Share

บทที่ 34

Author: Karawek House
last update Last Updated: 2025-08-27 23:53:48

หยางหยางมองส่งผู้เป็นอาจารย์จวบจนม่านกระโจมปิดสนิทแน่น

กระโจมเพิ่งจะถูกปิดลง เจ้าของกระโจมก็เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่า ณ ที่แห่งนี้ ไร้ซึ่งข้าวของที่จำเป็นสำหรับสตรี อย่างน้อยๆ ก็เสื้อผ้าอาภรณ์...

เขารีบสั่งให้ม้าเร็วไปแจ้งแก่แม่ทัพฝ่ายขวาที่เลี่ยงจินอู่ เพื่อนำเอาข้าวของเครื่องใช้สำหรับสตรีกลับมาจำนวนหนึ่ง

ม้าเร็วไม่อาจคาดเดาว่าไอ้จำนวนหนึ่งที่ว่านั้นมันคือจำนวนเท่าใด ได้แต่แจ้งแก่แม่ทัพฝ่ายขวาไปตามนั้น ท่านแม่ทัพฝ่ายขวาฟังแล้วหลับตานิ่งสนิท ได้แต่รำพึงรำพันในใจ

ดีเสียจริง พวกท่านแต่ละคน จะทำสิ่งใดไม่ปรึกษาหารือกันแม้แต่น้อย ทั้งที่ลำดับขั้นตอนการสั่งการในกองทัพก็มีอยู่ สักแต่ส่งม้าเร็วมาทีละราย ช่างร้อนรนไร้สติยิ่งนัก!

แม่ทัพฝ่ายขวาจนใจ จึงได้แต่จัดหาสิ่งที่แม่ทัพใหญ่นายตนต้องการมาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ก่อนจะสั่งให้ม้าเร็วรายสุดท้ายที่เพิ่งจะมาถึงนี้ขนข้าวของเหล่านั้นส่วนหนึ่งล่วงหน้าไปก่อน ส่วนอีกเจ็ดส่วนให้บรรทุกไปกับรถม้าของคณะเดินทางหญิงหม้ายสกุลอวี๋ คนของหยางหยางจึงกลับมาถึงค่ายพักทัพก่อนคณะเดินทางของหญิงหม้ายสกุลอวี๋รวดเร็วถึงหนึ่งชั่วยาม ทันให้หยางหยางได้ช่วยสวมสิ่งที่สมควรสวมใส่ให้หนิงซินอย่างเงอะๆ งะๆ

แม้จะผ่านสตรีมาไม่น้อย พอจะรู้จักเครื่องแต่งกายของสตรีอยู่บ้าง ทว่าที่แล้วมา เขาเพียงแต่นอนๆ นั่งๆ เป็นพวกนางเองทั้งนั้น ที่กระตือรือร้น แข่งกันปลดอาภรณ์ชิ้นนี้ ถอดชิ้นนั้น อย่างง่ายดายและรวดเร็วจนแทบดูไม่ทัน ว่าปลดถอดชิ้นไหนออกมาจากตรงไหน อย่างไรบ้าง

เหนือสิ่งอื่นใด ตัวเขาหาได้เคยใส่ใจไม่

นี่กระมัง ที่คนเขาว่า ปลูกผลไม้ใดย่อมเด็ดได้ผลเช่นนั้น

ทว่า...การที่เขาไม่ฝักใฝ่ในสตรี เสพสุขเพียงเพื่อรักษาไมตรีเหล่าเจ้าเมือง หัวหน้าชนเผ่า ก็หาใช่ความผิดของเขานี่นา...

นอกจากจะรู้สึกผิดยิ่งแล้ว จู่ๆ หยางๆ ก็รู้สึกอัปยศอดสู และอับอายขายหน้า จนหัวหูแดง ทว่าใบหน้ากลับดำคล้ำไปหมด

หนิงซินขยับตัวแทบไม่ไหว ได้แต่ปล่อยให้แม่ทัพใจทรามกระทำสิ่งนั้นกระทำสิ่งนี้ ท้ายที่สุดก็ถึงขั้นผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ให้นาง

ต้องยอมรับว่าแม้คนผู้นี้จะกระทำสิ่งต่างๆ เงอะๆ งะๆ อยู่บ้าง แต่เขาก็ล้วนกระทำอย่างใส่ใจและทะนุถนอมนางราวกับว่า นางเป็นสิ่งที่เปราะบางจนอาจแตกหักได้ หากไม่ระวัง

การประพฤติเช่นนี้ สีหน้าท่าทีเช่นนี้ ทำให้โทสะที่เกิดขึ้นในใจนางคล้ายจะคลายลงสองส่วน

อันที่จริง ระหว่างที่นอนป่วยอยู่เพียงลำพัง พอนางได้คิดใคร่ครวญก็เข้าใจคนผู้นี้ และเลิกเกลียดชังเขาแล้ว

นางเข้าใจดี เขาโกรธแค้นนาง จึงลงมือกับนางเช่นนั้น นอกจากนี้แล้ว เขายังไม่จำเป็นต้องมาดูแลนางเช่นนี้ด้วยซ้ำ แต่เขาก็มาดูแลนางด้วยตนเอง...

ไม่แน่ว่าเขาอาจจะเลือกทำเช่นนี้เพราะคำนึงถึงเกียรติของนาง

ไม่แน่ว่าคนผู้นี้จะไม่ได้เลวร้ายโดยสันดาน เพียงแต่ถูกโทสะและสงครามกลืนกินจนจิตใจมืดบอดไปชั่วขณะ จึงได้...

ยามนี้หนิงซินเพิ่งจะเงยหน้าขึ้นมองสำรวจแม่ทัพใหญ่ผู้นี้จนเต็มตา

แม่ทัพใหญ่ผู้นี้ แม้จะแผ่รัศมีดุดันน่าเกรงขาม คิ้วกระบี่ก็ขมวดมุ่นเข้าหากันจนยุ่งเหยิง ทว่ายังพอมองออกว่าเส้นคิ้วนั้นมีขนาดพอเหมาะพอเจาะ

หนิงซินอ่อนล้า ทว่าเพียงกวาดตามองคนตรงหน้าทั่วทั้งร่างก็นึกขึ้นมาได้เพียงหนึ่งคำ

ปีศาจ...

แม่นมของนางเคยเล่านิทานเกี่ยวกับปีศาจตนหนึ่งให้ฟัง นางยังจำได้ดี ปีศาจในเรื่องเล่าของแม่นมก็เป็นเช่นนี้ รูปงามทว่ากลับไม่อ้อนแอ้นบอบบาง มีเรี่ยวแรงมหาศาล เป็นพวกสัญชาติดุดัน อันตราย ไร้ปรานี

ไร้ปรานี?

จู่ๆ หนิงซินก็รู้สึกขัดแย้งในใจขึ้นมา

ตอนนี้คนผู้นี้กำลังดูแลนางด้วยตนเองอย่างระมัดระวัง เช่นนี้แล้วจะนับว่าไร้ปรานีได้หรือไม่ ทว่า...หากนับว่านี่เป็นความปรานี แล้วสิ่งที่คนผู้นี้กระทำกับนาง จนนางต้องมีสภาพเยี่ยงนี้ สิ่งนั้นจะเรียกว่าอะไร?

นึกถึงภาพความทรงจำที่โหดร้ายขึ้นมาแล้ว หนิงซินก็กัดริมฝีปากไว้แน่น กลัวจะหลุดสะอื้นออกมา น้ำตาหลั่งออกมาไม่หยุดอย่างสุดจะกลั้น

แม้หยางหยางจะมัวผูกปมเสื้อตรงนั้น มัดปมแขนเสื้อให้นางตรงนี้ ทว่าเขาหาใช่คนหูหนวกตาบอด ตรงกันข้าม การใช้ชีวิตในฐานะนักรบซึ่งมีชาติตระกูลสูงส่งมาตั้งแต่ยังเยาว์ ทำให้เขามีประสาทสัมผัสทางกายเป็นเลิศ ทั้งยังมีความสามารถในการจับอารมณ์บรรยากาศจากผู้คนรอบตัวเป็นทุน ยามนี้ตรงหน้ามีสตรีนอนร้องไห้กลั้นสะอื้น เหตุใดบุรุษเช่นเขาจะไม่ทันรู้ตัวเลยสักนิด

เขารู้ตั้งแต่แรก แต่แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ปล่อยให้นางได้ปลดปล่อย ‘อารมณ์โศกเศร้าเสียใจ อารมณ์โกรธแค้นชิงชัง และความคับข้องใจที่ทำอะไรคนต่ำช้าที่ทำร้ายตนไม่ได้เลยสักอย่าง’ อย่างเต็มที่

แม้จะเงอะๆ งะๆ อยู่มาก แต่ท้ายที่สุด หยางหยางก็ดูแลเช็ดเนื้อเช็ดตัวผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หนิงซินเสร็จสิ้นเสียที

ชั่วอึดใจนี้เอง ที่ความอึดอัดถาโถมเข้ามาไม่หยุด

เขาสมควรทำอย่างไรต่อไปดี?

หยางหยางไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองโง่เขลา เหนื่อยล้า ไร้พลัง ทั้งยังขี้ขลาดเท่านี้มาก่อน

เขาไม่รู้เลยว่าสมควรพูดกับนางอย่างไร

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หนิงซินกงจู่ เชลยแค้นแสนรัก   บทที่ 57

    “มะ...ไม่ได้นะ...”“ข้ารับปากว่าจะไม่สังหารผู้ใดหากไม่จำเป็น”“แต่เหล่าทหารของทั้งเฮยเซ่อเย่ว์และแคว้นป๋ายก็ต้องเสียเลือดเสียเนื้อมิใช่หรือ” นางจ้องตาวิงวอนไม่ยอมแพ้อาจเพราะความกังวล มือที่ทาบทับแผงอกแกร่งพลันแข็งเกร็ง ขยับเหมือนหนึ่งจะกำ ท้องน้อยเองก็หดเกร็งเช่นกันหยางหยางสะดุ้งเล็กน้อยเพราะการกระทำนั้น ทำเอาหนิงซินสะดุ้งตาม แต่เพราะนางพยายามข่มใจไม่ให้รามือโดยง่าย มือที่ควรผละออกจึงกลายเป็นเคลื่อนไหวอยู่บนแผงอกแกร่งเหมือนหนึ่งแตะไล้หยอกเย้าจู่ๆ ส่วนที่ยังค้างคาอยู่ในกายนางส่วนนั้นก็ขยายตัวขึ้นอีกคราหนิงซินหน้าแดงจัด รู้สึกร้อนวูบไปทั้งหน้าทั้งตัว มือน้อยที่ทาบบนแผงอกกว้างยิ่งสั่นระริกไปกันใหญ่อา... นางช่าง...น่ารัก...หยางหยางพลันตื่นตัวเต็มที่อีกครั้ง ทำเอาเคร่งเครียด คิดหนัก...เมื่อครู่เพิ่งรังแกนางหนักหน่วงถึงเพียงนั้น หากลงมือซ้ำ เกรงว่าร่างกายเล็กๆ บอบบางใต้ร่างเขาอาจล้มป่วยลงอีกหน...“นะเจ้าคะ...ท่านแม่ทัพ ได้โปรด...” นางขอร้อง

  • หนิงซินกงจู่ เชลยแค้นแสนรัก   บทที่ 56

    เขากอดร่างนางไว้แน่น กระแทกแรงๆ อีกหลายครั้ง ก่อนดันอาวุธร้ายเข้าลึก จากนั้นบางอย่างก็ระเบิดโพลงอยู่ข้างในนั้น ทำเอาในกายนางอุ่นร้อนชุ่มแฉะไปหมดเขา...ปลดปล่อยสิ่งนั้นข้างในอีกแล้ว? หนิงซินเสียวซ่านสุดจะหาคำบรรยาย ส่วนอ่อนนุ่มกระตุกเกร็ง สองขาหนีบเข้าหากันแน่นโดยไม่รู้ตัวหยางหยางฟุบตัวลง กอดร่างนางไว้แน่น เนิ่นนานนักถึงเลื่อนมือขึ้นลูบศีรษะน้อยๆ ของนางอย่างเบามือ ก่อนเคลื่อนตัวขึ้นจูบหน้าผากทั้งที่บางส่วนยังคงค้างคากันอยู่ แล้วลูบหลังปลอบโยนอย่างแผ่วเบาสำหรับบุรุษเช่นเขาแล้ว ความสัมพันธ์ทางกายกับความรักนั้นเป็นคนละเรื่องกัน ทว่าครั้งนี้ กับองค์หญิงน้อยผู้นี้ เขากลับรู้สึกต่างออกไปเขาไม่เคยเอ็นดูใส่ใจ เฝ้าถนอมและหวงแหนผู้ใดเท่าสตรีในอ้อมกอดร่างน้อยนี้มาก่อน“เมื่อครู่...เจ็บหรือไม่” หยางหยางถามอย่างไม่มั่นใจนักตัวเขาเองก็พยายามยั้งมือ ยับยั้งชั่งใจมากแล้ว ทว่า...ช่วงสุดท้ายนั้น มันสุดจะระงับจริงๆหนิงซินได้ยินคำถามแล้วใบหน้าตึงและเห่อร้อนขึ้นทันทีนางก้มหน้างุด ซุกแผงอกแกร่ง ส่ายหน้าน้อยๆ“ท

  • หนิงซินกงจู่ เชลยแค้นแสนรัก   บทที่ 55

    จะไม่ให้นางตกใจได้อย่างไร ในเมื่อสิ่งที่เข้ามาในกายนางมันทั้งใหญ่โตมโหฬาร ทั้งดุนดันหน้าท้องนางจนอึดอัดคับแน่นไปหมด!สิ่งที่ทั้งร้อนและแข็ง ทั้งใหญ่ยาวเช่นนี้ เข้ามาในกายนาง!มิน่าเล่าครั้งแรกนั่นนางถึงได้...หนิงซินกระถดถอยหนีโดยสัญชาตญาณ แต่เขาขยับตาม“อา...” เขาครางอย่างพึงพอใจ ก่อนจะจับร่างนางขึ้นนั่งคร่อมร่างตนเองไว้ตอนแรกว่าตกใจแล้ว ตอนนี้หนิงซินกลับตกใจยิ่งกว่านางทั้งตกใจทั้งรู้สึกอับอายจนไม่อายนั่งตัวตรงอยู่ได้ ได้แต่หมอบกายลงกอดเกาะเขาไว้แน่น“แบบนี้น่าจะดีกว่า...” เขาบอกเสียงแหบห้าวหนิงซินหูอื้อตาลาย ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไรไม่ทันจะได้ถาม หยางหยางก็ค่อยๆ จับสะโพกนางขยับยก“ฮึก...!” เพียงเขาขยับมือเล็กน้อย เลือดลมในกายนางก็พลันแล่นพล่าน ความเสียวซ่านแปลกประหลาดแล่นปลาบจากปลายเท้าขึ้นสู่ศีรษะ ทำเอาตัวสั่นงันงกเหมือนลูกนกอ่อนแอยามแรกฟักจากไข่หยางหยางเห็นท่าทางนั้นแล้วยิ่งกว่าคันยิบๆ ในหัวใจ เขาทั้งเอ็นดูทั้งอยากรังแกนาง เอาคืนที่บังอาจมายั่วยวนบุรุษเช่นตน

  • หนิงซินกงจู่ เชลยแค้นแสนรัก   บทที่ 54

    แม่ทัพใหญ่สบตาคู่งามแล้วไม่อาจโกหกได้เขากล่าวเนิบช้า “เสด็จพ่อของเจ้าคิดเล่นเล่ห์กับข้า”หนิงซินตกใจ“มิใช่ว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดหรอกหรือ ท่าน...ท่านตรวจสอบดีแล้วหรือยัง”“ไม่มีสิ่งใดต้องตรวจสอบทั้งนั้น ข้ายื่นข้อเสนอที่ดีต่อทั้งสองฝ่ายที่สุดไปแล้ว บิดาเจ้าอิดเอื้อนไม่ทำตาม เรื่องก็มีเท่านี้”“เช่นนั้น...พวกท่านจะทำสงครามกันอีกหรือ” นางถามหน้าเผือดสีไม่นะ! นางจะยอมให้เกิดเรื่องเสียเลือดเนื้อเช่นนั้นไม่ได้เป็นอันขาดหนิงซินเปลี่ยนจากจับแขนเสื้อเป็นจับแขนเขาไม่ว่าจะต้องใช้วิธีใด นางก็จะต้องทำให้คนผู้นี้ให้โอกาสเสด็จพ่อของนางได้คิดอีกสักครั้ง นางไม่เชื่อหรอกว่าเสด็จพ่อของนางจะหน้ามืดตามัวจนมองไม่เห็นความเป็นจริงเช่นนั้น!ก่อนอื่น...ก่อนอื่นนางต้องรั้งเขาไว้ ทำให้เขาหยุดคิดเรื่องแต่งกำลังทหารเตรียมการรบเสียก่อน!“เมื่อครู่ท่านจะออกไปไหนอีกหรือ...อย่าไปเลยนะ”แม่ทัพเฮยเซ่อเย่ว์ไม่เข้าใจ“ข้ารู้ว่าเสด็จพ่อทำให้ท่านและเหล่าแม่ทัพนายกองขุ่น

  • หนิงซินกงจู่ เชลยแค้นแสนรัก   บทที่ 53

    “ทวยเทพช่างส่งท่านมาโปรดข้าโดยแท้” หนิงซินแย้มยิ้มงดงามดั่งบุปผา ทำเอาหญิงหม้ายสกุลอวี๋ที่เข้าใจผิดไปคนละเรื่องขวยอายจนแทบตัวลอยหนิงซินที่หาได้รู้อันใดสักนิด เผลอเลื่อนมือข้างหนึ่งลงลูบท้องน้อยแม้แต่สัตว์ยังรักลูกของมัน แล้วประสาอะไรกับนาง...ใช่ว่านางไม่ต้องการลูก สำหรับนางแล้ว ไม่ว่าลูกจะถือกำเนิดขึ้นมาด้วยเหตุใด ลูกก็ย่อมเป็นลูก เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของนาง...ทว่าการตั้งครรภ์กับผู้นำทัพฝ่ายศัตรูในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมมิต่างอะไรไปจากการตบหน้าราชวงศ์สกุลอิ๋ง ยังไม่นับอีกว่านางคือผู้ถือพรหมจรรย์แม้ข้อเท็จจริงจะเป็นเช่นไร นางก็ไม่ต้องการให้ผู้อื่นล่วงรู้ความจริงน่าอับอายที่ว่าองค์หญิงศักดิ์สิทธิ์แคว้นป๋ายถูกข่มเหงรังแก และ...นางมั่นใจว่าจะต้องเกิดเรื่องเช่นในคืนนั้นอีกมากกว่าหนึ่งครั้ง โดยที่นางไม่อาจห้ามปรามขัดขืนได้เลยวัดจากเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุด ยามนี้นางไม่กลัวบุรุษผู้นั้นอีกต่อไป สิ่งที่นางหวาดกลัว และทำให้กังวลเสียมากมาย ก็คือตัวนางเองพอได้รู้จักรสสัมผัสที่ชวนให้ใจสั่นและสุขสมอย่างน่าพิศวงนั้นแล้ว นางก็เปลี่ยนไป

  • หนิงซินกงจู่ เชลยแค้นแสนรัก   บทที่ 52

    นึกถึงสิ่งที่นางต้องประสบ หยางหยางก็ยิ่งโกรธคนเหล่านั้น ที่โกรธยิ่งกว่าคือโกรธที่ตนเองโทสะโมหะบังตาจนหน้ามืดตามัว ใจทราม ขาดสติ กระทำเรื่องหยาบช้าป่าเถื่อนเช่นนั้นลงไปราวกับไม่ใช่มนุษย์ปึง!!!เสียงทุบโต๊ะดังสนั่น ทำเอาเหล่าขุนศึกนายกองร่างใหญ่ยังอกสั่นขวัญผวาท่ามกลางความเงียบงัน แม่ทัพใหญ่เข่นเขี้ยวคำราม ออกคำสั่งเสียงเข้ม นัยน์ตาแดงก่ำเหมือนโลหิต“ส่งคนไปจับตาดูในจุดที่สำคัญ หากพบพิรุธแม้แต่น้อย ก็ไม่ต้องคิดแสดงความเมตตาเจรจาอะไรแล้ว! ระหว่างนี้ก็เฝ้าระวังค่ายพักทัพให้ดี หลายวันมานี้พักผ่อนกันพอแล้ว นับจากวันนี้เริ่มฝึกซ้อมไพร่พล เตรียมแผนการรบเผื่อเอาไว้ อย่าให้บกพร่อง!” เหล่าแม่ทัพนายกองฟังแล้ว บ้างแย้มยิ้มพยักหน้าเออออ บ้างก็ลูบหนวดเคราชอบอกชอบใจเห็นนายตนขึงขัง เอาจริงเอาจัง มีไฟในการสู้รบเช่นนี้ พวกเขาก็พลอยฮึกเหิมไปด้วยถูกแล้ว! ต้องอย่างนี้สิ จึงจะสมกับที่เป็นท่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status