Beranda / รักโบราณ / หมอปีศาจพันหน้า / โหราจารย์แห่งแคว้นเว่ย 1

Share

โหราจารย์แห่งแคว้นเว่ย 1

last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-07 19:17:21

ห่างออกไปไกลเป็นพันลี้ ที่ตั้งเมืองหลวงแคว้นเว่ย ผู้คนเดินทางเข้าออกเมืองหลวงคึกคักรวมไปถึงคาราวานพ่อค้าที่นำสินค้ามาขาย เพราะแคว้นเว่ยขึ้นชื่อเรื่องความอุดมสมบูรณ์ และเป็นแหล่งค้าขายที่ได้ผลกำไรดีอีกด้วย แน่นอนว่าที่ประชากรชาวแคว้นเว่ยอยู่ดีมีสุขเช่นนี้เพราะหลักการปกครองที่เที่ยงธรรมของฮ่องเต้หลี่เซียน 

นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าลือกันไปทั่วทั้งยุทธภพนี้ว่า แคว้นเว่ยยังมีเซี่ยงซื่อ หนุ่มนามว่า ‘เซี่ยวจวิน’ บุรุษที่มิมีผู้ใดล่วงรู้ที่มาที่ไป หรือแม้แต่อายุจริงของเขาก็ยากจะคาดเดาได้เช่นกัน เล่าลือกันว่าเซี่ยงซื่อผู้นี้มากมีความสามารถทั้งในด้านการทำนาย ตลอดจนปราบปรามวิญญาณอาฆาตร้ายที่เข้ามากล้ำกลาย จนฮ่องเต้หลี่เซียนถึงกับเชื้อเชิญให้เข้าร่วมราชสำนัก เป็นหนึ่งในขุนนางคนสำคัญข้างกายพระองค์ และมิว่าเซี่ยงซื่อผู้นี้เอ่ยสิ่งใด ดูเหมือนว่าฮ่องเต้หลี่เซียน ผู้ที่ได้รับสมญานามว่าเป็นโอรสสวรรค์เชื่อหมดทุกคำพูด 

ท้องพระโรง

ภายในท้องพระโรงกว้างใหญ่ เหล่าขุนนางของราชสำนักต่างพากันเข้ามายืนเรียงแถวเพื่อประชุมหารือกับผู้เป็นประมุขแห่งแผ่นดิน โดยเบื้องหน้าสุดมีบุรุษวัยกลางคนในอาภรณ์สีทองอร่ามนั่งฟังการรายงานจากหัวหน้าขุนนางถึงราชกิจต่าง ๆ ด้วยใบหน้าเรียบเฉย

ด้านหน้าของเหล่าขุนนางยังมีบุรุษในอาภรณ์สีขาวเหลือบดำช่วงปลายยืนอยู่ด้วยท่าทีสุขุม นิ่งเงียบ มิได้หันไปสนทนากับผู้ใดอย่างที่ขุนนางคนอื่นกระทำ

เหล่าขุนนางต่างทยอยกันนำปัญหาที่ชาวบ้านต่างยื่นฎีกามาที่กรมกองของตน รวมถึงงานที่ได้รับมอบหมายมารายงานแด่โอรสสวรรค์ที่นั่งบนบัลลังก์มังกรเบื้องหน้า การรายงานดำเนินมาถึงกรมคลัง 

“ท่านโหรเซี่ยว เรื่องขุดลอกบึงน้ำที่มหาเสนาบดีกรมโยธาเอ่ยมา ท่านมีความเห็นว่าอย่างไร” 

บุรุษเจ้าของนามยกมือขึ้นประสานกันตรงหน้าพลางก้มศีรษะลงต่ำ มิได้เงยหน้าสบตาผู้พูด ก่อนจะเอ่ยตอบสิ่งที่ผู้เป็นนายเหนือหัวเอ่ยถาม

“ทูลฝ่าบาท การขุดลอกบึงน้ำเป็นสิ่งสมควรต้องทำอยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ เพราะจะช่วยป้องกันเรื่องภัยน้ำท่วมในช่วงหน้าฝนได้”

“แล้วควรลงมือยามใดดีเล่าท่านโหรเซี่ยว”

“กระหม่อมเห็นสมควรว่าเป็นหลังจากนี้อีกสองเดือนพ่ะย่ะค่ะ ช่วงนั้นเป็นช่วงต้นวสันตฤดู อากาศมิร้อนมิหนาวจนเกินไป และฝนน้อย จักทำให้การขุดลอกบึงราบรื่นพ่ะย่ะค่ะ อีกทั้งหากเร่งรีบไปนอกจากการเตรียมการจะกะทันหันเกินไป อาจจะทำให้การทำงานติดขัดไปด้วยพ่ะย่ะค่ะ” เซี่ยวจวินเอ่ยรายงานไปตามที่ตนมองเห็นในนิมิต 

ด้วยเพราะช่วงนี้ยังเป็นช่วงเหมันตฤดู แม้จะเป็นช่วงปลายฤดูกาล กระนั้นอากาศก็ยังคงหนาวเย็น อีกทั้งเมืองชางที่อยู่ค่อนไปทางตอนเหนือของเมืองหลวงเล็กน้อย หิมะมักจะปกคลุมตลอดช่วงฤดูหนาว ทำให้แรงงานที่จะมาช่วยขุดลอกบึงน้ำประสบกับอันตรายจากการย่ำไปบนน้ำแข็ง ด้วยคิดว่าอาจจะเป็นพื้น และหากรอไปอีกสองเดือนซึ่งเป็นช่วงวสันตฤดู อากาศส่วนใหญ่ไม่ถึงกับหนาว อีกทั้งยังไม่ปรากฏหิมะมาเป็นอุปสรรคเช่นกัน

“ดี เจ้ากรมโยธา เช่นนั้นก็เอาตามที่ท่านโหรเซี่ยวว่าเอาไว้เถิด อีกสองเดือนหลังจากนี้ท่านก็ดำเนินการตามแผนงานที่ว่าเอาไว้ได้เลย”

การประชุมราชสำนักกินเวลาล่วงไปราว ๆ สองชั่วยาม ครั้นเมื่อการประชุมจบลงเซี่ยวจวินก็เดินกลับไปยังที่สำนักโหราจารย์ ซึ่งฮ่องเต้หลี่เซียนได้ยกตำหนักเล็กให้เป็นสถานที่พักและทำงานของเซี่ยวจวิน แม้จะรู้ว่าเซี่ยวจวินมีจวนอยู่นอกวังหลวงก็ตาม เมื่อเดินกลับมาถึงกายสูงกำยำก็เดินเข้าไปยังห้องด้านในสุด ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวของตน

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงห่วงเหล็กกระทบกับบานประตูไม่ได้เรียกให้บุรุษในห้องหันไปมองแม้แต่น้อย ใบหน้าคมคายแหงนเงยมองท้องฟ้าอยู่ตรงระเบียงด้วยท่าทางนิ่งเฉย

“เซี่ยงซื่อ องค์หญิงหลี่หรงเอ๋อร์เสด็จมาขอรับ” จางหมิ่น ผู้ช่วยคนสนิทของเซี่ยวจวินเอ่ยออกมา

“บอกองค์หญิงไปว่า ข้ามีงานต้องทำ ไม่สะดวกออกไปพบ”

“ขอรับ”

เปลือกตาคมหลับลงนิ่ง ปล่อยให้สายลมโชยพัดปะทะใบหน้าอยู่อย่างนั้น สองสามวันนี้มีเรื่องรบกวนจิตใจ ทว่าก็บอกได้ไม่แน่ชัดว่าเป็นเรื่องอะไร 

จางหมิ่นเดินกลับเข้ามาในห้อง ก่อนจะก้มศีรษะให้ผู้เป็นนาย ราวกับรู้ว่าในใจของบุรุษเบื้องหน้านั้นมีสิ่งใดอยู่จึงเงียบเพื่อรอฟังเช่นทุกที

“จางหมิ่น ท้องฟ้าวันนี้ครึ้มผิดปกติดีว่าหรือไม่” เสียงทุ้มรื่นหูเอ่ยออกมานิ่งเรียบ โดยที่ยังไม่หันกลับมามองคนสนิทแม้ปรายหางตา

“เซี่ยงซื่อกำลังจะบอกสิ่งใดกับข้าน้อยขอรับ”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • หมอปีศาจพันหน้า   บทส่งท้าย ครอบครัวสุขสันต์

    เรื่องราวจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างเซี่ยวจวินและหลินจื่อเยว่ ถูกบอกเล่าให้กับเหล่าศิษย์พี่ทุกคนได้ฟังในค่ำคืนที่พวกเขาจัดงานฉลองต้อนรับหลานคนแรกของสำนักเจินเฉียงลุกมานั่งข้างเซี่ยวจวินพลางยกมือขึ้นตบไหล่เขาปุ ๆ อย่างเห็นใจ “น้องเขย ศิษย์น้องข้าผู้นี้นิสัยห่างไกลความเป็นสตรีปกติ ข้าเล่าเห็นใจเจ้าเสียจริง”“ใช่ ๆ พวกข้าเองก็เห็นใจเจ้า”“ศิษย์พี่ทั้งหลายรักข้าเสียจริง พากันเห็นใจบุรุษด้วยกัน ไยมิเห็นใจข้าบ้างเล่าที่มีสามีโดยที่ตอนนั้นมิรู้ว่าเขาชื่อเสียงเรียงนามอันใด”บุรุษทั้งเก้าคนพากันส่ายหน้าให้ เพราะไม่ได้รู้สึกเห็นใจสตรีเช่นศิษย์น้องเล็กอย่างที่นางเรียกร้องเลยแม้แต่น้อย“พวกท่านมิต้องเห็นใจข้าก็ได้ เพราะข้ายินยอมนางเอง มิได้ขัดขืนยามนางลุกขึ้นมาปลุกปล้ำข้า...”เพียะฝ่ามือเรียวฟาดลงบนต้นแขนแกร่งของสามีมิคิดถนอมแรง ใจจริงอยากจะแทรกกำลังภายในเข้าไปด้วยเสียด้วยซ้ำ ที่นำเรื่องน่าอายเช่นนี้ออกมาบอกเล่า ก่อนที่หลินจื่อเยว่จะหนีอุ้มเอาหลินเสวี่ยอี้เข้าไปนอนเสีย ปล่อยให้บรรดาบุรุษได้นั่ง

  • หมอปีศาจพันหน้า   กลับหุบเขาเทวะ

    เทศกาลหยวนเซียวครึกครื้นไปด้วยผู้คนที่พากันออกมาชมโคมไฟกันยังจัตุรัสกลางเมืองหลวง โคมไฟกระดาษที่ถูกบรรจงเขียนภาพหรือคำกลอนขึ้นลอยไปบนฟ้ายามค่ำคืน จนทั่วนภาสว่างโร่มิต่างจากกลางวันมากมายนักเซี่ยวจวินพาหลินจื่อเยว่และหลินเสวี่ยอี้มาหยุดยืนกลางสะพาน ในมือมีโคมไฟที่เป็นรูปครอบครัวนกพิราบเผือกสีขาวนวลสามตัวเกาะอยู่บนกิ่งไม้“นกพิราบเป็นตัวแทนสันติภาพ” หลินจื่อเยว่เอ่ยขึ้นขณะทอดมองสายตาไปยังโคมไฟของพวกเขาที่ค่อย ๆ ลอยสูงขึ้น“ไม่ผิด หากแต่นกพิราบสามตัวนี้กำลังเกาะอยู่บนกิ่งไม้ ตัวผู้และตัวเมียกระพือปีกป้องลูกน้อย ข้ามองมันแทนตัวพวกเรา มีข้า มีเจ้า มีเสวี่ยอี้โผบินไปบนท้องนภาอย่างอิสระนับจากนี้”“โหราจารย์เอกแห่งวังหลวงมีคารมคมคายเช่นนี้เลยหรือ มิน่าทำให้องค์หญิงหลงใหลได้ถึงเพียงนั้น”หลินจื่อเยว่เอ่ยแซว กว่าเรื่องราวขององค์หญิงหลี่หรงเอ๋อร์จะจบลง นางแทบจะกลายร่างเป็นนางมารวันละสิบครั้ง ทว่าได้ฮ่องเต้หลี่เซียนและองค์รัชทายาทช่วยปรามจนนางถอดใจไป ก่อนจะถูกส่งตัวไปอภิเษกกับองค์ชายต่างแคว้นเพื่อเชื่อมสัมพันธ์สตรีด้วยกันม

  • หมอปีศาจพันหน้า   สานสัมพันธ์ลึกซึ้ง

    เซี่ยวจวินอุ้มพาภรรยามาวางบนเตียงก่อนจะตามขึ้นไปคร่อมร่างเล็กเอาไว้ สายตาคู่คมไล่มองสำรวจเรือนร่างงดงามขาวผ่องไปทุกส่วนก่อนจะจับปลายเท้าเรียวขึ้นมาแล้วจรดจุมพิตไปบนหลังเท้าขาวสะอาดแผ่วเบา ยิ่งทำให้หัวใจของหลินจื่อเยว่เต้นรัวแรงหนักกว่าเดิม แม้นจะอยากดึงเท้ากลับ ทว่าก็มิอาจทำได้ เนื่องจากเซี่ยวจวินมิยอมปล่อยริมฝีปากหยักไล่พรมจูบขึ้นมาตั้งแต่ปลายเท้า ท่อนขา จนมาถึงต้นขาด้านใน เซี่ยวจวินขบเม้มมันเบา ๆ จนเกิดรอยสีกุหลาบ เซี่ยวจวินผละใบหน้าออกมาแล้วสบมองดวงตาคู่สวยครู่หนึ่ง จังหวะเดียวกันก็สอดก้านนิ้วแกร่งยาวเรียวชำแรกแทรกเข้าไปในกลีบผงางาม เรียกเสียงครางหวานจากคนตัวเล็กได้เป็นอย่างดีเซี่ยวจวินมิได้หยุดเพียงเท่านั้น ยังคงโน้มลงไปตวัดดูดดึงยอดปทุมสีหวานราวกับมันเป็นของหวานเลิศรสจากสวรรค์ก็ไม่ปาน“ภรรยาข้างดงามและหอมหวานเสียจริง”“อึก ท่านพี่”ความร้อนในกายแล่นปลาบไปทั่วเรือนร่าง ยิ่งยามที่ลิ้นของสามีดูดึงยอดปทุม คล้ายกับความร้อนยิ่งเพิ่มสูงขึ้นจนกายบางบิดเร่าไปมา ยิ่งก้านนิ้วที่สอดแทรกเข้าไปภายในกายขยับเข้าออกในจังหวะท

  • หมอปีศาจพันหน้า   สามีภรรยารักใคร่กลมเกลียว

    วันต่อมาเซี่ยวจวินเดินทางเข้าวังตั้งแต่ช่วงเช้าพร้อมด้วยหลินจื่อเยว่ หากแต่วันนี้บุตรชายมิได้มาด้วย เพราะเจ้าตัวอยากไปเที่ยวตลาดกับท่านป้าอาเยียนหลังจากได้เผยความรู้สึกของกันและกันให้ได้รับรู้ และทำการแยกห้องนอนกับหลินเสวี่ยอี้ ทั้งสองก็ช่วยกันทำงาน ให้คำปรึกษากันและกันในทุกเรื่อง แม้ว่าเซี่ยวจวินจะยกอำนาจการตัดสินใจเรื่องภายในจวนให้กับหลินจื่อเยว่ ทว่านางก็ยังถามไถ่จากพ่อบ้าน ด้วยว่าที่ผ่านเขาเป็นคนดูแลจวนนี้มาตลอดเมื่อเข้ามาถึงวังหลวงทั้งเซี่ยวจวินและหลินจื่อเยว่ก็ตรงไปยังตำหนักหลงเสวียนทันที เหิงกงกงยังคงต้อนรับทั้งสองด้วยใบหน้าแย้มยิ้มปรีดา เพราะนับจากวันที่หลินจื่อเยว่แนะนำให้หลี่เซียนแช่น้ำสมุนไพรเพื่อขับพิษ ดูเหมือนหลี่เซียนก็ค่อย ๆ แข็งแรงขึ้น“เซี่ยวจวินหรือ มา ๆ เข้ามา” เสียงของหลี่เซียนดูสดใสขึ้น“เซี่ยวจวินถวายพระพรฝ่าบาท”“จื่อเยว่ถวายพระพรฝ่าบาท”ทั้งสองเอ่ยขึ้นพลางยอบกาบย่อตัวลงคารวะตามพิธีการ“นั่งเถอะ”“พระอาการเป็นอย่างไรบ้างพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท&rdqu

  • หมอปีศาจพันหน้า   ยอมรับสามีคนนี้

    เซี่ยวจวินตั้งใจมอบหมายงานให้กับคนอื่นดูแลต่อจากนี้ แน่นอนว่านอกจากเขาและจางหมิ่นแล้วยังมีโหราจารย์อีกท่านที่เชี่ยวชาญการทำนายดวงชะตา และพยากรณ์ความเป็นไปของบ้านเมืองได้ขณะที่เซี่ยวจวินเข้าไปจัดการงานที่เหลือเพื่อมอบหมายให้คนอื่นหลังจากนี้ หลินจื่อเยว่และหลินเสวี่ยอี้ก็พากันเดินชมสวนใกล้ ๆ กลิ่นหอมของดอกไม้นานาพรรณเรียกรอยยิ้มจากใบหน้างามได้เป็นอย่างดี นางยืนมองบุตรชายวิ่งไล่จับผีเสื้อที่เข้ามาดูดน้ำหวานจากเกสรทว่าขณะเดียวกันนั้นกลับก็ปรากฏสตรีในอาภรณ์งามสง่าบ่งบอกว่านางเป็นสตรีสูงศักดิ์เดินเข้ามา หลินจื่อเยว่จึงทำเพียงดึงบุตรชายให้หลบทาง แล้วก้มหน้าก้มตาลง“วังหลวงหาใช่สถานที่ที่ใครจะเข้าออกได้ มิทราบว่าแม่นางคือผู้ใดกัน เปิ่นกงมิเคยเห็นหน้ามาก่อน”หลี่หรงเอ๋อร์ทราบจากนางกำนัลว่าเจอเซี่ยวจวินเข้ามาในวังหลวง จึงเร่งแต่งกายแล้วรีบมาหา กระทั่งมาเจอหนึ่งเด็กหนึ่งสตรีแปลกหน้า“องค์หญิง”เสียงทุ้มของเซี่ยวจวินดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้หลี่หรงเอ๋อร์ซึ่งกำลังไม่พอใจที่นางถามหลินจื่อเยว่แต่กลับไม่ได้คำตอบ

  • หมอปีศาจพันหน้า   หวั่นไหว

    เวลาผ่านไปค่อนคืนจนดึกสงัดแล้ว ทว่าร่างสูงที่นอนอยู่บนตั่งเตียงยังคงพลิกกายไปมาสลับซ้ายขวา จนสุดท้ายต้องผุดลุกขึ้นนั่ง แล้วถอนหายใจออกมาแรง ๆ เฮือกหนึ่ง เซี่ยวจวินผุดลุกขึ้นแล้วเปิดประตูเพื่อออกไปข้างนอก ภายในจวนยามนี้เงียบสงัดได้ยินเพียงเสียงลมยามราตรีที่พัดโบกต้นไม้ใบหน้าให้เสียดสีกันไปมา เท้าแกร่งเดินไปหยุดอยู่หน้าเรือนหมิงเยว่ แล้วถอนหายใจออกมาอีกรอบ ขณะที่ตั้งท่าจะหันหลังกลับ ประตูเรือนหมิงเยว่ก็ถูกเปิดออกมา“เซี่ยวจวิน เป็นท่านหรือ” หลินจื่อเยว่ซึ่งตื่นมาดูบุตรชายก็หลับไม่ลงอีก จึงตั้งใจว่าจะออกมาเดินเล่น แต่ไม่คิดว่าจะเจอใครอีกคนยืนอยู่“เป็นข้าเอง เจ้าออกมาทำไมกัน”“ข้าสิต้องถามท่าน ท่านมายืนตรงนี้ทำไม” หลินจื่อเยว่เดินเข้ามาหยุดยืนใกล้ ๆ“ข้า... เอ่อ... ข้าเพียงแค่... เฮ้อ ข้านอนไม่หลับ ก่อนหน้านี้บนรถม้ามีเจ้ากับเสวี่ยอี้นอนด้วยตลอด พอต้องกลับมานอนคนเดียวข้าเลยไม่ชิน”“...”“ข้าขอนอนด้วยได้หรือไม่”เซี่ยวจวินเอ่ยถามออกไปตรง ๆ และกว่าหลิ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status