“เรียนเป็นยังไงบ้างคะ”
“ก็ดีค่ะ พี่เสือล่ะคะเหนื่อยไหม หน้าเครียดเชียว” เด็กสาวในชุดนักศึกษาเดินเข้ามาวางกระเป๋าถือและกระเป๋าผ้าสำหรับใส่หนังสือลงบนโต๊ะ
ร่างสะโอดสะองสวมกระโปรงทรงเอเข้ารูปสั้นเลยเข่าขึ้นมาเล็กน้อย สาวเท้าเข้าไปหาร่างสูงที่ยังอยู่ในชุดทำงาน แต่ถอดสูทตัวนอกออก เหลือไว้เพียงเชิ้ตสีดำตัวในพับขึ้นมาถึงศอก
แขนแกร่งอ้ารับตัวเธอยามที่เด็กสาวนั่งลง จมูกโด่งของผู้ชายวันสามสิบหกกดหอมแก้มขาวนุ่มไปเสียหลายฟอด ถึงอย่างนั้นก็ยังได้รับความร่วมมือจากคนโดนหอมเป็นอย่างดี
“มีเรื่องเครียดนิดหน่อยค่ะ ทำไมวันนี้กลับเย็นจังคะ ไม่เห็นบอกผมเลย” เขาถาม เพราะปกติยัยคนสวยจะกลับหลังเรียนเสร็จเลย มีบางวันไปเดินเที่ยวหรือกินข้าวกับเพื่อนบ้าง แต่ก็ไม่เคยไปจนฟ้ามืด และไม่เคยไปโดยไม่ขอก่อน
เขาก็ไม่ได้หมายถึงว่าต้องขอทุกรอบหรอกนะ เขาไม่ใช่ไอ้พี่ชายตัวดีที่หึงบ้าบอประสาทแดก แค่สงสัยก็เพราะเธอไม่เคยทำก็เท่านั้น
“ปรึกษาวิจัยอยู่ค่ะ ใช้โทรศัพท์ไม่ได้”
“แต่ก็ยังบอกคุณสิงห์ได้นี่คะ ทำไมบอกผมไม่ได้ล่ะ” อย่างที่บอกว่าเขาไม่ได้เหมือนพี่ชายที่เธอต้องรายงานตลอดเวลา แต่ถ้าจะบอกว่าไม่น้อยใจก็คงไม่ถูกนัก
คนสวยรักผัวไม่เท่ากันมันก็น่าน้อยใจอยู่
“มันประจวบเหมาะอาจารย์ว่างพอดีค่ะหนูเลยไม่ได้ส่งให้พี่เสือด้วย ไม่งอนนะคะ” เด็กสาวเอ่ยขึ้นก่อนจะใช้มือลูบแผงอกแกร่ง จมูกกระจุ๋มกระจิ๋มถูไถกับข้างแก้มของชายหนุ่มอย่างออดอ้อน
แล้วจะไม่งอนได้ยังไง ในเมื่อคนง้อน่ารักขนาดนี้
“คุณสิงห์มันส่งมาอวดผมใหญ่ว่าหนูส่งรูปให้ ผมมีอะไรให้อวดล่ะดูสิ”
“หนูไม่ได้ส่งให้ก็จริงแต่หนูคิดถึงพี่เสือมากเลยนะคะ ไปเชียงใหม่ไม่ได้เจอตั้งสองวัน”
สุดที่รักเอ่ยตอบเจื้อยแจ้วเมื่อเห็นว่าผู้อุปการคุณตีหน้าเศร้า ปกติคุณเสือไม่ใช่คนพูดอะไรมากแต่เวลาพูดก็พุ่งตรงลงประเด็น เล่นเอาเธอใจอ่อนยวบไปเหมือนกัน
ด้านคุณพยัคฆ์พอได้ยินอย่างนั้นก็พลันยิ้มกริ่ม นึกถึงแชทที่พี่ชายฝาแฝดส่งมาอวดเป็นปกติ นึกถึงหน้าอ้อนๆ กับเนื้อความในแชท ก่อนที่แขนแกร่งจะรวบกายบอบบางขึ้นมานั่งบนตัก
มือหนาล้วงเข้าไปในกระโปรงทรงเออย่างจาบจ้วง
“เพิ่งส่งรูปไปอ้อนอีกคน ตอนนี้ก็มาบอกคิดถึงอีกคน กะเอาให้พวกผมตายคาอกเลยหรือเปล่าคะ”
“นะ หนูเปล่าสักหน่อย” สุดที่รักหน้าแดงขึ้นมาเมื่อฝ่ามือร้อนนั้นทาบลงที่ส่วนสงวนใต้กระโปรง พวกตาแก่นี่มันลามกจริงๆ เธอยังอยู่ในชุดนักศึกษานะ!
“แล้วอะไรคะ”
“ก็พี่เสืองอนนี่คะ หนูแค่อยากง้อเอง”
“ถ้าไม่งอนก็ไม่ง้อเหรอคะ”
“ง้อค่ะ ไม่งอนก็ง้อ อย่างโกรธหนูเลยนะคะ ทีหลังหนูจะไม่ลืมอีกแล้ว” แต่เธอจะไปทำอะไรได้ในเมื่อนั่งอยู่บนตักของเขาขนาดนี้
“พูดแล้วนะคะ”
สุดท้ายก็จำต้องปล่อยเลยตามเลยให้คุณเสือจับปอกเปลือกจนเหลือเพียงชุดชั้นในสีหวานที่พวกเขาสรรหาซื้อมาให้ ร่างเล็กจ้อยถูกเขาจับให้นั่งคร่อมบนตัก
บราเซียสีชมพูถูกดึงลงจนเผยให้เห็นจุกนมสีอ่อน ดวงตาสวยมองเขาคาบมันเข้าปากก่อนจะเริ่มดูดราวกับหิวโหยเสียเต็มประดา ส่วนหน้าที่เธอนั่งทับอยู่ก็แข็งดุนขึ้นมาแถมร้อนมากจนรู้สึกได้
มือหนาข้างหนึ่งขยำเข้านิ่มพลางสั่นเบาๆ ทว่าอีกข้างกลับสอดเข้าไปในกางเกงในลูกไม้สีชมพูตัวบาง เคล้นคลึงแก้มก้นนุ่มนิ่มไม่ละไปไหน เล่นเอาเด็กสาวบิดเร้าอย่างกระสัน
อารมณ์สยิวลุกโชนขึ้นมาอย่างง่ายดาย สองคนนี้ฝึกเธอจนกลายเป็นหญิงสาวร่านสวาทไปเสียแล้ว
“อื้อ…พะ พี่เสือขา”
แกร็ก
ทว่าขณะที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มอยู่นั้น จู่ๆ ประตูทางเข้าชั้นในก็เปิดออก ตามด้วยร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มผมสีน้ำตาลสวมแว่นตาทรงเหลี่ยม ทว่าใบหน้าเหมือนเจ้าของตักราวกับแกะเดินเข้ามาในห้อง
เสียงทอดถอนหายใจดังขึ้นหลังจากนั้น
“กูแค่ส่งรูปเมียไปอวด มึงถึงขั้นต้องบินด่วนกลับมาจากเชียงใหม่เลยเหรอไอ้เสือ งานการไม่ต้องทำแล้วมั้งไอ้น้องเวร”
หลายเดือนก่อนหน้า
"จานนี้โต๊ะสอง จานนี้โต๊ะสี่นะรัก เอาไปเสิร์ฟเลย"
"จ้ะพี่"
เสียงพูดคุยจอแจและความวุ่นวายภายในร้านอาหารตามสั่งขนาดกลางในช่วงพักเที่ยงยังคงดำเนินไปเช่นเดียวกับทุกวัน เนื่องจากตำแหน่งของร้านนั้นอยู่ในละแวกออฟฟิศของหลายบริษัท ช่วงเวลานี้จึงมีพนักงานมารับประทานอาหารกันอย่างคับคั่ง
ร่างสะโอดสะองของหญิงสาววัยยี่สิบย่างยี่สิบเอ็ดปีหอบจานบรรจุอาหารหน้าตาน่ารับประทานเอาไว้สามจานเต็มอ้อมแขน สองขาก้าวเดินไปเสิร์ฟโต๊ะนั้นโต๊ะนี้อย่างคล่องแคล่ว
เสิร์ฟโต๊ะนั้นเสร็จก็เดินกลับมาที่ครัวใหม่ หอบจานอาหารใส่ถาดมาอีกสี่ใบเดินไปเสิร์ฟให้อีกโต๊ะที่เข้ามาทีหลัง เรียกได้ว่าอึดถึกทนมากกว่ารูปลักษ์ภายนอกหลายเท่าจนพวกคนครัวอดไม่ได้ที่จะชื่นชม
น้องรักหรือ สุดที่รัก นาคาปรก เป็นเด็กเสิร์ฟพาร์ทไทม์คนใหม่ที่เพิ่งมาทำงานได้ไม่ถึงสัปดาห์ ทว่ากลับทำงานเก่งว่องไวแบ่งเบาภาระคนอื่นๆ ไปได้มาก
จากที่เมื่อก่อนพอถึงเวลาพักเที่ยงทีก็มีลูกค้าจากออฟฟิศรอบๆ เทเข้ามาจนทำอะไรไม่ทัน เสิร์ฟช้าบ้าง เสิร์ฟผิดบ้าง มีปัญหามากมายหลายอย่าง แต่พอมีเด็กคนนี้เข้ามาทุกอย่างก็คล้ายกับจะมีโฟลว์มากขึ้น ทำงานกันสนุกขึ้น
จากที่เสิร์ฟไม่ทันก็ทันขึ้นมาเพราะเด็กคนนี้เดินเสิร์ฟแบบเท้าไฟสับตีนแตก ความจำดีเยี่ยมใครสั่งอะไรเอาไปเสิร์ฟถูกโต๊ะไม่มีพลาดเลยสักครั้ง ไหนจะมารยาทงามยิ้มแย้มแจ่มใสมีใจบริการอีก
นี่แหละใครว่าตำแหน่งเล็กๆ พวกนี้ไม่สำคัญ มันสำคัญหมด ทุกตำแหน่งต่างมีเนื้องาน แต่ละเนื้องานมันก็มีชาเล้นจ์เป็นของตัวเองทั้งนั้น
“พี่สั่งไข่ดาวด้วยนะหนู ทำไมไม่มีไข่ดาวล่ะ” จะมีก็ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ลูกค้าท้วงยามที่เธอเอาจานอาหารไปวางตรงหน้า สุดที่รักเลิกคิ้วเล็กน้อยก้าวเดินชะงักไปฉับพลัน
“เหรอคะ งั้นเดี๋ยวหนูเอาไปเปลี่ยนให้นะ” ทว่าปัญหาเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้เธอเจอมาแล้วนักต่อนัก ตั้งแต่ยังเสิร์ฟไม่เก่งจนตอนนี้ทำได้อย่างคล่องแคล่ว
เพราะแบบนั้นจึงยื่นมือจะหยิบจานเพื่อเดินกลับไปหลังร้านเพื่อทำไข่ดาวให้เพิ่ม เธอไม่ได้ตกใจหรือคิดจะเถียงกับลูกค้าเพราะถือตัวเองก็คนไม่ใช่คอมพิวเตอร์ พอมีลูกค้าเยอะขึ้น ข้อมูลที่ต้องจำมากขึ้นจะรวนบ้างก็ไม่แปลก
“เดี๋ยวๆ” ทว่ายามที่เด็กสาวกำลังจะหยิบจานนั้นขึ้นมา ลูกค้าหนุ่มใส่ชุดไปรเวทห้อยป้ายพนักงานออฟฟิศก็ดึงจานกลับ ใบหน้าปรากฏยิ้มร้ายเมื่อเห็นว่าเด็กเสิร์ฟสาวสวยเล่นตามเกมของตน
“อ้าว ไม่รับไข่ดาวแล้วเหรอพี่” แม้เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นบ่อยจนขี้เกียจนับ แต่สุดที่รักก็ยังถามต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ต่อให้รู้ว่าไอ้พวกหัวงูนี่ต้องการอะไรแต่เธอจะไปทำอะไรได้
เป็นแค่เด็กเสิร์ฟเกิดไปด่าลูกค้ามีหวังได้โดนไล่ออกพอดี
ภาระในชีวิตเธอมีอีกมากมาย ทั้งค่ากินใช้ ค่าหอ ไหนจะค่าเทอมที่ยังต้องแบกเองจนหลังแอ่น ขืนโดนไล่ออกตอนนี้มีหวังได้วิ่งหางานใหม่กันขาขวิด เพราะแบบนั้นอะไรที่มันไม่มากเกินเหตุเธอจึงพยายามมองผ่าน
ชีวิตคนยากคนจนในประเทศเฮงซวยแห่งนี้นี่มันไม่โรแมนติกเลยสักนิด
“รับไข่อย่างอื่นได้ไหมจ๊ะ ร้านนี้มีไข่อะไรที่มันเบิ้มๆ บ้าง” ขณะที่เอ่ยคำว่าเบิ้มๆ ผู้ชายคนนั้นมองโลมเลียหน้าอกของเธออย่างตั้งใจ เพื่อนที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกันก็สะกิดกันไปกันมามองตาหวานกันทั้งโต๊ะ
สำหรับผู้หญิงที่นมค่อนข้างใหญ่มาทั้งชีวิตถือว่าเรื่องนี้ไม่แปลกใหม่ เรียกง่ายๆ ก็ชินชาไปแล้วนั่นแหละ ขอแค่ไม่เอื้อมมือมาจับก็ถือว่ายังพอให้อภัยกันได้
“ไม่มีหรอกพี่ ยังรับไข่ดาวอยู่ไหมคะ เดี๋ยวหนูต้องไปเสิร์ฟคนอื่นต่อจะได้เอามาให้พี่เลยทีเดียว” สุดที่รักทำตีมึนเหมือนไม่เข้าใจในสิ่งที่ผู้ชายโต๊ะนั้นสื่อ เธอถามด้วยหน้าเดิมไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิดเดียว
พอมุกวืดจากที่ยิ้มอยู่ก็พลันแหย จะโมโหแก้เขินก็ไม่ได้ด้วยเพราะสาวเจ้าไม่ได้วีนแตกอะไรเลยจำต้องพยักหน้าเออออ เห็นอย่างนั้นสุดที่รักจึงยิ้มหวานหยิบจานอย่างว่องไว
ก่อนจะถอยออกมาให้พ้นรัศมีที่แขนของไอ้บ้านั่นจะคว้ามาได้ แล้วหันหลังโกยอ้าวกลับเข้าหลังร้านมาแบบราบรื่นไร้รอยขีดข่วน
“เอาอีกแล้วเหรอเรา” เสียงทักจากพี่แหนม ผู้ช่วยพ่อครัวเอ่ยขึ้นขณะที่เอาจานใหม่มาวางบนถาด ท่าทางและคำถามฟังดูเคยชินมาก เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นบ่อยชนิดที่เรียกได้ว่าทุกวัน วันละหลายรอบ
“จ้ะพี่ ทำไข่ดาวให้เขาเพิ่มด้วยนะ เดี๋ยวหนูเขียนเพิ่มในบิล” สุดที่รักพยักหน้ารับ เป็นที่รู้กันดีว่าลูกค้าเมื่อกี้ไม่ได้สั่งไข่ดาวมาตั้งแต่แรก ที่ถามหาเพราะอยากเล่นมุกอุบาทว์เท่านั้น
“อืม เดี๋ยวจัดการให้”
พอฝ่ายนั้นรับคำหญิงสาวจึงจดลงไปในบิลที่แปะอยู่บนบอร์ด ก่อนจะเอาไปยื่นที่โต๊ะแคชเชียร์ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนักแล้วหันมาหยิบถาดที่เต็มไปด้วยจานอาหารขึ้นมาเตรียมไปเสิร์ฟอีกครั้ง
“ไม่รู้ว่าเสิร์ฟอาหารหรือเสิร์ฟอย่างอื่นด้วย กับผู้ชายล่ะระริกระรี้ ยิ้มจนปากจะฉีกถึงหู” ทว่ายังไม่ทันได้เดินออกไปถึงไหนก็ได้ยินคำพูดจากคนอาชีพเดียวกันที่เดินสวนมา
เท้าเล็กภายใต้รองเท้าผ้าใบราคาถูกสีดำชะงักไปเล็กน้อย เธอหันมองไปยังต้นเสียงเพราะเมื่อครู่มัวแต่ระวังอาหารไม่ทันได้มองหน้าว่าใครเดินสวน
พอหันไปจึงได้ร้องอ๋อในใจแล้วเดินต่อ เพราะคนพูดนั้นเป็นเด็กเสิร์ฟคนเก่าคนแก่ อายุมากกว่าเธอราวสองสามปีและเป็นคนสนิทของเมียเจ้าของร้านอยู่ในขณะนี้
ไม่แปลกหรอกที่จะกระแนะกระแหนทุกครั้งที่มีโอกาส เมียเจ้านายไม่ชอบเธอนี่นะ เป็นลูกจ้างอยากเลียแข็งเลียขาก็ต้องไม่ชอบตามไปด้วย แม้ว่าเธอจะไม่เคยทำอะไรให้ก็ตาม
“อยากได้อะไรเพิ่มเรียกได้เลยนะคะ” เพราะรู้แบบนั้นมาตั้งแต่อาทิตย์แรกๆ เธอจึงไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก ทำเพียงมองข้ามแล้วตั้งใจทำงานของตัวเองตามปกติจนเสร็จสิ้น
แต่พอหมดช่วงชั่วโมงเร่งด่วน ลูกค้ากลับไปทำงานกันหมดแล้วเดินกลับมาหลังร้านก็เหมือนว่าสงครามจะยังไม่จบ เพราะคนปากเปราะคนเดิมยังคงยืนกอดอกมองอยู่กับเพื่อนอีกคนที่ดูจะไม่ได้ใส่ใจเธอนัก
เหมือนเห็นว่าเด็กกว่าและไม่เถียงเลยยิ่งได้ใจ
“อีจอย กูได้ยินเจ๊เขียวเขาบอกว่าจะเปลี่ยนชุดพนักงานใหม่ เขาว่าเสื้อเด็กเสิร์ฟเล็กเกิน เดี๋ยวลูกค้าเข้าใจผิดว่าร้านนี้ไม่ได้ขายอาหารแต่ขายอย่างอื่นแทน”
เรื่องแซะก็เรื่องหนึ่ง แต่เรื่องที่เธอไม่เข้าใจเลยว่าเวลาจะด่าผู้หญิงด้วยกันทำไมต้องพยายามด้อยค่าด้วยการด่าว่าเป็นกะหรี่ ขายตัว หรือไม่ก็อะไรเทือกๆ นี้ด้วย
ทั้งที่คนจะทำงานแบบนั้นได้มันต้องสวยทั้งหน้าทั้งผิว ไหนจะองค์ประกอบอย่างอื่น สกิลก็ต้องมี เรื่องเซ็กซ์ก็ต้องพิเศษให้ลูกค้าประทับใจ ไม่ใช่ว่าคว้าๆ แล้วเอามาขายได้เลยเสียเมื่อไหร่
“จริงเหรออีบิวตี้ งี้แกทำเสื้อแจกไหมวะ หรือให้ซื้อเอง ”
“เห็นแกบอกกูว่าจะทำแจกอยู่ ให้ซื้อเองเดี๋ยวก็ซื้อเล็กๆ มาใส่รัดนมโชว์อีก ทั้งลูกค้าทั้งคนครัวไม่เป็นอันทำอะไรกันพอดี” ฝ่ายนั้นยังคงไม่ลดละ ยิ่งเห็นว่าเธอยืนฟังเงียบๆ ก็ยิ่งพูดไม่จบ
สุดที่รักเดาว่าคงเพราะพี่บิวตี้คิดว่าตัวเองมีคนถือหาง ซึ่งถามว่าถือจริงไหมก็คงต้องบอกว่าจริง เพราะตั้งแต่เธอเข้ามาก็มักเป็นคนที่โดนด่าในทุกสถานการณ์เสมอ
อย่างว่า เจ้เขียวเมียเจ้าของร้านเขาไม่ชอบขี้หน้า ผิดไม่ผิดเขาก็อยากให้ผิดอยู่วันยังค่ำ ต่อให้วันนี้เธอจะเป็นคนผิดอีกรอบก็คงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจอยู่ดี
เพราะงั้น…วันนี้ก็ผิดจริงๆ ไปเสียเลยดีกว่า เขาจะได้ไม่ต้อเสียเวลาใส่ร้าย
“แหมพี่ ไม่น่าต้องลำบากเจ้แกเลยนะหนูว่า ร้านนี้มันจะไปขายอย่างอื่นนอกจากอาหารได้ยังไง๊ จะขายอย่างอื่นน่ะเด็กมันต้องสวยด้วยนะ”
“...”
“อย่างพี่จอยน่ะพอได้อยู่ แกหน้าคมมีดั้งมีนม แต่หน้าอย่างเราๆ เนี่ย หนูว่าขายห้าบาทลูกค้ายังไม่น่าอยากซื้อ แถมปากไม่ดีแบบนี้หนูว่าน่าจะโดนตบแทนนะพี่”
เด็กสาวเอ่ยเสียงหวานพร้อมกับรอยยิ้มที่หวานยิ่งกว่า แต่เน้นคำว่าตบประโยคท้ายมาก จนแม้กระทั่งหมาหน้าร้านก็ยังฟังออกว่าเธอกำลังด่าอยู่
แซะใครไม่แซะมาแซะคนอย่างอีรัก เห็นไม่ใส่ใจหน่อยไม่ได้เชียว เดี๋ยวได้รู้เลยว่าเด็กเปรตเป็นยังไง
“อีรัก!มึงว่าใคร” ฝ่ายนั้นพอฟังจบใบหน้าที่ตึงอยู่แล้วก็ยิ่งตึงมากขึ้น เหมือนจะกลายร่างเป็นพญานาคตามพี่กะเทยเชียร์นางงามในโซเชียลไปเสียแล้ว
ได้ยินอีกฝ่ายเริ่มเกรี้ยวกราดแบบนั้นรอยยิ้มที่หวานอยู่แล้วก็ยิ่งหวานขึ้นอีก หันไปมองพี่คนครัวที่ยืนฟังอยู่แต่ละคนก็กำลังยืนอมยิ้ม มีคนหนึ่งแอบหันไปขำด้วย
“เอ้า หนูก็พูดอยู่ว่าหน้าอย่างเราๆ ว่าตัวเองน่ะจ้ะพี่บิวตี้ ไม่สวยก็เหนื่อยหน่อยแหละเนอะ” มีใครฟังไม่ออกบ้างเล่า ว่าไอ้คำว่าเราๆ น่ะมันไม่ได้รวมตัวเธออยู่ด้วย ฟังออกกันทั้งนั้นแหละ คนโดนด่าก็ฟังออก
“อีนี่!”
“อย่างเอ็งไม่สวยแล้วใครสวยล่ะไอ้รัก ไอ้บิวตี้เรอะ” หากจะมีคนไม่รู้ก็คงเป็นพี่ดี๋พ่อครัว เพราะแกไปเข้าห้องน้ำเพิ่งกลับมาได้ยินปลายเรื่อง แถมตั้งคำถามได้ตรงมากจนเด็กเสิร์ฟคนเก่าหน้าม้าน
“พี่ดี๋!!”
“เอ็งจะเสียงดังทำไมวะไอ้บิวตี้ คนแก่ตกใจหมด เอ้อ”
ชายวัยกลางคนผู้เป็นพ่อครัวหันมาเอ็ดเบาๆ ก่อนจะเดินไปอีกฝั่งของครัว ไม่ได้รู้หรือใส่ใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ฝั่งนี้ จึงไม่เห็นว่าแต่ละคนกำลังกลั้นขำกันจนหน้าแดงขนาดไหน
จะมีก็แค่สุดที่รักที่ขำไม่ออกแม้ว่าตัวเองจะเป็นคนด่า เอาจริงๆ เธอไม่ได้เอ็นจอยกับการบูลลี่หน้าตาคนอื่นเลยแม้แต่น้อย บิวตี้สแตนดาร์ดเป็นอะไรที่เธอเกลียดมากเพราะมันเป็นพิษกับทุกคน
คนที่ไม่เป็นไปตามนั้นก็เจ็บเพราะมัน คนที่ตรงตามสแตนดาร์ดเองก็เจ็บไม่ต่าง เพราะบางทีความสวยก็เป็นภัยจนโดนเกลียดโดนกระแนะกระแหนทั้งที่ไม่ได้ทำอะไร
ถามว่ารู้สึกผิดไหมที่ไปว่าจี้ปมอีกฝ่ายอย่างนั้นก็คงต้องบอกว่ารู้สึกมาก แต่ในเมื่ออีกฝ่ายมาทำเธอก่อนหากไม่สู้กลับบ้างก็คงโดนแบบนี้อยู่ร่ำไป
มันไม่ถูกต้องหรอกแต่ถูกใจ เพราะเธอก็มนุษย์ขี้เหม็นคนหนึ่ง คนอย่างสุดที่รักเคารพผู้ใหญ่เสมอแต่ถ้าผู้ใหญ่ทำตัวแบบนี้ก็พร้อมปกป้องตัวเองเหมือนกัน
“หนูไปรับตังค์ก่อนนะจ๊ะพี่ๆ วันนี้มีเรียนบ่าย” พอพี่ดี๋เดินไปแล้วเด็กสาวจึงเอ่ยขึ้นพลางก้มมองนาฬิกาข้อมือ ก่อนจะหันไปยิ้มให้ทุกคนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็กเสิร์ฟรุ่นพี่ที่กำลังมองเธอด้วยสายตาอาฆาต และมีพี่จอยคอยรั้งไม่ให้พุ่งใส่เธออยู่ใกล้ๆ บอกเสร็จแล้วก็ยกมือไหว้รอบวงก่อนจะเผ่นแผล็วเข้ามาในออฟฟิศ ไม่ทันให้มีคนได้กลายร่างเป็นพญานาคเข้าจริงๆ
ท่ามกลางสายตาขบขันปนชื่นชมของพี่ๆ คนครัว พอเด็กสาววิ่งหายไปแล้ว คนโดนด่าก็สะบัดมือเพื่อนที่จับอยู่ทิ้ง คนครัวที่ยืนมองอยู่เองก็หันกลับไปทำงานเหมือนเดิม
ทว่าความเอ็นดูในใจนั้นไม่ได้จางหายไป ไม่ใช่แค่เรื่องรูปร่างหน้าตาที่น่ามอง แต่ยังรวมไปถึงนิสัยไม่ยอมคนแต่ก็ไม่ทำใครก่อน รวมถึงสกิลการเอาตัวรอดเป็นยอดดีนั้นด้วย
“มันแสบได้ใจจริงๆ ไอ้เด็กคนนี้”
สุดที่รักยืนคิดวนเวียนอยู่แบบนั้น“โอ้ย เลิกคิด!” ก่อนที่ไม่นานศีรษะทุยจะสะบัดซ้ายขวาแรงๆเพื่อสลัดความคิดไร้สาระออกไปจากหัว จนเรือนผมที่ม้วนลอนมาอย่างดีกวัดไกวดวงตาสวยละไปจากกระจกบานใหญ่ เธอยืนทำใจอยู่อีกชั่วครู่ ไม่นานมือขาวก็เอื้อมไปเปิดประตูบานใหญ่ เท้าเล็กก้าวเดินออกไปด้านนอกห้องน้ำเข้าสู่เขตห้องนอนของชายหนุ่มในความคิดเด็กสาวก้าวเท้าเดินไปหาเจ้าของห้อง ซึ่งกึ่งนั่งกึ่งนอนเล่นโทรศัพท์รออยู่บนเตียงอย่างเชื่องช้า ดวงตาสวยจับจ้องใบหน้าคมดุที่เพิ่งเงยขึ้นมาดูเหมือนคุณเสือจะอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว เพราะตอนนี้เขาเปลี่ยนจากชุดทำงานมาสวมเพียงกางเกงวอร์มตัวเดียว ท่อนบนเปลือยเปล่าอวดรอยสักรูปเสือที่กินพื้นที่ตั้งแผ่นอก และแขนด้านขวาลงมาจนถึงหลังมือแม้จะเคยมีอะไรกับเขามาแล้ว แต่คราวนั้นเธอไม่ได้มีเวลาสำรวจร่างกายของเขามากนักเพราะเป็นวันเปิดบริสุทธิ์ เวลาทุกนาทีหมดไปกับความกลัว และความพยายามที่จะเรียนรู้ให้ได้เร็วที่สุด เพื่อให้ลูกค้ากระเป๋าหนักอย่างเขาพอใจ“พี่เสือขา” เสียงหวานเอ่ยเรียกเบาหวิว เรียกรอยยิ้มมุมปากของชายหนุ่มอาอายุมากกว่าได้เป็นอย่างดี“ขา มานี่สิคะ” เขาขานรับพลางกวักมือเรียกเธอ
“ไม่เป็นไรค่ะ” เขาตอบสั้นๆ ก่อนจะทำหน้าที่ขับรถต่อไปอีกระยะ ด้านสุดที่รักเองเห็นว่าเขาตอบแบบนั้นแล้วก็เธอไม่ได้พูดอะไรอีก เธอเองไม่ใช่คนเข้าใจอะไรยาก ในเมื่อเขาบอกว่ามีเรื่องให้คิดจึงปล่อยให้เขาได้ใช้ความคิดเงียบๆ นิ้วเล็กลูบไล้เล่นกับนิ้วเรียวยาวของเขาเบาๆให้คุณเสือรู้ว่าเธอยังอยู่ตรงนี้ แต่ไม่เซ้าซี้ให้เขาเล่าอะไรกระทั่งตัวเขาถามขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าสวยที่หันไปมองทิวทัศน์ข้างทางจึงได้หันกลับมา“เป็นยังไงบ้างคะ สบายดีไหม”“สบายดีค่ะ พี่เสือล่ะคะ” เธอถามกลับแม้เขาจะเพิ่งบอกอยู่เมื่อครู่ว่ามีเรื่องให้ต้องคิด คุณเสือหัวเราะขึ้นจมูกก่อนจะกระชับมือขาวเอาไว้“ไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ค่ะ สองวันมานี้ค่อนข้างเครียด วันนี้หนูคลายเครียดให้ผมหน่อยได้ไหม” ดวงตาคมยังคงมองถนนเบื้องหน้าทว่าน้ำเสียงของเขานั้นเว้าวอนจนเด็กสาวรู้สึกได้ที่จริงไม่จำเป็นต้องขอเลยด้วยซ้ำ เขาจ่ายเงินซื้อตัวเธอออกมาจากแชงกรีล่าอย่างไรเธอก็ต้องเอาอกเอาใจเขาอยู่แล้ว แต่ในเมื่อคุณเสือเมตตากันมากพอที่จะเอ่ยปากร้องขอดีๆ มีหรือเธอจะไม่อยากทำให้ต่อให้ไม่ขอเธอก็อยากทำให้เขาอยู่แล้ว“ได้สิคะ เดี๋ยวหนูดูแลพี่เสือเองค่ะ” สุดที่รักตอบพลางก
เกิดความโกลาหลอยู่พอสมควรหลังจากที่มีนาได้ยินคำพูดหาเรื่องระยะเผาขน หากสุดที่รักจับเอาไว้ไม่ทันเชื่อว่าเพื่อนคนสวยของเธอน่าจะถึงตัวสามคนนั้นไปแล้ว“มีน ช่างมันเถอะ อย่ามีเรื่องกันในที่ทำงานเลย” สุดที่รักพูดห้ามเสียงเบาขณะที่มือขาวจับแขนคนข้างตัวเอาไว้แน่น ด้านมีนาเองเมื่อได้ฟังคำพูดนั้นก็พลันยั้งฝีเท้าตัวเองเอาไว้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหญิงสาวนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทในที่ทำงานจนโดนเจ๊นภาคาดโทษกลายๆ ไปแล้ว และไม่ใช่มีกับใครที่ไหน ก็กับรายเดิมที่เพิ่งปากเปราะเอ่ยแซะเพื่อนเธอไปเมื่อครู่นั่นแหละถ้าไม่ได้ความสวยและความที่มีแต่ลูกค้ารวยๆ มาติด ป่านนี้อาจจะโดนเตะจนกระเด็นออกไปถึงไหนต่อไหนแล้วก็ได้“ปากหมานักอีนี่” แต่ถึงแม้จะคิดอย่างนั้นมีนาก็ยังเอ่ยลอดไรฟัน ดวงตาสวยเบิกกว้างอย่างโมโหจับจ้องนังสามคนนั้นเขม็ง“มีน ฉันโอเค” สุดที่รักทอดถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นว่าผู้หญิงที่ชื่อชมพู่และเพื่อนไม่ได้เอ่ยปากท้าทายอะไรหลังจากเห็นท่าทางของมีนา เพราะแบบนั้นจึงจูงมือเพื่อนสาวมานั่งที่เก้าอี้ตัวเดิมคบกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งเธอรู้ดีว่ามีไม่กี่คนที่มีนาจะซอฟด้วย นอกจากพี่สาวเพียงคนเดียวที่เพิ่ง
“อ่ะ คิดมากเลย เฮ้อ…รักเอ้ย ทำไมชีวิตแกมันต้องยากทุกจังหวะด้วยวะ”“นั่นน่ะสิมีน”“แต่ต่อให้จะโอเคหรือไม่โอเค ฉันก็ยังคิดว่ามันเป็นโอกาสที่แกควรคว้าเอาไว้นะรัก ไม่ใช่ว่าทุกคนที่มาทำงานนี้จะโชคดีแบบแก บางคนขายไปจนปลดระวางไม่เคยเจอคนอุปการะเลยก็มี”“อย่างน้อยถ้าเป็นเด็กประจำของคุณสิงห์ มันก็จะทำให้ชีวิตต่อจากนี้ของแกไม่ลำบากเหมือนเมื่อก่อน ได้มีเงินช่วยเหลือป้า ที่เหลือเอามาเป็นต้นทุนชีวิตต่อ การมีเงินมากขึ้นมันก็จะทำให้เรามีทางเลือกมากขึ้นนะ แกดูอย่างฉันสิ”“ส่วนเรื่องคุณพยัคฆ์น่ะ ถ้าเขาบอกว่าไม่อะไรแกก็ไม่ต้องเก็บมาคิดหรอก ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของผู้ชายไป เราเอาแค่เงินก็พอ ให้พี่น้องเขาคุยกันเอง”“แต่ถ้าฉันทนอึดอัดไม่ไหวล่ะมีน” พูดน่ะมันง่าย แต่พอต้องมามองหน้าเขาจริงๆเธอจะทำได้เหรอ ที่ว่าจะไม่คิดอะไร“มันก็พอจะมีทางออกนะฉันว่า” มีนามองท่าทีกังวลของสุดที่รักอย่างเห็นใจ มือสวยยกขึ้นแตะบ่าเพื่อนอีกครั้ง“อยู่ที่แกว่าจะทำให้คุณสิงห์เขาชอบได้มาแค่ไหน ถ้าเขาชอบแกถึงขั้นอยากขยับไปรับเลี้ยงได้ แกอาจจะสามารถขอให้คุณเขาหาคอนโดให้แกอยู่สักที่ แล้วก็ให้เขาเป็นฝ่ายมาหาแกเองจะได้ไม่ต้องเจอกับน้องชาย
หนึ่งวันผ่านไปณ ตึกแชงกรีล่า"ป้าเย็นเป็นยังไงบ้างรัก""ดีขึ้นแล้วล่ะมีน การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี" สิ้นเสียงถามสุดที่รักก็หันมาตอบเพื่อนด้วยรอยยิ้มที่เต็มแก้มกว่าทุกวัน ตั้งแต่เกิดเรื่องอุบัติเหตุของป้า เธอเพิ่งจะได้มาเบาใจจริงๆ ก็วันนี้"ดีจัง แล้วนี่เรื่องค่าใช้จ่ายแกเคลียร์หมดแล้วเหรอวะ ถ้าไม่พอยืมฉันก่อนได้นะรัก ฉันเองก็พอมีอยู่" มีนานั่งลงบนเก้าอี้ตัวข้างๆ กัน ก่อนจะเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงเนื่องจากรู้มาตั้งแต่แรกเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่เพื่อนต้องแบกรับตั้งแต่ตัดสินใจมาทำงานนี้สุดที่รักก็ไม่ปริปากบอกเธอเลยว่าจัดการเรื่องนี้ยังไงบ้าง ขนาดเรื่องของลูกค้าฝาแฝดที่มาพากลับบ้านทั้งคู่เธอก็ยังรู้พร้อมคนอื่นเพราะยัยเพื่อนตัวดีไม่เล่าอะไรเลยเอาแต่เก็บเรื่องทุกอย่างเอาไว้คนเดียว ไม่รู้ว่าตัวแค่นี้จะแบกอะไรมากนัก"เคลียร์หมดแล้วแหละมีน ขอบใจแกมากนะที่ช่วยชี้ทางให้ฉัน ถ้าไม่มีแกตอนนี้ฉันคงไม่รู้ว่าจะต้องแก้ปัญหาพวกนี้ยังไง""เงินตั้งเยอะไม่ใช่เหรอ ผ่าตัดแต่ละครั้งต่อให้เป็นโรงพยาบาลรัฐก็เถอะ" มีนาเอ่ยถามขึ้นอีกอย่างไม่เข้าใจแต่พอถามจบแล้วนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนวานเพื่อนตัวเองกลับกับใครก็เหมือนจะ
หลังจากที่พายุแห่งความต้องการอันล้นเหลือของสิงหราชพัดผ่านพ้นไปแล้ว ผู้ที่ต้องรับมือกับมันมาตลอดชั่วโมงเต็มๆ ก็ทิ้งตัวลงบนไซฟา ทว่าไม่กล้าขยับมากนักด้วยกลัวว่าน้ำอะไรต่อมิอะไรของเขาจะเปื้อนลงบนโซฟาหนังราคาแพงโชคดีที่เขาพอจะเห็นใจเธออยู่บ้าง หลังจัดการเก็บลูกชายลำเขื่องกลับเข้ากางเกงเสร็จแล้ว จึงได้หันมาช่วยเอาทิชชู่เช็ดคราบเลอะเทอะที่เพิ่งปลดปล่อยลงบนหน้าอกของเธอจนสะอาดเช็ดไปดวงตาคมก็ไล่มองเรือนกายขาวสว่างไปด้วย ท่ามกลางแสงแบบนี้ผิวที่ไม่ได้เรียบเนียนนักเพราะไม่ได้รับการดูแลที่ดีกลับดูดีมากในสายตาของเขา“คืนนี้หนูกลับกับผมนะคะ คอนโดที่คุณเสือพาไปนั่นแหละ แต่คืนนี้ไปนอนห้องผม” เขาว่าโดยใช่คำลงท้ายแบบเดียวกับตอนทำเรื่องอย่างว่าขณะที่โยนซากทิชชู่ทิ้งถังขยะไป คล้ายกับจะใช้คำว่าค่ะเหมือนคุณเสือแทนคำว่าครับไปแล้วทว่าหลังพูดจบเด็กสาวกลับส่ายหน้าเบาๆ เป็นเชิงปฏิเสธ เธอลุกขึ้นไปหยิบชุดที่ไม่ได้ปิดอะไรมากนักขึ้นมาแล้วเริ่มแต่งตัว เพื่อที่จะได้ไม่ต้องสบตากับกับคุณสิงหราช“หนูไปไม่ได้จริงๆ ค่ะ น้องเพิ่งส่งข้อความมาว่าป้าเพิ่งเข้าผ่าตัดซ้ำอีกรอบ ตอนนี้ไม่มีใครอยู่กับน้องเลยหนูอยากไปอยู่เป็นเพื่อ
“อ่ะ อื้อ…” เพราะคิดแบบนั้นสะโพกสวยจึงค่อยๆทิ้งลงบนแก่นกายลำเขื่องอย่างทุลักทุเล เสียงครางหวานหูหลุดรอดออกจากปากทว่าเด็กสาวก็ยังเก็บกลั้นเอาไว้แม้จะเริ่มเสียวจนแทบทำต่อไม่ไหวแต่เธอก็ยังอดทน แม้จะตัวสั่นระริกแต่ก็ยังกัดฟันรับของเขาเข้าไปจนสุด เมื่อสุดแล้วร่างเล็กจึงซบเข้าที่อกของเขา ตั้งใจจะพักสักครู่เพื่อปรับตัวและลมหายใจทุกอย่างอยู่ในสายตาของสิงหราชหมดทุกอย่าง เดิมเมื่อเช้าเขาเองก็สัมผัสได้อยู่แล้วว่าเธอเป็นผู้หญิงประเภทที่ร่างกายลามกอ่อนไหวไปหมดทุกส่วนจนน่าแกล้งให้หงี่ยิ่งกว่าเดิมคิดได้อย่างนั้นชายหนุ่มก็พลันกอดล็อคเอวคอดเอาไว้แน่น ก่อนที่เอวสอบจะเริ่มขยับกระเด้าหนักไม่ให้หญิงสาวบนตักได้ตั้งตัว“อ๊า!! อ๊ะๆๆๆ คุณสิงห์ คุณ อ๊ายย!” สุดที่รักร้องจนเสียงหลง ดวงตาสวยเบิกกว้างอ้าปากค้างด้วยความจุก คิดไม่ถึงว่าเขาจะทำไม่บอกไม่กล่าวแบบนี้ด้านชายหนุ่มพอได้กระแทกเองแล้วก็พลันหยุดไม่ได้ ช่องทางของเธอมันทั้งคับทั้งแน่นเกินกว่าจะบรรยายออกมาได้หมด ขนาดเมื่อคืนโดนน้องชายของเขาเอาไปแล้วแต่ก็ยังแน่นมากพอเสียวทีก็ตอดของเขาจนแทบขาดติดรูไม่แปลกใจที่ไอ้เสือมันพาเข้าไปนอนในห้อง เพราะตัวเขาเองก็อยากพ
"งั้นก็เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า" เขาว่าพลางเปลี่ยนท่าทีดูจริงจังมากขึ้นกว่าเดิม มือยกขึ้นขยับแว่นแล้วลดลงมากอดอก เอนแผ่นหลังกว้างพิงพนักเก้าอี้ด้านหลัง "ผมถูกใจหนู เห็นคุณเสือบอกว่ายังเรียนอยู่ เลยอยากถามว่าคืนนี้หนูไปทำงานไหมครับ ผมจะไปหา"แน่นอนว่าเรื่องนั้นสุดที่รักไม่ได้แปลกใจเลยสักนิดเพราะได้ยินที่เขาพูดหมดแล้ว ถ้าเขาไม่ชอบหรือสนใจเธอก็คงจะไม่ทำแบบนั้น ต่อให้ทำไปตามสันดานผู้ชายก็คงไม่ถึงขั้นมาขอเธอกับคุณเสือแน่เรื่องเดียวที่ติดใจคือเธอเพิ่งนอนกับคุณเสือมาเมื่อคืน คุณเสือที่เป็นน้องชายฝาแฝดของเขา ไม่ได้สงสัยว่าพวกเขาถือไหมหรอกเพราะดูแล้วไม่น่าจะถืออะไร แถมคุณสิงห์ก็ทำแบบนี้มาหลายรอบแล้วจากที่ฟังแต่คืนนี้นอนกับน้องคืนต่อไปจะให้นอนกับพี่เลยมันก็…ยังไงๆอยู่ไหม หรือว่าเธอไม่ควรคิดมากกันคุณเสือเองก็ยังพูดว่าเขาซื้อกินไม่คิดมาก แล้วตัวเธอจะถือให้มันหนักทำไมในเมื่อเป็นแค่ผู้หญิงที่น้องชายเขาซื้อกินชั่วครั้งชั่วคราว เขาอาจจะได้แล้วไม่เอาซ้ำเลยให้พี่ชายมาซื้อต่อก็ได้ในโลกของอาชีพขายเรือนร่างเรื่องพวกนี้คงเป็นเรื่องธรรมดา ได้เงินไปรักษาป้าแล้วก็จบไป มิน่ามีนาถึงบอกให้เธอถอดหัวใจเอาไว้ที่
แน่นอนว่าเธอไม่ได้เถียงเขาออกไปเพราะจำสิ่งที่เจ๊นภาพูดได้ดี คุณสิงหราชใจร้อนกว่าคุณเสือ อย่าขัดใจเขาเพราะแบบนั้นหญิงสาวจึงเริ่มเต้นต่อด้วยจังหวะใหม่เนื่องจากเพลงเปลี่ยนกลับมาเป็นจังหวะสนุกสนาน กายขาวนุ่มนวลยิ่งถูไถไปกับแผงอกหนาๆของเขามากยิ่งขึ้น ต้นขาขาวถูกบีบเคล้นจนเห็นเป็นรอยมือเช่นเดียวกันกับบั้นท้ายสวยที่มีชะตากรรมไม่ต่างกันนักเขามือหนักกว่าคุณเสือมากข้อนี้เธอแจ้งใจเป็นอย่างดีไม่เพียงแค่ขาและก้นเท่านั้นที่โดนมือร้อนผ่าวของเขารังแก แต่ยังรวมไปถึงเต้านมนิ่มที่ถูกคุณสิงห์ซึ่งเพิ่งถอดแว่นออกฟัดแรงๆ"ผมสายตาสั้น หนูมาใกล้ๆหน่อยสิครับ""..."สุดที่รักไม่เข้าใจเลย แค่นี้เราก็ใกล้กันจนนมเต็มหน้าแทบจะสิงร่างกันอยู่แล้ว เขาจะอยากให้ใกล้ขนาดไหนอีก แต่เพราะไม่อยากขัดใจเธอจึงขยับเข้าไปให้มากขึ้น บดเบียดเนื้อตัวเข้ากับร่างกายของเขาอย่างแนบแน่นทำแบบนั้นเพียงครู่เดียวยกทรงที่สวมอยู่ก็ดีดตัวออกจากกัน แบบเดียวกับเมื่อคืนเป๊ะๆหญิงสาวตกใจพอสมควรแต่เพราะเจอมาแล้วครั้งหนึ่งเธอจึงไม่ได้รั้งมันเอาไว้ ทั้งยังปล่อยให้เขาได้ทำตามใจกายขาวบิดเร้าน้อยๆ ยามที่โดนเขาฟัดหน้าอก ทั้งดูดทั้งเลียหัวนมสีอ่อนพลางข