจะจบ เมื่อฝ่ายนั้นก็มีหลักฐานเด็ดมายืนยัน และที่สำคัญเป้าหมายที่ฝั่งโน้นจะเล่นงาน ไม่ใช่บริษัท แต่มันเป็นตัวภพธรต่างหาก ทั้งหมดทั้งมวลนี้มันก็ มาจากความรัก เมื่อสมหวังก็ต้องมีผิดหวัง แต่ฝั่งที่ผิดหวังเลือกจะเล่นเกมและทำลายล้างอีกฝั่งให้พังพินาศ เมื่อรู้ว่าจะไม่สมหวังก็ยังอยากจะรักอีก
ร่างสูงทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ ก่อนจะใช้นิ้วกลางและนิ้วชี้กดหนัก ๆ ลงบนหว่างคิ้ว เสียทั้งเพื่อนเสียทั้งงาน พักนี้เขาปวดหัวทุกวัน บางทีเส้นเลือดในสมองอาจจะแตกตายก่อนวัยอันควร เพราะความเครียดที่สะสมในสมองมันเพิ่มขึ้นทุกวัน
“กาแฟไหมพี่” อมรพงษ์ยื่นหน้ามาถาม ก่อนจะหดคอกลับเมื่อเจ้าของห้องส่ายหัวเป็นคำตอบ ถ้าเขากินเข้าไปอีกแก้วก็จะเป็นแก้วที่สี่ของวัน เอาให้ฉี่เป็นกาแฟกันไปเลย เพราะคิดอะไรไม่ออกก็ พึ่งกาแฟ
มือหนาหยิบมือถือขึ้นมาต่อสาย โทร. หาตัวปัญหา บางทีมันอาจจะโผล่หัวออกมาเลี้ยงเหล้าแทนกาแฟแก้วที่สี่ก็ได้ ตัวปัญหา รับโทรศัพท์และพูดแต่คำว่าขอบใจ ถ้าเปลี่ยนคำว่าขอบใจเป็นเงิน ป่านนี้เขาคงมีเงินในบัญชีเป็นร้อย ๆ ล้าน เพราะตั้งแต่รู้จักกับภพธร เขาก็ได้ยินแต่คำว่าขอบใจ
“ไม่ต้องรอนะ บ่ายนี้ไม่กลับเข้ามา” บอกกับลูกน้องที่นั่งประจำโต๊ะ ก่อนจะเดินออกไป
“มึงว่าพักนี้พี่ธามเครียดไปไหม” มุ้ยเอ่ยขึ้น ตาเรียวเล็กมองตามหลังเจ้านายอย่างห่วงใย
“อืม... เป็นกูก็เครียด ไอ้ตี๋แม่งเลวจัด หักหลังพี่น้องได้” คิงพูดขึ้น ยังโมโหชาญชัยไม่หาย
“ความรักทำให้คนตาบอด” อมรพงษ์พูด เมื่อมาหย่อนก้นลงบนโต๊ะทำงานเพื่อน
“เหมือนพี่ธามไงที่รักพี่เต้ยไม่ลืมหูลืมตา” คนที่ทิ้งงานบนโต๊ะพูดต่อ เมื่อได้นินทาแล้วก็มันปาก
“ไอ้เชี่ยแอม! อย่าพูดให้พี่ธามได้ยินเชียวนะ เดี๋ยวได้แดกแกลบแน่ ๆ” คิงร้องเตือนเมื่ออมรพงษ์เอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูด พวกเขาทุกคนต่างก็รู้ว่าอธิปรักภพธรแบบไหน เพราะไม่มีเพื่อนคนไหนทำเพื่อเพื่อนได้ทุกอย่างเหมือนที่อธิปทำให้ภพธร
“เรื่องของหัวใจ บางครั้งก็ไม่มีเหตุผล”
ลูกน้องในออฟฟิศต่างก็สรุปเรื่องนี้ไปในทางเดียวกัน ผู้ชายที่ครองตัวโสด แถมรักลูกเพื่อนเหมือนลูกตัวเองอย่างอธิปก็มักจะโดนนินทาทุกวันว่าเป็นพวกชอบไม้ป่าเดียวกัน
หลังจากลูกชายตัวน้อยสอบเสร็จ และได้เกรดเฉลี่ย ที่อยู่ในเกณฑ์ได้ของรางวัล คุณแม่ก็ต้องทำตามสัญญาที่ตกลงกันไว้ คือพาไปซื้อของเล่นชุดใหญ่และตบท้ายด้วยไอศกรีมถ้วยโปรด แทนรักเป็นเด็กเรียนเก่งและเป็นนักกิจกรรมตัวยง ไม่ว่าจะมีการประกวดหรือแข่งขันอะไร ลูกของเธอก็จะได้เป็นตัวแทนเสมอ เธอรู้ว่าลูกได้สิ่งนี้มาจากใคร เพราะเมื่อตอนที่เธอเป็นนักศึกษาปีหนึ่ง เขาคนนั้นก็เป็นพี่ว้าก นำรุ่นน้องทำกิจกรรมของคณะและมหา’ลัย
นอกจากนิสัยที่แทนรักเหมือนคนเป็นพ่อแล้ว หน้าตาและบุคลิกบางอย่างก็ถอดแบบออกมาด้วย โดยเฉพาะดวงตาที่เหมือนจนเป็นบล็อกเดียวกัน ทุกครั้งที่มองตาลูก... เธอก็จะคิดถึงเขา
อภัสราตัดสินใจปกปิดเรื่องลูก เพราะคิดว่าไม่มีประโยชน์อะไร ผู้หญิงที่เป็นฝ่ายเสนอตัวให้ผู้ชาย จะมีหน้าไปเรียกร้องความรับผิดชอบจากเขาอีกหรือ หลังจากที่รู้ตัวว่าท้อง เธอก็ไม่มีโอกาสได้เจอกับเขาอีกเลย ถึงจะมีช่องทางให้ติดต่อ แต่เธอก็เลือกที่จะหยุด และรับผิดชอบผลที่เกิดจากความใจง่ายของตัวเอง
“ฝากแป๊บนะคะ เนยไปห้องน้ำก่อน”
ฝากลูกกับพี่ชาย ถึงแม้อภิวัฒน์จะดูแลหลานเป็นอย่างดี แต่ความซนของเจ้าตัวเล็กนี่แหละที่เธอเป็นห่วงที่สุด เด็กวัยนี้นั่งติดเก้าอี้นานสุดเป็นเวลาเท่าไร เพราะเด็กคนนี้สิบนาทีคือนานที่สุด
จังหวะที่ร่างบางเดินไปหลังร้าน ร่างสูงก็เปิดประตูเข้ามาพอดี อากาศร้อนขนาดนี้ ถ้าขืนกินเหล้าเข้าไปมีหวังตับแตกตาย แน่ ๆ ชานมไข่มุกกับไอศกรีมถ้วยโต ๆ คือสิ่งที่ชายหนุ่มอยากได้มากที่สุด เขาติดชานมไข่มุกตั้งแต่เมื่อไร รู้ว่ากินแล้วมันหวานอร่อย แต่ไม่คิดว่าจะติดงอมแงมขนาดนี้ วันไหนไม่ได้กินเหมือนขาดอะไรไป เจ้าสิ่งนี้เองที่ทำให้เขาถูกเพื่อน ๆ ล้อว่า ไม่ใช่ผู้ชายแท้ ๆ เขาเองก็เพิ่งรู้ว่าชานมไข่มุกเป็นเครื่องมือที่สาว ๆ เอามาวัดมาตรฐานความเป็นชาย แบบนี้ก็ได้เหรอ
เสียงพูดคุยของคนงานที่มาพร้อมเสียงเครื่องจักรปลุกให้คนที่เพิ่งงีบหลับไปเมื่อตอนเช้ามืดให้ตื่นขึ้น ร่างบางขยับตัวนั่งบนเตียงนอน แต้วคงออกไปนานแล้ว เพราะเวลานี้สายมากแล้ว หญิงสาวไล่เลียงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ก่อนจะยิ้มให้ตัวเอง ขยับลงจากเตียงนอน ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ไม่มีอะไรต้องอายเพราะมันคือเรื่องจริง เธอมีลูกกับอธิป และถ้าใครนินทาหรืออยากรู้อะไร เธอก็พร้อมจะตอบทุกคำถาม ความอายไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเพราะเธอผ่านจุดนั้นมาแล้ว‘พักผ่อนนะคะ พี่จะบอกช่างใหญ่ให้’ยิ้มเมื่ออ่านโน้ตของมินตรา อย่างน้อยพี่แต้วก็เป็นห่วงเธอ หญิงสาวอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วหาอะไรรองท้อง สำรวจตัวเองหน้ากระจก สูดลมหายใจเข้าปอด ต่อให้เธอหลบอยู่ในห้องนี่ทั้งวัน ก็ไม่ทำให้อะไรดีขึ้นเพราะหนีความจริงไม่พ้น“สู้สิเนย เป็นกำลังใจให้แม่ด้วยนะคะ” พูดกับรูปลูกชายใน มือถือ ลูกคือกำลังใจที่ดีที่สุดที่เธออยู่มาได้ทุกวันนี้ก็เพราะเขาร่างบางก้าวออกมาจากห้อง แล้วเดินไปยังจุดที่ปกรณ์กับมินตราทำงานอยู่ ระหว่างทางเธอต้องสู้กับสายตาของทุกคน หญิงสาวทำเพียงส่งยิ้มบาง ๆ กลับไปเหมือนอย่างที่เคยทำทุกวัน“ขอโทษนะคะ เนยมาสายไปหน่
อภัสราล้มทั้งยืนเมื่ออธิปหันหลังเดินจากไป แต้วกับเพื่อน ๆ ที่ยืนดูเหตุการณ์รีบเข้ามาประคอง หญิงสาวยังนั่งสะอื้นอยู่ที่เดิม ปล่อยน้ำตาให้ไหลลงมาเป็นสาย คนที่อยู่ในห้องมองหน้ากันไปมา ไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหน เพราะต่างก็ตกใจกับเรื่องใหม่ ที่ได้รับรู้ อภัสรากับอธิปเคยรู้จักกันมาก่อน และอธิปก็เป็นพ่อของลูกเธอ“เป็นไงบ้างคะน้องเนย” แต้วถามเมื่ออภัสราดีขึ้น หลังจากปล่อยให้เธออยู่กับตัวเองมาพักใหญ่ ๆ“เนยไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ” บอกพร้อมกับกลั้นก้อนสะอื้น พยายามทำตัวให้เข้มแข็งที่สุด“อย่าบอกเรื่องนี้กับพี่วัฒน์นะคะ เนยไม่อยากให้พี่วัฒน์ ไม่สบายใจ” นอกจากลูกแล้วสิ่งที่นึกได้อีกอย่างก็คืองานของพี่ชาย มือบางปาดน้ำตาออกจากแก้ม มองหน้าทุกคนด้วยสายตาขอร้อง ปกรณ์และทีมงานพยักหน้ารับ เพราะเข้าใจความรู้สึกของเธอดี“คืนนี้ให้พี่นอนเป็นเพื่อนนะคะ” แต้วอาสาหลังจากสั่งให้ ทุกคนแยกย้ายกันไปพักผ่อน“ขอโทษนะคะที่เนยทำให้ทุกคนเดือดร้อน” บอกอย่างรู้สึกผิด เมื่อคิดไปว่าเธอกำลังเป็นสาเหตุให้ทุกคนทำงานยากขึ้น“อย่าคิดมากนะคะ เรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวมันเป็นคนละส่วนกัน น้องเนยทำใจให้สบาย ถ้ามันอึดอัดเล่
อธิปขอร้อง เขามาเพราะอยากคุยเรื่องลูกของเธอ ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหนและคำตอบจะเป็นอย่างไร เขาอยากหาคำตอบให้กับสิ่งที่ค้างอยู่ในใจ ไม่ว่าคำตอบที่ได้รับจะเป็นแบบไหน เขาก็ยินดีรับมันร่างบางสูดลมหายใจเข้าปอด เรียกสติให้ตัวเอง ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ความลับไม่มีในโลก เธอปิดปังเรื่องลูกกับเขา แต่เมื่อทุกอย่างมันเลยเถิดมาถึงขั้นนี้ ก็ต้องก้มหน้ายอมรับผลจากการกระทำของตัวเอง เขามีสิทธิ์รู้มือบางที่สั่นเทายื่นมากำลูกบิดประตูอีกครั้ง นับหนึ่งถึงสามในใจ กลั้นใจแล้วเปิดมันออกรู้สึกเหมือนอากาศที่อยู่บริเวณนั้นน้อยนิดจนหายใจไม่ออก โลกเหมือนหยุดหมุน เมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าชัดเจน มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาเมื่อมันพากันไหลออกมา เพียงแค่สบตากับเขา ความรู้สึกที่เก็บกดเอาไว้ในใจก็ถูกเปิดเผย เธอรักเขามากและยังรักตลอดมา“พี่ธาม...” เสียงสั่นเครือเอ่ยชื่อเขา กลืนก้อนสะอื้นลงคอ ก่อนจะถามประโยคถัดมา “มีอะไรคะ”ไม่มีคำตอบออกมาจากปากหยัก มีเพียงตาคู่คมที่มองนิ่งมาที่เธอ ใช่เธอจริง ๆ อภัสรา... ผู้หญิงที่ครั้งหนึ่งเคยเข้ามาในหัวใจเขา สิ่งที่เกิดขึ้นมันอาจจะไม่ใช่แค่ความใคร่ แต่เธอก็ทำให้เขาลืมเลือนเธอไป“
กว่าอมรพงษ์จะกลับมาห้องพักก็กินเวลาหลายชั่วโมง จนคนรอสูบบุหรี่หมดไปเป็นซอง ๆ อธิปให้เหตุผลกับตัวเองว่าเขา มีงานที่ต้องบอกให้อมรพงษ์รับรู้ จึงนั่งรออย่างใจเย็น ทั้งที่ความ เป็นจริงมันกลับตรงกันข้าม ข้อมูลที่ได้มาจากคิงต่างหากที่ทำให้ เขาต้องมานั่งตากยุงรอ ก้นบุหรี่ถูกปาลงพื้นเมื่อคิดถึงอภัสราคิงบอกว่าอมรพงษ์รักจริงหวังแต่ง ทั้ง ๆ ที่เธอมีลูกติด เขาจะไม่ติดใจเลยสักนิด ถ้าไม่สงสัยว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของเขา“แม่ง!” ด่าตัวเองเมื่อเริ่มคิดฟุ้งซ่าน เขาต้องรู้ให้ได้ว่าเด็กนั่นเกี่ยวข้องกับเขาหรือไม่“อ้าว !ยังไม่นอนเหรอพี่” อมรพงษ์ถามเมื่อเห็นอธิปนั่งอยู่หน้าห้องพัก อธิปเลือกที่จะเมินเฉยกับคำถาม อมรพงษ์ยกมือ เกาหัว เมื่อเห็นท่าทางของลูกพี่ ปกติถ้าเขาถามแบบนี้ ถ้าอธิป ไม่ตอบก็ด่ากลับ“กูนึกว่ามึงจะค้างกับแฟนเสียอีก” อธิปถาม คำถามของเขาทำให้อมรพงษ์ตาโต หน้าแดงจนลามไปถึงใบหู“เอาอะไรมาพูดวะพี่ ฟงแฟนอะไรกัน”ตอบก่อนจะเดินขึ้นบันไดมานั่งตรงข้ามกับลูกพี่ ไม่ต้องเสียเวลาถามอมรพงษ์เป็นคนขี้อวด ปากบอกไม่ใช่แฟน แต่ก็พร้อมจะเล่าเรื่องหัวใจตัวเองให้เขาฟัง ถ้าไม่กลัวเสียแผนละก็ อยากจะ ยั
“มันชื่อไอ้เจ๋งครับ เป็นคนงานที่เข้ามาตอกปั้นจั่นกับช่างเชิดชาย” ศราวุธบอกกับอธิปเมื่อถูกเรียกประชุมด่วน คนที่ ศราวุธพูดถึงตอนนี้คงนอนหยอดน้ำข้าวต้มอยู่ในคุก ในขณะที่ เชิดชายหัวหมุนเมื่อมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น“ผมขอโทษครับ”“รับคนเข้าทำงาน ตรวจสอบประวัติหน่อย” อธิปพูด ก่อนจะพ่นควันบุหรี่ออกจากปาก ตาคู่คมมองกลุ่มควันสีเทาที่ค่อย ๆ จางไปกับอากาศถ้าอมรพงษ์ไม่ตามไป อภัสราจะเป็นอย่างไร เรื่องนี้ต้องยกความดีความชอบให้อมรพงษ์ ว่าแต่มันไปทำอะไรตรงนั้น คำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัว ภาพที่มันกอดหญิงสาวไว้ในอ้อมแขน ก็พอจะเดาได้ว่าอมรพงษ์รู้สึกยังไงกับเธอ สองคนนี้ไปสนิทสนมกันตอนไหน มีอะไรที่เขายังไม่รู้อีกไหม“เอาไงต่อดีครับ ให้ส่งคุณเนยกลับหรือเปล่า” ศราวุธถามเมื่อเห็นอธิปเงียบไป“เรื่องนั้นผมจะคิดอีกที ตอนนี้ต้องระวังให้มาก ถ้าคนงานกล้าทำขนาดนี้ แสดงว่าความปลอดภัยของเราหละหลวม ฝากพวกคุณช่วยเป็นหูเป็นตา และเพิ่มความระมัดระวังด้วยก็แล้วกัน” อธิปสั่งแล้วให้ทุกคนแยกย้ายกลับไป ปกรณ์ขอบคุณที่เขาไม่ส่งอภัสรากลับ เพราะไม่อย่างนั้นคงมีปัญหากับอภิวัฒน์แน่นอน อธิปดูแลงานทั้งหมดก็จริง แต่ถ้า
ความเจ็บปวดแล่นเข้าสู่ร่างกายเมื่อถูกเหวี่ยงลงกับพื้น ร่างบางดิ้นหนีเมื่อร่างหนาของเดนมนุษย์ทาบทับลงมา มือของมันยังกดอยู่ที่ปาก ลำคอขมปร่าเมื่อกลิ่นตัวของมันลอยมาเข้าจมูก เหม็นจนแทบอาเจียน ถึงแม้มันจะใส่หมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า แต่อภัสราก็รู้ว่ามันคือคนงานในไซต์งานร่างบางดิ้นสุดชีวิตเมื่อมันเริ่มแกะกระดุมกางเกงของเธอออก เจ็บจนพูดไม่ออก เมื่อกำปั้นหนัก ๆ ฟาดลงมาบนหน้าท้องและ ชายโครงติด ๆ กัน มันตั้งใจมาทำร้ายเธอ น้ำตาไหลลงมาเป็นสาย หมดทางช่วยเหลือตัวเอง แรงจะกรีดร้องก็ไม่มี ความเจ็บปวดกระจายไปทุกขุมขน เสื้อเชิ้ตถูกกระชากจนขาดวิ่น กระดุมกางเกงเม็ดแรกหลุดออกจากกันหน้าน้องไทม์ลอยเข้ามาในหัว หญิงสาวหลับตาลงเมื่อกางเกงยีนส์เลื่อนออกจากเอว เธอต้องรักษาชีวิตเอาไว้เพื่อลูก โลกใบนี้ยังมีเรื่องที่คาดไม่ถึงอีกมากมาย หกปีที่เธอใช้ชีวิตอยู่แต่ในรั้วบ้าน วันแรกที่ออกมาเผชิญกับโลกภายนอก มันช่างโหดร้ายเหลือเกิน ใครจะคิดว่าไซต์งานที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น มันคงจ้องเอาเธอไว้แล้วมือหยาบกร้านบีบขยำลงบนอกอวบ หญิงสาวนอนนิ่งเป็นหุ่น น้ำตาไหลลงมาเป็นสายเมื่อหมดทางช่วยเหลือตัว