Home / โรแมนติก / หนี้พิษสวาท / ตอนที่6.คนเอาแต่ใจ

Share

ตอนที่6.คนเอาแต่ใจ

last update Huling Na-update: 2025-09-10 12:48:31

ศิลาไปถึงออฟฟิศด้วยอาการหัวเสีย มนตรีและพนักงานที่อยู่ในนั้นเข้าหน้าไม่ติด

            “มีอะไรให้เซ็นอีกไหม” ถามด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์นัก

            “ไม่มีแล้วครับ คือ...คุณหินครับ กุหลาบที่คุณหินสั่งมาจากต่างประเทศ คนงานเรียกชื่อไม่ถูก จะให้ชื่อว่าอะไรดีครับ” มนตรีถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ ไรรู้ว่าเจ้านายไปกินรังแตนที่ไหนมาถึงได้หงุดหงิดตั้งแต่เช้า

            “เรียกอะไรก็เรียก ๆ ไปเถอะ เรื่องแค่นี้ยังตัดสินใจไม่ได้ ลาออกไปเลยดีไหม” ศิลาหันมาบอกกับลูกน้อง ด้วยน้ำเสียงบอกความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน

            “คืออย่างนี้ครับ” มนตรีตั้งท่าจะอธิบาย

            “หนึ่งฤทัย” ศิลาเรียกชื่อคนที่กำลังเดินมาทางเขา

            “หนึ่งฤทัยเหรอครับ ได้ครับ” มนตรีทวนคำเจ้านาย แล้วเดินออกไป

            “มาทำไมวะ” ศิลาพูดเมื่อหนึ่งฤทัยเดินมาถึงหน้าประตู แล้วเปิดเข้ามา

            “ขออนุญาตค่ะ ฉันเข้าไปได้ไหมคะ” หนึ่งฤทัยถาม ถึงจะเปิดประตูแล้ว แต่เธอก็ยังไม่ก้าวเข้ามา

            “เชิญค่ะคุณหนึ่ง” ทัศนาเอ่ยอนุญาตแล้วลุกขึ้นมาหาหญิงสาว

            “คุณหนึ่งเป็นไงบ้างคะ หายดีแล้วหรือยัง เชิญค่ะเชิญ” ทัศนาถามสารทุกข์สุกดิบ ก่อนจะจูงมือเธอเข้ามาข้างใน ศิลากลอกตาไปมาแปลกใจกับการกระทำของพนักงานบัญชีที่ทำท่าทางเหมือนสนิทกับหนึ่งฤทัยมาตั้งแต่ชาติปางก่อน

หนึ่งฤทัยไม่ตอบคำถาม ยิ้มให้คนที่จูงมือเธอเข้ามาในห้อง แล้วมองไปยังคนที่นั่งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยู่ที่โต๊ะด้านในสุด เหมือนขอคำตอบว่าเธอคนนี้เป็นใคร แล้วสนิทกับเธอมากแค่ไหน

            “ดูมองเข้าสิ พี่ชื่อทัศนาค่ะ เป็นพนักงานบัญชีของที่นี่ คุณหนึ่งจำพี่ไม่ได้เหรอคะ” ทัศนาแนะนำตัวพร้อมกับถามคำถาม

            “คือ...ฉัน” หนึ่งฤทัยพูดไม่เต็มเสียงนัก ทัศนาคนนี้ไม่รู้เหรอว่าเธอความจำเสื่อม

            “คุณนกช่วยไปบอกให้มนตรี หยิบแฟ้มเอกสารในรถมาให้ผมที” ศิลาสั่งงาน เมื่อเห็นว่าทัศนากำลังทำให้หนึ่งฤทัยลำบากใจ ทัศนาทำเหมือนสนิทสนมกับเธอเสียมากมาย ทั้ง ๆ ที่นี่เป็นครั้งแรกที่สองคนนี้เจอกัน ทัศนาอาจจะเห็นหนึ่งฤทัยผ่านตามาบ้าง แต่เขารู้ว่าสองคนนี้ไม่เคยคุยกัน เพราะตอนนั้นหนึ่งฤทัยไม่ได้มาเดินในไร่เขาแบบนี้

            “เรียกพี่ว่าพี่นกนะคะ ขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” ทัศนาบอกกับหญิงสาว แล้วเดินออกจากห้องไป

            “มาทำไมครับ” ศิลาถามแต่ไม่มองหน้าเธอเลยสักนิด

            “คุณโกรธฉันเหรอคะ” หนึ่งฤทัยถามแล้วเดินไปยืนตรงหน้าเขา

            “เปล่าครับ” ศิลาปฏิเสธ แล้วหยิบแฟ้มเอกสารที่เซ็นแล้ว เปิดดูไปเรื่อย

            “โกรธจริง ๆ ด้วย” หนึ่งฤทัยพูดกับตัวเองเมื่อเห็นอาการของเขา

            “มาถึงที่นี่ มีอะไรหรือเปล่าครับ” ศิลาเงยหน้าขึ้นมาถาม แล้วก้มหน้ามองเอกสารตามเดิม ทำเหมือนกับว่างานของเขากำลังยุ่งซะมากมาย

            “ขอโทษนะคะ” หนึ่งฤทัยเอ่ยคำขอโทษ เธอมั่นใจว่าที่เขาเมินเฉยใส่เธอก็เพราะโกรธเรื่องเมื่อเช้า

            “ขอโทษทำไมครับ คุณไม่ได้ทำอะไรผิด”

            “คุณหินค่ะ อย่าเป็นแบบนี้สิคะ ฉันไม่สบายใจเลย” หนึ่งฤทัยก้าวเข้าไปประชิดตัวเขา เมื่อพูดจบประโยค

            “ผมไม่ได้โกรธครับ ผมเข้าใจ”

            “เข้าใจว่าอะไรคะ” หนึ่งฤทัยย้อนถาม เมื่อเขาพูดประโยคนี้ออกมา

            “คุณรังเกียจผม”

            “ไม่ใช่ค่ะ ฉันไม่ได้รังเกียจคุณ ฉันแค่ขอเวลา ฉันยังไม่พร้อม” หนึ่งฤทัยเถียงเขาออกมา และได้ผลศิลามองหน้าเธอ

            “ผมรู้ว่าคุณไม่สบาย แต่เราแต่งงานกันแล้ว เราเป็นของกันและกันแล้ว อยู่ ๆ คุณมาปฏิเสธ ใครบ้างจะไม่เสียใจ”

            “เรื่องนี้ฉันขอโทษ แต่คุณกำลังเข้าใจผิด ฉันไม่ได้รังเกียจคุณเลยนะคะ”

            “ไม่รังเกียจแต่ไม่ยอมให้ผม...ทำอย่างนั้น”

            “ก็ตอนนั้นฉันยังไม่พร้อมนี่คะ” คำพูดของเธอส่งผลให้คนตรงหน้ามองหน้าเธอเขม็ง

            “อย่าบอกนะว่า ที่มาหาผมเพราะคุณพร้อมแล้ว ไม่เอาทูนหัวนี่ห้องทำงานครับ แต่ถ้าคุณต้องการจริง ๆ ห้องข้างในน่าจะใช้ได้” ศิลาพูดแล้วมองเลยไปยังประตูห้องด้วนหลังเก้าอี้ของเขา

            “จะบ้าเหรอ!” หนึ่งฤทัยตวาดลั่น ในหัวของเขามีแต่เรื่องนี้หรือไง หญิงสาวถามตัวเองในใจ

            “อ้าว...ด่าเฉย”

            “ก็ดูคุณพูดสิ ฉันเอาข้าวกลางวันมาให้ค่ะ”

            “โอ๋ ๆ ผมล้อเล่น มานั่งก่อนครับ ทำไมไม่ให้คนขับรถมาส่งล่ะครับ แดดร้อนเดี๋ยวไม่สบายอีก” ศิลาบอกกับหญิงสาว ต่อให้โมโหสักแค่ไหน แต่พอเห็นใบหน้าที่แดงเป็นสีระเรื่อกับตากลมโตที่มีความสับสนอยู่ในนั้น ศิลาก็หายโกรธเป็นปลิดทิ้ง

            “กุหลาบสวยมาก ฉันขอไปเดินดูได้ไหมคะ” หนึ่งฤทัยถาม อยากพาตัวเองออกไปจากตรงนี้เร็ว ๆ เพราะไม่ไว้ใจสายตาแพราวพราวของเขา เมื่อเช้าเขาก็มองเธอแบบนี้ และมันก็ทำให้เธอเอาตัวแทบมีรอด

            “มานี่ก่อนครับ” ศิลาเรียกเป็นครั้งที่สอง ร่างสูงที่นั่งตัวตรงในตอนแรก เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ด้วยท่าทางผ่อนคลาย หนึ่งฤทัยยังยืนอยู่ที่เดิม ร่างบางเกร็งขึ้นเมื่อสบกับสายตาของเขา ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ

            “ดูทำเข้า ผมน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ” ศิลาล้อเลียนให้กับท่าทางของเธอ

            “ฉัน ต้องกลับบ้านแล้วค่ะ ป้าสายพิณจะสอนทำขนมทองม้วน ไม่อยากให้แกรอนาน” หนึ่งฤทัยบอกพร้อมกับหันหลังให้เขา

            “มานี่เลย” แต่ก็ช้าไปกว่ามือแกร่งที่คว้าลงมาที่ข้อมือของเธอ แล้วออกแรงดึง จนเธอล้มลงมาบนตัก

            “ว้าย! ทำอะไรของคุณเนี่ย” หนึ่งฤทัยร้องออกมาด้วยความตกใจ พร้อมกับดิ้นหนี แต่ก็ถูกแขนแกร่งกอดรัดเอาไว้ ศิลายิ้มออกมาด้วยความพอใจ เมื่อเช้าเธอทำให้เขาค้างคา จนหงุดหงิดใส่พนักงาน จมูกโด่งเป็นสันฝังลงมาที่ลำคอขาวเนียน แล้วซุกไซ้ไปมาอย่างมันเขี้ยว

            “อย่าค่ะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า” หนึ่งฤทัยสะดุ้งในตอนแรก ก่อนจะร้องห้ามแล้วดิ้นหนี

            “ดิ้นสิครับ ดิ้นอีก” ศิลาว่าให้อย่างล้อเลียน เวลานี้ไม่มีใครเข้ามาหรอกเพราะรู้ว่าเป็นเวลาส่วนตัวของเขา

            “ปล่อยก่อนค่ะ ฉันร้อน”

            “ร้อนตรงไหนครับแอร์เย็นเฉียบ”

            “คุณหินคะ อย่างรังแกกันสิคะ” ขัดขืนก็แล้ว ขอร้องก็แล้ว แต่ศิลาก็ยังเฉย หนึ่งฤทัยเลยใช้ลูกอ้อนกับเขา บางทีเขาอาจจะแพ้ทางลูกอ้อน เพราะเมื่อเช้าเธอก็ทำแบบนั้น

            “รังแกที่ไหนครับ ผมกำลังแสดงความรักต่างหาก” ศิลาแก้ตัวน้ำขุ่น ๆ แปลกใจตัวเองไม่น้อย เมื่อก่อนเขาไม่คิดจะแตะเธอเลยสักนิด แต่ตอนนี้อยากเข้าใกล้ อยากจูบอยากหอม อยากทำอะไรมากกว่านั้นทุกครั้งที่อยู่ใกล้ ๆ เธอ

            “ปล่อยฉันเถอะค่ะคุณหิน เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า จะดูไม่ดีนะคะ นี่เป็นห้องทำงาน ไม่ใช่พื้นที่ส่วนตัว” หนึ่งฤทัยนับหนึ่งถึงสิบในใจ แล้วบอกกับเขา

            “อายด้วยเหรอครับ เมื่อก่อนเราก็ทำแบบนี้กันประจำ บนโต๊ะตัวนี้ กลางไร่ ที่น้ำตก ไม่มีพื้นที่ตรงไหนในไร่ ที่เราสองคนจะไม่มีอะไรกัน” ศิลาบอกด้วยเสียงกระเส่า

            “ห๋า!!!” หนึ่งฤทัยร้องออกมาด้วยความตกใจ เมื่อฟังเขาพูดจบประโยค ถึงจะจำเรื่องที่เขาพูดไม่ได้ แต่จิตใต้สำนึกราง ๆ บอกกับเธอว่า เธอไม่น่าจะใช่คนแบบนั้น

            “เมื่อก่อนหนึ่งร้อนแรงแค่ไหน จำไม่ได้เลยเหรอครับ หนึ่งชอบให้ผมพาไปเอ้าดอ เพราะตื่นเต้นเร้าใจดี ดูสิครับแค่พูด ตรงนั้นของผมก็ตอบรับคุณ ของมันเคย ๆ นะครับ”

            “อุ้ย!” หนึ่งฤทัยอุทานออกมา เมื่อความแข็งแกร่งของเขาดุนดันสะโพกที่วางอยู่บนตักของเขา

            “คือ...คุณหินค่ะ ฉันคิดว่า...คือ...” หนึ่งฤทัยนึกคำพูดไม่ออก ไม่รู้ว่าต้องพูดกับเขายังไง เขาถึงจะหยุดพูดเรื่องที่เธอจำไม่ได้ ต่อให้เป็นแบบที่เขาพูดจริง ๆ แต่นั่นมันคือเมื่อก่อน ตอนนี้เธอจำอะไรไม่ได้ เขาก็น่าจะให้เวลาเธอบ้าง ขอบคุณที่เขาช่วยรื้อฟื้นความทรงจำให้ แต่ขอเป็นเรื่องอื่นได้ไหม เรื่องนี้มันใช่เรื่องที่จะเอามาพูดเล่นเหรอ

            “ฉันจำเรื่องที่คุณพูดไม่ได้เลยค่ะ ฉันน่าจะจำได้สักวัน ตอนนี้คุณช่วยปล่อยฉันก่อนได้ไหมคะ ฉันอยากกลับบ้านแล้ว ไม่อยากให้ผู้ใหญ่รอนานนะคะ” หนึ่งฤทัยยกสายพิณมาอ้างรอบที่สอง เพราะคิดว่าสายพิณน่าจะมีอิทธิพลกับเขาไม่มากก็น้อย และได้ผลแขนแกร่งที่รัดอยู่ที่เอวของเธอคลายออก แต่แค่นิดเดียวเท่านั้น ก็ยังดีหนึ่งฤทัยคิดในใจ

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • หนี้พิษสวาท   ตอนที่25.ขโมยลูก

    หนึ่งฤทัยรู้สึกตัวในเวลาต่อมา ตากลมโตมองฝ้าเพดานหลัง ก่อนจะหลับตาลงแล้วคิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา เมื่อแน่ใจว่าเธออยู่ที่โรงพยาบาล “ฟื้นแล้วเหรอลูก เป็นยังไงบ้าง เดี๋ยวพ่อตามหมอให้นะ” ภากรถามแล้วเดินมายืนข้างเตียงที่ลูกสาวนอนพักฟื้นอยู่ “คุณพ่อคะ คุณหินล่ะคะ คุณหินไปไหนคะ” ภากรขมวดคิ้วเข้าหากัน ที่ได้ยินลูกถามหาศิลาทันทีที่ลืมตาขึ้นมา “ศิลาพายายแก้วตาไปตั้งแต่เช้า ยังไม่พายายแก้วมาส่งเลย” คำพูดนี้ภากรหวังผลให้หนึ่งฤทัยโกรธ แต่หนึ่งฤทัยกลับเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “หนึ่งมาอยู่โรงพยาบาลได้ยังไงคะ คุณพ่อบอกคุณหินด้วยนะคะว่าหนึ่งฟื้นแล้ว หนึ่งอยากกลับบ้านค่ะ หนึ่งคิดถึงคุณหิน หนึ่งคิดถึงลูก” “หนึ่งว่าอะไรนะ หนึ่งคิดถึงใครนะลูก” ภากรถามเพื่อความแน่ใจว่าเขาฟังไม่ผิด “หนึ่งคิดถึงคุณหินกับลูกค่ะ” หนึ่งฤทัยตอบด้วยน้ำเสียงชัดเจน “พ่อว่า พ่อเรียกหมอมาดูอาการหนึ่งดีกว่า” พูดจบภากรก็กดกริ่งเรียกหมอ ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ ๆเพราะหนึ่งฤทัยจะคิดถึงศิลาได้อย่างไร เพราะคนที่ทำให้หนึ่งฤทัยตกอยู่ในสภาพนี้ก็คือศิลา แถมศิลา

  • หนี้พิษสวาท   ตอนที่24.เสียใจจนหมดสติ

    ศิลาพาหญิงสาวพามาโรงพยาบาล ภากรและเลขาตามมาในเวลาต่อมา “ยายหนึ่งเป็นยังไงบ้างคุณหิน” ภากรถามเมื่อพาตัวเองมายืนหน้าห้องฉุกเฉิน แววตาเจ้าเล่ห์หลบแววตาคมดุที่มองมาที่เขาเขม็ง “ทำไมคุณมองผมแบบนี้ล่ะหิน แล้วยายแก้วอยู่ที่ไหน คุณเอาหลานผมไว้ไหน" “ไม่ต้องห่วงแก้ตาอยู่ในที่ที่ปลอดภัยแล้ว ทันที่ที่หนึ่งฤทัยฟื้น ผมจะพาเธอไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัยด้วยเช่นกัน” “หมายความว่ายังไงหิน เรื่องนี้ให้ยายหนึ่งเป็นคนตัดสินใจเองดีกว่านะ คืนหลานให้ผมเถอะ เราจะตัดสินใจกันเอง” ภากรบอกกับคนหนุ่ม สิ้นเสียงภากรศิลาก็ยืนขึ้นเต็มความสูง “คุณยังไม่ได้ตัดสินใจอีกหรือคุณภีม ผมนึกว่าคุณตัดสินใจเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อสามปีก่อนแล้วซีก” “พูดอะไรของคุณ” ภากรถามพร้อมกับหลบตา “ที่คุณคืนทุกอย่างให้ผม ก็เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เหรอคุณภีม คุณรู้ว่าถึงยังไงผมก็ต้องรับผิดชอบหนึ่งฤทัยกับลูก มันก็เป็นไปตามแผนของคุณแล้วไง ยังต้องการอะไรอีก” “หมายความว่ายังไง” “หมายความว่าผมรู้ทันแผนการของคุณไงครับ ต่อไปนี้เรื่องของผมกับหนึ่งฤทัย คุณไม่ต

  • หนี้พิษสวาท   ตอนที่23.คนที่ร้ายที่สุด

    หนึ่งฤทัยตื่นขึ้นมาทำอาหารเช้าให้ลูก เมื่อตัดสินใจอยู่ที่บ้านแล้วก็ต้องเดินหน้าต่อไป การเผชิญหน้าระหว่างเธอกับเขาต้องเกิดขึ้นอีกแน่ ๆ แต่เธอจะมีสติให้มากกว่านี้ เธอจะไม่หวาดกลัว และจะไม่หนีเขาอีกแล้ว ศิลาก็แค่ผู้ชายธรรมดาเท่านั้น คนที่ร้ายที่สุดคือพ่อของเธอต่างหาก ความเสียใจตีตื้นเข้ามาในหัวใจ นอกจากลูกแล้ว พ่อเป็นอีกคนที่เธอรักมากที่สุด ไม่คิดเลยว่าพ่อจะทำแบบนี้กับเธอ “คุณศิลามาขอพบค่ะ” คำพูดของแม่บ้านทำให้คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน “คุณศิลาขอพบหนึ่งเหรอคะ” ถามเพื่อความแน่ใจ เพราะไม่รู้ว่าคนที่เขาต้องการพบคือเธอหรือพ่อกันแน่ “ใช่ค่ะ คุณศิลาบอกว่าต้องการพบคุณหนึ่ง” แม่บ้านเน้นย้ำคำพูดของศิลาให้เธอฟัง “คุณศิลาอยู่ที่ไหน” “อยู่ในห้องรับแขกค่ะ” “ไปบอกเขานะคะว่าเดี๋ยวหนึ่งลงไป” แม่บ้านออกไปแล้ว หนึ่งฤทัยถอนหายใจออกมา ตากลมโตมองไปที่ลูกที่ยังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง “คุณต้องการพบฉันเหรอคะ” หนึ่งฤทัยถามเมื่อเดินเข้ามาเผชิญหน้าเขาในห้องรับแขก “แก้วตาอยู่ไหน” ศิลาถามเมื่อไม่เห็นคนตัวเล็กลงมาก

  • หนี้พิษสวาท   ตอนที่22.ความรู้สึกที่ติดอยู่ในใจ

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ มีผลกับหัวใจของศิลาไม่น้อย เพราะภาพใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของหนูแก้ตายังติดอยู่ในหัวของเขา สลัดยังไงก็ไม่ออก หนึ่งฤทัยตกใจมากที่เจอเขา เขาเองก็ตกใจมากเช่นกัน หลายปีมานี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขายังนึกถึงเธอ ถึงแม้จะพยายามลืม แต่ก็ลืมเธอไม่ได้สักครั้ง หนึ่งฤทัยยังคงอยู่ในความทรงจำของเขา การเจอกันครั้งนี้ทำให้ศิลาทำตัวไม่ถูก ความรู้สึกในหัวตีกันจนวุ่นวายไปหมด โดยเฉพาะตอนที่ตาของเขาสบเข้ากับตากลมโตคู่เล็กโลกของเขาก็แทบจะหยุดหมุน เมื่อคิดไม่ตกศิลาก็พาตัวเอง ออกไปยังที่ที่เขามักจะไปซ่อนตัวอยู่ในนั้น บ้านท้ายไร่เป็นที่ที่เขาจะมาอยู่เป็นประจำ บางครั้งก็นอนค้างที่นี่ ที่นี่ยังเป็นเหมือนเดิม มืดและเงียบเหงา ครั้งหนึ่งเขาเคยใช้มันเป็นคุกกักขังและทำร้ายเธอ หนึ่งฤทัยยังคงเหมือนเดิมมีเพียงสายตาเท่านั้นที่เปลี่ยนไป ในความตกใจและสับสนมันมีความว่างเปล่าอยู่ในนั้น ว่างเปล่าซะจนเขาคิดว่าเธอมองเขาเป็นแค่อากาศเท่านั้น เด็กคนนั้นชื่อแก้วตา ภากรบอกว่าแก้วตาฉลาดเกินวัย อายุแค่สามขวบกว่า ๆ แต่รู้เรื่องทุกอย่าง พูดคุยตอบโต้ได้ทุกอย่าง ตอนแรกเขาก็ไม่เชื่อจนได้มาเห็นกับตา ลูกเขาฉลาดเกิ

  • หนี้พิษสวาท   ตอนที่21.หนูน้อยแก้วตา

    สามปีต่อมา“หนึ่งจะกลับเมืองไทยพร้อมอาหรือเปล่าลูก” อรนภาถามคนที่นอนตะแคงป้อนนมลูกอยู่บนเตียงนอน “หนึ่งยังไม่พร้อมค่ะคุณอา หนึ่งกลัว” หนึ่งฤทัยบอกกับคนที่เดินมาหย่อนสะโพกลงบนเตียงนอนของเธอ “หนึ่งไม่ได้ทำอะไรผิด จะกลัวทำไมลูก” อรนภาบอกกับหญิงสาว พร้อมกับเอื้อมมือมาลูบศีรษะเจ้าตัวเล็กที่หลับพริ้มอยู่กับหน้าอกของแม่ “หนึ่งกลัวผู้ชายคนนั้นจะมาวุ่นวายกับหนูแก้วตานะคะ” หนึ่งฤทัยบอกอรนภาไปตามตรง ตั้งแต่พ่อกับแม่หย่าร้างกัน เธอก็ถูกส่งตัวมาอยู่กับอาที่ต่างประเทศ อรนภาจึงเป็นเหมือนแม่คนที่สองของเธอ “เขาเป็นคนบอกเองว่าไม่ต้องการลูก หนึ่งจะเก็บเอาไว้หรือเอาลูกออกก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา ไม่ต้องกลัวนะลูกอาจะอยู่ข้าง ๆ หนึ่งเสมอ” “ขอบคุณค่ะอาอร” หนึ่งฤทัยพูดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา “เป็นอะไรลูก ร้องไห้ทำไม” อรนภาถามด้วยความตกใจ “หนึ่งดีใจนะคะ ที่หนึ่งมีอาเป็นแม่ของหนึ่งอีกคน ถ้าวันนั้นหนึ่งไม่มีคุณอา หนึ่งคงไม่ได้เก็บหนูแก้วตาเอาไว้ หนึ่งขอบคุณอาอรนะคะ ที่ดูแลหนึ่งกับลูกมาตลอด” “ไม่ต้องคิดมากนะลูก อะไรที่ม

  • หนี้พิษสวาท   ตอนที่20.ปรับความเข้าใจ

    ศิลาเดินทางมากรุงเทพฯ อีกครั้ง ปลายทางของการเดินทางครั้งนี้คือบ้านของภากร “ผมคิดไว้แล้วว่าคุณต้องมา” ภากรพูดขึ้น เมื่อศิลาเดินเข้ามาในห้องโถงของบ้าน “หนึ่งฤทัยอยู่ไหน” ศิลาถาม “คิดถึงยายหนึ่งเหรอหิน” ภากรไม่ตอบคำถาม แต่ถามคำถามกลับมา “ผมถามว่าหนึ่งฤทัยอยู่ไหน เรียกเธอลงมาพบผมเดียวนี้ เรามีเรื่องต้องคุยกัน” “ยายหนึ่งไม่ได้อยู่ที่นี่หรอก กลับฝรั่งเศสตั้งแต่วันที่กลับมาจากเชียงรายเลย ผมเองก็ยังไม่ได้เจอหน้าลูกเหมือนกัน” “ไม่จริง!” “ไม่มีเหตุผลที่ผมต้องโกหกคุณ ยายหนึ่งกลับฝรั่งเศสไปแล้ว ไม่เชื่อก็ตามไปสิ” “ไม่! ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น” เขาไม่ได้อยากเจอเธอถึงขนาดจะต้องบินข้ามฟ้าไปหาขนาดนั้น “เดี๋ยวก่อนหิน” ภากรเรียกชายหนุ่มเอาไว้ เมื่อเขาจะก้าวเท้าออกจากบ้าน “อะไร” ศิลาถาม ตาคู่คมจ้องมองซองสีน้ำตาลในมือภากรเขม็ง “เอกสาร...” ภากรตอบเสียงราบเรียบ “อย่าคิดว่าจะให้ผมรับผิดชอบอะไร เรื่องที่เกิดขึ้นกับหนึ่งฤทัยมันก็แค่ความใคร่” คำพูดของศิลาทำให้หัวใจของคนเป็น

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status