Share

บทที่ 17 แทน

last update Huling Na-update: 2024-11-22 17:03:25

บทที่ 17

พี่บัวคะ เชฟบอกว่าต้องการเพิ่มดอกไม้แบบทานได้เข้ามาในเมนูใหม่ค่ะ”

บุษยาเงยหน้าขึ้นจากรายการสั่งซื้อวัตถุดิบในแต่ละวันเพื่อมองปานขวัญ เด็กสาวอายุราวสิบเก้าปีเพิ่งจบคหกรรมในวิทยาลัยท้องถิ่น

“ได้สิ แล้วได้ระบุมาหรือเปล่า”

“ไม่ค่ะ เออจริงสิพี่บัว พี่รู้เรื่องเจ้านายคนใหม่ที่มาซื้อโรงแรมเราหรือเปล่าคะ”

เธอจดรายการดอกไม้ทานได้เพิ่มลงในตารางการสั่งซื้อเพื่อไปยื่นให้แผนกจัดซื้อจัดการต่อ อันที่จริงฝ่ายหัวหน้าอยากจัดการให้เธอขึ้นมาเป็นหัวหน้าเชฟแทนคนปัจจุบันเพราะเธอสามารถทำอย่างอื่นได้อีกนอกจากทำอาหาร อย่างเช่นออกเมนูใหม่ หรือช่วยดูเรื่องแนวทางการเลือกอาหารขึ้นโต๊ะเวลามีงานเลี้ยงสำคัญ แต่บุษยาปฏิเสธเพราะเธอต้องการกลับบ้านไปใช้เวลาที่เหลือดูแลงานฟาร์มด้วย

“ไม่เลย มัวแต่ยุ่งเรื่องงานเลี้ยงที่จะมีในอีกไม่กี่วันนี้”

เธอยื่นรายการให้น้องแผนกจัดซื้อแล้วจึงเดินกลับไปในฝ่ายครัวโดยที่เด็กสาวคนนี้ยังเดินชวนคุยไม่ห่าง

“ก็งานนี้ล่ะค่ะ เห็นว่าเป็นชาวต่างชาติหล่อมาก”

“ทำอย่างกับว่าเราไม่เคยเห็นคนหล่อมาก่อนอย่างนั้นแหล่ะ”

“พี่บัวก็ นั่นมันแขกที่มาพัก แต่นี่กำลังจะมาเป็นบอสคนใหม่ พี่ไม่รู้สึกอะไรบ้างเหรอคะ”

“ก็เหมือนเดิม เรายังคงต้องทำงานเหมือนเดิมไงล่ะปาน”

บุษยาเดินเข้าไปในแผนกครัวของโรงแรมชื่อดัง เธอมาถึงที่นี่ตั้งแต่ห้านาฬิกาทำงานกะเช้าเตรียมของสำหรับอาหารเช้าให้แขกในโรงแรมรวมไปถึงอาหารเที่ยงและของว่างยามบ่าย จบงานเกือบสิบหกนาฬิกาจึงได้กลับบ้าน

ซึ่งถ้าวันไหนถึงบ้านเร็วเธอจะแวะไปยังกระชังหอยนางรมเพื่อคุยกับคนงานถึงปัญหาที่เกิดในแต่ละวัน กว่าเธอจะงมทางมาจนทุกวันนี้พอมีรายได้จากฟาร์มหอยที่มีเหลืออยู่น้อยนิดเอามาจุนเจือการจ้างคนงานดูแลสวนยาง

“อ้าว บัวทำไมเพิ่งมา เนี่ยบอสใหม่มาแล้ว กลับออกไปได้สักครึ่งชั่วโมง”

บุษยายิ้มกว้างหยิบผักสดในตะกร้าผักขึ้นมาเด็ดช่วยผู้ช่วยในครัวเพื่อเตรียมอาหารรอบเที่ยง

“ดีแล้ว จะได้ไม่ต้องเกร็งตัวเวลาเจอข้างนอก”

“โอ๊ย! ถึงไม่เห็นวันนี้ แต่ถ้าบัวได้เจอข้างนอก แม้ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครก็ได้เกร็งตัวแน่”

เธอหัวเราะเสียงใส มือยังเด็ดผักเร่งรีบ ของทุกอย่างต้องเสร็จในราวสิบโมงครึ่งทุกเช้าเตรียมไว้พอเวลาสิบเอ็ดโมงจะมีลูกค้าบางส่วนทยอยลงมายังห้องอาหาร ถึงเวลาเพียงยกไปใส่ถาดอุ่นก็เสร็จเรียบร้อย

“ทำไมล่ะคะ เห็นปานบอกว่าหล่อมากกก”

“หล่อจริง แต่ก็ดูท่าจะดุมากเช่นกัน วรรณไม่กล้าสบตาเลย บอกตรง ๆ ว่ากลัว ผิวงี้คล้ำเหมือนกับ เอ๋! จะว่าไปเหมือนบอสคนใหม่จะเป็นลูกครึ่งนะ”

บุษยารวบรวมผักที่เด็ดเสร็จแล้วแล้วไปวางไว้ตรงจุดเตรียมวัตถุดิบ ที่สำหรับวางให้แม่ครัวหยิบปรุงประกอบอาหารได้สะดวก

“เป็นลูกครึ่ง? แล้วพูดไทยได้ไหมคะ”

“ได้สิ มาถึงพูดไทยชัดมากเลยบัว”

หน้าหวานเพียงพยักหน้ารับแต่ไม่ได้นึกอะไรต่อ งานในครัวทำให้เธอหมดความสนใจต่อสิ่งรอบข้างไปนานแล้ว แต่ข้อดีของงานนี้ก็คือการได้ทิ้งบางอย่างไว้เบื้องหลังชั่วคราว

“อ้าว แป้งหมด เดี๋ยวบัวมานะขอไปทำเรื่องเบิกของก่อน”

บุษยาเอ่ยขึ้นแล้วเดินออกไปจากแผนกครัว จากนั้นตรงไปยังห้องเก็บวัตถุดิบที่แยกมาจากห้องครัว เซ็นชื่อและรายการที่เบิกมาก้มลงหยิบลังแป้งทอดกรอบออกมาหนึ่งลัง น้ำหนักของลังค่อนข้างหนักแต่เธอยังพยายามยกมัน

“หนักเหมือนกันบัว จะไหวไหมนะ”

เสียงหวานรำพันกับตัวเองเบา ๆ แล้วตัดสินใจยกขึ้นจนร่างแอ่นเดินออกจากห้องเก็บวัตถุดิบเลี้ยวไปยังห้องครัว

โครม!! พลั่ก!!

บุษยาชนเข้าอย่างจังกับร่างของคน ๆ หนึ่งสูงใหญ่จนเธอเองหงายหลังจากน้ำหนักที่ถืออยู่ไม่ยอมปล่อย ร่างบอบบางแอ่นโค้งมือยังโอบกอดลังแป้งทอดกรอบไว้แน่นกลัวตกพื้น

แต่ยังไม่ทันหงายท้องกลับมีแขนกำยำแข็งแรงของชายร่างสูงใหญ่ โอบเอวรั้งเธอไว้ดึงจนเธอกลับมายืนได้ตั้งตรง

“ขอบคุณค่ะ เกือบไปแล้ว”

“ไม่เป็นไร”

เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นคุ้นหูเสียจนเธอต้องแหงนหน้าตั้งบ่าดู แต่ยังไม่ทันเห็นหน้าชายหนุ่มคนนั้นพลันเดินเลยเธอไป ดวงตาคมรีได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างใหญ่ในชุดสูททำงานราคาแพง ผมดำสนิทยาวประบ่าหยักศกมัดไว้เรียบร้อยตรงท้ายทอย

ไม่จริง ไม่ใช่

ในใจร่ำร้องต้องการเดินไปหา ดึงแขนชายหนุ่มคนนั้นให้หันกลับมา เพื่อดูหน้าให้ชัด ดูสีของดวงตาจะใช่สีฟ้าครามดั่งท้องทะเลหรือไม่ ริมฝีปากเป็นแบบไหน ผิวของเขาขาวหรือดำ ผิวคล้ำเหมือนคน ๆ นั้นที่เธอไม่ได้เจอมานานแล้วหรือเปล่า พี่แทน

รถหรูสีดำเลี้ยวเข้ารั้วจอดลงหน้าลานบ้านหลังใหญ่ที่เขาเคยเติบโตมา สิ่งแรกที่สังเกตเห็นคือความรกร้างเงียบเหงา ไม่มีคนงานเดินขวักไขว่ดั่งแต่ก่อน

เสียงคลื่นยังดังสาดซัดแต่ไกล หน้าคมเข้มเอี้ยวมองฟาร์มหอยนางรม กระชังที่ลอยอยู่เหนือน้ำเหลือเพียงไม่กี่กระชังเท่านั้น มีลุงแก่ ๆ นั่งอยู่ในกระโจมหลังคากลางฟาร์มกำลังยกเชือกขึ้นตรวจดูหอยเหมือนที่เขาเคยทำเมื่อสมัยก่อน

ร่างแกร่งเดินตัดเลียบข้างบ้านเพื่อตรงไปยังห้องครัว รูปร่างผอมบางของแม่ช่างบีบหัวใจของเขาเหลือเกิน พสุธาไม่ส่งเสียงอะไรเมื่อหยุดอยู่ตรงประตูเพื่อพิจารณารูปร่างของแม่ให้ถี่ถ้วน

กลิ่นอาหารใต้โชยมาจากเตาเล็กที่แม่กำลังสาละวนอยู่ สภาพภายในครัวดูทรุดโทรมลงเหมือนภายนอกบ้านจนเขาได้แต่แปลกใจ ไม่มีการโยกย้ายสิ่งของ และไม่มีอะไรเพิ่มเติมกว่าแต่ก่อนเช่นกัน

ร่างสูงใหญ่ยืนกอดอกพิงขอบประตูเพื่อมองดูมารดาทำหน้าที่ที่ทำเป็นประจำมาตลอดหลายสิบปี

แต่ไม่อีกต่อไปแล้ว เขาจะไม่ให้แม่ของเขาต้องลำบากอีกต่อไป เขามาในวันนี้เพื่อมารับแม่ของเขาไปอยู่ด้วย

“แม่ครับ”

ร่างหญิงสูงวัยชะงักมือขณะกำลังคนแกงเหลืองของโปรดของบุษยา เสียงทุ้มต่ำคุ้นหูดังมาจากทางประตูครัวจนร่างของหญิงวัยปลายห้าสิบสะท้าน เธอวางตะหลิวลงในกระทะใบกว้างหันไปมองทางต้นเสียง

“แทน!! แทนลูกแม่!!”

ร่างผอมบางทิ้งของอย่างตกใจ ดวงตายับย่นเบิกกว้างแล้วโผเข้าหาลูกชายทันที ร่างสูงใหญ่กว่าเมื่อก่อนจนเธอเองโอบแทบไม่รอบ

“แทน ในที่สุดลูกก็มา ฮือ ฮัก อือ ฮื้อ แม่คิดถึงลูกมาก ลูกไม่ส่งข่าวหาแม่บ้าง ฮื้อ”

พสุธากอดหญิงสูงวัยแน่นก่อนผละออกแล้วทรุดลงแทบเท้ากราบผู้เป็นแม่นอบน้อม แขนผอมบางประคองบ่าเขาไว้ เสียงสะอึกสะอื้นยังดังไม่ขาดสายขณะที่เขาเงยหน้าขึ้นจากเท้าเหี่ยวย่นกว่าวัย

“ลุกขึ้น ลุกขึ้น ไม่ต้องกราบแม่ ไหนมาดูสิ ลูกโตขึ้นอีกมากเลย มานั่งลงตรงนี้เถอะ”

มือเหี่ยวย่นรีบประคองร่างสูงแกร่งไปที่เก้าอี้ในห้องครัว แล้วจึงเดินไปปิดเตาแก๊สก่อนกลับมานั่งคุย

“ลูกไปอยู่ไหนมา ไหนเล่าให้แม่ฟังสิ ลำบากมากไหม แล้วนี่มาคนเดียวหรือพาใครมาด้วย ลูกแต่งงานแล้วหรือยัง แล้ว..”

“แม่ครับ แม่ถามเป็นชุดเลย ผมไม่ลำบากหรอกครับแม่ สบายดีด้วยซ้ำ แต่เอาไว้เราจะคุยกันเรื่องนี้อีกทีครับแม่ วันนี้ที่ผมมาก็เพื่อมารับแม่ไปอยู่ด้วยกัน”

พรพิศถอนหายใจเหนื่อยอก มือหยาบลูบใบหน้าลูกชายเพียงคนเดียวที่เธอไม่เห็นหน้ามานานเกือบเจ็ดปี น้ำตายังรื้นฉ่ำนัยน์ตา ปากพสุธาบอกไม่เป็นไรแต่เธอรู้ว่านั่นไม่จริง ดวงตาสีฟ้าไม่แจ่มใสเมื่อก่อนคงเพราะต้องพบเจอเรื่องราวมามากมาย

“แม่ไปไม่ได้หรอกลูก แม่ต้องอยู่ดูแลคุณบัว”

“ทำไมแม่ต้องอยู่ดูแลคุณบัว!”

เสียงเข้มดังกร้าวกระด้างขึ้น เขาปล่อยมือออกจากมือของแม่แล้วเหลียวมองหาคนในบ้าน

“แล้วนี่ทำไมบ้านเงียบแบบนี้ล่ะครับ จริงสิ บุษยาคงแต่งงานออกไปนานแล้ว”

“ลูก ไม่ใช่ คือว่า..”

“เอาเป็นว่าผมจะกลับไปก่อนวันนี้แล้วแม่ค่อยตัดสินใจบอกผมอีกที”

เสียงแข็งเข้มข้นด้วยอารมณ์คุกรุ่น ร่างสูงใหญ่ผุดลุกขึ้นยืนทันทีด้วยกลัวไม่อาจยั้งใจไว้ได้ระเบิดอารมณ์ออกมา ก้มลงเขียนเบอร์โทรศัพท์วางไว้บนโต๊ะกลางห้องครัว 

“แทน คุณบัว..”

“แม่อย่าเอ่ยชื่อนี้ให้ผมได้ยินอีก ผมจะรอโทรศัพท์แม่นะครับ”

พรพิศถอนหายใจหนักหน่วง เธอรักลูกชายของเธอมากและต้องการกลับไปพร้อมกับเขา แต่เธอเองไม่อาจทิ้งคุณบุษยาซึ่งตอนนี้อยู่ตัวคนเดียวไปได้

“งั้นแม่จะลองคิดดู”

“ครับ ผมอยากได้ยินข่าวดีนะครับแม่”

พสุธาก้มกราบที่ไหล่บางของพรพิศอีกครั้งก่อนเดินออกไปจากห้องครัว ตรงไปยังรถหรูหันกลับไปมองบ้านหลังใหญ่อีกครั้ง ความทรงจำมากมายถาโถมเข้ามาจนเขาแทบหายใจไม่ออก

“กลับโรงแรม”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • หนี้รักนายหัว   บทพิเศษ

    บทพิเศษบอดี้การ์ดร่างยักษ์และนายสาวบ้านจรัญทัดทองนอนเอนกายบนเตียงใหญ่ ปีนี้เขาอายุปาไปเกือบจะสี่สิบห้า เคยมีลูกมีเมียมาก่อนและไม่ไว้ใจใครมือคีบบุหรี่สูดอัดเข้าปอดก่อนพ่นควันขาวเป็นทาง มองไปยังด้านข้างสาวใหญ่อวบอิ่มหน้าตาคมสวยร่ำรวยของเมืองใครจะรู้ว่าแท้จริงเธอไม่ได้ช่ำชองอย่างที่คาดไว้แม้แต่น้อย ออกไร้เดียงสาด้วยซ้ำ เมื่อคืนตอนที่ชำแรกครั้งแรกเขารู้ได้เลยว่าเธอแทบไม่เคยได้ใช้งานถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนแรกยิ้มกวนอารมณ์อย่างที่พสุธาชอบแซวผุดขึ้นมุมปากหนา ไม่น่าเชื่อว่าทั้งเขาและเธอกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันเมื่อคืนเพราะความเมาจากงานแต่งของนายหัวพสุธาร่างผิวเข้มจากการตากแดดดึงร่างอวบอิ่มเข้ามาแนบกายพร้อมกับพ่นควันยาว เขานอนอยู่ในห้องพักโรงแรมนายหัวโดยที่สาวลูกเจ้าของบริษัทดังของท้องถิ่นแนบกายเขาจะรออีกสักหน่อยเพื่อปลุกเธอมาต่อสักรอบ อันที่จริงถ้าระยะยาวเลยจะดีมาก เขาชอบหุ่นแสนทรมานใจ เสียงใสหวีดร้องขณะที่ขยับบนร่างเขา เธอปลดปล่อยอารมณ์ได้สวยงามและไม่เสแสร้ง“อือ”เสียงครางแผ่วเบาลอดออกมาจากลำคอเมื่อหญิงสาวในอ้อมแขนขยับกาย เขาจ้องมองดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นเขาโน้มตัวใกล้ และเขาเห็นว

  • หนี้รักนายหัว   บทที่ 49** NCจบบริบูรณ์

    บทที่ 49**จบเปรี้ยง! ซ่า! ซ่า!บุษยารีบวิ่งไปปิดประตูหน้าต่างช่วยป้าพรพิศในชั้นล่างก่อนวิ่งขึ้นชั้นบนเพื่อไล่ปิดตามห้องพสุธาหายไปเกือบอาทิตย์แล้วนับจากวันที่เขาตกน้ำ หน้าหวานคมขุ่นมัว แค่จะง้อเธอยังทำไม่ได้เลยปัง! ปัง!มือเล็กกระแทกหน้าต่างปิดอย่างแรกทีละบานกระทั่งมาถึงห้องนอนของเธอ บุษยาไล่ปิดหน้าต่างไม้ แต่พอถึงบานข้างโต๊ะเขียนหนังสือมือเรียวชะงักไปท่ามกลางสายฝนพัดกระหน่ำจนขาวโพลน ชานบ้านพักหลังเล็กกลับมีผู้ชายคนหนึ่งร่างสูงใหญ่ผิวคล้ำยืนอยู่ ลมกรรโชกแรงจนพัดร่างของเขาเปียกปอน ปากเย้ายวนเม้มแน่นกระแทกบานหน้าต่างปัง!!ภาพร่างสูงใหญ่ยังติดตาจนเธอสะท้านถึงข้างในทรวง อาการเจ็บแปลบที่เป็นมาเกือบสิบวันมลายหายไป ตอนนี้หัวใจดวงน้อยกลับเต้นถี่รัวด้วยความตื่นเต้นเธอหันหลังให้หน้าต่างบานนั้น เสียงลมและฝนยังสาดซัดกระทบหน้าต่างเสียงดังสนั่นจนเธอต้องหันตัวกลับไป มองร่องกลางหน้าต่างบานไม้ของบ้านหลังนี้ที่สร้างมานานนับหลายสิบปีก่อนเธอจะเกิดความเก่าแก่ร่องรอยไม้ซีดจาง ที่จับหน้าต่างทำจากเหล็กสลักลายเก่าขึ้นสนิทเล็กน้อยแต่ยังใช้งานได้ดี ตอนที่ยังเด็กเตี้ยกว่านี้ เธอต้องปีนเก้าอี้เพื่อจับด้ามหน้

  • หนี้รักนายหัว   บทที่ 48 ถ้าเขายอมง้อเธออีกสักหน่อย

    บทที่ 48“แม่ครับ”“อ้าวแทน มาทำอะไร ต้องพาหนูบัวไปโรงพักเหรอ”“เปล่าครับ นี่ขนมที่บัวชอบ”พรพิศยื่นมือออกไปรับถุงขนมแล้วเปิดดูก่อนจะยิ้มออกมา“มีแต่ของชอบ รู้ใจคุณบัวเสียจริงลูกแม่”“แล้วบัวล่ะครับ”พรพิศวางถุงขนมลงบนโต๊ะในครัวแล้วพยักหน้าไปยังทิศทางที่เห็นร่างบอบบางเดินออกไป“โน้น อยู่แพหอย”พรพิศพูดไม่ทันจบประโยคร่างสูงใหญ่ของลูกชายพลันก้าวลงจากพื้นห้องครัววิ่งแกมเดินไปยังแพหอยกลางน้ำรอยยิ้มของหญิงวัยกลางคนหุบลงเมื่อแผ่นหลังกว้างเดินออกไปไกลมากแล้ว หวนนึกถึงเรื่องที่คุยกับคุณปู่ของพสุธาเมื่อวานนี้วิลเลี่ยมพ่อของพสุธาเสียชีวิตลงไม่นานนักหลังจากที่เธอจากมาด้วยอุบัติเหตุพร้อมพ่อกับแม่ของวิลเลี่ยมด้วยเช่นกัน เธอไม่เคยบอกสาเหตุที่เธอทิ้งพ่อของพสุธามา แต่เธอเล่าให้ปู่ของเขาฟังวันที่วิลเลี่ยมพาเธอเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้น พ่อกับแม่ของวิล เลี่ยมไม่พอใจมากถึงขั้นโต้เถียงรุนแรงและลงไม้ลงมือ ไหล่พรพิศสั่นเล็กน้อยเมื่อนึกภาพอดีตของคืนเลวร้าย วิลเลี่ยมถูกส่งตัวไปทำแผลในโรงพยาบาลซึ่งต้องทิ้งเธอไว้ที่บ้านกับแม่ของวิลเลี่ยมชนชั้นสูงอย่างบ้านแบล็ครับไม่ได้ที่ลูกชายเพียงคนเดียวมีภรรยาคนละฐานะกัน ต

  • หนี้รักนายหัว   บทที่ 47 ใจพสุธา

    บทที่ 47กว่าจะได้กลับบ้านอีกครั้งบุษยาและบุหลันเองเพลียเต็มทน ต้องไปให้ปากคำที่กองกำกับการประจำอำเภอเพราะถนนเส้นนั้นเป็นเขตของอีกอำเภอทำให้เสียเวลาเดินทาง“คุณบัว คุณบุหลัน!!”ป้าพรพิศตาโตตกใจเมื่อเห็นคุณหนูทั้งสองสภาพไม่น่าดูนัก เหลือบตามองลูกชายที่ยังหน้าบึ้งเดินตามมาข้างหลัง“เดี๋ยวผมเล่าให้ครับแม่ แล้วคุณปู่ล่ะครับ”“แม่ทำความสะอาดห้องพักข้างบนให้ท่านขึ้นไปพักผ่อนแล้ว”ป้าพรพิศรีบเข้าไปช่วยเข็นรถของบุหลันแทนบุษยาแล้วพาเลี้ยวเข้าไปด้านหลังปล่อยบุษยาไว้กับพสุธาสาวร่างบางรีบก้าวเท้าขึ้นบนบ้านได้ยินเสียงฝีเท้าหนักเดินตามหลังจึงหันไปมอง เห็นคนร่างสูงเดินขึ้นบันไดตามมาด้วย“พี่แทนกลับไปเถอะค่ะ”“พี่จะขึ้นไปหาคุณปู่”บุษยาเม้มปากสะบัดหน้ากลับก่อนแดงซ่านด้วยความอาย เพราะหลงเข้าใจผิดว่าเขาตามง้อเธอ รีบย่ำเท้าเร็วขึ้นแล้วเลี้ยวซ้ายไปยังห้องเล็กผลัก! พสุธาใช้มือทาบยันประตูไว้ได้ทันก่อนที่คนร่างเล็กปิดลงแทรกร่างใหญ่โตเข้าไปโดยที่เธอสู้แรงไม่ได้“พี่แทน!! นี่มันห้องบัว”“แล้วยังไง พี่แค่อยากมาดูห้องเมีย”“บัวไม่ได้เป็นเมียพี่!!”ชายร่างโตไม่โต้เถียงเพียงเดินดูรอบห้องแล้วไปหยุดที่โต๊ะเขียนหน

  • หนี้รักนายหัว   บทที่ 46 บุหลัน

    บทที่ 46พรพิศมองตามหลังสองหนุ่ม แม้ว่าเธอไม่รู้เรื่องของลูกชายตัวเองมากนักว่าหายไปไหนกับใครมาหลายปี รู้แค่ว่าเขาน่าจะไปอยู่กับพ่อผู้ให้กำเนิด แต่ชายชราร่างใหญ่ผิวคล้ำคนนี้ไม่ใช่คนรักเก่าของเธอ“สวัสดี ผมวิลเลี่ยมเป็นปู่ของวิล ดูท่าเราอาจต้องคุยกันยาวนะ”“สวัสดีค่ะ”หญิงวัยกลางคนตรงหน้าตอบเขาเป็นภาษาอังกฤษอย่างที่ชายชราเองก็ไม่อยากจะเชื่อ พรพิศเดินนำชายชราเข้าไปในบ้าน เธอเองก็อยากรู้ใจแทบขาดว่าผู้ชายคนรักเก่าของเธอเป็นอย่างไรบ้าง และเรื่องราวหลังจากที่พสุธาตามหาพวกเขาจนเจอนั่นเป็นอย่างไรเอี๊ยดดด!! โครม!!“โอ๊ย!!”ร่างบอบบางศีรษะโขกกับคอนโซลหน้ารถทันทีที่เกิดอุบัติเหตุ รถคันเล็กของเป็นเอกถูกกระแทกจากการปาดหน้า จนต้องหักพวงมาลัยซ้ายสุดเพื่อให้รถลงไปยังไหล่ทางก่อนจะชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ข้างทางบุษยารีบเอี้ยวตัวไปดูน้องสาวที่นั่งด้านเบาะหลังเห็นร่างผอมบางร่วงลงไปกองกับพื้นรถแต่ไม่เป็นอะไรมากกึก! ตึ้ง! หมับ!“ออกมานี่”คนร่างโตคล้ำดำผมหยิกปิดหน้าตาด้วยผ้าคลุมโหม่งสีดำฉุดร่างของบุษยาออกมาจากรถจนร่างบอบบางเอียงถลาเกือบล้มคว่ำ“พี่เอาไงนิ เป็นตากาลักกาลุย หัวเช้าวานยังแลงว่าคนเดียว[1]”“กูรู้?

  • หนี้รักนายหัว   บทที่ 45 สมใจลูกแล้ว

    บทที่ 45พสุธานั่งไขว้ห้างบนโซฟาในห้องทำงานกระดิกเท้าอย่างร้อนรน มองคุณปู่ผิวคล้ำใบหน้าคล้ายคลึงกับเขาเพียงแต่สูงวัยกว่ามากและผมขาวจนเกือบทั้งศีรษะ“ปู่มาไม่บอกล่วงหน้า”“ถ้าฉันบอก ฉันจะเจอแกไหมแทน”เขามองรอยยิ้มกวนประสาทที่อยู่บนหน้าปู่ก่อนเบือนหนีไปยังด้านอื่นเพื่อปกปิดอาการผิดสังเกตของตัวเอง แต่ไม่รอดพ้นสายตาของผู้สูงวัยที่ผ่านประสบการณ์มาโชกโชน“เป็นอะไร! ปกติไม่เป็นแบบนี้”ชายสูงวัยหันไปถามบอดี้การ์ดคนสนิทของหลานชายรอยย่นรอบดวงตาหรี่ลงด้วยความสงสัย ตามปกติพสุธามักสงบนิ่งและควบคุมตัวเองได้เป็นอย่างดี“ไม่มีอะไรมากหรอกครับมิสเตอร์แบล็ค แค่อาการอกหัก”“พี่ทัด!!”“ห๊า!!”เสียงตะโกนขึ้นมาพร้อมกันของปู่กับหลานทำทัดทองยิ้มกว้างกว่าเดิมหันไปมองหน้าคนปู่ที่ใบหน้าคงฉงนฉงาย“พูดมาเดี๋ยวนี้เลย ผู้หญิงคนไหนกันปฏิเสธหลานของฉัน”“ฮ่า ฮ่า มิสเตอร์ต้องไม่อยากเชื่อแน่ถ้าเล่าให้ฟัง”“พี่ทัด หุบปากไปเลยดีกว่า”เสียงคำรามกร้าวยิ่งทำให้ทัดทองยิ้มอย่างกับคนบ้า เขาอยากจะให้ไอ้หมอนี้โดนคุณปู่อบรมสั่งสอนเรื่องการทะนุถนอมผู้หญิงเสียหน่อย“โฮะโฮ้ ไอ้เสือนี่ไปทำอีท่าไหนเขาถึงทิ้งไป”เสียงปู่ยังขยี้ไม่หยุดจ้อง

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status