Share

บทที่ 4

Author: แมน ดี
มุมมองของแคลร์

หลายวันมานี้ อารอนโทรหาฉันไม่หยุดตั้งแต่วันที่เขาชวนฉันไปกินข้าว

ทุกครั้งที่เขาโทรมา ฉันก็จะนึกถึงเสียงกระซิบแผ่วหวานปนยั่วยวนของวิเวียนคืนนั้น พอคิดแล้ว ฉันก็ปล่อยให้โทรศัพท์ดังจนเงียบไปเอง

จากนั้นก็มีข้อความเข้ามา

อารอน: แคลร์ ได้โปรด ออกมาหน่อย ผมแค่อยากเจอคุณ

ฉัน: ขอโทษนะ ฉันไม่อยากเป็นตัวเลือกของใครอีกต่อไปแล้ว

ที่ผ่านมาต่อให้โกรธเขาแค่ไหน เพียงแค่เขายื่นมือมา ฉันก็จะเช็ดน้ำตา ฝืนยิ้ม แล้ววิ่งเข้าหาเขาทันที

แต่ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนเมื่อวิเวียนกลับมา

ยิ่งเธอปรากฏตัวบ่อยเท่าไร เขาก็ยิ่งหมดความอดทน ทั้งกับฉัน… และกับความสัมพันธ์ของเรา

เขาเลิกเป็นฝ่ายที่พยายาม เหลือแต่ฉัน ที่ต้องเป็นคอยขอโทษ และขอร้องให้เขาอยู่เสมอ

พอมองย้อนกลับไป ฉันรังเกียจตัวเองตอนนั้นเหลือเกิน

สิ่งที่ฉันต้องการที่สุดตอนนี้มีเพียงดินเนอร์ครั้งสุดท้ายในวันที่ 19 ก่อนจะไปจากที่นี่เพื่อปิดฉากทุกอย่าง

บ่ายวันนั้น ฉันม้วนผมเป็นลอนคลื่นอ่อนๆคล้ายเมื่อห้าปีก่อน เส้นผมสีน้ำตาลเกาลัดทิ้งตัวลงบนไหล่เหมือนน้ำตกสายไหม

เบลล่าโทรมาตอนที่ฉันกำลังแต่งหน้าเสร็จพอดี

“เฮ้ รู้ไหม? ฉันได้ข่าวว่าวิเวียนกับอารอนทะเลาะกันเมื่อคืน!” น้ำเสียงเธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“จริงเหรอ?” ฉันเลิกคิ้ว พลางเกลี่ยลิปสติก “แปลกจัง ฉันคิดว่าเขาแทบจะสร้างโลกทั้งใบเพื่อเธอเสียอีก”

เบลล่าพูดดังขึ้น “เหมือนว่านี่จะเกี่ยวกับเธอนะ! ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่แอรอนเดินออกจากโต๊ะอาหารค่ำไปอย่างโมโหและทิ้งวิเวียนไว้ที่นั่น!”

ฉันพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “ขอบคุณที่บอกฉันนะเบลล่า ฉันซาบซึ้งใจจริง ๆ”

เธออึกอัก “นี่เธอ… ไม่สนใจจริงๆเหรอ?”

ฉันหลุดหัวเราะเบา ๆ อย่างห้ามไม่อยู่

“ฉันจะไปจากที่นี่แล้ว ปล่อยให้พวกเขามี ‘ความสุข’ แบบไหนก็แบบนั้นเถอะ”

ฉันหัวเราะเบา ๆ “ยังไงฉันก็จะไปอยู่ดี ขอให้พวกเขาโชคดีก็แล้วกัน”

จากนั้นฉันก็สวมชุดเดรสสีน้ำเงินตัวเดิมกับเมื่อห้าปีก่อน แต่งหน้า ทำผมเหมือนวันนั้นทุกอย่าง แล้วมุ่งหน้าไปยังเซเลสเทีย

ที่ที่เริ่มต้นทุกอย่าง… และจะเป็นที่ที่ทุกอย่างจบลง

เป็นโต๊ะเดิม วิวเดิม

อารอนคงให้ร้านเตรียมทุกอย่างไว้ล่วงหน้า เซเลสเทียในวันนี้หรูหรากว่าครั้งไหน ๆ

แก้วคริสตัลแวววาว เทียนส่องแสงริบหรี่ และดอกลิลลี่สีขาวกลางโต๊ะ ส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ อบอวลไปทั่วห้อง

คืนนี้ไม่มีแขกคนอื่นเลย มีเพียงพนักงานยืนต้อนรับอย่างสุภาพอยู่ไกล ๆ

เขาปิดร้านเพื่อฉันอีกครั้ง

นี่แหละ… อารอนในแบบที่เขาเป็น

ฉันถอนหายใจแล้วมองออกไปยังนอกหน้าต่างที่แสงเมืองเริ่มเลือนลงในยามพลบค่ำ

ฉันควรจะพูดอะไรตอนที่เขามาถึงล่ะ?

เขาจะยอมรับอย่างสงบ… หรือโกรธเกรี้ยวเหมือนทุกครั้งที่ควบคุมอะไรไม่ได้?

โทรศัพท์สั่น ชื่ออารอนปรากฎขึ้นบนหน้าจอ

“แคลร์ ผมขอโทษจริงๆ ประชุมนานกว่าที่คิดไว้ ตอนนี้ผมกำลังรีบไปหาคุณนะ”

“มันนานเกินไปแล้ว ผมคิดถึงคุณมากๆ”

ฉันได้ยินเสียงฝีเท้าของเขาผ่านสาย เสียงทุ้มอ่อนโยนแบบที่เคยทำให้ใจฉันเต้นแรง

“ก็ได้” ฉันตอบเบา ๆ แสร้งทำเป็นไม่ถือสา “โชคดีของคุณนะที่คืนนี้ฉันอารมณ์ดี”

แต่เมื่อท้องฟ้าเปลี่ยนจากสีอำพันเป็นน้ำเงินเข้ม ที่นั่งฝั่งตรงข้ามยังคงว่างเปล่า

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป

แล้วก็หนึ่งชั่วโมง

อารอนยังไม่มา

ฉันโทรหาเขา…

ไม่มีคนรับสาย

จากนั้นชื่อเบลล่าก็ปรากฏขึ้นบนจอโทรศัพท์ของฉัน

“แคลร์ เช็กเทรนด์ข่าวด่วนเลย วิเวียนสติแตกแล้ว!”

ฉันรู้สึกท้องปั่นป่วนทันทีที่เปิดอ่านข่าว

รถของวิเวียนขับมาตัดหน้ารถอารอนจนต้องหยุดกลางถนน

รถสองคันชนกันเป็นรูปตัว T แบบพอดี ไม่แรงมาก แต่มากพอที่จะดึงดูดผู้คนให้มามุงดู

กล้องจับภาพทุกอย่างไว้ได้

อารอนวิ่งเข้าไปหาวิเวียน หน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก ก่อนจะรวบเธอเข้ามาในอ้อมแขน

ภาพอีกมุมหนึ่งเผยให้เห็นว่าเขาหยุดแท็กซี่แล้วอุ้มเธอไว้ราวกับของล้ำค่า ก่อนจะมุ่งหน้าไปโรงพยาบาลทันที

สื่อแท็บลอยด์กำลังลงข่าวอย่างครึกโครม:

“เป็นแค่อุบัติเหตุเล็กน้อย แต่สีหน้าอารอนบ่งบอกทุกอย่าง เหมือนเขากลัวจะเสียเธอไป”

"วิเวียนดูไม่เจ็บปวดเลย ในอ้อมแขนของเขา เธอดู...มีความสุข"

"หลังจากทะเลาะกันอย่างดุเดือดเมื่อคืน ดูเหมือนว่าทั้งสองจะคืนดีกันด้วยวิธีที่ดราม่าและเร่าร้อนที่สุด"

ความเจ็บปวดบางๆ ก่อตัวในอกฉัน แผ่วเบาแต่คงอยู่ เหมือนเสียงกระซิบที่ต้านไม่ไหว

อาหารแต่ละจานถูกนำมาเสิร์ฟอย่างประณีต กลิ่นเทียนหอมลอยอบอวล แสงไฟนุ่มละมุนสวยงามบรรยากาศโรแมนติกอบอวลไปทั่วทั้งร้าน

พนักงานเดินเข้ามาถาม

“คุณผู้หญิงต้องการรออีกสักหน่อยไหมครับ?”

ฉันปิดเสียงโทรศัพท์ “ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันเริ่มกินเลย”

ฉันบอกตัวเองว่า ดินเนอร์หรูคนเดียวก็ไม่ได้เลวเท่าไหร่

ถ้าเขาไม่มา ฉันก็แค่กินคนเดียวทั้งโต๊ะ

แต่…ล็อบสเตอร์กลับไม่อร่อยเหมือนเคย

ฟัวกราส์…มีรสขมบาง ๆ ติดอยู่ในลิ้น แม้จะเบาแต่รู้สึกได้ชัดเจน

ฉันเกือบจะเรียกเชฟมา แต่ก็รู้สึกว่ามันไร้สาระเกินไป

หลังจากกินไปไม่กี่คำจากความเคยชินมากกว่าความหิว ฉันก็เลื่อนเก้าอี้ออกแล้วยืนขึ้น

ร้านนี้…ฉันจะไม่กลับมาอีกแล้ว

ฉันลากกระเป๋าเดินทางไปตามถนนที่เงียบสงบในยามค่ำคืน มุ่งหน้าไปยังสนามบิน

คาเฟ่ที่ฉันเข้าไปนั่งแทบจะว่างเปล่า แต่โทรศัพท์ของฉันกลับสั่นไม่หยุดเพราะสายเรียกเข้าจากอารอน

ฉันบล็อกเขา

แล้วข้อความจากเขาก็ไหลเข้ามาไม่หยุด

【แคลร์ ผมขอโทษ วิเวียนบาดเจ็บ ผมต้องอยู่ดูแลเธอก่อน】

【เรายังมีวันครบรอบอีกตั้งหลายปีนะ ใช่ไหม? ผมจะชดเชยให้คุณแน่นอน】

【พรุ่งนี้เราจะแต่งงานกันใหม่นะ อย่าลืมล่ะ】

ด้วยความอยากรู้ หรืออาจเพราะต้องการจบให้เด็ดขาด ฉันเปิดโซเชียลของวิเวียนดู

ฉันไม่ได้เข้าไปดูโชเชียลของเธอมานานมากแล้ว

และนั่น…รูปมากมายของเธอกับอารอนในทุกงาน ทุกสถานการณ์

อัปเดตล่าสุด เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อน

“คุณสัญญาว่าจะดูแลฉันตลอดไป”

“และฉันก็เชื่อมาโดยตลอด…”

ในภาพ เธอเอนตัวซบเขาอย่างบอบบาง ขณะที่เขากอดเธอไว้ด้วยความอ่อนโยนแบบที่ฉันเคยคิดว่ามีไว้ให้ฉันเพียงคนเดียว

ฉันยิ้มเยาะเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัวว่าน้ำตาไหลอาบแก้มตั้งแต่เมื่อไหร่

แสงอรุณยามเช้าเริ่มสาดส่องท้องฟ้า

ฉันเช็ดน้ำตา จัดผม และทำให้แน่ใจว่าตัวเองดูเรียบร้อยสมบูรณ์

เจ็ดโมงเช้า ฉันเช็กอินเรียบร้อยแล้ว

ข้อความจากอารอนเด้งขึ้นถามว่าฉันกำลังมาหรือยัง

ฉันไม่ตอบข้อความเขา

ฉันเลือกที่ลบชื่อเขาออกจากรายชื่อผู้ติดต่ออย่างเงียบ ๆ

แปดโมง ฉันกำลังต่อแถวเพื่อขึ้นเครื่อง

เบอร์แปลกโทรเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน แต่ฉันไม่รับสายพวกนั้น เพราะรู้ว่าเป็นเขา

เก้าโมง เครื่องบินเริ่มเคลื่อนตัวไปยังรันเวย์อย่างช้า ๆ

ก่อนจะปิดโทรศัพท์ สายจากเบลล่าก็เข้ามา

ทันทีที่ฉันรับสาย ก็เป็นเสียงของอารอน ตึงเครียดและเร่งรีบ ดังขึ้น

“แคลร์ คุณอยู่ที่ไหน?!”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หนีไม่พ้น   บทที่ 9

    มุมมองของแคลร์รถของลูกน้องอารอนแล่นฝ่าความมืด ไฟถนนค่อยๆ ลับหายไปหลังเราอย่างรวดเร็วแอรอนกอดฉันไว้แน่น จูบของเขาแผ่วเบาและกระจายไปทั่วแก้มของฉัน แต่ละจูบนั้นแฝงไปด้วยความอ่อนโยนที่ทำให้หัวใจฉันเต้นแรงในดวงตาของเขามีหลายอย่างซ่อนอยู่ ทั้งความรัก ความกังวล และความอ่อนแอที่เขาแทบไม่เคยให้ใครเห็นหัวใจฉันเต้นผิดจังหวะเล็กน้อย โดยไม่ทันตั้งตัวฉันเอื้อมมือขึ้นไป นิ้วสัมผัสบริเวณกรามของเขาเบาๆ“ไม่เป็นไร” ฉันพูดเบาๆ “เธอไม่ได้จะทำร้ายฉันจริงๆ หรอก”เขาก้มหน้าลง ถอนหายใจสั่นไหว"เป็นความผิดของผมเอง ต่อไปนี้ผมสาบานเลยว่าจะไม่ยอมให้คุณต้องเจ็บปวดอีก ไม่แม้แต่นิดเดียว"จากนั้นเขาก็ซบหน้าลงกับไหล่ของฉัน ร่างกายของเขาสั่นเทาฉันหัวเราะเบา ๆ อย่างไม่อยากจะเชื่อ"ตลกจัง... ฉันโดนทำร้าย แต่กลับเป็นนายที่พังทลายลง"เขาไม่ตอบ เพียงแต่กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น ราวกับว่าความปลอดภัยของฉันจะช่วยให้เขามั่นคงได้เช่นกันหมอทำการรักษาบาดแผลของฉันอย่างรวดเร็วอาการของฉันไม่รุนแรงมาก แต่อารอนยืนยันจะให้ฉันพักสองวันเขาปฏิเสธงานทุกอย่าง ไม่รับโทรศัพท์ และไม่ออกห่างจากฉันเลย ราวกับการปล่อยมือคือสิ

  • หนีไม่พ้น   บทที่ 8

    มุมมองของแคลร์“แคลร์” เสียงของเขาเบาลง “คุณจะทำอะไรก็ได้ เจอเพื่อน ทำงาน หรือหายไปสักพัก….”“ผมจะไม่ห้ามคุณ แต่…อย่าจากไปตลอดกาลเลยนะ”น้ำเสียงของเขาสั่นไหวในแบบที่ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อน ใต้ความหยิ่งผยองนั้นมีความเป็นมนุษย์ซ่อนอยู่ความเงียบปกคลุมไปทั่วรถในที่สุดร่างฉันก็ผ่อนคลาย และดวงตาของเขา... ก็ค่อยๆ กลับมาคมชัดอย่างที่ฉันคุ้นเคยและในขณะนั้นเอง ฉันก็ตระหนักได้ว่า...เขาทำลายฉันได้ ถ้าเขาต้องการ แต่เขาเลือกที่จะไม่ทำฉันถอนหายใจออกมา ก่อนยอมแพ้ต่อการดิ้นรน“นายรู้ได้ยังไงว่าฉันหนีออกมาได้?”เขามองโทรศัพท์ที่อยู่ข้างๆ แล้วยิ้มเล็กน้อย“มีเครื่องติดตามซ่อนอยู่ในนั้น”ความโกรธพุ่งขึ้นมาทันที ฉันยกโทรศัพท์จะทุบมัน แต่เขากลับมองฉันเงียบ ๆหลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็พูดออกมาด้วยเสียงเบา ราวกับรู้สึกผิด“ผมเพิ่งจะมาเข้าใจตอนนี้ว่าผมผิดต่อคุณแค่ไหน ผมรักคุณในแบบของผมเอง โดยไม่เคยหยุดคิดเลยว่าจริงๆแล้วสิ่งที่คุณต้องการคืออะไร ขอโทษนะ แคลร์”“เบลล่าพูดถูก… ถึงผมพาคุณกลับมาได้ ก็ได้แค่แคลร์ที่ไม่รักผมอยู่ดี”เขาหยุดชั่วครู่ แววตาของเขาฉายแววไม่สบายใจเล็กน้อย“ตลอดห้าปีที่เรา

  • หนีไม่พ้น   บทที่ 7

    มุมมองของแคลร์เมื่อฉันตื่นขึ้นมา โลกดูนิ่งสนิทอย่างน่าขนลุกฉันรู้สึกปวดหัว ความคิดสับสนวุ่นวาย ไม่ชัดเจนสลับกันไปภาพสุดท้ายที่ฉันจำได้คือตอนอารอนโถมตัวเข้ามาใกล้ กดผ้าขนหนูชุบน้ำไว้ที่หน้า กลิ่นเคมีจาง ๆ ก่อนที่ทุกอย่างจะมืดสนิทห้องรอบตัวฉันดูไม่คุ้นเคยเลยมันประณีตและสมบูรณ์แบบเกินกว่าจะเป็นของฉันผ้าม่านสีครีมไหวเอนตามสายลม กระทบเฟอร์นิเจอร์ไม้มะฮอกกานีที่เงาวับใต้แสงนุ่ม ๆทุกรายละเอียดล้วนบ่งบอกถึงถูกการควบคุม จากตัวเขานิ้วของฉันลังเลที่จะจับลูกบิดประตู เพราะคิดว่ามันคงล็อกอยู่ แต่ที่จริงแล้วมันไม่ได้ถูกล็อกประตูเปิดได้ง่าย ๆ ฉันจึงก้าวออกมาเขากำลังรอฉันอยู่นั่งอยู่บนโซฟาชั้นล่างราวกับว่านี่เป็นวันปกติธรรมดาวันหนึ่งเมื่อเขามองขึ้นมา สีหน้าของเขาแสดงออกถึงบางสิ่งบางอย่างที่ไม่สามารถคาดเดาได้จากนั้นเขายิ้มและเดินเข้ามา ก้มศีรษะลงจูบหน้าผากฉัน“ตื่นสักทีนะ” เขาพึมพำ “เธอนอนหลับปุ๋ยเหมือนเด็กเลย”ฉันรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว ชีพจรเต้นแรงจนได้ยินเสียงในหู“เรา...อยู่ที่ไหน?”"ไม่ไกลหรอก" เขาพูดสั้นๆ "แค่สิบนาทีจากบ้านเอง"เขาพูดคำว่า "บ้าน" ราวกับว่าคำนั้นยังคง

  • หนีไม่พ้น   บทที่ 6

    มุมมองของแคลร์ฉันเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน ใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบเพียงลำพังที่ตรงนี้ไม่ไกลจากอาณาเขตของอารอนนัก แต่อยู่ในอาณาเขตของตระกูลฟัลโคเน่ ศัตรูที่โหดเหี้ยมที่สุดของเขาที่นี่ เขาคงไม่สามารถหาฉันเจอได้ง่ายๆแน่การทิ้งอารอนกับวิเวียนไว้ข้างหลังทำให้รู้สึกโล่งใจอย่างมากฉันไม่ต้องตื่นนอนตอนเช้ามาพะวงถึงคนน่ารังเกียจและกระทำอันน่าขยะแขยงของพวกเขาอีกแล้วความรู้สึกเสียดายแวบขึ้น ทำไมฉันไม่ทำแบบนี้เร็วกว่านี้ฉันทิ้งซิมการ์ดเก่า ซื้อซิมใหม่ในชื่อปลอม ติดต่อกับเบลล่าแค่คนเดียวเท่านั้น"แคลร์... เธอไม่รู้ใช่ไหม แอรอนตามหาเธอแทบคลั่งแล้ว" เลล่าพูดอย่างระมัดระวัง“ลูกน้องบางคนต้องถูกเปลี่ยนเพราะทำงานไม่สำเร็จ… ส่วนวิเวียนก็ถูกส่งไปต่างประเทศแล้ว”“ช่วงนี้อารอนอารมณ์รุนแรงมาก ใครๆ ก็ต่างกลัว”รอยยิ้มจางๆปรากฏบนใบหน้าของฉัน“สำหรับเขายังยึดติดอยู่กับความรักนั้น วันหนึ่งเมื่อเขาเห็นความจริง ฉันก็จะไม่สำคัญกับเขาอีกต่อไป”บ่ายวันนั้น ฉันใช้เวลาอยู่ริมทะเลสาบหลายชั่วโมงสายลมพัดเบาๆในปลายฤดูใบไม้ร่วง พัดผ่านผืนน้ำด้วยความเย็นยะเยือกที่ซึมผ่านเสื้อโค้ทของฉันเมื่อฉันกลับมาถึงที่พัก

  • หนีไม่พ้น   บทที่ 5

    มุมมองของอารอนเสียงปลายสายคมกริบจนแทบตัดอากาศได้“ลาก่อน อดีตสามีของฉัน”แล้ว... ความเงียบก็ลอยเข้ามา เสียงสัญญาณตัดสายดังหึ่งอยู่ข้างหูของผมผมลองโทรซ้ำอีกครั้ง ไร้การตอบรับอดีตสามีของฉัน...กล่องแหวนกดลึกเข้ามาที่ฝ่ามือ ผมก้มลงมองและเห็นรอยบุ๋มจาง ๆ ที่มันทิ้งไว้บนผิวหนังข้างในเป็นเพชรสีชมพูสะท้อนแสงวาบ สวยไร้ตำหนิ หายาก และเม็ดใหญ่กว่าเม็ดที่วิเวียนใส่อยู่ฉันซื้อมันจากนักสะสมส่วนตัว จินตนาการถึงวันที่สวมมันให้แคลร์ด้วยตัวเอง ปิดฉากเก่าเพื่อเริ่มต้นใหม่แล้วตอนนี้... เธอกลับเรียกผมว่า “อดีตสามี”เธอหมายความว่าแบบนั้นจริงๆผมไม่ได้เป็นอะไรกับเธออีกต่อไปแล้วผมจ้องหน้าเบลล่า ความรู้สึกร้อนผ่าวเกิดขึ้นในดวงตา“เธออยู่ไหน?” เสียงของผมเบาลงแฝงไปด้วยความอันตราย เป็นเสียงที่ดังขึ้นก่อนที่อะไรๆ จะพังทลายผมยื่นมือไปหาเธอ แต่หยุดตัวเองไว้กลางคัน กำนิ้วมือก่อนจะปล่อยลงข้างลำตัวเธอรีบถอยหนี ดวงตาเบิกกว้าง แต่ยังคงความท้าทาย“แคลร์ไม่ได้บอกฉัน บอกแค่จะขึ้นเครื่อง ขึ้นรถไฟ หรือไม่ก็ขึ้นรถบัส ขอแค่เป็นที่ที่นายหาไม่เจอ"คำพูดเหล่านั้นทิ่มแทงผมแรงกว่าที่คิดผมสูดลมหายใจช้า ๆ

  • หนีไม่พ้น   บทที่ 4

    มุมมองของแคลร์หลายวันมานี้ อารอนโทรหาฉันไม่หยุดตั้งแต่วันที่เขาชวนฉันไปกินข้าวทุกครั้งที่เขาโทรมา ฉันก็จะนึกถึงเสียงกระซิบแผ่วหวานปนยั่วยวนของวิเวียนคืนนั้น พอคิดแล้ว ฉันก็ปล่อยให้โทรศัพท์ดังจนเงียบไปเองจากนั้นก็มีข้อความเข้ามาอารอน: แคลร์ ได้โปรด ออกมาหน่อย ผมแค่อยากเจอคุณฉัน: ขอโทษนะ ฉันไม่อยากเป็นตัวเลือกของใครอีกต่อไปแล้วที่ผ่านมาต่อให้โกรธเขาแค่ไหน เพียงแค่เขายื่นมือมา ฉันก็จะเช็ดน้ำตา ฝืนยิ้ม แล้ววิ่งเข้าหาเขาทันทีแต่ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนเมื่อวิเวียนกลับมายิ่งเธอปรากฏตัวบ่อยเท่าไร เขาก็ยิ่งหมดความอดทน ทั้งกับฉัน… และกับความสัมพันธ์ของเราเขาเลิกเป็นฝ่ายที่พยายาม เหลือแต่ฉัน ที่ต้องเป็นคอยขอโทษ และขอร้องให้เขาอยู่เสมอพอมองย้อนกลับไป ฉันรังเกียจตัวเองตอนนั้นเหลือเกินสิ่งที่ฉันต้องการที่สุดตอนนี้มีเพียงดินเนอร์ครั้งสุดท้ายในวันที่ 19 ก่อนจะไปจากที่นี่เพื่อปิดฉากทุกอย่างบ่ายวันนั้น ฉันม้วนผมเป็นลอนคลื่นอ่อนๆคล้ายเมื่อห้าปีก่อน เส้นผมสีน้ำตาลเกาลัดทิ้งตัวลงบนไหล่เหมือนน้ำตกสายไหมเบลล่าโทรมาตอนที่ฉันกำลังแต่งหน้าเสร็จพอดี“เฮ้ รู้ไหม? ฉันได้ข่าวว่าวิเวียนกับอารอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status