Home / โรแมนติก / หนี้พิษสวาท / ตอนที่4.ภาพที่เห็นรางๆ

Share

ตอนที่4.ภาพที่เห็นรางๆ

last update Huling Na-update: 2025-09-10 12:47:09

หนึ่งฤทัยล้มตัวลงนอน พยายามคิดทบทวน ถึงเรื่องราวและคำพูดที่เขาบอกกับเธอ เธอจำไม่ได้เลยว่า เคยอยู่ที่นี่ ไม่มีความคุ้นชินใด ๆ กับสถานที่และกับเขา รู้เพียงแต่ว่าเธอชื่อหนึ่งฤทัย เป็นภรรยาของเขาและเป็นนายหญิงของที่นี่

            “แน่ใจเหรอครับว่าจะทำแบบนี้” มนตรีถามเมื่อเดินมารับแฟ้มเอกสารจากเจ้านาย

            “มีอะไร” ศิลาถามเสียงเรียบ ไม่แสดงความรู้สึกออกมาจากน้ำเสียง

            “ผมกลัวว่าถ้าคุณหนึ่งจำได้ เรื่องมันจะไปกันใหญ่นะสิครับ” มนตรีบอกด้วยความหวังดี

            “แล้วไง ไม่เห็นมีอะไรต้องกลัว นายและคนงานในไร่ ทำตามที่ฉันบอกก็พอ”

            “ครับ” มนตรีรับคำ ถึงจะไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เจ้านายกำลังทำ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

            “งานเป็นไงบ้าง ฝนตกเมื่อคืนเสียหายเยอะไหม” ศิลาเปลี่ยนเรื่องคุย

            “โชคดีที่คนหินสั่งให้คนงานคลุมดอกเอาไว้ เลยเสียหายไม่มาก พอส่งออกครับ”

            “สั่งให้คนงานทำเหมือนเดิมนะ ฟ้าฝนไว้ใจไม่ได้” ศิลาบอกแล้วกลับไปสนใจกับเอกวารตรงหน้าต่อ สองวันมานี้เขาวุ่นวายกับยายตัวแสบจนงานกองบนโต๊ะมากมาย เห็นทีต้องทำโทษให้เข็ดหลาบจะไม่ทำแบบคืนนั้นอีก ถึงจะความจำเสื่อมจำอะไรไม่ได้แต่ก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น

            “ใกล้เปิดเทอมแล้ว คุณหินจะส่งคุณหนึ่งกลับตอนไหนครับ” มนตรีถามเพราะหนึ่งฤทัยยังเรียนหนังสือไม่จบ และตอนนี้ใกล้จะเปิดเทอมแล้ว

            “สมองเสื่อมคงไม่ต้องเรียนแล้วมั้ง” ศิลาตอบ

            “ไม่ได้นะครับคุณหิน!” มนตรีตอบด้วยความลืมตัว

            “ทำไม! แล้วมึงเกี่ยวอะไรด้วย” ศิลาถามพร้อมกับจ้องหน้ามนตรีเขม็ง

            “ปะ...เปล่าครับ ไม่มีอะไรครับ” เพราะความห่วงใยที่มีต่อหญิงสาว ทำให้มนตรีลืมตัวเผลอตวาดเจ้านาย

            “เอาเวลาไปทำงานดีกว่าไหม ถ้าไม่อยากทำก็เขียนใบลาออกมา” ศิลาบอกพร้อมกับจ้องหน้ามนตรี

            “ขอโทษครับ”

            “ไปทำงานไป๊!”

            “ครับ ครับ” มนตรีพูดพร้อมกับวิ่งออกไป แฟ้มเอกสารที่เจ้านายเหวี่ยงมาเฉี่ยวหัวไปนิด ดีนะที่หลบทัน

            “รักกันมาก ห่วงกันมาก ก็เอาไปดูแลกันเองเลยสิ” อยู่ ๆ ก็โมโหที่มนตรีเป็นห่วงหนึ่งฤทัย จนกล้าออกหน้ามาพูดแทนเธอ

            “คุณหนึ่งลงไปทานข้าวเย็นเถอะค่ะ” สายพิณขึ้นมาตามหนึ่งฤทัยลงไปกินข้าว เมื่อถึงเวลาอาหารเย็น

            “คุณศิลายังไม่กลับมาเหรอคะ”

            “ยังค่ะ”

            “เขากลับแบบนี้ทุกวันเลยเหรอคะ” ถามเพราะเมื่อวานศิลากลับมาตอนมืด จังหวะที่เขาเดินเข้าห้องเธอก็แกล้งหลับ แต่น่าจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาเลยทำให้เธอหลับไปจริง ๆ

            “คุณหินกลับไม่เป็นเวลาหรอกค่ะ ขึ้นอยู่กับงาน ฝนตกแบบนี้งานยิ่งเยอะต้องเฝ้าระวังน้ำป่านะคะ” สายพิณบอกกับหญิงสาว

            “ค่ะ” หนึ่งฤทัยขานรับ แล้วเดินลงบันไดไปยังห้องอาหาร จังหวะนั้นศิลาก็ขับรถเข้ามาจอดในบ้านพอดี

            “คุณหินมาพอดีเลย เดี๋ยวป้าไปเรียกคุณหินมาทานข้าวนะคะ” สายพิณบอกแล้วเดินออกไป หนึ่งฤทัยพนักหน้าให้แม่บ้าน แล้วนั่งลงตรงเก้าอี้ตัวที่นั่งทุกวัน หญิงสาวยังไม่แตะอาหารที่สายพิณเตรียมไว้ให้ รอกินพร้อมศิลาน่าจะดีกว่า

            “คุณหินมาแล้ว” หนึ่งฤทัยลุกขึ้นจากเก้าอี้เมื่อศิลาเดินเข้ามาในห้องอาหาร

            “ทำไมยังไม่ทานครับ” ศิลาถามเมื่อเห็นเธอยังไม่แตะอาหารบนโต๊ะ

            “ฉันรอทานพร้อมคุณค่ะ” หนึ่งฤทัยบอกแล้วส่งยิ้มบาง ๆ ให้เขา

            “วันหลังไม่ต้องรอนะครับ ผมกลับไม่เป็นเวลา หนึ่งหิวตอนไหนก็ทานเลยนะครับ” ศิลาเดินเข้ามาหา แล้วจูบลงที่หน้าผากมนของเธอ หนึ่งฤทัยอายจนหน้าแดง เมื่อเห็นอาการของสายพิณที่มองมาด้วยสายตาเอ็นดู

            “ชินแล้วนะครับ ไม่ได้จูบคุณทานข้าวไม่อร่อย” ศิลาบอกแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ตัวว่างข้าง ๆ เธอ

            “เราทำแบบนี้กันทุกวันเลยเหรอคะ” หนึ่งฤทัยถามแล้วมองไปที่สายพิณที่กำลังจัดแจงตักข้าวให้เขา ถึงจะทำแบบนี้จนเป็นปรกติสำหรับเขา แต่สำหรับเธอไม่ชินเลยสักนิด

            “ครับ ถ้าหนึ่งจำไม่ได้ก็ถามป้าดูสิครับ”

            “ไม่เป็นไรค่ะ ทานข้าวกันเถอะค่ะ” หนึ่งฤทัยบอกกับเขา แค่นี้เธอก็อายจะแย่อยู่แล้ว จะให้ถามอะไรอีก

            “ไม่สบายหรือเปล่า หน้าแดงเชียว” ศิลาถามเมื่อเห็นสีเรื่อกระจายไปทั่วใบหน้าหญิงสาว

            “เปล่าค่ะ” หนึ่งฤทัยบอกพร้อมกับหลบตาของเขา

            “แกงแคไก่บ้าน หนึ่งชอบทานเยอะ ๆ นะครับ” ตักแกงใส่จานให้หญิงสาว แล้วลอบยิ้มกับสายพิณ ที่ถลึงตาใส่ทำนองดุที่เขาแกล้งเธอ หนึ่งฤทัยไม่กินแกงแคเพราะเธอไม่กินปลาร้า แต่ตอนนี้เธอจำอะไรไม่ได้ก็กิน ๆ ไปเถอะ

            “แค่ก ๆ ๆ” หนึ่งฤทัยสำนักเมื่อตักข้าวเข้าปาก

            “เป็นอะไรครับ ดื่มน้ำก่อนครับ” ศิลาลูบหลังให้พร้อมกับหยิบแก้วน้ำส่งให้เธอ

            “เผ็ดค่ะ”

            “เผ็ดมากเลยเหรอครับ เมื่อก่อนไม่เห็นบ่นเลย ป้าพิณทำผิดสูตรหรือเปล่า ทำไมถึงเผ็ด ถ้างั้นให้ป้าพิณเจียวไข่ให้นะครับ เผ็ดก็ไม่ต้องกิน”

            “กินได้ค่ะ ไม่เป็นไร” หนึ่งฤทัยบอกเพราะเกร็งใจ และไม่อยากทำตัวให้มีปัญหา

            “ไม่เป็นไรครับ อย่าคิดมาก แค่ไข่เจียวไม่ได้ลำบากอะไร” ศิลาบอกแล้วหันไปบอกสายพิณ

ไม่นานไข่เจียวหอม ๆ ก็วางลงบนโต๊ะ หนึ่งฤทัยเอ่ยขอบคุณ ตักไข่เจียวใส่จานกินข้าวในจานจนหมด มื้อนี้เธอได้ไข่เจียวเป็นกับข้าว ไม่งั้นคงกินไม่หมด เพราะกับข้าวแต่ล่ะอย่างรสชาติเผ็ดและหน้าตาไม่คุ้น เลยไม่อยากกิน

หลังอาหารเย็นศิลาพาเธอออกมาเดินเล่นหน้าบ้านเพื่อย่อยอาหาร เด็กรับใช้ยกเครื่องดื่มออกมาให้ ศิลาจิบแอลกอฮอล์ ส่วนหนึ่งฤทัยขอโกโก้ร้อนเพราะดื่มไม่เป็น

            “คุณศิลาคะ ฉันเป็นใครมาจากไหนเหรอคะ” หนึ่งฤทัยถามคำถาม ศิลาสำลักเครื่องดื่มที่จิบลงคอ เพราะไม่คิดว่าเธอจะถามแบบนี้

            “คือ...” ศิลาไม่ตอบในทันทีเพราะไม่ได้เตรียมคำตอบสำหับคำถามนี้เอาไว้

            “ไม่เป็นไรคะ ฉันแค่อยากรู้ว่าเรารักกันได้ยังไง” หนึ่งฤทัยเปลี่ยนคำถาม เพราะอยากรู้ว่าเขาและเธอแต่งงานกันตอนไหน

            “เราเจอกันที่มหาวิทยาลัย คุณสวยมาก สวยจนผมละสายตาไม่ได้เลย” ศิลาเริ่มเล่าเรื่องราวในอดีตให้เธอฟัง

            “มหาวิทยาลัยเหรอคะ” หนึ่งฤทัยทวนคำพูดของเขา คำว่ามหาวิทยาลัยที่ได้ยิน ทำให้เกิดภาพราง ๆ ขึ้นในหัว แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก

            “โอ้ย!” หนึ่งฤทัยร้องออกมาเมื่ออยู่ ๆ ก็ปวดศีรษะขึ้นมา

            “หนึ่ง เป็นอะไรครับ”

            “ปวดหัวค่ะ ฉันปวดหัว”

            “นึกอีกแล้วใช่ไหม นึกไม่ออกก็ยังไม่ต้องนึกครับ” ตาคมเข้มมองคนที่ยกมือขึ้นมากุมศีรษะแล้วส่ายหัวไปมา ใจหนึ่งก็สงสาร แต่อีกใจก็รำคาญ

            “ไปครับ ผมจะพาไปพักผ่อน” ศิลาช้อนคนที่นั่งกุมศีรษะเข้าสู่วงแขน จังหวะที่ตาคมเข้มสบเข้ากับดวงตากลมโตที่คลอไปด้วยน้ำตา หัวใจแกร่งกระตุกก่อนจะรีบหลบตาแล้วพาเธอเดินเข้าบ้านไป

            “นอนพักนะครับ” วางคนในอ้อมแขนลงบนเตียงแล้วหย่อนสะโพกนั่งลงข้าง ๆ เตียงนอน

            “ขอบคุณค่ะ” หนึ่งฤทัยขอบคุณ แล้วหลับตาลง คำว่านักศึกษากับมหาวิทยาลัยที่ได้ยิน ทำให้เห็นภาพราง ๆ ในหัว แต่นึกเท่าไรก็นึกไม่ออกว่า เคยเห็นภาพนั้นตอนไหน

            “นึกอีกแล้วใช่ไหมครับ ไม่เอาครับนอนพักผ่อนดีกว่านะ”

            “คุณจะไปไหนอีกไหมคะ”

            “ทำไมครับ”

            “ฉันอยากให้คุณอยู่กับฉัน ได้ไหมคะ” หนึ่งฤทัยบอกกับเขา เธอไม่อยากอยู่คนเดียว ถึงจะอยู่ที่นี่มาหลายวันแล้ว แต่ทุกครั้งที่หลับตาลงภาพต่าง ๆ ก็ปรากฏขึ้นในหัว แต่ก็ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก

ศิลาล้มตัวลงนอนข้าง ๆ ใช้แขนรองศีรษะ แขนอีกข้างกอดลงที่เอวบาง คนในอ้อมแขนเกร็งเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ ผ่อนคลายลงจนศิลาสัมผัสได้

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • หนี้พิษสวาท   ตอนที่25.ขโมยลูก

    หนึ่งฤทัยรู้สึกตัวในเวลาต่อมา ตากลมโตมองฝ้าเพดานหลัง ก่อนจะหลับตาลงแล้วคิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา เมื่อแน่ใจว่าเธออยู่ที่โรงพยาบาล “ฟื้นแล้วเหรอลูก เป็นยังไงบ้าง เดี๋ยวพ่อตามหมอให้นะ” ภากรถามแล้วเดินมายืนข้างเตียงที่ลูกสาวนอนพักฟื้นอยู่ “คุณพ่อคะ คุณหินล่ะคะ คุณหินไปไหนคะ” ภากรขมวดคิ้วเข้าหากัน ที่ได้ยินลูกถามหาศิลาทันทีที่ลืมตาขึ้นมา “ศิลาพายายแก้วตาไปตั้งแต่เช้า ยังไม่พายายแก้วมาส่งเลย” คำพูดนี้ภากรหวังผลให้หนึ่งฤทัยโกรธ แต่หนึ่งฤทัยกลับเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “หนึ่งมาอยู่โรงพยาบาลได้ยังไงคะ คุณพ่อบอกคุณหินด้วยนะคะว่าหนึ่งฟื้นแล้ว หนึ่งอยากกลับบ้านค่ะ หนึ่งคิดถึงคุณหิน หนึ่งคิดถึงลูก” “หนึ่งว่าอะไรนะ หนึ่งคิดถึงใครนะลูก” ภากรถามเพื่อความแน่ใจว่าเขาฟังไม่ผิด “หนึ่งคิดถึงคุณหินกับลูกค่ะ” หนึ่งฤทัยตอบด้วยน้ำเสียงชัดเจน “พ่อว่า พ่อเรียกหมอมาดูอาการหนึ่งดีกว่า” พูดจบภากรก็กดกริ่งเรียกหมอ ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ ๆเพราะหนึ่งฤทัยจะคิดถึงศิลาได้อย่างไร เพราะคนที่ทำให้หนึ่งฤทัยตกอยู่ในสภาพนี้ก็คือศิลา แถมศิลา

  • หนี้พิษสวาท   ตอนที่24.เสียใจจนหมดสติ

    ศิลาพาหญิงสาวพามาโรงพยาบาล ภากรและเลขาตามมาในเวลาต่อมา “ยายหนึ่งเป็นยังไงบ้างคุณหิน” ภากรถามเมื่อพาตัวเองมายืนหน้าห้องฉุกเฉิน แววตาเจ้าเล่ห์หลบแววตาคมดุที่มองมาที่เขาเขม็ง “ทำไมคุณมองผมแบบนี้ล่ะหิน แล้วยายแก้วอยู่ที่ไหน คุณเอาหลานผมไว้ไหน" “ไม่ต้องห่วงแก้ตาอยู่ในที่ที่ปลอดภัยแล้ว ทันที่ที่หนึ่งฤทัยฟื้น ผมจะพาเธอไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัยด้วยเช่นกัน” “หมายความว่ายังไงหิน เรื่องนี้ให้ยายหนึ่งเป็นคนตัดสินใจเองดีกว่านะ คืนหลานให้ผมเถอะ เราจะตัดสินใจกันเอง” ภากรบอกกับคนหนุ่ม สิ้นเสียงภากรศิลาก็ยืนขึ้นเต็มความสูง “คุณยังไม่ได้ตัดสินใจอีกหรือคุณภีม ผมนึกว่าคุณตัดสินใจเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อสามปีก่อนแล้วซีก” “พูดอะไรของคุณ” ภากรถามพร้อมกับหลบตา “ที่คุณคืนทุกอย่างให้ผม ก็เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เหรอคุณภีม คุณรู้ว่าถึงยังไงผมก็ต้องรับผิดชอบหนึ่งฤทัยกับลูก มันก็เป็นไปตามแผนของคุณแล้วไง ยังต้องการอะไรอีก” “หมายความว่ายังไง” “หมายความว่าผมรู้ทันแผนการของคุณไงครับ ต่อไปนี้เรื่องของผมกับหนึ่งฤทัย คุณไม่ต

  • หนี้พิษสวาท   ตอนที่23.คนที่ร้ายที่สุด

    หนึ่งฤทัยตื่นขึ้นมาทำอาหารเช้าให้ลูก เมื่อตัดสินใจอยู่ที่บ้านแล้วก็ต้องเดินหน้าต่อไป การเผชิญหน้าระหว่างเธอกับเขาต้องเกิดขึ้นอีกแน่ ๆ แต่เธอจะมีสติให้มากกว่านี้ เธอจะไม่หวาดกลัว และจะไม่หนีเขาอีกแล้ว ศิลาก็แค่ผู้ชายธรรมดาเท่านั้น คนที่ร้ายที่สุดคือพ่อของเธอต่างหาก ความเสียใจตีตื้นเข้ามาในหัวใจ นอกจากลูกแล้ว พ่อเป็นอีกคนที่เธอรักมากที่สุด ไม่คิดเลยว่าพ่อจะทำแบบนี้กับเธอ “คุณศิลามาขอพบค่ะ” คำพูดของแม่บ้านทำให้คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน “คุณศิลาขอพบหนึ่งเหรอคะ” ถามเพื่อความแน่ใจ เพราะไม่รู้ว่าคนที่เขาต้องการพบคือเธอหรือพ่อกันแน่ “ใช่ค่ะ คุณศิลาบอกว่าต้องการพบคุณหนึ่ง” แม่บ้านเน้นย้ำคำพูดของศิลาให้เธอฟัง “คุณศิลาอยู่ที่ไหน” “อยู่ในห้องรับแขกค่ะ” “ไปบอกเขานะคะว่าเดี๋ยวหนึ่งลงไป” แม่บ้านออกไปแล้ว หนึ่งฤทัยถอนหายใจออกมา ตากลมโตมองไปที่ลูกที่ยังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง “คุณต้องการพบฉันเหรอคะ” หนึ่งฤทัยถามเมื่อเดินเข้ามาเผชิญหน้าเขาในห้องรับแขก “แก้วตาอยู่ไหน” ศิลาถามเมื่อไม่เห็นคนตัวเล็กลงมาก

  • หนี้พิษสวาท   ตอนที่22.ความรู้สึกที่ติดอยู่ในใจ

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ มีผลกับหัวใจของศิลาไม่น้อย เพราะภาพใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของหนูแก้ตายังติดอยู่ในหัวของเขา สลัดยังไงก็ไม่ออก หนึ่งฤทัยตกใจมากที่เจอเขา เขาเองก็ตกใจมากเช่นกัน หลายปีมานี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขายังนึกถึงเธอ ถึงแม้จะพยายามลืม แต่ก็ลืมเธอไม่ได้สักครั้ง หนึ่งฤทัยยังคงอยู่ในความทรงจำของเขา การเจอกันครั้งนี้ทำให้ศิลาทำตัวไม่ถูก ความรู้สึกในหัวตีกันจนวุ่นวายไปหมด โดยเฉพาะตอนที่ตาของเขาสบเข้ากับตากลมโตคู่เล็กโลกของเขาก็แทบจะหยุดหมุน เมื่อคิดไม่ตกศิลาก็พาตัวเอง ออกไปยังที่ที่เขามักจะไปซ่อนตัวอยู่ในนั้น บ้านท้ายไร่เป็นที่ที่เขาจะมาอยู่เป็นประจำ บางครั้งก็นอนค้างที่นี่ ที่นี่ยังเป็นเหมือนเดิม มืดและเงียบเหงา ครั้งหนึ่งเขาเคยใช้มันเป็นคุกกักขังและทำร้ายเธอ หนึ่งฤทัยยังคงเหมือนเดิมมีเพียงสายตาเท่านั้นที่เปลี่ยนไป ในความตกใจและสับสนมันมีความว่างเปล่าอยู่ในนั้น ว่างเปล่าซะจนเขาคิดว่าเธอมองเขาเป็นแค่อากาศเท่านั้น เด็กคนนั้นชื่อแก้วตา ภากรบอกว่าแก้วตาฉลาดเกินวัย อายุแค่สามขวบกว่า ๆ แต่รู้เรื่องทุกอย่าง พูดคุยตอบโต้ได้ทุกอย่าง ตอนแรกเขาก็ไม่เชื่อจนได้มาเห็นกับตา ลูกเขาฉลาดเกิ

  • หนี้พิษสวาท   ตอนที่21.หนูน้อยแก้วตา

    สามปีต่อมา“หนึ่งจะกลับเมืองไทยพร้อมอาหรือเปล่าลูก” อรนภาถามคนที่นอนตะแคงป้อนนมลูกอยู่บนเตียงนอน “หนึ่งยังไม่พร้อมค่ะคุณอา หนึ่งกลัว” หนึ่งฤทัยบอกกับคนที่เดินมาหย่อนสะโพกลงบนเตียงนอนของเธอ “หนึ่งไม่ได้ทำอะไรผิด จะกลัวทำไมลูก” อรนภาบอกกับหญิงสาว พร้อมกับเอื้อมมือมาลูบศีรษะเจ้าตัวเล็กที่หลับพริ้มอยู่กับหน้าอกของแม่ “หนึ่งกลัวผู้ชายคนนั้นจะมาวุ่นวายกับหนูแก้วตานะคะ” หนึ่งฤทัยบอกอรนภาไปตามตรง ตั้งแต่พ่อกับแม่หย่าร้างกัน เธอก็ถูกส่งตัวมาอยู่กับอาที่ต่างประเทศ อรนภาจึงเป็นเหมือนแม่คนที่สองของเธอ “เขาเป็นคนบอกเองว่าไม่ต้องการลูก หนึ่งจะเก็บเอาไว้หรือเอาลูกออกก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา ไม่ต้องกลัวนะลูกอาจะอยู่ข้าง ๆ หนึ่งเสมอ” “ขอบคุณค่ะอาอร” หนึ่งฤทัยพูดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา “เป็นอะไรลูก ร้องไห้ทำไม” อรนภาถามด้วยความตกใจ “หนึ่งดีใจนะคะ ที่หนึ่งมีอาเป็นแม่ของหนึ่งอีกคน ถ้าวันนั้นหนึ่งไม่มีคุณอา หนึ่งคงไม่ได้เก็บหนูแก้วตาเอาไว้ หนึ่งขอบคุณอาอรนะคะ ที่ดูแลหนึ่งกับลูกมาตลอด” “ไม่ต้องคิดมากนะลูก อะไรที่ม

  • หนี้พิษสวาท   ตอนที่20.ปรับความเข้าใจ

    ศิลาเดินทางมากรุงเทพฯ อีกครั้ง ปลายทางของการเดินทางครั้งนี้คือบ้านของภากร “ผมคิดไว้แล้วว่าคุณต้องมา” ภากรพูดขึ้น เมื่อศิลาเดินเข้ามาในห้องโถงของบ้าน “หนึ่งฤทัยอยู่ไหน” ศิลาถาม “คิดถึงยายหนึ่งเหรอหิน” ภากรไม่ตอบคำถาม แต่ถามคำถามกลับมา “ผมถามว่าหนึ่งฤทัยอยู่ไหน เรียกเธอลงมาพบผมเดียวนี้ เรามีเรื่องต้องคุยกัน” “ยายหนึ่งไม่ได้อยู่ที่นี่หรอก กลับฝรั่งเศสตั้งแต่วันที่กลับมาจากเชียงรายเลย ผมเองก็ยังไม่ได้เจอหน้าลูกเหมือนกัน” “ไม่จริง!” “ไม่มีเหตุผลที่ผมต้องโกหกคุณ ยายหนึ่งกลับฝรั่งเศสไปแล้ว ไม่เชื่อก็ตามไปสิ” “ไม่! ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น” เขาไม่ได้อยากเจอเธอถึงขนาดจะต้องบินข้ามฟ้าไปหาขนาดนั้น “เดี๋ยวก่อนหิน” ภากรเรียกชายหนุ่มเอาไว้ เมื่อเขาจะก้าวเท้าออกจากบ้าน “อะไร” ศิลาถาม ตาคู่คมจ้องมองซองสีน้ำตาลในมือภากรเขม็ง “เอกสาร...” ภากรตอบเสียงราบเรียบ “อย่าคิดว่าจะให้ผมรับผิดชอบอะไร เรื่องที่เกิดขึ้นกับหนึ่งฤทัยมันก็แค่ความใคร่” คำพูดของศิลาทำให้หัวใจของคนเป็น

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status