“ไหนบอกไม่ได้เสียใจไง”
“กูไม่ได้เสียใจขนาดนั้น แต่กูเสียดายที่เคยไว้ใจต่างหาก ถ้าเลิกกันก่อนแล้วค่อยไปคบกันทีหลังไม่ได้เหรอวะ เฟลฉิบหายเลย” กรรวีระบายความในใจออกมาด้วยน้ำเสียงเมามายเริ่มไม่ได้สติ เมื่อคิดไปถึงเรื่องของสาธิตกับนานาอดีตพี่สาวที่แสนดีที่เธอเคยไว้เนื้อเชื่อใจ แล้วเธออดกลั้นไม่ไหวจนปล่อยโฮร้องไห้
“ไหนมึงบอกว่าไม่ได้รัก ไม่ได้เสียดายไอ้พี่ธิตมากมายไง แล้วนี่ร้องไห้ทำบ้าอะไรคะ” เฟิร์นพูดต่อเมื่อเห็นกรรวีมีน้ำตาเอ่อคลอเต็มเบ้า อยากปลอบเพื่อนให้หายเศร้าแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง พูดจาภาษาดอกไม้ก็ไม่ใช่ตัวเองอีก กระนั้นทั้งกลุ่มก็ยังรับรู้ได้ถึงความจริงใจที่มีให้กัน
“กูก็ไม่ได้ร้องไห้เสียใจที่เลิกกับมันไหมล่ะ กูก็แค่เจ็บใจอะ ที่เหมือนโดนหักหลัง” ก่อนหน้านี้กรรวีเคยคิดว่าตัวเองสนิทกับนานาพอสมควร
นานาเองเคยเป็นแม่สื่อแม่ชักให้เธอกับสาธิต ถึงเพื่อนจะเคยทักว่านานาเหมือนตั้งใจเข้ามาสนิทกับเธอเพื่ออะไรบางอย่าง นางดูไม่จริงใจเท่าไหร่ เรื่องนั้นทำไมกรรวีถึงจะไม่รู้ เธอเองก็ไม่ใช่คนที่ดูใครไม่ออกหรอก แค่เธอไม่อยากเชื่อมากกว่าว่าสาธิตก็เล่นด้วย คิดว่าปรบมือข้างเดียวยังไงมันก็ไม่ดัง
หากเลิกกับเธอก่อนแล้วไปคบกันทีหลังเธอคงไม่ว่าอะไร แต่นี่แอบไปมีอะไรกันลับหลังจนเธอจับได้แถมยังไม่ยอมให้เธอบอกเลิกและยังมีหน้ามาขอโอกาสบอกว่าแค่เรื่องผิดพลาดอีก มันยิ่งน่าเจ็บใจ ผิดพลาดบ้าบออะไรถึงได้ท้อง!
พอเริ่มทะเลาะและมีปากเสียงกันทีไร สาธิตมักโยนความผิดมาให้ว่าเธอไม่ใส่ใจเขาเท่าที่ควร ไหนจะบรรดาพี่ชายของเธอที่คอยกันท่าและส่งคนมาป่วนไม่หยุดหย่อน จนเขาเผลอหวั่นไหวไปกับนานาที่คอยมาดูแลเอาใจใส่จนเผลอใจไปมีอะไรกัน จากที่สาธิตไม่ยอมที่เธอบอกเลิก เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่วันเขาก็ดันมาบอกเลิกเธอเอง
นี่ไงเหตุผลใหญ่ที่ทำให้เธอเจ็บใจที่สุด หักหน้ากันชัด ๆ
“เออเอา! ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ละ ถ้ามันอยากเมาก็ปล่อยให้มันเมาให้ลืมเศร้าไปเลยแล้วกัน เดี๋ยวค่อยหาทางพามันกลับบ้านอีกที” เฟิร์นพูดขึ้น
“พามันกลับยังไงก่อน กูว่าพวกเราก็ไม่น่ารอดกันซ้ากกกคน” จูนถามกลับอย่างเมามายไม่ต่างจากกรรวี
ตัวจูนเองนัดให้แฟนมารับแล้ว เฟิร์นก็คงไม่ใช่ปัญหาเพราะว่ารายนั้นดีลผู้ชายเอาไว้แล้วเหมือนกัน ส่วนเพื่อนคนอื่นนั้นไม่มีใครเมากันเพราะพรุ่งนี้ต้องเข้าเวร ก็คงไม่พ้นให้เพื่อนที่ยังไม่เมาเข้าไปส่งกรรวีนั่นแหละ
“ถ้าให้ไปส่งมัน กูไม่ไปคนเดียวนะบอกก่อน เดี๋ยวโดนลูกน้องพ่อมันกระทืบ” การไปส่งกรรวีในสภาพปกติเวลาปกติคงไม่มีปัญหา แต่หากไปเอาเวลาดึก ๆ ในสภาพเมาหัวราน้ำแบบนี้ มีหวังอาจจะโดนดีได้ กลัวคนที่บ้านของเพื่อนสาวจะเข้าใจผิดคิดว่าเขาทำมิดีมิร้ายเธอ ให้เพื่อนตัวดีลุกขึ้นมาอธิบายก็คงไม่ไหว
“ใครมันจะไปทำอะไรพวกพี่ คนที่บ้านพี่หงส์ก็น่าจะรู้ดีว่าพี่เป็นเพื่อนสนิทกัน”
“งั้นมึงไปส่งมันเองไหมล่ะ มึงเป็นรุ่นน้องในกลุ่มเหมือนกัน” เจสวนกลับ จะช่วยใครได้วะแต่ละคน แค่ให้นั่งตรง ๆ ยังทำไม่ไหวเลย
“หึ! ถึงจะรักพี่หงส์คนสวยขนาดไหน แต่แจ๊คน้อยคนนี้ก็ยังรักชีวิตตัวเองอยู่ดีนะบอกเลย เพราะฉะนั้นแจ๊คขอบาย” แจ๊ครีบส่ายหน้าหวือปฏิเสธอย่างไว
“ก็ไปส่งมันให้หมดนี่แหละ มีผู้หญิงไปด้วยไม่มีใครว่าอะไรหรอก ถ้าเห็นว่าพวกเรามากันยกกลุ่ม” กิ๊กเสนอ
“เออ เอางั้นก็ได้นะ” ทุกคนตกลงกันเมื่อเห็นว่ามันคือวิธีที่ดีที่สุด ในขณะที่ตัวปัญหาอย่างกรรวีเอาแต่นอนฟุบหน้ากับโต๊ะ หนักหัวจนโงไม่ไหว
ถึงเวลาผับปิด นักท่องราตรีต่างแยกย้ายกันกลับ พวกของกรรวีพยุงกันลุกขึ้น เป็นหน้าที่ของแบม เจและแจ๊คที่ต้องคอยดูแลเพื่อนผู้หญิงในกลุ่มตามเคย
“มากับพวกห่านี่ทีไรภาระฉิบหายเลยวุ้ย!” เจบ่นอุบ พลางรับหน้าที่โอบประคองกรรวีไปขึ้นรถ แต่ก็โดนรั้งไว้จากด้านหลังจนชะงัก
“เดี๋ยวผมจัดการเอง”
ไม่รู้หรอกนะว่าหลังจากเธอเดินออกมาเรวัตจะพาผู้หญิงคนนั้นไปไหน พยายามไม่คิด พยายามจะไม่รู้สึกอะไรเพราะรู้ว่าเขาเป็นคนแบบไหน แต่ในใจลึก ๆ ก็อดรู้สึกไม่ได้อยู่ดี ถ้าเขาพาผู้หญิงคนนั้นเข้าห้องไปแล้วมีอะไรกันต่อล่ะ ห้องที่เธอกับเขาเพิ่งนอนด้วยกันมา ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ มันโคตรเจ็บเลยนะใบหน้าสวยฟุบลงตรงพวงมาลัยรถยนต์กะว่าจะปล่อยโฮร้องไห้ให้สาแก่ใจเสียหน่อย แต่ไม่ทันที่น้ำตาจะไหลประตูรถฝั่งที่เธอนั่งกลับโดนเปิดออกโดยฝีมือใครบางคนอย่างถือวิสาสะ เงยหน้าขึ้นมองก็ต้องเบือนหน้าหนี กลอกตาปั้นหน้าบึ้งตึงทั้งที่ในใจแอบรู้สึกดีที่เรวัตตามเธอมา เขาไม่ได้หิ้วผู้หญิงคนนั้นไปต่ออย่างที่เธอคิด“ลุก” เขาสั่ง เธอขมวดคิ้วถามทางสายตาว่า ‘อะไร!’ เป็นคำพูดที่ไม่มีเสียงแต่เขารับรู้ได้“พี่ขับให้”“จะตามมาเอานอกสถานที่รึไง ค่าตัวหงส์แพงนะ สู้ไหวเหรอ?” ปากอยู่ไม่สุข อดพูดประชดประชันไม่ได้ เรื่องที่โดนเขาว่าเธอไม่มีทางลืมง่าย ๆ หรอกนะ“แล้วได้ปะล่ะ คิดเท่าไหร่ก็ว่ามาเลย” นี่ก็ปากหมาไม่หาย เพิ่งโดนโกรธไปยังไม่เข็ดใช่ไหมไอ้เหี้ยเรย์!“ถอยไป!” กรรวีหน้าตึงออกปากไล่ เตรียมปิดประตูใส่แต่คนตัวสูงกลับขืนไว้ก่อนจะยกอุ้มร่
“ไปรอพี่ข้างล่างนะครับ เดี๋ยวพี่ลงไป” เรวัตกดเสียงต่ำพูดย้ำอีกครั้ง คาริสาเริ่มรู้สึกได้ถึงความไม่พอใจกว่าเก่าหลายเท่าตัว เธอทำอะไรไม่ได้นอกจากลงไปรออยู่ข้างล่างตามคำลั่งของเขา แต่ในจังหวะที่คาริสาจะหันหลังเดินกลับมาประตูห้องก็เปิดอ้าขึ้นอีกครั้ง จนทุกสายตาต้องหันไปมองกรรวีที่ยืนฟังเสียงคนคุยกันอยู่หน้าห้องพักใหญ่ ได้ยินบ้างไม่ได้ยินบ้าง แต่ที่รู้แน่ชัดคือผู้หญิงคนนั้นขึ้นมาตามเขา เธอได้แต่ถามตัวเองว่า... แล้วเราจะนั่งอยู่ทำไม ต้องมาหลบ ๆ ซ่อน ๆ แล้วรอให้เขาไปกับใครต่อใครปล่อยให้เธอนั่งอยู่ในเงามืดไร้ตัวตนต่อไปแบบนี้น่ะหรือ เธอไม่ได้เกิดและเติบโตมาอย่างดีเพื่อเป็นคนในความลับของใคร เพราะฉะนั้นจะรออะไรหญิงสาวลุกขึ้นจัดแจงเสื้อผ้าที่พอจะใส่ออกไปได้ จีสติงยังพอใส่ได้ แต่เสื้อชั้นในขาดวิ่นไม่เหลือชิ้นดี เธอจัดเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งที่กำลังสวมใส่ให้เข้าที่เข้า ใช้ทิชชูซับหน้า ปาดน้ำตา จัดทรงผมเสร็จก็สวมส้นสูงเดินออกไปนอกห้อง เมื่อพ้นออกมาจากกรอบประตูห้อง สายตาของผู้หญิงทั้งสองก็ประสานกันอย่างอัตโนมัติ และชัดเจนมากว่าความรู้สึกแรกคือทั้งสองไม่ชอบขี้หน้ากันอย่างแรง'เหอะ อีเตี้ย!' กรรวีด่าในใจ
ขณะที่เรวัตกอดรั้งง้องอนกรรวีไม่ให้จากเขาไปกลับมีใครบางคนเคาะประตูห้องเสียงดังลั่น ดึงสายตาของทั้งคู่ให้หันไปมอง ชายหนุ่มจะทำเป็นไม่สนใจเพราะคิดว่าเป็นลูกน้อง เขาตั้งใจจะอุ้มกรรวีเข้ามาในห้องนอนที่อยู่ในสุด แต่ประตูห้องก็โดนเคาะเรียกอีกครั้งก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!เคาะรัวแบบนี้คงเป็นไอ้ฮาซีฟเพราะลูกน้องคนอื่นคงไม่กล้า พวกมันรู้ว่าหากทำแบบนี้เขาจะไม่พอใจ‘เคาะขนาดนี้มีใครมาฆ่ากันตายในผับกูรึเปล่าวะ’ก่อนจะไปเปิดประตูดูว่ามีเรื่องอะไร เรวัตอุ้มกรรวีเข้ามาวางบนเตียงขนาดสี่ฟุตในห้องนอนแล้วสั่งห้ามเธอออกมาเพราะกลัวว่าลูกน้องจะเห็น ไม่ใช่อยากจะปิดแค่ไม่อยากให้ใครเห็นร่างกายหญิงสาว เพราะเชิ้ตของเขาที่เธอกำลังสวมใส่มันสั้นปิดแค่โคนขาอ่อนเท่านั้นเองร่างสูงหยิบกางเกงยีนส์สีเข้มขึ้นมาสวมใส่ ท่อนบนเปลือยเปล่าไม่ใส่อะไรเดินไปเปิดประตูห้องด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์ที่โดนขัดคอเวลาเขาจะง้อเมีย“มีเหี้ยอะไร!” สิ้นเสียงตะคอกเรวัตกลับต้องชะงักเมื่อเปิดประตูมาแล้วเห็นว่าคนที่ยืนอยู่หน้าห้องไม่ใช่ฮาซีฟแต่เป็น…“ริสา”“พี่เรย์... ยุ่งอยู่หรือเปล่าคะ” คาริสาเอ่ยถาม ทั้งที่สองเบ้าตากำลังมีน้ำตาเอ่อคลอ ดวงตาคู่ส
“โอ๊ย พี่เรย์ หงส์ไม่ไหว อ๊าย!” ฝามือใหญ่ฟาดลงบั้นท้ายอวบขาวจนขึ้นเป็นรอยแดงซ่าน เสียงเนื้อกระทบกันสอดประสานกับเสียงครางหวานดังก้องไม่นานที่เรวัตก็ปลดปล่อยเชื้อพันธุ์อัดเข้าใส่ร่องรักของเธออย่างตั้งใจโดยไร้การป้องกันใด ๆ ทั้งสิ้นแรก ๆ ก็มีใส่ถุงยางบ้างแต่ว่าพักหลังมาเขาไม่เคยที่จะป้องกันกับเลยสักครั้ง วันนี้ก็เช่นกันเขากดท่อนลำย้ำอยู่แบบนั้นเนิ่นนานกว่าจะดึงออกไป เรวัตจับกรรวีพลิกกายให้นอนหงายเพื่อจะเริ่มบทรักบทใหม่ หากแต่ครั้งนี้คนใต้ร่างกลับรวบรวมแรงที่มีทั้งหมดผลักเขาออกห่างไปก่อนจะพยุงตัวเองลุกขึ้นนั่งและตะคอกใส่หน้าออกมาเสียงดังอย่างสุดจะทน“หยุดสักที! หงส์ไม่ใช่กะหรี่ที่พี่จะอยากเอาตอนไหนก็ได้นะ ถ้าอยากนักก็ไปหาผู้หญิงของตัวเองเถอะ อยู่ข้างนอกโน่นไปสิ” อยากจะเอาก็เอาจนได้ไม่ถามความสมัครใจกันเลยสักนิด เวลาคิดจะไปก็ไปไม่เคยสนใจความรู้สึกกัน เธอไม่ใช่ดอกไม้ริมทางที่เสร็จกิจแล้วเขาจะทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ได้นะ!“อย่าว่าตัวเองแบบนั้นสิ เธอจะเป็นกะหรี่ได้ยังไง เพราะเท่าที่จำได้ พี่ไม่เคยเสียตังค์ให้เธอเลยสักบาทเดียว” คำที่พูดพ่นออกไปไม่ได้ตั้งใจจะดูถูกแต่มันเกิดจากความโมโหที่เห็นว่าเธอเอาต
“ว้าย! พี่ทำบ้าอะไรของพี่เนี่ย อื้อ อย่าทำแบบนี้พี่เรย์” กรรวีกรีดร้องดิ้นเร่าเมื่อเรวัตเริ่มฉีกทึ้งเสื้อผ้าของเธอออกมาจนขาดวิ่นไม่เหลือชิ้นดีถ้าจะใส่แบบนี้ก็ไม่ต้องใส่ สั้นแค่คืบแทบจะปิดง่ามดากไม่ได้ นั่งทีกระโปรงร่นเห็นไปถึงลำไส้ใหญ่ ไหนจะไอ้หน้าอกหน้าใจล้นทะลักนี่อีก หวงโว้ย!“ทำไมพี่จะทำไม่ได้ เพิ่งจะมาหวงตัวอะไรเอาตอนนี้” ทีกับผู้ชายคนอื่นเธอยังปล่อยให้กอดได้ แต่กับเขาทำไมไม่ยอมให้เข้าใกล้ทั้งที่เคยไปถึงไหนต่อไหนกันมาแล้วเรวัตใช้ความชำนาญในการปลดบราและแพนตี้ตัวบางออกมาจากร่างหญิงสาวแล้วโยนมันทิ้งไปอย่างไม่ไยดี ก่อนจะใช้มือเพียงข้างเดียวปลดเข็มขัดจัดการรั้งกางเกงลงมากองตรงหน้าขาแล้วส่งลำกายที่ขยายใหญ่เต็มที่เข้าจ่อยังร่องสาวของคนที่นอนเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ปกปิดใด ๆ“ไม่เอานะพี่เรย์ อย่า!” ใจหนึ่งเธอก็คิดถึงเขาแต่เมื่อนึกถึงหน้าผู้หญิงอีกคน บอกเลยว่าตอนนี้ไม่มีอารมณ์อย่างแรง“ทำไม? หึ ทำเป็นไม่เคยไปได้” มุมปากหยักกระตุกยิ้มพอใจที่เห็นคนใต้ร่างเนื้อตัวสั่นเทาราวกับลูกนก เขาหยัดกายขึ้นมาถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกจนเผยให้เห็นร่างกายกำยำเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยมัดกล้ามและรอยสักน่าเกรงขาม ร่
“อีเจ๊ เสร็จยังวะ” ไม้ที่จัดการธุระตัวเองเสร็จแล้วตะโกนเข้ามาในห้องน้ำหญิงฝั่งตรงข้ามเพื่อถามกรรวี ทำไมชะนีมันต้องใช้เวลาเข้าห้องน้ำนานขนาดนี้ด้วยไม่เข้าใจ“ยัง! กลับโต๊ะก่อนก็ได้นะ แต่งหน้าใหม่แป๊บ” เธอตะโกนตอบออกไป ช่วงนี้พักผ่อนน้อย นอนก็ไม่ค่อยจะหลับเพราะมีเรื่องให้คิดในหัวมากมายไปหมด สภาพที่มาวันนี้คือง่วงตาปรือมากเลยกะจะล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นแล้วลงแป้งแต่งหน้าใหม่เผื่อเจอหนุ่มงานดีถูกใจจะได้พร้อมอ่อยในเมื่อตั้งใจจะมูฟออนแล้วเราจะโทรมเหมือนผีไม่ได้“ครับ!” ไม้ตอบเสียงเข้มแบบสุภาพมาคำเดียวก่อนจะได้ยินเสียงฝีเท้าเดินหายไป‘แหม~ ทำมาคงมาครับนะอีไม้’ถ้าให้เดากรรวีคิดว่าไม้น่าจะเจอคนถูกใจเลยตอบเสียงแมนแบบนั้น หากกลับโต๊ะไปแล้วไม่เจออีไม้แปลว่ามันคงลากผู้ชายไปกินที่ไหนสักที่แล้วร้อยเปอร์เซ็นต์ เห็นว่าหล่อเข้ม แมน กล้ามใหญ่แบบไม้ แต่นางก็กินผู้ชายนะ เป็นสายรุกแต่คนนอกอาจจะมองไม่ออกเท่าไหร่‘ชิ! หมั่นไส้ ทำไมคนอื่นเขาหาคู่กันง่ายจัง’ กรรวีบ่นไปแต่งหน้าไป ใช้เวลาไม่นานก็เสร็จเพราะแค่ลงแป้งบาง ๆ กับปัดแก้มให้ดูมีเลือดฝาด ทาลิปมันเปลี่ยนสีเน้นลุคสดใสกระชากใจวัยรุ่นกรุบกริบ เคยได้คนแก่กว่