Share

บทที่ 12

Author: กิตติรวิชญ์
เมื่อฉู่เหมียนเห็นว่ากู้ว่างเชินจับข้อมือของลู่เจียวแล้วทิ้งเธอ ความรู้สึกตอนที่ร่วงหล่นและไร้แรงโน้มถ่วงชัดเจนยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ ความสิ้นหวังแผ่ซ่านไปทั่วหัวใจในทันที

กู้ว่างเชินไม่เคยเลือกเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว แม้ว่าเธอจะจมลึกอยู่ในหล่มโคลนก็ตาม

"เหมียนเหมียน!" ลู่เจียวร้องเรียกอย่างเสแสร้ง

ฉู่เหมียนชนเข้ากับมุมบันไดที่คดเคี้ยว ร่างกายและหัวใจที่เจ็บปวดทำให้เธอรู้สึกหายใจไม่ออก

เธอค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น เห็นกู้ว่างเชินและลู่เจียวมองลงมาที่เธอ

ความอับอาย ความสิ้นหวัง และความเจ็บปวด ล้วนไม่เพียงพอที่จะบรรยายความรู้สึกของเธอในตอนนี้

บันไดไม่สูงมาก ตกลงมาก็ไม่ถึงตาย แต่กลับทำลายความแข็งแกร่งทั้งหมดของเธอไปสิ้น

กู้ว่างเชินจ้องมาที่ฉู่เหมียน แววตาเต็มไปด้วยความรังเกียจ อดไม่ได้ที่จะด่าว่า "ลู่เจียวเพิ่งโดนเธอผลักตกน้ำไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ร่างกายยังไม่ฟื้นตัวดีก็มาทำร้ายซ้ำอีกในวันนี้ ยังจะผลักเธอให้กลิ้งลงบันไดอีกเหรอ?

ฉู่เหมียน เธอนี่มันใจร้ายซะจริง ๆ!"

เปลือกตาของฉู่เหมียนสั่นไหว เมื่อได้ยินเสียงด่าทอของเขาก็อดไม่ได้ที่จะแค่นหัวเราะ

หัวเราะไปหัวเราะมา น้ำตาก็ไหลริน

ดูสิ เขามีความไว้เนื้อเชื่อใจเธอแม้แต่เสี้ยวหนึ่งไหม

ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม ตราบใดที่ลู่เจียวได้รับอันตรายเธอคือคนผิดเสมอ

"พี่อาเชิน เหมียนเหมียนไม่ได้ตั้งใจ เธออาจจะเสียใจเกินไป..." ลู่เจียวรีบปลอบโยนอารมณ์ของกู้ว่างเชิน

กู้ว่างเชินพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุร้ายยิ่งขึ้น "เสียใจแล้วหมายความว่าจะทำร้ายคุณได้ตามใจชอบเหรอ? ลู่เจียว คุณอย่าทำตัวอ่อนแอเกินไป! จะยิ่งทำให้หล่อนได้ใจมากขึ้นเรื่อย ๆ!"

ลู่เจียวไม่คิดว่ากู้ว่างเชินจะดุแม้แต่ตัวเอง

เธอหน้าแดงก่ำทันที จากนั้นก็ก้มหน้าลง พูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ "พี่อาเชิน ขอโทษค่ะ ฉันทำให้คุณไม่พอใจ..."

กู้ว่างเชินเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองพูดจาไม่ดีกับลู่เจียว

เขาอธิบายด้วยความตื่นตระหนกทันที "เจียวเจียว ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น คุณไม่เคยทำให้ผมไม่พอใจเลยนะ"

ในปีนั้นที่เขาถูกจับเป็นตัวประกัน เธอยอมแม้กระทั่งสละชีวิตเพื่อช่วยเขา

ลู่เจียวจะทำให้เขาไม่พอใจได้อย่างไร

เขายินดีปกป้องลู่เจียว แม้ว่าลู่เจียวจะฆ่าคนหรือลอบวางเพลิง เขาก็จะปกป้องลู่เจียวโดยไม่มีเงื่อนไข

ลู่เจียวเงยหน้าขึ้น น้ำตาคลอเบ้า ยังคงตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ถามเสียงเบา "งั้นคุณก็อย่าโทษ

เหมียนเหมียนด้วยสิคะ"

ใบหน้าของเธอยังมีรอยฝ่ามือที่เพิ่งตบลงไป แก้มข้างขวาบวมเห่อขึ้นมาทั้งซีก

รูปลักษณ์นี้ดูน่าสงสาร ทำให้ยากที่จะตำหนิ

ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็แย่มากแล้ว แต่กลับยังขอร้องแทนฉู่เหมียน นี่คือความแตกต่างระหว่างฉู่เหมียนกับลู่เจียว

"ได้ เพราะเห็นแก่คุณหรอกนะ" กู้ว่างเชินลูบผมเธออย่างอ่อนโยน

ฉู่เหมียนมองดูคนทั้งสองที่รักใคร่กันดี หัวใจของเธอแทบฉีกขาดออกจากกัน!

ฉู่เหมียนก้มหน้าลง จิกปลายเล็บแน่นจนเลือดไหลซึมออกมา

เธอพยุงตัวขึ้นจากกำแพงอย่างช้า ๆ ความเจ็บปวดแผ่ซ่านมาจากหน้าผาก

พอยกมือขึ้นแตะดู เลือดสีแดงติดอยู่ที่ปลายนิ้ว ร้อนเหมือนจะลวกมือ

ความแข็งแกร่งที่แสร้งแสดงออกมาหลายวัน ความคับข้องใจที่อดกลั้นไว้มาหลายวัน ในที่สุดก็พังทลายลงในตอนนี้

ฉู่เหมียนกัดริมฝีปากแน่น น้ำตาไหลลงมาไม่หยุด แม้แต่การร้องไห้ยังเงียบกริบ

ถ้ารู้ล่วงหน้าว่าการรักกู้ว่างเชินจะทำให้เธอเต็มไปด้วยบาดแผลและบาดเจ็บทั้งกายและใจไม่หยุดอย่างนี้

เธอจะไม่มีวันรักเขาอย่างแน่นอน

กู้ว่างเชินหันไปมองฉู่เหมียน ร่างกายของฉู่เหมียนสั่นไปหมด เขาขมวดคิ้ว หัวใจกลับรู้สึกกังวลขึ้นมา

แต่เมื่อนึกถึงภาพที่เธอทำร้ายลู่เจียวเมื่อครู่ เขาก็เกลียดเธอจนแทบตาย

เขาพูดหลายครั้งแล้วว่าห้ามเธอแตะต้องลู่เจียว ทำไมเธอถึงไม่ฟัง

"ฉู่เหมียน ต่อไปนี้ไม่ต้องมาที่นี่อีก!" กู้ว่างเชินขีดเส้นตาย

ฉู่เหมียนเงยหน้าขึ้น เอามือปิดหน้าผากขณะมองกู้ว่างเชิน ดวงตาอับแสง มีเพียงความมืดมน

"กู้ว่างเชิน ฉันไม่ได้ทำร้ายเธอ ฉันไม่ได้ผลักเธอ คุณจะเชื่อหรือไม่ก็ตามใจคุณ" น้ำเสียงของเธอเย็นชา ไร้เรี่ยวแรง

"ความจริงอยู่ตรงหน้าทนโท่ ยังจะเถียงอีกเหรอ" เขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉู่เหมียน นัยน์ตาสีดำเย็นชาเปล่งประกายความโกรธ

เขาบีบคอฉู่เหมียนแล้วกัดฟัน "ฉู่เหมียน เธอไม่มีหัวใจหรือไง"

ผู้หญิงคนนี้ข่มเหงรังแกเธอครั้งแล้วครั้งเล่า ลู่เจียวก็ขอร้องแทนเธอครั้งแล้วครั้งเล่า

ลู่เจียวไม่เคยตำหนิเธอเลย แต่ทำไมเธอถึงไม่เคยใจดีกับลู่เจียวบ้าง

ถ้าเธอใจดีกับลู่เจียวมากกว่านี้ เขาคงไม่พูดจาแย่ ๆ กับเธอครั้งแล้วครั้งเล่าแบบนี้! ลู่เจียวคือสมบัติขึ้นหิ้งของเขา เธอไม่ได้รู้ดีกว่าใครหรอกเหรอ?

ฉู่เหมียนพยุงร่างกายไว้ ดวงตาสั่นไหวไร้เรี่ยวแรง หยดน้ำตาไหลลงมาอาบแก้ม หยดลงบนหลังมือเขา

อุ่นร้อนทีเดียว

เธอจ้องมองกู้ว่างเชิน ขนตากระพือไม่หยุด ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนคู่นั้นปราศจากความรัก "กู้ว่างเชิน คนที่ไม่มีหัวใจคือคุณต่างหาก"

เมื่อได้ยินคำพูดของฉู่เหมียน คิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากันอย่างแรง ความโกรธที่รุนแรงแผดเผาขึ้นมาจากหัวใจ

ฉู่เหมียนสูดน้ำมูกกลั้นน้ำตาแล้วถามว่า "กู้ว่างเชิน กล้องวงจรปิดในบ้านคุณมีไว้เพื่ออะไร ไม่เคยเปิดดูเลยเหรอ?"

"หลายครั้งแล้วที่เกิดเรื่องแบบนี้ แต่คุณไม่ตรวจสอบเลย กลับตัดสินฉันทันที กลัวรู้ความจริงว่าคนรักของคุณจะไม่เป็นอย่างที่เห็นหรือกลัวว่าจะหาเรื่องเอาผิดฉันไม่ได้?"

ทันใดนั้น ลู่เจียวก็เงยหน้าขึ้น

แน่นอนว่ากล้องวงจรปิดสองตัวที่มุมโถงทางเดินสามารถส่องมาเห็นที่นี่ได้!

ลู่เจียวกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ความตื่นตระหนกเกิดขึ้นในใจ

ฉู่เหมียนเข้าใกล้กู้ว่างเชินที่ผงะไปเล็กน้อย ถามอย่างดุดัน "ว่าไง?!"

ดวงตาสีดำของกู้ว่างเชินมืดมัว ชั่วขณะหนึ่งเขาตอบคำถามของฉู่เหมียนไม่ได้

ฉู่เหมียนสะบัดกู้ว่างเชินออก แล้วมองไปที่ลู่เจียวซึ่งยืนอยู่บนบันไดขั้นสูงกว่า เห็นได้ชัดว่าใจลอยไปแล้ว ตะคอกด่าว่า "สารเลว!"

เสแสร้งเก่งจริง ๆ!

กู้ว่างเชินจับฉู่เหมียนไว้ทันทีแล้วตะคอกใส่ "ฉู่เหมียน พูดกับลู่เจียวแบบนี้ได้ยังไง ขอโทษลู่เจียวเดี๋ยวนี้!"

"ขอโทษ?" ฉู่เหมียนจ้องกู้ว่างเชิน

ดวงตาสองคู่จ้องมองกัน ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนที่เต็มไปด้วยความรักในอดีต บัดนี้กลับเต็มไปด้วยความเกลียดชังและความเศร้าใจ

ฉู่เหมียนยกมุมปากขึ้น เป็นเหมือนดอกกุหลาบขาวที่ถูกย่ำยีจนบอบช้ำ เต็มไปด้วยบาดแผล แต่ยังคงสง่างาม ค่อย ๆ พูดคำสี่คำออกมา "รอฉันตายก่อนเถอะ"

เธอผลักกู้ว่างเชินออก จับราวบันได แล้วเดินลงบันไดไปอย่างดื้อรั้น

กู้ว่างเชินขมวดคิ้ว ตะโกนไล่หลัง "ฉู่เหมียน เธอมันไร้เหตุผล!"

ฉู่เหมียนด่ากลับ "คุณนั่นแหละที่ไร้เหตุผล คนโง่เอ๊ย!"

ในเมื่อชอบผู้หญิงโกหกตีสองหน้า ก็ขอให้เขากับนังผู้หญิงตีสองหน้าคนนั้นอยู่ด้วยกันตลอดไป!

กู้ว่างเชินโกรธแทบตาย เขาฉีกภาพวาดบนผนังออกแล้วกระชากเนคไท

ฉู่เหมียนช่างท้าทายเส้นตายของเขาจริง ๆ ฝีปากของเธอเราะร้ายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่!

"อาเชิน..." ลู่เจียวเรียกเขาเบา ๆ

กู้ว่างเชินขมวดคิ้ว ความโกรธยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น หัวใจของเขาหงุดหงิดอย่างมากเพราะฉู่เหมียน "ผมจะให้อี้เซินส่งคุณไปตรวจที่โรงพยาบาล"

"แล้วคุณไม่ไปกับฉันเหรอ" ลู่เจียวถามเสียงแผ่ว

"ผมมีงาน" กู้ว่างเชินพูดจบก็ออกไปทันที

ลู่เจียวมองตามหลังกู้ว่างเชิน มือทั้งสองค่อย ๆ กำเป็นหมัดแน่น

เขาไม่เคยแสดงท่าทีแบบนี้กับเธอมาก่อน... เขาจะพาเธอไปส่งโรงพยาบาลด้วยตัวเองทุกครั้ง

ทำไมวันนี้ถึงหัวเสีย?

เพราะฉู่เหมียนหรือเปล่า?

เขาคงไม่รู้สึกอะไรกับฉู่เหมียนแล้วมั้ง

ลู่เจียวมองไปที่กล้องวงจรปิดตรงมุมทางเดิน หัวใจรู้สึกหวาดกลัว

...

ใจกลางเมืองอวิ๋น อาคารที่คึกคักที่สุด ชั้นใต้ดินลึกลงไปสามชั้น ซ่อนฐานลับที่เป็นศูนย์รวมของปัญญาประดิษฐ์ทั้งหมดไว้… ฐาน M

หัวหน้า ‘M’ คือเจ้าพ่อของฐานลับ ในฐานะเจ้าพ่อของตลาดมืด เขายืนหยัดเพียงลำพัง ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกรรมขาวหรือดำ ไม่มีใครสามารถสั่นคลอนชื่อเสียงของฐานลับได้

แต่จู่ ๆ ฐานนี้กลับหายสาบสูญไปเป็นเวลาห้าปี

ในตลาดมืด แม้ว่าภาพลักษณ์ของฐาน M จะมืดมัวอยู่ตลอด แต่ชื่อเสียงและวีรกรรมของฐาน M ก็ยังคงถูกเล่าขานไม่รู้จบมาจนปัจจุบัน

เมื่อฉู่เหมียนมาถึงฐาน โม่อี้ก็รออยู่แล้ว

เธอจัดการกับบาดแผลที่หน้าผากแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า ออร่าในวันนี้เย็นชากว่าทุกวัน

"หัวหน้า ไม่เป็นไรใช่ไหม?" โม่อี้สังเกตเห็นบาดแผลที่หน้าผากของฉู่เหมียน

ฉู่เหมียนไม่สนใจ "ไม่เป็นไร"

"โดนกู้ว่างเชินตีมาเหรอ?" โม่อี้เดาอย่างกล้าหาญ

ฉู่เหมียนหัวเราะ "เขาไม่คู่ควร"

เธอรักเขา ดังนั้นจึงปล่อยให้เขาด่าว่าสารพัด

แต่ถ้าเธอไม่รักเขา เขามีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนั้นเธอ? ลองด่าเธออีกสักคำสิ

เมื่อเห็นว่าฉู่เหมียนดูเหมือนไม่อยากเล่าอะไร โม่อี้ก็ไม่ถามถึงบาดแผลของเธออีก

"หัวหน้า ได้แหวนมาหรือยังล่ะ" โม่อี้ถามฉู่เหมียน

ฉู่เหมียนพยักหน้า เธอเปิดกล่องเครื่องประดับสีดำ ภายในมีแหวนสีเงินสลักตัว M ไว้ สวยงามเรียบง่าย

ใช่แล้ว ฉู่เหมียนคือเจ้าพ่อลึกลับของฐาน M… M (เหมียน)

เมื่อห้าปีก่อน เธอยอมสละซึ่งทุกสิ่งเพื่อไขว่คว้าหัวใจของกู้ว่างเชิน ลงเอยที่ปิดฐาน M

วันที่แต่งงานกับกู้ว่างเชิน เธอได้มอบแหวนวงนี้ให้กู้ว่างเชินเป็นแหวนแต่งงาน นับจากนั้นเป็นต้นมาเธอก็ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องในยุทธจักรแห่งตลาดมืดอีกต่อไป

แต่ตอนนี้เธอกลับมาแล้ว!

"เตรียมพร้อมหรือยัง" ฉู่เหมียนถามโม่อี้

ใบหน้าของโม่อี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้นในเวลานี้ เขาพร้อมยิ่งกว่าพร้อม!

ฉู่เหมียนยืนอยู่หน้าประตูฐาน เปิดกลไกทางด้านขวา วางแหวนลงไป

ทันใดนั้น ประตูสีขาวก็สว่างขึ้น แสงสีฟ้าโอบล้อมไว้ หน้าจอโปร่งใสปรากฏขึ้นต่อหน้าฉู่เหมียนและโม่อี้

เสียงเครื่องจักรดังขึ้นจากชั้นสาม "ฐาน M กำลังเริ่มต้น"

"ยินดีต้อนรับกลับบ้าน นายท่าน M"

ฉู่เหมียนสแกนใบหน้า จากนั้นประตูฐานก็เปิดออก ภายในสว่างไสว

ไฟทั้งหมดเปิดใช้งานแล้ว หุ่นยนต์ที่ถูกปิดผนึกไว้เป็นเวลานานขยับเคลื่อนไหวร่างกาย พูดประโยคเดียวกัน

"ยินดีต้อนรับกลับบ้าน นายท่าน M"

ช่างเคร่งขรึมและน่าเกรงขาม อลังการและหรูหรา

ที่กลางห้องโถงของฐาน หน้าจอโปร่งใสแผ่นหนึ่งฉายข่าวสารล่าสุดของตลาดมืดอย่างรวดเร็ว

[ว้าว! มีใครสังเกตหรือเปล่า? ฐาน M กลับมาออนไลน์แล้ว!]

[ไงนะ! ฐาน M? ใช่ฐาน M ที่หายสาบสูญไปเมื่อห้าปีก่อนไหม?!]

[แม่เจ้า! นาน ๆ ทีจะได้เห็น! โคตรเจ๋งเลย! เจ้าพ่อ M กลับมาแล้ว! เจ้าพ่อ M ของเรากลับมาแล้ว!]

ฉู่เหมียนมองฉากนี้ มุมปากปรากฏรอยยิ้ม

ใช่ เธอกลับมาแล้ว

โม่อี้ก็หัวเราะเช่นกัน "ฉันเข้าใจแล้วว่า 'ถึงจะไม่อยู่ในยุทธจักร แต่ตำนานจะยังคงอยู่' หมายความว่ายังไง"

ฉู่เหมียนยืนอยู่หน้าห้องหนึ่ง สแกนลายนิ้วมือลงไป ประตูเปิดออกโดยอัตโนมัติ ภายในเป็นห้องทำงานของเธอเอง

ฉู่เหมียนนั่งลงหน้าคอมพิวเตอร์ ตบมือเบา ๆ อุปกรณ์อัจฉริยะทั้งหมดในห้องทำงานก็เปิดใช้งานครบถ้วน

หน้าจอคอมพิวเตอร์สว่างขึ้น เปิดหน้าตลาดมืดโดยอัตโนมัติ

[สวัสดีนายท่าน M คุณไม่ออนไลน์เป็นเวลา 1,609 วัน ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับ]
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Nattharinee Chotvaratsakul
ทำไมต้องเขียนบทให้พระเอกโง่ได้ขนาดนี้ พล๊อตเรื่องเดิมๆเหมือนกันแทบทุกเรื่อง
goodnovel comment avatar
rose.sky4565
ถ้าไอ้บ้านี่เป็นพระเอก จะโกรธมาก ฮึ่ม
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 295

    ฉู่เหมียนไปที่ฐาน M ในทันที เธอต้องการรู้ให้ได้เดี๋ยวนี้ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวเรื่องลู่เจียวเธอทนไม่ได้กับความอับอาย แม้แต่นิดเดียวก็ทนไม่ได้!โม่อี้กำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาล เขาตรวจสอบทุกมุมแล้ว แต่ก็หาคนที่เข้าไปในห้องทำงานของผู้อำนวยการไม่พบ“ดูกล้องวงจรปิดตรงหน้าต่างซิ” ฉู่เหมียนสั่งโม่อี้เสียงเย็นโม่อี้หันไป ก็เห็นฉู่เหมียนยืนอยู่ข้างหลังเขา “หัวหน้า มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?”“เมื่อกี้” ฉู่เหมียนพูดเสียงแข็ง ชัดเจนว่ากำลังโกรธ คำสองคำนั้นเหมือนเค้นผ่านไรฟันออกมาโม่อี้กำลังตรวจสอบอย่างตั้งใจมาก จนไม่ได้สังเกตเห็นว่าเธอมาโม่อี้ร้อง “อืม” เสียงหนึ่ง รีบเปลี่ยนภาพกล้องวงจรปิดไม่ลืมเหลือบมองฉู่เหมียนอย่างระมัดระวังดูตรงหน้าต่าง… เดี๋ยวนะ“หน้าต่างโรงพยาบาลเหรอ?” โม่อี้เหยียดยิ้ม ดูเหมือนจะไม่เชื่อ “หัวหน้า นั่นมันชั้นที่สามสิบกว่านะ คนคนนั้นจะเข้ามาทางหน้าต่างเพื่อแจ้งเบาะแสเรื่องลู่เจียวเหรอ? บ้าไปแล้ว!”แล้วก็ไม่มีที่ให้เข้าไปด้วยนี่นา?“นอกหน้าต่างห้องทำงานของหลินเฉิงชุยมีระเบียง พอจะเข้าไปได้” ฉู่เหมียนคลายความสงสัยของเขาโม่อี้รีบตรวจสอบกล้องวงจรปิดในห

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 294

    “ฉันไม่ได้แจ้งเบาะแสเกี่ยวกับน้องสาวคุณ เราไม่มีอะไรต้องคุยกัน” ฉู่เหมียนไม่อยากติดต่อกับคนตระกูลลู่“คุณฉู่ ผมไม่ได้มีเจตนาไม่ดี” ลู่อี้อธิบายฉู่เหมียนเงียบไปสามวินาที ก่อนจะเดินไปที่รถ “คุยกันตรงนี้แหละ”ลู่อี้คิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ได้“ฉู่เหมียน ผมรู้ว่าคุณไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน แต่บัตรใบนี้มีมูลค่าสองล้าน” ลู่อี้ยื่นบัตรเครดิตมาให้ฉู่เหมียนตกใจเมื่อเห็นบัตรเครดิตใบนี้เขาหมายความว่ายังไง?“ขอให้คุณใจดีกับน้องสาวผมด้วย” เขาจ้องฉู่เหมียน นัยยะคือ เรื่องนี้เป็นฝีมือคุณ รับเงินสองล้านนี้ไป แล้วจบเรื่องไปซะฉู่เหมียนหัวเราะเขาคิดจะใช้เงินฟาดหัวเธอ นี่ไม่ใช่การดูถูกเธอหรอกเหรอ?“คิดว่าเงินแค่สองล้านจะเปลี่ยนทัศนคติของฉันที่มีต่อน้องสาวคุณได้เหรอ?” ฉู่เหมียนหยิบบัตรเครดิตขึ้น พลางจ้องมองลู่อี้อย่างเยาะเย้ย “ฉันจ่ายให้คุณสองล้าน หวังว่าคุณจะไม่มาปรากฏตัวต่อหน้าฉันอีก เป็นคุณจะรู้สึกยังไง?”“ฉู่เหมียน คุณไม่ยุติธรรมเลย! กล้าทำก็ต้องกล้ารับสิ!” ลู่อี้ขมวดคิ้ว คิดว่าฉู่เหมียนไม่เข้าใจเหตุผล“ฝ่ายที่ไม่ยุติธรรมคือตระกูลลู่ของคุณต่างหาก!” ฉู่เหมียนโยนบัตรเครดิตใส่ลู่อี้พวกเขาทั้งคร

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 293

    ชูหลานคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วส่ายหัว เธอพูดว่า “ไม่มีเลย ตอนนั้นเลิกงานพอดี ฉันเลยเอาเอกสารมาให้ผู้อำนวยการ”ฉู่เหมียนเงียบไปสองสามนาที เธอมองวิดีโอในโทรศัพท์ สักพักก็คิดอะไรไม่ออก “ค่ะ”ถ้าไม่ใช่ชูหลานที่เอาเข้ามา งั้นจดหมายร้องเรียนที่ไม่ระบุชื่อนี่บินเข้ามาเองงั้นเหรอ?ไม่ไกลนัก หม่าจือหยางเดินเข้ามา เขามีสมุดประวัติการรักษาสองเล่มในมือ พูดพลางเดินเข้ามา “คุณหมอชู พรุ่งนี้ผมขอลาพักร้อนนะครับ”ชูหลานเหลือบมองหม่าจือหยาง หม่าจือหยางยื่นใบลาพักร้อนให้ชูหลาน“ค่ะ” ชูหลานตอบรับหม่าจือหยางมองฉู่เหมียน แล้วเลิกคิ้ว ก่อนจะหันหลังเดินจากไปฉู่เหมียนสังเกตเห็นใบลาพักร้อนในมือของชูหลาน นั่นเป็นลายมือของหม่าจือหยางแน่นอน“ลายมือรองผู้อำนวยการหม่า สวยดีนะคะ” ฉู่เหมียนพูด“ค่ะ ลายมือรองผู้อำนวยการหม่าอ่านง่ายดี หนักแน่นด้วย” ชูหลานเก็บใบลาพักร้อนไว้ฉู่เหมียนเหลือบมองอีกสองสามครั้ง แล้วก็ไปทำงานต่อแผนกฉุกเฉิน ฉู่เหมียนไปส่งเอกสาร กำลังจะจากไปก็ได้ยินเสียงคนเรียก “คุณหมอฉู่ มารับคนไข้เหรอคะ?”ฉู่เหมียนงง อะไรนะ?“มีคนไข้ของแผนกคุณอยู่ที่นี่พอดี อย่าลืมไปรับนะคะ” พยาบาลสาวเตือนฉู่เหมี

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 292

    ฉู่เหมียน “…” ก็เธอไม่ใช่เหรอ?“ตำแหน่งของใครมีความขัดแย้งกับลู่เจียวมากที่สุด?”ฉู่เหมียน “…”แผนกศัลยกรรมหัวใจมีหมอสองคน ถ้าตำแหน่งเดียวกัน ก็คงเป็นฉันสินะฉู่เหมียน “คุณหมอหลิน อย่าเอาแต่วิเคราะห์เลยค่ะ” ขืนยังวิเคราะห์ต่อไป เดี๋ยวจะถูกตัดสินว่ามีความผิดเอาเสียเองทุกอย่างชี้ไปที่เธอ ยากจะแก้ตัวจริง ๆฉู่เหมียนเท้ามือลงบนโต๊ะ ถอนหายใจอย่างหนักหน่วง “ขนาดวันหยุดสุดสัปดาห์ฉันยังนอนไม่หลับเลย”“งั้น… คุณพักร้อนสักสองสามวันไหมครับ?” หลินเฮิงชุยถามความเห็นของฉู่เหมียนอย่างระมัดระวังฉู่เหมียนตกใจ ทำไมล่ะ? ทำอย่างนั้นก็เหมือนกับตัวเองมีความผิดน่ะสิ!เธอไม่ทำอย่างนั้นหรอก ไม่เพียงแต่จะไม่พักร้อน แต่ยังจะปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนอย่างองอาจทุกวันอีกด้วยจดหมายแจ้งเบาะแสฉบับนี้ “จริง ๆ แล้ว คุณไม่ได้เป็นคนเขียนใช่ไหม?”หลินเฮิงชุยเองก็เริ่มสงสัยแล้วฉู่เหมียน “…” ฉู่เหมียนเริ่มปวดหัว“ฉันไปดูที่ห้องควบคุมกล้องวงจรปิดดีกว่า” ฉู่เหมียนยิ้มขณะที่กำลังพูด ประตูห้องทำงานก็ถูกเคาะ เป็นพนักงานผู้รับผิดชอบเรื่องนี้“ผลการตรวจสอบกล้องวงจรปิดออกแล้วเหรอครับ?” หลินเฮิงชุยสวมแว่น รู้สึกว่ามีหว

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 291

    ขณะที่ฉู่เหมียนกำลังคิดไม่ตกว่าจะพูดอย่างไร เสียงแตกของแจกันที่ตกพื้นในห้องผู้ป่วยก็ดังขึ้น“กรี๊ดดด!”เสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังแว่วแทรกเข้ามาในหูกู้ว่างเชินรีบเปิดประตูห้องผู้ป่วยเข้าไปทันที พบว่าผลไม้ถูกโยนมาตกอยู่ที่เท้าของเขากู้ว่างเชินเดินเข้าไปข้างใน ลู่เจียวกำลังนั่งอยู่บนเตียง ผมยุ่งเหยิง ดวงตาแดงก่ำ ดูเหมือนจะใกล้ถึงขีดสุดของความอดทนเมื่อลู่เจียวเห็นกู้ว่างเชิน เธอก็ร้องไห้จนพูดไม่ออก จบแล้ว จบสิ้นแล้วจริง ๆกู้ว่างเชินไม่ยอมรับตัวตนของเธอ ตอนนี้อาชีพที่เธอภาคภูมิใจที่สุดก็หายวับไปแล้ว!เธอจะทำอย่างไรดี?กู้ว่างเชินขมวดคิ้ว ลู่เจียวดูโทรมลงทุกวัน ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เธอต้องมีปัญหาแน่ กู้ว่างเชินเก็บของที่ตกอยู่บนพื้น ลู่เจียวก็โยนลงไปอีกกู้ว่างเชินไม่พูดอะไร แค่คอย ๆ เก็บขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะข้างเตียงซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งลู่เจียวเหนื่อยที่จะโยน เธอหยุดโยนแล้วเอาแต่ร้องไห้กู้ว่างเชินรู้สึกอึดอัดใจ เดินเข้าไปลูบหัวลู่เจียวเพื่อปลอบโยน เมื่อเห็นเช่นนั้น ลู่เจียวก็ร้องไห้หนักกว่าเดิมเธอลุกขึ้นคุกเข่าแล้วโอบกอดกู้ว่างเชินไว้ ดูเหมือนว่ามีเพียงกู้ว่างเชินเท่

  • สุดไขว่คว้าภรรยาคืนใจ   บทที่ 290

    ฉู่เหมียนตกใจ ร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ? ถึงกับต้องฉีดยา!“ใช่ค่ะ ตอนนี้คุณกู้กำลังรออยู่หน้าห้อง เป็นห่วงเจียวเจียวมาก” ซางหานถอนหายใจพอพูดถึงเรื่องนี้ ทุกคนต่างก็คิดว่าฉู่เหมียนแพ้แบบไม่ยุติธรรม!ทุกอย่างของฉู่เหมียนดีกว่าลู่เจียว แต่กลับแพ้ในเรื่องของกู้ว่างเชินฉู่เหมียนกัดริมฝีปาก ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วลุกขึ้น “ฉันจะไปดูหน่อย”“อย่าไปเลยค่ะ ถ้าเจียวเจียวตื่นขึ้นมา ไม่รู้ว่าเธอจะด่าคุณยังไงบ้าง พยาบาลบอกว่าตอนที่เธอกำลังใจเสีย เธอพูดว่า...” พูดมาถึงตรงนี้ ซางหานก็เงียบไปฉู่เหมียนไม่เข้าใจ พูดว่าอะไรล่ะ?ซางหานเกาหัว ดูเหมือนไม่อยากจะเล่าต่อฉู่เหมียนยิ้ม “พูดมาเถอะ ไม่เป็นไรหรอก”คำพูดที่ออกมาจากปากของลู่เจียวเจียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเกี่ยวกับเธอ…ฉู่เหมียน คงไม่ใช่เรื่องดีแน่“ลู่เจียวบอกว่า เธอจะฆ่าคุณซะ...” ซางหานพูดฉู่เหมียนเม้มปาก เป็นอย่างที่คิดไว้จริงด้วย“เพราะงั้นคุณหมอฉู่ ตอนนี้คุณต้องระวังตัวตอนอยู่ในโรงพยาบาลนะคะ เพราะทุกคนต่างก็คิดว่าคุณเป็นคนแอบเขียนจดหมายร้องเรียน” ซางหานเตือนฉู่เหมียนฉู่เหมียนพยักหน้า ลูบหัวซางหาน “ได้ พี่รู้แล้ว ไปทำงานเถอะ!”“

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status