LOGINตอนที่ 2 ทะลุมิติมาเป็นคุณหนู
“เฮือก!!” ร่างบางสะดุ้งตื่นอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้นางรู้แล้วทุกอย่างว่าตอนนี้ตนเองอยู่ในร่างของซูอี้หานบุตรสาวคนรองของใต้เท้าซู
“คุณหนูฟื้นแล้ว ข้าคิดว่าคุณหนูจะฟื้นมาไม่ทันเวลาเข้าพิธีอีกเจ้าค่ะ ใจข้าสั่นไหวไปหมด คุณหนูอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ” สาวใช้ข้างกายคนเดิมกุมมือของอี้เหยาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
‘นี่คือสาวใช้คนสนิทของอี้หานสินะ ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าตัวเองคือซูอี้หาน และวันนี้คือวันที่ต้องแต่งเข้าจวนอ๋องหวังหมิง ในเมื่อสวรรค์ต้องการให้ฉันเข้ามาอยู่ในร่างนี้ ฉันคงต้องแต่งงานกับเขาเหมือนเดิม เอาล่ะเป็นยังไงเป็นกันแต่งเข้าจวนไปก่อนเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง’ อี้เหยาคิดในใจ ก่อนจะยันกายลุกขึ้นสั่งสาวใช้แต่งกายให้ตนเอง
“ซูซูแต่งตัวให้ฉันสิ เราจะได้ออกเดินทางไปที่จวนชินอ๋องกัน ตอนนี้ฉันพร้อมแล้ว”
“เอ่อ ข้าคิดว่าคุณหนูต้องกระทบกระเทือนที่ศีรษะไปชนเข้ากับเสาไม้แน่ ๆ แม้แต่คำพูดของคุณหนูยังไม่เหมือนเดิม ข้าต้องแจ้งท่านใต้เท้าให้ท่านหมอมาตรวจดูเสียก่อนเจ้าค่ะ” อี้เหยาลืมสนิทว่าตนเองอยู่ในยุคที่พูดจาอีกแบบ นางตีเข้าที่หัวของตนเองเบา ๆ หนึ่งครั้งก่อนจะหันมายิ้มหวานให้ซูซู
“ซูซูไม่ต้องไปตามหมอมาตรวจข้าหรอก ตอนนี้ข้าดีขึ้นแล้วเมื่อครู่ ข้าฝันร้ายเหมือนมีอีกวิญญาณเข้ามาวุ่นวายแต่ตอนนี้ข้าดีขึ้นแล้ว รีบแต่งตัวก่อนที่ขบวนของชินอ๋องจะมาที่นี่เถอะ”
“แน่ใจนะเจ้าคะว่าคุณหนุไม่เป็นอะไรจริง ๆ” ซูซูรับรู้ถึงแววตาน้ำเสียงของคุณหนูราวกับว่าเป็นคนละคนกับคุณหนูที่นางเฝ้าดูแลมาตลอด
“ข้าบอกว่าไม่เป็นอะไรก็ไม่เป็นอะไร เร็วเข้าเดี๋ยวข้าจะเปลี่ยนใจไม่แต่งเสียหรอก”
“ได้เจ้าค่ะ พวกเจ้ารีบเข้ามาแต่งกายให้คุณหนูเร็วเข้า” แม้ว่าซูซูจะเอะใจแต่ยามนี้นางจะมาชักช้าไม่ได้อีกต่อไป รีบแต่งกายให้คุณหนู
เวลาผ่านไปพักใหญ่ขบวนชินอ๋องรถม้าหลายคัน เกี้ยวรับพระชายารองรวมทั้งทหารหลายนายมายืนรออยู่หน้าเรือนเต็มไปหมด เสียงของใต้เท้าซูดังขึ้นหน้าห้องของอี้หาน
“บัดนี้ขบวนชินอ๋องมาถึงแล้ว เจ้าเตรียมกายเสร็จหรือยังอี้หาน”
“นายท่านตอนนี้คุณหนูพร้อมแล้วเจ้าค่ะ” ซูซูเปิดประตูออกไปแจ้งนายท่าน อี้หานเดินตามหลังออกมาแต่งกายด้วยชุดสีแดงกำมะหยีใบหน้าถูกปกปิดด้วยผ้าคุมสีแดง ท่าเดินสง่างามไร้ที่ติ
“ท่านพ่อข้าพร้อมแล้วเจ้าค่ะ” อี้หานยื่นมือไปด้านหน้าให้ผู้เป็นพ่อจับเดินไปส่งชินอ๋องที่ยืนรออยู่หน้าเรือน
อี้หานสุดลมหายใจจับมือผู้เป็นบิดาเดินตามทางไปหน้าเรือน สาวใช้ในเรือนต่างพากันมายืนส่งนางรวมทั้งเสี่ยวมี่กับสามีของเธอที่มายืนรอส่งน้องสาวของตนเอง
“ซูอี้หานเมื่อไหร่ที่เจ้าก้าวเท้าออกไปจากเรือนตระกูลซู เจ้าจะไม่ใช่น้องสาวของข้าอีกต่อไปแต่เจ้าจะเป็นพระชายารองของชินอ๋อง ข้าขอให้ชีวิตของเจ้าต่อจากนี้พบเจอแต่เรื่องดี ๆ และมีความสุขในทุกวัน”
“ท่านพี่มิต้องห่วงเพราะความสุขของข้าหมดไปตั้งแต่วันที่ท่านและท่านพ่อตัดสินใจให้ข้าแต่งงานเพื่อประคับประคองและใช้อำนาจของชินอ๋องหนุนหลังตน ต่อจากนี้ข้ามิใช่ซูอี้หานผู้เดิมอย่างท่านกล่าวมาเมื่อใดที่ข้าก้าวเท้าออกไป ข้าคือพระชายารองของชินอ๋องหวังหมิงมิใช่ซูอี้หานผู้เดิม ขอให้ท่าพี่และท่านพ่อรักษาตัวให้ดี” อี้เหยารับรู้ความทรงจำทั้งหมดของเจ้าของร่างและรู้ถึงความคับแค้นใจ ความน้อยเนื้อต่ำใจที่ผู้เป็นบิดามอบให้ นางก้มโค้งลงต่อหน้าทั้งสองก่อนจะก้าวสเท้าออกไปนอกเรือนตระกูลซู เห็นบุรุษแต่งกายด้วยชุดสีแดงมงคลยืนคอยนางอยู่ด้านนอก
“เจ้าพร้อมจะไปกับข้าหรือไม่พระชายารอง” น้ำเสียงทุ่มต่ำดังขึ้นยื่นมือหนามาด้านหน้า อี้หานเห็นใบหน้าไม่ชัดกเพราะติดผ้าคุมใบหน้ารู้สึกถึงความสูงโปรงของเจ้าของเสียง นางยื่นมือไปจับมือหนาของเขาพร้อมตอบออกไป
“ข้าเลือกได้ด้วยหรือเพคะว่าพร้อมหรือไม่ ไม่อย่างไรข้าก็ต้องยอมไปกับท่านอย่างขัดขืนมิได้”
“ฮึ ฮึ ข้าชักชอบพระชายารองเข้าแล้วสิ สตรีมากมายในใต้หล้าต่างยอมสยบอยู่แทบเท้าของข้า แต่เจ้ากลับมิได้สนใจแต่กลับใช้คำว่าข้าบังคับอย่างนั้นหรือ? น่าสนใจดี อย่างนี้คืนนี้ข้าคงต้องมอบรางวัลของพระชายารองอย่า
งาม” มือหนาจับมือเรียวของนางแน่นพรางก้มตัวกระซิบข้างหูน้ำเสียงเย้ายวนจนอี้หานขนลุกซู่ ใช้มืออีกข้างดันกหายของเขาให้ออกห่าง
“เอ่อ ข้าว่าเราเดินทางกันเถอะเพคะ” เขาแสยะยิ้มขยับกายออกห่าง ก่อนจะพานางเดินไปที่เกี้ยวจากนั้นขบวนขันของชินอ๋องได้ออกเดินไปที่จวนของเขา ทำตามขนบธรรมเนียมประเพณี
การเดินทางไปที่จวนอ๋องมีซูซูเดินทางตามมารับใช้ด้วยทำให้อี้หานพอเบาใจอย่างน้อยก็มีคนของตนเอง
‘ในยุคสมัยนี้หายากนักคนที่จริงใจ ส่วนมากต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง อำนาจคือตัวการทำให้ผู้คนคิดไม่ดีต่อกัน การเอาชีวิตรอดต่อจากนี้ก็สำคัญรองจากการที่จะไม่เข้านอนกับชินอ๋องคนนี้ ยุคนี้คงไม่รู้จักโรคติดต่อทางเพศสินะ อย่างชินอ๋องหวังหมิงฉันคิดว่าอีกไม่นานเขาน่าจะเป็นโรคติดต่อตายแน่ ๆ มักมากขนาดนั้นและตัวฉันจะไม่ยอมให้เขามาแตะต้องแม้เพียงปลายเล็บ เดี๋ยวสิให้เมื่อฉันเป็นพระชายารองดัง
นั้นต้องมีพระชายาเอก เฮ้อ! แค่รับมือจากชินอ๋องึนเดียวก็คิดมากพออยู่แล้ว นี่ยังมีภรรยาหลวงอีก สวรรค์นี่ท่านลงโทษฉันหรือไงกัน ฉันแค่บ่นกับเพื่อนเรื่องที่ทำงาน เจอคนเรื่องมากเอาเปรียบ แค่บอกว่าไม่อยากทำงานแต่ไม่ใช่ให้ฉันทะลุมิติมาอยู่ในร่างของหญิงสาวยุคโบราณอย่างนี้สิ เอาว่ะในเมื่อตอนนี้เปลี่ยนแปลงไม่ได้แล้ว สิ่งแรกที่เข้าจวนต้องทำดีกับพระชายาเอกก่อน บอกเจรจำนงว่าฉันไม่ได้คิดอะไรและไม่คิดมาแย่งความรักของชินอ๋องจากพระชายาเอก แค่นี้ก็หมดศัตรูไปหนึ่ง ฮึ ฮึ’ อี้หานคิดในใจวางแผนรับมือเรื่องต่าง ๆ ต่อจากนี้
ตอนที่ 27 เลือกชินอ๋องเพียงไม่เกินครึ่งชั่วยาม แม่ทัพจัดการเหล่าทหารของใต้เท้าจางจนหมดสิ้นทุกคน หน้าวังหลวงเต็มไปด้วยกลิ่นคาวโลหิตคละคลุ้ง ทหารจัดการเก็บซากศพไปโยนทิ้งให้แร้งให้กากิน ส่วนหลางอี้ถูกจับตายเช่นเดียวกัน ตระกูลจางถูกจับทุกคนรวมถึงใต้เท้าที่เข้าร่วมก่อการกบฏครั้งนี้ทุกตระกูล สายของชินอ๋องหวังหมิงพาแม่ทัพบุกทลายที่ซุกซ่อนของใต้เท้าจางเสวี่ยหมิ่นไม่ทันได้ตั้งตัวหนีจึงถูกจับกุมมาที่คุกหลวง การตัดสินโทษของใต้เท้าจางคือการประหารเจ็ดชั่วโคตรเสวี่ยหมิ่นมิอาจจะหลบหลีกได้ นางกรีดร้องเสียสติเมื่อเห็นท่านพ่อถูกประหารนำหัวไปเสียบประจานอยู่หน้าวังหลวง ผู้คนชั่วช้าได้รับโทษที่ตนเองกระทำเอาไว้ ตอนนี้ทุกอย่างในวังหลวงคลี่คลายไร้ใต้เท้าชั่วช้าคิดไม่ดีต่อราชวงศ์อีก3 วันต่อมาจวนชินอ๋องหวังหมิงหลังจากที่จับกุมใต้เท้าจางได้ชินอ๋องแต่งตั้งให้ซูอี้หานขึ้นมาเป็นพระชายาเอก เหม่ยหนิงได้รับความเมตตาจากหวังหมิงให้กลับมาทำงานในจวนเช่นอย่างเคย ตอนนี้นางอยู่ห้องเครื่องแรก ๆ ทุกคนในจวนต่างพากันรังเกียจนางเพราะเสวี่ยหมิ่นเจ้านายของนางเป็นคนโหดเหี้ยมหักหลังได้แม้กระทั่งสวามีของตน
ตอนที่ 26 เริ่มเคลื่อนไหวเสวี่ยหมิ่นไม่หยุดนางลูบไล้บนอกแกร่งอย่างลืมตัว ร่างกายของหลางอี้สั่นสะท้านรีบจับมือของเสวี่ยหมิ่นให้หยุดกระทำก่อนที่ทุกอย่างจะเกินเลยไปมากกว่านี้“ข้าบอกให้ท่านหยุดได้แล้ว ทำไมถึงไม่หยุดเล่ายามนี้ข้ามิใช่เด็กชายตัวน้อยที่คอยให้ท่านหยอกเล่นเหมือนเมื่อก่อนและนะขอรับ”“ข้าก็ไม่ได้มองเจ้าเป็นเด็กชายตัวน้อยที่เมื่อก่อนถูกข้ารังแกเสียหน่อย ” หลางอี้มิอาจจะทนได้อีกต่อไปจับปลายคางของนางให้เผยอขึ้นก่อนจะบดจูบลงที่ริมฝีปากบางอย่างหนักหน่วงด้วยความถวิลหา ร่างบางสั่นสะท้านไปทั้งตัวสมองขาวโพลนอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน เลือดในร่างกายเริ่มพลุ่งพล่านโอบกอดคอของอีกฝ่ายอย่างลืมตัว เคลิบเคลิ้มกับรสจุมพิตที่เขามอบให้ทั้งสองแลกสัมผัสกันอย่างลึกซึ้งท่ามกลางเสียงน้ำที่ไหลไปตามกระแสน้ำ เหล่าแมลงปอเป็นพยานรักในครั้งนี้ เสวี่ยหมิ่นรู้สึกดีมาก ๆ จนแปลกใจว่าวันนั้นที่นางนอนกับชินอ๋องหวังหมิงใช่เรื่องจริงหรือไม่? จนกระทั่งความเจ็บปวดกับความเสียวซ่านที่ถาโถมเข้ามาพร้อม ๆ กันทำให้นางรู้ตัวทันทีว่านางถูกชินอ๋องหลอกลวงเข้าแล้ว และนี่คือครั้งแรกที่นางนอนกับบุรุษ ยิ่งทำให้นางแค้นชินอ๋องมากกว่า
ตอนที่ 25 เสวี่ยหมิ่นหนีไปฝั่งด้านอี้หาน นางกลับมาที่ตำหนักด้วยความผ่อนคลาย คิดไม่ผิดจริง ๆ ที่นางเปิดโปงความผิดของเสวี่ยหมิ่น“หม่อมฉันไม่คิดเลยนะเพคะว่าพระชายาเสวี่ยหมิ่นจะโหดร้ายโยนความผิดให้แก่สาวใช้ที่จงรักภักดีต่อนางเช่นนั้น ”“เพราะนางไม่เคยรักใครมากกว่าตนเองนะสิ เอาล่ะตอนนี้ทุกอย่างเริ่มคลี่คลายต่อจากนี้ข้าคงได้อยู่ที่นี่อย่างสุขสบาย วันนี้อากาศช่างดีเสียจริง” อี้หานยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนยกภูเขาออกจากอก ยามราตรีมาเยือนหวังหมิงกลับเข้ามาจากข้างนอกค่ำคืนนี้เขาก็ไปที่ตำหนักของซูอี้หานเช่นเดิม ทั้งสองนั่งกอดกันอยู่บนเตียงในห้องที่มีเพียงแสงเทียนริบหรี่ กลิ่นกำยานคละคลุ้งเต็มอากาศ“ต่อจากนี้ท่านจะทำเช่นไรต่อไปเพคะ ”“เรื่องของเสวี่ยหมิ่นนะหรือ? ข้าคิดเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วนางไม่ยอมให้ตนเองถูกลงโทษแน่ ๆ ข้าให้คนของข้าเฝ้าจับตามอง นางจ้างวานให้สาวใช้นำจดหมายไปมอบให้แก่ใต้เท้าจางค่ำคืนนี้ในจวนของข้าคงจะมีหนูแอบซ่อนตัวเข้ามาขโมยของ เรารีบเข้านอนกันเถอะคนพวกนั้นจะได้ทำตามแผน”“เดี๋ยวสิเพคะ ท่านจะยอมปล่อยนางไปง่าย ๆ เช่นนี้หรือได้อย่างไรกัน”“ซูอี้หานเจ้าไม่ต้องเป็นกังวลข้ามิได้
ตอนที่ 24 โยนความผิด เขาได้อ่านและยอดที่จ่ายคนงานในจวนอีกทั้งซื้อของเข้าห้องเครื่องไม่ตรงกับที่ลงบันทึกเอาไว้ ยอดเงินในคลังหายไปทุกครั้งที่ทำการเบิกจ่าย ยิ่งตรวจสอบยิ่งเห็นว่าระยะเวลาที่หายไปคือช่วงที่พระชายาเสี่ยวหมิ่นดูแล เพื่อให้ความเป็นธรรมต่อพระชายาเอกเขาได้ตรวจสอบลายมือของทั้งสองมันไม่มีตรงใดที่เหมือนกันสักนิด“ทูลท่านชินอ๋องข้าน้อยได้ตรวจสอบแล้วมีการหายไปและจำนวนของที่เข้ามาไม่ตรงกับจำนวนเงินที่ออกไปจริง ๆ และการตรวจสอบลายมือทั้งสองไม่เหมือนกันด้วยพะย่ะค่ะ พร้อมทั้งหมึกในบันทึกกระหม่อมตรวจสอบแล้วเป็นหมึกที่เขียนมานาน หากจะเกิดการเขียนใหม่จากพระชายารองคงมิใช่ เพื่อความเป็นธรรมกระหม่อมอยากให้พระชายาทั้งสองเขียนลายมือตนเองลงใส่กระดาษต่อหน้าทุกคนเพื่อเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์พะย่ะค่ะ” เจิงหลงเดินเข้ามาพร้อมหมึกและพู่กันวางลงบนโต๊ะซูอี้หานเดินมาหยิบพู่กันอย่างมั่นใจเขียนลงบนกระดาษเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ลายมือของนางเหมือนที่นางส่งให้ใต้เท้าทุกตัวอักษร เสวี่ยหมิ่นเริ่มสั่นกลัว นางสั่นเทาค่อย ๆ เดินไปหยิบพู่กันเขียนลงบนกระดาษครานั้นนางก็คิดได้‘แม้จะตรวจสอบว่าเป็นข้าที่เขียนลงข้
ตอนที่ 23 เอาคืนซูซูประคองอี้หานเข้าตำหนักสำรวจร่างกายไม่เห็นร่องรอยบาดเจ็บนางสบายใจขึ้นมาพร้อมสงสัยว่าทั้งหมดเป็นฝีมือของผู้ใดกันแน่“พระชายาเพคะ คนพวกนั้นไม่ได้ทำอันใดแล้วจับตัวพระชายาไปทำไมเพคะ หรือว่าต้องการเบี้ยอัฐ”“คนพวกนั้นถูกพระชายาเสวี่ยหมิ่นสั่งการมาให้จับตัวข้า ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่านางไม่เคยหวังดีกับข้าและเรื่องการยักยอกเงินนางต้องมีแผนใส่ร้ายข้าแน่นอน ในเมื่อร้ายมาข้าก็จะร้ายกลับจะเล่นงานข้าหรือ? ข้าจะเอาคืน”“แต่ว่าพระชายาเอกมีอำนาจมากนะเพคะ ไหนจะท่านพ่อของนางอีก คงไม่มีทางปล่อยให้พระชายชายารองใช้ชีวิตอยู่อย่างสุขสบายแน่นอน”“ข้าไม่กลัวหากเรายอมนาง นางก็คิดจะรังแกเราฝ่ายเดียว รุ่งเช้าข้าจะนำเรื่องที่นางยักยอกเงินแจ้งกับทุกคนได้ทราบอย่างทั่วถึง คอยดูว่านางจะทำหน้าเช่นไรในเมื่อต้องการใช้แผนนี้จัดการข้าแต่ข้าชิงลงมือก่อน”“ข้าเป็นห่วงพระชายาจริง ๆ นะเพคะ อยู่อย่างสงบไม่ดีกว่าหรือ”“ใจของข้าปรารถนาอยากอยู่อย่างสงบแต่อีกฝ่ายระรานข้าก่อน ข้าต้องปกป้องตนเองให้นางได้เห็นว่าข้าไม่ใช่สตรีโง่เขลาที่รังแกได้ง่าย ๆ อีกอย่างตั้งแต่วันนี้ชินอ๋องสั่งการให้องครักษ์เงาคอยปกป้องดูแลข้า เจ้
ตอนที่ 22 ไม่มีวันได้ใจ ฝั่งด้านเสวี่ยหมิ่นนางกลับมาที่ตำหนักเดินไปเดินมาอย่างร้อนใจ ก่อนหน้านี้นางไปดูการแสดงละครกับอี้หานตอนนั้นความโกรธเกรี้ยวที่มีต่ออี้หานยิ่งเห็นสายตาของหวังหมิงจ้องมองนางไม่กระพริบสายตาแถมยังถูกหวังหมิงตำหนิยิ่งทำให้นางอิจฉา จึงบอกแก่อี้หานว่านางเจ็บท้องขอเวลาสักครู่ อี้หานไม่ได้คิดอันใดคิดว่าเสวี่ยหมิ่นเจ็บท้องจริง ๆ และตอนนั้นนางกำลังสนุกสนานกับการแสดงจึงไม่ได้ตามเสวี่ยหมิ่นไป นางเดินไปเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์กำลังนั่งดื่มสุราจึงว่าจ้างให้ไปจับตัวอี้หานและทำให้เกิดความวุ่นวาย พานางไปให้ไกลที่าสุดหรือในป่าลึกและปล่อยนางทิ้งไปเสียสตรีอ่อนแอเช่นนางคงไม่มีทางหาทางออกจากป่าได้ ชายฉกรรจ์รับคำว่าจ้างเพราะเห็นเบี้ยอัฐที่เสวี่ยหมิ่นโยนมาให้มากจนตนตาโตเพราะความโลภ นางจึงบอกรูปลักษณ์ของอี้หานพร้อมสีผ้าอาภรณ์ที่นางสวมใส่มาวันนี้ งานนี้มิใช่เรื่องยากชายฉกรรจ์จึงรับปากจะทำทันที เสวี่ยหมิ่นเดินกลับมายืนข้างกายของอี้หานเพื่อให้คนกลุ่มนั้นได้เห็นว่าสตีนางใดที่เขาต้องจับตัวไป แคร่ก!!'เสียงประตูเปิดเข้ามาเสวี่ยหมิ่นตกใจเล็กน้อยแต่เมื่อเห็นว่าเป็นเหม่ยหนิงนางโล่งอกขึ้นมาทั







