"ยังมิถึงวันนี่นา ใยวันนี้พวกเจ้าถึงได้มากันล่ะ ฮึ"หมิงอี้มองมือที่จับข้อแขนนางก่อนจะหันไปส่งใบหน้าเชิงขอความช่วยเหลือจากสาวน้อยข้าง ๆ ตน"เอ่อ คะ คือว่า""เจ้ามานี่สิ"ฟางหนิงอวี๋ดีใจและแปลกใจอยู่ไม่น้อย วันนี้มิใช่วันที่นางต้องมาเต้นระบำใยวันนี้จึงได้มาหาตนที่นี่กัน รึนางร้อนเงินอีกแล้ว ได้ยินข่าวมาว่ากิจการร้านรวงของนางกำลังไปได้ดี ความลับนี้ไม่มีผู้ใดรู้สินะ จูงแขนของหมิงอี้ให้เดินตามเข้าไปยังห้องรับรองของตน"เชิญ ๆ นั่งก่อนเถิด""พวกเจ้าทำให้ข้าแปลกใจมิน้อย วันนี้มีเรื่องอันใดรึพวกเจ้าถึงได้มาหาข้ากัน ช่างน่าน้อยใจเสียจริง"ฟางหนิงอวี๋แกล้งตัดพ้อแสร้งแสดงสีหน้าคล้ายเศร้าใจนักหนา หากใจจริงกับกำลังยิ้มแย้มถึงเม็ดเงินที่กำลังหลั่งไหลเข้ามา ฮึ แม่นางน้อยนี่เห็นทีวันนี้คงร้อนเงินกระมัง เช่นนั้นเป็นโอกาสของข้าหนะสิ ฮึ ฮึ เก็บความดีใจไว้ไม่ได้เสียจนใบหน้าเผยรอยยิ้มออกมาจนต้องยกชายอาภรณ์สวยขึ้นมาปิดบัง แสร้งแสดงใบหน้าเสียใจแก่แม่นางน้อยทั้งสอง"โถ่ เป็นไปได้ข้าก็อยากมาบ่อย ๆ นะ ฟางหนิง แต่ว่าเจ้าก็รู้ช่วงนี้ร้านข้าขยับขยายล้วนปลีกตัวยากนัก""ใช่ ใช่ เจ้าหนะตอนนี้เป็นถึงเจ้าแก้เนี๊ยะของ
“เช่นนั้น เจ้าก็มาเต้นส่งท้ายให้ข้าก่อนเถิด สัญญาก็ล้วนจบกันก็แล้วกัน ขอให้ข้าได้ชี้แจงกับลูกค้าทั้งหลายของข้าก่อน เจ้าก็มองออกมิใช่รึว่าเจ้าเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าลูกค้าบุรุษของข้าเพียงใด” หมิงอี้เมื่อได้ยินข้อเสนอของฟางหนิงที่ขอร้องให้มาเต้นอีกรอบในวันพรุ่งนี้ก็เป็นอันสิ้นสุดสัญญาจึงไม่ลังเลที่จะรีบเอ่ยตอบตกลงอย่างดีใจ สองมือหันมาจับแขนของเฟิน เฟิน เขย่าไปมาอย่างดีใจ ก่อนจะเอ่ยร่ำลาออกจากร้าน โดยมีสายตาริษยาของเหล่าสตรีภายในร้านแผ่ตามหลังมาคล้อยหลังดรุณีน้อยทั้งสองฟางหนิงอวี๋ก็บอกให้พ่อบ้านคู่ใจให้ตระเตรียมห้องรับรองที่หรูหราที่สุดในร้านไว้หนึ่งห้อง พร้อมกับกำชับให้เร่งไปยังตลาดมืดเพื่อเตรียมยาตามที่นางต้องการ“พ่อบ้านจาง ท่านไป....” “แต่เอ่อ จะดีรึนายท่าน พิษนี้ร้ายนักออกฤทธิ์ถึงหนึ่งพันราตรีเชียวนะขอรับ อีกอย่างยังมิเคยได้ยินการต้องพิษนี้ในสตรี เพียงบุรุษที่ร่างกายแข็งแรงยังยากจะทานทนได้ แล้วนางมิ” หลังจากได้ยินสิ่งที่ผู้เป็นนายสั่งพ่อบ้านจางก็มีสีหน้าที่ตกใจอย่างเห็นได้ชัด พิษหนึ่งพันราตรีรึ นี่นายท่านจะใช้พิษนี้กับแม่นางหมิงอี้จริงรึ สีหน้ากังวลของพ่อบ้านจางไม่อาจหลีกพ้นสายตา
“นายท่าน เกรงว่านายท่านคงมิได้มาเที่ยวบ่อย ๆ กระมัง นางเป็นอันดับต้น ๆ ของที่นี่เลยนะเจ้าคะ หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ต่างหลงนางเสียยิ่งกระไร เพียงแต่นางเองออกจะถือตัวไปหน่อย หึ นางคงคิดว่าตนเองนั้นงามปานนางฟ้านางสวรรค์เสียกระมัง ร่ายระบำเสร็จทีไรนางก็หายไปหลังร้านทุกทีเลยนะเจ้าคะ” “เช่นนั้น นางเอ่อ” เจิ้งฟ่านเยว่ นางคณิกาคนงามที่วันนี้รับหน้าที่ดูแลคุณชายทั้งสอง เมื่อเห็นสีหน้าของจางหยางจึงนึกเองว่าบุรุษทั้งสองคงอยากได้นางมาปรนิบัติเป็นแน่แท้ จึงได้เอ่ยถึงเรื่องการประมูลที่กำลังจะเกิดขึ้น“หากพวกท่านสนใจนาง ลองประมูลนางดูสิเจ้าคะ” “ฮึ ประมูลรึ ประมูลสตรีรึ” เฉิงอี้และจางหยางขมวดคิ้วมุ่นพร้อมกัน“ประมูลอย่างงั้นรึ” เป็นเฉิงอี้ที่อุทานออกมา ก่อนจะโบ้ยหน้าส่งสายตาถามองครักษ์หนุ่มเป็นเชิงถามว่าสนใจรึไม่“ไม่ ๆ ขอรับ อย่ามองข้าเช่นนั้น” จางหยางเห็นสายตาที่ส่งมาก็ส่ายหน้าพรืดใหญ่อย่างขนลุก ยามนึกถึงสตรีที่มายุ่มย่ามกับเนื้อตัวของตน“เอาล่ะเจ้าคะ นี่คือรูปของหญิงงามอันดับหนึ่งของหอคณิกาข้า บัดนี้นางยินดีที่จะให้ข้าจัดการประมูลพรรมจรรย์ของนางขึ้น ด้วยเหตุผลบางอย่าง...” ฟางหนิงอวี๋เอ่ยประกาศเส
ฉันนักศึกษาปี 2 คณะเกษตร มหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง ใครๆ ต่างเรียกฉันว่า “อี้หมิง” ฉันเป็นคนเฉิ่มประจำห้อง แถมซุ่มซ่ามไม่มีใครเกิน วันหนึ่งขณะไปออกค่าย ฉันเป็นลมแดดขณะกำลังปล่อยน้ำเข้าแปลงเกษตรอยู่แล้วก็จำอะไรไม่ได้ ฟื้นขึ้นมาอีกทีก็เห็นป้าแก่ ๆ กำลังกอดตัวฉัน ใช่ฉันรู้สึกว่าเป็นอย่างงั้นนะ ร้องไห้ฟูมฟายอยู่ แล้วสภาพที่ตื่นขึ้นมาถือ อยู่ในบ้านไม้หลังคามุงด้วยฟางเก่า ๆ ห้องแคบๆ มีแต่ฝุ่น ไหนจะเสื้อผ้าเปื้อนๆ นี่อีกล่ะ“เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ยยย!!” อี้หมิงหันซ้ายขาว ที่นี่ที่ไหนกัน“หมิงอี้ ลูกแม่ ขอบคุณสวรรค์ที่เมตตาข้า” หญิงสูงวัยรีบคว้าร่างลูกสาวมากอด“ป้าเป็นใครอ่ะ แล้วหนูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” อี้หมิงใช้มือค้ำดันอ้อมกอดของหญิงแปลกหน้าไว้“โถ่เอ๊ยลูกรัก เจ้าคงสลบจนเลอะเลือนเป็นแน่แท้” หญิงตรงหน้าส่ายหน้าแล้วรวบเธอเข้าสู่อ้อมอก พลางลูบเนื้อตัวเธออย่างปลอบประโลม“เจ้าคือ หมิงอี้ ลูกของข้า อี้เฟิน ยังไงละพอจะคุ้นบ้างรึไม่”อี้หมิงส่ายหน้า เธอกำลังฝันอยู่ ๆ แน่ๆ หญิงสาวคิดดังนั้นจึงฟาดมือเรียวตบที่แก้มตัวเองอย่างแรง“โอ๊ย!! เจ็บ”“นั่นเจ้าทำอะไรกันเล่า ไปตบตีตัวเองทำไมกัน”“หนู เออ
“หมิงอี้!! ลูกข้า เจ้าฟื้นแล้ว”อิ้เฟินรีบวางไม้ฟืนที่หอบมาลงกองที่พื้น แล้วรีบวิ่งไปหาสาวน้อยที่นั่งอยู่ทันที พอถึงตัวก็คว้ามากอดอย่างรักใคร่“แม่ดีใจยิ่งนัก เจ้าหิวหรือไม่ นอนหลับไปตั้งหลายวัน”อิ้เฟินละล้ำละลักถามลูกสาว“เอ่อ!”“นี่แม่ได้ปลามา เดี๋ยวรีบทำข้าวต้มให้เจ้ากินเลย นั่งรอข้าประเดี๋ยวนะ”ด้วยความดีใจที่ลูกสาวฟื้น อี้เฟินจึงกระวีกระวาดรีบตระเตรียมข้าวต้มมาต้ม พร้อมนึ่งปลาเตรียมให้สาวน้อยทันทีอี้หมิงนั่งมองหญิงวัยกลางคนที่ตอนนี้กระวีกระวาดก่อไฟ ทำอาหารให้นางทานอย่างเซ็ง ๆ” เฮ้อ นี่เธอจะต้องอยู่ที่นี่จริง ๆ หรือนี่ “ผ่านไปไม่นาน อี้เฟินก็ยกสำรับอาหารมาวางตรงหน้าสาวน้อยอี้หมิงมองอาหารที่มีเพียงข้าวต้มเปล่าๆ ที่และปลานึ่ง และมีผักต้มอีกเล็กน้อย แล้วเงยหน้ามองนางที่บอกว่าเป็นแม่ของนาง อย่างนึกอนาถ” นี่ หมืงอี้เจ้ากินเยอะ ๆ นะ ข้าตั้งใจทำสุดฝีมือเลย หลับไปตั้งหลายวันฮึ “เฟินอี้ใช้ตะเกียบคีบเนื้อปลาไปวางบนชามลูกสาว ในขณะที่นางเลือกกินเฉพาะผักด้วยกลิ่นของข้าวต้มถึงแม่จะดูธรรมดาแต่กลิ่นก็หอมยั่วกระเพาะของอี้หมิงใช่ย่อย บอกกับนอนสลบไปหลายวันจึงทนไม่ไหวทรีบยกชามข้าวขึ้นจ่อที่ปาก
“หมิงอี้!! ลูกข้า เจ้าฟื้นแล้ว”อิ้เฟินรีบวางไม้ฟืนที่หอบมาลงกองที่พื้น แล้วรีบวิ่งไปหาสาวน้อยที่นั่งอยู่ทันที พอถึงตัวก็คว้ามากอดอย่างรักใคร่“แม่ดีใจยิ่งนัก เจ้าหิวหรือไม่ นอนหลับไปตั้งหลายวัน”อิ้เฟินละล้ำละลักถามลูกสาว“เอ่อ!”“นี่แม่ได้ปลามา เดี๋ยวรีบทำข้าวต้มให้เจ้ากินเลย นั่งรอข้าประเดี๋ยวนะ”ด้วยความดีใจที่ลูกสาวฟื้น อี้เฟินจึงกระวีกระวาดรีบตระเตรียมข้าวต้มมาต้ม พร้อมนึ่งปลาเตรียมให้สาวน้อยทันทีอี้หมิงนั่งมองหญิงวัยกลางคนที่ตอนนี้กระวีกระวาดก่อไฟ ทำอาหารให้นางทานอย่างเซ็ง ๆ” เฮ้อ นี่เธอจะต้องอยู่ที่นี่จริง ๆ หรือนี่ “ผ่านไปไม่นาน อี้เฟินก็ยกสำรับอาหารมาวางตรงหน้าสาวน้อยอี้หมิงมองอาหารที่มีเพียงข้าวต้มเปล่าๆ ที่และปลานึ่ง และมีผักต้มอีกเล็กน้อย แล้วเงยหน้ามองนางที่บอกว่าเป็นแม่ของนาง อย่างนึกอนาถ” นี่ หมืงอี้เจ้ากินเยอะ ๆ นะ ข้าตั้งใจทำสุดฝีมือเลย หลับไปตั้งหลายวันฮึ “เฟินอี้ใช้ตะเกียบคีบเนื้อปลาไปวางบนชามลูกสาว ในขณะที่นางเลือกกินเฉพาะผักด้วยกลิ่นของข้าวต้มถึงแม่จะดูธรรมดาแต่กลิ่นก็หอมยั่วกระเพาะของอี้หมิงใช่ย่อย บอกกับนอนสลบไปหลายวันจึงทนไม่ไหวทรีบยกชามข้าวขึ้นจ่อที่ปาก
“อื้มมม” อี้หมิงกอดอกลูบคางตัวเองไปมาอย่างใช้ความคิด เธอจะไม่ยอมอยู่ในสภาพแบบนี้ไปตลอดหรอกนะ ดูสิสาวสมัยใหม่อย่างเธอรับไม่ได้อย่างแรงกับเสื้อผ้ามอมแมมที่สวมใส่อยู่ตอนนี้ ไหนจะบ้านนี้ ไม่สิ! เรียกบ้านไม่ได้ด้วยซ้ำมันแค่เพิงหลังคามุงหญ้าไว้ใช้หลบนอนแค่นั้นเอง ไม่ได้การหล่ะ ไหนๆ ก็ต้องอยู่ที่นี้ล่ะ เธอต้องคิดหาลู่ทางก่อนละกันค่อยหาวิธีกลับไปยุคที่เธอจากมา แล้วนึกในใจเอ่ยกับเจ้าของร่างที่เธออาศัยอยู่ และให้สัญญาว่าจะดูแลแม่นางเป็นอย่างดี ๆ เธอจะไม่อธิบายเหตุผลใดๆ กับคนที่นี่ พูดไปก็ยากจะไม่มีใครเชื่อเธอ“เอ่อ เฟิน เฟิน งั้นเธอ เอ๊ย เจ้า พา ฉะ ข่ะ ข้า ไปดูรอบ ๆ หมู่บ้านได้หรือไม่ เผื่อข้าจะจำอะไรขึ้นมาได้บ้าง”“ได้สิพี่หมิงอี้ เดี๋ยวข้าพาไปเอง รอบนี้พี่ไม่ต้องกลัวนะ ข้าจะไม่ปล่อยไอ้พวกอันธพาลนั่นมารังแกพี่ได้อีกแน่นอน เพราะข้ามีนี่!!”เฟิน เฟิน ยกแท่งไม้ที่มีง่ามแยกออกสองง่ามขึ้นมา “อ่ออ ยุคนี้ก็มีหนังสติ๊กด้วยแฮะ”“ข้านะกว่าจะหามาได้พี่รู้มั๊ยต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมมารยา และสมองอันชาญฉลาดของข้าเลยนะเนี่ย” สาวน้อยคุยโอ้อวด“โอเค ๆ ป่ะไปกันเถอะ”“ฮือ อะอะโอเค เจ้าพูดอะไรของเจ้ากันพี่หมิงอี้”“ช
หลังจากที่พวกอู๋ไป๋กลับไป พวกนางทั้งสามคนก็ลงมือช่วนกันแยกผักต่าง ๆ ออกมา โดยแยกตามประเภทที่มี วันนี้อี้เฟินได้ มี ผักบุ้ง ที่รวมๆ แล้วถือว่าได้เยอะทีเดียว แถมส่วนที่นางนำกลับมาช่างถูกใจอี้หมิงเสียนี้ เป็นตอผักบุ้งที่เหลือส่วนรากไว้ เจ้าของคงจะตัดส่วนด้านบนขายไปแล้วกระมัง อีกกองที่แยกเป็นพริกที่เน่าเละ บางเม็ดก็ช้ำจากการทับกันมา อี้หมิงมองแล้วก็ยิ้มอีก กำลังแก่ได้ที่พอดีเชียวอีกกองที่แยกไว้เป็มมะเขือเทศที่แตก บางลูกก็เน่า แต่ไม่เป็นไรแบบนี้แหละดี วันนี้ได้มาแค่นี้ก็ถือว่าบรรลุเป้าหมายไปอีกขั้นแล้วล่ะ อี้หมิงกอดอกยิ้มพอใจกับผลงานที่อี้เฟินนำมา ส่วนกองที่เหลือจะเป็นใบผักกาดที่เหี่ยวเน่าแล้วซะส่วนใหญ่ หลังจากทั้งสามคัดผักเสร็จแล้ว อี้เฟินก็เอ่ยขึ้นว่าวันนี้มีคนให้ถั่วเขียวนางมา ประเดี๋ยวนางจะต้มน้ำตาลอร่อย ๆ ให้อี้กมิงกับเฟิน เฟินได้ทาน อี้หมิงได้ยินเช่นนั้นก็หูผึ่ง” ไม่ท่านแม่ เราจะไม่กินวันนี้ ถั่วเขียวท่านได้มามากแค่ไหนกัน “” นี่ไง! “อี้เฟินยกออกมาให้หญิงสาวดูอี้หมิงเห็นก็ตบมือดีใจใหญ่ ” ไม่ ๆ เราจะไม่กินวันนี้ “อี้หมิงพูดยิ้ม ๆ ” ท่านพอมีตะกร้าไม้ไผ่ ที่สานหรือตะกร้าที่เป็นช
“นายท่าน เกรงว่านายท่านคงมิได้มาเที่ยวบ่อย ๆ กระมัง นางเป็นอันดับต้น ๆ ของที่นี่เลยนะเจ้าคะ หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ต่างหลงนางเสียยิ่งกระไร เพียงแต่นางเองออกจะถือตัวไปหน่อย หึ นางคงคิดว่าตนเองนั้นงามปานนางฟ้านางสวรรค์เสียกระมัง ร่ายระบำเสร็จทีไรนางก็หายไปหลังร้านทุกทีเลยนะเจ้าคะ” “เช่นนั้น นางเอ่อ” เจิ้งฟ่านเยว่ นางคณิกาคนงามที่วันนี้รับหน้าที่ดูแลคุณชายทั้งสอง เมื่อเห็นสีหน้าของจางหยางจึงนึกเองว่าบุรุษทั้งสองคงอยากได้นางมาปรนิบัติเป็นแน่แท้ จึงได้เอ่ยถึงเรื่องการประมูลที่กำลังจะเกิดขึ้น“หากพวกท่านสนใจนาง ลองประมูลนางดูสิเจ้าคะ” “ฮึ ประมูลรึ ประมูลสตรีรึ” เฉิงอี้และจางหยางขมวดคิ้วมุ่นพร้อมกัน“ประมูลอย่างงั้นรึ” เป็นเฉิงอี้ที่อุทานออกมา ก่อนจะโบ้ยหน้าส่งสายตาถามองครักษ์หนุ่มเป็นเชิงถามว่าสนใจรึไม่“ไม่ ๆ ขอรับ อย่ามองข้าเช่นนั้น” จางหยางเห็นสายตาที่ส่งมาก็ส่ายหน้าพรืดใหญ่อย่างขนลุก ยามนึกถึงสตรีที่มายุ่มย่ามกับเนื้อตัวของตน“เอาล่ะเจ้าคะ นี่คือรูปของหญิงงามอันดับหนึ่งของหอคณิกาข้า บัดนี้นางยินดีที่จะให้ข้าจัดการประมูลพรรมจรรย์ของนางขึ้น ด้วยเหตุผลบางอย่าง...” ฟางหนิงอวี๋เอ่ยประกาศเส
“เช่นนั้น เจ้าก็มาเต้นส่งท้ายให้ข้าก่อนเถิด สัญญาก็ล้วนจบกันก็แล้วกัน ขอให้ข้าได้ชี้แจงกับลูกค้าทั้งหลายของข้าก่อน เจ้าก็มองออกมิใช่รึว่าเจ้าเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าลูกค้าบุรุษของข้าเพียงใด” หมิงอี้เมื่อได้ยินข้อเสนอของฟางหนิงที่ขอร้องให้มาเต้นอีกรอบในวันพรุ่งนี้ก็เป็นอันสิ้นสุดสัญญาจึงไม่ลังเลที่จะรีบเอ่ยตอบตกลงอย่างดีใจ สองมือหันมาจับแขนของเฟิน เฟิน เขย่าไปมาอย่างดีใจ ก่อนจะเอ่ยร่ำลาออกจากร้าน โดยมีสายตาริษยาของเหล่าสตรีภายในร้านแผ่ตามหลังมาคล้อยหลังดรุณีน้อยทั้งสองฟางหนิงอวี๋ก็บอกให้พ่อบ้านคู่ใจให้ตระเตรียมห้องรับรองที่หรูหราที่สุดในร้านไว้หนึ่งห้อง พร้อมกับกำชับให้เร่งไปยังตลาดมืดเพื่อเตรียมยาตามที่นางต้องการ“พ่อบ้านจาง ท่านไป....” “แต่เอ่อ จะดีรึนายท่าน พิษนี้ร้ายนักออกฤทธิ์ถึงหนึ่งพันราตรีเชียวนะขอรับ อีกอย่างยังมิเคยได้ยินการต้องพิษนี้ในสตรี เพียงบุรุษที่ร่างกายแข็งแรงยังยากจะทานทนได้ แล้วนางมิ” หลังจากได้ยินสิ่งที่ผู้เป็นนายสั่งพ่อบ้านจางก็มีสีหน้าที่ตกใจอย่างเห็นได้ชัด พิษหนึ่งพันราตรีรึ นี่นายท่านจะใช้พิษนี้กับแม่นางหมิงอี้จริงรึ สีหน้ากังวลของพ่อบ้านจางไม่อาจหลีกพ้นสายตา
"ยังมิถึงวันนี่นา ใยวันนี้พวกเจ้าถึงได้มากันล่ะ ฮึ"หมิงอี้มองมือที่จับข้อแขนนางก่อนจะหันไปส่งใบหน้าเชิงขอความช่วยเหลือจากสาวน้อยข้าง ๆ ตน"เอ่อ คะ คือว่า""เจ้ามานี่สิ"ฟางหนิงอวี๋ดีใจและแปลกใจอยู่ไม่น้อย วันนี้มิใช่วันที่นางต้องมาเต้นระบำใยวันนี้จึงได้มาหาตนที่นี่กัน รึนางร้อนเงินอีกแล้ว ได้ยินข่าวมาว่ากิจการร้านรวงของนางกำลังไปได้ดี ความลับนี้ไม่มีผู้ใดรู้สินะ จูงแขนของหมิงอี้ให้เดินตามเข้าไปยังห้องรับรองของตน"เชิญ ๆ นั่งก่อนเถิด""พวกเจ้าทำให้ข้าแปลกใจมิน้อย วันนี้มีเรื่องอันใดรึพวกเจ้าถึงได้มาหาข้ากัน ช่างน่าน้อยใจเสียจริง"ฟางหนิงอวี๋แกล้งตัดพ้อแสร้งแสดงสีหน้าคล้ายเศร้าใจนักหนา หากใจจริงกับกำลังยิ้มแย้มถึงเม็ดเงินที่กำลังหลั่งไหลเข้ามา ฮึ แม่นางน้อยนี่เห็นทีวันนี้คงร้อนเงินกระมัง เช่นนั้นเป็นโอกาสของข้าหนะสิ ฮึ ฮึ เก็บความดีใจไว้ไม่ได้เสียจนใบหน้าเผยรอยยิ้มออกมาจนต้องยกชายอาภรณ์สวยขึ้นมาปิดบัง แสร้งแสดงใบหน้าเสียใจแก่แม่นางน้อยทั้งสอง"โถ่ เป็นไปได้ข้าก็อยากมาบ่อย ๆ นะ ฟางหนิง แต่ว่าเจ้าก็รู้ช่วงนี้ร้านข้าขยับขยายล้วนปลีกตัวยากนัก""ใช่ ใช่ เจ้าหนะตอนนี้เป็นถึงเจ้าแก้เนี๊ยะของ
"วันพรุ่ง ข้าต้องไปงานเลี้ยงของผู้เฒ่าตระกูลกวงสินะ"เฉินอ๋อง หรือ นอกรั้ววังรู้จักในนามคุณชายเฉิน ผู้ร่ำรวย ด้วยรูปลักษณ์ที่งดงามดั่งหยกปั้น ยกเหล้าหมักชั้นดีขึ้นดื่ม หึ! หลีเฉิงอี้ องค์ไท่จื่อ เพลานี้กลับไปติดพันอยู่กับหญิงสาวในหมู่บ้านคนถ่อยนั่นสินะ หึหึ! ในเมื่อพ่อลูกต่างเหมือนกัน เช่นนั้นข้า...เลือกเล่นสนุกกับคนใดก่อนดีล่ะ ฮึ ฮึ เย่หล่าง"ขอรับ""บอกผู้เฒ่าตระกูลกวงรึยังล่ะ""เรียบร้อยขอรับท่านอ๋อง"เย่หลางไม่ใคร่ถามหาเหตุผลจากผู้เป็นนาย แม้นจะสงสัยอยู่ไม่น้อย ท่านอ๋องเป็นผู้มีพระคุณกับตน เย่หลางจึงยอมทำงานรับใช้ท่านอ๋องยิ่งชีวิต ขอเพียงแค่ท่านอ๋องเอ่ยออกมา เย่หลางล้วนหาให้ได้หมด นับว่าบุญคุณที่ติดค้างกันมาใช้ทั้งชีวิตของเย่หลางแลกก็เกรงว่าจะหมดไม่"ดี ๆ ขอบใจเจ้ามากเย่หลาง ก็มีแต่เจ้าที่ดีกับข้า"สายตาลุ่มลึกมองดูผู้เป็นทั้งองครักษ์และสหายอยู่ในที แต่ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวและมันจะมีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ ก่อนแสยะยิ้มร้ายยกจอกสุราขึ้นดื่ม ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มอย่างนึกสนุกยามนึกไปถึงเหตุการณ์ที่ตนกำลังกำหนดให้เป็นไปตามที่วางเกมส์ไว้ มือเรียวเลื่อนหมากล้อมไปด้านหน้าช้า ๆ "ครานี้
ทันทีที่ หานลู่หมิง ยกเปิดฝาโอ่งเปิดขึ้น เหนียงชินไม่รอช้าถลาตัวมือคว้าจับปากโอ่งก้มลงไปมองดูผักในโอ่งทันที ฟากคนงานก็ไม่รีรอ เมื่อฝาโอ่งถูกเปิดก็ยกโคมไฟขึ้นส่องเพื่อให้นางมองผักได้ถนัดแจ่มแจ้ง "โอ้โหว"อวี๋เหนียงซินอุทานออกมา อดจะเอามือล้วงกอบเอาถั่วงอกขาวอวบขึ้นมาดูเสียไม่ได้ "ลองกินดูได้นะแม่นาง""จริงรึ"เหนียงซินเมื่อได้ยินคำเชิญ จึงไม่รีรอที่จะคว้าเข้าปาก ความกรอบ ความอวบของถั่วงอก ทำให้กัดเคี้ยวแล้วให้ความรู้สึก มัน ๆ กรอบ ๆ แผ่ซ่านในปากนาง อืม ! ซื้อ!"เท่าไหร่รึเจ้าคะ อื้ม นับว่าอร่อย งานเลี้ยงของจวนในวันพรุ่งเกรงว่าต้องใช้มากโขทีเดียว"เอ่ยปากถาม มือก็ยังส่งถั่วงอกเข้าปากเคี้ยวไม่หยุด อื้ม อร่อยๆ ข้าหยุดกินไม่ได้เสียแล้วกระมัง"น้ำขอรับ""ขอบใจจ๊ะ"นับว่าดูแลดีทีเดียว อ่า! ชื่นใจ เห็นทีต้องบอกให้นายท่านลองมาดูด้วยตาของนางเองสักคราเสียแล้ว"ถามแม่นาง ว่าแต่แม่นางซื้อเท่าไหร่ดีขอรับ"ลู่หมิง เมื่อเห็นท่าทีที่พอใจของนางก็ใจชื่นขึ้นมา เมื่อครู่นางบอกว่าจะใช้จัดงานเลี้ยงนี่ ดีล่ะ! เช่นนั้นวันนี้น่าจะขายได้มากโขทีเดียว'เหนียงซิน งานนี้งานใหญ่ ล้วนต้องใช้วัตถุดิบที่ดีเลอค่า ยาม
อวี๋หยางซิน สาวใช้ของคฤหาสน์คหบดีใหญ่ในเมืองหลี่ ค่อยๆ ย่องก้าวออกจากที่ซ่อนหลังกำแพงเตี้ย พลันหายใจเฮือกตาเหลือกโพลนเมื่อมีวัตถุยาวสีเงินวาววับจ่อมาที่คอ"ว๊ายย"นางหลับตาปี๋ส่งเสียงตกใจออกมาสุดขีด เนื้อตัวสั่นเทา มือไม้เย็นเฉียบราวถูกแช่แข็ง"ผู้ใดส่งเจ้ามา!"เสียงบุรุษชุดดำปิดหน้าปิดตาเอ่ยถามเสียงเย็น แต่ช่างเป็นเสียงที่หน้ากลัวยิ่งนักในความรู้สึกของอวี๋หยางซิน มือเท้าเย็นเฉียบ ฮือ! ข้าจะทำเช่นไรดี นายท่านผู้เฒ่านะ ข้าบอกว่าจะมาพรุ่งนี้ ๆ ก็ไม่ยอมแล้วทีนี้ข้าไม่ต้องเอาชีวิตมาตายที่นี่รึ หมู่บ้านคนถ่อยแห่งนี้ ฮือ ๆ ! ข้ายังสาว สามีก็ยังไม่ได้แต่ง ฮือ ๆ นายท่านผู้เฒ่านะนายท่าน สามีหยางซินก็ยังไม่ได้แต่ง หยางซินจะมาตายที่นี่จริงรึ ฮือ เมื่อเห็นว่าสตรีตรงหน้ายังคงเงียบ ดาบจึงถูกดันให้ใกล้ลำคอของนางยิ่งขึ้นอย่างข่มขู่ในที"ตอบข้ามา!""ตะตอบแล้ว ๆ"อวี๋หยางซิน กำมือที่เย็นเฉียบแน่นขึ้น รีบเอ่ยตอบ หลับตาแน่นอย่างตกใจกลัวกับการจู่โจมจากเจ้าของดาบสีเงินวาววับ พยายามเค้นเสียงออกจากลำคออยากยากเย็น อีกทั้งความตื่นกลัวทำให้ถ้อยคำที่เอ่ยตอบออกมาตะกุกตะกักไปเสียหมด เนื้อตัวพลันสั่นเทา"คะ คือ ว
เฉิงอี้มองบรรยากาศในตัวเรือนอย่างชอบใจ นับว่าคุ้มกับเม็ดเงินที่ลงทุนเสียไป เรือนหลังใหญ่หน้าอยู่ยิ่ง ต้นไม้ ดอกไม้ถูกจัดเรียงอย่างงดงาม สายตาคมกวาดมองไปโดยรอบอย่างสำรวจ นับว่าคุ้ม! มุมปากยกยิ้มอย่าพึงใจยามสายตากวาดไปสะดุดกับศาลาหลังใหญ่กลางสระน้ำ บัดนี้มีดอกบัวสีขาว สีชมพู แข่งกันเบ่งบานช่างน่าภิรมย์ยิ่งนัก "ท่านไม่คิดว่าเรือนแห่งนี้ตกแต่งคุ้น ๆ รึจางหยาง"เสียงแว่นกระซิบกระซาบของมู่เฉินที่ยื่นหน้าไปถามจางหยาง ส่วนมือนั้นกอดไหสุราชั้นดีที่ห่อมาในผ้าแพรอย่างดีเข้าที่อก สายตาก็คอยเหลือบมองบุรุษรูปงามที่เดินหน้านิ่งตามหลังพวกตนมา"อื้ม นับว่าคุ้น ๆ ช่างเหมือน...."จางหยางเว้นวรรค เอียงศีรษะน้อย ๆ คลับคล้ายคลับคราว่าบรรยากาศเช่นนี้เคยพบที่แห่งใดมาก่อน คุ้นยิ่งนัก ช่างเหมือน...."ตำหนักบูรพา อุ๊บ!"สองบุรุษอุทานออกมาพร้อมกันลั่น ก่อนจะยกมือขึ้นปิดปากอย่างรวดเร็ว ตาโตถล้นแทบหลุดออกจากเบ้า หันหลังกลับไปมองเฉิงอี้ ที่บัดนี้คิ้วเริ่มขมวดแสดงให้เห็นว่าเขาเริ่มจะรำคาญทั้งสองเต็มทน จึงรีบเกี่ยวแขนกันเร่งฝีเท้าตามหลังสตรีสองนางไปอย่างรวดเร็ว "อ่ะ เชิญนั่ง ๆ ขอบใจพวกเจ้ายิ่งนักที่วันนี้มาตามคำเชิ
"หยุด ๆ ""หน็อยแน่ เจ้าเด็กนี้""พี่หมิงอี้ช่วยข้าด้วย"เสียงตะโกนลั่น แสร้งกลัว ไหนจะท่าทางวิ่งหลบไปมาของเฟิน เฟิน เรียกเสียงหัวเราะจากเหล่าคนงานได้เป็นอย่างดี ท่าทางวิ่งไล่เอาจริงเอาจังของอู๋ไป๋ ส่วนเจ้าเฟิน เฟินก็หลบหลีกไปมา โยกหลบซ้ายที ขวาที จนทำให้หมิงอี้และมารดาอดจะหัวเราะตามเสียไม่ได้ บัดนี้เรือนหลังใหญ่อบอวลไปด้วยเสียงหัวเราะของคนทั้งเรือนจนดังออกไปนอกประตูเรือนหลังใหญ่ ทำให้ผู้ถูกเชิญมาเป็นแขกพิเศษของเรือนหลังใหญ่แห่งนี้ถึงกับขมวดคิ้วกับเสียงหัวเราะของสมาชิกในเรือน"พวกนางภิรมย์สิ่งใดกัน ใยหัวเราะลั่นถึงเพียงนี้กันเล่า""นั่นสิ เช่นนั้นไปดูกันเถิด"จางหยางแทบอดใจไม่ไหวยามได้ยินเสียงใสดังกังวาลแทรกปนมากับเสียงหัวเราะให้ได้ยิน"ดูเอาเถิดนายท่านเฉิงอี้ เรือนหลังใหญ่ที่นายท่านอุตส่าห์ใจดีออกเงินสร้างให้ก่อน ใหญ่โตเทียมคฤหาสน์เหล่าตะกูลเศรษฐีในเมืองเชียว"มู๋เฉินแกล้งเอ่ยเย้าผู้เป็นนายไม่เกินจริงไปกว่าที่สหายตนกล่าว ตนยินดีควักเงินเป็นเถ้าแก่ให้ก่อนโดยให้ไปเสียหลายตำลึงทองเชียวกว่าจะได้เรือนหลังใหญ่ตกแต่งร่มรื่นน่าอยู่ถึงเพียงนี้ ถือว่าตอบแทนที่นางช่วยให้แคว้นหลี่ผ่านโรคระบาดคร
เมื่อขออนุญาติมารดาเรียบร้อย หมิงอี้ก็ปลีกตัวไปอยู่อีกด้านของครัว ผมยาวถูกรวบขึ้นแล้วใช้ปิ่นปักไว้ไม่ให้สยายลงมารบกวนการทำอาหารของเจ้าตัว ชายแขนอาภรณ์ตัวงามถูกรูดพันแขนขึ้นมาไว้ที่ข้อศอก มือเท้าสะเอวมองวัตถุดิบที่อยู่ตรงหน้าอย่างช่างใจก่อนจะหยิบกระบุงค่อย ๆ เลือกจัดผักต่าง ๆ ที่จะใช้ทำหม้อไฟมาไว้ จากนั้นเลือกหยิบเนื้อแกะ เนื้อวัว เนื้อปลา ที่บัดนี้ถูกมารดาหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ แล้ว ตามด้วย เต้าหู้ และไข่นกกระทา มือที่กำลังเลือกหยิบวัตถุดิบพลันชะงักยามนึกขึ้นได้ว่าขาดของสำคัญ"ขาดก็แต่เส้น"แต่ไม่เป็นไรหมิงอี้นึกเสียดายในใจไม่น้อยเอาไว้คราวหน้าก็แล้วกัน เมื่อเลือกจัดวัตถุดิบต่าง ๆ เรียบร้อยก็ละมือตรงไปปรุงน้ำซุปที่เตาใหญ่ต่อจากมารดา สองมือประสานกันอย่างหมายมาดว่าวันนี้ต้องปรุงซุปหม้อไฟหม่าล่าอร่อยๆให้มารดาและเพื่อนๆของตนได้ชิม อื้ม ล้วนต้องเผื่อแผ่เช่นนั้นก็ให้เหล่าคนงานทั้งห้าได้ลิ้มลองรสเผ็ดร้อนซ่าลิ้นของหม้อไฟหม่าล่าด้วยก็แล้วกัน "พี่หมิงอี้ เฟิน เฟิน ตื่นเต้น เกิดมาข้ายังไม่เคยได้ยินมาก่อน วันนี้ขอชมเป็นบุญทีเถิด ว่าแต่เอ๊ะ! พี่ไปรู้จักมาจากที่ใดกันล่ะเจ้าคะ"ข้าก็อยู่กับนางตลอดเวลานี